ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย sasiriya, 22 พฤษภาคม 2008.

  1. ลัก...ยิ้ม

    ลัก...ยิ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    3,409
    ค่าพลัง:
    +15,762
    โอ๊ะโอ...กระทู้นี้วิ่งไว ยิ่งกว่าเครื่องบินเสียอีก ตามอ่านไม่ทันเล๊ย เพิ่งจะมาอ่านถึงตรงนี้เอง:cool: :cool: :cool:

    ตามเนื้อหาที่ท่านเจ้ากระทู้กล่าวไว้...ถือว่าถูกต้องชอบธรรมมากค่ะ ดังนั้นบางคนถ้าน้องเขาช่วยไม่ได้ อย่าเพิ่งท้อแท้เสียใจนะค่ะ ให้ขยันหมั่นเพียรในการสร้างกุศลและอุทิศเจาะจงตรงให้เขาไปเรื่อย ๆ (เรารู้ว่าเขาเป็นใครแล้ว อันนี้มีประโยชน์มาก) วันนี้ไม่ใจอ่อนอโหสิกรรม เดือนหน้า ปีหน้า...ไม่แน่อาจจะใจอ่อนยินยอมค่ะ โปรดสังเกตุผู้อยู่รอบข้างและภาระกรรมที่เราเคยสัมผัสว่าดีขึ้น เบาบางลงหรือไม่ แล้วค่อยกลับมาสอบถามน้องเขาใหม่ก็ยังไม่สายเกินไปค่ะ

    กรรมใดผู้ใดก่อ ย่อมต้องรับผลกรรมนั้นโดยไม่อาจหลีกพ้นค่ะ เมื่อเราเป็นผู้กระทำกับเขา เวลาที่ถึงโอกาสเขามาขอเอาคืน...ต้องคืนเขาค่ะ โปรดอย่าบ่น ก้มหน้าคืนๆ เขาไป จะได้ไปเป็นสุข ๆ ด้วยกันทั้งคู่
     
  2. Leopud

    Leopud สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +24
    อนุโมทนาด้วยครับ

    สวัสดีครับคุณ Sasiriya ขอกราบอนุโมทนากับคุณและลูกสาวด้วยครับ:d

    ผมเป็นคนนึงที่พยามศึกษาหาความรู้และได้คำแนะนำดีๆจากผู้ที่มีความกรุณา ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ดีดี บนอินเตอร์เน็ต และหนังสือ แต่เนื่องจากยังปฏิบัติ ไปไม่ถึงขั้นรู้เห็นกรรมของตนเอง หรือมีหูทิพย์ตาทิพย์ และไม่ค่อยมีเวลาตามประสาคนมีห่วงและหนี้ เลยยังไม่สามารถจะช่วยใคร
    จึงอยากเรียนฝากถามว่านอกจากความขี้เกียจ และอวิชชา ในตัวผมเองแล้วมีกรรมอันใดอีกหรือไม่ที่ผมไม่ทราบและส่งผลให้ผมยังปฏิบัติไปไม่ถึงไหนหรือ ทำให้ผมยังไม่สามารถปิดภาระหนี้ เพื่อจะมีเวลาปฏิบัติมากขึ้น

    ปล. (แมวที่บ้านผม ไม่มีใครในบ้านชอบเลยมันเป็นกรรมของแมวหรือเป็นกรรมของผมเอง และผมจะสามารถพาพวกเขาไปอยู่ที่อื่นได้หรือไม่ครับ) ขอบคุณแทนแมวที่ผมเลี้ยงด้วย :) Email : pirate99999@gmail.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2008
  3. wutthik

    wutthik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +494
    " พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน "

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำของเราก็เคยบอกไว้เมื่อมีผู้ถามกันมากเกี่ยวกับเจ้ากรรมนายเวรไว้ว่า " เจ้ากรรมนายเวรนั้นเขาไม่ได้มาจ้องรอชำระหนี้จากเราหลังจากที่เขาได้ตายไปแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ เพราะเจ้ากรรมนายเวรของเราเขาก็ต้องมีเวรกรรมที่ต้องรอชดใช้และสนองต่อเขาเหมือนเราทุกคนนั้นแหละ เขาก็ต้องไปเกิดชดใช้กรรมของเขาเช่นกัน จึงไม่มีเวลาที่จะมาค่อยสะสางเรืองกรรมกับเราได้ แต่เหตุที่เราต้องประสพเคราะห์กรรมกันต่างๆนาๆก็เพราะเหตุแห่งอกุศลกรรมที่เราได้กระทำกับเจ้ากรรมนายเวรไว้ต่างหาก ที่คอยติดตามมาทำร้ายเราเหมือนเงาตามตัวหาใช่ตัวแห่งเจ้ากรรมนายเวรมาเป็นผู้กระทำหามิได้ "
    หากจะถามว่าแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราได้กระทำกรรมอะไรไว้กับเจ้ากรรมนายเวรไว้เราจึงประสพกับเคราะห์กรรมนี้ ก็ต้องย้อนมาถามตัวเราเองว่าได้เคยทำใจให้นิ่งๆแล้วหันมามองตัวเราเองบ้างหรือเปล่าว่าในอดีตชาติ(ไม่ต้องเอาอดีตชาติย้อนหลังไปมากๆเป็นสิบชาติร้อยชาติหลอก เอาแค่อดีตชาติจากเราเกิดมาจาก 0 เดือนนับถึงปีปัจจุบันก็พอ) นึกย้อนไปให้จำได้ว่าทำกรรมอะไรกับใครหรือตัวเราไว้บ้างเมื่อรู้แล้วเห็นแล้วก็มาแก้กรรมที่ตรงนั้นด้วยตัวเองไม่ให้เกิดอีกหรือมีอีกก็จะไม่ทำให้กรรมเพิ่มขึ้น เมื่อกรรมใหม่ไม่มีเพิ่มขึ้นกรรมเก่าที่เคยกระทำก็จะเบาบางลงหรือค่อยๆหมดไปเอง(กรรมเก่าที่ไม่ดีเหลือเท่าเดิมกรรมดีมากกว่าจนกรรมเก่าที่ไม่ดีตามไม่ทันจึงส่งผลไม่ได้ ดังที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อของเราได้เคยบอกไว้กรรมดีไม่สามารถล้างกรรมชั่วให้หมดไปได้ มีแต่ต้องทำกรรมดีเพื่อหนีกรรมชั่ว) หาได้มีผู้ใดกระทำการแก้กรรมแทนเราได้แม้แต่น้อย กรรมเราที่ทำในอดีตมีหรือที่คนอื่นจะรู้เท่าตัวแห่งเจ้าของกรรมเอง ดังพระพุทธเจ้าตรัสไว้ ว่าสัตว์โลกล้วนย่อมเป็นไปตามกรรมของตน กรรมเป็นเครื่องจำแนกสัตว์ ปลูกพืชเช่นไรได้ผลเช่นนั้น ในหนังสือประวัติของหลวงปู่บุดดาตอนหนึ่ง หลวงพ่อสงฆ์ขณะบรรลุธรรมก็พูดออกมากับหลวงปู่บุดดาว่า "ไม่มีคนไปนรกไม่มีคนไปสวรรค์เน้อ" หลวงปู่บุดดาจึงได้เสริมว่า "มันจะมีนรก มีสวรรค์อย่างไร นั่นมันกิเลสต่างหากเล่า กิเลสหมด นรกก็หมด สวรรค์ก็หมดนะซิ" ต่อมาอีกหลายวันหลวงพ่อสงฆ์กล่าวกับหลวงปู่บุดดาอีกว่า"เอ๊ะทำไมมีคนไปนรก ไปสวรรค์ทำไมไม่มีคนล่ะ" หลวงปู่บุดดาท่านก็กล่าวตอบไปว่า "มันไม่มีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว ตั้งแต่พระพุทธเจ้าเทศน์ปฐมเทศนามาแล้ว นรก สัตว์สร้างเอาเอง สวรรค์สัตว์สร้างเอาเอง ไม่มีสัตว์สร้าง สัตว์จะไปสวรรค์ นรกได้อย่างไร" นี้คือคำพูดที่ออกจากปากพระอรหันต์ทั้งสองพระองค์ (sing) (sing) (sing)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2008
  4. Nu_Bombam

    Nu_Bombam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,030
    ค่าพลัง:
    +4,915
    สวัสดีค่ะคุณศศิริยา...ก่อนอื่นขออนุโมทนาด้วยค่ะ ดิฉันได้อ่านเรื่องราวที่คุณได้เขียนไว้ ก็รู้สึกอยากจะขอความช่วยเหลือ เพราะสมาชิกในครอบครัวเกือบทุกคนต้องเข้าโรงพยาบาลทุกเดือน ดิฉันต้องดูแลทุกอย่าง จนบางครั้งทำให้รู้สึกท้อแท้กับ กรรมวิบากที่เป็นอยู่ สรุปคร่าวๆก่อนนะคะ
    -คุณแม่เป็นอัมพฤกษ์ ต้องรับยาทุกเดือน ตอนนี้พอช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง
    -คุณพ่อผ่าตัดปอดออกไปแล้ว 2 ครั้ง ต้องไปตรวจเช็คร่างกายตามอาการ เพราะเหนื่อยง่าย บางครั้งจะมีอาการมีเลือดออกทางปาก
    -แฟนเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ต้องรับยาทุกเดือนๆละเกือบสองหมื่นบาท ต้องเปิดหน้าท้อง
    และเป็นฝีกัณสูตรที่แก้มก้น ตอนนี้มีประมาณ 4 รูมีน้ำไหลตลอดเวลา ไม่มียารักษาให้หายได้เลย
    ยังไงแล้วดิฉันก้ออยากขอคุณศศิริยาช่วยซึ่งอาจจะมีวิธีแก้ไขอีกทางหนึ่งนอกเหนือจากแพทย์แผนปัจจุบัน
    ด้วยอยากมีความหวัง และขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง เบอร์ติดต่อ คุณน้อง 089-8505084
     
  5. Nu_Bombam

    Nu_Bombam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,030
    ค่าพลัง:
    +4,915
    หรือหากไม่สะดวกทางโทรศัพท์ จะให้โทรกลับก็ได้ หรือจะตอบทาง e- mail แล้วแต่คุณศศิริยาจะสะดวกค่ะ
    e-mail : st_valentine.n@hotmail.com ค่ะ
     
  6. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ***********************************************
    ลองอ่านทบทวนซ้ำไปซ้ำมามาก ๆ ในข้อความนี้ให้ดี ๆ นะคะ แล้วใช้สติ ตรึกตรอง แล้วคุณจะรู้ว่า พระอรหันต์สององค์ท่านสอดแทรกข้อคิดอะไรให้อยู่ แล้วคุณจะเข้าใจถ่องแท้นะคะ อย่าอ่านเพียงผ่านตา เพราะคุณจะไม่ทราบเลยว่าท่านต้องการสื่อถึงอะไรให้พุทธศาสนิกชน พระอรหันต์ท่านไม่พูดมาก ๆ แบบคนธรรมดาทั่วไปหรอกค่ะ ท่านพูดน้อย กินความหมายลึกซึ้งและแยบยล ให้มนุษย์ผู้มีภูมิทางปัญญาทางโลกทางธรรมไปใช้สติตรึกตรองกันเองค่ะ ขนาดหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ดิฉันเองก็เคยไปทำบุญกับท่านบ่อย ๆ สมัยท่านยังไม่ดับขันธ์ ท่านเขียนหนังสือจุไรท่องดวงดาว ท่านยังบอกลูกศิษย์ลูกหาอยู่เสมอ ๆ จนติดปากท่านเลย ว่าท่านเล่านิทานนะ ฟังเล่น ๆ นะ แต่ถ้าคนมีสติตรึกระลึกรู้เท่านั้น ค่ะ ที่จะทราบว่านิทานที่ท่านว่ามาทั้งหมดน่ะ คือเรื่องจริง เพราะท่านอยู่ในสมณะเพศ การที่จะออกมาพูดอะไรโจ่งแจ้งเกินไป จะเป็นการผิดวินัยสงฆ์และการอวดอุตริธรรมน่ะค่ะ ท่านจึงต้องพูดแบบให้ไปคิดเอาเองในการสอนธรรมพุทธศาสนิกชน สาธุ





    หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    http://palungjit.org/showthrea...129821&page=30
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2008
  7. เพชราวลัย

    เพชราวลัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +45
    ขออนุโมทนาด้วยค่ะกับการได้เกิดมาสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่
    แต่ก็เห็นด้วยกับอีกหลายๆข้อความว่า

    คนอยากพบมีหลายประเภทค่ะ
    เดือดร้อนจริงๆ ต้องการความช่วยเหลือ
    ต้องการพบเพื่อลองของ
    พบเพื่อต้องการแสดงความเหนือกว่าน้องเขา

    เมื่อพบผู้คนหลากหลายรูปแบบ บางครั้งอาจรับไม่ทัน เพราะน้องมีอารมณ์บริสุทธิ์ต้องการช่วยคนด้วยความจริงใจ คุณแม่เองก็มีจิตอันเป็นกุศล เมื่อมีบุตรที่มีความพิเศษจึงต้องการเผยแพร่เพื่อช่วยคน แต่บุคคลที่มาจากหลากหลายที่มา ที่ไป ฉะนั้นไม่ทุกคนหรอกที่จะคิดเหมือนอย่างที่คุณแม่และน้องคิดหากเจอคนแบบนั้นมาก เมื่อนั้นน้องอาจเกิดอาการท้อแท้ และอาจมีอารมณ์เบื่อหน่ายในที่สุด และอาจเกิดการสับสนได้ว่า เมื่อคิดจะทำดีทำไมยังมีคน ว่ากล่าวให้ช้ำใจอีก ที่อธิบายระเอียดเนื่องจากห่วงน้องเค้าค่ะ ยังเด็กมาก

    แต่ก็ขอสาธุกับการทำกุศลในครั้งนี้ของคุณแม่กับน้องค่ะ



    บุคคลมีหลายประเภทค่ะ น้องเก่ง แต่ว่าทางด้านอารมณ์นั้นอย่างไรก็ตามยังอยู่ในวัยเรียนขอให้ตั้งใจเรียนนะคะ เอาใจช่วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2008
  8. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    **************************************
    เรื่องของเจ้ากรรมนายเวรนี่เราต้องทำความเข้าใจกันนะคะ ดีค่ะที่ถาม เป็นคำถามที่ดีมาก ๆ คำถามนี้คงไม่ต้องถามลูกสาวให้เสียเวลา ขออนุญาติตอบเองเลยแล้วกัน เพราะคุยกับลูกมานานพอจะมีความเข้าใจพอประมาณค่ะ
    เจ้ากรรมนายเวรก็คือคนที่แต่ละชาติแต่ละภพที่เราเคยก่อร่างสร้างกรรมมากับเขา อาจเป็นทั้งกรรมหนัก กรรมเบา กรรมที่รุนแรงจนอภัยกันไม่ได้ มันก็มีหลายกรณี สิ่งเหล่านั้นถ้าพูดให้ภาษาสมัยใหม่เข้าใจง่ายขึ้นก็เปรียบได้ว่า ทุกการกระทำ(กรรม)ที่เรากระทำ มันถูกบันทึกและจดจำเป็นสัญญาณแห่งจิตของแต่ละคน เหมือนเทปวีดีโอที่ถูกบันทึกภาพเก็บไว้ในทุก ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นกรรมด้วยวจีกรรม มโนกรรม กายกรรม มันจะถูกจดจำโดยอัตโนมัติแห่งสัญญาณจำได้หมายรู้เดิมทั้งหมดทั้งสิ้น
    ทีนี้บางท่านที่ยังไม่ถ่อง ก็สงสัยแล้วเป็นวิญญาณหรือเปรตหรืออะไรสุดจะคิดกันไป ซึ่งจริง ๆ แล้ว บางรายเขายังไม่ถึงที่ตาย แต่เราไปทำกรรมเอาไว้กับเขาไปฆ่าเขาก่อนเวลาแห่งวาระ ดวงวิญญาณเขาก็จะติดอยู่ในวาระกรรมนั้น ๆ ตรงนั้นจนกว่าจะถึงวาระหลุดพ้นที่จักไปเสวยบุญหรือเสวยกรรมต่อไป หากดวงวิญญาณนั้นยังอยู่ มีแรงอาฆาต เขาก็ไม่ได้มาล่องลอยติดตามแบบจะเอามือบีบคอคุณให้ตายตลอดเวลาหรอกค่ะ แต่ด้วยจิตที่พันผูกกับกรรมนั้น ๆ กับผู้กระทำเขาจึงเหมือนลิ้งค์กัน (เชื่อมต่อกันอยู่ตลอดเวลา) จนกว่าคน ๆ นั้นจะสามารถเปิดเทปกรอย้อนหลังไปดูว่าเพราะเหตุใดที่เคยทำกับผู้ใด มันจึงส่งผลให้ชีวิตที่เป็นอยู่ในปัจจุบันต้องดำเนินเจอะเจอเคราะห์กรรมแบบนั้น
    ซึ่งตัวเคราะห์กรรมที่เราได้รับมันก็ไม่ใช่เขาเป็นคนแกล้งให้เราเป็น แต่มันเป็นสัญญาณจากกฎแห่งกรรมที่เรานั่นเองเป็นผู้กระทำ กระทำกรรมใดไว้มันก็สนองกลับอัตโนมัติให้ได้รับผลเช่นนั้น เพียงแต่ต่างรูปแบบกันอย่างที่ผู้เขียนเคยกล่าวตอบบางท่านไป
    ทีนี้เมื่อเราไม่สามารถเปิดเทปการกระทำของเราที่ผ่าน ๆ มาดูได้ หรือภาษาบ้าน ๆ ว่า จำไม่ได้นั้นเอง เราก็ไม่สามารถกระทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อแก้ไขบาปกรรมนั้น ๆ ให้คลายลงได้ จึงเป็นเหตุให้ต้องอยู่ในวังวนแห่งการเวียนว่ายตายเกิดใช้โทษกรรมกันต่อไปไม่จบสิ้น
    หากเราสามารถเปิดความจำได้หมายรู้ให้เกิดขึ้นได้ด้วยการระลึกรู้ เจ้ากรรมนายเวรบางรายอาจไปเกิดเป็นคนแล้วก็มี เขาก็ไม่ได้รับรู้อะไรด้วยหรอก แต่การระลึกรู้มันก็เหมือนการย้อนภาพเปิดเทปเหตุการณ์ของเก่าหนังเรื่องเก่าที่เราเคยแสดงเป็นตัวเอกของเรื่องไว้มาดูใหม่นั่นเอง ทำให้เรารู้ว่าเราเคยทำอะไร กับใคร ที่ไหน อย่างไร เมื่อเราเข้าใจภาพเหตุการณ์นั้นเคสรายที่ไปผุดเกิดแล้ว มันก็จะเป็นกระแสเข้ามาว่าคุณอยากล้างกรรมตรงนี้ก็ต้องไปชดใช้สร้างกุศลแบบนี้นะ จึงจะโอเค แต่รายที่ยังคงเป็นวิญญาณติดวาระภพอยู่ (ที่เราเกิดก่อนเพราะเวลามิติเขาเรามันไม่เหมือนกัน) เขาก็จะสามารถติดต่อเหมือนเชื่อมกับผู้ระลึกรู้ได้ ด้วยมีสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์เดียวกันประมาณนั้น พอเขารู้ว่ามีคนเห็นเขา มีคนรู้เรื่องเขาแล้วนะ ทีนี้เขาก็อาจยอมความเมื่อได้รับธรรมแสงสว่างแห่งพระนิพพาน โดยให้ผู้กระทำสร้างกุศลกรรมแก้ตัวในสิ่งที่กระทำกับเขาไว้ตามแต่กระแสบุญกรรมนั้นจะมากน้อยเพียงใด บางท่านสร้างกุศลระยะเวลาไม่กี่วัน บางรายก็ว่ากันเป็นหลายเดือน หรือเป็นปี ตามความต้องการของเขา ถ้ามาคิดแบบคนอย่างเรา ๆ เคยทำกรรมหนักกับเขาไว้ จะมาขอโทษสองคำ เลี้ยงข้าวสามมื้อแล้วจบหรอ ไม่ง่ายไปหน่อยหรือ ก็ต้องว่ากันจนสำนึกกรรมการกระทำกันให้ได้มากที่สุดว่างั้นเถอะ
    ดังนั้นเจ้ากรรมนายเวรจึงอาจไม่ใช่วิญญาณ ภูติผีปีศาจอะไรที่ท่านคิดเสมอไป อาจเป็นคนที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวท่านมาเกิดเจอะเจอกันแล้วก็เป็นได้ แต่คุณไม่รู้เอง และเมื่อเขาอโหสิกรรมให้ รายที่ยังเป็นวิญญาณเมื่อเขาได้เห็นธรรม เขาก็อาจหมดวาระกรรมแห่งการพยาบาทจองเวรตรงมิตินั้น ไปเสวยบุญเสวยกรรมตามที่เขาก่อร่างสร้างมาเช่นกันจะหลุดพ้นจากตรงนั้น ซึ่งเราอาจไม่รู้ว่าเขาจะไปไหน เพราะคงไปยุ่งกับเขามากไม่ได้ เป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลเหมือนคน ส่วนรายที่เกิดแล้วเป็นคนเป็นสัตว์ พอบ่วงกรรมหลุดขาดจากกัน ชีวิตคุณก็อาจดีขึ้นเป็นลำดับ หรือคนที่เป็นศัตรูกันเพราะเป็นเจ้ากรรมกันมา ก็อาจมีเหตุบันดาลดลให้กลับมาเป็นมิตรกันโดยไม่มีสาเหตุ เป็นต้น ฉะนั้นโทษทัณฑ์ที่ได้รับในชีวิต ก็เปรียบเสมอเหมือนเงาแห่งการกระทำที่คุณเป็นผู้กระทำมันขึ้นมาและถูกบันทึกเก็บไว้ด้วยตัวคุณเองทั้งหมดนั้นแล....สาธุ

    ธรรมกรรมสบาย ๆ สไตล์....ศศิริยะ





    หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    http://palungjit.org/showthrea...129821&page=30
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2008
  9. thanathan_t

    thanathan_t เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +177
    thanathan_t@yahoo.com รบกวนอีกสักคนครับ เรื่องกลุ้มใจยังมีไม่มากแต่อยากได้ผู้ที่แนะนำการฝึกจิต ที่ได้ผลจริงครับ
     
  10. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    *********************************************
    ขอบพระคุณมากค่ะในความห่วงใย แต่ขอทำความเข้าใจสักนิดเพิ่มเติมนะคะ งานนี้โดยจุดประสงค์เดิมคือ ต้องการให้ทุกท่านที่อ่านเข้าใจและทราบว่า แรงบุญและแรงกรรมมีจริงนะ ใครว่ามันไม่มีจริง หาได้มีเจตนาเผยแพร่ความสามารถพิเศษของลูกสาวให้สาธาณะชนทราบด้วยเจตนาอยากดังหรืออื่น ๆ แต่ประการใด เพราะเขาเป็นเพียงองค์ประกอบหลักของเรื่องที่นำมาเขียน แต่เมื่อกระแสศรัทธาจากพลังมหาชนที่กำลังติดบ่วงแห่งความทุกข์มีมากเหลือเกิน เมื่อขอกันเข้ามา จะให้ปฎิเสธก็แลดูจะใจดำไร้คุณธรรมเกินมนุษย์ จึงต้องว่ากันไปตามกระแส หาได้สร้างกระแสจุดพลุความดังให้กับตนเองหรือลูกแต่ประการใดนะคะ และเพราะเข้าใจค่ะว่าคนเราเวลามีทุกข์แล้วหาทางออกไม่ได้ มันสาหัสค่ะ จึงต้องมีวันนี้ในขณะนี้
    ส่วนผู้คนที่มีหลากประเภท ที่ห่วงใยกันมา ผู้เขียนเชื่อว่า คนที่ในจิตเบื้องลึกยึดมั่นในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่ตั้ง ไม่มีสิ่งใดสามารถทำอันตรายใด ๆ ได้ ส่วนคำพูดของคนก็เหมือนสายลม เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็ต้องดับไปในที่สุด ไม่มีใครเหนือกว่าใคร ไม่มีใครดีกว่าใคร ไม่มีใครเลวกว่าใคร และไม่มีใครด้อยกว่าใคร เพราะทุกคนล้วนเกิดมามีกรรมเป็นที่ตั้งด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเท่าเทียมกัน ไม่มีอะไรที่ผู้เขียนและน้องเขาต้องหนักใจค่ะ
    ขอได้รับความขอบคุณในความห่วงใยด้วยใจ
    ศศิริยะ





    หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    http://palungjit.org/showthrea...129821&page=30
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2008
  11. Saisawalee

    Saisawalee ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +16
    Dear Khun Sasiriya and Nong,

    Sorry I can
     
  12. goragote

    goragote สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +19
    เรียนคุณศศิริยะ
    ดิฉันขอความุกรุณาคุณศศิริยะด้วยค่ะตกงานมาเป็นปีแล้วและยังมีปัญหาอื่น อีกช่วยด้วยค่ะกรุณาติดต่อกลับมาด้วยนะคะพยายามติดต่อกับคุณทางอีเมลส่วนตัวแต่ก็ยังไม่ได้คำตอบขอความกรุณาด้วยค่ะ
    e-mail : iamnotesong@hotmail.com
     
  13. bumbimnick

    bumbimnick เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +160
    ชื่อบุ๋มบิ๋มค่ะ ช่วยติดต่อมาทางอีเมล์ด้วยนะคะ s_khuantar@hotmail.com แต่ไว้คนท้ายๆ ก็ได้ค่ะ ถ้ามีคนอื่นที่ลำบากมากๆ คือ หนูแค่อยากรู้ว่า.....
    มีคนบอกว่าหนูเป็นผู้มีบุญในชาติที่แล้ว
    แต่ที่ชาตินี้ไม่ได้สุขสบายเพราะ ไปทำกรรมเอาไว้
    เลยอยากทราบว่าจะแก้ไขได้อย่างไร
    เพราะตอนนี้ครอบครัวลำบากมากเลยค่ะ(เรื่องเงิน)
    คือหนูสงสารพ่อ แม่ ท่านหาเงินส่งหนูเรียน แทบไม่มีแล้ว
    ต้องขายไร่นา เพื่อให้หนูได้เรียน สงสารท่าน
    เลยอยากแก้กรรม พ่อ แม่จะได้สบายค่ะ
    ช่วยติดต่อมาด้วยนะคะ
    ขอบคุณมากๆค่ะ
     
  14. yingclub

    yingclub Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +42
    ชื่อ ญ ค่ะ กรุณาติดต่อผ่าน yingclub@hotmail.com มีปัญหาอยากถามค่ะ
    ขอบคุณค่ะ
     
  15. kaichicken

    kaichicken สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +24
    อนุโมทนา สาธุ

    mild_m@hotmail.comขอรบกวนอีกสักคนค่ะ ตอนนี้ฉันก็ต้องการขอคำแนะนำเช่นกันค่ะ
     
  16. wutthik

    wutthik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +494
    อยากแก้กรรมขอแนะนำ
    1.ตั้งใจเรียน 2.หางานทำแบ่งเบาภาระ 3.ประหยัดใช้และจ่าย
    สาเหตุแห่งกรรมในอดีตชาติที่ผ่านมา
    1.ใช้พระอรหันต์ทำงานหนักโดยไม่แบ่งเบาภาระเพราะคิดว่าเป็นหน้าที่ของพระอรหันต์ 2.แบแต่มือขอไม่กำมือหา 3.ตามใจ (sing) (sing)
     
  17. wutthik

    wutthik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +494
    ทำใจนิ่งๆสบายๆมองดูที่ใจของเจ้าของ แค่รู้ แค่เห็น แค่ไหน แค่นั้น
     
  18. wutthik

    wutthik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +494
    ตามธรรมชาติสภาวะของจิตไม่มีแก่ไม่มีเจ็บไม่มีตาย
     
  19. sorracha

    sorracha สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +19
    อนุโมทนาค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยคนนะคะ
    aungkana_tu@hotmail.com
    ต้องการคำแนะนำค่ะ
     
  20. wutthik

    wutthik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +494
    โลกใบนี้ไม่มีกาลเวลา มีแต่ปัจจุบัน ยึดกาลเวลา ยึดติดสมมุติ
    สมมุตินะว่าเราอยู่ประเทศไทยและมีแค่กำแพงกันระหว่างประเทศไทยกับประเทศสหรัฐอเมริกาและมีประตูปิดเปิดเดินไปหากันได้สะดวกและรวดเร็ว สมมุติว่าถ้าเราอยู่ประเทศไทยจากเช้าไปจนจะมืด(06.00น.-18.00น.)เราก็เปิดประตูเดินออกไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจากเช้าไปจนจะมืด(06.00น.-18.00น.)แล้วก็กลับเข้ามาอยู่ประเทศไทย กระทำอย่างนี้ทุกครั้งสลับไปสลับมา อยากจะถามว่าอะไรคือกลางคืนและกลางวัน(สงสัยย้อนไปอ่านอักษรสีแดง)(sing) (sing)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...