ชมรมนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์

ยินดีต้อนรับครับ
ขอนอบน้อมนมัสครูอาจารย์ของท่าน พระฤาษี 108 และพระคเนศ (Ganesha) ครับ

 

เรียน อาจารย์ภราดรภาพ
หนูมีความสนใจที่จะไปร่วมวันที่ 26 กันยายนนี้ ไม่ทราบจะได้หรือไม่ค่ะ
ด้วยความเคารพทุกท่าน<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอบคุณค่ะ คุณภราดร ดิฉันดีใจมากที่มีคนเข้าใจ ดิฉันไม่อยู่คนเดียวแล้ว มีผู้รู้ผู้ปรึกษาผู้ให้คำแนะนำ แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านอนุโมทนานำพาให้เจอผู้นำทาง ดิฉันสนใจคำกล่าวท้ายสุดที่บอกว่าเป็นการสร้างบารมีขั้นพื้นฐาน ในรูปแบบการเจริญไตรสิกขาเท่านั้น และกำลังคิดจะสร้างบารมีให้สูงขึ้น โดยการเป็นผู้นำวิญญานในการสร้างกุศล เป็นคำแนะนำที่ดีมากและตรงกับใจคิดอยู่พอดี จึงขอคำชี้แนะด้วยค่ะว่าให้ทำอย่างไรต่อไปค่ะขอคำอธิบายด้วยค่ะ ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

 

ยินดีครับ ยินดีที่จะให้แบ่งปันประสบการณ์แบบมีส่วนร่วม จิตพระโพธิสัตว์ย่อมเป็นไปเพื่อมหาเมตตา มหากรุณา และมหาปัญญา

 

ยินดีครับ แล้วจะแจ้งให้ทราบในเร็วๆ นี้ครับ

 

ดีครับ พอดีมีพี่สาวใจดีเนาะนำมา คือผมอยากรู้อะครับว่า
ตัวผมมีเทพ พรม ดูแลบ้างไหมครับ รบกวนอาจารทุกท่านตอบ
คำถามไห้ผมหน่อยนะครับ สาธุ

 

บอกพี่สาวว่า ขอบคุณมากที่แนะนำมาที่สว่าง
ปัจจุบันคนที่หลั่งไหลเข้ามาตามกระแสนิยม ไม่อยากให้ไปยึดกับคำว่าคนมีองค์ คนมีญาณบารมี คนมีเทพ หรืออะไรทำนองนี้

ให้ยึดมั่นในคุณธรรมและความดีงาม หากคุณมีสิ่งเหล่านี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมจะปกปักรักษาและย่อมมีความศิริมงคลต่อตนเอง

การชี้ชัดว่าเทพเทวัญหรือครูบาอาจารย์องค์ใดที่คุ้มครองเรานั้น ไม่สามารถกระทำได้ผ่านทางกระทู้หรือทางโทรศัพท์ ควรอยู่ในที่อันควรหรือเคหะสถานที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เหมาะสมครับ และหากอยากจะรู้จริงๆ ก็ไว้ร่วมกิจกรรมทางชมรมฯ ในโอกาสต่อไปครับ

 

มีคําตอบในหมวด
พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์ - PaLungJit.com

พุทธภูมิ ต้องบําเพ็ญบารมี 30 ทัศ ถ้ายังไม่สําเร็จเป็นพระพุทธเจ้าเรียกโพธิสัตว์อยู่ และต้องดํารงในความปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้า 4 อสงไขย100000 กัลป์ เป็นอย่างน้อย ไม่ใช่สร้างบารมี 4 อสงขัยนะครับ 4 อสงไขยนี่หมายถึงเริ่มตั้งความปรารถนาความเป็นพุทธะ

โลกุตระคือมรรคผลนิพพาน ข้อปฏิบัติธรรมเพื่อให้ถึงโลกุตรธรรม คือ โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ มีสติปัฏฐาน ๔ เป็นต้น สามารถถึงได้แม้เป็นปุถุชน
แต่ท้ายที่สุดผู้สําเร็จโลกุตระชั้นสูงคืออรหันต์ และพระพุทธเจ้า ย่อมเข้านิพพาน เช่นเดียวกัน


พุทธภูมิต้องใช้กําลังใจเยอะ มีละทิ้งกลางทะเลก็มาก ต่างกันคือ พายเรือข้ามทะเลวัฏฎะโดยเรือของพระพุทธเจ้าเพียงลําพัง กับ พายเรือข้ามวัฏฏะสงสารโดย เรือลํานั้นเป็นของคุณเองและบนเรือมีสรรพชีวิตอาศัยอยู่มากมายก็เลือกตามจริตเอาครับ

ถึงคุณจะเป็นหญิงหรือชาย จักมีกี่สรรพนามก็แล้วแต่ เราหาถือความสำคัญไม่ ขอเพียงแต่ในหัวใจคุณงดงามไม่เปลี่ยนแปลงก็เพียงพอ สาธุ

 

เรียนคุณภารดร

สถานที่:
ณ บ้านทรงไทย ซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 ในซอยแก้วเงินทอง 2 แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน จ.กรุงเทพมหานคร


มีแผนที่ไหมคะ สนใจอยากไปเยี่ยมชมงานในวันที่ 26/9 ส่วนตารางเวลาของกิจกรรม เริ่ม 10.00 น. เหมือนที่เคยแจ้งไว้ในกระทู้ใช่ไหม


รบกวนด้วยค่ะ เพิ่งเข้ามาอ่านเนื้อหาสาระดี สนใจอย่างมากที่จะไปสังเกตุการณ์ ไม่เคยทำกิจกรรมแบบนี้มาก่อน แต่ได้มโนฯจากวัดท่าซุงมาแล้ว เมื่อ 6/12/52 ค่ะ

 

สวัสดี ค่ะ อาจารย์ ภราดรภาพ
มีพี่ๆอยากร่วมกิจกรรม 26 ก.ย นี้ด้วยค่ะ
เลยให้ดิฉันจองให้ ขอจองไว้ก่อน 2 ที่ค่ะ (กลัวไม่ทัน)
ขอบคุณมากค่ะ

 

สวัสดีคะ คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Jaa-Tick<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3758993", true); </SCRIPT>
ท่าทางคุณน่าจะสบายใจบ้างแล้วนะคะ ยินดีด้วยคะ ศิลามณีเห็นคุณเปลี่ยนรูปภาพประจำตัวแล้ว รู้สึกดีใจแทน ต้องบอกตรงๆว่า เห็นภาพประจำตัวอันเก่า แล้วไม่ชอบเลยคะ เลยแวะเข้ามาทักทายนะคะ บายๆ

 

ดิฉันรอคำชี้แนะที่จะก้าวเดินต่อไปในขั้นตอนอย่างกลางและขั้นสูงต่อไปค่ะขอความกรุณาด้วยคะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

 

สวัสค่ะคุณ ศิลามณี
ดีจังเลยที่มีกัลยาณมิตรอย่างคุณ ที่คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ
ขออนุโมทนาในความดีด้วยนะคะ
( ภาพนี้เพื่อเจอค่ะมีสอง ภาพสองบุคลิก ค่ะ )
อยากได้ภาพถ่ายจริงๆ รู้มาว่ามีแต่ภาพวาด
ส่วนภาพก่อนหน้านี้เป็นการเผาฯ ค่ะอยู่บนเชิงตะกอน....ชีวิตก็แค่นี้เอง
อย่าคิดมากนะคะ
มีอะไรแนะนำก็ยินดี ค่ะ

 

เป็นภาพวาดของพระสุริโยไท?

 

คุณอาภากร แจ้งไว้ดีแล้วครับ

สำหรับความเห็นส่วนตัวเพิ่มเติม คิดว่าสัญชาติญาณของเราจะเป็นตัวบ่งบอกครับ ว่าจิตนี้จะไปไหน จะไปอย่างไร จะไปเมื่อไร

ตัวผมเองเป็นพุทธภูมิครับ จิตมันฟ้องมันเอง ขณะที่ครูบาอาจารย์ให้ตั้งอธิษฐานจิตและกล่าวนำว่า

"ลูกนี้ขอลาจากพุทธภูมิเพื่อเข้าสู่สาวกภูมิ เพราะเล็งเห็นอันควรแก่เวลา ขอพระพุทธองค์ทรงโปรดเมตตา"

คุณเชื่อไหมว่า ญาติธรรมนับสามสิบคน กล่าวปฏิปทากันพร้อมๆ กัน เหลือแต่ผมเพียงคนเดียวมั่ง ที่จิตมันฟ้องเอง และอยากจะกล่าวดังๆ ว่า ไม่ไปๆๆๆ ใครไปก็ไป แต่ตูไม่ไป

สำหรับโลกียะธรรมก็ดี โลกุตระธรรมก็ดี เปรียบได้กับไม้ค้ำลำต้นไม้ ยามใดที่ลำต้นยังอ่อนแอ จำเป็นต้องใช้ไม้ไว้ค้ำยัน (โลกียะ) หากยามใดที่ลำต้นแข็งแรงและเติบใหญ่แล้ว ไม้ค้ำยันก็คงไม่จำเป็นอีกแล้ว (โลกุตระธรรม)

ส่วนนิพพาน (Nirvara) นั้น ก็เหมือนปลายทางที่บรรจบของถนนหลายๆ สาย ไม่ว่าจะเป็นโลกียะ หรือโลกุตระ สุดท้ายก็ที่เดียวกัน ผมเองก็ไม่รู้อารมณ์ ผมจึงอธิบายสภาวะนั้นไม่ได้ คนที่ได้ ก็ไม่ได้มาบอกให้ทราบ คนที่ทราบก็รู้จากการเล่าสู่กันมา ก็หวังว่าพิพานก็ไม่เป็นเพียงแค่กิเลสขั้นสูง หรือเป็นเพียงแค่มายาให้คนหลงไหล หากสัญชาติญาณไม่ใฝ่คว้า ก็คงไม่มีประโยชน์อันที่ต้องไปกล่าวอีก

ขอให้เจริญในธรรม

 

ยินดีครับ ขอให้อดใจรออีกนิดนะครับ

 

คุณนุชชา ต้องขอโทษทีที่ตอบช้าไปหน่อย
การสร้างบารมี เรามักจะกล่าวถึง บารมี 10 ทัศน์ บ้าง 30 ทัศน์ บ้าง
บ้างก็กล่าวว่า มีเมตตาเป็นที่ตั้ง มีภูมิเมฆาเป็นที่สุด

หากจะแจงแจกกัน ก็คงไม่ต้องสร้างบารมีกันพอดี
สู้เราสร้างบารมีไปตามสัญชาติเราดีกว่า นะครับ


ผมจะแบ่งการสร้างบารมีอย่างง่ายๆ นะครับ ตามแนวผมนะครับ (แบบลูกทุ่ง) คือ บารมีอย่างอ่อน อย่างกลาง และอย่างแก่


- การสร้างบารมีอย่างอ่อน อาทิ การเจริญไตรสิกขา

- การสร้างบารมีอย่างกลาง อาทิ การเป็นผู้นำบุญ การเป็นผู้โปรดสัตว์ การผู้นำจิตวิญญาณ การเป็นผู้นำสร้างศาสนสถาน การผู้นำสอนและบรรยายธรรม ฯลฯ

- การสร้างบารมีอย่างแก่ อาทิ การเน้นการอฐิษฐานจิต เช่น ลูกขอเกิดทุกๆ ชาติไป แต่ละชาติของให้ลูกได้นำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ถึงฝั่งหมาย ฯลฯ ระดับนี้มักเป็นอะไรที่โดดเด่นเป็นพิเศษ คุณคิดว่าคุณกล้าพอที่จะทำอะไรบ้าบิ่นแบบไม่เหมือนชาวบ้านหรือเปล่าครับ


สำหรับใครจะอ้างหลักธรรมหลักการสร้างบารมีอะไร ผมไม่รู้เรื่องด้วยหรอก
เอาแบบบ้านๆ นี้แหละ ตามจริตดีนะครับ


ขอให้เจริญในธรรม

 

๐ สรรพธาตุสิ่งล้วนซึ่งเปนกลางโดยเพียงธรรมชาติธรรม ๐

แม้ "ประสงค์" เดียวกันหากต่าง "เจตนา" อาจจักสิ้นสุด "มิกอปรร่วมภูมิ"
​

แม้ "จุดหมาย" เดียวกันหากต่าง " กรรมมา" อาจจักสิ้นสุด "มิเฉกรูปการณ์"
แม้ "สมมุติ" เดียวกันหากต่าง "ชื่อนาม" อาจจักสิ้นสุด "มิแผลงคือกัน"
แม้ "สรรพเหตุ" เดียวกันหากต่าง "ปฏิปทา" อาจจักสิ้นสุด "มิเสมอผลสรรพ์"
แม้ "สัจจธรรม" เดียวกันหากต่าง "ปัญญา" อาจจักสิ้นสุด "มิลุพร้อมกาล"
แม้ " อัตตา" เดียวกันหากต่าง "จิตตา" อาจจักสิ้นสุด"มิมุ่งพ้นสู่อนัตตา"
แม้ " ธรรมชาติ" เดียวกันหากต่าง "สัมมา" อาจจัก "มิใคร่ก่อต้านมิจฉา"
แม้ "สรรพสิ่ง" เดียวกันหากต่าง "สัญญา" อาจจัก "มิว่างเวทนาโทษฅุณ"
แม้ " วัฏโลกาธาตุ" เดียวกันหากต่าง "เสฐียรจิตกลาง" อาจจัก
"มิทราบพบสมดุลย์แห่งนิพพาน"
แม้ " จุติการณ์" เดียวกันหากต่าง "รักษ์การณ์" อาจจัก
"มิบรรลุวิถีธรรมปริบูรณ์นิพพานด้วยสรรพสิ่งที่การณ์เสมือนกันทั้งปวง"

 

ได้ข้อมูลที่ต้องการแล้วค่ะ สมัครด้วยหนึ่งคนค่ะ วันที่ 26 กันยายน 2553