ตะกรุดสาริกาดอกทอง สุดยอดเมตตามหาเสน่ห์ออกให้บูชาแล้ว....

วันนี้โอนให้แล้วครับ 750 บาท 11/2/2554 เวลา 12:25 น.
ที่อยุ่ขอแจ้ง PM ครับ

 

รับทราบครับ
ขอบคุณมากครับ

 

ผ้ายันต์อะปะจะคะ พิมพ์สกรีน สีขาวของหลวงพ่อองค์หนึ่ง ห้าหกพัน แล้วผ้า ยันต์นี้ใช้ผ้าซึ่งหาซื้อง่ายๆ กรรมวิธีการสร้างก็พิมพ์สกรีนเอา ง่ายแสนง่าย ทำออกมาเป็นพันๆหมื่นๆผืน พิมพ์แป๊บเดียวเสร็จ
แต่ตะกรุดแดงค่ายกล อะปะจะคะ แค่แผ่นตะกั่วหน้ากว้างขนาดนี้ก็หายากแล้ว ไหนจะต้องลงกระดูกยันต์ จารทีละอักขระตามกลการเดินพระยันต์ เรียกสูตรสนธิ์ ๒๕๖ ช่อง จนกระทั่งสำเร็จม้วนกลึงปิดด้วยพระคาถา หากสมาธิไม่ดีก็คงจะเสียเพราะลงพลาด วันหนึ่งหากชำนาญสุดก็คงได้แค่สองดอก มากกว่านี้คงจะต้องทั้งล้าและเจ็บนิ้ว การถักเชือกแดงก็ละเอียดเป็นเอกลักษณ์ไม่ค่อยซ้ำใคร ใช้เวลาถักดอกละวัน จึงสร้างได้จำนวนน้อย แถมมีโค๊ตทั้งภายนอกภายในปลอมแปลงยาก เล่นหาได้ง่าย
ที่สำคัญคือนำให้พระเกจิอาจารย์ผู้แก่กล้าปลุกเสกอีกไม่น้อยกว่าแปดรูป อาทิ หลวงปู่เลิศ กนฺตสีโล เจ้าของตะกรุดพอกครั่งที่ดังในยุคปัจจุบัน ท่านเป็นหลานชายผู้สืบสานพุทธาคมคุณพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง หลวงพ่อทองเหมาะ วัดชีปะขาว เจ้าของตะกรุดสังวาลย์เพชรมากประสบการณ์ อายุ ๗๒ ปีท่านเป็นผู้สืบทอดพุทธาคมสายหลวงพ่อเนียม วัดน้อย (อาจารย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค) หลวงปู้แผ้ว วัดรางหมัน(กำแพงแสน) อายุ ๘๘ ปี ศิษย์หลวงพ่อหว่าง วัดกำแพงแสน หลวงปู่ท่านโด่งดังทางตะกรุดเพราะมากประสบการณ์ฯลฯ(ส่วนรูปอื่นๆที่จะพาไปให้เสก จะค่อยๆทยอยเปิดเผยต่อไป ถ้ายอดจองมากพอควรจะพาไปเหนือ ไปใต้เสกเลยทีเดียว) ดังนั้นตะกรุดนี้ต่อไปจะหายากและทรงคุณค่ายิ่ง

 

เป็นครั้งแรกที่มีการจารยันต์ค่ายกลอะปะจะคะของพ่อเฒ่าปั้นลงบนแผ่นโลหะ เป็นตะกรุดซุปเปอร์จัมโบ้ไว้คุ้มครองบ้าน รถ หรือแม้กระทั่งสะพายหลังยามต้องต่อสู้กับภัยคุกคาม ผมว่านะ ต่อไปจะมีสักกี่ท่านที่มีตะกรุดแบบนี้ ที่ลงหัวใจอะปะจะคะโดยเกจิอาจารย์ที่เป็นสายของหลวงพ่อเฒ่าวัดคังคาว
ตะกรุด ทุกดอกก็ตอกโค๊ดภายในและมีโค๊ดภายนอก แค่การลงก็ดอกละวันแล้วถักอีกหนึ่งวันไหนหลวงปู่จะอัญเชิญหลวงพ่อเฒ่าเสกต่อ หน้าท่านที่วิหารประดิษฐานรูปหล่อในวัดคังคาว ต่อไปต้องกลายเป็นของมีคุณค่า
สืบสานคาถาโบราณเต็มสุตรจริงๆและทำได้น้อย
พี่วานาตาเบ้ จองทีเดียว 2 ดอก แสดงว่ารู้จริง อิอิ

 

แนะนำอาศรมเทพนภาครับ
มีหลายท่านถามหาอาศรมเทพนภา
มีบางท่านไปหามาแล้ว
ล่าสุดมีคนไปหาท่าน
ท่านให้ไปหยิบหัวกระโหลกมา
เสร็จแล้วท่านให้ว่าตาม
คนที่ไปก็ว่าตามแบบงง
หลวงพ่อก็บอกให้ว่าตามประมาณว่า ให้หัวกระโหลกไปอยู่กับเขา
และให้เขาดูแล
เจ้านั้นตกใจหน้าซีด
บอกผมไม่เอาหลวงปู่
หลวงปู่บอกเอาไปเถิดมันกำลังหิวเลือด
เจ้านั้น เลยรีบแผ่นออกจากอาศรมแทบไม่ทัน
....
หลวงปู่ท่านมีนิสัยประมาณนี้
คือชอบมอบของให้กับลูกศิษย์
เจ้านั้นเกือบได้หัวกระโหลกที่กำลังหิวเลือด ไปซะแล้ว ฮา

 

มาเล่าเรื่องน้ำมันหอมพิเศษ ที่ให้ร่วมจอง ราคา 299 บาท
ดังนี้

หลวงปู่ท่านเรียนวิชาเลี้ยงผี มาจากหลวงปู่เฆม
ดังนั้น ท่าจึงชำนาญเรื่องการเลี้ยงผีมาก
เมื่อสำเร็จ ท่านจึงเลี้ยงพรายไว้หลายตัว
แต่ละตัวเก่งมาก
---------------
น้ำมันพิเศษที่ออกให้บูชาเป็นน้ำมันหอม 108 กลิ่มหอม
หลวงปู่ท่านเอามาเสกร่วมกับพรายของท่าน โดยเอากระโหลกพรายกำกับไว้
จากนั้นท่านสั่งให้พรายของท่านคุมน้ำหอมพิเศษที่ว่าทุกหยด
ใครที่มีน้ำมันหอมพิเศษ และอธิฐานดีๆ จะมีพรายไปคอยช่วยเหลือ
ดังนั้นน้ำมันหอมพิเศษ ไม่มีส่วนผสมของมนุษย์ หรือน้ำมันพรายแต่อย่างใด
แต่มีสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์คุม เรียกว่าพราย จึงต้องเรียกว่า น้ำมันพรายหอม
ผู้ที่ได้ไปบูชา สามารถเจิมหน้าได้ เป็นเสน่ห์ เมตตา
สามารถเอาไปเจิมวัตถุสิ่งของที่จะขายได้
เมื่อเจิมแล้ว พรายของหลวงปู่ก็จะตามช่วยเหลือ
เช่นอยากจะขายของ เราก็บอกกล่าว พ่อพรายแม่พรายทั้งหลายช่วยไปตามคนมาซื้อของหน่อย
อยากจะขายบ้านก็ทำแบบเดี่ยวกัน
เพราะพรายหลวงปู่จะตามน้ำมันหอมพิเศษตลอดเวลา
ท่านใดที่บูชาไปแล้ว ถ้าเป็นร้านค้าจะทำแบบน้าเม้าตาอินก้ได้นะครับ
เอารูปหลวงปู่ที่หน้าซองที่ให้ไปด้วยตั้งบูชาแล้วเอาน้ำมันพิเศษวางหน้ารูป
ทุกเช้าก็อธิฐาน เอาน้ำมันเจิมที่รูปหลวงปู่แล้วอธิฐานขอให้พ่อพรายแม่พราย
เรียกลูกค้ามาให้
ไม่ต้องกลัว ถ้าเราไม่เรียกไม่เชิญ น้ำมันหอมพิเศษ ก็เป็นน้ำมันธรรมดา
เพราะไม่มีส่วนผสมของพรายแต่อย่างใด
:boo:
สำหรับพรายของหลวงปู่ที่หลวงปู่เลี้ยงไว้
ก็มีเรื่องเล่าให้ฟังกันเล่นๆ
ว่ามีชาวบ้านไปพบกระโหลกผี แล้วเอามาให้หลวงปู่ดู
หลวงปู่ตรวจดูแล้วพบว่ากระโหลกผีที่ว่าโดนสะกดเอาไว้ด้วย
ทำให้ไปเกิดไม่ได้ ไปไหนไม่ได้
หลวงปู่ก็เลยสอบถามข้อมูลดู
พบว่าเจ้าของกระโหลกเป็นเศรษฐี และทำมากินได้เจริฐก้าวหน้ามาก
ต่อมามีคนอิจฉา เพราะธุรกิจที่เศรษฐีผู้ตายทำนั้นมีคนอุดหนุนแยะกว่า
และอาจจะมีเรื่องเคืองกันอยู่ด้วยในเรื่องอื่นๆ
จึงจ้างคนมาฆ่า
คนที่มาฆ่าก็เป็นคนที่มีอาคม
มาฆ่าเศรษฐีตาย
ฆ่าเสร็จก็สะกดวิญญาณเอาไว้แล้วฝัง
ฝังเสร็จลงมนต์ไว้อีกรอบ
จนกระทั้งมีคนมาพบ
และเอาหัวกระโหลกมาให้หลวงปู่
หลวงปู่ทราบเช่นนั้นท่านก็ทำพิธีล้างมนต์สะกดดังกล่าว
วิญญาณก็เป็นอิสระ วิญญาณนั้นก็ไม่ยอมไปไหน
เพราะเห็นว่าหลวงปู่เป็นผู้มีพระคุณ ก็ขออยู่รับใช้หลวงปู่
และไปตามพรายอื่นๆที่รู้จักมาอีกหลายตัว
หลวงปู่ท่านก็ไม่ว่าอะไร
เพราะท่านไม่กลัวผี
ท่านชอบคุยกับผีอยู่เรื่อย บางคืนท่านไม่ได้นอนก็มี
สำหรับพรายเศรษฐีที่ว่า หลวงปู่เห็นว่ามีดวงทางด้านค้าขาย
และมีดวงทางด้านร่ำรวย
หลวงปู่จึงถามว่าถ้าจะให้ช่วยลูกศิษย์ได้หรือไม่
เจ้าพรายก็ยินดี
หลวงปู่จึงทำน้ำมันหอม
แล้วให้พรายเศรษฐีดังกล่าวร่วมกำกับ
เพื่อจะได้ตามน้ำมันหอมพิเศษได้
ประมาณว่าน้ำมันมีกลิ่นหอมที่ไหน
พรายนี้จะติดตามไปช่วยตามที่สามารถช่วยได้

จะเห็นได้ว่าหลวงปู่ท่านไม่ได้บังคับพราย
แต่พรายขอที่มาช่วยหลวงปู่
เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณหลวงปู่
และเป็นการสร้างบุญให้กับตัวเอง
หลวงปู่จะให้พรายตนนี้อยู่เฉยๆก็ไม่ได้
เพราะถ้ามันว่างมาก มันชอบปลุกหลวงปู่มาคุย หลวงปู่ไม่ค่อยจะได้นอน
หลวงปู่ก็เลยต้องหางานให้มันทำ ด้วยการทำน้ำมันหอมพิเศษขึ้นมา
เมื่อทำเสร็จแล้วหลวงปู่ก็ให้มันตามไปช่วยคนที่ใช้น้ำมันหอมพิเศษของหลวงปู่
เล่าสู่กันฟังนะครับ

 

ขอจอง ตะกรุด อะปะจะคะ 1 ดอกคับ

 

555 เหมือนจะบอกใบ้อะไร?? อิอิ..

 

กระทู้ไม่เน้นการขาย เน้นเองราวเกี่ยวกับหลวงปู่เชิญ เทพนภาครับ
แต่ถ้าท่านสมาชิกท่านใดสนใจ ลงชื่อได้เรื่อยไปนะครับ
ไม่ว่าจะเป็น สีผึ้ง น้ำมันหอม พระปิดตา กุมารทอง หรือลงชื่อจองตะกรุดอะปะจะคะ
มาเล่าเรื่องหลวงปู่เรียนวิชาเลี้ยงผีกันต่อ
หลวงปู่เชิญ สนิทกับพระอาจารย์หนูเกจิจากเขมรผู้สร้างพระผงกระดูกผี วัดโพธิ์อันโด่งดัง จึงได้รับการถ่ายทอดวิชาเลี้ยงผี ดังนั้นจะเล่าประวัติอาจารย์หนูให้ฟังอีกหน่อย

พระอาจารย์หนู

ท่าน นี้ก็เป็นพระสงฆ์จาก จังหวัดสุรินทร์มีเชื้อสายเป็นชาวเขมรแต่มีวิชาอาคมแก่กล้า และเชี่ยวชาญทางวิทยาคม กับไสยศาสตร์มาก ่มีความศักดิ์สิทธิ์ทางคาถาอาคมจนเป็นที่ประจักษ์และมีคนนับถือกันมาก นอกจากนี้ท่านยังชอบเลี้ยงว่านด้วย ที่กุฎิของท่านจึงมีว่านต่างๆ หลายชนิดที่พระอาจารย์หนูได้เลี้ยงไว้ วิชาทางการแพทย์แผนโบราณพระอาจารย์หนูท่านก็มีความชำนาญสมัยนั้นที่กุฏิของ พระอาจารย์หนูจึงมีคนไปขอความอนุเคราะห์จากท่านอยู่บ่อยๆ บ้างก็ไปขอวัตถุมงคล บ้างก็ไปขอให้ท่านรดน้ำมนต์และบ้างก็ไปขอให้ท่านรักษาโรค

ตอนที่ ทหารญี่ปุ่นเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทยนั้นจึงมีเครื่องบินของฝ่ายพันธมิตร มาทิ้งระเบิดตามฐานทัพของทหารญี่ปุ่นและตามจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญอื่นๆ การทิ้งระเบิดเป็นการทิ้งแบบปูพรม และเครื่องบินก็บินสูง การทิ้งระเบิดจึงทำให้เกิดการพลาดเป้าหมายไปถูกบ้านเรือนของประชาชนอยู่เป็น ประจำ มีประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บพิการเพราะการถูกลูกหลงจากการทิ้งระเบิดกัน เป็นจำนวนมาก พระอาจารย์หนูท่านเกิดความสงสารประชาชนเหล่านั้นที่พลอยมารับเคราะห์ไปด้วย จึงได้ดำเนินการสร้างพระขึ้นมาเพื่อแจกประชาชนนำไปป้องกันอันตรายจากการทิ้ง ระเบิดด้วยตัวของท่านเอง

เนื่องจากพระอาจารย์หนูท่านมีความชำนาญใน วิชาอาคมและไสยศาสตร์ การสร้าง พระเครื่องของท่านจึงได้ดำเนินการแบบพิสดารผิดไปจากการสร้างพระเครื่องของ อาจารย์อื่นๆ ท่านไม่เอาวัสดุจำพวกโลหะ ผงวิเศษ หรือ ดินมาสร้าง แต่ท่านได้นำเอา ขี้เถ้ากระดูกผีของคนตาย มาสร้าง การที่ท่านนำเอาขี้เถ้ากระดูกผีของคนตายมาสร้างพระเครื่องก็คงเป็นเหตุผลของ ท่านเอง เนื่องจากขี้เถ้ากระดูกผีของคนตายนี้ตามหลักของวิชาไสยศาสตร์ก็ถือว่าเป็น วัสดุอาถรรพณ์ชนิดหนึ่ง แต่การที่จะเอาขี้เถ้ากระดูกผีของคนตายมาสร้างวัตถุมงคลนั้นต้องเป็นคนที่มี วิชาอาคมแก่กล้าถึงจะทำได้ เพราะของแบบนี้ย่อมมีแรงอาถรรพณ์อยู่ในตัว

แต่ ขี้เถ้ากระดูกผีที่พระอาจารย์หนูนำมาสร้างพระเครื่องนั้นก็ไม่ได้จำเพาะว่า จะจะต้องเป็นขี้เถ้ากระดูกผีของคนที่ตายโหง หรือตายวันเสาร์เผาวันอังคารไม่ เป็นขี้เถ้าของกระดูกผีของคนตายแบบไหนก็ได้ ซึ่งสมัยนั้นคนตายนิยมเผากันตามเชิงตะกอน ในสมัยสงครามก็ยิ่งมีคนตายกันมาก ขี้เถ้ากระดูกผีของคนตายจึงสามารถหาได้ง่าย

แต่ก่อนที่จะเอาขี้เถ้า กระดูกผีมาพระอาจารย์หนูก็จะทำพิธีพลีกรรมก่อนทุกครั้งตามวิชาที่ท่านเรียน มา พระผงกระดูกของพระอาจารย์หนูนอกจากจะสร้างจากขี้เถ้ากระดูกผีของคนตายแล้ว พระอาจารย์หนูยังได้เอา ว่านโพง มาบดให้ละเอียดผสมเข้าไปด้วย สำหรับว่านโพงนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ว่านกระสือ เชื่อกันว่าเป็นว่านที่มีวิญญาณสิงอยู่ มักขึ้นอยู่ตามป่าลึก
หากมีคน หรือสัตว์พลัดหลงเข้าไปก็อาจจะถูกวิญญาณที่สิงอยู่ในต้นว่านดูดเลือดกินจน ตายไป ซึ่งว่านชนิดนี้อาจารย์ไสยศาสตร์ที่มีวิชาอาคมชอบเลี้ยงเพื่อไว้เฝ้าบ้าน หรือบางทีก็ใช้วิชาอาคมสะกดให้วิญญาณออกไปทำร้ายศัตรู การเลี้ยงว่านโพงหรือว่านกระสือนี้จะเลี้ยงยากกว่าว่านชนิดอื่นๆ ต้องเป็นผู้มีวิชาอาคมแก่กล้าเท่านั้นถึงจะเลี้ยงได้ และการเลี้ยงก็ใช้เลือดสดๆ ของสัตว์ต่างๆ มารดที่ต้นว่านแทนการรดเลี้ยงด้วยน้ำเหมือนพืชทั่วไป ว่านต่างๆ ที่พระอาจารย์หนูท่านเลี้ยงรอบกุฏินั้น ก็มีว่านโพงรวมอยู่ด้วย ท่านได้ทำพิธีว่าน(ขุดว่าน) ตามตำราแล้วเอาหัวว่านมาตากให้แห้งบดเป็นผงให้ละเอียด ผสมกับขี้เถ้ากระดูกผีของคนตาย รวมเข้าด้วยกันสร้างเป็นพระเครื่องขึ้นมา ในการปลุกเสกนั้น พระอาจารย์หนูท่านไม่ได้จัดแบบพิธีพุทธาภิเษก แต่ปลุกเสกด้วยวิชาอาคมตามตำราที่เรียนมาด้วยตัวท่านเพียงท่านเดียว

การสร้างพระผงกระดูกผีครั้งแรกของพระอาจารย์หนูมีจำนวนไม่มากนักตอนแรกๆ ก็ไม่ค่อยมีคนสนใจขอกันเท่าไหร่ เพราะกลัวไปว่าสร้างจากวัสดุอาถรรพณ์ดังกล่าว แต่พอคนที่ได้รับแจกไปแล้วมีประสบการณ์กันมาก ปากต่อปากก็เล่าลือต่อๆ กันไป จึงมีคนมาขอกันเรื่อยๆ จนพระเครื่องที่สร้างครั้งแรกหมดไป พระอาจารย์หนูจึงต้องหามวลสารแบบเดิมมาสร้างอีก

พระอาจารย์หนูจึง ต้องสร้างพระผงกระดูกผีนี้หลายครั้งด้วยกันแต่สร้างทุกครั้งก็ไม่พอแจกทุกที เพราะแต่ละคนที่มีพระผงกระดูกผีล้วนแต่มีประสบการณ์รอดพ้นจากอันตรายต่างๆ ได้อย่างเหลือเชื่อ คนที่ไม่มีก็อยากได้ ส่วนพระอาจารย์หนูท่านสร้างแต่ละครั้งก็ไม่มาก ขนาดว่าการสร้างครั้งหลังๆ พอผสมเนื้อมวลสารแล้วกดพิมพ์ พระยังไม่ทันแห้ง

พระอาจารย์หนูก็ต้อง รีบปลุกเสกแล้วเพราะมีคนมาขอรับพระกันมาก คนที่ได้รับพระไปพระก็ยังหมาดๆ อยู่เลย แสดงว่าพระผงกระดูกผีของพระอาจารย์หนูนี้ศักดิ์สิทธิ์เชื่อถือได้จริงๆ สำหรับพระผงกระดูกผีของพระอาจารย์หนูที่สร้างขึ้นมาก็มีอยู่หลายพิมพ์รวม แล้วน่าจะประมาณ 20 พิมพ์ เห็นจะได้ส่วนมากจะเป็นพิมพ์พระสมเด็จ กับพิมพ์พระปิดตา เพียงแต่ว่าในแต่ละพิมพ์ได้มีการแบ่งแยกปลีกย่อยออกเป็นพิมพ์อื่นๆ อีก ส่วนเนื้อของพระค่อนข้างละเอียด วรรณะออกสีขาวหม่นๆ ขาวอมเทา หรือขาวอมเขียว เนื้อมักจะฟ่ามๆ ไม่แน่นตัว จึงทำให้พระผงกระดูกผีพระอาจารย์หนูมักจะมีรอยกระเทาะเนื้อหลุดเป็นบางแห่ง
ในด้านความนิยมทุกวันนี้ก็อยู่ในหลักพันอ่อนๆ ถึงหลักพันกลางๆ แต่ต้องระวังให้มากนะครับ เพราะตอนนี้มีของเก๊ระบาดออกมามากส่วนของแท้กลับหายากขึ้นเรื่อยๆ อนึ่ง…..มีเรื่องเล่าติดปากกันมานานเกี่ยวกับพระผงกระดูกผีรุ่นนี้ว่ามีคนนำ ไปใช้แล้วมีปรากฏการณ์ที่แปลกๆ ประหลาด เช่น คนขับรถสามล้อ หรือแท๊กซี่ขับวนอยู่ได้ตลอดทั้งวันก็ไม่มีคนเรียกเพราะเห็นว่ามีคนโดยสาร อยู่ในรถ หรือเดินกลางคืนคนเดียวในที่เปลี่ยวกลับมีคนอื่นเห็นว่าเดินกันหลายคน อย่างนี้เป็นต้น และยังมีประสบการณ์ที่แปลกๆ กว่านี้อีก จึงทำให้พระผงกระดูกผีรุ่นนี้หลายคนไม่กล้าใช้เพราะกลัวอาถรรพณ์ ด้วยว่าสร้างจากขี้เถ้ากระดูกผีของคนตายและว่านโพง
เท่าที่รับฟังมาก็ไม่ค่อยได้ยินว่าพระผงกระดูกผีรุ่นนี้ให้โทษกับคนใช้ เนื่องจากขี้เถ้ากระดูกผีของคนตายและว่านโพงที่พระอาจารย์หนูนำมาสร้างพระ เครื่องนั้นได้มีการทำพิธีพลีกรรม และสะกดตามตำราไว้ก่อนแล้ว จึงไม่ให้โทษแก่ผู้ใช้แต่อย่างใด เพียงแต่ว่าคนใช้หากมีโอกาสก็ควรจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าของขี้เถ้า กระดูกผีที่นำมาสร้างพระเครื่องบ้างก็ยังดี

 

กลับก่อนครับ ไปนอนฝันใหม่ อิอิ..

ปล. ลองทาแป้งแล้ว ผู้ใหญ่ให้ความเมตตาดีมากเลยครับ
สาวน้อยสา่วใหญ่เข้าหาแบบ ไม่รู้ได้กลิ่นแล้วตามกลิ่นมารึป่าว?์??
สรุป ของเค้าแรง....

 

ด้วยเหตุที่ หลวงปู่ท่านเรียนวิชาที่เกี่ยวกับพรายมาจริง
ท่านจึงไม่จำเป็นต้องใช้ชิ้นส่วนของพราย
ในการจัดทำวัตถุมงคลใดๆ
แต่ของชิ้นนั้นหากท่านประสงค์จะให้มีพราย
ท่านก็สามารถกำกับพรายให้ไปช่วยได้ ดังเช่น น้ำมันหอมพิเศษที่กล่าวมา
คราวลงนะที่ผ่านมา
มีคนโดนของ
มาเจอหลวงปู่
หลวงปู่จิ้มๆก็เรียบร้อยครับ



ในภาพเป็นสุภาพสตรี ไปสักยันต์มา
คนสัก ลงของให้เสร็จ แถมพรายมาด้วย
ขนาดสักด้วยน้ำมันผี
หลวงปู่ยังจิ้มสองที
พรายหายไปเลย
ถ้าเป็นของนอกตัวเช่นกุมารทองผสมพราย
ที่เดี่ยวนี้ออกกันมาก
โดยเฉพาะทางอีสานใต้
ผมได้มาเป็นกุมารสามหัว
มาตรวจดู ปรากฏว่าผสมชิ้นส่วนของกระดูกผีจริง
แต่ผสมเข้าไปเฉยๆ
ไม่ได้สะกดหรือข่มเอาไว้
กุมารไปทางกุมาร
ผีไปทางผี
ผมนึกในใจว่า เดียวมีเรื่อง เพราะกระดูกเจ้านี้เฮี้ยนน่าดู
ระหว่างนั้นมีพรรคพวกมาเยี่ยม
ผมก็ลองถามว่า ชอบสายพรายหรือเปล่า
มันบอกชอบๆๆ
ผมก็เลยให้มันดูกุมารทองผสมกระดูกผี
มันคว้าหมับเอาใส่กระเป๋าไปเลย
หลังจากนั้น อีกสี่ห้าวันมันมาหาผมอีก
หน้าดำ ไม่มีแรง
ผมถามว่ามึงเป็นอะไร
มันบอกว่าตั้องแต่ได้กุมารสามหัวฝังกระดูกผีไป
มันรู้สึกหนักๆหัวมึนหัวตลอดเวลา คิดอะไรไม่ค่อยจะออก
บางทีมีอาการเหมือนโดนคนขี่หลัง ตัวหนักมาก
เวลากินอาหาร กินยังไงก็ไม่อิม จากกินทีละจานเดี่ยว มากินทั้งหม้อ
เวลานอนนอนไม่หลับ เพราะกินเข้าไปแยะ บางทีจะมีอาการตัวร้อน กะวนกระวาย
พอทำท่าจะหลับเหมือนมีคนมาสะกิด
กระตุกเท้าบ้าง จิ้มเอวบ้าง
จนกระทั้ง ต้องมานั่งสมาธิทั้งคืน
กระนั้นมันยังมาจิ้มเอวเอาอีก
มันบอกมันเข็ดแล้ว
เอามาคืน
ผมก็ต้องรับเอาไว้
แล้วไปฝากพระแม่ธรนีไปทั้งหมด
เพราะเดี่ยวมันเล่นผม
แต่เพื่อนผมมันยังอาการไม่ดีขึ้น
ผมจึงรักษามันหน่อยหนึ่ง โดยใช้เบี้ยแก้นะปัดตลอด
ปรากฏว่าอาการดีขึ้น เดี่ยวจะพาไปหาหลวงปู่เชิญแก้ให้
เพราะท่านเรียนสายพรายมา
ท่านย่อมรู้เคล็ดลับ
สายพรายนะแรง เร็ว แต่อันตราย
ขนาดหลวงปู่ท่านทำน้ำมันพิเศษ ท่านยังไม่ผสมชิ้นส่วนของมนุษย์เลยครับ
ใครที่โดนพราย หรือมีอาการที่ว่ามา เตรียมตัวนะครับ คณะศิษยืกำลังจะนิมนต์หลวงปู่มาอีกรอบหนึ่งประมาณ ปลายๆเดือน ไปให้ท่านจิ้มๆให้จะได้หายสักที

 

โอนเงินแล้วครับ รายละเอียดใน PM ครับ

 

นั้นแนะ ใช้เป็นแล้ว
แป้งเค้าใช้ทาหน้า
ดันเอาไปแขวนคอ
เขาเรียกผิดประเภท
เหมือนกับเอากางเกงไปทำหมวก
สรรพคุณมันไม่ได้
พอเอาทาหน้าปั๊ปได้เรื่องเลย
แป้งเสกหลวงปู่เชิญ ของดี มีไว้ทาหน้า
oishi_

 

รับทราบครับพี่สายันณ์
เดี่ยวพรุ่งนี้ส่งให้เลยครับ
รวยๆๆๆ

 

โอนแล้วนะครับ 950

 

แป้งอะไร เหรอ ครับ อ.โคมฉาย

 

วันนี้เวลา 13.30น.ได้โอนเงิน250 ไปให้แล้วครับ ได้ส่งmassageไปแจ้งด้วย
ที่อยู่ที่ส่งจะpmไปให้ครับ คุณโคมฉาย แต่อย่าเพิ่งส่งนะครับจะบูชาน้ำมันหอมเพิ่มอีกขวดแล้วจะโอนเงินไปให้เพิ่มเติมครับ

 

แป้งเสกครับ
หลวงปู่ท่านสำเร็จแป้งเสกด้วย
ท่านเรียนมาจากหลวงปู่บุดดา
ได้หัวใจมา จากนั้นท่านก็เสริมเมตตามหาเสน่ห์เข้าไปอีก
เตรียมแจก แต่จะแจกแบบไหน ติดตามให้ดีลูกพี่
ที่แน่ๆ ท่านที่สั่งวัตถุมงคลหลวงปู่เชิญช่วงนี้
แจกไปลองใช้กันครับ

 

รับทราบครับ
จะรอนะครับ
จะได้ไม่ต้องส่งหลายรอบ

 

ผมไปอ่านเจอในเว็บหนึ่ง
เค้าบอกว่าข้อควรระวังในการเล่นสายพราย

**ข้อควรระวังและคำเตือนสำหรับผู้ที่ใช้เครื่องรางสายพราย**
ขึ้น ชื่อว่าเครื่องรางของขลังสายพรายใช่ว่าจะเหมือนกันหมด หรือมีลักษณะอย่างเดียวกันหมด มีหลายอย่างหลายกรรมวิธีในการสร้าง ถ้าเป็นพรายที่อาจารย์ผู้สร้างเป็นหมอมนต์ดำ พรายจะมีจิตใจหยาบและข่อนข้างจะหนักไปทางโลกีย์วิสัยมาก เช่นชอบกินพวกเนื้อสัตว์ กินเหล้า เที่ยวกลางคืน รักโลภโกรธหลงรุนแรง ถ้าผู้ใช้เจอแบบนี้ก็จะมีจิตใจแบบนั้นด้วยเพราะใช้เครื่องรางสายพรายถ้าคน ใช้ไม่มีบารมีพอหรือมีจิตอ่อนกว่าพราย พรายก็จะครอบงำได้ และมีพรายบางสายที่อาจารย์ทำไม่เป็นแค่กักผีลงของเท่านั้นไม่ได้ทำอะไรเพิ่ม เติมเลย เวลาเอาไปบูชาพรายประเภทนี้ก็ไม่ทำอะไรกินๆนอนๆไปเป็นวันไม่สร้างประโยชน์ ช่วยเหลือคนที่ใช้เลยก็มี หรือบางประเภทที่หลายคนคงเคยเจอคือเอาไปใช้ช่วงแรกๆดูเหมือนจะดีพอใช้ไปซัก พักเริ่มไม่ดีอย่างนี้ก็มีเป็นประเภทถอนทุนคืน

แต่ถ้าเป็นพรายที่ อาจารย์เขาทำเป็นเขาจะสร้างมาดีเช่นพรายที่สร้างจากอาจารย์สายขาว เขาจะอบรมสั่งสอนพรายให้มีนิสัยดี ให้คุณไม่ให้โทษ ช่วยเหลือคนบูชา เป็นจิตวิญญานที่ดี ชอบทำบุญกุศล อาจจะมีไม่ดีบ้างแต่ก็จะดีเป็นส่วนใหญ่ ถ้าได้พรายประเภทนี้ไปก็โชคดี

ดังนั้นหากคิดจะเล่นสายพรายกรุณา ศึกษาให้ละเอียดให้ดี ว่าอาจารย์ไหนเป็นยังไง แต่ก็อย่างว่าแหละนะใครจะเจอกับแบบไหนก็เป็นเวรกรรมของคนๆนั้นมีวิบากกรรมมา กับสายไหนก็เจอสายนั้น

จากเว็บ