กระทู้รวบรวมข้อมูลด้านพลังงานสำรอง

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูติอาคเนย์, 7 มีนาคม 2008.

  1. The whisperer

    The whisperer สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +22
    Generator ขนาด 10, 15 และ 20 กิโลวัตต์ แนะนำแบบไหน ราคา ประมาณ เท่าไหร่ ครับ ใครรู้ช่วยบอกหน่อย มีพระฝากมาถาม จะเอาไปปั่นไฟ
     
  2. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    เครื่องปั่นไฟที่จะทำให้ พระ + ลูกศิษย์วัด+ญาติโยม มีความสุขกันถ้วนหน้า ควรเป็นเครื่องที่ไม่แพง ใช้ง่ายซ่อมง่าย อย่าได้เอาเตรื่องยนต์ hi-tech (solar cell กังหันลม กังหันน้ำ ชีวมวลฯลฯ )ไปสร้างความทุกข์ให้พระท่านนะครับ เรียนเสนอแนะว่า หาซื้อแถวๆตำบลอำเภอใกล้ๆวัดประเภทเครื่องปั่นไฟที่ชาวบ้านในละแวกนั้นใช้กันทั่วไปและให้ทางร้านคอยช่วยดูแลซ่อมทำตามที่พระท่านจะโทร.เรียกด้วย ส่วน spec+ราคา จะเป็นอย่างไรคงต้องคุยกับทางร้าน ขออนุโมทนากับการบริจาคด้วยครับ
     
  3. The whisperer

    The whisperer สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +22
    เปล่า ครับ ไม่ได้ซื้อไปบริจาคครับ ไม่มีตังค์ขนาดนั้น แต่หาข้อมูลไปให้พระท่าน ท่านกำลังทำศูนย์วิปัสสนาที่ชัยภูมิ ครับ อยากได้ไฟฟ้า ต้องทำไงบ้างอะ นอกจากเครื่องปั่นไฟแล้วต้องซื้ออะไรเพิ่มบ้าง ถึงจะมีไฟฟ้า ใครรู้ตอบทีนะครับ
     
  4. ภูติอาคเนย์

    ภูติอาคเนย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +1,326
    ตอนนี้มีข่าวดีล่าสุดครับมีนักวิจัยชาวเยอรมันกับออสเตรเลีย
    คิดเครื่องยนต์พลังงานลมสำเร็จแล้ว ขับเคลื่อนรถยนต์ขนาดเบา
    วิ่งได้110-120km/h ถ้าท่านใดมีข้อมูลเอามาลงได้เลยครับ เดี๋ยวถ้าผมว่างจะหาข้อมูลมาลงให้
    พลังงานหยวกกล้วยที่อาจารย์ไก่โพสต์น่าสนใจมากครับ มีใครมีเพื่อนทำวิจัยหรือสนใจศึกษาเกี่ยวกับพลังงานจริงจังช่วยชวนมาคุยกันหน่อยจิครับ
    ได้มีคนรับผิดชอบส่วนนี้ไปจะได้ทันการ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2008
  5. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ทำไบโอดีเซลได้ จากหม้อก๋วยเตี๋ยว
    แต่เวลาคับขันจะหาเมททานอลจากไหน (ปัจจุบันนำเข้าจากซาอุ)
    มนุษย์ยุคหินเขาอยู่กันยังไงหนอ
    คงไม่ต้องชาร์จถ่าน rechargable

    ว่าแต่เราหุงข้าวไม่เสียบปลั๊กเป็นกันไหม
    ตอนนี้ตุนข้าวสารกันหน่อยค่ะ
    เวียตนามปิดประเทศเลิกส่งข้าวออกแล้ว
     
  6. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยึดตำราหนามยอกเอาหนามบ่ง เปลี่ยนก๊าซตัวการโลกร้อน ที่ได้จากโรงไฟฟ้าพลังแกลบให้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง

    [​IMG]
    ฉนวนกันร้อนจากเถ้าแกลบ-ซิลิกา:

    กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : รศ.ดร.เมตตา เจริญพานิช คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) วิจัยสังเคราะห์น้ำมันเบนซินและดีเซลจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซมีเทน
    ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจก โดยได้รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย และกระบวนการผลิตที่ใช้ไม่มีการปล่อยสารปนเปื้อนซัลเฟอร์ เมื่อเทียบกับการผลิตจากน้ำมันดิบ

    งานวิจัยนี้เป็นกระบวนการใหม่ ยังไม่มีการใช้ในระดับอุตสาหกรรมในโลก และผลงานวิจัยที่ได้ ก็มีแนวโน้มที่จะนำมาใช้จริงได้มาก โดยเมื่อนำผลิตภัณฑ์ที่ได้มากลั่นแยก จะได้ทั้งก๊าซหุงต้ม
    ประมาณ 25% น้ำมันเบนซินและดีเซลในปริมาณสูง หรือรวมกันได้ประมาณ 60%

    ในการวิจัยได้ใช้เถ้าแกลบเป็นวัตถุดิบ ในการสังเคราะห์ซิลิกาที่มีรูพรุนขนาดกลาง (7-9 นาโนเมตร) เพื่อใช้เป็นตัวรองรับตัวเร่งปฏิกิริยา และใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซมีเทน
    ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจก เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์น้ำมันเบนซินและดีเซล

    ขณะนี้คณะวิจัยกำลังเร่งพัฒนาตัวเร่ง ปฏิกิริยา ให้สามารถเพิ่มการเลือกน้ำมันเบนซินและดีเซลให้มากขึ้น และใช้งานได้ในระยะเวลานาน เพื่อตอบสนองความต้องการในการผลิตระดับอุตสาหกรรม
    พร้อมกับศึกษากลไกการเกิดปฏิกิริยาอย่างละเอียด เพื่อควบคุมกลไกดังกล่าว จากนั้นจะทดสอบสมรรถนะการใช้งานกับรถยนต์ ก่อนนำไปใช้งานในเชิงพาณิชย์ต่อไป

    "ผลงานวิจัยนี้เป็นการนำเทคโนโลยี สะอาด มาประยุกต์เข้ากับการแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานเพื่อลดมลพิษ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้น้ำมันดีเซล โดยเน้นเพิ่มขีดความสามารถ
    ในการพึ่งพาตนเอง และใช้ทรัพยากรทดแทนที่มีอยู่ภายในประเทศ รวมถึงของเสียจากกระบวนการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

    นอกจากนี้ยังเป็นแก้ปัญหาขาดแคลน พลังงานในกลุ่มก๊าซหุงต้ม น้ำมันเบนซิน และสารเคมีพื้นฐานในกระบวนการปิโตรเคมี ช่วยลดการนำเข้าวัตถุดิบผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีจากต่างประเทศ
    รศ.ดร.เมตตา กล่าว

    Credit : http://www.rssthai.com/reader.php?t=it&r=11515
     
  7. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แห่วางเครื่องโตโยต้าติดก๊าซ ขาดตลาด-ราคาพุ่ง-รถบ้านป่วน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 กรกฎาคม 2551 16:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ผู้ใช้รถแห่วางเครื่องใหม่รองรับการติดก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวี โดยเครื่องยนต์เบนซินของ “โตโยต้า” เป็นที่นิยมสุด ซึ่งนอกจากเครื่องตระกูล JZ ที่ปิกอัพชอบเปลี่ยนกันแล้ว ล่าสุดเครื่องยนต์เก๋งตระกูล “4A-FA” ของโตโยต้า โคโรลล่า รุ่นโดเรมอน และไฮทอล์ก เกิดปัญหาขาดตลาดและราคาพุ่งเช่นกัน เมื่อบรรดาแท็กซี่ที่ใช้รถยนต์เชฟโรเลต ออพตร้า ซีเอ็นจี และรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ ที่ไม่ใช่ โตโยต้า ลิโม่ หรือโคโรลล่า อัลติส ด้วยการนำมาติดแก๊สภายหลัง พอใช้งานไปได้เพียง 1 แสนกิโลเมตร เกิดปัญหาเครื่องพังและไม่สามารถหาอะไหล่ทดแทน จึงแห่มาวางเครื่องตระกูล 4A-FA ที่เป็นที่นิยมของรถบ้านด้วย จนปัจจุบันขาดตลาด และราคาพุ่งจาก 2 หมื่นบาท เป็นกว่า 3 หมื่นบาท แต่ถึงอย่างนั้นอู่ซ่อมแท็กซี่ยังยอมวางเงินจองซื้อกับร้านเชียงกงกันเลย ทำให้รถบ้านที่ต้องการวางเครื่องบล็อกนี้ปั่นป่วนไปด้วย ขณะเดียวกันอู่เตือนผู้ที่นำรถเปลี่ยนมาใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง ระยะประมาณ 1 แสนกิโลเมตรระวังมีปัญหา เพราะเครื่องยนต์ไม่ได้ออกแบบมารองรับโดยตรง โดยเฉพาะเครื่อง VTEC ของฮอนด้า แต่งานนี้คงห้ามลำบากเมื่อน้ำมันพุ่งบ้าเลือด จนปัจจุบันมีตัวเลขทะลุล้านคันไปแล้ว ขณะที่สถิติแจ้งมีเพียงกว่า 3 แสนคันเท่านั้น ทำให้กรมการขนส่งทางบกต้องเข้มเรื่องความปลอดภัย ออกประกาศบังคับให้ผู้ใช้รถจดแจ้งเปลี่ยนใช้เชื้อเพลิงก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวี เริ่มดีเดย์บังคับ 1 ส.ค.นี้ หากฝ่าฝืนปรับ 1,000 บาท

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> การดิ้นรนฝ่าวิกฤตราคาน้ำมันแพงของผู้ใช้รถ โดยหันไปพึ่งพลังงานทดแทนไม่ว่าจะเป็นก๊าซแอลพีจี (LPG)และก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี(NGV) เป็นเชื้อเพลิงแทน ในขณะนี้ที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือบริษัทน้ำมัน ล้วนไม่วางแผนพร้อมรับมือเท่าไหร่ ทำให้เกิดผลกระทบตามมามากมาย ทั้งก๊าซแอลพีจีขาดตลาด ราคาไม่ชัดเจนจะปรับขึ้นเท่าไหร่หรืออย่างไร และสถานีบริการรองรับไม่เพียงพอ เป็นต้น

    ไม่เพียงเท่านั้นยังส่งผลถึงวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่อง เช่นถังก๊าซขาดตลาด และเครื่องยนต์เบนซินบางรุ่นที่นิยมนำมาเปลี่ยนแทนเครื่องดีเซลเดิมของปิกอัพ เพื่อรองรับการติดตั้งก๊าซหลังจากราคาน้ำมันดีเซลพุ่งทะลุเบนซิน เกิดปัญหาขาดตลาดและราคาปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะเครื่องเบนซินโตโยต้ารหัส 1 เจแซด (1JZ) ขนาด 2.5 ลิตร ทั้งฝาขาว(เก่า)และฝาดำ(ใหม่) จากราคาเครื่องละประมาณ 2 หมื่นบาทเมื่อปลายปีที่แล้ว ปัจจุบันพุ่งเป็น 5-6 หมื่นบาท ตามที่ได้เคยรายงานข่าวไปแล้ว

    ล่าสุดไม่เฉพาะเครื่องยนต์ที่จะนำมาวางในปิกอัพเท่านั้นที่มีปัญหา ในส่วนของรถยนต์นั่งหรือเก๋งก็เช่นเดียวกัน เพราะเครื่องยนต์เบนซิน 1600 ซีซี ของโตโยต้าตระกูล 4A-FA ที่วางอยู่ในรถโตโยต้า โคโรลล่า รุ่น A101 หรือที่เรียกกันว่ารุ่นโดเรมอน และรุ่น A111 หรือรุ่นไฮทอล์ก เวอร์ชั่นก่อนรุ่นโคโรลล่า อัลติส ซึ่งรถบ้านและแท็กซี่ที่ต้องการเปลี่ยนเครื่องใหม่นิยมกัน เพราะสามารถวางในรถได้หลายยี่ห้อ เพียงปรับแท่นนิดหน่อยเท่านั้น ปัจจุบันได้ขาดตลาดและราคาพุ่งเช่นกัน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ทั้งนี้มีรายงานจากอู่ซ่อมรถว่า บรรดารถแท็กซี่ของจากสหกรณ์ที่ซื้อรถยนต์ติดก๊าซเอ็นจีวีจากโรงงาน เช่น รถยนต์เชฟโรเลต ออพตร้า หรือรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ ที่ไม่ใช่โตโยต้า ลิโม่ หรือโคโรลล่า อัลติส ใช้งานเพียงประมาณ 1 แสนกิโลเมตร หรือเกือบสองปีเท่านั้น เครื่องยนต์ก็เกิดปัญหาและพังเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะระบบวาล์วที่ไม่ได้ออกแบบให้สามารถรองรับความร้อนจากก๊าซแอลพีจี หรือเอ็นจีวีโดยตรง ซึ่งถ้าเป็นเครื่องยนต์โตโยต้าจะใช้งานได้นานประมาณ 3-4 แสนกิโลเมตร

    นอกจากนี้แท็กซี่ที่เกิดปัญหา ยังไม่สามารถหาอะไหล่เก่ามาเปลี่ยนทดแทนได้ ทำให้ต้องพากันยกเครื่องใหม่ เปลี่ยนมาใช้เครื่องตระกูล 4A-FA ของโตโยต้าแทน ซึ่งปกติเครื่องบล็อกนี้จะมีขายมากมายตามร้านเชียงกง เป็นที่นิยมของแท็กซี่และรถบ้านที่อยากวางเครื่องใหม่ เพราะสามารถปรับแต่งแท่นวางได้ง่าย และคุณภาพสมรรถนะการใช้งานทนทาน


    แต่ปรากฏว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บรรดาแท็กซี่ได้กว้านซื้อเครื่องยนต์บล็อกนี้จากเชียงกง จนเกิดปัญหาขาดตลาด และมีราคาปรับสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 2 หมื่นบาท เพิ่มเป็นกว่า 3 หมื่นบาทแล้ว ซึ่งจากผลดังกล่าวให้ปัจจุบันอู่แท็กซี่ต้องวางเงินจองซื้อจากเชียงกงกันเลยทีเดียว และยังทำให้รถบ้านที่ต้องการวางเครื่องยนต์ใหม่หาของไม่ได้เช่นกัน

    โดยอู่ซ่อมยังได้กล่าวถึงปัจจุบันที่ผู้ใช้รถหันมาติดตั้งก๊าซเป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมันว่า การที่รถยนต์หลายยี่ห้อไม่ได้ออกแบบเครื่องยนต์ให้สามารถรองรับความร้อนองก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวี ในอนาคตอีกไม่นานเชื่อว่าจะเกิดปัญหากับรถที่ติดตั้งก๊าซแน่นอน เมื่อใช้งานไปได้ประมาณ 1 แสนกิโลเมตร โดยเฉพาะเครื่องยนต์ V-TEC ของฮอนด้าที่ไม่มีน้ำมันหล่อลื่นระบบวาล์ว

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับผลจากการหันมานิยมติดตั้งก๊าซมากขึ้น ไม่เพียงส่งผลต่อวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องเท่านั้น ยังมีเรื่องของความปลอดภัยที่น่าเป็นห่วงเช่นกัน เพราะปัจจุบันมีสถานบริการติดตั้งก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวีเกิดขึ้นมามากมาย และย่อมมีบางแห่งที่ได้มาตรฐาน ทั้งเรื่องของการติดตั้งและอุปกรณ์ที่นำมาใช้

    ทั้งนี้จากข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ปัจจุบัน (30 มิถุนายน 2551) มีสถิติจำนวนรถที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงทั่วประเทศ 309,064 คัน แบ่งเป็นรถที่ใช้ก๊าซแอลพีจี 256,083 คัน และก๊าซเอ็นจีวี 52,981 คัน แต่จากการตรวจสอบข้อมูลจากผู้ติดตั้งและรายงานการตรวจและทดสอบอุปกรณ์กลับพบว่า ควมจริงมีปริมาณสูงกว่าจำนวนผู้มาแจ้งเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงมากและอาจจะมากกว่า 1 ล้านคันแล้ว ตรงนี้จึงทำให้กรมการขนส่งเป็นห่วงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย และได้ออกกฎคุมเข้มรถติดก๊าซให้มาตรวจสอบและจดแจ้งเปลี่ยนเชื่อเพลิงในเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป


    ชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้ออกประกาศให้เจ้าของรถยนต์ที่เปลี่ยนมาใช้ก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวี เป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมัน ต้องนำรถเข้ามารับตรวจสภาพเพื่อแจ้งเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันผ่านการตรวจสอบ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้ เพื่อควบคุมความปลอดภัยให้ได้อย่างครอบคลุม เนื่องจากขณะนี้การติดตั้งโดยเฉพาะก๊าซแอลพีจีบางแห่งไม่ได้มาตรฐาน

    โดยภายหลังประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ให้เจ้าของรถจะต้องนำรถและสมุดคู่มือ พร้อมเอกสารการติดตั้งและทดสอบจากผู้ตรวจและทดสอบที่กรมการขนส่งทางบกให้ความเห็นชอบไปตรวจสภาพและแจ้งเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงยังสำนักงานขนส่งภายใน 15 วัน หลังจากวันตรวจและทดสอบ โดยมีค่าดำเนินการจำนวน 105 บาท หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 36 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

    นี่คือความเคลื่อนไหวในแวดวงผู้ใช้รถยนต์ปัจจุบัน ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง โดยที่ภาครัฐไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือแบ่งเบาภาระได้ทันท่วงที จนทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย!!
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864
    อ่านเจอบทความเรื่อง "ไฟฟ้าพลังน้ำ เพื่อเผ่าตองเหลือง" จาก เว็บ สสส
    ขอนำมารวบรวมไว้ที่กระทู้นี้ด้วยเลยนะคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...