การใช้พลังอัคนีรักษาคน

ครับ อาจารย์ได้สอนติดดาบเจได ติด แล้ว ครับ แต่ ว่า ไม่ได้ นำมาใช้น่ะครับเพราะว่า สามารถเพราะ พัฒนา เป็น แบบรูปอื่นที่ดีกว่านั้น ครับ ซึ่ง สามารถ พลิกแพลง เป็น รูปแบบ ได้หลายแบบ ครับ อาจารย์ แค่ ไกด์ให้นิดหน่อย แต่ ผม พลิกแพลง ไปได้เยอะ เหมือนกันครับ ดาบสามารถพัฒนาเป็นได้หลายรูปแบบ จน เป็นรูปแบบ เหมาะ สำหรับ ตนเองได้คับ ครั้งแรกก็เป็นสีทอง แล้ว ก็ ยาว มาก เหมือนกัน ครับ แต่ ระยะหลังไม่ได้ยึดติดกับรูปลักษณะ เท่าไหร่ ครับ สามารถ ปรับ เปลี่ยน รูปแบบ ได้ ตามใจครับ ส่วน ตาที่สาม อาจารย์ไม่ได้เปิดให้ คับ เพราะ เปิด อยู่แล้ว แล้วก็ต่อกับตาเนื้อ โดย ตรงอยู่แล้วครับ (^_^)

 

ทำยังไงถึงจะเห็นแสงที่มือได้ครับ มองด้วยตาเนื้อเลยเหรอครับ แล้วตาที่สามของคุณmidias
มองเห็นอะไรบ้างครับ เช่นแสงออร่าหรือกายทิพย์ แล้วเอามาพัฒนาเป็นทิพจักขุญาณได้ไหมครับ
แบบเวลาจะฝึกเพ่งกสิณ ถ้าเราได้ตาที่สามจะเอามาใช้ในการฝึกกสิณได้ไหมครับ เช่นเพ่งแสงสว่าง
แล้วหลับตาใช้ตาที่สามสร้างภาพกสิณเป็นอุคหนิมิตรเหมือนตอนลืมตา อาไรประมาณนี้ครับ

 

ต้องออกตัวก่อนนะครับว่า ผมไม่เคยฝึก กสิณไฟ แบบ ที่ใคร เขาฝึกกันครับ ระยะแรก ตา ที่ สาม จะเหมือนเด็ก พึ่งเกิด คือ ยังไม่มองเห็นอะไรชัดนักครับ แต่กว่าจะเข้าเค้าโครงได้ ก็ ประมาณ 3เดือนเหมือนเด็ก แรกเกิด ครับ ต้องใจเย็นๆ นะครับ ถ้าเปิดครั้งแรก อาจไม่เห็นไม่ต้องโวยวาย ไปว่าเปิดแล้วไม่เห็นเห็นเลย นะครับ บางคน แต่จะได้บางอย่างขึ้นมาทดแทนมาก่อนครับ ใช่ก่อน ตาจะเปิด ครั้งแรก นั้น ของผม ประมาณ 75 % ผมได้อย่างแรก คือ รับรู้ด้วยเสียง เวลาไปไหน ถ้าที่แรงๆ ก็ จะได้ ยินเสียง ที่เขาพูดกับเรารับรู้ แต่ เป็น ภาษา ที่ฟังออกบ้าง ไม่ออกบ้าง บางครั้ง ถ้าแรงหน่อย ก็ เห็นตัวเป็นๆ แบบ ไม่ชัดครับ เหมือนกับ คุณมองไปที่สระน้ำที่ขุ่นๆ หน่อย คุณมองลงไปไม่เห็นปลาหลอก แต่ ปลา กลับเห็นคุณจ้องมองอยู่ ได้ครั้งแรก ทดแทน คือ เสียง ก่อน อันดับแรก เมื่อเปิดแล้ว ก็ยังไม่เห็นทีเดียว ต้องรอเวลา เพราะ ว่า บางอย่างไม่เชื่อมกับตาเนื้อ อาศัย ระยะเวลา พอสมควร เมื่อ เชื่อมเสร็จ ก็ยังไม่เห็น แต่ ก็มีทดแทนกลับมาคือ ระยะ จะรู้ว่าพื้นที่นั้น มีเทพ หรือ ภูติผี อยู่ใกล้ ถ้าไม่ได้ ทำร้าย หรือ เข้ามา ก่อกวน ก็ ต้องปล่อย เขา ทะลุผ่าน ไป แต่ ถ้าได้เจอเทพ ก็ จะรู้ได้ ว่า ที่นั่น มีเทพ และ เทวดา อยู่ ครับ

 

ขอบคุณครับที่ชี้แนะ

 

ก็ไม่ต้องเร่งพยายามมากน่ะครับปล่อยให้เป็นธรรมชาติ คือ จุดมุ่งหมายบางครั้งคนเราก็แตกต่างกัน ส่วนผมได้มาไม่ได้ใช้มากแต่พัฒนา เป็นรูปแบบ อื่น ที่สามารถ ช่วยเหลือ เพื่อนมนุษย์แทบทุกคนถ้าได้ร้องขอให้ช่วยน่ะครับ

 

คุณ midiasครับ คือผมอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมน่ะครับ เกี่ยวกับการรักษาคนด้วยพลังจิต ตามธาตุที่ต่างกันของแต่ละคน (ดิน ,น้ำ ,ลม ,ไฟ) ต้องมีหลักในการรักษาอย่างไรบ้าง? ทั้งคนป่วย คนรักษา และสถานที่ ต้องสัมพันธ์กันอย่างไรบ้างครับ... รบกวนช่วยหน่อยนะครับ (จะขอเป็นข้อมูลเบี้องต้น นำใปใช้ในการออกแบบสถานที่ๆนึงที่กำลังจะสร้างเกี่ยวกับการรักษาด้านนี้ครับ...) ขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

ว่าเรื่องของธาตุก่อนครับ เรื่องธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ส่วนตัว ของผมเป็น ธาตุไฟ แบ่ง เป็น 3 ชนิด ไฟที่มาจากไฟโดยตรง ไฟที่มาจากดิน ไฟที่มาจากแสง ผมจะมีอยู่ธาตุไฟ สาม ธาตุ การก่อกำเนิดไม่เหมือนกัน การใช้งานไม่เหมือนกันแหล่งที่มาก็ไม่เหมือนกัน แต่ ให้ความร้อนเหมือนกัน แต่ใช้ในการรักษาไม่เหมือนกัน แล้ว แต่ กำหนดว่า คนที่เป็นโรคนั้น ต้องใช้ธาตุไหนรักษาครับ อย่างที่ มอบให้กับอาจารย์ไป 3 ชิ้น เป็น ธาตุไฟ ทั้ง 3 ชนิด ธาตุเป็นแบบ ไฟเย็น กับ เป็น ธาตุไฟปรกติ ไฟร้อนเกิดจากที่ผสมกับธาตุดิน เปรียบเหมือน แม๊กม่า จาก ภูเขาไฟ ธาตุไฟจากจากแสงสว่าง เป็น การปรับระดับสภาพธาตุไฟของร่างกาย เวลาเรียกพลังของผมเลยต้องเรียกว่า อัคนี เพราะเป็นไฟหลายธาตุมารวมกันครับ ส่วนธาตุดิน ลม น้ำ ต้องรอคนมาตอบอีกทีน่ะครับ เพราะไม่ความรู้เท่าไหร่ครับ
ส่วนห้องในการรักษานั้น ควรเป็นห้อง ที่โปร่งสบาย อาจประกอบด้วย สีแดง เพราะ ว่า ธาตุที่มีอยู่เป็นธาตุไฟ ของใช้ควรเป็น สีแดง น่ะครับ ไม่อึดอัดมาก แล้ว ใช้โทนสีช่วยก็ดี ครับ ในขอบเขตของสีแดง ห้องควรเป็น ลักษณะ 8 เหลี่ยมก็ได้ครับ แต่เพราะว่าแปดเหลี่ยม เป็นสัญลักษณ์ ทางฮวงจุ้ยที่ดีครับ แล้วจัด ตามฮวงจุ้ยก็น่าโอเคนะครับ แล้ว ถ้าไงก็ลองปรึกษาเรื่องฮวงจุ้ยอีกทีดีกว่าครับ เพราะว่าห้องธาตุไฟต้องมีเบรคบางอย่างเพื่อไม่ให้ไฟมากเกินไม่งั้น ห้องนั้น อาจมีไฟไหม้บ่อยก็ได้นะครับ อิ อิ อิ เพราะว่าเกี่ยวการทำห้องที่เกี่ยวกับธาตุไฟโดยตรงครับ แรงมากนะครับ (^_^)

 

เป็นข้อมูลที่ดีมากครับ..แล้วธาตุของแต่ละคนมีที่มาจากอะไรครับ? จึงสามารถแยกได้ว่าใครธาตุน้ำ ธาตุดิน ลมหรือไฟ หรือแล้วแต่ว่าใครมีธาตุนั้นเยอะอยู่แล้วติดตัวมา หรือเกี่ยวกับปีที่เกิดกันล่ะครับ อันนี้ก็ยังสงสัยเหมือนกันครับ..ช่วยไขความลับหน่อยได้ไหมครับ...

 

โดยส่วนใหญ่ มนุษย์ จะประกอบธาตุที่มีอยู่แล้ว คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ แต่ เดือน เกิด และ ปีเกิดไม่น่าเกี่ยวครับแต่ วันเกิด ก็ ไม่น่าเกี่ยว เพราะผมเกิด ปีชวด เดือน กุมภา วัน อังคาร มันก็ไม่เกี่ยวครับ กับ ธาตุ ครับ น่าจะเกิดจากการสะสมบารมีมากกว่าครับ สอบถามทางอาจารย์ ตาที่สาม ได้ครับ เพราะว่าไม่กล้าคุยมากเดี๋ยวจะเว่อร์เกินไป ครับ เท่าที่รู้เรื่องของผมก็มีอาจารย์ ตาที่ สาม ครับ น่าจะเป็นความสามารถพิเศษ นอกเหนือจากการได้รับตาที่สามแล้วก็พลังที่มีก็เอาไว้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แต่ ก็ มีกฏ ที่ต้องรักษา อยู่ไม่กี่ข้อครับ แล้วตัวผมก็มีกฏ ที่ ต้องปฏิบัติ ไว้เหมือนกันครับ

 

อาจารย์เค้าก็บอกว่าผมธาตุไฟ (ดูทางเน็ต) แต่ผมไปอ่านในเวบอื่นแล้วรู้สึกว่าตัวเองเหมือนธาตุลมมากกว่า

 

เหมือนกับคุณ aonwit01 จิงๆ ผมว่าตัวผมเองเป็นธาตุลมเหมือนกันนะครับ เพราะ ถนัดเกือบหมด เรียนรู้เร็ว แต่ ได้พลังกลับเป็นพลังอัคนี ไป ซึ่งแรกเริ่มเดิมที ได้แล้ว ก็ยังไม่รู้จะใช้แบบไหน ด้วย ซ้ำ ก็เลยไปหาอาจารย์ ช่วยชี้แนะให้ เพราะ ตอนนั้นตัวเอง ก็ เปรียบเหมือนไอ้มดแดง ตอนแรก มีพลังแต่ไม่รู้จะทำยังไง แต่พออาจรย์เริ่มไก๊ด ก็ พัฒนา เป็น รูปแบบ ได้หลายรูปแบบ ทั้งทำลายแล้วสร้างสรรค์ ครับ ช่วยเหลือ คนเป้นหลัก ปราบเจ้าพ่อ ที่มารบกวนเพื่อนมนุษย์ แต่ งานรองๆ ก็นี่ มันกว่าครับ ครับ ก็ ถือว่าเป็น สาย บู๊ น่ะครับ มีกฎ ก็ ต้องรักษา อยู่ด้วยเหมือนกัน ครับ ก็หลังๆ ต้องรักษาตามกฎ บางครั้งรักษาโรคแบบ เสี่ยงมากๆ ก็ไม่ครับ เลย ระยะ หลัง เอาของฝาก ไว้ที่อาจารย์ ตาที่สาม ด้วยครับ เพื่อเป็นการเลี่ยง ที่จะรักษา ตรงๆ แต่ ตอนนี้ ก็ ใช้งานได้ดีพอสมควรครับ ก็ เลย ดีขึ้นกว่าเดิม ครับ ส่วนเงินที่ทำบุญ ใคร ฝากไว้ให้ ก็ คงจะเอาไปซื้อเทียนพรรษา ที่วัดแถวทางเหนือ เพราะ เข้าพรรษา แล้วครับ (^_^) แล้วถวายโอสถด้วยน่ะ ครับ แล้ว จะ ทำที่ของรักษา ก่อน เข้าพรรษา ด้วยน่ะ ครับ

 

ดีจัง ได้มีโอกาสช่วยเหลือคนอื่น ผมเนี่ยเกิดมาช่วยอะไรใครเค้าไม่ได้เลย แต่ความอยากช่วยนี่มันรุนแรงมากๆและผมเชื่อว่าวันหนึ่งผมต้องช่วยคนอื่นให้ได้

 

แค่การคิดว่าช่วยเหลือคน จิตก็เป็นกุศล ใหญ่หลวงครับ สักวันก็จะช่วยเหลือได้มากน้อยก็แล้วแต่กำลังแต่ละคน เพียงช่วยให้คนเหล่านั้นที่มีบาปติดตัวให้ลดลงหลุดพ้นได้นั้นย่อมเป็นสิ่งดีครับ ไม่จำเป็นต้องมีพลังของเทพเจ้า แต่แค่คุณมองเห็นแล้วช่วยเหลือได้ ไม่จำเป็นต้องมีพลังเช่นเทพเจ้า คุณก็สามารถสร้างกุศลแล้วผลบุญได้แล้วครับ

 

มนุษย์เคยเชื่อว่าทุกสิ่งในโลกประกอบด้วยธาตุ 4 ธาตุ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ส่วนผมคิดว่า
- มีธาตุ 3 ธาตุคือ ดิน น้ำ ลม
- มีพลังงาน 1 ธาตุ คือ ไฟ (ไฟอยู่ระหว่างธาตุและพลังงาน เหมือนกึ่งโลหะ)
- มีพลัง 3 ชนิด คือ ความมืด แสงสว่าง วิญญาณ
แล้คุณ Midias มีความเชื่อว่าอย่างไรครับ บอกผมหน่อย

 

เรื่องนี้จริงๆ ไม่แปลกครับได้ความหมายมานิดหน่อยในทางของผม
ธาตุดิน - ก็คือสิ่งที่สูญสลายได้ไม่ยั่งยืน เปรียบถึงอวัยวะทุกๆ ส่วน ของร่างกายมนุษย์
ธาตุลม - คือลมหายใจที่เราใช้ดำรงอยู่ในปัจจุบัน
ธาตุน้ำ - ระบบของการไหลเวียนโลหิตต่างๆรวมทั้งน้ำในร่างกายของเรา
ธาตุไฟ - คือพลังงานของเรากำลังงานของเราครับใช่ครับ ส่วนความมืด กับแสงสว่าง ก็ต้องใช้พลังงาน เหมือนกัน ก็อยู่กับธาตุไฟล้วนๆ นะ ครับ

 

พลังเพลิงหรือปล่าว

 

ครับ พลังไฟ แต่ เป็น พลังงานอีกรูปแบบหนึ่ง ก็ใช้พลังจิตแปลงเปลี่ยนเป็นรูปแบบ ในการรักษา แทนที่ จะเอาพลัง ไปใช้เพื่อส่วนตัว แต่นำมาเพื่อรักษามวลชนมากกว่าครับ ใช้ช่วยคนที่เดือดร้อนจริงๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกฎของเจ้ากรรมนายเวรนั้นผมถึงสามารถช่วยเหลือได้ ครับ

 

ทำไมมนุษย์ชอบคิดว่าพลังมืดเป็นสิ่งไม่ดีครับ ผมว่ามันก็เหมือนวิญญาณกับแสงนั่นแหละ สำคัญพอกัน

 

อิอิ สำคัญสิครับ ถ้าไม่มีความมืด เราจะยินดีเมื่อพบแสงสว่างกันไหม
และเมื่อแสงสว่างมันร้อนแรงจนเกินไป เราคงดีใจเมื่อพบร่มเงา...

อาจคนละประเด็นกัน แต่สื่อว่า everythingมันมาคู่กัน ...เหมือนกับฉันและเธอ
เย้ย

 

ความต้องการแต่ละคน ไม่เหมือนกันครับ บางคนชอบที่จะอยู่ในแสงสว่างที่มีคนพบเห็นมากมาย และ บางคน ชอบอยู่ในเงามืดแม้ในหลืบของจิตใจขอเพียงมีที่เล็กๆ พอที่จะหลบซ่อนเร้นในสิ่งแอบทำที่ตัวเองนั้นพอใจ นั้น ก็ เรียก ว่า มนุษย์ ผม ก็ไม่ได้ แต่ต่าง จากคนพวกนั้นสักเท่าไหร่ แตกต่างตรงที่มีจิตช่วยเหลือเพื่อนด้วยกันแค่นั้นครับ