ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก ได้แชร์ลิงก์

    [​IMG]

    เมื่อช่วงเช้าตี 5 ตามเวลาประเทศไทย ของวันที่ 28 มิ.ย.57 ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.3 ตามมาตราวัด(ML) ทางภาคตะวันตกของไทย โดยจากข้อมูลนี้บ่งบอกถึงจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจาก อ.ไทรโยค 92 กม. ซึ่งอยู่ในเขตพม่า ด้วยความลึก 9 กม.

    การไหวครั้งนี้เป็นการไหวในแนวรอยเลื่อนกิ่งก้านสาขาของรอยเลื่อนสะแกง ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่เพิ่งถูกค้นพบใหม่มาได้ไม่นานนี้ และยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ โดยรอยเลื่อนกิ่งก้านสาขาใหม่นี้ ได้แตกหักร้าวลงมาเป็นทางยาวพาดผ่าน เจดีย์สามองค์ , ศรีสวัสดิ์ และยาวลงไปทางทิศใต้ของกรุงเทพมหานคร อ้อมมาทาง จ.สมุทรปราการ และเลยลึกไปถึง จ.ชลบุรี ซึ่งในอดีตที่พม่าเคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงบริเวณแนวรอยเลื่อนสะแกงมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่ขนาด 6.1-7.3 ตามมาตราวัด(ML) นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2493 ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนของชาวพม่า และยังเกิดดินถล่มตามมาอีกด้วย

    (ปล.รอยเลื่อนกิ่งก้านสาขาใหม่ ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าแตกหักมาจากรอยเลื่อนสะแกง หรือเกิดเป็นรอยเลื่อนใหม่ แต่เพื่อความเข้าใจจึงต้องเรียกแบบนี้ไปก่อน) - See more at: http://disaster-situation.blogspot.com/2014/06/33-ml-92.html#more

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานครยังมีความเสี่ยง หากมีการเกิดแผ่นดินไหวในรอยเลื่อนสะแกงหรือรอยเลื่อนกิ่งก้านสาขาใหม่ ที่พาดผ่านประเทศพม่า-ไทย และทะเลอันดามัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรอยเลื่อนทางภาคตะวันตกของไทยที่จะมีการขยับตัวและทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ ซึ่งอาจจะส่งผลรุนแรงถึงกรุงเทพมหานครเพราะอยู่ห่างเพียง 200 กิโลเมตร ส่วนรอยเลื่อนสะแกงแม้จะห่างไกลกรุงเทพมหานครถึง 600 กิโลเมตร แต่ก็ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะตึกอาคารที่สูงตั้งแต่ 13-30 ชั้นขึ้นไป แต่ก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจเพราะได้มีการเฝ้าติดตามรอยเลื่อนสำคัญอย่างต่อเนื่อง

    เวลาเกิดแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงประมาณ 8-9 ขึ้นไป คลื่นพลังงานที่สั่นสะเทือนจากจุดที่ไหวจะเดินทางไปไกลถึง 300-350 กิโลเมตร แผ่กระจายออกไปรอบๆ จังหวัดที่อยู่ในรัศมีนี้จะได้รับแรงสะเทือน เรื่องการเกิดดินยุบแผ่นดินถล่มต้องดูว่าตัวจังหวัดตั้งอยู่บนดินชนิดอะไร จังหวัดที่ตั้งอยู่บนดินเลน ดินอ่อนนี้ต้องระวังครับ เพราะคลื่นแผ่นดินไหวจะขยายตัวเป็น 2 เท่าครึ่ง ถ้าเจอดินพวกนี้ จะทำให้ตึกบ้านถล่มได้เช่นกัน

    http://www.oknation.net/blog/print.php?id=66380

    http://www.vcharkarn.com/varticle/36860

    ข้อมูลเพิ่มเติม - See more at: http://disaster-situation.blogspot.com/2014/06/33-ml-92.html#more

    ข้อมูลเพิ่มเติม
    http://disaster-situation.blogspot.com/2014/06/33-ml-92.html#more
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2014
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    VickieTalk 9 # รอยเลื่อนตอนใต้ กทม. ฤายักษ์ที่ยังหลับใหล

    หลังมีข่าวคราว พบรอยเลื่อนแขนงพาดผ่านทิศใต้ของกรุงเทพมหานคร อ้อมมาทาง จ.สมุทรปราการ และเลยลึกไปถึง จ.ชลบุรี อีกแขนงหนึ่งไปทางองครักษ์ และ ท่าจีน ทำให้กรมทรัพยากรธรณีคงจะอยู่เฉยไม่ได้

    นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาให้ความเห็นเกี่ยวกับรอยเลื่อนที่พบใหม่นี้ น่าสนใจทีเดียว งบประมาณก็ไม่มาก แต่งานนี้ไม่เร่งศึกษาไม่ได้เสียแล้ว เพราะไม่มีใครให้คำตอบได้ด้วยว่า ยักษ์ใหญ่ที่หลับใหลจะพลิกตัว หรือ ขยับตัว หรือตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ ????

    ลองฟังกันดูนะฮับ

    ศ.ดร.ปริญญา นุตาลัย ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว กล่าวว่า ข้อมูลรอยเลื่อนใกล้กทม.นี้คณะ กรรม การแผ่นดินไหวแห่งชาติ เคยทำเรื่องเสนอเข้าครม.ไปตั้งแต่ปี 2547 เพราะเห็นว่ายิ่งอยู่ใกล้กับกทม.ก็ควรต้องเร่งทำให้ชัดเจนเท่านั้น เพื่อจะรู้สถานะว่าต้องเฝ้าระวังอย่างไร เหมือนกับรอยเลื่อนมี พลัง 13 รอยที่ต้องศึกษาพฤติกรรมของมัน

    [​IMG]

    รอยเลื่อน เป็นลักษณะของรอยแตกหรือแนวแตกในหิน โดยหินทั้งสองฟากของรอยแตก มีการเคลื่อนที่สัมพันธ์กัน และทิศทางการเคลื่อนที่ขนานไปกับระนาบของรอยเลื่อนนั้นๆ รอยเลื่อนเกิดจากกระบวนการที่ทำให้หินแตกและเลื่อน / เคลื่อนไหว เนื่องจากความเค้นในเนื้อหินที่เปลือกโลก การเลื่อนของรอยเลื่อนอาจเป็นไปได้ทุกทิศทางที่เป็นแนวเปราะบาง ระยะทางของการเลื่อนตัวอาจน้อยเป็นเซนติเมตร

    พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลตกอยู่ในความเสี่ยงแผ่นดินไหว จาก 3 ปัจจัย ได้แก่
    - รอยเลื่อนนอกประเทศ เช่น รอยเลื่อนตะแกงในพม่า จุดที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างกรุงเทพฯ 400 กม.
    - รอยเลื่อนในประเทศที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ
    - รอยเลื่อนใต้ดินที่เพิ่งพบเมื่อไม่นานมานี้ และยังไม่มีข้อมูลการเคลื่อนตัวที่ชัดเจน ยังไม่สามารถประเมินความเสี่ยงได้

    [​IMG]

    นายวรวุฒิ ตันติวนิช ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ปรึกษาทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรธรณี กล่าวถึงผลการขุดร่องสำรวจบริเวณ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี และ อ.ศรีสวัสดิ์ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี รวม 6 จุด พบว่าในอดีตเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่มาแล้ว ความรุนแรงสูงสุด 7 ริกเตอร์ เมื่อ 7,000 ปีก่อน จนถึง 6.4 ริกเตอร์ เมื่อ 1,000 ปีก่อน แสดงว่ารอยเลื่อนศรีสวัสดิ์และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์เป็นรอยเลื่อนที่มีพลังมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในบริเวณดังกล่าวได้อีกครั้ง แต่ยังต้องศึกษาเพิ่มเติม เช่น หาอัตราความเร็วการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกเพื่อศึกษาความถี่การเกิด

    " รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์และเจดีย์สามองค์เป็นรอยเลื่อนที่มีขนาดยาว สามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและยังอยู่บริเวณใกล้กรุงเทพฯ และจุดที่เป็นชุมชน รวมถึงมีเขื่อนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ซึ่งหากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงอาจเกิดความเสียหายได้มาก "

    นายปริญญา พุทธาภิบาล ประธานหลักสูตรธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ขณะนี้แนวโน้มการเกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกจากปีละ 20,000 ครั้ง เป็น 30,000 ครั้ง โดยช่วง 4 เดือนของปีนี้ เกิดขึ้นแล้ว 11,000 ครั้ง หากพิจารณาจากสถิติคาดว่าปีนี้อาจจะเกิดได้อีกนับหมื่นครั้ง นอกจากนี้ ยังพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่ทำให้เกิดสึนามิประมาณ 1 ปี มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นแถบภูมิภาคนี้ประมาณ 2 เท่าจากปกติ แต่ประเทศที่มีความเสี่ยงมากกว่าไทย คือ จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

    [​IMG]
    *ภาพจาก

    สำหรับรอยเลื่อนในประเทศไทยที่มีพลังอยู่ มี 13 กลุ่ม ประกอบด้วย

    รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ครอบคลุม จ.กาญจนบุรี และราชบุรี ซึ่งต่อถึงรอยเลื่อนสะแกง ในพม่า ความยาวของรอยเลื่อนช่วงที่อยู่ในประเทศไทยยาวกว่า 250 กิโลเมตร มีรายงานแผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนนี้มากมายหลายพันครั้ง

    รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ครอบคลุม จ.กาญจนบุรีและอุทัยธานี รอยเลื่อนนี้อยู่ทางด้านตะวันตก ของรอยเลื่อนเมย-อุทัยธานี มีความยาวทั้งหมดกว่า 500 กิโลเมตร ในช่วงระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมามีรายงานแผ่นดินไหวขนาดเล็กหลายร้อยครั้ง ซึ่งครั้งใหญ่สุดวัดได้ วันที่ 22 เมษายน 2526 มีขนาด 5.9 ริคเตอร์

    รอยเลื่อนแม่จันและแม่อิง ครอบคลุม จ.เชียงรายและเชียงใหม่
    รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน ครอบคลุม จ.แม่ฮ่องสอนและตาก
    รอยเลื่อนเมย ครอบคลุม จ.ตากและกำแพงเพชร
    รอยเลื่อนแม่ทา ครอบคลุม จ.เชียงใหม่ ลำพูนและเชียงราย
    รอยเลื่อนเถิน ครอบคลุม จ.ลำปางและแพร่
    รอยเลื่อนพะเยา ครอบคลุม จ.ลำปาง เชียงรายและพะเยา
    รอยเลื่อนปัว ครอบคลุม จ.น่าน
    รอยเลื่อนอุตรดิตถ์ ครอบคลุม จ.อุตรดิตถ์
    รอยเลื่อนท่าแขก ครอบคลุม จ.หนองคายและนครพนม
    รอยเลื่อนระนอง ครอบคลุม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนองและพังงา
    รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ครอบคลุม จ.สุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา
    สำหรับรอยเลื่อนที่พบใหม่ซึ่งพาดผ่านทิศใต้ของ กทม. จะเป็นกิ่ง ก้าน สาขา หรือรอยเลื่อนใหม่ เราคงได้แต่ติดตามข้อมูล เพื่อการตั้งรับอย่างมีสติ

    รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหวและธรณีแปรสัณฐาน ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากหลักฐานชี้ชัดว่า ในอดีตเมื่อ 22,000 ปีก่อน บริเวณรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์มาแล้ว และในปี 2526 ก็เกิดระดับ 5 ริคเตอร์ ในอนาคตจึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดค่าอุบัติซ้ำได้ ซึ่งตนต้องการให้เกิดความตระหนัก และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ไปสานต่อและเตรียมรับมือกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

    ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแผ่นดินไหว สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หรือ AIT กล่าวว่า ประเด็นที่ กฟผ.ยืนยันว่า เมื่อปี 2526 บริเวณทิศเหนือของเขื่อนศรีนครินทร์ เคยเกิดแผ่นดินไหวแล้ว มีความรุนแรงถึง 5.9 ริกเตอร์ ในระยะ 55 กิโลเมตรจากตัวเขื่อน แต่เขื่อนก็ยังไม่แตก แสดงว่าเขื่อนแข็งแรง เพราะเขื่อนนี้สร้างขึ้นมารับแรงไหวของแผ่นดินได้ถึง 7.5 ริกเตอร์ นั้น เป็นการสรุปแบบไม่เข้าใจ เพราะเป็นการสั่นสะเทือนที่วัดคนละหน่วยกัน

    ที่ถูกต้อง คือ เขื่อนนี้รับความรุนแรงการไหวของแผ่นดินที่ 7.5 ริกเตอร์ หรือ ประมาณ 10 ้ของค่าความเร่งในแนวดิ่งของโลก หรือค่า g ในขณะที่ การไหวของแผ่นดินในปี 2526 ที่มีขนาด 5.9
    ริกเตอร์ ที่ระยะ 55 กิโลเมตรนั้น ความรุนแรงไม่ถึง 5 ของ ของค่า g เขื่อนจึงไม่สั่นสะเทือน
    และไม่เป็นอันตราย

    ถ้าเขื่อนศรีนครินทร์แตก
    นายธำรง ธวัชชัยประชา อดีตวิศวกรโยธา กฟผ.ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มวิศวกรที่ปรึกษาที่ดูแลรักษาเขื่อนศรีนครินทร์มาตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ยอมรับว่า ในการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ มั่นใจระบบการก่อสร้าง และไม่เคยยอมฟังคำทัดทานของใคร กระทั่งเขื่อนสร้างเสร็จระยะหนึ่ง กฟผ.ให้บริษัทที่ปรึกษาจากสหรัฐอเมริกา สวีเดน และแคนาดา ตรวจประเมินเขื่อนจากข้อมูลเรื่องการเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาทั้ง 3 แห่งสรุปผลออกมาเหมือนกันว่า จ.กาญจนบุรีอาจเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขนาด 7.5-8.0 ริกเตอร์ นั่นคือ มากกว่าที่ กฟผ.ออกแบบเขื่อนไว้ 500-4,000 เท่า และทั้งหมด แนะนำให้ กฟผ.เพิ่มมาตรการเสริมความแข็งแรงของเขื่อน

    และการที่ กฟผ.บอกกับสาธารณะว่า เขื่อนรับแรงไหวของแผ่นดินได้ 7.5 ริกเตอร์นั้น ก็ไม่เป็นจริง เพราะความจริงคือ ตัวเลข 7.5 ริกเตอร์ ที่เขื่อนจะรองรับความเสียหายได้ จุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว จะต้องห่างจากตัวเขื่อนมากกว่า 250 กิโลเมตร แต่จากข้อมูลใหม่และความรู้ในปัจจุบัน พบว่า แนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหวที่มีพลังนั้น อยู่บริเวณเดียวกับที่เขื่อนสร้างอยู่นั่นเอง

    บริษัทที่ปรึกษา เหล่านั้น ยังระบุอีกว่า หากเขื่อนศรีนครินทร์แตกแล้ว โอกาสที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุม 13 จังหวัด 65 อำเภอ เป็นพื้นที่ถึง 7,500 ตารางกิโลเมตร หรือราว 4,700,000 ไร่

    พื้นที่ ที่จะได้รับผลกระทบหนักสุด คือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งน้ำจะไหลเข้าสู่เมืองภายใน 5 ชั่วโมง ไหลถึง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ภายในเวลา 11 ชั่วโมง
    สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) นั้น น้ำจะไหลมาถึงเขต บางกอกน้อย ตลิ่งชัน ธนบุรี ภาษีเจริญ จอมทอง ราษฎรบูรณะ และบางขุนเทียน ภายใน 35 ชั่วโมง

    ทิ้งท้ายดูเหมือนน่ากลัว หากแต่เป็นข้อมูล ที่ กฟผ.เองบอกว่า ต้องรับฟัง และนำกลับไปทบทวน เพื่อเพิ่มเติมในส่วนของการป้องกัน และเสริมความแข็งแรงของเขื่อน แต่ส่วนหนึ่ง ที่ส่วนตัว Vickie เอง อยากให้ตระหนัก คือ การให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับทุกฝ่าย รวมถึงประชาชน ทั้งที่จะได้รับผลกระทบหรือไม่ได้รับก็ตาม เพื่อเราจะได้ตั้งรับอย่างมีสติ

    http://www.oknation.net/blog/print.php?id=66380
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    (**ตามตำรา ยุคโลหะ เริ่มต้น ประมาณ 4,000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช)

    [​IMG]

    27 มิ.ย. พิลึกพิลั่น!! พบท่อเหล็กโบราณทะเลสาบชิงไห่ อายุตั้ง150,000 ปี ! ขณะสำรวจพีระมิดลี้ลับ ในจีน

    เกิดเรื่องงงโคตรในวงการโบราณคดี ซึ่งหากพิสูจน์ว่า เป็นความจริงขึ้นมาแล้วก็อาจถึงขั้นต้องรื้อการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์กันใหม่เลยทีเดียว

    เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อปี 2545 ได้มีการส่งนักวิทยาศาสตร์คณะหนึ่งไปตรวจวิเคราะห์พีระมิดลี้ลับ ซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลชิงไห่ ใกล้กับภูเขาไป๋กง เมื่อไปถึงที่นั่น พวกเขาได้ค้นพบถ้ำ 3 แห่ง และเห็นท่อเหล็กอยู่เต็มไปหมด มันจุ่มอยู่ในทะเลสาบน้ำเค็ม ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกัน

    นักวิทยาศาสตร์คณะนี้ถึงกับสะดุ้ง เมื่อทราบว่า ท่อเหล็กเหล่านี้อาจมีอายุเก่าแก่ถึง150,000 ปี จากการคำนวณอายุโดยสถาบันธรณีวิทยาปักกิ่งระบุว่า ถ้าท่อเหล็กจากอดีตกาลสร้างด้วยน้ำมือของมนุษย์จริง ๆ แล้ว ก็น่าจะถูกถลุงเมื่อประมาณ 150,000 ปีก่อน

    การคำนวณอายุใช้วิธีการ ที่เรียกว่า การเรืองแสงด้วยความร้อน (thermoluminescence) ซึ่งสามารถวัดได้ว่า ผลึกแร่โดนแสงอาทิตย์ หรือความร้อนมานานเท่าไร ...ขณะนี้นักวิทยาศาตร์กำลังพลิกตำราและบรรดาทฤษฎีทั้งหลายแหล่ เพื่อพยายามหาเหตุผลความเป็นไปได้เกี่ยวกับเรื่องนี้

    หยาง จี๋ นักวิจัยประจำสถาบันสังคมศาสตร์ของจีน เชื่อว่า ท่อเหล็กเหล่านี้สร้างโดยสิ่งที่มีปัญญาเฉลียวฉลาด นอกจากนั้น เขายังไม่ปฏิเสธความคิดที่ว่า อาจเป็นฝีมือของมนุษย์ต่างดาวด้วยซ้ำ

    ทว่าเรื่องลึกลับดำมืดยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากพบว่า ท่อเหล็กบางอันเป็นธาตุกัมมันตรังสี ! ..การไขปริศนาท่อเหล็กแห่งทะเลสาบชิงไห่จึงยังไม่จบลงง่าย ๆ

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    28 มิ.ย. 'อเมริกา' คว้าแชมป์โดนโจรกรรมข้อมูล - ไทยต่อคิวอันดับ2

    [​IMG]

    จากการรวบรวมข้อมูลพบว่าสหรัฐฯ เป็นประเทศที่ถูกกลุ่มแฮกเกอร์ หรือกลุ่มอาชญากรคอมพิวเตอร์ ก่อเหตุโจมตีระบบฐานข้อมูลเครือข่ายอินเตอร์เน็ตมากเป็นอันดับที่ 1 ของโลก คิดเป็นสถิติเฉลี่ยประมาณ 5,840 ครั้งต่อเวลา 45 นาที ตามด้วยอันดับ 2 คือ ประเทศไทย ถูกแฮกเกอร์โจมตีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตประมาณ 220 ครั้ง ภายในเวลา 45 นาที โดยสหรัฐฯ ถูกโจมตีระบบอินเตอร์เน็ตสูงกว่าไทยประมาณ 27 เท่า

    ส่วนประเทศและเขตปกครองต่างๆ ที่ตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มแฮกเกอร์ติดอันดับ 3-10 ได้แก่ ฮ่องกง เขตบริหารพิเศษของจีน ถูกโจมตีประมาณ 215 ครั้ง ต่อ 45 นาที, แคนาดา (156 ครั้ง/45 นาที), โปรตุเกส (150 ครั้ง/45 นาที), ออสเตรเลีย (139 ครั้ง/45 นาที), สิงคโปร์ (104 ครั้ง/45 นาที) เนเธอร์แลนด์ (92 ครั้ง/45 นาที), อังกฤษ (91 ครั้ง/45 นาที) และออสเตรีย (88 ครั้ง/45 นาที)

    รายงานข่าวของบิสซิเนส อินไซเดอร์ ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มแฮกเกอร์มากที่สุดในโลก โดยเฉพาะเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีผู้พยายามก่อเหตุโจมตีสูงประมาณ 10 ล้านครั้งต่อ 1 วัน ขณะที่สถิติการโจมตีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่เกิดขึ้นทั่วรัฐยูทาห์ของสหรัฐฯ มีจำนวนประมาณ 20 ล้านครั้งต่อ 1 วัน

    ทั้งนี้ บริษัทนอร์สเผยว่า ระบบปฏิบัติการรวบรวมข้อมูลการจารกรรมข้อมูลออนไลน์ หรือ “แฮกกิ้งแมพ” ต้องอาศัยระบบเครือข่ายออนไลน์ “ฮันนี่พ็อต” ซึ่งมีการติดตั้งในพื้นที่ต่างๆทั่วโลก โดย บ.นอร์สยอมรับว่าการจารกรรมข้อมูลออนไลน์เกิดขึ้นในอีกหลายจุดทั่วโลก แต่ระบบ “แฮกกิ้งแมพ” ยังตรวจจับไม่ได้ทั้งหมด
    'อเมริกา' คว้าแชมป์ถูกโจรกรรมข้อมูลไทยต่อคิวอันดับ2 - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    28 มิ.ย. ยูเครนยิ้มร่าเซ็นจูบอียู-จีนซ้อมรบมะกันเว้นไทย (ซ้อมรบปท.เอเชีย-แปซิฟิกรวม 23 ประเทศ)

    [​IMG]

    เมื่อ 27 มิ.ย. ประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชงโก แห่งยูเครน เซ็นลงนามข้อตกลงด้านการค้าและการเมืองกับสหภาพยุโรป (อียู) หรือ “สมาคมข้อตกลงอียู-ยูเครน” อย่างเป็นทางการ ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เช่นเดียวกับประเทศจอร์เจียและมอลโดวา อดีตเครือสหภาพโซเวียต ซึ่งโปโรเชงโกเผยว่า

    ถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของยูเครนนับแต่ได้รับเอกราชจากรัสเซีย โดยข้อตกลงครั้งยิ่งใหญ่นี้จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจการค้าของยูเครนเข้าถึงกลุ่มประเทศสมาชิกอียูทั้ง 28 ประเทศได้ง่ายดายขึ้นในเรื่องกำแพงภาษีทางการค้า อีกทั้งมีส่วนในเรื่องคุ้มครองบริเวณชายแดนและความมั่นคงของชาติไปโดยปริยาย

    [​IMG]

    นายกริกอรี คาราซิน รมช.ต่างประเทศรัสเซีย แถลงเตือนด้วยความไม่พอใจไปถึงรัฐบาลยูเครนว่าให้ระวังผลที่ตามมาอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ก็เผยว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการที่จำเป็นทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์และเศรษฐกิจของประเทศ

    ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนร่วมปฏิบัติแผนซ้อมรบทางทะเล นอกเกาะฮาวายของสหรัฐฯ ภายใต้ชื่อเรียกว่า “แปซิฟิคริม” (อาร์ไอเอ็มพีเอซี) ตลอดระยะเวลา 5 สัปดาห์ ถือเป็นครั้งแรกที่จีนยอมร่วมฝึกซ้อมกับคู่กรณีพิพาทหลายประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งมีทั้งหมด 23 ประเทศ ยกเว้นประเทศไทย ซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า เป็นการระงับความร่วมมือครั้งนี้ชั่วคราว นับแต่เกิดเหตุก่อรัฐประหารของไทยวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา
    ยูเครนยิ้มร่าเซ็นจูบอียู-จีนซ้อมรบมะกันเว้นไทย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    27 มิ.ย. รบ.สหรัฐฯ ของบสภา 1.6 หมื่นล้านบาท ช่วยกบฏในซีเรีย

    [​IMG]

    รัฐบาลประธานาธิบดีโอบามา ยื่นของบสภาคองเกรส 500 ล้านดอลลาร์ (ราว 16,000 ล้านบาท) ช่วยกลุ่มกบฏ‘สายกลาง’ในซีเรีย ต่อสู้กับรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 27 มิ.ย.ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังพยายามของบประมาณจากสภาคองเกรส จำนวน 500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 16,000 ล้านบาท เพื่อนำไปช่วยกลุ่มกบฏสายกลาง ต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด แห่งซีเรีย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยฝึกสอนด้านการรบและอาวุธยุทธโธปกรณ์

    โฆษกหญิงของสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ชี้แจงว่า หากสภาคองเกรสอนุมัติเงินดังกล่าว เงินเหล่านี้จะถูกนำไปช่วยปกป้องคุ้มครองชาวซีเรีย รวมถึงการสร้างเสถียรภาพในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของฝ่ายต่อต้าน ไปจนถึงการอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ที่จำเป็น การต่อต้านการคุกคามของกลุ่มก่อการร้าย และการส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศของการเจรจาเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงกัน

    ทั้งนี้ เงินงบประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ ที่รัฐบาลประธานาธิบดีโอบามากำลังขออนุมัติจากสภาคองเกรสนั้น อยู่ในงบประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ ที่สภาตั้งไว้ สำหรับการสร้างเสถียรภาพในตะวันออกกลางเบื้องต้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับชาติเพื่อนบ้านของซีเรีย รวมทั้ง จอร์แดน เลบานอน ตุรกี และอิรัก

    อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลโอบามาได้ยื่นของบประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อไปช่วยกบฏสายกลางนั้น ทำให้สมาชิกสภาคองเกรสคงต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่ เพราะถ้าอนุมัติแล้ว คงจะทำให้สหรัฐฯ ยิ่งเข้าไปเกี่ยวข้องมากขึ้น กับสงครามกลางเมืองในซีเรีย ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี และทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า แสนราย และชาวซีเรียต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน อพยพลี้ภัยออกนอกประเทศกว่าล้านคนแล้ว
    รบ.สหรัฐฯ ของบสภา 1.6 หมื่นล้าน ช่วยกบฏในซีเรีย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    27 มิ.ย. ไฟผลาญโกดังเก็บสารเคมีโรงงานนิคมฯบางปู-วอด500ล้าน!

    [​IMG]

    [​IMG]

    ไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีขนาดใหญ่ บริษัทบางปู อินเตอร์ โมเดิล ซิสเต็มส์ ในเขตนิคมอุตสาห กรรมบางปู อ.เมืองสมุทรปราการ ในโกดังมีเม็ดพลาสติกสำหรับผลิตโฟม และสารเคมีไวไฟ เสียหายกว่า500ล้านบาท

    ภาพ - ไฟลุกโหมรุนแรงจนไม่สามารถดับได้ ควันสีดำจากการเผาไหม้ของสารเคมีพวยพุ่งขึ้นฟ้า
    - รถดับเพลิงหลายสิบคันถูกระดมมาฉีดน้ำ
    - เจ้าหน้าที่พยายามฉีดน้ำสกัดเพลิงแต่เอาไม่อยู่
    - เศษซากความเสียหายของโกดังเก็บสารเคมี
    - ทหารจากกรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ ถูกส่งมาช่วย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ไฟผลาญโกดังเก็บสารเคมีรง.นิคมฯบางปู-วอด500ล้าน! - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  8. PataPee_ChangP

    PataPee_ChangP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +211
    ขอบคุณมากๆเลยคะ
    ติดตามอ่านอยู่ตลอดเลยนะคะ
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

    [​IMG]

    แผ่นดินไหวเมื่อวาน 29 มิย. ถือว่าไม่ธรรมดา ซึ่งแต่ละจุดรุนแรงทั้งนั้นขนาด 4 - 6 ขึ้นไป โดยบางตำแหน่งไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวมาก่อน ก็ได้เห็นการสั่นไหว เช่น ที่ รัฐแอริโซนา , ประเทศอาเซอร์ไบจาน และภาคตะวันตกของไทย แน่นอนว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับ แมกม่า , ประจุไฟฟ้า , และสนามแม่เหล็กโลก ที่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตอนนี้

    ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันของเราจะก้าวไกลไปมากแค่ไหน แต่เราก็แทบไม่รู้เลยว่าโลกใต้พิภพกำลังจะทำอะไร เช่น แผ่นดินจะไหวตรงไหน , สนามแม่เหล็กจะสลับขั้วเมื่อไหร่ แล้วในใต้โลกที่แท้จริงนั้นมันกลวง หรือไม่กลวง กันแน่??? นั่นเป็นคำถามที่ไม่ใช่สำหรับยุคนี้จะให้คำตอบได้อย่างสมบูรณ์

    สถานการณ์ภัยพิบัติ |น้ำท่วม พายุ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ลมสุริยะ
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

    ทั่วไทยพบปลาวาฬเกยตื้นตาย 2 ตัว ที่ฝั่งอันดามันและอ่าวไทย!!!

    [​IMG]

    - ตัวที่หนึ่ง : ซากวาฬบรูด้า ความยาวประมาณ 10 เมตร ลอยขึ้นอืดในทะเลอ่าวไทยด้าน จ.สมุทรปราการ ไม่สามารถลากเข้าฝั่งได้ รอให้กระแสลมและคลื่นซัดพาเข้าฝั่งเอง ก่อนผ่าพิสูจน์การตายต่อไป -

    - ตัวที่สอง : วาฬคูเวียร์จากน้ำลึกหนักประมาณ 700 กก. เกยตื้นตายที่อ่าวดินแดง จ.ตรัง ด้านสัตว์แพทย์เผย เป็นวาฬที่เจอได้ยาก และเป็นตัวที่ 2 ที่พบในฝั่งทะเลอันดามัน หลังเคยเจอเมื่อปี 2542 ที่ จ.สตูล เร่งเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจสอบหาสาเหตุการตาย

    ที่มา เดลินิวส์

    ทั่วไทยพบปลาวาฬเกยตื้นตาย 2 ตัว ที่ฝั่งอันดามันและอ่าวไทย!!!ข่าวสถานการณ์ภัยพิบัติโลก ศู
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก ได้แชร์ลิงก์

    เพชรฆาต 8 ขา แมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล ระบาดทั่วไทยกว่า 20 จังหวัด เผยกัดทีเดียวถึงตาย!! วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

    [​IMG]

    แมงมุมเพชรฆาต แม่หม้ายน้ำตาล ระบาดทั่วไทยไปแล้วกว่า 20 จังหวัด เจ้าหน้าที่เผยว่ากัดถึงตาย

    วันนี้(29มิ.ย.57)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีรภัทร์ ประยูรสิทธิ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ออกมาเปิดเผยว่า ขณะกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมการที่จะส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เข้าไปทำการสำรวจตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นแมงมุมชนิดใดกันแน่ กรณีพบฝูงแมงมุมป่า บุกเข้ายึดเสาอาคารของห้องเรียนบ้านตะเพินคี่ ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ตั้งอยู่บนเทือกภูเขาเทวดา ยอดเขาที่สูงที่สุดในภาคกลาง เพื่อให้เกิดความสบายใจทุกฝ่าย เนื่องจากรายงานล่าสุดพบว่า มีแมงมุมที่มีพิษร้ายแรงกัดคนถึงตายได้ 3 ชนิด ประกอบด้วยแมงมุมพันธุ์แม่หม้ายดำ แมงมุมพันธุ์แม่หม้ายแดง และแมงมุมทะเลทรายสีน้ำตาล ทั้งหมดมีแหล่งกำเหนิดอยู่ในต่างเทศประเทศ แต่แมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล ที่แต่เดิมมีแหล่งแพร่กระจายอยู่ที่อเมริกาเหนือ ขณะนี้ได้ระบาดไปทั่วโลกแล้ว ในประเทศไทยมีรายงานพบการระบาดแล้ว 20 จังหวัด เช่น กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสงคราม กาญจนบุรี ตาก กำแพงเพชร แม่ฮ่องสอน เชียงราย อุบลราชธานี มุกดาหาร นครศรีธรรมชาติ พัทลุง สงขลา และภูเก็ต

    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/mWhODTV2_yg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    [​IMG]

    - See more at: เพชรฆาต 8 ขา แมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล ระบาดทั่วไทยกว่า 20 จังหวัด เผยกัดทีเดียวถึงตาย!!ข่าวสถาน
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก ได้แชร์ลิงก์

    [​IMG]

    ภูเขาไฟซากุระจิมะ (Sakurajima) ที่ประเทศญี่ปุ่นได้เกิดระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิย. ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้พ่นเถ้าถ่านก๊าซควันลอยสูงถึง 13,000 ฟุต (4.2 กิโลเมตร) จนถึงตอนนี้ภูเขาไฟซากุระจิมะ เมื่อเทียบกับหลายๆปีที่แล้ว มีการระเบิดมากถึง 240 ครั้ง แต่ในขณะปีที่ผ่านมาช่วง 2013 อัตราการระเบิดเพิ่มขึ้นเกือบเป็น 2 เท่า คือประมาณ 435 ครั้ง นับตั้งแต่บันทึกสถิติมา และคงต้องเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เนื่องจากอยู่ในแนววงแหวนแห่งไฟ

    ส่วนภูเขาไฟ Stromboli ที่อิตาลีก็เกิดการระเบิดขึ้นเช่นกันในวันที่ 29 มิย. แต่เป็นแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

    [​IMG]

    ภูเขาไฟระเบิดที่ญี่ปุ่น และ อิตาลี ในวันเดียวกันข่าวสถานการณ์ภัยพิบัติโลก ศูนย์เตือนภั
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝนตกหนักถล่มปารากวัย เกิดน้ำท่วมฉับพลันอพยพ 2 แสนคน รอความช่วยเหลือจากกาชาด วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

    [​IMG]

    ที่ประเทศปารากวัย ในรัฐ Ñeembucú ทางภาคใต้ของประเทศ เผชิญฝนถล่มตกหนักจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ล่าสุดอพยพ 200,000 คน รอความช่วยเหลือจากกาชาด
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ที่มา : BBC News - Paraguay floods lead to evacuation of thousands

    ฝนตกหนักถล่มปารากวัย เกิดน้ำท่วมฉับพลันอพยพ 2 แสนคน รอความช่วยเหลือจากกาชาด ข่าวสถานการ
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

    [​IMG]

    วันนี้มีหลายคนกำลังสับสนเรื่องการใช้หน่วยวัดแผ่นดินไหวระหว่าง แมกนิจูด กับ ริกเตอร์ อันไหนถูกต้องการแน่!!!

    คำว่าริกเตอร์ จริงๆ แล้วเป็นชื่อของนักวิทยาแผ่นดินไหวที่มีนามว่า ชาลส์ ฟรานซิส ริกเตอร์ (Charles Francis Richter) และเขาก็ได้สร้างเครื่องวัดความสั่นสะเทือนขึ้น ตั้งแต่นั้นมาก็มีคำว่า ริกเตอร์คู่กับสเกล เพื่อให้เป็นเกียรติที่เขาสร้างเครื่องมือนี้ (อังกฤษ: Richter magnitude scale) ซึ่งคำว่าริกเตอร์มาจากนามสกุลเขานั่นเองครับ

    ต่อมาคำว่า แมกนิจูด ที่เห็นฝรั่งเขาพยายามผลัดดันให้ใช้ ก็เพราะว่าต้องการให้ใช้ชื่อที่เป็นหน่วยวัดจริงๆ ที่ไม่ใช่ชื่อของชาลส์ ฟรานซิส ริกเตอร์ แต่ส่วนใหญ่แล้วเครื่องมือที่ใช้วัดในปัจจุบันก็ยังมีคำว่า ริกเตอร์ติดคู่กับสเกลอยู่ เพราะเขาเป็นคนสร้าง

    การเกิดแผ่นดินไหวครั้งแรกจะเป็นค่าที่มากที่สุดในการวัด ซึ่งถูกวัดด้วยมาตราริกเตอร์สเกล ตัวอย่างเช่น แผ่นดินไหวที่เชียงรายขนาด 6.3 ตามมาตราริกเตอร์สเกล ที่วัดได้ครั้งแรกเท่านั้น

    แต่ต่อมาฝรั่งจะเริ่มปรับระดับลดลงไปเหลือ 5.8 ซึ่งฝรั่งเขาจะใช้คำว่า แมกนิจูด กัน เพราะว่า ค่าที่เปลี่ยนแปลงไปจากค่าเดิม จึงไม่ใช่มาตราริกเตอร์สเกลอีกต่อไป แต่ให้ใช้ แมกนิจูดแทน

    ทำไมถึงปรับลดลงไปเรื่อยๆ นั่นก็เพราะว่าฝรั่งเขาพยายามคำนวณขนาดใหม่นั่นเอง เพื่อให้มีความแม่นยำที่สุด

    คราวนี้ทำไมผมถึงเลือกใช้ ตามมาตราวัด(ML) นั่นก็เพราะว่า ตรงบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.3 เมื่อวันที่ 28 มิย. เป็นการวัดด้วยเครื่องที่มีริกเตอร์คู่กับสเกลครับ

    ML ย่อมาจาก มาตราท้องถิ่น (อังกฤษ: local magnitude scale; ML) หรือจะเรียกว่ามาตราวัดริกเตอร์ก็ได้

    ปัจจุบัน มีมาตราการวัดขนาดแผ่นดินไหวมากมาย เช่น ML,MS,mb แต่ละมาตราก็มีข้อจำกัดต่างๆกัน เช่น บางมาตราไม่สามารถวัดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ๆได้

    หลังๆมีการพัฒนามาตราวัดขนาด Mw ขึ้นมา หรือที่เรียกว่าขนาดแบบโมเมนต์ (Moment Magnitude) ซึ่งเป็นมาตราที่ใช้ช้วัดขนาดแผ่นดินไหวใหญ่ๆได้ดีโดยผิดเพี้ยนน้อยที่สุด

    หลังจากเกิดแผ่นดินไหวทุกครั้ง เอเยนต์แต่ละเจ้า จะใช้มาตราที่ตัวเองคิดว่าเหมาะสมในการรายงานขนาด เช่น ใช้มาตราคลื่นผิว MS ใช้มาตราท้องถิ่น ML (หรือมาตราริกเตอร์) หรือ มาตราโมเมนต์ Mw

    ซึ่งบางครั้งหลังแผ่นดินไหวอาจต้องใช้เวลาในการรอค่าและคำนวนซ้ำ เราจึงมักเห็นขนาดแผ่นดินไหวที่รายงานโดย USGS หรือ EMSC หรือ Geofon หรือเอเยนต์อื่นๆ ในชั่วโมงแรกๆของแผ่นดินไหวออกมาไม่เท่ากัน แต่จะค่อยๆปรับจนเท่ากันในที่สุด

    มาที่สำนักงานข่าวไทย อาจจะเห็นหลายๆช่องในทีวีหรือในหนังสือพิมพ์ ใช้คำว่า ริกเตอร์ ซึ่งมันผิดครับ

    ถ้าจะใช้คำว่าริกเตอร์ได้เช่นกัน แต่ต้องเป็น ตามมาตราวัดริกเตอร์ เพราะมันอยู่คู่กับ scale (ห้ามตัด"ตามมาตราวัด"ออกเด็ดขาด)

    แต่เนื่องจากคำว่า ริกเตอร์ มันสั้นและง่ายดายในการเรียก หรือการเขียนข่าว เลยเป็นที่เข้าใจกันในวงกว้าง จึงพากันเรียก ริกเตอร์ เพราะง่ายดี ซึ่งมันผิดหลัก

    ฉะนั้นสิ่งที่จะเรียกได้ถูกต้องที่สุดคือ ตามมาตราวัด(ML) หรือตามมาตราวัดริกเตอร์ ถ้าเป็นในประเทศไทย ส่วนต่างประเทศเราก็ต้องใช้ของเขาครับ

    ปล.ในประเทศไทยเราใช้เครื่องมือวัดแผ่นดินไหวที่มีหน่วยเป็น ริกเตอร์คู่กับสเกลครับ

    Cr.ผู้พเนจร จากฟากฟ้า
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้พเนจร จากฟากฟ้า

    [​IMG]

    สองวันก่อน สายตาไปกระทบหนังสือ กฏแห่งสุริยะ ของ ริวโฮ โอคาวา (ซึ่งไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน) ที่ ซีเอ็ด…เมื่ออ่านแล้วก็ได้พบข้อความบางตอนของคำว่า“มิติ” ต่าง ๆ ที่เขาได้ให้ความหมายไว้ …จึงขออนุญาตเขาในใจ (หวังว่าเขาคงอนุญาตนะ) นำมาเสนอเพื่อให้เพื่อน ๆ ที่สนใจได้รับข้อมูลเพิ่มเพื่อการพิจารณาต่อไป… แต่อย่างไรก็ตาม
    ก็กรุณาใช้วิจารณาญาณในการอ่านและรับข้อมูลในเรื่องนี้ด้วย…
    “มิติ”ในความหมายของ ริวโฮ โอคาวา
    คัดย่อจากบางตอนของหนังสือ กฏแห่งสุริยะ ของ ริวโฮ โอคาวา
    มิติ …คือรูปแบบของการดำรงอยู่ จำนวนของมิติบ่งบอกถึงศักยภาพเด่นชัดตามปกติวิสัยของรูปแบบการดำรงอยู่ ตัวอย่างเช่น โลกที่เพียงมิติเดียว
    มิติที่หนึ่ง …ก็จะมีแค่จุด แต่ละจุดอยู่บนแกนแนวตรงเดียวกัน หากมี”ผู้อาศัย”ในมิติที่หนึ่ง ข้อแตกต่างเดียวระหว่างพวกเขาก็คือความยาวของเส้นตรงที่พวกเขาประกอบขึ้นมาจากจุดหลายจุด จากต้นจรดปลาย
    มิติที่สอง…คือโลกแห่งความยาวและความกว้าง ซึ่งคุณสมบัติทั้งสองประการนี้สามารถมองเห็นได้บนระนาบเดียว (แบน) หากมีผู้อาศัยในมิติที่สอง พวกเขาก็จะเหมือนรูปทรงและรูปร่างของกระดาษแบน ๆ แผ่นหนึ่ง จะเป็นรูปทรงอะไรก็ได้ แต่จะไม่มีด้านลึก และนี่ยังหมายความว่า “ผู้อาศัย” สองคนซึ่งมีนิยามทางคณิตศาสตร์เหมือนกันจะดูไม่แตกต่างกันเลย
    มิติที่สาม…ของโลกที่เราอาศัยอยู่ ได้แก่ ความยาว ความกว้าง และความสูง (หรือความลึก) การมีอีกมิติหนึ่งเพิ่มเข้ามาไม่เพียงทำให้เกิดรูปธรรมในรูปแบบที่รับรู้ได้เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเป็นไปได้มากมายนับไม่ถ้วนของความหลากหลายที่เกิดจากรูปแบบที่ว่าด้วย คนสองคนจะมีรูปลักษณ์เหมือนกันไม่ได้ นอกเสียจากว่าพวกเขาจะมีความกว้าง ความสูง และปริมาตรเท่ากันหมด ซึ่งเป็นส่วนผสมที่มีความซับซ้อนทางคณิตศาสตร์มากกว่าส่วนผสมใดก็ตามในมิติที่สอง อีกทั้งสิ่งต่าง ๆที่ดำรงอยู่ในอวกาศเดียวกันก็ดำรงอยู่ในเวลาเดียวกันด้วย
    มิติที่สี่…มีองค์ประกอบเรื่องเวลาเพิ่มเข้ามา นอกเหนือจากความยาว ความกว้าง และความสูง การที่สองสิ่งจะเข้ามาสัมผัสกัน (หรือการที่คนสองคนจับมือกันเขย่า) ในมิติที่สาม ทั้งสองสิ่งต้องอยู่ในเวลาเดียวกันของวันเดียวกัน ในสัปดาห์เดียวกัน ในปีเดียวกัน “แต่ในมิติที่สี่ ถ้าคนสองคนจับมือกันเขย่า พวกเขาอาจไม่ได้อยู่ในยุคเดียวกันเลย ตัวอย่างเช่น ในมิติที่สี่ การที่คนคนหนึ่งจากปัจจุบันจะจับมือกับใครสักคนจากศตวรรณที่ 12 ย่อมเป็นไปได้อย่างแน่นอน “ ในทำนองเดียวกัน การจะบอกว่าอาคารที่อยู่ตรงหน้าคุณมีอยู่อย่างแท้จริงในปัจจุบัน หรือว่าเป็น “ภาวะจริงอันสืบเนื่อง” ของอาคารที่เคยอยู่ตรงนั้นในอดีตย่อมเป็นไปไม่ได้เลย แม้ว่ามันจะเป็นเพียงภาพเหมือนจากอดีต แต่จะมองดูหรือให้ความรู้สึกเหมือนจริงมาก เพราะเห็นกันอยู่ตรงหน้า ในมิติที่สี่ นาฬิกาของทุกคนจะบอกเวลาต่างกัน คุณสามารถเจอผู้หญิงที่เกิดมาเมื่อพันปีก่อน แต่ยังดูสาวพอที่จะอายุยี่สิบต้น ๆ ได้ และไม่ใช่ว่าจะมีแต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเท่านั้นที่อยูรอบตัวคุณ เพราะในมิติที่สี่ เป็นไปได้ที่เหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตของมิติที่สามปรากฏแจ่มชัดและเป็นรูปธรรม ราวกับว่ากำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน
    มิติที่ห้า... จะมีองค์ประกอบเรื่องจิตวิญญาณเพิ่มเข้ามา นอกจากความยาว ความกว้าง ความสูง และเวลา ดังนั้นผู้อาศัยในมิติที่ห้าจึงต่างกันไม่เพียงในด้านรูปทรง (ซึ่งก็คือ ความสูง ความกว้าง และปริมาตร) และประสบการณ์ด้านเวลาเท่านั้น แต่ยังมีความแตกต่างเฉพาะในระดับของจิตวิญญาณด้วย พวกเขาจะอยู่ที่นั่นไม่ได้เลย หากไม่ได้พัฒนาความเข้าใจทางจิตวิญญาณในระดับที่เหมาะสม นั่นคือเลยระดับของการตระหนักรู้ว่ามนุษย์เป็นอะไรมากกว่าแค่กายวัตถุ เครื่องมือหลักที่ใช้วัดระดับของจิตวิญญาณก็คือ “ความดี” ดังนั้นมิติที่ห้าจึงอาจเรียกได้ว่าเป็นโลกที่ประกอบด้วยความดีงาม
    มิติที่หก...จะมีความรู้เกี่ยวกับสัจจธรรมเพิ่มเข้ามาต่อจากปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งได้แก่ ความสูง ความกว้าง ความลึก เวลา แะจิตวิญญาณ ผู้อาศัยในโลกนี้จึงมีความแตกต่างกันในทุกแง่ที่ได้กล่าวไปแล้ว รวมทั้งในแง่ของขอบเขตความรู้เกี่ยวกับสัจธรรม นี่ก็อีกเหมือนกัน การจะอยู่ในมิติที่หกได้นั้น ผู้อาศัยต้องมีศีลธรรมจรรยา และมีความรู้อย่างลึกซึ้งในสิ่งที่ก่อนหน้าที่เราเรียกว่าสัจธรรมแห่งพระพุทธะ ระดับที่แท้จริงของความรู้ในเรื่องสัจธรรมของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันเป็นธรรมดา ซึ่งทำให้ในมิติที่หกมีระดับต่างๆที่แบ่งอย่างละเอียดยิ่งขึ้นไปอีก แต่ก็ไม่มีใครในโลกนั้นที่ไม่คุ้นเคยและไม่ยึดมั่นในสัจธรรม
    มิติที่เจ็ด...ในมิติที่เจ็ดและเหนือขึ้นไป นอกจากความสูง ความกว้าง ความลึก เวลา จิตวิญญาณ และความรู้เกี่ยวกับสัจธรรมอันเป็นคุณลักษณะของมิติที่อยู่ต่ำกว่าแล้ว ยังมีคุณสมบัติเรื่องการอุทิศตนเพิ่มเข้ามาอีก นั่นคือการรับใช้ผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ในแง่หนึ่งอาจกล่าวได้ว่าผู้อาศัยในมิติที่อยู่ต่ำกว่าล้วนใช้ชีวิตแบบคำนึงถึงตัวเองเป็นหลัก แม้ว่าจะไม่ได้หมายความในแง่ลบก็ตาม กระทั่งในมิติที่หกซึ่งเป็นมิติที่ระดับคุณธรรมสูง ผู้อาศัยก็ยังอยากได้บางสิ่งเพื่อตนเอง กล่าวอีกอย่างคือ อยากได้ความรู้เกี่ยวกับสัจธรรมเพิ่มขึ้นเพื่อมาพัฒนาตนเอง
    กลับมาใช้การเปรียบเทียบอีก ในการอธิบายเกี่ยวกับลำดับของมิติที่อยู่สูงอาจกระทำโดยกล่าวว่า ตั้งแต่มิติที่หกลงมาและรวมมิติที่หกด้วย ผู้อาศัยทั้งหมดเหมือนนักเรียนที่ยังเรียนไม่จบ แท้จริงแล้วในการจะอภิปรายเกี่ยวกับแนวเปรียบเทียบต่อไปอีกหน่อย ผู้อาศัยในมิติที่หกอาจเรียกได้ว่าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ผู้อาศัยนมิติที่ห้าเป็นนักเรียนมัธยมปลาย (ชั้นปีที่หก) ในมิติที่สี่เป็นนักเรียนระดับต่ำกว่านั้นลงไป...ขณะที่เราซึ่งอยู่ในมิติที่สามยังคงอยู่ชั้นประถม
    ต่อเมื่อมาถึงมิติที่เจ็ดแล้วเท่านั้น คนที่นั่นจึงสามารถมองว่าตนเองเรียนจบในที่สุด และออกมาเป็นสมาชิกที่แท้จริงจองสังคมทางจิตวิญญาณ จากนั้นสิ่งที่พวกเขาใส่ใจเป็นหลักคือการอุทิศตนรับใช้ผู้อื่น หัวใจของพวกเขาจะเต็มไปด้วยความรัก และทุกสิ่งที่พวกเขาทำจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น นอกจากรักและช่วยเหลือกันในมิติของตนเองแล้ว พวกเขายังอุทิศตนให้กับการชี้แนะผู้อาศัยในมิติที่ต่ำกว่าด้วย โดยเฉพาะช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในมิติที่สี่ ซึ่งอยู่ในสภาวะงุนงงสับสนหลังจากละกายเนื้อของตนมา บางครั้งผู้ที่อยู่ในมิติที่เจ็ดถึงกับยอมมาเกิดใหม่ในกายเนื้อในมิติที่สาม เพื่อจะได้ใช้ชีวิตแห่งความรักและการอุทศตนให้ผู้อื่น ด้วยเหตุนี้ผู้อาศัยในมิติที่เจ็ดจึงเข้าถึงระนาบที่สูงส่งแล้ว
    มิติที่แปด... ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดผู้อาศัยในมิติที่แปด นอกเหนือจากคุณสมบัติเรื่อง ความสูง ความกว้าง ความลึก เวลา จิตวิญญาณ ความรู้เกี่ยวกับสัจธรรมและการอุทิศตนแล้ว สิ่งที่ในภาษาอังกฤษเรียกกันว่า Compassion หรือ ความเมตตา ซึ่ง ณ ที่นี้มีความหมายนอกเหนือจากความหมายตาม พจนานุกรมที่ “ความสงสาร” หรือ “ความเห็นใจ” ณ ที่นี้คำดังกล่าวหมายถึงความรู้สึกร่วมอย่างจริงแท้บวกกับความปรารถนาที่จะให้ ... ตัวตนที่สูงส่งเช่นนี้จะให้อย่างไม่มีหวง และให้อยู่เสมอโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง และนี่คือรูปแบบที่แท้จริงของความเมตตา หากความรักแบบอุทิศตนในมิติที่เจ็ดสามารถบรรยายว่าเป็นความรักแบบให้ ความรักในมิติที่แปดย่อมสูงส่งกว่านั้น และควรคิดว่าเป็นความรักที่ให้ไปเรื่อย ๆ เป็นความรักที่ไม่มีสิ้นสุด ความรักในมิติที่เจ็ดยังคงเป็นผลมาจากความพยายามของมนุษย์อยู่ เป็นการเอาความรักที่คนคนนั้นสะสมมาได้จากการงานของตนไปมอบให้ผู้อื่น
    อย่างไรก็ดี ความรักในมิติที่แปดเป็นเหมือนอานุภาพของดวงอาทิตย์ ซึ่งไม่มีวันหมดสิ้น นี่คือวามเมตตาอันเท้จริง ความรักในมิติที่เจ็ดต้องมีการเลือกผู้รับ และปริมาณของความรักที่ให้ก็ต่างกันไปตามผู้รับ แต่ความรักของผู้อาศัยในมิติที่แปดนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง คือเป็นความรักซึ่งไม่มีที่ว่างสำหรับการเลือกที่รักมักที่ชังเล็ก ๆ น้อย ๆ ในหัวใจของมนุษย์เลย เนื่องจากความรักที่มีให้ด้วยน้ำใจอันไพศาลของพวกเขา ผู้อาศัยในมิติที่แปดจึงกล่าวได้ว่ามีคุณสมบัติสมควรแก่การเป็นผู้นำอย่างแท้จริง
    มิติที่เก้า... มีองค์ประกอบเรื่องจักรวาลเพิ่มเข้ามากับคุณสมบัติเรื่อง ความสูง ความกว้าง ความลึก เวลา จิตวิญญาณ ความรู้เกี่ยวกับสัจธรรม การอุทิศตน และความเมตตา ผู้ที่อาศัยในมิติที่แปดและต่ำกว่าล้วนอยู่ในภพที่ล้อมรอบ และรับอิทธิพลโดยตรงจากพลังงานของดาวเคราะห์โลก อย่างไรก็ดี มิติที่เก้าไม่ได้จำกัดอยู่แค่ดาวเคราะห์โลก แต่ยังเชื่อมกับโลกวิญญาณต่าง ๆ ของดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆนอกระบบสุริยจักรวาลด้วย จึงอาจกล่าวได้ว่าผู้อาศัยในมิติที่เก้าจะคอยช่วยชี้แนะผู้อาศัยในกลุ่มจิตวิญญาณบนโลก ซึ่งอยู่กลางจักรวาลที่กำลังวิวัฒนาการ บรรดาผู้คนที่เลื่อมใสกันว่าเป็น “พระเจ้าผู้ทรงเป็นปฐม” ในศาสนาหลัก ๆ ของโลกคือผู้อาศัยของมิติที่เก้า พวกท่านเป็นที่มาแห่งกฏทั้งปวง และอาจกล่าวได้ว่าต่างกันก็เพียงสีของแสงสว่างที่แต่ละท่านแสดงกฏนั้นออกมา กฏแห่งจักรวาลมีเพียงหนึ่งเดียว หรือกฏแห่งพระพุทธะนั่นเอง แต่สามารถแสดงออกมาผ่านสีใด ๆก็ได้ในเจ็ดสี แต่ละสีสอดรับกับจริตของผู้อาศัยในมิติที่เก้า ซึ่งเป็นผู้ตีความกฏนั้น
    เลยมิติที่เก้าขึ้นไปเป็นระดับสูงที่สุดเท่าที่กลุ่มจิตวิญญาณบนโลกสามารถไปถึง นั่นก็คือ
    มิติที่สิบ... ไม่มีผู้อาศัยใดในภพนี้เคยใช้ชีวิตเป็นมนุษย์บนโลก เพราะมีแต่จิตสำนึกทั้งสามเท่านั้นที่เป็นผู้อาศัยในมิตินี้ คุณสมบัติพิเศษที่ทำให้มิติที่สิบแตกต่างออกไป (นอกจากความเมตตาด้วยความรู้สึกร่วมในมิติที่แปด และความเป็นสากลแห่งจักรวาลในมิติที่เก้าแล้ว) คือการสร้างและวิวัฒนาการ ผู้อาศัยในมิติที่สิบไม่มีคุณสมบัติเฉพาะปัจเจกบุคคลเช่นมนุษย์ต่อไป พวกท่านต่างกันก็เพียงบทบาทในแง่ของการสร้างและวิวัฒนาการ
    จิตสำนึกทั้งสาม ซึ่งประกอบไปด้วย “จิตสำนึกแห่งดวงอาทิตย์อันยิ่งใหญ่” “จิตสำนึกแห่งดวงจันทร์” และ”จิตสำนึกแห่งโลก” จิตสำนึกแห่งดวงอาทิตย์อันยิ่งใหญ่ควบคุมพลังที่เป็นด้านบวก และเป็นเชิงกระทำของชีวิตทั้งมวลบนโลกรวมทั้งมนุษย์ จิตสำนึกแห่งดวงจันทร์ควบคุมด้านที่เป็นเชิงถูกกระทำ บริสุทธิ์ และเป็นผู้หญิง ส่วนจิตสำนึกแห่งโลกเป็นจิตสำนึกของโลกในแง่ที่เป็นพลังชีวิต และเป็นเหตุที่ทำให้สรรพสิ่งบนดาวเคราะห์ดวงนี้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วง 4,600 ล้านปีของประวัติศาสตร์โลก ล้วนเป็นผลมาจากการทำงานของจิตสำนึกทั้งสามทั้งสิ้น แม้ว่าระบบของโลกจะแผ่ไปแค่มิติที่สิบ แต่ระบบสุริยจักรวาลยังมี
    มิติที่สิบเอ็ด...ด้วย... คุณสมบัติเฉพาะของมิตินี้คือภารกิจแห่งดวงอาทิตย์ ซึ่งมีดวงอาทิตย์เองเป็นทั้งพลังชีวิตและจิตวิญญาณ
    มิติที่สิบสอง... คือจิตสำนึกแห่งดาราจักร เป็นจิตวิญญาณที่ทรงพลานุภาพอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นผู้วางแผนดาราจักรของเรา และควบคุมจิตสำนึกแห่งดวงดาวนับแสนของมิติที่สิบเอ็ด (ตรงข้ามกับจิตสำนึกแห่งดาวเคราะห์ในมิติที่สิบ)..
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ammy Chumnankit ได้แชร์รูปภาพของ แฉ..ความลับ

    สัญญาณอันตราย !!!
    เตรียมปล่อยเงินดอลล่าร์ และทยอยสต็อกข้าวสาร อาหารแห้ง ยา และพลังงานกันภายใน 6 เดือนค่ะ
    วิกฤตเศรษฐกิจโลก มีแนวโน้มว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
    วันที่ 28 มิ.ย.57 เผย..อเมริกาค้ามนุษย์ตัวพ่อ และทิศทางสกุลเงินโลกอนาคต

    [​IMG]

    ปัจจุบันอเมริกามีหนี้สาธารณะ 158 ล้านๆ เหรียญ หรือราวงบประมาณรายจ่ายของไทย 2,198 ปี หรือมากกว่า GDP ของประเทศทั้งโลก 2 เท่า แถม EU มีสมาชิกแค่ 17 ประเทศ กรีซ เจ๊งทั้งประเทศไปนานแล้ว ตอนนี้สเปนกำลังจะเจ๊งไปอีกประเทศแล้ว อเมริกา กับ EU เศรษฐกิจจะดิ่งลงเหวแล้ว..

    รายงานจากกรุงมอสโก ของรัสเซียยืนยันว่า บริษัท “กาโซวายา โปรมีชเลนนอสต์” หรือชื่อย่อที่รู้จักกันทั่วไปว่า “กาซปรอม” ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย ซึ่งครองตำแหน่งผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศว่า “ยกเลิกการใช้เงินดอลลาร์อเมริกาฯ” ในทางบัญชีอย่างสิ้นเชิง โดยจะเริ่ม “นำร่อง” ใช้วิธีการนี้กับกรณีที่มีการติดต่อซื้อขายด้านพลังงานกับรัฐบาลจีน หรือบริษัทเอกชนของจีนก่อน โดยเตรียมหันมาใช้เงินรูเบิลของรัสเซีย และเงินหยวนของจีน เป็นสื่อกลางในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติอย่างเต็มตัว

    ประธานบริหารฝ่ายการเงินของกาซปรอม ระบุว่า การตัดสินใจเลิกใช้เงินดอลลาร์ในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติครั้งนี้ ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต่างเชื่อมั่นว่า “การยุติบทบาทของเงินดอลลาร์ในตลาดพลังงาน” จะไม่ส่งผลกระทบทางลบใดๆ ต่อทั้งบริษัท รวมถึงรัฐบาลรัสเซียและจีน โดยคาดว่า การหันมาใช้เงินรูเบิลและเงินหยวนแทนนั้น จะสามารถเริ่มดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบภายใน 1 ปี หรืออย่างช้าไม่เกิน 2 ปี

    ประธานใหญ่ของกาซปรอม ประกาศว่า การยกเลิกใช้เงินดอลลาร์อเมริกันในการซื้อขายด้านพลังงาน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดนับตั้งแต่ที่กาซปรอมก่อตั้งกิจการเมื่อปี 1989 และคาดหวังว่า จะมีการหันไปใช้เงินตราสกุลอื่นๆ เป็นสื่อกลางในตลาดพลังงานโลกมากขึ้นในอนาคต

    “นี่คือข่าวที่น่ายินดีที่สุดนับตั้งแต่ที่กาซปรอมเปิดตัวสู่ตลาดพลังงานโลกเมื่อปี 1989 ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า การลดบทบาทของเงินดอลลาร์ ถือเป็นเรื่องที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ และในอนาคต บทบาทของเงินตราสกุลอื่นในตลาดพลังงานมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น”

    ขณะที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียออกมาบอกว่า เวลานี้สถานะและความน่าเชื่อถือของอเมริกาอเมริกาในเวทีโลกกำลัง “เสื่อมถอย” ลงอย่างมาก และการเสื่อมถอยที่ว่านี้ เป็นผลพวงโดยตรงจากการที่รัฐบาลอเมริกัน “ทำตัวกร่าง” และมีพฤติกรรมแทรกแซงประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพียงเพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง”

    พร้อมย้ำว่า การตัดสินใจของกาซปรอม ในการเลิกใช้เงินดอลลาร์เป็นสื่อกลางทางบัญชีครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของ “บทเรียนล้ำค่า” อีกหลายบทเรียนที่อเมริกาฯกำลังจะได้รับ และเป็นสัญญาณเตือนว่า ทั่วโลกกำลัง “หันหลังให้อเมริกา”

    ก่อนหน้านี้ รัสเซียและจีนเพิ่งบรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์ที่มีการลงนามเมื่อ 21 พฤษภาคม ระบุว่า สาธารณรัฐประชาชนจีน ดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีขนาดของเศรษฐกิจ “ใหญ่ที่สุดในเอเชีย” และยังเป็นชาติที่มีการ “บริโภคพลังงาน” มากเป็นลำดับต้นๆ ของโลก ตกลงสั่งซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในวงเงินมหาศาลคิดเป็นเงินไทยราว “12.95 ล้านล้านบาท”

    โดยที่ข้อตกลงดังกล่าวนี้ ครอบคลุมการส่งมอบก๊าซธรรมชาติจากแดนหมีขาว สู่แดนมังกรนานถึง 30 ปีเต็ม และกาซปรอมจะทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้กับทางไชน่า เนชันแนล ปิโตรเลียม (CNPC) ที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลจีนในปริมาณ “38,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี”

    วันก่อนจีนก็ไปเยือนกษัตรืย์ของอังกฤษ และอังกฤษตกลงจ้างจีนทำอภิมหาโปรเจคสารพัด และค่าเงินที่จ่ายกัน คือ เงิน หยวน โดยยกเลิกการจ่ายเงินดอลลาห์

    ที่ผ่านมาอเมริกา ปิดล้อมจีนทางทหารอย่างเข้มข้นรวม วางไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางทหารต้องการใช้ฐานทัพเรืออู่ตะเภาเป็นฐาน ในสงครามเย็นที่กำลังก่อตัวขึ้นมา สาเหตุหลักก็เพราะอเมริกาต้องการสกัดกั้นการแผ่อิทธิพลของจีน ผ่านนโยบายที่จะปล่อยลอยตัวเงินหยวนให้ผงาดเป็นเงินสกุลหลักของโลกในอนาคต เพื่อประชันกับดอลลาร์

    ถ้าจีนสามารถผลักดันให้เงินหยวน เป็นเงินสกุลหลักสำหรับการค้าขายแลกเปลี่ยนเงินตรา จะส่งผลให้มหาอำนาจ และฐานะการเงินของอเมริกา จะถูกบั่นทอน และอ่อนแอ หมายถึงว่าความต้องการดอลลาร์ในโลกใบนี้จะน้อยลง จะมีผลทำให้อเมริกาต้องมีภาระเพิ่มขึ้นในการกู้หนี้ยืมสิน ในขณะที่เศรษฐกิจ และระบบการเงินกำลังอ่อนแออยู่แล้ว

    ภาวะกลัวเงินหยวนผงาด ดอลลาร์จะร่วง อเมริกาจึงพยายายามที่จะใช้ฐานทัพเรืออู่ตะเภาในไทยเป็นฐานทางทหาร บังหน้าด้วยโครงการศึกษาสภาพภูมิอากาศของนาซาและศูนย์บรรเทาภัยพิบัติธรรมชาติเพื่อมนุษยธรรม ในสมัยรัฐบาลเลือกตั้งที่แล้ว สาเหตุที่แท้จริงคืออเมริกาต้องการใช้ฐานทัพเรืออู่ตะเภาเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารในการปิดล้อม หรือทำสงครามกับจีนในอนาคตไม่นานจากนี้

    โดยยุยงให้เกิดความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ระหว่างเวียดนามและจีน ที่รบกันบ่อยๆ ช่วงนี้แล้วมีความตึงเครียดมาก และระหว่างฟิลิปปินส์และจีน ฐานทัพทางทหารที่สำคัญของอเมริกาในภูมิภาคเอเชียนี้ นอกจากประเทศไทยแล้ว คือ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

    ทำให้วานนี้ก่อนที่ประธานาธิบดีของจีน จะเดินทางไปเยือนเกาหลีไต้ จู่ๆ เกาหลีเหนือก็ปล่อยขีปนาวุธพิสัยกลางระยะ 500 กม.จำนวน 2 ลูกไปตกตูมในทะเลญี่ปุ่นซะงั้น ครั้งก่อนก็เพิ่งยิงไปตก 3 ลูก จนขนหัวลุกตั้งกันทั้ง 2 ประเทศ คือ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น มีหรือแผนนี้จีนจะไม่ไฟเขียว เพราะจีนกับเกาหลีเหนือ เป็นคอหอยกับลูกกระเดือกกันมานานแล้ว

    จะเห็นได้ชัดเจนว่าทั้งเวียดนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่งมีอเมริกาให้ท้าย กำลังทะเลาะกับจีนอย่างรุนแรงเรื่องเขตแดนในทะเลจีนใต้ โดยที่จีนยังนิ่ง ไม่ออกอาการสะทกสะท้าน ในเวลาเดียวกันทางอเมริกาอยากจะได้พม่ามาเป็นพันธมิตรอย่างมากผ่านกลุ่มการเมืองของอองซานซูจีน เพราะในกรณีที่จะต้องบุกเข้าจีนทางตอนใต้ หรือยูนนาน ทั้งไทย และพม่าเป็นประเทศยุทธศาสตร์ที่ต้องดึงมาเป็นพวกให้ได้

    อเมริกาจึงมีความพยายาม เร่งกดดันให้พม่าเปิดประเทศโดยเร็ว และรับเอาอิทธิพลทุนนิยมบ้าคลั่งของตะวันตกเพื่อถ่วงดุลจีนที่เป็นเศรษฐกิจแบบอนุรักษ์นิยม ใครรู้จักจีนดีก็จะรู้ว่าจีนทำธุรกิจแบบ “เงินสด” ประเทศเขามีระบบเครดิตทางการค้าน้อยมากๆ เงินจึงตะพัดในตลาดตลอดเวลา หนีเสียจากเครดิตต่ำมากๆ

    สิ่งที่อเมริกา อังกฤษและสหภาพยุโรปกลัวที่สุด คือ การที่จีนจะปล่อยให้ “เงินหยวนลอยตัว “ เพราะจีนจะมีกำลังซื้อมหาศาล เขาสามารถซื้อกิจการธุรกิจทุกอย่างที่ขวางหน้าได้ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอเมริกา จีนซื้อเงินสดได้สบายๆ แบบขนหน้าแข็งไม่กระเด็น ขณะนี้จีนมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดในโลกถึงกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์

    เงินทุนสำรองจำนวนนี้สามารถทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม หรือกู้เพิ่ม 10 เท่าเป็น 30 ล้านล้านดอลลาร์ มากพอที่จะซื้อธุรกิจหรือกิจการทุกอย่างในยุโรปหรืออเมริกาได้เลยที่เดียว อีกหน่อยจีนผิวเหลืองจะกลายเป็นนาย และฝรั่งผิวเผือก และนิโกรจะกลับตาลปัดเป็นลูกน้องจีน

    ประวัติศาสตร์ของลัทธิล่าอาณานิคมจะพลิกกลับด้าน จีน อินเดีย รัสเซีย กำลังรวมตัวกันเพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับระเบียบโลกปัจจุบัน ทำให้อเมริกา และยุโรป กำลังเพลี่ยงพล้ำ ถ้าจีนตอบโต้อเมริกาด้วยสงครามการเงิน ซึ่งจากที่เล่ามาก็มีการขู่กลับอยู่แล้วอย่างมีนัยยะ ปัจจุบันใครจะรู้บ้างว่าจีนนี่แหละ เป็นผู้ถือพันธบัตรอเมริการายใหญ่สุดประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์

    ตอนนี้ธนาคารกลางอเมริกาต้องเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ในกรณีที่ขายออกไม่หมด เป็นอัฐยายซื้อขนมยาย และถ้าจีนเอาจริงไม่ต่ออายุพันธบัตรอเมริกา จะเกิดอะไรขึ้น ?? มันจะทำให้ความเชื่อมั่นในตราสารหนี้ของอเมริกาลดฮวบต่ำลงทันที

    ความน่าเชื่อถือเงินสกุลดอลลาห์คงจะอยู่ได้ไม่นาน และถ้าจีนยอมขาดทุนทิ้งพันธบัตรอเมริกาออกไปทั้งหมดรวดเดียว เจ๊งครับ...อเมริกาจะประสบกับความหายนะทางการเงินอย่างย่อยยับพินาศถึงหนีท่วมประเทศทันที พันธบัตรจะราคาตกทรุดเหลือ 50% ใครที่ถืออยู่จะพลอยขาดทุนเจ๊งหนักลงไปอีก

    แล้วไทยล่ะ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทย ที่บริหารโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ถือดอลลาร์อยู่ส่วนมาก ไทยเองถือพันธบัตรรัฐบาลอเมริกาประมาณ 5-6 หมื่นล้านดอลลาร์ ทีนี้จะผ่องถ่ายออกไปทางไหนล่ะนี่ ทั้งหมดนี้อาจจะเป็นแบ๊งค์กงเต้กได้ ถ้าจีนทิ้งพันธบัตรอเมริกาอย่างทันที..นั่นหมายความว่าสงครามก็จะเกิดทันทีเช่นกัน

    ส่วนจีนจะย้ายเข้ามามีบทบาททันที ทั้งด้านการทหารและเศรษฐกิจ หรือไม่นั้น ตอนนี้ไทยเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในภูมิภาคอาเชียน ที่จีนและรัสเซียพยายามจะเข้ามามีบทบาท ถ้าเพียงไทยตัดสินใจเชิดใส่อเมริกา กองทัพไทยอาจจะได้เรียนรู้เทคโนโลยี่ระบบอาวุธจากจีน รัสเซีย เหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง พม่า มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา ลาว อินโดนีเชีย กองทัพอาเชียน

    ส่งผลให้เงินหยวนจีน ได้รับความนิยมเพิ่มสัดส่วนขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้นอเมริกาและสหภาพยุโรปจะเครียด เพราะผลประโยชน์ทางการค้ามันมหาศาล ถ้าจีนและรัสเซีย เข้ามาเสียบแทนในภูมิภาคนี้ ประชาชนอาเซียนมี 630 ล้านคน หรือ เกือบ 10% ของประชากรโลก ดอลลาห์ซีดแน่ๆ

    ส่วนเครื่องบินรบ F-15 ที่ผลิตโดยบริษัทอเมริกา ถ้าไทยอยากได้ไว้ประจำการ ต้องหงอเลียเอาอกเอาใจอเมริกาชนิดที่ว่าจากเลียจากลิ้นสากๆ เป็นลิ้นลื่นเลย และก้นด้านๆ สากๆ ของอเมริกากลายเป็นก้นเนียนๆ และถ้าเสน่ห์หาไทยเหมือนโอบามาเสน่ห์หาปูเน่า ถึงจะขายให้แต่ต้องผ่านสภาคองเกรสก่อนนะ ขายให้เสร็จจ่ายเงินกราบเท่ามันงามด้วย

    แต่ถ้าเป็นเครื่องบิน SU-30 ของรัสเซียล่ะ ในปัจจุบันเครื่องบินรบรุ่นนี้มีประจำการในภูมิภาคอาเชียนหลายประเทศ เงื่อนไขเหรอ..ไม่มีไรมาก จ่ายเงินไปขนเอาเครื่องบินมาส่งเลย ไม่มีเงื่อนไขใดอีก ถ้าเงินน้อย เอาไก่ไปแลก G2G รัสเซียเค้าก็เซเยส ยิ่งของจีนนอกจาก Sale แล้วเผลอๆ แถมอาวุธโปรโมชั่นให้อีก..เอาซิ

    มาดูเรื่องค้ามนุษย์บ้าง ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางแห่งอเมริกา (เอฟบีไอ) แถลงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สามารถปฏิบัติการทลายกลุ่มผู้ค้ามนุษย์อย่างผิดกฎหมายกว่า 100 เมือง ทั่วทั้งประเทศอเมริกา ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา

    เอฟบีไอ สามารถทลายเครือข่ายผู้เป็นธุระจัดหาบุคคลเพื่อทำการค้าประเวณีได้ทั้งสิ้น 281 ราย พร้อมทั้งช่วยเหลือเด็กจากการค้าประเวณีได้ถึง 168 ราย เอฟบีไอ ระบุว่าปฏิบัติการทลายแก๊งค้ามนุษย์ดังกล่าวจะช่วยยุติวงจรเหยื่อที่เป็นเยาวชนในอเมริกา

    ความร่วมมือระหว่างเอฟบีไอ กระทรวงยุติธรรมอเมริกา และศูนย์ข้อมูลเด็กสูญหายและการแสวงหาประโยชน์จากเด็กแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2003 สามารถช่วยเหลือเด็กได้แล้วเกือบ 3,600 ราย เพื่อจัดการกับปัญหาค้าประเวณีเด็กที่เพิ่มขึ้นในอเมริกา ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวสามารถนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ถึง 1,450 ราย

    สถานการณ์การค้ามนุษย์และแรงงานทาสในอเมริกาด้วยว่า แม้อเมริกาจะอยู่ในเทียร์ 1 ซึ่งเป็นระดับดีสูงสุด ของรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (ทีไอพี) แต่กระทรวงต่างประเทศประเมินว่ามีการค้ามนุษย์ทั้งเด็ก ผู้ชาย และผู้หญิงในอเมริการาว 17,500 คน ต่อปี..แม่เจ้า

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าประเวณี และการหลอกลวงใช้แรงงานในภาคเกษตร รวมถึงคนรับใช้และแรงงานในภาคบริการที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง ซึ่งที่ผ่านมาอเมริกาปล่อยปละละเลยไม่เข้ามาจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง

    อเมริกา ควรมีการแก้ไขปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ และแรงงานทาสในแผ่นดินตนเอง ให้เหมาะสมกับการรายงานการประเมิน อันดับเทียร์ 1 ที่ว่าดีเลิศประเสริฐศรี เพราะอเมริกาออกรายงานว่าไทยอยู่ อันดับเทียร์ 3 ซึ่งเมื่อเทียบกับอเมริกาแล้ว..อเมริกานั่นแหละโกหกคนทั้งโลก

    ออกรายงานประเมินประเทศตัวเองอันดับดีๆ ทั้งที่สถานการณ์จริงเลวร้ายแย่มากๆ และออกรายงานกลั่นแกล้งประเทศอื่นๆ เขาไปทั่ว โดยจ้างนักวิชากำกวมประเทศเป้าหมายนั้นๆ ให้เขียนรายงานใส่ร้ายประเทศตนเอง

    แถมมีโรงงานผลิตอาวุธ กระสุนปืน ที่ใช้แรงงานเด็ก ผู้หญิง และคนผิวสียังกับทาส ไม่ได้มาตรฐานอะไรทั้งสิ้น..แล้วมาตรฐานวัดแบบนี้ มันน่าเชื่อถือตรงไหน จะเอาฮากันอย่างเดียว โดยไม่มีแก่นสารความจริงเลยหรือ

    และในท่ามกลางเศรษฐกิจที่ถดถอยทรุดตัว หนี้สาธารณมหาศาลท่วมประเทศ คนตกงานใช้คูปองกันจะครึ่งประเทศ สิ่งที่ทำเอาชาวอเมริกันพากันหงุดหงิด คือ ดันมีภาพว่อนโซเชียลเน็ตเวอร์คไปทั่วโลกว่า ผู้นำโอบามา จอมฉาวโฉ่เสพยา มั่วเซ็กซ์ของเขา ว่างจัดหรือไง ถึงได้มานั่งดูบอลโลก การแข่งขันบอลโลกคู่อเมริกากับเยอรมนีบนแอร์ฟอร์ซวัน ทั้งที่มีภารกิจอีกมากมาย

    ยามความซวยมาเยือน มันก็มาเป็นชุดๆ เมื่อคณะตุลาการศาลฎีกา รัฐบาลกลางอเมริกา มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง วินิจฉัยให้คำสั่งของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำอเมริกา ในการใช้อำนาจแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารเฉพาะทดแทนตำแหน่งคณะที่ปรึกษาแห่งชาติด้านแรงงาน (NLRB) เมื่อปี 2555 มีผลเป็นโมฆะ เนื่องจาก แม้เป็นการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ แต่ผู้ได้รับการเสนอชื่อยังไม่ผ่านการพิจารณาอนุมัติจากวุฒิสภา

    เพราะในเวลานั้นวุฒิสภาใช้วิธีจัดประชุมย่อยเป็นเวลาสั้นๆ ทุก 3 วัน (โพร ฟอร์มา) เพื่อต้องการควบคุมอำนาจบริหารของประธานาธิบดี แต่โอบามา อ้างว่าเป็นช่วงที่วุฒิสมาชิกอยู่ในช่วงหยุดพักผ่อนจากการประชุม จึงไม่สามารถพิจารณาอนุมัติผู้ได้รับการเสนอชื่อในตำแหน่งดังกล่าวได้ทันเวลา ศาลฯ พิจารณาอย่างละเอียดแล้วไม่เป็นความจริงตามที่โอบามาอ้างโกหกต่อศาล

    ผลการวินิจฉัยของศาลนี้ จะส่งผลให้เจ้าหน้าที่เอ็นแอลอาร์บีที่ได้รับการแต่งตั้งในเวลานั้นต้องพ้นจากตำแหน่ง และคำตัดสินยังเกิดขึ้นในช่วงที่พรรคเดโมแครต กับ พรรครีพับลิกัน ขัดแย้งทางการเมืองกันอย่างหนัก

    โอบามา กล่าวหลายครั้งว่า การตัดสินใจอย่างเร่งด่วนหรือในเรื่องสำคัญไม่จำเป็นต้องรอความเห็นชอบจากวุฒิสภา สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับพรรครีพับลิกัน

    ไปติดนิสัยชอบลักไก่ ลักเป็ด ลักปู จากใครมาเนี่ย ศาลตัดสินว่าผิด 9 ต่อ 0 เท่ากับคดีปูเน่า เป๊ะขนาดนี้..ประเทศประชาธิปไตยต้นแบบต้องลาออกนะ หรือว่าจะอ้างไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลเหมือนบริษัทเผาไทยอีก..แล้วมันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน ??

    หรือทำอย่างไรโอบาม่า ก็ไม่ลาออก อ้างว่าจะตายคาประชาธิปไตย และ ศาลอเมริกาตัดสินสองมาตรฐาน..เฮ่ย คำนี้มีมีลิขสิทธิ์แล้ว ถ้าจะ Copy คำ Original นี้จากไทย จ่ายค่าลิขสิทธิ์มาก่อน !!

    มอดข้าช็อต..สหรัฐ และ EU ก็แค่คนเคยรวย และอนาคตเศรษฐกิจพวกนี้เละตุ้มเป๊ะแน่ เพราะผู้นำเขาบริหารมั่วซั่ว ใช้เงินมือเติบ และเกินตัว ใช้นอกประเทศมากกว่าพัฒนาภายในประเทศตนเอง นี่โอบามาเพิ่งขออนุมัติใช้เงินฉุกเฉินงบลับราว 1.6 หมื่นล้านบาท เอาไปสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในซีเรียอีกแล้ว

    เดิมทีอเมริกาสนับสนุนกลุ่มไอซีส เพื่อต่อสู้กับรัฐบาลซีเรีย เงินก้อนใหม่นี้โอบามาบอกจะเอาไปสร้าง “กลุ่มติดอาวุธซีเรียสายกลาง” เอาไว้สู้กับไอซีส และรัฐบาลซีเรีย..เอา พ่อมหาจำเริญ หนุนให้รบซ้อนรบ

    อีกหน่อยก็มีกลุ่มติดอาวุธสาย กล๊าง กลาง ในซาอุ การ์ตา ที่เป็นพันธมิตรมิตรอเมริกา คอยดูซิ..พอค้าอาวุธกระเป๋าแห้ง ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง !!

    @ เสธ น้ำเงิน4
    https://www.facebook.com/topsecretthai

    หมายเหตุ โปรดงดโพสลิ้งใดๆ ทุกชนิด / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหากับผู้อ่าน / ออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบทความตอนนี้ / โพสภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช./ นำข่าวลือจากที่อื่นมาโพส ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อคเข้าเพจนี้
    แฉ..ความลับ
    วันที่ 28 มิ.ย.57 เผย..อเมริกาค้ามนุษย์ตัวพ่อ และทิศทางสกุลเงินโลกอนาคต

    ปัจจุบันอเมริกามีหนี้สาธารณะ 158 ล้านๆ เหรียญ หรือราวงบประมาณรายจ่ายของไทย 2,198 ปี หรือมากกว่า GDP ของประเทศทั้งโลก 2 เท่า แถม EU มีสมาชิกแค่ 17 ประเทศ กรีซ เจ๊งทั้งประเทศไปนานแล้ว ตอนนี้สเปนกำลังจะเจ๊งไปอีกประเทศแล้ว อเมริกา กับ EU เศรษฐกิจจะดิ่งลงเหวแล้ว..

    รายงานจากกรุงมอสโก ของรัสเซียยืนยันว่า บริษัท “กาโซวายา โปรมีชเลนนอสต์” หรือชื่อย่อที่รู้จักกันทั่วไปว่า “กาซปรอม” ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย ซึ่งครองตำแหน่งผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศว่า “ยกเลิกการใช้เงินดอลลาร์อเมริกาฯ” ในทางบัญชีอย่างสิ้นเชิง โดยจะเริ่ม “นำร่อง” ใช้วิธีการนี้กับกรณีที่มีการติดต่อซื้อขายด้านพลังงานกับรัฐบาลจีน หรือบริษัทเอกชนของจีนก่อน โดยเตรียมหันมาใช้เงินรูเบิลของรัสเซีย และเงินหยวนของจีน เป็นสื่อกลางในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติอย่างเต็มตัว

    ประธานบริหารฝ่ายการเงินของกาซปรอม ระบุว่า การตัดสินใจเลิกใช้เงินดอลลาร์ในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติครั้งนี้ ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต่างเชื่อมั่นว่า “การยุติบทบาทของเงินดอลลาร์ในตลาดพลังงาน” จะไม่ส่งผลกระทบทางลบใดๆ ต่อทั้งบริษัท รวมถึงรัฐบาลรัสเซียและจีน โดยคาดว่า การหันมาใช้เงินรูเบิลและเงินหยวนแทนนั้น จะสามารถเริ่มดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบภายใน 1 ปี หรืออย่างช้าไม่เกิน 2 ปี

    ประธานใหญ่ของกาซปรอม ประกาศว่า การยกเลิกใช้เงินดอลลาร์อเมริกันในการซื้อขายด้านพลังงาน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดนับตั้งแต่ที่กาซปรอมก่อตั้งกิจการเมื่อปี 1989 และคาดหวังว่า จะมีการหันไปใช้เงินตราสกุลอื่นๆ เป็นสื่อกลางในตลาดพลังงานโลกมากขึ้นในอนาคต

    “นี่คือข่าวที่น่ายินดีที่สุดนับตั้งแต่ที่กาซปรอมเปิดตัวสู่ตลาดพลังงานโลกเมื่อปี 1989 ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า การลดบทบาทของเงินดอลลาร์ ถือเป็นเรื่องที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ และในอนาคต บทบาทของเงินตราสกุลอื่นในตลาดพลังงานมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น”

    ขณะที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียออกมาบอกว่า เวลานี้สถานะและความน่าเชื่อถือของอเมริกาอเมริกาในเวทีโลกกำลัง “เสื่อมถอย” ลงอย่างมาก และการเสื่อมถอยที่ว่านี้ เป็นผลพวงโดยตรงจากการที่รัฐบาลอเมริกัน “ทำตัวกร่าง” และมีพฤติกรรมแทรกแซงประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพียงเพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง”

    พร้อมย้ำว่า การตัดสินใจของกาซปรอม ในการเลิกใช้เงินดอลลาร์เป็นสื่อกลางทางบัญชีครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของ “บทเรียนล้ำค่า” อีกหลายบทเรียนที่อเมริกาฯกำลังจะได้รับ และเป็นสัญญาณเตือนว่า ทั่วโลกกำลัง “หันหลังให้อเมริกา”

    ก่อนหน้านี้ รัสเซียและจีนเพิ่งบรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์ที่มีการลงนามเมื่อ 21 พฤษภาคม ระบุว่า สาธารณรัฐประชาชนจีน ดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีขนาดของเศรษฐกิจ “ใหญ่ที่สุดในเอเชีย” และยังเป็นชาติที่มีการ “บริโภคพลังงาน” มากเป็นลำดับต้นๆ ของโลก ตกลงสั่งซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในวงเงินมหาศาลคิดเป็นเงินไทยราว “12.95 ล้านล้านบาท”

    โดยที่ข้อตกลงดังกล่าวนี้ ครอบคลุมการส่งมอบก๊าซธรรมชาติจากแดนหมีขาว สู่แดนมังกรนานถึง 30 ปีเต็ม และกาซปรอมจะทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้กับทางไชน่า เนชันแนล ปิโตรเลียม (CNPC) ที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลจีนในปริมาณ “38,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี”

    วันก่อนจีนก็ไปเยือนกษัตรืย์ของอังกฤษ และอังกฤษตกลงจ้างจีนทำอภิมหาโปรเจคสารพัด และค่าเงินที่จ่ายกัน คือ เงิน หยวน โดยยกเลิกการจ่ายเงินดอลลาห์

    ที่ผ่านมาอเมริกา ปิดล้อมจีนทางทหารอย่างเข้มข้นรวม วางไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางทหารต้องการใช้ฐานทัพเรืออู่ตะเภาเป็นฐาน ในสงครามเย็นที่กำลังก่อตัวขึ้นมา สาเหตุหลักก็เพราะอเมริกาต้องการสกัดกั้นการแผ่อิทธิพลของจีน ผ่านนโยบายที่จะปล่อยลอยตัวเงินหยวนให้ผงาดเป็นเงินสกุลหลักของโลกในอนาคต เพื่อประชันกับดอลลาร์

    ถ้าจีนสามารถผลักดันให้เงินหยวน เป็นเงินสกุลหลักสำหรับการค้าขายแลกเปลี่ยนเงินตรา จะส่งผลให้มหาอำนาจ และฐานะการเงินของอเมริกา จะถูกบั่นทอน และอ่อนแอ หมายถึงว่าความต้องการดอลลาร์ในโลกใบนี้จะน้อยลง จะมีผลทำให้อเมริกาต้องมีภาระเพิ่มขึ้นในการกู้หนี้ยืมสิน ในขณะที่เศรษฐกิจ และระบบการเงินกำลังอ่อนแออยู่แล้ว

    ภาวะกลัวเงินหยวนผงาด ดอลลาร์จะร่วง อเมริกาจึงพยายายามที่จะใช้ฐานทัพเรืออู่ตะเภาในไทยเป็นฐานทางทหาร บังหน้าด้วยโครงการศึกษาสภาพภูมิอากาศของนาซาและศูนย์บรรเทาภัยพิบัติธรรมชาติเพื่อมนุษยธรรม ในสมัยรัฐบาลเลือกตั้งที่แล้ว สาเหตุที่แท้จริงคืออเมริกาต้องการใช้ฐานทัพเรืออู่ตะเภาเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารในการปิดล้อม หรือทำสงครามกับจีนในอนาคตไม่นานจากนี้

    โดยยุยงให้เกิดความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ระหว่างเวียดนามและจีน ที่รบกันบ่อยๆ ช่วงนี้แล้วมีความตึงเครียดมาก และระหว่างฟิลิปปินส์และจีน ฐานทัพทางทหารที่สำคัญของอเมริกาในภูมิภาคเอเชียนี้ นอกจากประเทศไทยแล้ว คือ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

    ทำให้วานนี้ก่อนที่ประธานาธิบดีของจีน จะเดินทางไปเยือนเกาหลีไต้ จู่ๆ เกาหลีเหนือก็ปล่อยขีปนาวุธพิสัยกลางระยะ 500 กม.จำนวน 2 ลูกไปตกตูมในทะเลญี่ปุ่นซะงั้น ครั้งก่อนก็เพิ่งยิงไปตก 3 ลูก จนขนหัวลุกตั้งกันทั้ง 2 ประเทศ คือ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น มีหรือแผนนี้จีนจะไม่ไฟเขียว เพราะจีนกับเกาหลีเหนือ เป็นคอหอยกับลูกกระเดือกกันมานานแล้ว

    จะเห็นได้ชัดเจนว่าทั้งเวียดนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่งมีอเมริกาให้ท้าย กำลังทะเลาะกับจีนอย่างรุนแรงเรื่องเขตแดนในทะเลจีนใต้ โดยที่จีนยังนิ่ง ไม่ออกอาการสะทกสะท้าน ในเวลาเดียวกันทางอเมริกาอยากจะได้พม่ามาเป็นพันธมิตรอย่างมากผ่านกลุ่มการเมืองของอองซานซูจีน เพราะในกรณีที่จะต้องบุกเข้าจีนทางตอนใต้ หรือยูนนาน ทั้งไทย และพม่าเป็นประเทศยุทธศาสตร์ที่ต้องดึงมาเป็นพวกให้ได้

    อเมริกาจึงมีความพยายาม เร่งกดดันให้พม่าเปิดประเทศโดยเร็ว และรับเอาอิทธิพลทุนนิยมบ้าคลั่งของตะวันตกเพื่อถ่วงดุลจีนที่เป็นเศรษฐกิจแบบอนุรักษ์นิยม ใครรู้จักจีนดีก็จะรู้ว่าจีนทำธุรกิจแบบ “เงินสด” ประเทศเขามีระบบเครดิตทางการค้าน้อยมากๆ เงินจึงตะพัดในตลาดตลอดเวลา หนีเสียจากเครดิตต่ำมากๆ

    สิ่งที่อเมริกา อังกฤษและสหภาพยุโรปกลัวที่สุด คือ การที่จีนจะปล่อยให้ “เงินหยวนลอยตัว “ เพราะจีนจะมีกำลังซื้อมหาศาล เขาสามารถซื้อกิจการธุรกิจทุกอย่างที่ขวางหน้าได้ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอเมริกา จีนซื้อเงินสดได้สบายๆ แบบขนหน้าแข็งไม่กระเด็น ขณะนี้จีนมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดในโลกถึงกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์

    เงินทุนสำรองจำนวนนี้สามารถทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม หรือกู้เพิ่ม 10 เท่าเป็น 30 ล้านล้านดอลลาร์ มากพอที่จะซื้อธุรกิจหรือกิจการทุกอย่างในยุโรปหรืออเมริกาได้เลยที่เดียว อีกหน่อยจีนผิวเหลืองจะกลายเป็นนาย และฝรั่งผิวเผือก และนิโกรจะกลับตาลปัดเป็นลูกน้องจีน

    ประวัติศาสตร์ของลัทธิล่าอาณานิคมจะพลิกกลับด้าน จีน อินเดีย รัสเซีย กำลังรวมตัวกันเพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับระเบียบโลกปัจจุบัน ทำให้อเมริกา และยุโรป กำลังเพลี่ยงพล้ำ ถ้าจีนตอบโต้อเมริกาด้วยสงครามการเงิน ซึ่งจากที่เล่ามาก็มีการขู่กลับอยู่แล้วอย่างมีนัยยะ ปัจจุบันใครจะรู้บ้างว่าจีนนี่แหละ เป็นผู้ถือพันธบัตรอเมริการายใหญ่สุดประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์

    ตอนนี้ธนาคารกลางอเมริกาต้องเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ในกรณีที่ขายออกไม่หมด เป็นอัฐยายซื้อขนมยาย และถ้าจีนเอาจริงไม่ต่ออายุพันธบัตรอเมริกา จะเกิดอะไรขึ้น ?? มันจะทำให้ความเชื่อมั่นในตราสารหนี้ของอเมริกาลดฮวบต่ำลงทันที

    ความน่าเชื่อถือเงินสกุลดอลลาห์คงจะอยู่ได้ไม่นาน และถ้าจีนยอมขาดทุนทิ้งพันธบัตรอเมริกาออกไปทั้งหมดรวดเดียว เจ๊งครับ...อเมริกาจะประสบกับความหายนะทางการเงินอย่างย่อยยับพินาศถึงหนีท่วมประเทศทันที พันธบัตรจะราคาตกทรุดเหลือ 50% ใครที่ถืออยู่จะพลอยขาดทุนเจ๊งหนักลงไปอีก

    แล้วไทยล่ะ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทย ที่บริหารโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ถือดอลลาร์อยู่ส่วนมาก ไทยเองถือพันธบัตรรัฐบาลอเมริกาประมาณ 5-6 หมื่นล้านดอลลาร์ ทีนี้จะผ่องถ่ายออกไปทางไหนล่ะนี่ ทั้งหมดนี้อาจจะเป็นแบ๊งค์กงเต้กได้ ถ้าจีนทิ้งพันธบัตรอเมริกาอย่างทันที..นั่นหมายความว่าสงครามก็จะเกิดทันทีเช่นกัน

    ส่วนจีนจะย้ายเข้ามามีบทบาททันที ทั้งด้านการทหารและเศรษฐกิจ หรือไม่นั้น ตอนนี้ไทยเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในภูมิภาคอาเชียน ที่จีนและรัสเซียพยายามจะเข้ามามีบทบาท ถ้าเพียงไทยตัดสินใจเชิดใส่อเมริกา กองทัพไทยอาจจะได้เรียนรู้เทคโนโลยี่ระบบอาวุธจากจีน รัสเซีย เหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง พม่า มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา ลาว อินโดนีเชีย กองทัพอาเชียน

    ส่งผลให้เงินหยวนจีน ได้รับความนิยมเพิ่มสัดส่วนขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้นอเมริกาและสหภาพยุโรปจะเครียด เพราะผลประโยชน์ทางการค้ามันมหาศาล ถ้าจีนและรัสเซีย เข้ามาเสียบแทนในภูมิภาคนี้ ประชาชนอาเซียนมี 630 ล้านคน หรือ เกือบ 10% ของประชากรโลก ดอลลาห์ซีดแน่ๆ

    ส่วนเครื่องบินรบ F-15 ที่ผลิตโดยบริษัทอเมริกา ถ้าไทยอยากได้ไว้ประจำการ ต้องหงอเลียเอาอกเอาใจอเมริกาชนิดที่ว่าจากเลียจากลิ้นสากๆ เป็นลิ้นลื่นเลย และก้นด้านๆ สากๆ ของอเมริกากลายเป็นก้นเนียนๆ และถ้าเสน่ห์หาไทยเหมือนโอบามาเสน่ห์หาปูเน่า ถึงจะขายให้แต่ต้องผ่านสภาคองเกรสก่อนนะ ขายให้เสร็จจ่ายเงินกราบเท่ามันงามด้วย

    แต่ถ้าเป็นเครื่องบิน SU-30 ของรัสเซียล่ะ ในปัจจุบันเครื่องบินรบรุ่นนี้มีประจำการในภูมิภาคอาเชียนหลายประเทศ เงื่อนไขเหรอ..ไม่มีไรมาก จ่ายเงินไปขนเอาเครื่องบินมาส่งเลย ไม่มีเงื่อนไขใดอีก ถ้าเงินน้อย เอาไก่ไปแลก G2G รัสเซียเค้าก็เซเยส ยิ่งของจีนนอกจาก Sale แล้วเผลอๆ แถมอาวุธโปรโมชั่นให้อีก..เอาซิ

    มาดูเรื่องค้ามนุษย์บ้าง ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางแห่งอเมริกา (เอฟบีไอ) แถลงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สามารถปฏิบัติการทลายกลุ่มผู้ค้ามนุษย์อย่างผิดกฎหมายกว่า 100 เมือง ทั่วทั้งประเทศอเมริกา ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา

    เอฟบีไอ สามารถทลายเครือข่ายผู้เป็นธุระจัดหาบุคคลเพื่อทำการค้าประเวณีได้ทั้งสิ้น 281 ราย พร้อมทั้งช่วยเหลือเด็กจากการค้าประเวณีได้ถึง 168 ราย เอฟบีไอ ระบุว่าปฏิบัติการทลายแก๊งค้ามนุษย์ดังกล่าวจะช่วยยุติวงจรเหยื่อที่เป็นเยาวชนในอเมริกา

    ความร่วมมือระหว่างเอฟบีไอ กระทรวงยุติธรรมอเมริกา และศูนย์ข้อมูลเด็กสูญหายและการแสวงหาประโยชน์จากเด็กแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2003 สามารถช่วยเหลือเด็กได้แล้วเกือบ 3,600 ราย เพื่อจัดการกับปัญหาค้าประเวณีเด็กที่เพิ่มขึ้นในอเมริกา ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวสามารถนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ถึง 1,450 ราย

    สถานการณ์การค้ามนุษย์และแรงงานทาสในอเมริกาด้วยว่า แม้อเมริกาจะอยู่ในเทียร์ 1 ซึ่งเป็นระดับดีสูงสุด ของรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (ทีไอพี) แต่กระทรวงต่างประเทศประเมินว่ามีการค้ามนุษย์ทั้งเด็ก ผู้ชาย และผู้หญิงในอเมริการาว 17,500 คน ต่อปี..แม่เจ้า

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าประเวณี และการหลอกลวงใช้แรงงานในภาคเกษตร รวมถึงคนรับใช้และแรงงานในภาคบริการที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง ซึ่งที่ผ่านมาอเมริกาปล่อยปละละเลยไม่เข้ามาจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง

    อเมริกา ควรมีการแก้ไขปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ และแรงงานทาสในแผ่นดินตนเอง ให้เหมาะสมกับการรายงานการประเมิน อันดับเทียร์ 1 ที่ว่าดีเลิศประเสริฐศรี เพราะอเมริกาออกรายงานว่าไทยอยู่ อันดับเทียร์ 3 ซึ่งเมื่อเทียบกับอเมริกาแล้ว..อเมริกานั่นแหละโกหกคนทั้งโลก

    ออกรายงานประเมินประเทศตัวเองอันดับดีๆ ทั้งที่สถานการณ์จริงเลวร้ายแย่มากๆ และออกรายงานกลั่นแกล้งประเทศอื่นๆ เขาไปทั่ว โดยจ้างนักวิชากำกวมประเทศเป้าหมายนั้นๆ ให้เขียนรายงานใส่ร้ายประเทศตนเอง

    แถมมีโรงงานผลิตอาวุธ กระสุนปืน ที่ใช้แรงงานเด็ก ผู้หญิง และคนผิวสียังกับทาส ไม่ได้มาตรฐานอะไรทั้งสิ้น..แล้วมาตรฐานวัดแบบนี้ มันน่าเชื่อถือตรงไหน จะเอาฮากันอย่างเดียว โดยไม่มีแก่นสารความจริงเลยหรือ

    และในท่ามกลางเศรษฐกิจที่ถดถอยทรุดตัว หนี้สาธารณมหาศาลท่วมประเทศ คนตกงานใช้คูปองกันจะครึ่งประเทศ สิ่งที่ทำเอาชาวอเมริกันพากันหงุดหงิด คือ ดันมีภาพว่อนโซเชียลเน็ตเวอร์คไปทั่วโลกว่า ผู้นำโอบามา จอมฉาวโฉ่เสพยา มั่วเซ็กซ์ของเขา ว่างจัดหรือไง ถึงได้มานั่งดูบอลโลก การแข่งขันบอลโลกคู่อเมริกากับเยอรมนีบนแอร์ฟอร์ซวัน ทั้งที่มีภารกิจอีกมากมาย

    ยามความซวยมาเยือน มันก็มาเป็นชุดๆ เมื่อคณะตุลาการศาลฎีกา รัฐบาลกลางอเมริกา มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง วินิจฉัยให้คำสั่งของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำอเมริกา ในการใช้อำนาจแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารเฉพาะทดแทนตำแหน่งคณะที่ปรึกษาแห่งชาติด้านแรงงาน (NLRB) เมื่อปี 2555 มีผลเป็นโมฆะ เนื่องจาก แม้เป็นการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ แต่ผู้ได้รับการเสนอชื่อยังไม่ผ่านการพิจารณาอนุมัติจากวุฒิสภา

    เพราะในเวลานั้นวุฒิสภาใช้วิธีจัดประชุมย่อยเป็นเวลาสั้นๆ ทุก 3 วัน (โพร ฟอร์มา) เพื่อต้องการควบคุมอำนาจบริหารของประธานาธิบดี แต่โอบามา อ้างว่าเป็นช่วงที่วุฒิสมาชิกอยู่ในช่วงหยุดพักผ่อนจากการประชุม จึงไม่สามารถพิจารณาอนุมัติผู้ได้รับการเสนอชื่อในตำแหน่งดังกล่าวได้ทันเวลา ศาลฯ พิจารณาอย่างละเอียดแล้วไม่เป็นความจริงตามที่โอบามาอ้างโกหกต่อศาล

    ผลการวินิจฉัยของศาลนี้ จะส่งผลให้เจ้าหน้าที่เอ็นแอลอาร์บีที่ได้รับการแต่งตั้งในเวลานั้นต้องพ้นจากตำแหน่ง และคำตัดสินยังเกิดขึ้นในช่วงที่พรรคเดโมแครต กับ พรรครีพับลิกัน ขัดแย้งทางการเมืองกันอย่างหนัก

    โอบามา กล่าวหลายครั้งว่า การตัดสินใจอย่างเร่งด่วนหรือในเรื่องสำคัญไม่จำเป็นต้องรอความเห็นชอบจากวุฒิสภา สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับพรรครีพับลิกัน

    ไปติดนิสัยชอบลักไก่ ลักเป็ด ลักปู จากใครมาเนี่ย ศาลตัดสินว่าผิด 9 ต่อ 0 เท่ากับคดีปูเน่า เป๊ะขนาดนี้..ประเทศประชาธิปไตยต้นแบบต้องลาออกนะ หรือว่าจะอ้างไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลเหมือนบริษัทเผาไทยอีก..แล้วมันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน ??

    หรือทำอย่างไรโอบาม่า ก็ไม่ลาออก อ้างว่าจะตายคาประชาธิปไตย และ ศาลอเมริกาตัดสินสองมาตรฐาน..เฮ่ย คำนี้มีมีลิขสิทธิ์แล้ว ถ้าจะ Copy คำ Original นี้จากไทย จ่ายค่าลิขสิทธิ์มาก่อน !!

    มอดข้าช็อต..สหรัฐ และ EU ก็แค่คนเคยรวย และอนาคตเศรษฐกิจพวกนี้เละตุ้มเป๊ะแน่ เพราะผู้นำเขาบริหารมั่วซั่ว ใช้เงินมือเติบ และเกินตัว ใช้นอกประเทศมากกว่าพัฒนาภายในประเทศตนเอง นี่โอบามาเพิ่งขออนุมัติใช้เงินฉุกเฉินงบลับราว 1.6 หมื่นล้านบาท เอาไปสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในซีเรียอีกแล้ว

    เดิมทีอเมริกาสนับสนุนกลุ่มไอซีส เพื่อต่อสู้กับรัฐบาลซีเรีย เงินก้อนใหม่นี้โอบามาบอกจะเอาไปสร้าง “กลุ่มติดอาวุธซีเรียสายกลาง” เอาไว้สู้กับไอซีส และรัฐบาลซีเรีย..เอา พ่อมหาจำเริญ หนุนให้รบซ้อนรบ

    อีกหน่อยก็มีกลุ่มติดอาวุธสาย กล๊าง กลาง ในซาอุ การ์ตา ที่เป็นพันธมิตรมิตรอเมริกา คอยดูซิ..พอค้าอาวุธกระเป๋าแห้ง ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง !!

    @ เสธ น้ำเงิน4
    https://www.facebook.com/topsecretthai

    หมายเหตุ โปรดงดโพสลิ้งใดๆ ทุกชนิด / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหากับผู้อ่าน / ออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบทความตอนนี้ / โพสภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช./ นำข่าวลือจากที่อื่นมาโพส ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อคเข้าเพจนี้
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Waraporn Rot

    [​IMG]

    เรื่องเล่าหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    บุญพระกรรมฐาน
    เมื่อปี ๒๕๐๔ อาตมาไปเทศน์ที่อำเภอสรรค์บุรี จังหวัดชัยนาท มีตาอะไรหรือ อีตานี่เมื่อก่อนมาอยู่กรุงเทพฯ ขึ้นไปแกก็มาเฝ้าอยู่ตลอด ถ้ายังไม่กลับเพียงใดแกก็ยังไม่กลับบ้าน ให้ลูกสาวเอาข้าวต้มมาถวายเช้า ตอนเพลเอาข้าวสวยมาถวาย ตัวแกเองต้องมาอยู่ตลอดเวลา
    พอแกตายไปแล้ว ลูกสาวก็มาหาที่กรุงเทพฯ บอกว่าอยากจะทำศพพ่อและบวชน้องชายในวันเดียวกัน อยากจะให้หลวงน้าเป็นประธาน ก็เลยบอกว่า
    เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าเป็นประธานก็ได้ แต่ว่าถ้างานเอ็ง จะมีบาปแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้นะ แม้แต่ไข่ลูกหนึ่งก็ห้ามทุบ ถึงเขาบอกว่าไข่ไม่มีตัวก็ไม่ได้ ใจมันไม่สบาย
    ประการที่ ๒ เวลาจัดงานศพ ควรตั้งคนรับรองแขกให้แทนตัวเอง ใจจะได้ไม่กังวล เพราะพระให้ศีลต้องรับศีลให้จบ และตั้งใจรับศีลด้วยความเคารพ เวลาพระสวดก็ต้องตั้งใจฟังพระสวดจนจบด้วยความเคารพ เวลาถวายทานก็เหมือนกันให้ตั้งใจถวายทานด้วยความเคารพ เวลาพระเทศน์ฟังเทศน์ด้วยความเคารพ และอย่าให้มีสุรายาเมาเข้ามาเจือปน
    ประการที่ ๓ มหรสพ อย่ามี แม้แต่ปี่พาทย์ จงอย่ามีปี่พาทย์กลองยาว มันกินเหล้ากัน
    แกก็เอาตามนั้นจริงๆ งานเรียบร้อย ตอนเช้าบวชน้องชาย ตอนสายก็ชักศพขึ้นศาลา ตอนเพลเลี้ยงพระตั้ง ๓๐ กว่าองค์ มันเลยสังฆทานไปแล้ว และก็เป็นสังฆทานเต็มอัตรา ถวายผ้าสบง ผ้าไตรจีวร เขาให้ประธานเทศน์ด้วย แต่ว่าเทศน์ ๒ องค์ กับเจ้าคุณภาวนาภิรามเถระฯ
    เจ้าคุณภาวนานี้แกเป็นคนพูดยาว พอเราว่าอารัมภบทไปแล้ว ๑๐ นาที แกไปว่าเดินเรื่องต่อเกือบชั่วโมง และเราก็รำคาญ ความจริงไม่รำคาญอยากว่าก็ว่าไป เวลาเขาว่าไปเราทำใจให้สบาย จิตเป็นสมาธิ ก็เลยนึกขึ้นได้ถึงตากิ่ม เอะ...ตากิ่มมันไปไหน มองแล้วไม่เห็นมา มองดูรอบๆ พวกผีเปรตมายืนเต็มรอบศาลาไปหมด เป็นแสน
    เราสงสัยตากิ่มจะเป็นอันตราย ปกติเรามา แกก็ทำบุญเต็มอัตรา มาเฝ้าอยู่ตลอด อาหารก็ถวายเช้าถวายเพล เหล้ายาปลาปิ้งแกก็ไม่กิน เราไม่รู้อดีตของแก ปัจจุบันเขาดี แกก็ดีมาประมาณ ๑๐ ปี ไม่ใช่เบาหรอก ไปย้อนถามประวัติเก่าน่าดู เรียกว่าโจรกลับใจก็แล้วกัน ทีนี้ยังมองดูไม่เห็น องค์นั้นก็ยังเทศน์ไม่จบ ก็นึกถึงท้าวมหาราช ถามว่า
    "เวลานี้นายกิ่มอยู่ที่ไหน ถ้าอยู่ในช่วงเสวยทุกข์เวทนาอยู่ ขออนุญาตครู่หนึ่ง เวลานี้เขาทำบุญใหญ่ให้นำมา"
    ถ้าเราไปเรียกเขาเฉยๆ ไม่ได้ เราไม่มีสิทธิ์เลย ท้าวมหาราชเลยใช้ลูกน้อง ๒ คนไปบอกเจ้าหน้าที่ แล้วจึงนำมา ตอนนำมาแกไม่ได้เดินนำมา จูงโซ่สองข้างคนละเส้น นายกิ่มมากลางหน้าตาเศร้ามีความทุกข์ มานั่งข้างธรรมาสน์ เรียกอย่างไรก็ไม่เงย นั่งเฉย
    จึงถามคนที่คุมมา ๒ คนว่า "ทำไมเป็นอย่างนี้"
    เขาบอกว่า "กรรมมันหนักครับ"
    ถามว่า "คนนี้เขาตัดสินแล้วหรือยังล่ะ?"
    "ยังครับ ยังรอการตัดสินอยู่"
    ถ้าตัดสินแล้วเราไม่มีสิทธิ์เหมือนกัน ถ้าลงขุมไปแล้วไม่มีสิทธิ์ รอการตัดสินนะ ในเมืองนั้น ๕๐ ปีของเรา เป็น ๑ วันของเขา แกตายไปไม่นานยังไม่ได้ตัดสิน เดิมแกชั่วจริง แต่ปลายมือแกดี ชั่วกับดีมันก้ำกึ่งกัน จะลงนรกเลยทีเดียว หรือขึ้นสวรรค์เลยทีเดียว ก็ไม่ได้ ต้องสวบสวนก่อน
    ไอ้สองคนคุมมาถามว่า "วันนี้ลูกสาวทำอะไรบ้าง"
    ก็เลยบอกว่า "วันนี้บวชน้องชาย ถวายสังฆทาน เลี้ยงพระ บังสุกุลเสร็จเรียบร้อย บุญใหญ่ทั้งหมด ทำไมจึงโมทนาไม่ได้"
    เขาตอบว่า "ไม่มีสิทธิ์โมทนา กรรมมันหนัก"
    จึงถามเขาว่า "บุญอะไรล่ะเขาถึงจะได้"
    เขาชี้มาที่ฉัน เขาบอกว่า "บุญพระกรรมฐานของท่านช่วยได้"
    งั้นก็ดีเลย ไม่ต้องลงทุน ถามว่า "บุญที่เขาทำมาก่อนกับบุญเวลานี้จะรวมตัวหรือไม่?"
    เขาตอบว่า "รวมตัวครับ"
    ก็เลยตั้งใจอธิษฐานว่า
    "เอา...นายกิ่มตั้งใจฟัง บุญใดที่ฉันเคยบำเพ็ญมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ผลบุญทั้งหมดที่ฉันทำมา จะให้ประโยชน์แก่ฉันเพียงใด ขอเธอจงโมทนา รับผลบุญเช่นเดียวกับฉัน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"
    พอเท่านี้โซ่หลุดเลย ไม่ได้ปลด โซ่มันหลุดเอง คลายจากคอเลย แกก้มลงกราบ พอกราบครั้งที่ ๓ ลุกขึ้นมาสวยอร่ามเป็นเทวดา มีความสวยผิดปกติ เพราะบุญที่ลูกทำ กับบุญเก่าอันก่อน มันเข้ามารวมตัวกัน พอได้บุญอย่างใดอย่างหนึ่ง บุญก็รวมตัวกันหมด
    แล้วอีตา ๒ คน เห็นตากิ่มแกสบาย ก็บอกว่า
    "ท่านครับ ผมก็อยากได้เหมือนกัน"
    "เอ้า...แกเป็นผู้คุมเขานี่หว่า แกสบายแล้ว"
    "ผมไม่สบายหรอกครับ ต้องทำงานไม่มีวันหยุด เหน็ดเหนื่อยเรื่อยๆ"
    "พระยายมไม่เล่นงานข้าหรือ...?"
    เขาตอบ "ไม่หรอกครับ ผมมีสิทธิ์ครับ"
    ถ้ามีสิทธิ์ก็เอา ตั้งใจอนุโมทนา แกก็เป็นเทวดาบ้าง อาตมาไม่ได้ลงทุนอะไร ก็ตั้งจิตอธิษฐานแบบเดียวกันกับทีให้นายกิ่ม
    ผลที่สุดตากิ่มแกก็ไปจับลูก ทักคนโน้นคนนี้ จับคอเขย่า ไม่มีใครเขาเหลียวดูหรอก แกเป็นผีจับ เขาไม่รู้เรื่อง
    นี่เป็นอันว่า อานิสงส์แห่งการเจริญพระกรรมฐาน ถ้าเราจะทำบุญให้แก่คนตาย อันนี้มีประโยชน์มาก ประโยชน์ที่จะได้แก่คนตาย ก็หมายถึงว่า ประโยชน์นั้นมันจะต้องถึงเราก่อน ไม่ใช่คนตายจะมีโอกาสมาโมทนาเฉยๆ เราต้องเป็นผู้ให้ เขาจึงจะได้รับ นี่แหละเรื่องของบุญ...
    ที่มา หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๑ หน้า ๑๒๐-๑๒๔
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฟ้าสีหมอก มนตรา

    [​IMG]

    เตือนลูกหลานกันบ้างเด้อ
    เว็บไซต์ข่าวอังกฤษ “นิวส์-เคลาด์” รายงานจากมณฑลหูหนาน ประเทศจีน
    เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ว่า เด็กชายหลี่ ไคยี่ วัย 18 เดือน ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองเย่ว์หยาง มณฑลหูหนานของจีน ประสบอุบัติเหตุไม้เสียบลูกชิ้นทิ่มเข้าไปในปาก ทะลุเพดานปากเข้าสมอง หลังจากที่หนูน้อยไม่ระวังตัวคาบไม้ดังกล่าววิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ หลังมื้ออาหารจนเกิดหกล้ม

    หลังจากที่หนูน้อยประสบเหตุ ผู้ปกครองนำ ส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ขณะที่เด็กเริ่มมีอาการไม่ดี นายแพทย์หลิว จิ้นฟาง แพทย์เจ้าของไข้ของหนูน้อยกล่าวว่า ไม้เสียบลูกชิ้นที่แทงเข้ามานั้นทะลุเข้าไปในเนื้อเยื่อสมองราว 2 เซนติเมตร แต่โชคดีที่ไม่ได้สร้างความเสียหายให้แก่ระบบสมองส่วนใหญ่หรือระบบประสาทใด ๆ นายแพทย์หลิว สามารถนำไม้ออกจากสมองของเด็กน้อยได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้เด็กชายมีแนวโน้มจะออกจากโรงพยาบาลในเวลาอันใกล้ เนื่องจากร่างกายกำลังฟื้นตัวด้วยดี
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประตูสู่นรก

    [​IMG]

    โกเซล ยาซคูเลียวา วัย 34 ปี ชาวกรุง อาชกาบัต เมืองหลวงเติร์กเมนิสถาน เดินทางมาชมประตูสู่นรก เพื่อให้เห็นเป็นขวัญตาตัวเอง และบอกว่า ประตูสู่นรกทำให้รู้สึกเหมือนหยุดหายใจ

    วันอาทิตย์ 29 มิถุนายน 2557 เวลา 00:00 น.
    ชาวบ้านท้องถิ่นในประเทศเติร์กเมนิสถาน เรียกมันว่า “ประตูสู่นรก” ( Door to Hell ) เพราะเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่มีไฟลุกโชติช่วงมาตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี

    โกเซล ยาซคูเลียวา วัย 34 ปี ชาวกรุง อาชกาบัต เมืองหลวงเติร์กเมนิสถาน เดินทางมาชมประตูสู่นรก เพื่อให้เห็นเป็นขวัญตาตัวเอง และบอกว่า ประตูสู่นรกทำให้รู้สึกเหมือนหยุดหายใจ แต่ถึงกระนั้น ยังมีชาวต่างชาติเดินทางมาชมหลุมดังกล่าวที่ตั้งอยู่ใจกลางคาราคุม หนึ่งในทะเลทรายขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งทางการเติร์กเมนิสถานหวังให้ประตูสู่นรกเป็นแหล่งดึงดูดนัก ท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางมายังเติร์กเมนิสถาน อดีตสาธารณรัฐโซเวียตมากขึ้น หลังแยกตัวจากสหภาพโซเวียต ทุกปีมีนักท่องเที่ยวจาก 50 ประเทศมาเยือนเติร์กเมนิสถานปีละ 12,000- 15,000 คน ซึ่งถือว่าน้อยมาก

    ดังนั้นเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวเติร์กเมนิสถานกล่าวว่า ประตูสู่นรกจะได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว และหลุมไฟได้รับความสนใจมากขึ้นทุกทีโดยเฉพาะในหมู่ชาวต่างชาติ ทะเลทรายอันไร้ชีวิตชีวาจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับการท่องเที่ยวในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากการท่องเที่ยวเชิงนิเวศไปสู่กีฬาที่ท้าทาย ประตูสู่นรกแห่งนี้อยู่ใกล้กับหมู่บ้านเดอร์เวเซ มีผู้อยู่อาศัยราว 350 คน

    คาราคุม หรือแบล็ก แซนด์ (ทะเลทรายสีดำ) ครอบคลุมพื้นที่ของเติร์กเมนิสถาน ประเทศเอเชียกลางในช่วงฤดูร้อนถึงร้อยละ 80 ด้วยอุณหภูมิร้อนจัดที่สูงกว่า 50 องศาเซลเซียส แต่ในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิหนาวสะท้าน เพราะลดลงไปถึงขั้นติดลบ 20 องศาเซลเซียส การเดินทางไปยังหลุมไฟที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงเติร์กเมนิสถานไปทางเหนือราว 270 กิโลเมตรนั้น ไม่มีป้ายบอกถนน แต่คนนำทางรู้วิธีพานักท่องเที่ยวไปชมประตูสู่นรก ซึ่งปรากฏการณ์นี้เป็นผลจากการคำนวณผิดพลาดของทีมนักวิทยาศาสตร์โซเวียต

    อนาโตลี บุชมากิ้น นักธรณีวิทยาท้องถิ่นกล่าวว่า หลุมดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากนักธรณี วิทยาโซเวียตพยายามขุดหาแหล่งก๊าซธรรมชาติ เมื่อปี 2514 แต่พื้นดินเหนือบริเวณขุดเจาะกลับ พังถล่ม จนเกิดหลุมขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง 70 เมตร และพบมีแก๊สพิษฟุ้งกระจาย จึงตัดสินใจจุดไฟเผา แรกเริ่มคาดว่าจะดับลงได้เองภายในเวลา 1-2 วัน แต่ไม่เป็นดังที่คาดการณ์ไว้ เพราะเปลวเพลิงยังคงสว่างไสวอยู่จนถึงปัจจุบัน

    ปีที่แล้ว ประธานาธิบดี กูร์บันกูลี เบอร์ดีมูฮาเม ดอฟ แห่งเติร์กเมนิสถานได้กำหนดเขตสงวนทางธรรมชาติในทะเลทรายคาราคุมครอบคลุมพื้นที่กว่า 500,000 ไร่ รวมทั้งประตูสู่นรก โอเวซ คูร์บานอฟ

    เจ้าหน้าที่สถาบันทะเลทรายแห่งชาติบอกว่า เป้าหมายหลักของเขตสงวนแห่งใหม่คือ การอนุรักษ์ทะเลทรายแห่งใหญ่ที่สุดของโลกและแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ดี หลุมไฟได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้คนที่รักการเดินทางและนักวิจัยต่าง ๆ เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวเติร์กเมนิสถานแนะนำว่า นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยรถจี๊ปและรถเอทีวีหรือควอดไบต์ หรือขี่อูฐไปตามเนินทรายของคาราคุม ซึ่งภารกิจหลักของเราคือการสร้างภาพน่าดึงดูดใจของเติร์กเมนิสถานให้เป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยว.

    [​IMG]

    [​IMG]

    ฮิวแมน

    ประตูสู่นรก | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,670
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักวิชาการยันเสาส่งสัญญาณมือถือไม่อันตราย

    [​IMG]

    นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมโทรคมนาคม เผยเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ที่ตั้งตามชุมชนและตึกสูง โดยมีการส่งคลื่นความถี่แม่เหล็กออกไป ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับมนุษย์

    วันจันทร์ 30 มิถุนายน 2557 เวลา 09:31 น.
    เมื่อวันที่ 30มิ.ย.นายชัยยุทธ มังศรีผอ.กลุ่มรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภค กสทช. กล่าวถึงกระแสความแตกตื่นของประชาชนในต่างจังหวัดกรณีมีข่าวลือว่าเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ติดตั้งอยู่ตามหมู่บ้านชุมชนและตึกสูงต่างๆมีสัญญาณความถี่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและส่งผลกระทบต่อสุขภาพถึงขั้นล้มป่วย ปวดศีรษะใจสั่นนอนไม่หลับอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งนั้นขอชี้แจงว่าการติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือทุกแห่งในประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศคลื่นความถี่ที่ส่งออกไปจะไม่เกินมาตรฐานอย่างแน่นอน

    นอกจากนี้เมื่อติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือจะมีการศึกษาอย่างรอบคอบและตรวจสอบอย่างละเอียดจากนักรังสีวิทยาต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กสทช.กำหนดไว้จึงจะสามารถติดตั้งได้กสทช.ขอยืนยันว่าคลื่นความถี่ที่ส่งออกจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือก่อให้เกิดโรคมะเร็งตามที่กังวลกันส่วนคนที่อ้างว่ามีอาการปวดศรีษะนอนไม่หลับนั้นเป็นการอุปาทานขึ้นมาเอง

    ทางด้าน ศ.ดร.ถวิลพึ่งมา นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมโทรคมนาคมและอดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังกล่าวว่า เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ที่ตั้งตามชุมชนและตึกสูงซึ่งส่งคลื่นความถี่แม่เหล็กออกไปมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนน้อยมากแท้จริงแล้วขณะที่เรานั่งเดิน หรือทำงานอยู่จะมีคลื่นผ่านรอบๆตัวเรามากมาย เช่นคลื่นโทรทัศน์ ขณะนี้มีอยู่นับร้อยช่องรวมทั้งคลื่นวิทยุคลื่นโทรศัพท์มือถือจะผ่านตัวเราตลอดเวลา คลื่นที่ส่งมาเป็นคลื่นทั่วไปผู้คนจะไม่คิดอะไร เนื่องจากคลื่นสถานีโทรทัศน์อยู่ไกลและคลื่นเหล่านี้ไม่เคยเกิดอันตรายกับมนุษย์การที่มีชาวบ้านอยู่ใกล้กับเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์แล้วบอกว่าปวดศีรษะความจำเสื่อม เป็นเรื่องของการอุปาทานมากกว่าเนื่องจากทางวิศวกรรมได้บอกชัดเจนว่าไม่จริงแต่การหลบเลี่ยงที่ไม่ให้ส่งผลกระทบคือการไม่ใช้โทรศัพท์มือถือหรือใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้นตรงนี้จะช่วยได้.

    นักวิชาการยันเสาส่งสัญญาณมือถือไม่อันตราย | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     

แชร์หน้านี้

Loading...