ให้บูชาวัตถุมงคลประจำปี ๒๕๖๗

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย phumiput, 1 มกราคม 2024.

  1. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +16,579
    รายการที่ ๑๑๑
    ให้บูชาเป็นคู่

    องค์แรกคือ พระพุทโธพิมพ์กลาง หลังพระธรรมเนื้อดินผสมมวลสาร ด้านหลังเป็นคำว่า พุทโธ ธาตุทอง(ไม่ค่อยได้พบเจอครับ ไม่ค่อยมีคนมาออกสำหรับคำพระธรรมนี้) ปี26 ของหลวงปู่สังวาลย์ วัดทุ่งสามัคคีธรรม สำหรับรุ่นนี้มีมวลสารสำคัญดังนี้
    1. ดินนิมิต วัดไกลกังวนเขาสารพัดดีศรีเจริญธรรม หลวงปู่สังวาลย์ท่านได้นำมาเป็นมวลสารผสม ลวงพ่อสังวาลย์ท่านนั่งเห็นดินที่มีคุณวิเศษในตัวอยู่ในสระน้ำของวัดเขาสารพัดดี โดยท่านได้นำหลวงพ่อบุญลือและคณะศิษย์ ไปชี้ตำแหน่งและขุดขึ้นมาโดยปั้นเป็นก้อนกลมๆขนาดกำปั้นผู้ใหญ่ โดยเอาผ้าห่อเอาไว้แล้วขนกลับมาที่วัด เมื่อมาถึงที่วัดแล้วท่านก็นำบาตรของหลวงพ่อป้อง ที่ได้ได้รับการถวายมาจากกำนันวงษ์ ( พี่ชายหลวงพ่อสุวรรณ ) มาใส่น้ำแล้วอธิษฐานขอบารมีหลวงพ่อป้องให้ท่านช่วยปลุกเสกดินให้เป็นรอบแรก แล้วจึงนำดินที่เป็นปั้นนั้นลงไปละลายในบาตรเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการสร้าง
    2. แป้งเสก หลวงปู่บุดดา หลวงปู่สังวาลย์ท่านเคารพในหลวงปู่บุดดาเป็นอย่างมาก
    ในการปั๊มพระแต่ละครั้งแป้งที่ใช้โรยเพื่อไม่ให้พระติดพิมพ์นั้นก็เป็นแป้งอธิษฐานของหลวงปู่บุดดา ทั้งสิ้น โดยหลวงพ่อสุวรรณได้ไปเช่าบูชา มาเป็นลังๆ (แป้งสปริงซอง)ซึ่งตอนนั้นหลวงปู่บุดดาท่านก็ยังดำรงขันธ์อยู่ครับ
    3. ของอธิฐาน อังคารธาตุ อัฐิธาตุ พระพุทโธน้อยที่แตกหัก ของคุณย่าบุญเรือนที่หลวงปู่สุวรรณ ได้รับมอบหมายจากหลวงปู่สังวาลย์ ให้จัดสร้างที่วัดอาวุธแล้วนำกลับมาที่วัดทุ่งสามัคคีธรรม พระพุทโธน้อยคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม แตกหัก ซึ่งเก็บรักษาอยู่ที่กุฏิ พระเทพเมธากร เจ้าอาวาสวัดอาวุธในสมัยนั้นหลวงพ่อสุวรรณท่านได้ถวายปัจจัยทำบุญ 20,000 บาทแล้วนำมาทั้งหมด โดยได้พระพุทโธแตกหักและผงมวลสารเก่าๆสมัยคุณแม่บุญเรือนประมาณ 2 ถังใหญ่ สาเหตุหลักที่หลวงพ่อสุวรรณท่านเจาะจงมวลสารนี้เพราะท่านได้รับคำสั่งสอนมาจากคุณแม่บุญเรือนว่า ฉันอธิษฐานพระให้เพียงหนเดียวเท่านั้น และพระฉันถึงแตกหักอย่างไร เมื่อนำมาบดแล้วสร้างใหม่ ก็ยังคงศักดิ์สิทธิ์เหมือนเดิมเช่นที่ฉันอธิษฐานให้ ซึ่งหลังจากการอธิษฐานพระพุทโธน้อยแล้วคุณแม่ก็ไม่ได้อธิษฐานพระที่ใดอีกเลย
    - ศิลาน้ำ คุณแม่บุญเรือน หลวงพ่อสุวรรณท่านได้รับมาจากคุณแม่บุญเรือนเป็นจำนวนมาก ได้นำมาตำจนละเอียด
    - ข้าวตอกพระร่วง คุณแม่บุญเรือน หลวงพ่อสุวรรณท่านได้รับมาจากคุณแม่บุญเรือนเป็นจำนวนมาก ได้นำมาตำจนละเอียดในส่วนผสมนี้หากใช้กล้องส่องจะพบว่าเป็นเม็ดดำๆคล้ายๆนิลอยู่ในเนื้อพระ
    - ปูนแดงเสก คุณแม่บุญเรือน
    - และส่วนผสมที่สำคัญที่สุดในพระชุดนี้คือ อัฐิธาตุ และ ผงอังคารธาตุ ของคุณแม่บุญเรือน จำนวนมากที่หลวงพ่อสุวรรณท่านได้เก็บรักษาไว้ โดยหลวงพ่อสุวรรณท่านได้บอกกล่าวขออนุญาตคุณแม่ แล้วนำมาบดใส่ทั้งหมดที่ท่านมีอยู่ซึ่งท่านที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนใส่บอกว่า ท่านกำอัฐิธาตุ และผงอังคารธาตุที่บดแล้วใส่ในการผสมเนื้อในแต่ละครั้งละเป็นกำๆเลยที่เดียว น้ำที่ใช้ประสานเนื้อในพระชุดนี้เป็นน้ำที่ได้มาจากการทำพิธีเสกน้ำ จากศิลาน้ำของคุณแม่บุญเรือนทั้งสิ้นและยังมีน้ำเสกที่คุณแม่เคยเสกไว้ให้ รวมทั้งน้ำที่ได้จากการล้างบาตรหลวงพ่อป้อง (ล้างเพื่อเอาดินที่ติดอยู่ออก)

    ดังนั้นถ้าไม่มีพระพุทโธของคุณแม่ชีบุญเรือน วัดอาวุธ ก็สามารถใช้รุ่นนี้แทนได้ครับ ราคาเบากว่ากันมากมายครับ
    หลวงปู่สังวาลย์ท่านมรณภาพแล้วร่ายกายไม่เน่าเปื่อยครับ
    ราคาพระของท่านเริ่มขยับแล้วครับ


    องค์ที่สอง ตะกรุดไม้รวก (สารพัดดี) หลวงปู่สังวาลย์ท่านมีดำริให้ตัดไม่ไผ่สีทองที่เขาสารพัดดี (ของกายสิทธิ์)มาทำเป็นตะกรุด พุทธคุณครอบจักรวาลแล้วแต่อธิษฐาน ดีทุกอย่างตามชื่อตะกรุดสารพัดดี ค้าขาย เมตตา แคล้วคลาด บ้างก็ว่าป้องกันการจมน้ำ
    ผมให้บูชาคู่นี้ 500 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ องค์นี้คราบแป้งเสกของหลวงปู่บุดดา ชัดเจนครับ
    1714628690271.jpg 1714628695578.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2024 at 00:48
  2. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +16,579
    รายการที่ ๑๑๒
    ให้บูชาปลาตะเพียน (งับทรัพย์) สีเขียวจิ๋ว (เขียวเหนี่ยวทรัพย์)ของ หลวงพ่อเอ บ้านสุมโน จัดสร้างโดยใช้สุดยอดมวลสารที่ท่านเก็บไว้นานมากนั่นคือ ผงว่าน ๑๑๑ ชนิด ที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกเสาร์ห้า ณ วิหารร้อยเมตร วัดท่าซุง โดยหลวงพ่อฤๅษี เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๕
    หลวงพ่อเอได้อธิษฐานจิตเสกวาระเเรกเมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๖๔ ท่านใช้เวลาเสกอยู่เกือบ ๑ ชั่วโมง ในระหว่างที่ท่านเสกอยู่นั้นเป็นเรื่องที่เเปลกมากคือมีเเมวจากไหนก็ไม่รู้มาร้องอยู่ตรงหน้าต่างชั้นสองบ้านสุมโนใกล้ๆบริเวณที่หลวงพ่อเสกอยู่ ปกติก็ไม่มี คำถามคือทำไมต้องมาร้องตอนหลวงพ่อเสกปลาตะเพียน… หลวงพ่อท่านเลยเฉลยว่า จำได้ไหมตอนเสกจตุราวุธกับเสกเหรียญนกฮูกก็มีนิมิตให้เห็นลักษณะนี้
    เเอดเลยถึงบางอ้อทันที เลยพูดเล่นๆว่า สงสัยหลวงพ่อเสกปลาตะเพียนให้มีชีวิตจริงๆขั้นเเมวยังอดใจไม่ไหวเลยนะครับ…
    วาระที่ ๒ หลวงพ่อเอได้อธิษฐานจิตในวันสวดพระคาถาเงินล้านของบ้านสุมโน ทั้งวันเสาร์เเละอาทิตย์
    วาระที่ ๓ ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกในวันวิสาขบูชาซึ่งปีนี้ตรงกับวันเพ็ญพุธเเละยังเกิดจันทรุปราคาอีก ตามเคล็ดเเล้วถือเป็นวันที่เน้นหนักไปทางด้านลาภมหาศาล ซึ่งหลวงพ่อท่านให้พรไว้ว่า ขอให้หากินหาทรัพย์ได้ง่ายๆ คล่องตัว ว่องไว เร็วกว่าใครๆ หลบหลีกอุปสรรคศัตรูเเละคู่เเข่งได้อย่างสบาย…ปลาของฉันต้องอ้าปากทุกตัวจะได้งับทรัพย์ได้มากๆ ช่วงที่หลวงพ่อท่านเเจกปลาตะเพียนให้พระที่มาร่วมงานเเอดได้ยินหลวงพ่อบ่นว่า หยิบเเจกเเค่ตัวสองตัว ทำไมปวดเเขน เหมือนมีพลังงานวิ่งขึ้นมาบริเวณเเขน เเอดเคยได้ยินท่านบ่นเเบบนี้ครั้งหนึ่งคือตอนจัดเรียงพระคำข้าว หางหมากเมื่อหลายปีที่เเล้ว จะไม่ให้มีอาการคล้ายได้อย่างไรล่ะครับ มวลสารที่สร้างก็ขลังซะขนาดนั้น…

    เพิ่มเติม
    เรื่องเล่าข้างเก้าอี้ ปลาตะเพียน (งับทรัพย์)
    สวัสดีผู้อ่านที่รักทุกท่านครับ ช่วงนี้ฝนตกอากาศเย็นเลยมีอารมณ์อยากเล่าเรื่องสนุกๆ ตื่นเต้นให้ทุกท่านได้อ่านกัน เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๑ พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลวงพ่อท่านสั่งว่าให้เตรียมดอกไม้บายศรี ท่านจะเสกวัตถุมงคล ผู้เขียนก็งง ไม่มีอะไรให้เสกนี่นา หรือจะเป็นตะกรุดมหาสะท้อนรุ่น ๒ เเต่ก็เสกมาตั้งหลายวาระเเล้วทั้งหลวงพ่อเอเสกเดี่ยว พิธีที่พระอาจารย์บ๊ะมาเสกพอร์ซเลนมังกรกับนกฮูกก็นำเข้าไปเสกด้วย เเล้วจะเสกอะไรหว่า…
    คิดยังไม่ทันจบ ท่านก็เรียกให้เข้าไปดูกล่องที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ของที่อยู่ในกล่องคือ ปลาตะเพียน ตัวเล็กน่ารักเต็มไปหมด ผู้เขียนจึงได้คำตอบว่าท่านจะเสกอะไร
    ตั้งเครื่องบวงสรวงเรียบร้อยได้เวลาตามฤกษ์ยามหลวงพ่อท่านก็เริ่มบูชาพระรัตนตรัยเเล้วนั่งประจำที่อันสมควรเริ่มอธิษฐานจิตเสกปลาตะเพียน (งับทรัพย์) เเละ ตะกรุดมหาสะท้อน รุ่น ๒ ท่านใช้เวลาเสกอยู่ ๑ ชั่วโมงเต็มๆ หลังจากเสร็จท่านก็เล่าให้ฟัง หลวงปู่จงท่านน่ารักมากเลย ท่านมานั่งกระหย่งๆเสกปลาตะเพียนให้อยู่พักใหญ่ๆ ต่อด้วยหลวงพ่อพระสีวลีก็มายืนทับวัตถุมงคลสีทองสว่างจ้าไปหมด ท่านเเม่ก็มาช่วยเสกให้ลูกหลานอีกเเล้ว ปิดท้ายด้วยฉัพพรรณรังสีสว่างวาบลงมากลางกองวัตถุมงคล
    “ช่วงที่หลวงพ่อเสกมีเเมวมาร้องอยู่ตรงหน้าต่างด้วยครับ มาได้ไงก็ไม่รู้”
    เจ้าหน้าที่อีกคนนึงก็พูดเสริมว่า “ตอนหลวงพ่อเสก โต๊ะที่วางกระถางธูปเชิงเทียนสั่นด้วยครับ”
    หลวงพ่อท่านพูดว่า “ตอนเสกหลวงพ่อไม่ได้ยินอะไรเลย เเต่ก็คงเป็นนิมิตให้รู้เหมือนที่พระอาจารย์บ๊ะท่านบอกน่ะ”
    “สงสัยหลวงพ่อเสกจนเเมวได้กลิ่นปลาตะเพียน มันเลยจะมากินปลา” ผู้เขียนพูดเเต่หลวงพ่อท่านตอบเเค่ว่าเดี๋ยวจะเสกวันสวดคาถาเงินล้านเสาร์อาทิตย์นี้เเละวันวิสาขบูชาจะพุทธาภิเษกอีกรอบ
    พอถึงวันวันวิสาขบูชาซึ่งปีนี้ตรงกับวันเพ็ญพุธเเละยังเกิดจันทรุปราคาอีก ตามเคล็ดเเล้วถือเป็นวันที่เน้นหนักไปทางด้านลาภมหาศาล ปลาตะเพียน (งับทรัพย์) ตะกรุดฉุดเงินล้าน รุ่น ๒ เเละวัตถุมงคลของบ้านสุมโนอีกหลายรายการได้เข้าพิธีนี้ งานนี้หลวงพ่อไหลมาเทมาเมตตาเทบาตรลงมากลางกองวัตถุมงคลอีกเเล้ว หลวงพ่อพระสีวลีก็มายืนทับเหมือนเดิม หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุงเมตตามาเสกให้ด้วย สงสัยงานนี้จะรวยกันใหญ่
    หลวงพ่อท่านให้พรไว้ว่า ขอให้หากินหาทรัพย์ได้ง่ายๆ คล่องตัว ว่องไว เร็วกว่าใครๆ หลบหลีกอุปสรรคศัตรูเเละคู่เเข่งได้อย่างสบาย…ปลาของฉันต้องอ้าปากทุกตัวจะได้งับทรัพย์ได้มากๆ
    ช่วงที่หลวงพ่อท่านเเจกปลาตะเพียนให้คนที่มาร่วมงานเเอดได้ยินหลวงพ่อบ่นว่า หยิบเเจกเเค่ตัวสองตัว ทำไมปวดเเขน เหมือนมีพลังงานวิ่งขึ้นมาบริเวณเเขน เเอดเคยได้ยินท่านบ่นเเบบนี้ครั้งหนึ่งคือตอนจัดเรียงพระคำข้าว หางหมากเมื่อหลายปีที่เเล้ว คงไม่เเปลกเพราะปลาตะเพียนทำจากมวลสารที่เข้าพิธีปี ๓๕ ที่วิหาร ๑๐๐ เมตร วัดท่าซุง
    แค่สองสามพิธีนี้ก็มากพอที่จะทำให้ผู้เขียนอยากได้ปลาตะเพียน (งับทรัพย์)มาติดตัวเเล้ว เเต่หลวงพ่อท่านยังไม่เเล้วใจ เพราะท่านจะทำอะไรญาติโยมต้องได้ของที่ดีที่สุด ท่านจึงสั่งให้นำปลาตะเพียนไปที่อินทร์บุรี เดินทางฝ่าพายุฝนที่ตกหนักไปตลอดทางน้ำท่วมหลายจุด ประหนึ่งเอาปลาตะเพียนมาเล่นน้ำ… พอไปถึงหลวงพ่อสั่งว่าอย่าเพิ่งเอาปลาตะเพียนลงไปนะ… หลังจากที่หลวงพ่อได้กราบเเละพูดคุยทักทายพระอาจารย์บ๊ะสักพักพระอาจารย์บ๊ะก็หยิบปลาตะเพียนของหลวงพ่อจง ที่เพิ่งเลี่ยมเสร็จใหม่ๆออกมาให้หลวงพ่อเอดู พวกเราที่อยู่บริเวณนั้นต่างหันมามองหน้ากัน
    อะไรจะพอดีขนาดนั้นงานนี้สบายเเล้ว มีสื่อของระดับปรมาจารย์อย่างหลวงพ่อจงเเบบนี้… พอมีจังหวะหลวงพ่อก็สั่งให้ไปยกลังปลาตะเพียนลงมา จังหวะที่พระอาจารย์บ๊ะเห็นก็หัวเราะชอบใจพร้อมกับพูดว่า “เรื่องบังเอิญไม่มีในโลก” ท่านหยิบปลาตะเพียน (งับทรัพย์) ขึ้นมาดู “น่ารัก โอเคเลยนะ จะเสกอะไรเพิ่มดี” ท่านก็หลับตาเอามือจับที่กล่องปลาตะเพียน (งับทรัพย์) พร้อมกับวางปลาตะเพียนเงินตะเพียนทองของหลวงพ่อจง ไว้บนกล่องด้วย พอลืมตาท่านบอกว่า “ รวยเเล้ว ขายของดีเดี๋ยวมีคนหมั่นไส้ เลยเติมความปลอดภัย ใครทำร้ายเราเเต่เราไม่เจ็บไม่เป็นไร รอดไปได้เเบบสบายๆ”
    น่าเเปลกที่ท่านไม่อัดเรื่องลาภเข้าไปเลย หรือท่านจะรู้ว่าปลาตะเพียนนี้อัดเเน่นเต็มไปด้วยลาภผลเเล้ว จึงเติมด้านอื่นให้ โชคดีของคนที่จะได้ปลาตะเพียน (งับทรัพย์) ไปพกติดตัวจริงๆ… พิมพ์มาก็ยาวพอสมควร ถือซะว่ามาเเบ่งปันประสบการณ์ที่ได้พบเจอให้ผู้อ่านได้ทราบไปด้วยกัน ชอบก็กดไลค์ ถูกใจก็กดเเชร์ เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ ตอนนี้เมฆฝนเริ่มตั้งเค้ามาอีกเเล้ว ฝนตกทีไรผู้เขียนง่วงทุกทีขอตัวไปนอนก่อนครับ
    สวัสดี
    ข้อมูลเพิ่มเติม
    ที่มาเเละประวัติการจัดสร้าง
    ปลาตะเพียนสีเเดง (งับทรัพย์) หลวงพ่อเอจัดสร้างโดยใช้สุดยอดมวลสารที่ท่านเก็บไว้นานมากนั่นคือ ผงว่าน ๑๑๑ ชนิด ที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกเสาร์ห้า ณ วิหารร้อยเมตร วัดท่าซุง โดยหลวงพ่อฤๅษี เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๕
    หลวงพ่อเอได้อธิษฐานจิตเสกวาระเเรกเมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๖๔ ท่านใช้เวลาเสกอยู่เกือบ ๑ ชั่วโมง ในระหว่างที่ท่านเสกอยู่นั้นเป็นเรื่องที่เเปลกมากคือมีเเมวจากไหนก็ไม่รู้มาร้องอยู่ตรงหน้าต่างชั้นสองบ้านสุมโนใกล้ๆบริเวณที่หลวงพ่อเสกอยู่ ปกติก็ไม่มี คำถามคือทำไมต้องมาร้องตอนหลวงพ่อเสกปลาตะเพียน… หลวงพ่อท่านเลยเฉลยว่า จำได้ไหมตอนเสกจตุราวุธกับเสกเหรียญนกฮูกก็มีนิมิตให้เห็นลักษณะนี้
    เเอดเลยถึงบางอ้อทันที เลยพูดเล่นๆว่า สงสัยหลวงพ่อเสกปลาตะเพียนให้มีชีวิตจริงๆขั้นเเมวยังอดใจไม่ไหวเลยนะครับ…
    วาระที่ ๒ หลวงพ่อเอได้อธิษฐานจิตในวันสวดพระคาถาเงินล้านของบ้านสุมโน ทั้งวันเสาร์เเละอาทิตย์
    วาระที่ ๓ ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกในวันวิสาขบูชาซึ่งปีนี้ตรงกับวันเพ็ญพุธเเละยังเกิดจันทรุปราคาอีก ตามเคล็ดเเล้วถือเป็นวันที่เน้นหนักไปทางด้านลาภมหาศาล ซึ่งหลวงพ่อท่านให้พรไว้ว่า ขอให้หากินหาทรัพย์ได้ง่ายๆ คล่องตัว ว่องไว เร็วกว่าใครๆ หลบหลีกอุปสรรคศัตรูเเละคู่เเข่งได้อย่างสบาย…ปลาของฉันต้องอ้าปากทุกตัวจะได้งับทรัพย์ได้มากๆ ช่วงที่หลวงพ่อท่านเเจกปลาตะเพียนให้พระที่มาร่วมงานเเอดได้ยินหลวงพ่อบ่นว่า หยิบเเจกเเค่ตัวสองตัว ทำไมปวดเเขน เหมือนมีพลังงานวิ่งขึ้นมาบริเวณเเขน เเอดเคยได้ยินท่านบ่นเเบบนี้ครั้งหนึ่งคือตอนจัดเรียงพระคำข้าว หางหมากเมื่อหลายปีที่เเล้ว จะไม่ให้มีอาการคล้ายได้อย่างไรล่ะครับ มวลสารที่สร้างก็ขลังซะขนาดนั้น…
    วาระที่ ๔ เข้าพิธีพระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังการ์ อธิษฐานจิตเสกที่บ้านสุมโน
    วาระที่ ๕ เข้าพิธีพุทธาภิเษกที่โบสถ์เก่าวัดท่ามะขาม โดยมีหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน เป็นองค์ประธานในการอธิษฐานจิตปลุกเสก
    ข้อมูลจากเกษมธรรมบำเพ็ญบุญ
    ปลาตะเพียนเเดงชุดนี้ได้ผ่านการเข้าพิธีสำคัญๆเพิ่มเติมอีก ๒ พิธี คือ พิธีพระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา อธิษฐานจิตเสกที่บ้านสุมโน เเละ พิธีพุทธาภิเษกที่วัดท่ามะขามโดยมีหลวงพ่อเล็กวัดท่าขนุนเป็นองค์ประธานอธิษฐานจิตเสก ครูบาอาจารย์เมตตาอธิฐานจิตปลุกเสกหลวงพ่อสีวลี, หลวงพ่อฤาษีลิงดำ, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, องค์แม่กวนอิม (เมตตามาประสิทธิให้ในพิธี)
    พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน พระอาจารย์เอ บ้านสุมโน พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกาสำหรับสีแดงนี้

    (เนื้อรุ่นนี้เปราะเนื่องจากเล็กและแก่มวลสาร เวลาเลี่ยมต้องให้ช่างระวังหน่อยครับ)
    ผมมีอยู่ 2 องค์เท่านั้นครับ ให้บูชาองค์ละ 200 จัดส่ง 30 บาท
    20240504_005705.jpg 20240504_005717.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2024 at 00:48
  3. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +16,579
    รายการที่ ๑๑๓
    ให้บูชาไม้ครูขนาด 8 นิ้วของหลวงพ่อชิต วัดบ้านสนวน จ.ศรีษะเกษ ท่านจารเต็มทั้งหัวท้าย และมีโค้ดตอกครับ
    ไม้กระแซงนั้น หลวงพ่อชิต วัดบ้านสนวนท่านบอกว่า ไม้กระแซงเหมาะทำมาเป็นไม้ครูของท่านมาก
    วิธีใช้
    ตระกรุดสารพิษ ไม้ครู และพระหยดน้ำ หลวงพ่อชิต วัดบ้านสนวน
    1.คาถาบูชา
    ตั้งนะโม 3 จบแล้วอราธนา ว่า...
    พุทธัง อาราธนา ธัมมัง อาราธนา สังฆัง อาราธนา
    2.ข้อห้ามขณะพกพาตระกรุดหรือไม้ครู
    •ห้ามพกติดตัวตอนร่วมประเวณีเด็ดขาด
    • ห้ามพกติดตัวตอนฆ่าสัตว์ หรือรังแกสัตว์มีพิษ ถ้าจำเป็นต้องฆ่าให้ถอดออกจากตัวแล้วฆ่าเพื่อไม่ให้เสียตระกรุด
    •ห้ามพกพาตระกรุดหรือไม้ครูลอดสะพานหัวเดียวเด็ดขาด(เช่นท่าเรือ)
    • ห้ามเอาตระกรุดหรือไม้ครู ฟาด ตี เคาะ ผู้อื่นอาจทำให้ตายได้ ถ้าเกิดมีการลืมพลั้งมือให้รีบตั้งขัน 5 ขอขมาครูบาร์อาจารย์
    •ห้ามใช้ไม้ครูหรือตระกรุดจี้ตามตัวผู้ที่มีเข็มอาคมหรือตระกรุดฝังไว้ในตัว พุทธคุณของไม้ครูและตระกรุดจะทำให้เข็มวิ่งตามตัวและหาที่ออกอาจวิ่งออกทางตาทำให้ตาบอดได้
    3.ถ้าผีเข้าให้เอาไม้ครูหรือตระกรุดจิ้มแทงทันทีจะดีขึ้นหรือหายทันที
    4.ถูกผีรบกวนสถานที่อยู่อาศัย บ้านเรือนเข้าอยู่ใหม่ ให้นำเอาปลายตระกรุดหรือไม้ครูฝังไว้ในที่ดิน 1 คืนจะดีขึ้น
    5.ถูกคุณไสย์ วิธีทำน้ำมนต์ให้ตั้งขัน 5
    •นำตระกรุดหรือไม้ครูด้านปลายแช่น้ำไว้จุดธูป 5 ดอกแช่ไว้จนกว่าธูปจะไหม้จนหมด
    • นำน้ำมนต์มาดืมกินห รืออาบ พรมบ้าน ส่วนหนึ่ง
    •ที่เหลือให้นำมาแช่เท้าผู้ที่ถูกคุณไสย์และเอาปลายไม้ครูหรือตระกรุดแช่น้ำไว้ด้วย ให้ทำ 3 วัน วันละไม่เกิน 3 ชั่วโมงก่อนเที่ยงวัน คุณไสย์จะถูกไม้ครูหรือตระกรุดดูดออกมาทางน้ำมนต์จะเห็นเป็นสีดำและค่อยจางจนหมดไป
    6.ผู้ที่พกไม้ครูหรือตระกรุดติดการ ปกติแล้วสัตว์มีพิษจะไม่กัดต่อย ยกเว้นสัตว์บางชนิด ผู้ใดที่ถูกสัตว์มีพิษกัดต่อย ปัก แทง ให้อาราธนา ไม้ครูหรือตระกรุดด้านปลายจี้ตรงที่โดนต่อยหรือกัดกดไว้ตรงที่แผล กดลงไปจะเพิ่มความปวดขึ้นอีกมากให้อดทนกดเอาไว้ห้ามดึงออกจะค่อยทุเลาและหายเจ็บและปวด สัตว์มีพิษน้อยให้กดทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีก็เริ่มดีขึ้น แต่ถ้าสัตว์ที่มีพิษรุนแรงเช่น งูเห่างูจงอาง ใช้เวลาดูประมาณ 2 ชั่วโมงจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ
    7.ตระกรุดและไม้ครูเป็นพุทธคุณ จะไม่อยู่รวมกันกับ ภูต ผี ปี ศาจ ปอป วัวธนู หุ่นพยนต์ โหงพราย กุมารทอง และคุณไสย์ทุกชนิด เมื่อเข้าใกล้ตระกรุดและไม้ครูจะขับไล้ทำลายให้เสื่อมสิ้นไป หรือเข้ามาใกล้ตระกรุดหรือไม้ครู คุณไสย์จะสั่นร้อนจนตกดินได้ยินเสียงทันใด
    8.ตระกรุดหรือไม้ครูเป็นพุทธคุณชั้นสูง มีอนุภาพแคล้วคลาด เมตตามหานิยม ครอบจักรวาล ให้อธิฐานจิตเรียกเอาแล้วแต่จะใช้งาน สร้างโดยพระภิกษุผู้ทรงอภิญญา สร้างให้เฉพาะรายบุคลเท่านั้น ผู้ที่ได้ไปกราบไหว้บูชาให้นำไปใช้ในทางที่ดี ช่วยเหลือผู้คนให้เป็นกุศล ผู้ที่มีไว้กราบไหว้บูชาถือว่าเป็นบุญวาสนาของท่านแล้ว
    ถ้านำไปใช้ในทางที่ผิดและเรียกเก็บเงินจากผู้อื่นหรือนำไปค้ากำไรจะถูกสูบลงธรณีคืนหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ

    ประสบการณ์เกี่ยวกับสัตว์มีพิษมีมากมาย คนที่พกติดตัวขนาดเล็กหรือขนาดบูชา(ขนาดใหญ่)ที่เห็นชัดเจนกันมากคือสัตว์มีพิษต่าง ๆ จะหมดแรง จะไม่ขยับตัวทำให้จับได้ง่าย
    ประสบการณ์ของเพี่อนผมที่เห็นได้ชัด คือไปจับตุ๊กแก ขณะที่ตัวเองพกไม้ครูขนาดเล็กติดตัวไว้ ปรากฏว่าตุ๊กแกอ่อนแรงไม่ขยับ พอไปปล่อยห่างจากตัว ตุ๊กแกต้องใช้เวลาสักพักถึงจะขยับตัวได้ ส่วนประสบการณ์ของท่านอื่น ส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์มีพิษอย่างตะขาบ และ งูพิษ พอใกล้ไม้ครูจะอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับตัว ประสบการณ์ด้านอื่น ๆ ไม่ว่าจะขับไล่สิ่งไม่ดีเช่นวิญญาณต่าง ๆ หรือการรักษาโรคก็มีประสบการณ์เช่นกันครับ
    ให้บูชาด้ามละ 1500 จัดส่ง 50 จองได้สามวัน
    20240429_152205.jpg 20240429_152213.jpg 20240429_152217.jpg 20240429_152245.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2024 at 01:03
  4. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +16,579
    รายการที่ ๑๑๔
    ให้บูชากำไล โอม (เป็นอักชระอินเดียคำว่าโอม )รอบกำไล รุ่นนี้พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา ทำพิธีเสกที่สำนักปฎิบัติธรรมวิปัสสนา พระมหาจักรพรรดิ์โพธิสัตว์กวนอิม อยุธยา
    สำหรับกำไลนั้นพระอาจารย์บ๊ะเคยกล่าวกับลูกศิษย์ว่าถ้าอยากมีกำไร ก็ควรใส่กำไลเป็นเคล็ด และกำไลรุ่นนี้ท่านเองก็เป็นองค์เสก ทำเพียงรุ่นเดียวครับ
    ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณสองนิ้วครึ่งครับ เหมาะกับสตรี ถ้าเป็นผู้ชายต้องเป็นคนข้อมือเล็กครับ
    มีเพียง 3 วงเท่านั้นครับ กำไลมีเดีอยล็อก สามารถกางออกได้ครับ ไม่ลอกไม่ดำ
    ให้บูชาวงละ 400 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    FB_IMG_1714791940236.jpg FB_IMG_1714791946395.jpg FB_IMG_1714791949422.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2024 at 00:49
  5. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +16,579
    รายการที่ ๑๑๕
    ให้บูชาตะกรุดมหาบุรุษ ๘ จำพวก เนื้อทองแดง ของ วัดอุทยาน จำนวนการสร้างเนื้อนี้สร้างเพียง 500 ดอก
    ตะกรุดรุ่นนี้พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกาและเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย วัดถ้ำเขาวงร่วมเสก และพระอาขารย์เล็ก วัดท่าขนุน เสกปิดท้าย
    (( พิธีนี้ดีมากๆ พระอาจารว์บ๊ะเมตตาบอกวันนี้ )) พระอาจารย์บ๊ะเมตตาแนะนำให้ทำตะกรุดนี้ในฤกษ์ดาว ๕ ดวงในส่วนฤกษ์ดาว ๕ ดวง ๑๐๐ ปี จะมีสักครั้ง จะหนุนชีวิตแก่ผู้ที่บูชา
    พุทธาภิเษกในฤกษ์ดาว ๕ ดวง วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๕
    ตามตำราครูบาอาจารย์ เชื่อกันว่าจะก่อให้เกิด ลาภยศ สรรเสริญ สุข อย่างอัศจรรย์ ท่านว่าเป็นบุญเป็นกุศลด้วยคุณวิเศษ ตามที่พรรณาไว้มากมาย สรุปได้ว่า ผู้ใดมีตระกรุดนี้ไว้ประจำตัวแล้วเจริญภาวนาด้วยพระคาถา หัวใจพระอริยสัจ "ทุสะมะนิ" เป็นประจำ คนยากจนจะเป็นเศรษฐี เศรษฐีจะรักษาทรัพย์ไว้ได้นาน คนโชคร้ายกลายเป็นคนโชคดี คนไม่มียศจะมียศ คนไม่มีผัวจะมีผัว คนไม่มีเมียจะได้เมีย ผัวเมียรังเกียจกันจะคืนดีต่อกัน คนไม่มีลูกจะมีลูก ไม่มีปัญญาจะเกิดปัญญา บ้านเมือง ไร่ นา สวน บริษัท ห้างร้าน วัดวาอาราม ที่เสื่อมโทรมเอาตระกรุดฝังไว้หรือติดไว้ที่ป้ายบริษัทห้างร้านจะเจริญรุ่งเรือง บรรจุไว้ใต้ฐานพระประธานคนกราบไหว้บูชาเจริญภาวนาจะเกิดโชคลาภยิ่งใหญ่
    ตะกรุดมหาบุรุษ ๘ จำพวกนั้น ในพระธรรมบทท่านหมายเอา มรรค ๔ ผล ๔ คือ
    ผู้เป็นโสดาปัตติมรรค ผู้ได้โสดาปัตติผล
    ผู้เป็นสกิทาคามิมรรค ผู้ได้สกิทาคามิผล
    ผู้เป็นอนาคามิมรรค ผู้ได้อนาคามิผล
    ผู้เป็นอรหัตตมรรค ผู้ได้อรหัตตผล
    รวมเป็นบุคคลแปดจำพวกที่ควรแก่การกราบไหว้บูชา
    ในทางไสยศาสตร์ท่านหมายถึงเอาหัวใจของมหาบุรุษผู้วิเศษสุด ถึง ๘ ท่าน ใน ๘ ด้าน จาก ๘ ทิศในทั่วทั้งจักรวาล มาบรรจุในตะกรุดดอกนี้ ได้แก่ ...
    หัวใจของมหาบุรุษผู้เป็นพระเจ้ามหาจักรพรรดิ เหนือกว่าพระเจ้ามหาจักรพรรดิทั้งปวง ๑ หัวใจของยอดท้าวพระยา ผู้มีอำนาจเหนือกว่าท้าวพระยาทั้งปวง ๑ หัวใจยอดขุนพลแก้ว ผู้มีความกล้าหาญ เหนือกว่ายอดขุนพลทั้งปวง ๑ หัวใจของยอดปราชญ์ ผู้รู้รจนา เหนือกว่าปราชน์ทั้งปวง ๑ หัวใจของมหาเศรษฐี ผู้มีทรัพย์สมบัติเหนือกว่ามหาเศรษฐีทั่วไป ๑ หัวใจของท่านราชครู ผู้มีความรู้เหนือกว่าราชครูทั้งปวง ๑ หัวใจของพระพุทธเจ้า อีก ๑ รวมเป็น ๘ มหาบุรุษแปดจำพวก
    มีจำนวน 3 ดอก
    เหลือ 2 ดอก ให้บูชาดอกละ 360 บาท จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    20240507_155751.jpg 20240507_155901.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2024 at 00:50
  6. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,069
    ค่าพลัง:
    +6,471
    -ขอจอง 1 ดอกครับ
     
  7. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +16,579
    รับทราบการจองที่ ๑๑๔ ตะกรุดมหาบุรุษ ๘ จำพวก จำนวน ๑ ดอกครับ ขอบพระคุณมากครับ
     
  8. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +16,579
    รายการที่ ๑๑๖
    ให้บูชาเหรียญแม่โกยเงินโกยทอง เนื้อทองแดง (ขนาดเหรียญบาทโดยประมาณ) ด้านหลัง เป็นพาย หลวงปู่เพิ่ม วัดอุทยาน (เรือทองเศรษฐี) รุ่นบารมีหลวงปู่เพิ่ม ของ วัดอุทยาน
    สำหรับรุ่นนี้มีข้อมูลดังนี้

    สำหรับรุ่นนี้ทางพระอาจารย์โรจน์ได้ปรึกษากับพระอาจารย์บ๊ะเกี่ยวกับการจัดสร้างเหรียญรุ่นนี้พระอาจารย์บ๊ะเมตตาให้ยันต์มาเพื่อจัดสร้างเหรียญ และได้คุยกับท่านเรื่องหลวงปู่เพิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทยาน ท่านเก่งขนาดไหนครับ พระอาจารย์บ๊ะบอกว่า ก็ถือว่าท่านเก่งที่สุดในคุ้งน้ำนั้นนะ และท่านเก่งอะไรครับ ท่านเหรอเก่งทุกอย่างช่วยได้ตั้งแต่เกิดยันตาย เก่งสุด
    สำหรับหลวงปู่เพิ่มนั้นท่านถือว่าเป็นต้นตำรับเรือทองเศรษฐี
    เป็นที่ร่ำลือว่า แม่ค้าพ่อค้าที่มาตักบาตร หลวงปู่เพิ่มจะมอบแผ่นทอง ๑ แผ่น ให้ไปติดที่หัวเรือ ปรากฏว่า พ่อค้าแม่ค้าที่นำแผ่นทองดังกล่าวไปติดที่หัวเรือ ปรากฏว่า ทำมาค้าขายดีขึ้นจนร่ำรวยไปตามกัน จนเป็นที่เล่าขานถึงปัจจุบัน ชาวบ้านที่มากราบไหว้ขอพร จะท่องคาถาบูชา ว่า "นะสีเล นะสีเล
    นะสีเล สีเลนะ" ซึ่งเป็นวลีธรรมประจำตัวหลวงปู่เพิ่ม ที่กล่าวปรารภเป็นประจำว่า "ประสงค์สิ่งใด จงอธิษฐานตามความประสงค์ เทอญ นะสีเล สีเลนะ"

    พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ได้เคยกล่าวถึงหลวงปู่เพิ่มไว้ในเสียงธรรมแห่งวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๕ ว่าดังนี้
    คราวนี้ในการบวงสรวงพุทธาภิเษกครั้งนี้ ก็มีส่วนหนึ่งที่อยากจะกล่าวถึงคือว่า ครูบาอาจารย์ที่ท่านมาสงเคราะห์ตามลำดับนั้น ยังมีอดีตเจ้าอาวาส คือหลวงปู่เพิ่ม เรือทองเศรษฐีมาด้วย ซึ่งหลวงปู่เพิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทยานนั้น ท่านเป็นครูบาอาจารย์รุ่นราวคราวเดียวกับหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
    หลวงปู่เพิ่มท่านพายเรือออกบิณฑบาตเป็นประจำ บุคคลใดอยากจะมีโชคดี ก็ขออนุญาตปิดทองที่หัวเรือของหลวงปู่ แล้วอธิษฐานขอโชคขอลาภ ขอให้ค้าขายดี ปรากฏว่าทุกคนประสบความสำเร็จอย่างที่ต้องการ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงมีผู้นิยมปิดทองมากขึ้น ๆ จนกระทั่งหลวงปู่เพิ่มท่านได้ฉายาโดยอัตโนมัติว่า "เรือทองเศรษฐี" ขอยืนยันว่าฉายาของหลวงปู่เพิ่ม วัดอุทยาน คือ เรือทองเศรษฐี


    พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดอุทยาน ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ครูบาอาจารย์เมตตาอธิฐานจิต
    ๑. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร
    ๒. พระครูสมุทรพิทยาคม (หลวงพ่อใจ ฐิตาจาโร) วัดพระยาญาติ
    ๓. พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน
    ๔. พระครูปลัดสุวัฒน์ วิสุทธิสารคุณ (พระอาจารย์เทียนชัย) เจ้าอาวาสวัดเทพสรธรรมาราม
    ๕. พระอาจารย์ศิริชัย ชัยธัมโม (พระอาจารย์บ๊ะ) วัดโพธิ์ลังกา
    ๖. พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน
    ๗. พระอาจารย์เอกลักษณ์ ปญฺญาคโม วัดพุทธพรหมยาน
    พระอาจารย์บ๊ะเมตตา บอกว่า วันนี้เจ้าของวัดมาด้วยนะ ไม่ธรรมดา นึกขึ้นได้ในกองวัตถุมงคลมี่เหรียญนางโกย หลังพายหลวงปู่เพิ่ม และพายไม้ขนุนรูปหลวงปู่เพิ่ม วัดอุทยาน *** แม่โกยเงิน แม่โกยทอง***ิ แล้วยังได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้าที่วัดท่าซุงเมื่อเดือนพฤษภาคม ๖๕ อีกครั้งด้วยครับ

    ส่วนข้อมูลแม่นางโกยเงินโกยทองมีดังนี้
    แม่นางกวัก(นางโกย) ไว้ได้สุดเข้มขลัง ท่านบรรจุพุทธคุณ เรียกธาตุทั้ง ๔ เรียกขวัญแม่นางกวัก ให้มาสถิตอยู่เป็นมิ่งขวัญ มาช่วยเกื้อหนุนแก่ผู้นำแม่ไปบูชา ให้บันดาลโชคลาภ ธุรกิจการค้าเจริญรุ่งเรือง ขายดี มีกำไล เงินทองไหลมาเทมา ตามคติโบราณ ตามตำราที่ท่านรํ่าเรียนมา หากใครเคยกราบท่าน จะรู้ว่าท่านตั้งใจสร้างมาก ทุกอย่างที่ท่านสร้างท่านตั้งใจตั้งแต่เริ่มสร้าง จนเสกเสร็จ เรื่องสายเมตตาท่านไม่แพ้ใครแน่นอน

    วิธีบูชาแม่นางโกย
    บูชาดอกไม้สีแดง น้ำอย่าให้ขาด เอาสตางค์หนุนฐานสี่ด้าน ถ้าได้ผลให้นำสร้อยทอง(ชุบ) มาคล้องไปเรื่อยๆ ส่วนน้ำแล้วแต่สะดวก น้ำเปล่า น้ำแดง เขียว ส้ม ยกเว้นน้ำสีดำห้ามถวาย
    ถ้าได้โชคลาภทางหวย ทุกครั้งให้ถวายทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง 3 อย่างด้วย แล้วผลไม้ 1 อย่างที่เป็นพวง น้ำมะพร้าวอ่อน พวงมาลัย 5 สี 1 พวง
    ถ้าค้าขาย ก็แค่ดอกไม้แดง และน้ำแล้วแต่เลือก(ห้ามสีดำ) พร้อมของที่เราขาย 1 ถ้วยก่อนขึ้นหิ้ง ถ้าสะดวกหรือขายดีให้ถวายบายศรีปากชาม 1 คู่ ท่านที่อยากบนบานศาลกล่าวกับแม่นางโกย ขอให้บนบานด้วยเครื่องใช้ของผู้หญิง อาทิเช่น แป้งผัดหน้า ลิปสติก น้ำอบแหวน สร้อย ชุดไทยเล็ก สไบ เป็นต้น แล้วแต่โชคลาภที่ได้
    คาถาบูชา ตั้งนะโม 3 จบต่อด้วย
    นะโมพุทธายะ ยะทาพุทโมนะ โอมแม่โกยเงินไหลนอง แม่โกยทองไหลมา จะเหลียวซ้ายแลขวา โกยมาไวไว เอหิ เอหิ หลังจากสวดเสร็จแล้ว อยากขออะไรจากแม่นางโกย ให้ลูบที่ตัวแม่ (ให้เรียกแม่จ๋าทุกคำ) แล้วตั้งจิตขออย่างที่ใจอยากจะให้แม่นางโกยช่วย

    เหรียญอยู่ในซองเดิม
    ให้บูชาเหรียญละ 230
    ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

    272266.jpg 272265.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2024 at 00:57
  9. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +16,579
    รายการที่ ๑๑๗
    ให้บูชาเหรียญแม่โกยเงินโกยทอง เนื้อทองแดง (ขนาดเหรียญบาทโดยประมาณ) ด้านหลัง เป็นพาย หลวงปู่เพิ่ม วัดอุทยาน (เรือทองเศรษฐี) รุ่นบารมีหลวงปู่เพิ่ม ของ วัดอุทยาน
    สำหรับรุ่นนี้มีข้อมูลดังนี้

    สำหรับรุ่นนี้ทางพระอาจารย์โรจน์ได้ปรึกษากับพระอาจารย์บ๊ะเกี่ยวกับการจัดสร้างเหรียญรุ่นนี้พระอาจารย์บ๊ะเมตตาให้ยันต์มาเพื่อจัดสร้างเหรียญ และได้คุยกับท่านเรื่องหลวงปู่เพิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทยาน ท่านเก่งขนาดไหนครับ พระอาจารย์บ๊ะบอกว่า ก็ถือว่าท่านเก่งที่สุดในคุ้งน้ำนั้นนะ และท่านเก่งอะไรครับ ท่านเหรอเก่งทุกอย่างช่วยได้ตั้งแต่เกิดยันตาย เก่งสุด
    สำหรับหลวงปู่เพิ่มนั้นท่านถือว่าเป็นต้นตำรับเรือทองเศรษฐี
    เป็นที่ร่ำลือว่า แม่ค้าพ่อค้าที่มาตักบาตร หลวงปู่เพิ่มจะมอบแผ่นทอง ๑ แผ่น ให้ไปติดที่หัวเรือ ปรากฏว่า พ่อค้าแม่ค้าที่นำแผ่นทองดังกล่าวไปติดที่หัวเรือ ปรากฏว่า ทำมาค้าขายดีขึ้นจนร่ำรวยไปตามกัน จนเป็นที่เล่าขานถึงปัจจุบัน ชาวบ้านที่มากราบไหว้ขอพร จะท่องคาถาบูชา ว่า "นะสีเล นะสีเล
    นะสีเล สีเลนะ" ซึ่งเป็นวลีธรรมประจำตัวหลวงปู่เพิ่ม ที่กล่าวปรารภเป็นประจำว่า "ประสงค์สิ่งใด จงอธิษฐานตามความประสงค์ เทอญ นะสีเล สีเลนะ"

    พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ได้เคยกล่าวถึงหลวงปู่เพิ่มไว้ในเสียงธรรมแห่งวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๕ ว่าดังนี้
    คราวนี้ในการบวงสรวงพุทธาภิเษกครั้งนี้ ก็มีส่วนหนึ่งที่อยากจะกล่าวถึงคือว่า ครูบาอาจารย์ที่ท่านมาสงเคราะห์ตามลำดับนั้น ยังมีอดีตเจ้าอาวาส คือหลวงปู่เพิ่ม เรือทองเศรษฐีมาด้วย ซึ่งหลวงปู่เพิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทยานนั้น ท่านเป็นครูบาอาจารย์รุ่นราวคราวเดียวกับหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
    หลวงปู่เพิ่มท่านพายเรือออกบิณฑบาตเป็นประจำ บุคคลใดอยากจะมีโชคดี ก็ขออนุญาตปิดทองที่หัวเรือของหลวงปู่ แล้วอธิษฐานขอโชคขอลาภ ขอให้ค้าขายดี ปรากฏว่าทุกคนประสบความสำเร็จอย่างที่ต้องการ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงมีผู้นิยมปิดทองมากขึ้น ๆ จนกระทั่งหลวงปู่เพิ่มท่านได้ฉายาโดยอัตโนมัติว่า "เรือทองเศรษฐี" ขอยืนยันว่าฉายาของหลวงปู่เพิ่ม วัดอุทยาน คือ เรือทองเศรษฐี


    พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดอุทยาน ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ครูบาอาจารย์เมตตาอธิฐานจิต
    ๑. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร
    ๒. พระครูสมุทรพิทยาคม (หลวงพ่อใจ ฐิตาจาโร) วัดพระยาญาติ
    ๓. พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน
    ๔. พระครูปลัดสุวัฒน์ วิสุทธิสารคุณ (พระอาจารย์เทียนชัย) เจ้าอาวาสวัดเทพสรธรรมาราม
    ๕. พระอาจารย์ศิริชัย ชัยธัมโม (พระอาจารย์บ๊ะ) วัดโพธิ์ลังกา
    ๖. พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน
    ๗. พระอาจารย์เอกลักษณ์ ปญฺญาคโม วัดพุทธพรหมยาน
    พระอาจารย์บ๊ะเมตตา บอกว่า วันนี้เจ้าของวัดมาด้วยนะ ไม่ธรรมดา นึกขึ้นได้ในกองวัตถุมงคลมี่เหรียญนางโกย หลังพายหลวงปู่เพิ่ม และพายไม้ขนุนรูปหลวงปู่เพิ่ม วัดอุทยาน *** แม่โกยเงิน แม่โกยทอง***ิ แล้วยังได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้าที่วัดท่าซุงเมื่อเดือนพฤษภาคม ๖๕ อีกครั้งด้วยครับ

    ส่วนข้อมูลแม่นางโกยเงินโกยทองมีดังนี้
    แม่นางกวัก(นางโกย) ไว้ได้สุดเข้มขลัง ท่านบรรจุพุทธคุณ เรียกธาตุทั้ง ๔ เรียกขวัญแม่นางกวัก ให้มาสถิตอยู่เป็นมิ่งขวัญ มาช่วยเกื้อหนุนแก่ผู้นำแม่ไปบูชา ให้บันดาลโชคลาภ ธุรกิจการค้าเจริญรุ่งเรือง ขายดี มีกำไล เงินทองไหลมาเทมา ตามคติโบราณ ตามตำราที่ท่านรํ่าเรียนมา หากใครเคยกราบท่าน จะรู้ว่าท่านตั้งใจสร้างมาก ทุกอย่างที่ท่านสร้างท่านตั้งใจตั้งแต่เริ่มสร้าง จนเสกเสร็จ เรื่องสายเมตตาท่านไม่แพ้ใครแน่นอน

    วิธีบูชาแม่นางโกย
    บูชาดอกไม้สีแดง น้ำอย่าให้ขาด เอาสตางค์หนุนฐานสี่ด้าน ถ้าได้ผลให้นำสร้อยทอง(ชุบ) มาคล้องไปเรื่อยๆ ส่วนน้ำแล้วแต่สะดวก น้ำเปล่า น้ำแดง เขียว ส้ม ยกเว้นน้ำสีดำห้ามถวาย
    ถ้าได้โชคลาภทางหวย ทุกครั้งให้ถวายทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง 3 อย่างด้วย แล้วผลไม้ 1 อย่างที่เป็นพวง น้ำมะพร้าวอ่อน พวงมาลัย 5 สี 1 พวง
    ถ้าค้าขาย ก็แค่ดอกไม้แดง และน้ำแล้วแต่เลือก(ห้ามสีดำ) พร้อมของที่เราขาย 1 ถ้วยก่อนขึ้นหิ้ง ถ้าสะดวกหรือขายดีให้ถวายบายศรีปากชาม 1 คู่ ท่านที่อยากบนบานศาลกล่าวกับแม่นางโกย ขอให้บนบานด้วยเครื่องใช้ของผู้หญิง อาทิเช่น แป้งผัดหน้า ลิปสติก น้ำอบแหวน สร้อย ชุดไทยเล็ก สไบ เป็นต้น แล้วแต่โชคลาภที่ได้
    คาถาบูชา ตั้งนะโม 3 จบต่อด้วย
    นะโมพุทธายะ ยะทาพุทโมนะ โอมแม่โกยเงินไหลนอง แม่โกยทองไหลมา จะเหลียวซ้ายแลขวา โกยมาไวไว เอหิ เอหิ หลังจากสวดเสร็จแล้ว อยากขออะไรจากแม่นางโกย ให้ลูบที่ตัวแม่ (ให้เรียกแม่จ๋าทุกคำ) แล้วตั้งจิตขออย่างที่ใจอยากจะให้แม่นางโกยช่วย

    เหรียญอยู่ในซองเดิม
    ให้บูชาเหรียญละ 230
    ติดจอง จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

    272268.jpg 272267.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2024 at 00:51
  10. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,069
    ค่าพลัง:
    +6,471
    -ขอจองรายการที่ 116 ครับ
     
  11. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +16,579
    รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณมากครับ
     
  12. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +16,579
    รายการที่ ๑๑๘
    รายการฝาก
    ให้บูชาโอปอลแท้ ขนาด 9 มิล ของพระอาจารย์เอ บ้านสุมโน
    สำหรับข้อมูลรุ่นนี้มีดังนี้
    โอปอลแม่๕ธาตุ

    เมื่องานสวดมนต์ข้ามปีที่ผ่านมา หลวงพ่อเอได้รับคำสั่งให้บวงสรวงเเม่ ๕ ธาตุ ตั้งเเต่ต้นปี ๖๕ ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อท่านยังไม่ทราบถึงเหตุผล เพราะการบวงสรวงลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะทำช่วงปลายปี เเต่เมื่อเวลาผ่านไปเเค่ ไตรมาสเเรกของปี ๖๕ ภัยธรมชาติได้เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น พายุทอร์นาโดถล่มอเมริกา น้ำท่วมครั้งใหญ่หลายประเทศในเอเชีย รวมถึงประเทศไทยของเราเจอทั้งพายุฟ้าฝนผิดปกติ เเละไฟไหม้ที่มีข่าวให้เห็นเเทบทุกวัน น้ำป่าไหลหลาก อาหารมีราคาเเพงขึ้น สิ่งเหล่านี้คือคำเฉลยว่า ทำไมถึงต้องบวงสรวงเเม่ ๕ ธาตุ ตั้งเเต่ช่วงต้นปี หากปล่อยเวลาผ่านไปถึงปลายปี เหตุการณ์อาจทวีความรุนเเรงจนคาดไม่ถึงก็ได้…

    ทุกๆปีหลวงพ่อจะได้รับคำสั่งให้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาเพื่อป้องกันภัยที่เกิดจากธาตุทั้ง ๕ โดยเเต่ละปีจะมีอำนาจป้องกัน หนุนเสริม เเตกต่างกันออกไปตามวาระเเละสถานการณ์ในปีนั้นๆ
    สำหรับปี ๖๕ นี้ คำสั่งคือ อัญมณีที่สั่งสมตัวและถือกำเนิดจากธรรมชาติซึ่งมีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก นั่นคือ #โอปอล เป็นเเร่ที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร เนื่องจากเค้ามีประกายเเสงสีต่างๆของอัญมณีชนิดอื่น มารวมอยู่ในตัวเอง ประกายสีเเดงของทับทิม สีม่วงของอเมทิสต์ สีเขียวของมรกต สีน้ำเงินของไพลิน เเละสีเหลืองของบุษราคัม ซึ่งสอดคล้องกับคำสั่งที่หลวงพ่อเอได้รับว่า ธาตุทั้ง ๕ จะมารวมตัวกันอยู่ในโอปอลนี้ เรียกว่า พกหนึ่งได้ถึงห้า อีกทั้งปีนี้น้ำเป็นใหญ่ #โอปอล จึงเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งน้ำ เพราะ ในโอปอลจะมีส่วนผสมของน้ำเป็นจำนวนมาก เมื่อแสงกระทบเข้ากับอนุภาคของทรายจึงเกิดเป็นแสงสวยงามสีต่างๆอย่างที่เห็น

    โอปอลเป็นอัญมณีโบราณ ที่ได้รับความนิยมมาหลายพันปีแล้ว เค้าได้สั่งสมดูดซับพลังงานต่างๆไว้ในตัวเอง ชาวโรมันยกให้โอปอลเป็นอัญมณีที่มีค่ามากที่สุด เป็นอัญมณีเเห่งความหวัง ช่วยเสริมสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้น มีอำนาจป้องกันอันตรายจากศัตรูเเละสิ่งชั่วร้าย อีกทั้งยังช่วยให้จิตใจที่สับสนวุ่นวาย กลับกลายเป็นความสงบ ช่วยหนุนเสริมให้เกิดสมาธิได้ง่าย นี่คือคุณสมบัติพิเศษของ โอปอล ทั้งยังผ่านพิธีบวงสรวงเเม่ ๕ ธาตุที่บ้านสุมโน เเละพิธีหายโศกที่หลวงพ่อเล็ก เป็นองค์ประธานพุทธาภิเษกในโบสถ์วัดท่ามะขาม เมื่อวันงานหล่อพระพุทธศากยมุนีศรีสง่าที่ผ่านมาอีกด้วย ทำให้ โอปอลชุดนี้ กลายเป็นวัตถุมงคล ที่มีอานุภาพเพิ่มขึ้นทับเท่าทวี ไม่ว่าจะเป็นด้านป้องกัน โปรด ปราบ ลาภ ผล หรือด้านการปฏิบัติเจริญกรรมฐานก็จะก้าวหน้า เข้าสู่อารมณ์สมาธิได้เร็วขึ้น เรียกว่าครบพร้อมในตัวเอง รวมถึงยังช่วยปรับธาตุทั้ง ๕ ในร่างกายเราให้เกิดความสมดุล ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราไม่ป่วยง่าย เหนือสิ่งอื่นใด พิธีหายโศกนี้ ได้รับพระพุทธเมตตาจากสมเด็จองค์ปฐม ทรงสงเคราะห์มายังวัตถุมงคลในพิธี เมื่อหลวงพ่อเล็กอธิษฐานจิตเสร็จ ท่านพูดว่า

    “ไม่มีใครเลิศกว่าพระพุทธเจ้าอีกแล้ว”

    นี่จึงถือเป็นวัตถุมงคลเเห่งปี ๖๕ จริงๆ แอดขอบอกว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะของมันต้องมี...
    ***ข้อควรระวังเกี่ยวกับโอปอล***

    โอปอลเป็นอัญมณีที่มีเนื้ออ่อน เปราะบาง เเตกหักเเละเกิดรอยร้าวภายในได้ง่าย ต้องระมัดระวังเรื่องการกระทบกระเเทกหรือการเสียดสีอย่างยิ่ง ห้ามโดนน้ำ เเอลกอฮอลล์ น้ำมัน หรือสารเคมีต่างๆ เพราะจะทำให้ประกายสีสันอันงดงามของโอปอล หายไปต่อหน้าต่อตาได้เลย...
    ขนาดประมาณ 9 มิล วัดจากด้านยาวครับ
    เจ้าของบูชาตามราคาของวัดคือ 900 บาท
    แต่เนื่องจากต้องการเงินให้บูชา 750 บาทครับ จัดส่ง 40 จองได้สามวัน
    20240329_134142.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2024 at 00:52
  13. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +16,579
    รายการที่ ๑๑๙
    ให้บูชาธงนารายณ์พลิกแผ่นดิน วัดบ้านห้วยน้ำขาว กาญจนบุรี ขนาด 8*11 นิ้ว เข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ณ วัดบ้านห้วยน้ำขาว จ.กาญจนบุรี เมื่อ 30 เมษายน 2563 โดยพระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ พระอาจารย์เอกลักษณ์ วัดพุทธพรหมยาน
    ข้อมูลมาจากเพจวัดบ้านห้วยน้ำขาว
    ต้นกำเนิดวิชานารายณ์พลิกแผ่นดิน” มาจาก พระนารายณ์หรือพระวิษณุ มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่แห่งศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู เป็นหนึ่งใน 3 มหาเทพสูงสุดหรือ ตรีมูรติ อันได้แก่พระพรหม พระวิษณุ และและศิวะ วิชานารายณ์พลิกแผ่นดินหรือคาถานารายณ์พลิกแผ่นดินเป็นหนึ่งในบทสวดอิติปิโส 8 ทิศหรือ คาถายันต์เกราะเพชร เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) สำเร็จวิชานารายณ์แปลงรูป ได้รับถ่ายทอดมาจากหลวงปู่แสง หรือ “ขรัวตาแสง” อดีตเจ้าอาวาสวัดมณีชลขัณฑ์ จ.ลพบุรี และมีการถ่ายทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน วิชานารายณ์มีพุทธคุณสูงมากเป็นเมตตามหานิยมมหาเสน่ห์ เป็นมหาละลวย เป็นที่ติดตาตรึงใจเพศตรงข้ามเปลี่ยแปลงผลิกผันสรรพเรื่องราวไปในทางที่ดีทั้งชีวิต อาชีพ หน้าที่การงาน สิ่งอวมงคลจากร้ายให้กลายเป็นดีสมกับคำว่า “นารายณ์พลิกแผ่นดิน” ความเชื่อความศรัทธาในศาสตร์วิชา นารายณ์พลิกแผ่นดินมีมาแต่โบราณกาลช่วยแก้หนุนดวงที่ร้ายให้กลายเป็นดี “เปรียบน้ำนิ่ง เน่าร่าย ไม่ไหวติง กลับทวีใหญ่ยิ่ง ดุจทะเล” ผู้ใดดวงตก ดวงไม่ดีอาราธนาปัด วนศรีษะ ปัดเปล่าภานในบ้านเรือน ร้านค้า ที่ทำงาน ดีนักแล คนดวงไม่ดี ดวงตก ดวงแตก ดวงแยก คนดวงชง ดวงเสีย ทำดีไม่มีใครเห็น มีแต่เรื่อง มีแต่ศัตรู มีเรื่องกระทบ กระทั่งกับคนรอบข้างตลอดคนเหล่านี้โบราณท่านว่าต้องอุบาทว์พระนารายณ์ จึงมีแต่เรื่องร้าย เรื่องร้อนใจตลอดเวลา ท่านให้แก้โดย การอัญเชิญพรนารายณ์ พลิกแผ่นดิน กลับร้ายให้กลายเป็นดินดี อยู่บนดินร้าย ทำอะไรเสีย ทำอะไรไม่เจริญ ต้องพลิกดิน ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อชีวิตตก ดวงร้อน ต้องพลิกชีวิต กลับดวงเอาร้ายฝังไว้ เอาดีขึ้นมา น้ายสูญดีเสริม สิ่งอวมงคลจากร้ายให้กลายเป็นดีสมกับคำว่า “นารายณ์พลิกแผ่นดิน” ความเชื่อความศรัทธาในศาสตร์วิชา นารายณ์พลิกแผ่นดินมีมาแต่โบราณกาลช่วยแก้หนุนดวงที่ร้ายให้กลายเป็นดี
    ผมขอยกข้อความในวันพิธีเสก ณ วัดบ้านห้วยน้ำขาว ซึ่งพระอาจารย์เล็ก ท่านได้เมตตาลงให้อ่านในเก็บตกบ้านเติมบุญ มาให้อ่านกันครับ
    "หลวงพ่อครับ นำเรียนก่อนครับ วันนี้มีตะกรุดโสฬส มีตะกรุดคู่ชีวิต มีธงมหาระงับ มีตะกรุดและธงนารายณ์พลิกแผ่นดิน มี...ฯลฯ"
    "เออ..ตั้งแต่เรียนวิธีสร้างธงมหาระงับและตะกรุดคู่ชีวิตมา ตูยังไม่กล้าทำเลย"
    "พอดีพวกนักเรียนนายร้อยเขาอยากได้ครับ"
    นักเรียนนายร้อยตำรวจของเอ็ง ปัจจุบันนี้ติดยศพันตำรวจตรี พันตำรวจโทกันหมดแล้ว ยังติดปากเรียกนักเรียนนายร้อยอยู่นั่นแหละ..!
    "แล้วนารายณ์พลิกแผ่นดินทำไมไม่เขียนมือวะ ?" คำถามนี้ทำเอาปลัดเอกลักษณ์ของเรายิ้มแห้ง ๆ
    "ถ้าเขียนมือก็คงได้แต่หัวใจเท่านั้นแหละครับ" ความจริงปลัดเอกลักษณ์เขียนยันต์ต่าง ๆ ได้สวยงามมาก อาตมาเห็นแล้วยังอยากได้ แต่เวลาสร้างมาก ๆ แบบนี้ ขืนไปนั่งเขียนทีละแผ่น มีหวังได้แจกตอนอายุ ๘๐ ปีเป็นแน่แท้..!
    จัดการตรวจสอบว่าวัตถุมงคลต่าง ๆ ลงอักขระเลขยันต์ได้ถูกต้องหรือไม่ ?
    "ท่านอาจารย์บ๊ะเมตตาตรวจสอบธงมหาระงับให้แล้วครับ ส่วนตะกรุดมหาโสฬส หลวงพี่ปิงตรวจสอบให้ครับ" "แล้วโน่นล่ะ ?" อาตมาชี้ไปที่ตะโพนซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่า และหน้ากากอนามัยที่กองพะเนินอยู่ "หน้ากากหลวงพี่เอกลักษณ์เขียนยันต์ให้ครับ ส่วนตะโพนต้องอาศัยหลวงพ่อแล้วครับ" หากินง่ายดีนี่หว่า..!
    กราบนิมนต์หลวงพ่อใจ (พระครูสมุทรพิทยาคม) วัดพระยาญาติ เข้าที่แล้ว
    อาตมาก็ส่งใจขึ้นไปกราบพระ กราบครูบาอาจารย์ เชิญท่านปู่ท้าวสหัมบดีพรหม ท่านปู่พระอินทร์ ท้าวมหาราชทั้ง ๔ มาร่วมในพิธีครั้งนี้ด้วย
    พร้อมกับสารภาพแต่โดยดีว่า "ของบางอย่างผมยังไม่เคยทำเลยครับ"
    กราบอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์เป็นประธาน
    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ชี้ไปที่พระอัครสาวกเบื้องซ้าย ตรัสว่า "ให้ผู้เลิศไปด้วยฤทธิ์ บอกวิธีการให้ก็แล้วกัน" พระมหาโมคคัลลานะ ถูไม้ถูมือแบบมันเขี้ยว บอกให้น้อมจิตระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย แล้วภาวนาอิติปิโส ๓ ห้อง ๓ จบ
    "จำไว้ว่าพุทธศาสตร์ ต้องขึ้นด้วยคุณพระรัตนตรัยเป็นอันดับแรก"
    รัศมีสีเหลืองทองสว่างไสว ที่พวกเราเรียกกันติดปากว่า คุณพระศรีรัตนตรัย แผ่คลุมลงมาทั่วทั้งบริเวณ รู้สึกสดชื่น โปร่งเบา สบายจนบอกไม่ถูก
    เมื่อภาวนาครบแล้ว คำสั่งต่อไปก็คือ "เดินธาตุ ๔ แล้วลงอาการ ๓๒"
    ตรงนี้ถ้าเป็นสายอื่นก็แทบตายเลย เพราะว่าต้องกำหนดภาวนาพระคาถานะมะพะทะ เดินธาตุทีละตัว ซึ่งแต่ละตัวประกอบด้วยคาถาและวิธีการเยอะมาก แต่ในเมื่อผู้บัญชาการเป็นพระมหาเถระผู้เลิศด้วยฤทธิ์ ขืนไปใช้วิธีการแบบนั้นมีหวังโดนเขกหัวบวม
    ก็ต้องตั้งดวงกสิณทั้งสี่ คือ ดิน (มหาอุตม์ คงกระพัน) น้ำ (เมตตามหานิยม) ลม (แคล้วคลาดปลอดภัย) ไฟ (ทำลายไสยเวทย์อาคม) มหาภูตรูปต้นกำเนิดทั้ง ๔ หมุนวนเข้ามาทั้ง ๔ ทิศ ประกอบรวมเข้าด้วยกัน ประหนึ่งจะสร้างจักรวาลใหม่ขึ้นมาทั้งจักรวาล
    แล้วแทนที่จะเดินอาการ ๓๒ ด้วยการภาวนากำหนด "อัตถิ อิมัสมิง กาเยฯ" ทีละอย่างแบบสายอื่น หลวงพ่อจอมยุทธท่านกลับให้เพิ่มอากาสกสิณ ต่อด้วยวิญญาณัญจายตนฌาน
    ประกบรวมเข้าไปจนกลายเป็นกระแสพลังขุมมหึมาที่หมุนเวียนเชี่ยวกราก ประหนึ่งแกแล็กซี่กำเนิดขึ้นในห้วงอวกาศ ครอบคลุมลงมาในบริเวณพิธี พลังงานสารพัดสีพุ่งเข้าสู่วัตถุมงคล เหมือนสายน้ำโดนดูดซับด้วยฟองน้ำก็ไม่ปาน เมื่อเต็มเปี่ยมดีแล้วก็แผ่ขยายสว่างไสวรุ่งโรจน์ ดุจดาวฤกษ์ประดับฟ้ายามราตรี คิดว่าเสร็จพิธีแล้ว ที่ไหนได้...หลวงพ่อท่านให้ต่อด้วย พระคาถาชินบัญชร พระคาถาเงินล้าน ตามมาด้วยพระคาถามหาโสฬส (โสฬะสะมังคะลัญเจวะฯ) ตรีนิสิงเห (ตรีนิสิงเห สัตตะนาเค ปัญจะเพชรฉลูกัญเจวะฯ) จตุโรบังเกิดทรัพย์ (จะตุโร นะวะโม ทะเวโชฯ)
    ตามมาด้วยของที่เรียนแต่ไม่เคยทำ อย่างพระคาถาตะกรุดคู่ชีวิต (อะสิสัตติธะนูเจวะฯ) พระคาถาปลุกธงมหาระงับ (โอมมะหาระงับ หลับสิ้นทั้งบ้านฯ)
    พระคาถานารายณ์พลิกแผ่นดิน (วาโธโนอะมะมะวา) พระคาถาเสกตะโพน (นะเฮ นะฮา นะเหาะฯ) ฯลฯ ทุกอย่างต้องกำหนดจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผ่านครูบาอาจารย์ ลงไปยังกองวัตถุมงคล แล้วหลวงพ่อพระมหาโมคคัลลานะก็ให้ปิดท้ายด้วย พระคาถาไตรสรณาคมน์ (พุทธัง สะระณัง คัจฉามิฯ) พระคาถาบารมี ๓๐ ทัศ พระคาถาพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ เมื่อท่านบอกว่าทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วและกลับเข้าสู่เถรอาสน์ อาตมภาพก็น้อมกราบในพระมหากรุณาธิคุณของทุกท่าน แล้วลืมตาขึ้นมาทำน้ำมนต์ จำได้ว่าเริ่มต้นประมาณเก้าโมงเช้า ลืมตาขึ้นมาดูนาฬิกา เห็นว่าอีกสิบนาทีจะเพล นาน ๆ จะเจออะไรยาว ๆ แบบนี้สักที แล้วอย่าคิดว่าครั้งต่อไปจะเป็นแบบนี้อีกนะ บางอย่างก็เหมือนเดิม บางอย่างก็เปลี่ยนไป แล้วแต่ท่านจะเมตตาสงเคราะห์ จัดการพรมน้ำมนต์ โปรยข้าวตอกดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา รอจนหลวงพ่อใจ และปลัดเอกลักษณ์ พรมน้ำมนต์เสร็จแล้ว อาตมาก็อธิษฐานจิตดับเทียนสัตตบริภัณฑ์รอบพิธี
    รับไทยธรรมจาก ดร.พระครูโรจน์ ญาติโยมที่เป็นเจ้าภาพถวายตะกรุดมหาโสฬสทองคำ ๑ ดอก ตะกรุดนารายณ์แปลงรูปทองคำ ๑ ดอก ตะกรุดคู่ชีวิตและตะกรุดนารายณ์พลิกแผ่นดินเนื้ออื่นอีกหลายถุง "ตะกรุดทองคำผมขอราคาต่ำสุดที่ ๒๕,๐๐๐ บาทนะครับ คราวที่แล้วหลวงพ่อออกเนื้อทองคำไป ๓,๐๐๐ บาท ผมเสียดายใจจะขาด เพราะว่าจองไม่ทัน" ดร.พระครูโรจน์ขอร้องแกมบังคับ ฉันเพลแล้วกราบลาทุกท่าน เดินทางกลับวัดท่าขนุน ปกติขึ้นรถได้อาตมาก็พักผ่อน แต่วันนี้เจอพลังงานล้นเกิน จึงนั่งส่งงานทางไลน์ให้กับทีมงานวัดท่าขนุน นำลงในกลุ่มไลน์ต่าง ๆ ทั้งของทางราชการและส่วนตัว แล้วเข้าไปติดตามงานจากผู้บังคับบัญชา จนไปถึงวัดท่าขนุนแบบไม่รู้ตัว
    และที่สำคัญ ใช้ผ้าขาวที่ใช้คลุมวัตถุมงคลในงานพุทธาภิเษกวัตถุมงคลงานต่างๆ ของทางวัด เช่น งานพุทธาภิเษก เหรียญสมเด็จองค์ปฐม วัดบ้านห้วยน้ำขาว โดยมี เพชรจักรพรรดิ์ วัดท่าซุง เป็นประธาน และงานอื่นๆ และทางวัดได้นำมาทำเป็นธงนารายณ์พลิกแผ่นดินและธงมหาระงับ เตรียมเข้าพิธีพุทธาภิเษกวันไหว้ครูประจำปี ๒๕๖๓(วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๓) ฤกษ์พรหมสิทธิ ๑ ดาว ปัดเป่าสิ่งร้าย ให้กลับกลายเป็นสิ่งดี
    ให้บูชา 650 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ (เคลือบพลาสติกเรียบร้อยแล้วครับ)
    20240514_183219.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2024 at 00:52

แชร์หน้านี้

Loading...