ติดตามสถานะการณ์

ระวังแนวคิดตั้ง “รัฐอิสลาม” อย่าให้ลามใต้
วันอังคารที่ 08 กรกฏาคม 2014 เวลา 03:26 น. อีเมล พิมพ์ PDF



สำนักข่าว IMM :หน่วยงานความมั่นคงของไทยแสดงความกังวล หลังมีข่าวสื่อมาเลเซียรายงานพบกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มใหม่ถึง 4 กลุ่ม เคลื่อนไหวโดยมีเป้าหมายตั้ง “รัฐอิสลามขนาดใหญ่” ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงดินแดนทางตอนใต้ของประเทศไทยด้วย แนวคิดตั้ง"รัฐ อิสลาม"จึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะเงื่อนไขทางใต้ ต่างจากการต่อสู้ในอิรักและซีเรีย จึงควรระวังต้องไม่ให้ความคิดทางอุดมการณ์นำมาปะปน จนลุกลามไปถึงการเจรจาสันติภาพใต้

สำนักข่าวฟาตอนี fatonionline รายงานว่า หนังสือพิมพ์ สเตรทสไทมส์ ของสิงคโปร์ อ้างรายงานของนิวสเตรทส์ไทมส์ในมาเลเซียว่า หน่วยความมั่นคงมาเลเซียพบและระบุชื่อกลุ่มก่อการร้าย 4 กลุ่มใหม่ที่หวังตั้ง "รัฐอิสลาม" ครอบคลุมพื้นที่หลายส่วนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แบบเดียวกับกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอซิส) ที่เคลื่อนไหวตั้งรัฐอิสลามอยู่ดินแดนที่เป็นประเทศซีเรียและอิรัก (กลุ่มไอเอสไอแอลเดิม หรือ รัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์)

ตามข่าว ระบุว่า มาเลเซียได้เผยชื่อกลุ่มก่อการร้ายทั้ง 4 กลุ่มเป็นตัวย่อ ได้แก่ BKAW, BAJ, Dimzia และ ADI โดยเชื่อว่ากลุ่มต่างๆ ดังกล่าวปฏิบัติการเคลื่อนไหวอยู่ในหลายรัฐของประเทศ อาทิ สลังงอร์ และเปรัค

แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองมาเลเซีย เผยกับนิวสเตรทส์ไทมส์ว่า กลุ่มเหล่านี้มีที่มาจากเซลล์ก่อการร้ายที่รู้จักกันก่อนหน้านี้ เช่น เจมาห์ อิสลามิยาห์ หรือ”เจไอ” และกุมปูลัน มูจาฮีดิน มาเลเซีย หรือ”เคเอ็มเอ็ม” (Kumpulan Mujahidin Malaysia) ที่อยู่เบื้องหลังส่งชาวมาเลเซียจำนวนหนึ่งไปร่วมรบกับกองกำลังในซีเรีย หลังผ่านการฝึกจากทางใต้ของไทย และกับกลุ่มอาบู ไซยาฟ ในฟิลิปปินส์

ISIS057

หน่วย ข่าวกรองมาเลเซียให้ข้อมูลอีกว่า ทั้ง 4 กลุ่มเคลื่อนไหวเป็นอิสระไม่ขึ้นแก่กัน แต่พวกเขารับอุดมการณ์เดียวกับกลุ่มสุดโต่งอย่างอัลกออิดะห์ และกลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย ที่ล่าสุดเปลี่ยนชื่อเป็น รัฐอิสลาม (ไอซิส) และเพิ่งประกาศตั้งรัฐอิสลามแบบในยุคกลางในดินแดนคาบเกี่ยวอิรักกับซีเรีย หลังจากยึดครองดินแดนบางส่วนได้

ส่วนรัฐอิสลามตามเป้าหมายของกลุ่ม ก่อการร้าย 4 กลุ่มในมาเลเซียนี้ มีชื่อว่า Daulah Islamiah Nusantara ครอบคลุมพื้นที่มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ทางใต้ของไทย และเกาะแก่งทางใต้ของฟิลิปปินส์

รายงานข่าวชิ้นเดียวกันยังระบุอีกว่า ค่ายฮูไดบิยาห์ ค่ายฝึกหลักของอาบู ไซยาฟ ในฟิลิปปินส์นั้น รับสมาชิกกลุ่มที่เคลื่อนไหวในมาเลเซียไปเรียนรู้สงครามในเมือง และฝึกทักษะความชำนาญในการประกอบวัตถุระเบิด ขณะที่ผู้นำและสมาชิกอาวุโสของ 4 กลุ่มมีความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มต่างๆ ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคใต้ของไทย อินโดนีเซีย พม่า ตลอดจนอาบู ไซยาฟ และไอซิส (ในตะวันออกกลาง)

จากข้อมูลทั้งหมดทำให้หน่วยงานความมั่นคงมาเลเซียวิตกว่า กลุ่มต่างๆ ทั้งหมดนี้อาจหันมาร่วมมือกันเพื่อให้บรรลุความฝันในที่สุด

นิวสเตรทส์ไทมส์ ให้ข้อมูลด้วยว่า กลุ่มเคลื่อนไหวใหม่ที่มาเลเซียเพิ่งเปิดเผยชื่อ ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากคนในท้องถิ่น รวมถึงนักธุรกิจและผู้ประกอบวิชาชีพต่างๆ โดยมีรายงานว่า บีเคเอดับเบิลยู (BKAW) หาสมาชิกผ่านเฟซบุ๊คและตามสถานที่ชุมนุม หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มคือ นายอาห์หมัด ทาร์มิมิ มาลิกิ คนงานโรงงานวัย 26 ปีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มไอซิส และเป็นผู้สังหารทหาร 25 คน ด้วยการโจมตีพลีชีพในอิรักเมื่อ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา

กลุ่ม ดิมเซีย (Dimzia) เพิ่งตั้งในปีนี้ เป็นกลุ่มแยกตัวออกมาจากกลุ่มบีเอเจ (BAJ) แม้ผู้นำของดิมเซียถูกทางการรวบตัวแล้ว แต่สมาชิกยังเคลื่อนไหวอยู่ ส่วน เอดีไอ (ADI) มีอายุไม่ถึง 1 ปี แต่เชื่อว่ามีสายสัมพันธ์ชัดเจนกับกลุ่มหัวรุนแรงต่างชาติ รวมถึง เจมาห์ อันชารุต เทาฮิด ในอินโดนีเซีย

เรื่องแนวคิดตั้งรัฐอิสลามในเอเชีย อาคเนย์ร้อนถึงหน่วยงานความมั่นคงไทยออกมาระบุว่ามีมานานแล้ว เป็นพวก pan islam หมายถึงกลุ่มที่ต้องการสร้างรัฐอิสลาม ไล่จากทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ มายังอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และภาคใต้ของไทย โดยกลุ่มที่มีแนวคิดแบบนี้ก็เช่น เจไอ ที่มีแกนนำลำดับ 2 คือ ฮัมบาลี ถูกจับกุมได้ในประเทศไทย

"เรื่องนี้ถือเป็นภัยใกล้ตัวของไทยแน่นอน เพราะถ้าขยายอิทธิพลหรือความเคลื่อนไหวเข้ามาเกี่ยวข้องกับสามจังหวัดชายแดน ภาคใต้ จะเป็นปัญหาใหญ่ แต่ที่ยังไม่น่ากังวลมากนักสำหรับไทย เพราะเรื่องการตั้งรัฐอิสลามในภูมิภาคนี้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อย ประกอบกับประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องล้วนต่อต้านการเคลื่อนไหวนี้อย่างแข็งขัน"

ขณะที่นาย ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านความมั่นคงจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า แนวคิดนี้เกิดขึ้นยากในเอเชียอาคเนย์ เพราะมีประวัติศาสตร์แตกต่างจากตะวันออกกลาง แต่ที่น่าวิตกก็คือ กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดตั้งรัฐอิสลาม อาจนำเงื่อนไขที่เกิดในอิรักและตะวันออกกลางมาขยายผลเพื่อกดดันกวาดล้าง กลุ่มที่มีแนวคิดนี้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็น่ากังวลว่าจะกลายเป็นเงื่อนไขอื่นขึ้นมาอีก

"สำหรับ ไทยยังค่อนข้างห่างไกล คือ ขบวนการที่เคลื่อนไหวนั้นมีแน่ๆ โดยใช้เรื่องญิฮาดในการผลักดัน แต่ยังเป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่มีพลังมาก ยกเว้นมีเงื่อนไขอื่นเข้ามาเติม" นายปณิธาน ระบุ

แนวคิดตั้ง"รัฐ อิสลาม"จึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะเงื่อนไขทางใต้ ต่างจากการต่อสู้ในอิรักและซีเรีย จึงควรระวังต้องไม่ให้ความคิดทางอุดมการณ์นำมาปะปน จนลุกลามไปถึงการเจรจาสันติภาพใต้

บทความโดย พิราบ รอบเมือง

ที่มา / fatonionline

ระวังแนวคิดตั้ง “รัฐอิสลาม” อย่าให้ลามใต้

 

คำสาปนรก

ขนหัวลุก
ใบหนาด



"นพพร" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากคน ตาทิพย์

สมัยหนุ่มๆ ผมอยู่ยานนาวา มีเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อโหน่ง เป็นลูกคนรวย เรียนจบพาณิชย์ก็ได้งานทำแถวบางรัก แต่ไม่นานก็เปลี่ยนงานใหม่ไปแถวสี่พระยา ตลาดน้อย หัวลำโพง แต่ก็อยู่ไม่ยืดซักแห่งเดียว...มันบอกผมว่ามีแต่คนโง่ๆ ทั้งนั้น!

อาศัยที่พ่อแม่ฐานะดี แถมมีลูกชายคนเดียว เจ้าโหน่งจึงไม่เดือดร้อนเงินทอง มักจะเที่ยว กิน เล่น ไปวันๆ ตามใจชอบ

วันหนึ่งไปมีเรื่องที่บ้านใหม่ (เกือบถึงถนนตก) เขม่นกันในร้านเหล้า เจ้าโหน่งโดนเจ้าถิ่นรุมสกรัม ทั้งประเคนด้วยไม้หน้าสามจนสลบเหมือด ต้องไปนอนโรงพยาบาลสิบกว่าวันถึงจะกลับบ้านได้

ตั้งแต่นั้นมาเจ้าโหน่งก็เปลี่ยนนิสัยเหมือนเป็นคนละคน!

เคยชอบเที่ยวเตร่ สนุกสนานเฮฮาก็กลับนิ่งเงียบ ไม่ค่อยชอบออกจากบ้าน ร่างกายผอมซูบลง นัยน์ตาเลื่อนลอยไม่จับคน บางทีก็พยักหน้าหงึกๆ กับใครไม่ทราบ บางทีก็พูดพึมพำ หัวเราะหัวใคร่อยู่คนเดียวเหมือนคนบ้าๆ บอๆ จนชาวบ้านนึกว่าสติไม่ดีเพราะโดนตีหัวคราวนั้น

ผมเป็นเพื่อนสนิทที่ไปมาหาสู่บ่อยๆ ต้องยืนยันว่าเจ้าโหน่งไม่ได้บ้าๆ บอๆ พูดคุยกันรู้เรื่อง ถามไถ่อะไรก็จำได้ พ่อแม่มันก็ชอบให้ผมไปบ้านเขา ลูกชายจะได้พูดคุย ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่งั้นมักจะหมกตัวเงียบอยู่ในห้องคนเดียว

ไม่ช้าผมก็ต้องขนหัวลุกเพราะเจ้าโหน่งนี่เอง!

ตอนบ่ายวันนั้นเรานั่งคุยกันที่โต๊ะหินหน้าบ้าน มีต้นมะม่วงกับชมพู่ร่มครึ้ม เจ้าโหน่งมองไปที่รั้วไม้ระแนงแล้วถามว่าเห็นใครไหม? ผมเอียงคอมองๆ แล้วส่ายหน้า บอกว่าข้าจะเห็นได้ยังไงรั้วมันบัง

"ไม่ใช่นอกบ้าน...ที่ใต้ต้นมะม่วงริมรั้วข้างในต่างหากล่ะ! ผู้ชายตัวดำๆ ล่ำเตี้ยน่ะ มันกำลังมองเราอยู่ด้วย"

ผมส่ายหน้า ยืนยันว่าไม่เห็นใครเลย เจ้าโหน่งก็ถอนใจยาว

"มันชื่อสิงห์ ตามข้ามาจากโรงพยาบาลแน่ะ!"

"คิดไปเองมั้ง? ไม่ก็ตาฝาด..."

"เปล่า ไอ้สิงห์ตามข้ามาจริงๆ มันโดนสิบล้อทับตายคาที่ ก่อนข้าจะกลับบ้าน 2-3 วันเท่านั้น...มันมาขออยู่ด้วย! นั่นไง...มันกำลังยิ้มฟันขาวกับเอ็งแน่ะ"

ผมขนลุกซ่า ทั้งที่เป็นกลางวันแสกๆ ก็เถอะเอ้า! ตอนแรกคิดว่าเพื่อนเป็นบ้าไปแล้ว แต่คำพูดต่อมาของมันทำให้ผมเสียวสันหลังมากกว่าเดิม

"ข้ารู้ว่าเอ็งไม่เห็น ใครๆ ก็ไม่เห็น มีแต่ข้าคนเดียวที่เห็นถนัด" เจ้าโหน่งถอนใจยืดยาวอีกครั้ง นัยน์ตาที่จมลึกอยู่ในเบ้าราวจะขยายใหญ่ยิ่งกว่าเดิม "ไม่ใช่ ไอ้สิงห์คนเดียวนะ...นั่น! ตาปลอดกับลุงฉ่ำ ยายเขียวกับป้าแสง! ยืนมองเราอยู่ที่หน้าประตูนั่นไง!"

"ไอ้โหน่ง..." ผมคราง ปากคอแห้งผากไปถนัด "เอ็งจะเห็นได้ยังไงวะ...ก็พวกนั้นตายหมดแล้วนี่หว่า"

"อ้าว? ไอ้เด่นเดินมาอีกคนแล้ว ที่มันตกน้ำตายตอนต้นปีน่ะ"

ผมตัวแข็งลิ้นแข็งไปหมดจนพูดอะไรไม่ออก จ้องมองแทบตาถลนไปยังประตูรั้วก็ไม่เห็นใครที่เจ้าโหน่งเอ่ยชื่อมา...ไอ้เด่นวัยสิบขวบที่ตกน้ำตายก็ไม่เห็น!

คุณพระคุณเจ้า! ผมเห็นเจ้าโหน่งยิ้มกว้างขึ้น กวักมืออย่างอารมณ์ดี

"มาซีวะไอ้เด่น อยากคุยกันก็เข้ามา" มันพูดเสียงดังก่อนจะพยักหน้าช้าๆ "เออ! งั้นก็แล้วไป" แล้วหันมายิ้มกับผม "ไอ้เด่นมันบอกว่าวันหลัง มันรู้ว่าเอ็งกลัวมัน"

เจ้าโหน่งทั้งเห็นผี ได้ยินเสียงผีด้วยหรือเนี่ย? ตอนแรกคิดว่ามันหยอกล้อผมเล่นตามประสาเพื่อนฝูง แต่วันต่อๆ มามันก็ชี้ให้ดูมะม่วงหน้าบ้านต้นนั้น...บอกว่ามีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้นั่งอยู่บนนั้น...ผีผูกคอตาย!

"สงสัยจะตายมานานแล้วว่ะ พ่อแม่ก็ไม่ยอมเล่าให้ฟัง ตอนกลางคืนข้าเห็นแกห้อยโตงเตง กวักมือเรียกข้าไปอยู่ด้วย พอตอนกลางวันก็นั่งร้องไห้อยู่บนกิ่งใหญ่นั่นไง"

ถึงจะมองไม่เห็นอะไรเลยแต่ผมก็ขนลุกซ่า...กลับบ้านไปถามพ่อ ได้ความว่าญาติข้างแม่เจ้าโหน่งมาอาศัยอยู่ไม่นานก็ผูกคอตายมาสิบกว่าปีแล้ว...สาเหตุจากท้องไม่มีพ่อ

ผมแน่ใจว่าเพื่อนไม่ได้บ้า แต่เกิดมีญาณวิเศษหรือพรสวรรค์หลังจากโดนตีจนสลบ...คิดว่าจะห่างๆ ไปสักพักก่อน แต่อีกไม่กี่วันต่อมาเจ้าโหน่งก็ผูกคอตายที่ต้นมะม่วงริมรั้วนั่นเอง...ผีผูกคอเรียกเพื่อนผมไปอยู่ด้วยกันได้สำเร็จแล้ว!

 

Sukit Chongchokdie ได้แชร์ลิงก์
7 กรกฎาคม
Surviving Earth Changes 2013 and Beyond ผ่าน Dezso Simon

โลกยังคงแสดงสัญญาณของการอ่อนตัวของสนามแม่เหล็ก (Earth continues to display signs of weakening Magnetic Field.)

สนามแม่เหล็กโลก เป็นโล่ป้องกันสำหรับโลกของเราจากรังสีคอสมิค แต่ก็ยังค่อนข้างลึกลับ - นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่าทำไมมันเคลื่อนที่และเกิดการเปลี่ยนแปลงความเข้มของสนามแม่เหล็ก และในขณะนี้จากชุดแรกของผลลัพธ์ที่มีความละเอียดสูงจาก โครงการ Swarm constellation ดาวเทียม 3 ดวงของ ESA ได้เผยให้เห็นว่าสนามแม่เหล็กโลกที่แท้จริงได้ปรับตัวลดลง แม้ว่าจะใช้เวลาในการวัดค่าในช่วงสั้น ๆ ซึ่งผ่านมาหกเดือน แต่ก็ยืนยันแนวโน้มทั่วไปของการลดลงของสนาม ที่มีการลดลงอย่างมากที่สุดทั่วซีกโลกตะวันตก เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน, 2013, Swarm ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เคยปรากฏเป็นการทำงานที่สลับซับซ้อนของสนามแม่เหล็กของโลก ซึ่งป้องกันเราจากรังสีคอสมิคแสงและอนุภาคมีประจุ ในบางพื้นที่เช่นมหาสมุทรอินเดียทางตอนใต้ของสนามแม่เหล็กมีความเข้มแข็งตั้งแต่เดือนมกราคม - แม้ว่าแนวโน้มโดยรวมลดลงเป็นวัดล่าสุดยังยืนยันการเคลื่อนไหวของแม่เหล็กจากทิศเหนือไปยังไซบีเรีย

magnetEarth’s magnetic field is a protective shield for our planet from cosmic radiation, but it’s also somewhat of a mystery – scientists aren’t sure why it moves and changes in intensity. And now the first set of high-resolution results from Esa’s three-satellite Swarm constellation reveal that the field is actually getting weaker, albeit by a small amount. Measurements made over the past six months confirm the general trend of the field’s weakening, with the most dramatic declines over the Western Hemisphere. Launched in November 2013, Swarm is providing unprecedented insights into the complex workings of Earth’s magnetic field, which safeguards us from the bombarding cosmic radiation and charged particles. In some areas, such as the southern Indian Ocean, the magnetic field has strengthened since January – although the overall trend is a weakening. The latest measurements also confirm the movement of magnetic North towards Siberia.

<iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/wN-rvx3gWRc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Earth’s weakening magnetic field: Dramatic dips spotted across the Western Hemisphere could damage satellites | The Extinction Protocol

ข้อมูลจาก
Earth continues to display signs of weakening Magnetic Field. »

Earth continues to display signs

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก



เกิดปรากฏการณ์สุดแปลก ฝูงปลาจำนวนมากแห่ว่ายขึ้นชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ทำเอานักวิทย์ งง ฉงน??

นักวิทย์ตะลึง!! ฝูงปลากระตัก(anchovies) จำนวนมากมายมหาศาลหลายพันตัว แห่ว่ายมาใกล้ชายฝั่ง La Jolla ทางภาคใต้รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ในวันอังคาร(8)ที่ผ่านมา ซึ่งทำเอานักวิทย์ งง ฉงน หลังปรากฏการณ์แปลกประหลาดดังกล่าว ไม่เคยเกิดขึ้นมานานถึง 30 ปีแล้ว







นอกจากนี้เมื่อถึงตอนเย็นพลบค่ำ มีนกทะเลหลายหมื่นตัวแห่บินมากินปลากระตักเป็นจำนวนมาก และรวมไปถึงฉลามเสือดาว , วาฬหลังค่อม ก็มาชุมนุมด้วยเช่นกัน จากระยะไกลเราเห็นมันดูเหมือนคราบน้ำมัน แต่ไม่ใช่!! แล้วคุณคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?? อย่างไรก็ตามยังคงเป็นคำถามที่ไม่มีใครทราบได้ว่าฝูงปลาพวกนี้มันแห่มาทำอะไร



<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/XvxIdkhsoqU?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/CEHZdCxZUok?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>



ในขณะเดียวกันที่ชายฝั่ง Port Hastings ของแคนาดา พบวาฬครีบตัวยาว 50 ฟุต มาเกยตื้นตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ทางด้านนักวิทย์กำลังเร่งทำการผ่าชันสูตรศพเพื่อไขปริศนาต่อไป




- See more at: เกิดปรากฏการณ์สุดแปลก ฝูงปลาจำนวนมากแห่ว่ายขึ้นชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ทำเอานักวิทย์ ง

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก ได้แชร์ อัลบั้ม ของ In & Outside World

Typhoon Neoguri - Japan X-7-57 ภาพความเสียหายที่ญี่ปุ่น ยอดตายเพิ่มเป็น 3 ศพ

















































Typhoon Neoguri - Japan X-7-57 (

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก ได้แชร์ รูปภาพ ของ The Mind Unleashed


ภาพวงแหวนควัน จากภูเขาไฟเอดน่า ที่อิตาลี
Mt. Etna Italy - Very rare capture

Thanks to Earth. We are one. for the image!

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก ได้แชร์ลิงก์



พายุทอร์นาโดรุนแรงระดับ EF1 เข้าพัดถล่มทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกาอ่วมหนัก เมื่อวันที่ 8-9 ก.ค.57 ล่าสุดมีรายงานพบผู้เสียชีวิต 5 ราย และบ้านเรือนอาคารสำนักงานหรือธุรกิจต่างๆ ประมาณ 100,000 หลังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ โดยสถานที่ที่ได้รับความเสียหายคือ แมรี่แลนด์ , นิวเจอร์ซีย์ , นิวยอร์ก , โอไฮโอ้ , ซิลเวเนีย , เวอร์มอนต์ , วอชิงตันดีซี , เวสต์เวอร์จิเนีย ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่ามีบ้านเรือนหลายหลังพังเสียหาย , ต้นไม้หักโค่น , และเสาไฟฟ้าหักล้มเป็นจำนวนมาก



พายุทอร์นาโดรุนแรงถล่มสหรัฐอเมริกาเสียหายหนัก และล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย..สถานกา

 

นักโทษเตรียมจัดหนัก'ไอ้เกม'รุมตุ๋ยให้สาสมกับความผิด



ชี้ช่วงแรกอยู่ในสายตาผู้คุมรอดไปก่อน ผ่านไปสักพักเผลอเมื่อไหร่ถูกรับน้องชุดใหญ่แน่นอน เหตุคนคุกถือว่าฆ่าข่มขืนเด็กเป็นเรื่องน่ารังเกียจ จำเป็นต้องถูกสั่งสอนด้วยการรุมตุ๋ยให้เข็ดหลาบ

วันพฤหัสบดี 10 กรกฎาคม 2557 เวลา 21:28 น.
เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 10 ก.ค. พ.ต.ท.เจิญ ชลประเสริฐพนักงานสอบสวน สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ควบคุมตัว นายวันชัย หรือเกมแสงขาว ผู้ต้องหาคดีฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปี บนรถไฟขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพ เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ไปขออำนาจศาลจังหวัดหัวหินฝากขังเป็นผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน หลังยื่นฟ้องนายวันชัยคดีฆ่าข่มขืนกระทำชำเราอำพรางซ่อนเร้นศพ คดีเสพยาเสพติดและคดีลักทรัพย์ ซึ่งไม่ปรากฎว่ามีญาติหรือทนายความของผู้ต้องหามาติดต่อขอประกันตัวแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ผู้ต้องหา ถูกควบคุมอยู่ในห้องขังใต้ถุนศาลจังหวัดหัวหิน เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนคำร้องขอฝากขัง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราณบุรี ได้ดูแลนายวันชัยซึ่งมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างใกล้ชิด โดยศาลได้พิจารณาคำร้องประกอบพยานหลักฐานแล้วมีคำสั่งให้นำตัวนายวันชัยไปฝากขังเป็นผัดแรก

ต่อมาเวลา 11.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ราชฑัณฑ์จากเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ควบคุมผู้ต้องหาออกจากศาลจังหวัดหัวหินเดินทางไปเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กระทั่งเวลา 12.20 น. รถควบคุมผู้ต้องขังเดินทางถึงบริเวณด้านหน้าเรือนจำ จ.ประจวบคีรขันธ์ ผู้คุมเรือนจำได้เปิดประตู 1 ด้านหน้า โดยพนักงานขับรถได้นำรถเข้าไปภายใน และปิดประตูทันทีพร้อมวางกำลังเจ้าหน้าที่คุ้มกันรอบบริเวณ โดยไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพทำข่าวแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันบรรดาญาติผู้ต้องขังจำนวนมาก ที่มารอเยี่ยมนักโทษด้านหน้าเรือนจำเนื่องจากตรงกับวันเยี่ยมญาติ หลังจากทราบข่าวว่ามีการคุมตัวนายวันชัยมาคุมขังต่างกรูเข้ามามุงดูอยู่บริเวณภายนอก ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวนายวันชัยเข้าควบคุมตัวเข้าห้องควบคุมที่จัดไว้เป็นกรณีพิเศษ ร่วมกับผู้ต้องหาสูงอายุ อีก 4 คน ซึ่งจากเดิมรถขนส่งผู้ต้องขังจะเดินทางมาศาลจังหวัดหัวหินหลัง 16.30 น. แต่กรณัของนายวันชัยหลังจากศาลพิจาณาให้ฝากขัง เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวขึ้นรถควบคุมมาทันที

โดยนายสุทิน ชิตชอบ ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ความสนใจผู้ต้องหาคดีนี้เป็นอย่างมากและมีคำสั่งให้ตนรายงานแผนคุมขังให้กรมราชทัณฑ์ทราบ โดยเน้นย้ำในการรักษาความปลอดภัยและหลังจากนำผู้ต้องหาเข้าคุมขังภายในเรือนจำ เนื่องจากเป็นคดีที่มีสำคัญจึงต้องมีการตีตรวนขณะคุมขัง และมีการปฎิบัติเช่นเดียวกับนักโทษทั่วไปโดยอยู่ในการดูแลเป็นกรณีพิเศษ

ขณะที่อดีตผู้ต้องหาขังรายหนึ่งในเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า หลังนายวันชัยเข้าไปควบคุมตัวสิ่งแรกคือจะมีการนำตัวไปตัดผมสั้น และสวมชุดนักโทษส่วนกรณีที่หลายฝ่ายหวั่นวิตกกันว่าจะมีการรุมทำร้าย แม้ว่าจะมีมาตรการป้องกันอย่างดีนั้น ต้องบอกว่าในเรือนมีผู้ต้องขังชายกว่า 2,200 คน มากกว่าผู้คุมหลายเท่า โดยขณะที่นำตัวไปตัดผม ไปรับประทานอาหารหรือ ไปอาบน้ำรวมอาจจะถูกเพื่อนนักโทษที่ไม่พอใจเข้ามาประชิดตัวเพื่อรุมทำร้าย ช่วงแรกน่าจะยังไม่มีใครกล้าทำอะไรเพราะเป้าหมายอยู่ในความดูแลของผู้คุมเป็นพิเศษ แต่เชื่อว่าหลังจากเหตุการณ์ผ่านไประยะหนึ่งแล้ว นายวันชัยต้องโดนรับน้องใหม่อย่างแน่นอน ประเด็นอยู่ที่ว่าจะโดนยำของหนักหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่าคงจะโดนหนักแน่นอนเตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลยโดยเฉพาะประตูหลังถูกลวงละเมิดแน่ สาเหตุใหญ่เพราะไปฆ่าข่มขืนเด็ก ถือเป็นสิ่งที่คนในคุกแสดงความรังเกียจอย่างรุนแรง.

https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd....937_530510757076532_2899865483137125262_n.jpg

 

ผู้พเนจร จากฟากฟ้า



ฮือฮา!‘แมวตาเพชร’มากับพระ-สัตว์หายากในตำนาน
ชาวบ้านแห่ไปดู "แมวตาเพชร" อยู่กับพระมาจำพรรษาที่วัดใน จ.ชัยภูมิ มีแสงเปล่งประกายแวววาวจากดวงตาข้างซ้าย มีอำนาจสะกดหมาในวัดจนไม่กล้าเข้าใกล้ เผยเป็นแมวที่ออกมาจากป่า หลวงพ่อเลี้ยงไว้เพื่อเป็นเพื่อนตอนอยู่ปฏิบัติธรรม

เมื่อวันที่ 10 ก.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเรื่องฮือฮาขึ้นที่วัดเรืองธรรมวนาราม หมู่ 9 บ้านบ่อทองคำ ต.ซับสีทอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ หลังจากชาวบ้านทราบข่าวว่ามีหลวงพ่อสมาน กันตวิโร อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นพระเดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา เพื่อมาขอจำพรรษาในช่วงเข้าพรรษาปีนี้ที่วัด มีแมวเพศผู้ สีเทาอมน้ำตาล ลายเสือ อายุประมาณ 1 ปี ติดมาด้วย และมีคนสังเกตเห็นว่าแมวตัวนี้ มีดวงตาข้างซ้ายเป็นแสงคล้ายแสงเพชรเปล่งประกายออกมา หรือที่เรียกว่า "แมวตาเพชร" เป็นสุดยอดสัตว์หายากในตำนาน



ทั้งนี้ แมวตัวนี้ แม้กระทั่งสุนัขในวัด ต่างก็เกรงกลัวไม่กล้าเข้าใกล้เพราะเกรงอำนาจจากสายตาที่เปล่งแสงเพชรออกมาให้เห็นตลอดเวลา ซึ่งพระสมาน หรือหลวงพ่อสมาน ได้บอกถึงที่มาของแมวประหลาด ว่า แมวนี้มาจากป่าที่หลงเข้ามาในวัด 2 ตัว สมัยเมื่อครั้งจำวัดอยู่ที่วัดใหม่อัมพวัน อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ซึ่งอีกตัวที่มาพร้อมกันไม่มีตาเพชร มีตัวนี้ตัวเดียวที่ตาข้างซ้ายเปล่งแสงคล้ายเพชร จึงนำมาเลี้ยงไว้เพื่อเป็นเพื่อนตอนอยู่ปฏิบัติธรรมในป่า ส่วนที่ญาติโยมเห็นว่าเป็นแมวตาเพชร เป็นสัตว์หายากในตำนาน ก็เป็นเรื่องศรัทธาของแต่ละบุคคล จะเชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไรก็ว่ากันไป

หลวงพ่อสมาน กล่าวอีกว่า ในส่วนของตน ซึ่งเป็นพระ ใจก็อยากให้คนเข้าวัดปฏิบัติธรรมกันให้มากๆ หากญาติโยมต้องการให้แมวตัวนี้อยู่ที่วัดแห่งนี้ก็ไม่ขัดข้อง และจะเป็นการดีเมื่อมีคนมาดูแมวตาเพชรมากขึ้นเท่ากับมีคนเข้าวัดมากขึ้น เป็นการช่วยพัฒนาวัดแห่งนี้ ซึ่งน่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงปฏิบัติธรรมได้อย่างดี เพราะอยู่ใกล้ทั้งมอหินขาวสวนหินล้านปี และป่าปงพันปี แหล่งท่องเที่ยวสำคัญขึ้นชื่อระดับประเทศของจ.ชัยภูมิ

"คนที่เดินทางมาท่องเที่ยวแล้วแวะมาดูแมวตาเพชรก็มาได้ไม่ว่ากัน มาได้ตลอด เมื่อเป็นสิ่งที่จะช่วยให้คนมีความสุข และได้มีโอกาสเข้าวัดบ้างก็เป็นสิ่งดี เคยมีเศรษฐีบางคน เมื่อทราบข่าวว่าแมวตาเพชรตาย ก็จะไปขอซื้อดวงตาของแมวตัวนั้น นำมาทำเครื่องประดับ เช่น หัวแหวนสวมใส่ที่เขาเรียกกันว่าเพชรตาแมวเพราะเป็นของหายาก" หลวงพ่อสมานกล่าว

ฮือฮา!‘แมวตาเพชร’มากับพระ-สัตว์หายากในตำนาน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

Ammy Chumnankit

พระจันทร์ละลาย - ปรากฎการณ์ประหลาด

นาทีที่ 0:42 ดวงจันทร์ค่อยๆ ละลาย ขณะที่มีเครื่องบินรีบบินไปปล่อย Chemtrails เพื่อพรางคนบนโลก ไม่ให้เห็นชัด

ยังไม่มีใครตอบได้ ว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ...คืออะไร

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/yCwsr498d9E?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

Kaokala Fc

๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ วันอาสาฬหบูชา ตรงกับ วันเพ็ญ เดือน ๘



เป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา คือ เทศน์กัณฑ์แรก ชื่อว่าธัมมจักกัปปวัตตนสูตร โปรดพระปัญจวัคคีย์ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมือง พาราณสี ในปีแรกที่ทรงตรัสรู้และเพราะผลของพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้เป็นเหตุให้ท่าน พระโกณฑัญญะในจำนวนพระปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ได้ธรรมจักษุ (โสดาปัตติมรรค หรือ โสดาปัตติมรรคญาณ คือญาณที่ทำให้สำเร็จเป็นโสดาบัน) ดวงตาเห็นธรรม คือ ปัญญา รู้เห็นความจริงว่า สิ่งใดก็ตามมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งปวงล้วนมีความดับไป เป็นธรรมดา แล้วขอบรรพชาอุปสมบทต่อพระองค์ เป็นพระอริยสงฆ์องค์แรกของ พระพุทธศาสนา และทำให้พระรัตนตรัยครบองค์ ๓ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

อ่านต่อ..วันอาสาฬหบูชา 2557 วันอาสาฬหบูชา ความสำคัญวันอาสาฬหบูชา

 

อวยชัย กุลพงษ์



ที่จอดรถในจีนทรุดตัวลงไปในหลุมหลังจากที่มีฝนตกอย่างฉับพลันและหนักมาก ได้ชะล้างไปในดินที่อยู่ด้านล่างอาคารออกไป ซึ่งอยู่ถัดจากสถานที่ก่อสร้างในเฉิงตูในทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนมณฑลเสฉวน มีรถยนต์ห้าคันตกลงไปในหลุมลึก 30ฟุต และลานจอดรถด้านซ้ายที่ยังแขวนอยู่เหนือขอบหลุมอย่างน่ากลัว หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้วันนี้ แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

http://www.dailymail.co.uk/news/art...-parking-lot-takes-cars-it.html#ixzz378yAu6OM

 

อวยชัย กุลพงษ์



ที่ Yellowstone ประเทศสหรัฐอเมริกา ถนนละลายเนื่องจากความร้อนใต้ดินครับ สถานที่นี้ คือ ปากปล่องของภูเขาไฟใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ ขนาดปากปล่องกว้างหลายร้อยกิโลเมตร เมื่อเดือนก่อน นักวิทยาศาสตร์ต้องรีบอพยพออกจากพื้นที่เพราะสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจครับ

Credit : Kunchit Chamaraman
Hot spot: Yellowstone road melts, closing sites

 

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/H65gwXbt5f8?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ซุปเปอร์ภูเขาไฟเยลโลว์สโตน : ระดับก๊าซที่สูงขึ้นกว่าที่เคยบันทึก - การระเบิดเข้าประชิด? (Yellowstone Supervolcano: Gas Levels Higher Than Ever Recorded - Eruption Close?)

เผยแพร่เมื่อ 6 กรกฎาคม 2014 (Published on Jul 6, 2014)

ความเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นได้ปรากฎขึ้นกับซุปเปอร์ภูเขาไฟเยลโลว์สโตน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ไม่นานก่อนที่ภูเขาไฟระเบิด มีการเพิ่มขึ้นในพื้นดินที่อยู่ภายใต้ทะเลสาบเยลโลว์สโตน มีการตรวจพบก๊าซที่เรียกว่าไฮโดรเจนซัลไฟด์
และ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์จำนวนมาก เมื่อไรก็ตามที่มีการตรวจพบก๊าซเหล่านี้ในภูเขาไฟที่อื่น ๆ ก็ปรากฏว่าในอีกไม่นานจะมีการปะทุของภูเขาไฟเกิดขึ้นเป็นสำคัญ
(More developments are taking place at the Yellowstone Super Volcano. The kind of developments that were seen shortly before other volcanic eruptions. There has been a rise in the ground under Yellowstone lake. Readings of very large amounts of gases called Hydrogen Sulphide and Sulpher Dioxide are being detected. When these gases were detected at other volcanoes, it appeared shortly before major eruptions of those volcanoes).

Stay At The Ready...
Join Us At Bunker Report On Facebook

 

อิรักยันคลังอาวุธเคมีเก่าถูกยึด โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



รัฐบาลอิรัก ระบุ กลุ่มก่อการร้ายไอเอสไอแอล ยึดอดีตโรงงานอาวุธเคมีของอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน

รัฐบาลอิรัก ได้ส่งจดหมายแจ้งไปยังสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ลงวันที่ 1 กรกฎาคม แต่เพิ่งนำออกเผยแพร่เมื่อวันอังคาร(8 ก.ค.)ว่า กลุ่มก่อการร้ายไอเอสไอแอล ยึดอดีตโรงงานอาวุธเคมีของอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ที่เมืองมูทันนา เมื่อคืนวันที่ 11 มิถุนายน ส่งผลให้รัฐบาลอิรัก ไม่สามารถปฏิบัติตามพันธกรณีทำลายอาวุธเคมี จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นและยึดคืนกลับมาได้ ซึ่งจดหมายฉบับนี้ยืนยันข้อมูลจากสหรัฐเมื่อ 19 มิถุนายน ว่า กลุ่มสุดโต่งรัฐอิสลาม ยึดอดีตโรงงานอาวุธเคมี แต่ไม่เชื่อว่าจะสามารถผลิตอาวุธเคมีที่ใช้การได้ เนื่องจากวัสดุที่ยังหลงเหลืออยู่ เก่าและเสื่อมสภาพ

 

พู่กัน ทอง ผ่าน เนชั่นสุดสัปดาห์ NationWeekend

ไวรัสตับอักเสบบีและซีใกล้ตัวกว่าที่คิด



แพทย์เตือนโรคไวรัสตับอักเสบบีและซีใกล้ตัวกว่าที่คิด และอันตรายกว่า หรือเทียบเท่าโรคเอดส์

แพทย์เตือนโรคไวรัสตับอักเสบบีและซีใกล้ตัวกว่าที่คิด และอันตรายกว่า หรือเทียบเท่าโรคเอดส์ โดยเป็นสาเหตุมะเร็งตับที่สำคัญที่สุดในประชากรโลกรวมทั้งคนไทย ร้อยละ 70-75 ของมะเร็งตับในคนไทยเกิดจากไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง

โรคไวรัสตับอักเสบ ถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 โรคติดเชื้อที่ทำให้คนเสียชีวิตมากที่สุด และในประเทศไทยพบว่ามีผู้เป็นไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังกว่า 3.5 ล้านคน และไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังกว่า 1.5 ล้านคน

รศ.นพ.ธีระ พิรัชวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสถาบันโรคตับ และระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท กล่าวว่า โรคดังกล่าวติดต่อกันผ่านทางเลือดและน้ำเหลือง เช่น แม่สู่ลูก, เพศสัมพันธ์, เครื่องใช้อุปกรณ์ที่ปนเปื้อนเลือด ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสบีหรือซีเรื้อรัง จะเกิดตับอักเสบเรื้อรังมีค่าของเอนไซม์ตับ (AST, ALT) สูงกว่าปกติ ซึ่งอาจสูงกว่าปกติตลอด หรือค่าแกว่งขึ้นลงเป็นระยะ ในผู้ป่วยที่มีตับอักเสบเรื้อรัง จะมีการทำลายเซลล์ตับเรื้อรัง เกิดผังผืดสะสมมากขึ้น จนเกิดตับแข็ง ได้ร้อยละ 20 – 25 ภายในเวลา 8 – 20 ปี หลังจากเกิดตับแข็งจะมีการดำเนินโรคจนเกิดตับวายได้ร้อยละ 4 – 6 ต่อปี อาการของตับวาย เช่น ดีซ่าน ท้องมาน ซึม

ผู้ป่วยที่มีตับแข็งจะมีโอกาสเกิดมะเร็งตับได้ ร้อยละ 3-8 ต่อปี พบว่าไวรัสบีและซีเป็นสาเหตุของมะเร็งตับในคนไทยสูงถึงมากกว่าร้อยละ 80 ที่สำคัญผู้ป่วยไวรัสบีหรือซีเรื้อรังมักจะไม่มีอาการอะไร จนทำให้ผู้ป่วยเข้าใจผิดว่าตนเองปกติแข็งแรงดี กว่าจะมีอาการทางคลินิกผู้ป่วยก็มักจะมีภาวะตับแข็งที่เป็นมากจนเริ่มมีตับวายเรื้อรังแล้ว ในกรณีมะเร็งตับก็จะมีขนาดมะเร็งที่ใหญ่เกินกว่ารักษาให้ได้ผลดีแล้วเช่นกัน

นอกจากนี้ ค่าเอนไซม์ตับอาจจะอยู่ในเกณฑ์ปกติได้ เพราะการตรวจดูเอนไซม์ตับทุก 3-6 เดือน อาจจะไม่พบค่าผิดปกติในผู้ป่วยที่มีค่าเอนไซม์ตับแกว่งขึ้นลง ดังนั้นประมาณร้อยละ 15-20 ของผู้ป่วยไวรัสบีและซีเรื้อรังจะมีการดำเนินโรคไปเป็นตับแข็งหรือมะเร็งตับในขณะที่ตรวจแต่ค่าเอนไซม์เป็นช่วงๆ แล้วพบว่าปกติ

ล่าสุดนวัตกรรม Fibro Scan เครื่องตรวจหาผังพืดภายในตับ ที่สามารถช่วยติดตามการดำเนินโรคของตับแก่ผู้ติดเชื้อไวรัสบีและซีเรื้อรังทำให้สามารถวินิจฉัยภาวะผังผืด และตับแข็งในระยะต้นได้โดยไม่ต้องเจาะชิ้นเนื้อตับมาตรวจได้ สามารถเริ่มการรักษาได้ทัน Fibro scan ยังสามารถตรวจหาภาวะไขมันพอกตับ และเพื่อเป็นการร่วมรณรงค์เนื่องในวันที่ 28 กรกฏาคม ของทุกปี เป็นวันตับอักเสบโลก ทางโรงพยาบาลสมิติเวช ห่วงใยสุขภาพตับคนไทย เชิญชวนคนไทยห่างไกลโรคตับ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

เกาหลีใต้ประณามโสมแดงยั่วยุร้ายแรง โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ แถลงว่า การที่เกาหลีเหนือทดลองยิงขีปนาวุธหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้เป็นการยั่วยุร้ายแรงต่อเกาหลีใต้และประชาคมโลก เพราะเป็นภัยต่อเสถียรภาพของคาบสมุทรเกาหลี และละเมิดมติสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ที่ห้ามเกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธนำวิถีทุกอย่าง

โฆษกกล่าวว่า การทดลองล่าสุดเมื่อวันพุธผิดแปลกจากที่ผ่านมา เพราะเป็นการยิงจากจุดอ่อนไหวใกล้เขตปลอดทหารที่แบ่งคาบสมุทรเกาหลีออกเป็นเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ หลังจากสงครามเกาหลีปี 2493-2496 สิ้นสุดลง ดูเหมือนเกาหลีเหนือต้องการส่งสารว่าขีปนาวุธนำวิถีของเกาหลีเหนือพร้อมโจมตีเกาหลีใต้อย่างไม่ทันตั้งตัวได้ทุกที่ทุกเวลา

การทดลองยิงขีปนาวุธเมื่อวันพุธถือเป็นครั้งที่ 4 ในช่วงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ส่วนการทดลอง 3 ครั้งก่อนหน้านี้มีขึ้นไม่กี่วันก่อนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เยือนเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม นักวิเคราะห์บางคนมองว่าเกาหลีเหนือต้องการแสดงความไม่พอใจที่ผู้นำจีนเลือกเยือนเกาหลีใต้โดยที่ยังไม่ได้เยือนเกาหลีเหนือ จีนเป็นพันธมิตรหลักของเกาหลีเหนือ แต่ประธานาธิบดีสียังไม่เคยพบกับนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ทั้งที่พบกับประธานาธิบดีปาร์ค กึน-เฮ ของเกาหลีใต้ แล้ว 4 ครั้ง

 

เทพบุตร ชาวดิน

ดูกันชัดๆ "ปล่อยปลาจากเครื่องบิน" เพาะพันธุ์ในทะเลสาบ
10 กรกฎาคม 2557 เวลา 12:28 น.

วิธีการปล่อยพันธุ์ปลาลงในทะเลสาบในเขตป่าเขาอันห่างไกล ด้วยการปล่อยลงมาจากเครื่องบิน แม้จะถือเป็นเรื่องธรรมดาของที่สหรัฐฯ แต่การได้เห็นวิดีโอที่จับภาพวินาที "ปล่อย"แบบใกล้ๆ ช่างเป็นเรื่องที่ชวนให้อึ้งจริงๆ

วิดีโอบน YouTube เผยให้เห็นวินาทีซึ่งเครื่องบินเล็กลำหนึ่ง เปิดใต้ท้องเครื่องเพื่อปล่อยปลาจำนวนมาก ระหว่างการบินโฉบเหนือทะเลสาบซึ่งในคำอธิบายคลิป ระบุว่าอยู่ในมลรัฐยูท่าห์ของสหรัฐฯ ซึ่งจากภาพที่ได้เห็นแบบใกล้ๆ ทำให้พลเมืองอินเทอร์เน็ตทั่วโลกอึ้งไปตามๆกัน โดยในฟอรั่มสนทนาบนเว็บไซต์ REDDIT.COM ส่วนหนึ่งไม่คิดว่าวิธีนี้จะเป็นวิธีที่ปลอดภัยสำหรับพันธุ์ปลาที่ถูกปล่อยลงไป โดยคาดว่าปลาน่าจะตายไปเป็นจำนวนมาก แทนที่จะเป็นการเพิ่มประชากรสัตว์น้ำให้กับทะเลสาบ

"นั่นหมายความว่า แทนที่ผมจะเสียเวลา บรรจงเอาถุงพลาสติกจุ่มลงไปในตู้ปลาแล้วรอเป็นชั่วโมงๆ ให้ปลาว่ายเข้ามาเอง แล้วค่อยยกขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนน้ำในตู้ ผมก็แค่โยนพวกมันลงมาจากชั้น 2 ก็ได้อย่างนั้นสินะ" ผู้ใช้คนหนึ่ง ตั้งคำถามแบบกวนๆ

"จะมีปลาสักกีตัวกันที่รอดจากการทิ้งบอมบ์ปลาครั้งนี้" ผู้ใช้อีกคนสงสัย

อย่างไรก็ตามผู้ที่มีความรู้และความเห็น ด้านการประมง ไปจนถึงฟิสิกส์ และทฤษฎีอื่นๆ ก็มาช่วยอธิบายหลักการต่างๆที่ใช้ในวิธีการปล่อยปลาแบบนี้ ซึ่งบางความคิดเห็นก็ดูสมเหตุสมผล แต่บางความเห็นก็ยิ่งสร้างดราม่าเป็นที่ครื้นเครงในฟอรั่มดังกล่าว

"เทคนิคการปล่อยน้ำลงไปพร้อมๆกับปลา สามารถทำให้ลดแรงตึงผิวน้ำได้ เป็นเทคนิคที่ได้ผลแบบเดียวกับการฉีดน้ำลดแรงตึงผิวน้ำ ในการแสดงโชว์ของนักกระโดดน้ำจากที่สูงมากๆ" ผู้ใช้คนหนึ่งตั้งข้อสังเกต พร้อมยกตัวอย่าง

Source : YouTube/Ted Hallows


<iframe width="640" height="360" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=110384" ></iframe>

ดูกันชัดๆ ปล่อยปลาจากเครื่องบิน เพาะพันธุ์ในทะเลสาบ - Voice TV 21

 

เทพบุตร ชาวดิน

FBI ตื่น !! หลังพบ “กล่องปริศนาบรรจุขวดทดลองเชื้อไข้ฝีดาษ” ซุกในห้องเก็บของแล็บFDAใกล้วอชิงตัน ดีซี โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 กรกฎาคม 2557 18:35 น.





เอเจนซีส์/ASTVManagerOnline - FBI เดินหน้าสอบสวนหลังพบขวดทดลองบรรจุเชื้อไข้ทรพิษจำนวน 6 ขวดที่เก็บอยู่ในกล่องในห้องเก็บของสถาบันเพื่อสุขภาพแห่งชาติอเมริกา (National Institutes of Health ) หรือNIH ในสังกัดองค์การอาหารและยาสหรัฐฯหรือ FDA ในเบเธสดา รัฐแมรีแลนด์ ไม่ห่างจากกรุงวอชิงตัน ดีซี โดยทาง FBI ได้ส่งขวดบรรจุเชื้อไข้ฝีดาษเหล่านี้ไปให้ยังศูนยควบคุมและปองกันโรคของอเมริกา (CDC)ทำการตรวจสอบ

ในวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของสถาบันเพื่อสุขภาพแห่งชาติอเมริกา หรือ NIHพบกล่องต้องสงสัยที่บรรจุขวดทดลองซุกไว้ภายในห้องเก็บของแล็บในระหว่างที่พวกเขากำลังทำความสะอาดเพื่อการเคลื่อนย้าย ซึ่งแล็บแห่งนี้อยู่ภายใต้การบริหารขององค์การอาหารและยาสหรัฐฯหรือ FDA มาตั้งแต่ปี 1972 ที่มีสำนักงานใหญ่ใกล้กลับซิลเวอร์ สปริง

ขวดทดลองที่มีลักษณะแห้งและแช่แข็งทั้ง 6ขวดมีสลากกำกับว่า “ปนเปื้อนเชื้อไวรัสไข้ทรพิษ” ซึ่งทางศูนยควบคุมและปองกันโรคของอเมริกา (CDC) กล่าวว่า “เป็นสายพันธุ์โรคไข้ฝีดาษที่ร้ายแรงแต่พบได้ทั่วไป” นอกจากนี้ยังพบว่ามีขวดทดลองอีก 10 ขวด ที่ฉลากกำกับนั้นเลือนจนไม่สามารถอ่านได้ ดร. สตีเวน มอนโร (Dr. Steven Monroe) ผู้อำนวยการแผนก High-Consequence Pathogens and Pathology (DHCPP) รับผิดชอบการควบคุมและป้องกันการติดต่อโรคระบาดสู่สาธารณะ ของ CDCเผยกับเอบีซี นิวส สื่อสหรัฐฯ

และเป็นที่น่าแปลกใจว่า ไม่มีใครทราบว่าเชื้อไข้ฝีดาษถูกซ่อนอยู่ในห้องเก็บของที่มีการควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ 5C. มานานเท่าใด แต่จากการสันนิษฐานทำให้เชื่อได้ว่า อาจย้อนไปไกลในยุค 50 ทอม สกินเนอร์ (Tom Skinner) โฆษกCDCแถลง

ในวันจันทร์(7) ทีมงานเจ้าหน้าที่จากCDCเดินทางไปที่ NIHเพื่อเคลื่อนย้ายขวดเชื้อไวรัสต้องสงสัยเหล่านั้นไปยังแล็บความปลอดภัยชั้นสูงในเมืองแอตแลนตา ที่มีการทดสอบภายในแล็บความปลอดภัยด้านชีวภาพระดับ 4ได้ยืนยันว่า ขวดทดลองเหล่านี้บรรจุเชื้อไวรัสไข้ทรพิษจริง และCDC ที่มีฐานอยู่ในรัฐจอร์เจียจะยังเดินหน้าทดสอบต่อเพื่อตรวจหาว่าในขวดทดลองที่ยึดมาได้ทั้งหมดนั้นมีเชื้อไวรัสอยู่หรือไม่ ซึ่งการทดลองนี้อาจต้องกินเวลานานถึง 2 สัปดาห์ CDC กล่าวผ่านแถลงการณ์

ทั้งนี้ดร. มิคาห์ คริเชฟสกี (Dr.Micah Krichevsky) อดีตนักวิทยาศาสตร์ NIHได้ให้สัมภาษณ์กับ RTในคำถามถึงที่มาของขวดเชื้อไข้ทรพิษและเหตุใดจึงถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของNIHว่า “ตราบเท่าที่เชื้อไวรัสยังอยู่ภายในขวดทดลองที่ถูกซีลไว้อย่างรัดกุม จะไม่มีผลกระทบอะไรขึ้นมา หากไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดทุจริต และในขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า ขวดเชื้อไข้ทรพิษที่มีฉลากกำกับมีเชื้อปนเปื้อนออกมาสู่ภายนอก”

แต่ทว่าคริเชฟสกีได้ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่มีนักวิทยาศาสตร์จะเก็บตัวอย่างเชื้อไวรัสไว้ ซึ่งต่างจากเชื้อแบคทีเรีย “แต่ทว่า ไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหนที่ทำการทดลองกับเชื้อไข้ฝีดาษ” คริเชฟสกีกล่าว โดยส่วนตัวเขาเชื่อมั่นว่า เชื้อไวรัสที่เพิ่งค้นพบตายแล้ว แต่ยังย้ำว่าไม่มีใครยืนยันได้นอกจากCDCที่ต้องทำการทดสอบ

โรคไข้ทรพิษถูกพบครั้งสุดท้ายในสหรัฐฯปี 1949 และเกิดระบาดล่าสุดขึ้นในโซมาเลียปี 1977 นอกจากนี้ จากการที่มีความกลัวว่าจะมีการนำเชื้อไข้ทรพิษเป็นอาวุธชีวภาพ ดังนั้นเชื้อไวรัสชนิดนี้จึงต้องถูกเก็บรักษาไว้ในBSL-4 หรือแล็บความปลอดภัยด้านชีวภาพระดับ 4 และห้องเก็บของที่พบกล่องบรรจุขวดเชื้อไวรัสฝีดาษไม่เข้ามาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงนี้ NPR รายงาน

ทั้งนี้ในหนังสือ Scourge: The Once and Future Threat of Small Pox ที่เขียนโดยโจนาธาน ทัคเกอร์ (Jonathan Tucker) จาก Monterey Institute of International Studies อ้างว่า อดีตสหภาพโซเวียต(USSR)ในยุคสงครามเย็น มีแนวคิดที่จะนำเชื้อไวรัสฝีดาษเป็นอาวุธชีวภาพติดหัวรบมิสไซล์กวาดล้างชาวอเมริกันที่ยังมีชีวิตรอดจากภัยสงครามอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯและอดีตสหภาพโซเวียต ซึ่งอดีตหัวหน้าโครงการอาวุธของสหภาพโซเวียตในสมัยนั้นได้ยืนยันเรื่องนี้กับทัคเกอร์ว่า ทั้งอดีตประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต มิคาอิล กอร์บาชอฟ และเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ต่างรู้เรื่องนี้ดี ซึ่งสอดคล้องกับการให้ข้อมูลของอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯในขณะนั้นที่ยอมรับกับสื่อสหรัฐฯ NBC ว่า สายข่าวพบขีปนาวุธรัสเซียSS-11 ที่ติดหัวรบรูปร่างแปลก ซึ่งสหรัฐฯไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นอะไร แต่คาดเดาว่า อาจเป็น “หัวรบอาวุธชีวภาพ”

โดยรัฐบาลอดีตสหภาพโซเวียตได้เริ่มทดลองนำเชื้อไข้ทรพิษเป็นอาวุธชีวภาพในปี 1948 บนเกาะกลางทะเลอารัล และได้ทดสอบอาวุธชีวภาพนี้ในบริเวณเปิดโล่งในปี 1971 ซึ่งได้รับการเปิดเผยล่าสุดในปี 2002ที่ทางมอสโกไม่เคยยอมรับเรื่องนี้แม้อดีตสหภาพโซเวียตจะล่มสลายไปแล้ว

และในขณะนี้แผนกDivision of Select Agents And Toxins ของ CDC กำลังร่วมมือกับ FBI เพื่อสืบสวนว่าเหตุใดกล่องเชื้อไวรัสนี้จึงถูกซุกเก็บไว้ในห้องเก็บของ NIH นานหลายสิบปี “เรากำลังหาคำตอบในเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นเหตุที่ผิดปกติ” สกินเนอร์ โฆษก CDCให้สัมภาษณ์กับวอชิงตันโพสต์ สื่อสหรัฐฯในฉบับที่เผยแพร่เมื่อวานนี้(8)

อย่างไรก็ตาม คริเชฟสกีตั้งข้อสังเกตต่อว่า กล่องเชื้อไวรัสมรณะนี้อาจถูกเก็บในห้องเก็บของแล็บเป็นเวลานานก่อนที่สถานที่แห่งนี้จะถูกโอนเข้ามาในสังกัดของ FDA “เจ้าหน้าที่ในชุดความปลอดภัยด้านชีวภาพจะต้องเก็บเชื้อเหล่านี้ไว้ในกล่องคอนเทนเนอร์ปิดล็อกที่บรรจุขวดทดลองเชื้อโรคร้ายได้พอดี”คริเชฟสกีกล่าว และเสริมว่ามีขั้นตอนซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายจากมุมหนึ่งไปสู่อีกมุมหนึ่งของห้อง”

และหลังจากที่ทาง CDC เสร็จสิ้นการทดสอบในปลายเดือนนี้ เชื้อไข้ทรพิษทั้งหมดจะถูกทำลาย โดยมีการเชิญให้องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เข้าร่วมการสอบสวน เป็นพยานการทำลายตามกระบวนการจากการที่ตัวเชื้อโรคถูกพบนอกเหนือองค์กรหลักที่ควบคุมเชื้อไข้ทรพิษอย่างเป็นทางการ เช่น WHO CDC และ VECTOR

เหตุพบกล่องเชื้อไวรัสฝีดาษเกิดขึ้น 3 สัปดาห์หลังจากที่สหรัฐฯได้ประกาศว่า นักวิทยาศาสตร์ร่วม 84 คนของ CDCใ นเมืองแอตแลนตา ติดเชื้อแอนแทรกซ์หลังจากที่ระบบความปลอดภัยล่ม


FBI

 

ภาพสดจากนาซา : ระทึก!! “ไต้ฝุ่นนอกูรีลดระดับรุนแรงล่าสุด” มุ่งหน้าสู่ รง.ไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 กรกฎาคม 2557 12:16 น.



เอเอฟพี - พายุโซนร้อนนอกูรี ที่ลดระดับความรุนแรงล่าสุดลงจาก “พายุไต้ฝุ่น” หลังจากพัดผ่านโอซากา เกียวโต และโตเกียว คาดว่าจะมุ่งหน้าเข้าสู่โรงงานไฟฟ้าฟูกูชิมะบนชายฝั่งตะวันออกของประเทศในวันศุกร์ (11)

พายุโซนร้อนนอกูรี (นอกูรี (Neoguri หรือ 너구리หมายถึงสุนัขแรคคูนในภาษาเกาหลี) ถูกลดระดับลงจากพายุไต้ฝุ่นหลังจากพัดผ่านกรุงโตเกียวในเช้ามืดวันศุกร์ (11) ที่มาพร้อมลมแรง 83 กม./ชม. และฝนตกหนัก แต่ไม่มีผลกระทบต่อการจราจรช่วงเร่งด่วน

เจ้าหน้าที่ประจำโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะต่างง่วนอยู่แต่กับภารกิจจัดการน้ำปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีในแต่ละวันภายในโรงงาน และต้องเตรียมโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเตาปฏิกรณ์หลอมละลายให้พร้อมรับกับสถานการณ์ฝนตกหนักที่มาจากพายุโซนร้อนนอกูริ

ทางโรงงานต้องหาหนทางป้องกันน้ำใต้ดินปนเปื้อนกับระบบหล่อเย็นที่รักษาอุณภูมิของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่หลอมเหลว เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ทำให้เกิดกำแพงคลื่นสึนามิขนาดใหญ่พัดเข้าทำลายโรงงานไฟไฟ้าบริษัท เทปโก้ ที่ตั้งติดชายฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นในปี 2011

ทั้งนี้ หน่วยงานการควบคุมอากาศของญี่ปุ่นได้ออกคำเตือนว่า อาจมีฝนตกหนักประกอบกับลมแรงในเขตฟูกูชิมะ แต่โฆษกของบริษัท เทปโก้ เจ้าของโรงงานไฟฟ้าฟูกูชิมะ ยืนยันว่า สถานการณ์ยังปกติ

“เรายังคงทำงานตามตารางปกติในวันนี้ในขณะที่มีการเฝ้าระวังถึงผลกระทบที่จะเกิดจากไต้ฝุ่นนอกูรี” โฆษกเทปโก้แถลง

นอกูรีได้ขึ้นเกาะหลักของญี่ปุ่นที่มีเมืองสำคัญ เช่น โอซากา เกียวโต โตเกียว เมื่อเช้าวานนี้ (10) ได้พัดเข้าฟัตต์สุ ในจังหวัดชิบะ ซึ่งห่างไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียวราว 45 กม. ไม่นานก่อนเวลา 5.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นแถลง

และสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นได้ถ่ายทอดภาพเหตุการณ์ถึงคลื่นสูงพัดเข้าสู่เขื่อนป้องกันชายฝั่งทะเลในชิบะ ในขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยญี่ปุ่นต่างเร่งมือสร้างแบริเออร์ชั่วคราวเพื่อป้องกันดินถล่ม

แต่กระนั้นพบว่าผลกระทบของนอกูรีต่อเมืองหลวงของแดนปลาดิบมีจำกัด เอเอฟพีรายงานจากการอ้างอิงของสื่อท้องถิ่นญี่ปุ่น ว่า ทั้งรถไฟและเครื่องบินยังให้บริการตามปกติในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนตอนเช้า

ที่ผ่านมา นอกูรีมุ่งหน้าไปยังตะวันออกเฉียงเหนือเรียบชายฝั่งด้านมหาสมุทรแปซิฟิก และทางเจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาคาดว่า หลังจากนั้นโนกูริจะออกจากหมู่เกาะญี่ปุ่นไป

มีบ้านจำนวนมากกว่า 680 หลังในหลายท้องที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน หรือได้รับความเสียหายเนื่องมาจากฤทธิไต้ฝุ่นนอกูรีที่มาพร้อมพายุฝนห่าใหญ่ เป็นผลทำให้มี 489,000 ครัวเรือนต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์หลบภัย หน่วยงานภัยพิบัติแห่งชาติญี่ปุ่นรายงาน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าหน่วยงานภัยพิบัติญี่ปุ่นยังเตือนว่า จะยังมีความเสี่ยงจากน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่ม เนื่องจากนอกูรี ซึ่งมีผลให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นญี่ปุ่นต้องเร่งอพยพชาวบ้านร่วมครึ่งล้านไปหาที่หลบภัยในโอกินาวาเมื่อต้นสัปดาห์นี้ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากผลนอกูริขึ้นญี่ปุ่นอย่างน้อย 60 ราย และมีผุ้เสียชีวิตอีก 5 ราย สื่อท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเผย

ชุดภาพถ่ายซูเปอร์ไต้ฝุ่นนอกูรี ที่ปัจจุบันถูกลดระดับเป็น “พายุโซนร้อนนอกูรี” ถูกจับภาพนอกโลกจากนักบินอวกาศเยอรมัน อเล็กซานเดอร์ เกิร์สต (Alexander Gerst) บนสถานีอวกาศนานาชาติ ISS ในช่วงวันที่ 7-8 กรกฎาคม โดยเกิร์สตกล่าวกับเพื่อนนักบินอวกาศด้วยกันว่า “เตรียมตัวนะญี่ปุ่น ซูเปอร์ไต้ฝุ่นนอกูรีมาแล้ว มันดูน่ากลัวมาก”