คลังเรื่องเด่น
-
เมื่อเหล่าครูบาอาจารย์กล่าวถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ภิกษุผู้ลาพุทธภูมิ สอนศิษย์ด้วยวิธีอันอัศจรรย์ จะหาใครสอนได้เหมือนไม่มีแล้ว
เมื่อเหล่าครูบาอาจารย์กล่าวถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ภิกษุผู้ลาพุทธภูมิ สอนศิษย์ด้วยวิธีอันอัศจรรย์ จะหาใครสอนได้เหมือนไม่มีแล้ว
พระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ เป็นพระภิกษุนิกายเถรวาทฝ่ายมหานิกาย เจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี มีชื่อเสียงในด้านการบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานจนได้วิชามโนมยิทธิ (ฤทธิ์ทางใจ)
หลังการมรณภาพ สังขารร่างกายของท่านมิได้เน่าเปื่อยอย่างศพของคนทั่วไป และได้มีการเก็บรักษาไว้ที่วัดท่าซุงจนถึงปัจจุบันนี้
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้รับการยอมรับ และรับรอง จากครูบาอาจารย์ชื่อดังหลายรูป เกี่ยวกับญาณบารมี ซึ่งมีข้อความดังต่อไปนี้
หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวงศ์ถ้ำนารายณ์
จ.สระบุรี พูดเล่าว่าหลวงปู่ดาบส สุมโณ พูดถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ว่า……..
ลูกหลานเอย..หลวงตาต้องกล้าเขียนต่อ บอกแล้วว่ามันยากที่จะเล่าให้ฟังตามตรง ๆ ที่หลวงปู่พูดถึงหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่า………
"พระคุณเจ้าองค์นั้นเป็นอรหันต์องค์เอกองค์หนึ่งของโลกในปลายศาสนา ๕๐๐๐ ปี
จะหาใครสอนเสมอเหมือนพระคุณท่านหาไม่ได้แล้ว พระคุณท่านองค์นั้นสอนได้คล้ายพระพุทธเจ้าสอน เพราะท่านปรารถนาพระโพธิญาณ... -
เปิดประวัติ "พระสุนทรีวาณี" เทพนารีแห่งปัญญาผู้รักษาพระพุทธศาสนา นำพาการรู้แจ้ง.. ศักดิ์สิทธิ์มากเสด็จพ่อร.5ก็สวดบูชา
เปิดประวัติ "พระสุนทรีวาณี" เทพนารีแห่งปัญญาผู้รักษาพระพุทธศาสนา นำพาการรู้แจ้ง.. ศักดิ์สิทธิ์มากเสด็จพ่อร.5ก็สวดบูชา
พระสุนทรีวาณี
ประวัติความเป็นมา
...พระสุนทรีวาณี เทพนารีผู้รักษาพระพุทธศาสนาแห่งวัดสุทัศนเทพวราราม...
พระสุนทรีวาณี คือ เทวีแห่งปรีชาญาณและความรู้แจ้ง ผู้ทรงอานุภาพบันดาลความเป็นเลิศทางปัญญาและการเข้าถึงพระธรรม
พระสุนทรีวาณีปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5ทำให้พระสุนทรีวาณีไม่เป็นที่รู้จักของคนโดยทั่วไป และ คนส่วนใหญ่ที่รู้จักเทวีองค์นี้จะมีแต่พุทธศาสนิกชนที่ได้ไปปฏิบัติธรรมภายในวัดสุทัศนเทพวราราม อันเป็นศาสนสถานที่ปรากฏองค์สุนทรีวาณีเป็นที่แรก
อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของพระองค์มักจะปรากฏต่อผู้บูชาที่ต้องการเข้าให้ถึงความรู้แจ้งและทรงใช้ปาฏิหาริย์เหล่านั้นก็เพื่อนำผู้นั้นไปสู่ปัญญา ที่เป็นเช่นนี้เพราะพระสุนทรีวาณีเป็นเทวีผู้บันดาลปรีชาญาณหรือความรู้แจ้งทั้งหมด ซึ่งเป็นยอดปรารถนาของทุกคนที่ศึกษาในพระธรรมหรือแม้กระทั่งคนธรรมดาทั่วไปที่ทุกวันนี้ถูกพัดพาไปตามกระแสของโลกวัตถุ... -
3 ปาฏิหาริย์ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้! และปฏิหาริย์แบบใดเป็นปาฏิหาริย์ที่พระองค์สรรเสริญ ?
3 ปาฏิหาริย์ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้! และปฏิหาริย์แบบใดเป็นปาฏิหาริย์ที่พระองค์สรรเสริญ ?
ปาฏิหาริย์นั้นพระพุทธเจ้าสอนไว้ว่ามี ๓ อย่าง คือ
๑ อิทธิปาฏิหาริย์ เป็นปาฏิหาริย์ในเรื่องฤทธิ์ คือการแสดงฤทธิ์หรือความเป็นผู้วิเศษ ดลบันดาลอะไรต่าง ๆ เหาะเหินเดินอากาศ หูทิพย์ ตาทิพย์ เป็นต้น
๒ อาเทศนาปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์คือการทายใจได้ ทายใจโยมได้ว่า อ้อโยมกำลังคิดเรื่องนี้ โยมกำลังคิดว่าหลังจากฟังธรรมนี้แล้วจะไปโน่น หรือว่าฟังองค์แสดงธรรมแล้ว คิดต่อองค์แสดงธรรมว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อะไรทำนองนี้ คือทายใจได้อันนี้เรียกว่าอาเทศนาปาฏิหาริย์
๓ อนุศาสนีปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์คือคำสอนที่เป็นอัศจรรย์ คำสอนที่แสดงความจริงให้ผู้ที่ฟังรู้เข้าใจ มองเห็นความจริงเป็นอัศจรรย์ แล้วก็สามารถนำประพฤติปฏิบัติตามได้ผลจริงเป็นอัศจรรย์ อันนี้คือให้โยมเกิดปัญญา รู้ความจริง
ปาฏิหาริย์ทั้ง ๓ อย่างนี้พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญอย่างไหนบ้างหรือไม่ หรือว่ายกย่องทั้งหมดเลย?
ไม่ทั้งหมด พระพุทธเจ้าไม่สรรเสริญปาฏิหาริย์ ๒ อย่างแรก คือ อิทธิปาฏิหาริย์ การแสดงฤทธิ์ และอาเทศนา ปาฏิหาริย์การทายใจได้
แต่สรรเสริญข้อที่ ๓... -
เผยแล้ว!!! พระนาม สมเด็จพระสังฆราช องค์ใหม่ ใช้พระนาม "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ"
เผยแล้ว!!! พระนามสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ใช้พระนาม "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ"
วันนี้ (7 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าว ภายหลังสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดสถาปนา สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะมีพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ในเวลา 17.00 น. วันที่ 12 ก.พ. โดยจะมีการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามแบบการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินไปถวายพระสุพรรณบัฏ หรือชื่อสมเด็จพระสังฆราชที่จารึกลงบนแผ่นทอง ถวายพัดยศ เครื่องสมณบริขาร หรือเครื่องยศสมเด็จพระสังฆราช และอาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ถือเป็นอันเสร็จพิธี
รองนายกฯ ยังระบุว่า สำหรับสมเด็จพระสังฆราชที่จะได้รับการโปรดสถาปนาครั้งนี้ เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่มีวัตรปฏิบัติเป็นที่เคารพนับถือ เลื่อมใส สมถะ อย่างที่มีการพูดถึงกัน... -
เมื่อถึงกึ่งพุทธกาล (ช่วง พ.ศ. 2,500) พรหม เทพ เทวดา อาสาลงมาจุติ
▪เมื่อถึงกึ่งพุทธกาล (ช่วง พ.ศ. 2,500) พรหม เทพ เทวดา อาสาลงจุติ▪
#ณ เทวสภา อันเป็นที่ประชุมของเหล่าเทพพรหมทั้งหลาย ครั้งเมื่อถึงวันพระใหญ่ 15 ค่ำ องค์พระอินทร์จะได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานในที่ประชุม เพื่อแจ้งข่าวการทำบุญของเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายในชมพูทวีป
#ครั้งนั้นเป็นเวลาเกือบกึ่งพุทธกาลแล้ว โลกธาตุทั้งหลายมีความวุ่นวายเพราะสรรพสัตว์หมกมุ่นในการทำบาปกรรมแลกิเลสตัณหาทั้งปวง องค์สมเด็จพระอัมรินทราธิราช ทรงตรัสขึ้นว่า
"ในเวลานี้ เหล่าพระมหาโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ต่างเร่งรุดลงจุติยังโลกมนุษย์ เพื่อช่วยดับทุกเข็ญ และความเร่าร้อนแห่งบาปกรรมตัณหาทั้งหลายที่ทวีตัวขึ้นนี้ แต่ละพระองค์ต่างตั้งปณิธานในการสร้างบารมีและช่วยสืบสานต่อให้พระพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า คงอยู่ครบถ้วน 5,000 ปี บัดนี้ถึงเวลาของเหล่าเทพพรหมทั้งหลายผู้ได้เสวยสุขในสรวงสวรรค์แห่งนี้แล้วที่จักได้กระทำกิจอันทำได้ยาก คือการละความสุขปัจจุบันเพื่อประโยชน์สุขอันยิ่งใหญ่สืบต่อไป
เราจักขอเชิญชวนเหล่าท่านเทพและพรหมทั้งหลาย... -
ด่วนที่สุด !!! โปรดเกล้าฯ "สมเด็จพระมหามุนีวงศ์" เป็นสังฆราช องค์ที่ 20 แล้ว!
ด่วนที่สุด !!! โปรดเกล้าฯ "สมเด็จพระมหามุนีวงศ์" เป็นสังฆราช องค์ที่ 20 แล้ว!
วันนี้ (7 ก.พ.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ามีการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 แล้วได้ดำเนินการตามขั้นตอนมาโดยตลอด และได้มีการนำรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติครบตามที่ได้บอกไว้สามประการทูลเกล้าขึ้นไปทั้งห้ารูป ซึ่งคงไม่ต้องถามว่าเป็นใครและวันเดียวกันนี้ได้รับการ แจ้งมาว่าการโปรดเกล้าฯลงมาเรียบร้อยแล้ว คือสมเด็จวัดราชบพิธ ได้ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ จะมีการสถาปนาที่วัดพระแก้วในเวลา 17.00 น. ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะเสด็จด้วยพระองค์เอง
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) นามเดิม: อัมพร ประสัตถพงศ์ เป็นสมเด็จพระราชาคณะ ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น เจ้าอาวาส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม และแม่กองงานพระธรรมทูต
เจ้าพระคุณสมเด็จ เกิดเมื่อ วันเสาร์ ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2470 ณ ตำบลบางป่า อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี โยมบิดาชื่อ นายนับ ประสัตถพงศ์ โยมมารดาชื่อ นางตาล ประสัตถพงศ์ ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย... -
มัฌชิมาปฏิปทาของแต่ละคนไม่เท่ากัน...เป็นไปตามกำลังใจ
มัฌชิมาปฏิปทาของแต่ละคนไม่เท่ากัน...เป็นไปตามกำลังใจ
ถาม : ผมสังเกตว่า...(ฟังไม่ชัด)...หลวงปู่มั่น ท่านทำ...(ฟังไม่ชัด)...จริง ๆ ไหมครับ ?
ตอบ : ทางสายอีสานที่ต้องปฏิบัติลำบากนั้น เราต้องดูด้วยนะ ลักษณะภูมิอากาศ ลักษณะการทำมาหากินของทางสายอีสานนี่ จะลำบากมาก ยิ่งสมัยก่อนที่การชลประทานยังไม่เหมือนสมัยนี้ อีสานแห้งแล้งจริง ๆ การต่อสู้ดิ้นรนของเขาต้องมากกว่าปกติ กำลังใจของเขาจะต้องเข้มแข็งมาก ถ้าไม่ได้เจอการทรมานมาก ๆ นี่จะเอาไม่ลง
ดังนั้น..สายหลวงปู่มั่นถึงได้ถนัดเกี่ยวกับธุดงควัตร บางคนบอกว่าธุดงควัตร ๑๓ ข้อ ของพระพุทธเจ้าเป็นอัตตกิลมถานุโยค คือ ทรมานตัวจนเกินไป อันนี้ไม่ใช่ ธุดงค์ แปลว่าการแผดเผากิเลส จะเหมาะสำหรับท่านที่กำลังใจเข้มแข็ง กลายเป็นพอดีของท่าน ไม่ใช่การทรมานตน
ถาม : .......(ไม่มีเสียง)........
ตอบ : คนอื่นเขาไม่เก่งเลยไปพระนิพพานกันหมด พวกเราเก่งก็เลยอยู่กันอีกนาน ไม่ค่อยจะกลัวนรกกัน มัฌชิมาปฏิปทาของแต่ละคนไม่เท่ากัน เป็นไปตามกำลังใจ เป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่หล่อหลอมมา เป็นไปตามบารมีที่สั่งสมมา
อย่างหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า กำลังใจของท่านก็คือ... -
"สวัสดิกะ" เครื่องหมายชัยชนะแห่ง "พระโพธิญาณ" จากอุระพระอมิตตภะพุทธถึงฝ่าพระหัตถ์เจ้าสัจจะยามิน
"สวัสดิกะ" เครื่องหมายชัยชนะแห่ง "พระโพธิญาณ" จากอุระพระอมิตตภะพุทธถึงฝ่าพระหัตถ์เจ้าสัจจะยามิน
สวัสดิกะเครื่องหมายชัยชนะแห่งพระโพธิญาณ
ผมเองผ่านการศึกษาทั้งเรื่องสายพระโพธิสัตว์ในมอญอย่างตำนานเจ้าสัจจะยามิน รวมถึงการได้เข้าไปสัมผัสถึงเรื่องราวของหลวงพ่อโอภาสี เราจะเห็นถึงเครื่องหมายที่เรียกว่า สวัสดิกะ ปรากฏอยู่ เครื่องหมายสวัสดิกะเกิดขึ้นในยุคโบราณเก่าแก่ในวัฒนธรรมเมโสโปเตเมีย เราก็พบเครื่องหมายชนิดนี้เป็นรูปตัวแทนของพระอาทิตย์ ในวัฒนธรรมอื่นๆถัดมาก็รับเอาสวัสดิกะเป็นเครื่องหมายมงคล ดังเช่นในศาสนาฮินดู สวัสดิกะ คือ เครื่องหมายแห่งความโชคดีถูกใช้แทนองค์แทนอย่าง พระนารายณ์ พระทุรคาและพระพิฆเนศ
ในศาสนาพุทธเรา สวัสดิกะ ถูกใช้เป็นเครื่องหมายของธรรมจักร เราจะพบเครื่องหมายสวัสดิกะอยู่บนรอยพระพุทธบาท ดังที่ปรากฏอยู่ที่เมืองสระมรกต จ.ปราจีนบุรี นอกจากนี้ในทางมหายานเราจะพบเครื่องหมายสวัสดิกะอยู่บนพระอุระของพระอมิตตภะพุทธเจ้าอีกด้วย
(หมายสวัสดิกะอยู่บนรอยพระพุทธบาท ดังที่ปรากฏอยู่ที่เมืองสระมรกต จ.ปราจีนบุรี)
(พระอมิตตภะพุทธเจ้า)
ในคติความเชื่อของพม่า - มอญ... -
การทำทานที่แท้จริง ต้องทำอย่างไร? เพื่ออะไร? : หลวงปู่ไดโนเสาร์
โยม ; หลวงปู่เจ้าขา ทำไมศาสนาพุทธถึงมีแต่ให้ทาน เดี๋ยวก็ถวาย เดี๋ยวก็ถวาย นี่อย่างวันนี้ก็ถวายเทียน ถวายผ้าอาบน้ำ ถวายผ้าป่า กฐิน มีแต่ถวายเต็มไปหมด แสดงว่าจะได้บุญมาต้องเสียเงินเสียทองสิเจ้าค่ะ
หลวงปู่ ; อือ บุญเป็นชื่อของความสุข ทำแล้วทุกข์อย่าทำ
โยม ; โยมก็ไม่ได้ทุกข์ แค่สงสัยว่าทำไม ศาสนามีแต่การให้ทาน
หลวงปู่ ; การทำบุญในพระศาสนาหน่ะมีหลายแบบ มีหลายระดับ ระดับทาน ระดับศีล ระดับภาวนา คนใจยังไม่สูงก็มัววุ่นอยู่กับทานอย่างเดียว คนใจสูงมาอีกหน่อยก็ทำบุญเรื่องศีล เมื่อใจ
ถึงระดับแล้วเขาจะทำบุญด้วยการภาวนา
เพราะทานกำจัดกิเลสอย่างหยาบ ศีลกำจัดกิเลสอย่างกลาง ภาวนากำจัดกิเลสอย่างละเอียด
บางคนทำบุญแล้วไม่รู้เรื่องบุญ ก็มัวแต่หาว่ามีแต่ทานแต่ทาน คนบ้าทานก็ทำทานเอาหน้า
ทำทานเอาตรา ทำทานเพื่อโฆษณา
แท้จริงแล้วจุดประสงค์เพื่อละตัวเรา เพื่อละของเรา อาศัยสิ่งของเพื่อละความเห็นแก่ตัว
ละความถือตัวถือตน
บางคนทำบุญทำทานไม่เป็น ให้แล้วยังถือว่าเป็นเราเป็นของเรา บางคนให้ทานแล้วประสงค์นั่น
อธิษฐานนี่ วุ่นวายไปหมด อันนี้ให้ทานเอาตัณหา ให้ทานเอาโลก ให้ทานเอากิเลส... -
กรรมฐานแบบคนขี้เกียจ
กรรมฐานแบบคนขี้เกียจ
ธรรมโอวาทหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
การเจริญกรรมฐานจริง ๆ ถ้าทำเเป็นล่ำเป็นสัน
มันอาจจะเกินพอดีไปก็ได้ เอากันแบบคนขี้เกียจ
แต่ตายแล้วไม่ลงนรกดีกว่า ง่ายดีนะ
คนขี้เกียจเขาจะทำแบบนี้
ก่อนนอนหลับ นึกถึงพระพุทธเจ้า หรือนึกถึง
พระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งโดยเฉพาะที่เราชอบ
จิตก็จับลมหายใจเข้าออก ภาวนา "พุทโธ" ก็ได้
อะไรก็ได้นะ เอาพุทโธเป็นเกณฑ์ก็แล้วกัน
หายใจเข้านึกว่า "พุท" หายใจออกนึกว่า "โธ"
เพียงแค่ ๒-๓ ครั้ง มันหลับไปก็ใช้ได้
ขณะภาวนาอยู่ถ้าจิตเข้าไม่ถึงฌานมันจะไม่หลับ
ถ้าจิตสงบถึงฌานมันจะตัดหลับทันที
จะเป็นฌานขั้นไหนก็ตาม ขณะที่หลับอยู่กี่ชั่วโมงก็ตาม
ท่านถือว่า ทรงฌานตลอดเวลา ถ้าตายเวลานั้น
จะเป็นพรหมทันทีเป็นอย่างน้อย ถ้าบังเอญก่อนจะตาย
ก่อนจะหลับเรานึกถึงพระนิพพาน ภาวนาด้วย
นึกถึงพระนิพพานไว้ก่อนด้วย แล้วก็หลับ
จิตเป็นฌานก็หลับ เขาถือว่าจิตทรงในด้านของนิพพาน
เรียกว่า อุปสมานุสสติกรรมฐาน ถ้าตายเวลาหลับ
จะไปนิพพานทันที
ถ้ามันไม่ตาย มันตื่น ก่อนจะขยับตัวไปไหน
ก่อนจะหลับจิตเราเป็นฌาน เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว
ฌานยังไม่คลายตัว ยังทรงอยู่ ก็เริ่มจับลมหายใจ... -
ชอบทำบุญเพราะชาติก่อนเห็นทุกข์ ชาตินี้จึงมาสร้างบารมีให้พ้นทุกข์ หลวงปู่เหรียญยืนยัน!!!
ชอบทำบุญเพราะชาติก่อนเห็นทุกข์ ชาตินี้จึงมาสร้างบารมีให้พ้นทุกข์ หลวงปู่เหรียญยืนยัน!!!
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
อย่างที่เราทุกคนที่มาสนใจในธรรมะกันอย่างนี่ แสดงว่านิสัยเก่ามันติดมาแต่ชาติก่อนหนหลังนู่น มันสนใจในศีลในธรรมในบุญกุศล มันเห็นทุกข์เห็นภัยในสงสารมาแล้วอยากพ้นทุกข์แต่ว่าบุญบารมียังน้อยอยู่ ก็เลยต้องให้มาเกิดเป็นคนก่อน มาสร้างบุญบารมีเอาชาตินี้นะ ให้มันแก่กล้าขึ้นไปเรื่อยๆไป อย่างนี้แหละ มันก็พอรู้ได้นิ ทุกคนนะลองพิจารณาตัวเองนะพอจะเข้าใจได้แล้ว
เมื่อผู้ใดพิจารณาตัวเองเข้าใจได้อย่างนี้มันก็มั่นใจอยู่ในศีลธรรม มั่นใจอยู่ในข้อวัตรปฏิบัติไม่ท้อไม่ถอยเลย เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ตายแล้วแล้วไป ตายเพราะบำเพ็ญข้อวัตรปฏิบัตินี้ ตายเพราะละบาปนี่ ตั้งใจทำแต่บุญกุศลนี่ เราไม่เสียดายเลยชีวิตนี้ ว่าแต่เราขอให้พ้นจากบาปจากโทษก็พอแล้ว ก็ขอให้พากัน พากันมีอุบายแยบคายในจิตใจอย่างนี้ ไม่เป็นเช่นนี้แล้วเราก็พ้นจากบาปไปไม่ได้
อย่าไปเข้าใจว่าบาปมันไม่ติดตามน้า เมื่อเราทำลงไปแล้วเราไม่ละมันนะ มันก็ติดตามไปอยู่อย่างนั้นแหละ เมื่อมันยังไม่ได้ช่องได้โอกาส... -
หลวงปู่ดู่ ยกย่องหลวงพ่อฤาษีลิงดำ "ท่านมีบารมีสูง มีข้างบนเป็นกำลังหนุน" ติงศิษย์!!! มัวหลงญาณ มัวทำนายทายทักชาวบ้าน ระวัง!ตกนรก
หลวงปู่ดู่ ยกย่องหลวงพ่อฤาษีลิงดำ "ท่านมีบารมีสูง มีข้างบนเป็นกำลังหนุน" ติงศิษย์!!! มัวหลงญาณ มัวทำนายทายทักชาวบ้าน ระวัง!ตกนรก
หลวงปู่ดู่: .....เอ้า คณะนี้มาจากไหน (แล้วหลวงปู่ท่านก็เงียบ)
...อ๋อเด็กฝาก
คณะมโนมยิทธิ: ...หลวงพ่อ(ฤาษี) ท่านให้มากราบเจ้าค่ะ
หลวงปู่รู้จักไหมเจ้าคะ
หลวงปู่ดู่: ...รู้จัก
คณะมโนมยิทธิ: ....หลวงปู่่เจ้าคะดิฉันฝึกมโนขึ้นไปกราบ
พระข้างบนดีไหมเจ้าคะ?
(หลวงปู่ดู่)
หลวงปู่ดู่: .....การไปกราบพระ พบพระนั้นเป็นของดี
ให้หมั่นรักษาองค์พระ(ภาพพระ)เข้าไว้ พระท่านจะสอน
ท่านจะบอกวิธีการปฏิบัติ เราก็นำมาประพฤติปฏิบัติตามด้วยความตั้งใจ
เคร่งครัด แต่ถ้าพบพระแล้ว ท่านสอนแล้ว ไม่นำมาประพฤติปฏิบัติ
หรือปฏิบัติจนพบพระแล้วไม่สามารถทำให้อารมณ์ชั่วทั้ง ๓ คือ
โลภ โกรธ หลง มันเบาบางหลง อย่างนี้ยังใช้ไม่ได้ ถือว่าปฏิบัติผิดทาง
คนที่มัวแต่เอาสิ่งที่ตนเองได้ (ญาณ) ไปดูนั้นดูนี่ ทำนายทายทัก
ไม่นานอุปทานก็เข้าแทนที่ ทีนี้แทนที่มันจะไปสุคติภูมิ
มันก็ไปอบายภูมิแทน เหตุจากการแอบอ้าง คำสอนของพระ
เพราะอารมณ์อุปาทานนั้นเอง จงระวังไว้
ท่านมหาวีระ ท่านมีบารมีสูง มีข้างบนเป็นกำลังหนุน... -
ทำความรู้จัก..."จุดนัดพบระหว่างสวรรค์กับโลกา" - สถานที่เชื่อมมิติระหว่างเทพกับมนุษย์ เพื่อส่งพลังสวรรค์มาคุ้มครองแผ่นดินไทย
ทำความรู้จัก..."จุดนัดพบระหว่างสวรรค์กับโลกา" - สถานที่เชื่อมมิติระหว่างเทพกับมนุษย์ เพื่อส่งพลังสวรรค์มาคุ้มครองแผ่นดินไทย
"วัดหลวงพ่อโอภาสี" อยู่ในซอยพุทธบูชา 39 หลวงพ่อโอภาสีนี้เป็นพระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก ท่านบำเพ็ญเพียรทางจิตด้วยการเพ่งพระอาทิตย์ บูชาไฟเพื่อทำเตโชกสิณ เล่ากันว่าท่านนำข้าวของทั้งหลายที่ญาติโยมถวายมาเผาไฟ เพื่อแสดงถึงการตัดกิเลสทั้งหลาย เพราะท่านถือว่า จิตใจของมนุษย์นั้นถูกเผาผลาญด้วยไฟราคะแห่งกิเลสซึ่งไม่สามารถต้านทานได้ นอกจากจะกลายเป็นเถ้าถ่าน มีเพียงการตายเท่านั้นจึงจะหลุดพ้น
แต่เดิมนั้นหลวงพ่อโอภาสีอาศัยอยู่ที่วัดบวรนิเวศ และได้เดินทางมาแสวงหาที่สงบปฏิบัติธรรมที่ละแวกนี้ เมื่อก่อนนี้คนเรียกวัดหลวงพ่อโอภาสีว่าสวนอาศรมบางมด จนเมื่อได้มีการออกประกาศจัดตั้งให้เป็นวัดเมื่อปี พ.ศ.2536 นี้เอง
สำหรับตัวหลวงพ่อนั้นได้มรณภาพไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย และยังเก็บไว้ให้ผู้ที่ศรัทธามากราบไหว้กัน โดยอยู่ภายในองค์เจดีย์หลวงพ่อโอภาสีนั่นเอง และมีประชาชนเดินทางมาบูชาถึงที่วัดเป็นจำนวนมาก... -
“เทวดาพูดภาษาอะไร?” มาทำความรู้จัก ภาษา “กูโบ๊ส – กูต๊าบ” เทพยดาท่านใช้สื่อสารกัน
“เทวดาพูดภาษาอะไร?” มาทำความรู้จัก ภาษา “กูโบ๊ส – กูต๊าบ” เทพยดาท่านใช้สื่อสารกัน
“เทวดาพูดภาษาอะไร?” มาทำความรู้จัก ภาษา “กูโบ๊ส – กูต๊าบ” เทพยาดาเขาใช้สื่อสารกัน
ภาษาเทพเป็นภาษาสวรรค์ไม่มีใครสามารถแปลภาษาเทพ หรือเข้าใจภาษาเทพได้ ถึงแม้มีก็จะมีเพียงผู้ที่ปฏิบัติในระดับสูง ภาษาเทพมีอยู่ด้วยกันหลายระดับ บางอย่างก็เป็นภาษาของภพภูมินั้นๆ เช่นภาษาของผีก็มีเหมือนกันมนุษย์เรามีเทวดาปกปักษ์รักษา แต่ "เรามิใช่เทวดา" ไม่มีความจำเป็นต้องไปรู้ภาษาเทพ รู้แล้วได้อะไร?
เมื่อศึกษาเรื่องเสียงพูดแปลกๆ ขณะทำสมาธิ และสอบถามไปยังพระกรรมฐานที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องสมาธิ และผู้รอบรู้เรื่องสมาธิหลายท่านจึงได้ทราบข้อสังเกตที่เหมือนๆ กันในหลายๆ ส่วน เช่น ภาษาที่พูดออกมานั้น ผู้พูดมักจะพูดออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ แต่จะมีความรู้สึกนึกคิด หรือรู้สึกตัวตลอดเวลา หรือ ภาษาที่พูดออกมานั้นมักจะรัว และเร็วกว่าภาษาพูดธรรมดาที่คนทั่วไปพูดกัน และที่น่าสนใจที่สุดคือ ภาษานี้มักจะผลมาจากการทำสมาธิถึงขั้นหนึ่งจนจิตมีความละเอียดพอที่จะสัมผัสกับพลังงานต่างมิติ ไม่ว่าจะเป็นสัมภเวสี เทพ เทวดา ฯลฯ... -
ศีล 5" ก็พาขึ้นสวรรค์ได้!! พระยายม บอกหลวงปู่คะนึง !!
เรื่องนี้ หลวงปู่คำคะนึง ได้เล่าไว้เมื่อตอนที่หลวงปู่ได้ท่องเมืองนรก ท่านเห็นและได้สอบถามจากพระยายมโดย ตรง โดยมีเนื้อความดังต่อไปนี้
หลวงปู่คำคะนิงท่องเที่ยวต่อไป ถึงทางแยกแห่งหนึ่ง จ่ายมบาลบอกว่า “ตรงนี้เป็นชุมทางไปสู่สวรรค์ชั้นต่างๆ เส้นทางเป็นสายรุ้งพุ่งจากพื้น เป็นวงโค้งขึ้นไปในอากาศนั้น เป็นเส้นทางสำหรับผู้เจริญวิปัสสนาได้บรรลุธรรมขั้นโสดาบัน เมื่อตายแล้ว ต้องขึ้นเส้นทางนี้ไปสู่สวรรค์เบื้องสูงสำหรับอริยบุคคลชั้นโสดาบัน ที่เป็นอู่ทอง อู่แก้วคล้ายบุษบก มีสายชักขึ้นและชักลงจากพื้นดินไปในอากาศนั้น เป็นอู่ยนต์สำหรับผู้ที่จะไปสวรรค์ ตามกำลังบุญวาสนา ที่สร้างไว้สมัยเป็นมนุษย์นั่นเอง!
อู่ทอง อู่แก้ว อันสวยงามรุ่งเรืองนี้ ! เลื่อนขึ้นเลื่อนลงรับผู้มีวาสนาขึ้นสู่สวรรค์อยู่ตลอดเวลา แสดงว่า “แม้จะมีคนบาปหนาตกนรกมากจนมืดฟ้ามัวดิน ขณะเดียวกันก็มีคนดีๆ ขึ้นสวรรค์มากเหมือนกัน” นอกจากอู่ทองคำ อู่แก้วบุษบกแล้ว ยังมีบันไดเงินบันไดทอง และบันไดแก้ว แพรวพรายทอดขึ้นสู่ท้องฟ้าไปสรวงสวรรค์ เมื่อคนขึ้นไปแล้ว บันไดวิเศษเหล่านี้ก็จะลอยเลื่อนขึ้นไปจนสุดสายตา... -
อาราธนาพระทุกวันตายไปสวรรค์ชั้นยามา
อาราธนาพระทุกวันตายไปสวรรค์ชั้นยามา " ตอนเช้ากับตอนหัวค่ำจับพระที่ห้อยคอ ขอท่านคุ้มครองตายแล้วไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นยามา
โดยหลวงพ่อ พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
(จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน)
"..เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้มีท่านผู้หนึ่งไปหาอาตมาที่วัดท่าซุง ไปถามว่า "คุณพ่อตายแล้วไปอยู่ที่ไหน" อาตมาไม่ได้บอกท่านผู้นั้น แต่ให้ไปฝึกพระกรรมฐานกับเขาในมหาวิหาร๑๐๐ เมตรไม่เกิน ๓ วันคุณก็พบกับคุณพ่อคุณได้ บอกคุณก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะคุณก็ไม่หายสงสัยคุณก็จะถามเรื่อยไปและก็ไม่มีประโยชน์สำหรับคุณ
ในที่สุดท่านผู้นั้นก็ตัดสินใจ วันรุ่งขึ้นก็ไปฝึกพระกรรมฐาน เพียงแค่วันแรกก็สามารถคุยกับคุณพ่อได้ แต่ในขณะที่ท่านผู้นี้ถามอาตมาได้บอกชื่อผู้ตาย อาตมาก็นึกถึง เมื่อนึกถึงผู้ตายก็มายืนข้างหน้า จึงถามว่า "เวลานี้คุณไปอยู่ที่ไหน" เขาตอบว่า "เวลานี้ผมไปอยู่บนสวรรค์ชั้นยามาครับ"
ถามว่า "ไปอยู่ชั้นยามาได้ ปกติคุณทำอะไรสมัยยังมีชีวิตอยู่" ตอบว่า "ปกติผมทำสมาธิ"
ถามว่า "คุณทำสมาธิเวลาไหน" ตอบว่า"เวลาตอนเช้ากับตอนคํ่าครับ ตอนเช้าผมตื่นนอนขึ้นมา ก็จับพระที่สร้อยห้อยคออยู่มาพนมมือ... -
ครูบาศรีวิชัย พระโพธิสัตว์ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์ เปิดบทสนทนา ตนบุญแห่งล้านนาปฏิเสธธุดงค์ร่วมกับหลวงปู่มั่น
ครูบาศรีวิชัย พระโพธิสัตว์ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์ เปิดบทสนทนา ตนบุญแห่งล้านนาปฏิเสธธุดงค์ร่วมกับหลวงปู่มั่น
ครูบาศรีวิชัยพบหลวงปู่มั่น
ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตท่านพระอาจารย์ใหญ่แห่งสายวิปัสนากัมมัฏฐานได้เคยพำนักอยู่วัดเจดีย์หลวง ร่วมสมัยกับพระเดชพระคุณพระอุบาลี (จันทร์)ระหว่างปี ๒๔๗๒-๒๔๗๔ ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่พระครูบาศรีวิชัย พระนักบุญแห่งล้านนาไทยขึ้นมาพำนักอยู่ที่วัดสวนดอก เมืองเชียงใหม่ เพื่อฟื้นฟูบูรณะวัดวาอารามพระธาตุเจดีย์ ปูชนียสถานต่างๆ ในเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพด้วย
พระครูบาศรีวิชัยแม้องค์ท่านจะไม่มีฐานันดรสมณศักดิ์ แต่ท่านก็เป็นพระมหาเถระสมบูรณ์พร้อมด้วยคุณธรรมและวัตรปฏิบัติอันประเสริฐยิ่ง มีบารมีสูงสุด จนคนเหนือยกย่องให้เป็น“ตนบุญ” หรือ“นักบุญแห่งล้านนาไทย” พระครูบาศรีวิชัยได้เข้ามากราบนมัสการ “ท่านเจ้าคุณอุบาลี วัดเจดีย์หลวง” ถึง๒ ครั้ง และพระเดชพระคุณก็มีโอกาสไปเยี่ยมพระครูบาศรีวิชัยเป็นการตอบแทน ก่อนที่ท่านจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ
พระอาจารย์มั่นนั้นเคยพบและสนทนาธรรมกับพระครูบาศรีวิชัยหลังจากที่พระครูบาศรีวิชัยถูกอธิกรณ์แล้ว... -
เพชรเม็ดงามแห่งพระศาสนา!! อะไรคือ "บุคลิกพิเศษ" ของหลวงปู่มั่น...ที่ทำให้ท่านกลายเป็น "สาวกที่สมบูรณ์แบบ" ของพระพุทธเจ้า?!!
เพชรเม็ดงามแห่งพระศาสนา!! อะไรคือ "บุคลิกพิเศษ" ของหลวงปู่มั่น...ที่ทำให้ท่านกลายเป็น "สาวกที่สมบูรณ์แบบ" ของพระพุทธเจ้า?!!
"พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต" เป็นผู้มีปฏิปทามักน้อย สันโดษ ไม่ระคนด้วยหมู่ แสวงหาวิเวก ปรารภความเพียร ตั้งแต่วันบรรพชาอุปสมบทจนกระทั่งวาระสุดท้าย เรียกว่าครบบริบูรณ์
ธุดงควัตรของท่านคือบิณฑบาตเป็นวัตร ฉันมื้อเดียวเป็นวัตร ฉันในบาตรเป็นวัตร ใช้ผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ผู้ที่จะไปถวาย ถ้าเป็นจีวรสักผืนหนึ่ง ผ้าสบง ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม เรียกว่าผ้าก็แล้วกัน ถ้าจะถวายท่าน เขามักจะไปวางไว้ที่บันไดบ้าง วางใกล้ ๆ กุฏิของท่านบ้าง วางตรงทางเดินไปห้องน้ำบ้าง ท่านเห็นก็บังสุกุลเอา บางผืนก็ใช้ บางผืนก็ไม่ได้ใช้ ผู้ไม่รู้อัธยาศัยไปถวายกับมือ ท่านจะไม่ใช้
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นพระนักปฏิบัติ เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าที่มีลักษณะสมบูรณ์แบบด้วยลักษณะภายนอกและภายใน เพราะเหตุนั้น เกียรติคุณของท่านจึงขจรขจายถึงทุกวันนี้ แทนที่จะเป็น ๖๐ ปี แล้วก็เลือนหายไป กลับเพิ่มขึ้น ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะบุคลิกของท่านนั้นเป็นบุคลิกที่สมบูรณ์แบบ... -
ทำทานบารมีอย่างไร ถึงจะเต็มภพเต็มภูมิ - พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
ตอบ: คงจะยาก ถ้าเต็มแล้ว .. จะวัดด้วยจำนวนอะไรได้ ต่อให้ขนของมาเต็มโลก ก็ยังไม่เป็นที่พอใจ ต้องเต็มที่ใจ เพราะฉะนั้น .. ถ้ากำลังใจเต็มเมื่อไรก็แปลว่าใช้ได้แล้ว...
ถาม : ในระหว่างที่เราจะนั่งปฏิบัติ ตัวผมไม่ชอบมุ่งเน้น บางครั้งคิดเรื่องนี้ เรื่องนั้น..มั่วไปหมด
ตอบ: ทำอะไรต้องทำอย่างเดียว ให้ได้ผลเสียก่อน แล้วค่อยไปทำอย่างอื่นต่อ
กรรมฐานมี ๔๑ แบบด้วยกัน คือ กรรมฐาน ๔๐ กับ มหาสติปัฏฐานอีกหนึ่ง รวม ๔๑ แบบ แบบใดแบบหนึ่ง ถ้าหากเราทำสำเร็จแล้ว อีก ๓๙ แบบ หรืออีก ๔๐ แบบนั้นก็จะตามไปด้วยกัน คือ กำลังในการปฏิบัติเท่ากัน แค่เปลี่ยนวิธีเท่านั้นเอง
ต้องเอาให้ได้จริง ๆ แบบหนึ่งก่อน ถ้าได้แบบหนึ่งแล้ว แบบอื่นจะง่าย แต่ว่าไม่จำเป็นต้องศึกษาทั้งหมดก็ได้ หัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง ถ้าตั้งใจทำจริง ๆ ก็เป็นพระอริยเจ้าได้ เป็นพระอรหันต์ได้ทั้งนั้น เพียงแต่ว่า บางคนชอบศึกษาหลาย ๆ อย่างด้วยกัน จึงต้องทำให้ถึงที่สุด ให้เกิดผล คือ อย่างน้อย ๆ ทรงเป็นฌาน ๔ ของโลกียอภิญญาให้ได้ พอถึงตอนนั้นแล้วก็ค่อยเจริญวิปัสสนาญาณต่อ เพราะกำลังของฌาน ๔ สูงพอที่จะตัดกิเลสทุกอย่างได้แล้ว
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก... -
"เศรษฐีขี้เหนียว" (หลวงปู่จันทา ถาวโร)
"เศรษฐีขี้เหนียว"
" .. ต่อแต่นั้น ข้าพระองค์เดินผ่านทางมา "มาเห็นสัปโปงูเหลื่อมใหญ่ ขนดขดตัวอยู่จอมปลวกใหญ่แห่งหนึ่ง ไปไหนไม่ได้หลายร้อยปี ไม่ได้กินอาหารอะไร หิวโหยอยู่อย่างนั้น นี่เป็นพระกรรมเวรอันใดหนอ พระเจ้าข้า"
ดูก่อนอุบาสก "สัปโปงูเหลื่อมใหญ่ตัวนี้ แต่ปางก่อนโน้น เป็นเศรษฐีมีเงิน ๘๐ โกฏิ ตระหนี่ถี่เหนียว" นักปราชญ์สมณชีพราหมณ์มาภิกขาจารบิณฑบาตรไม่ให้เลย ยาจกวณิพกมาขอก็ไม่ให้ บริโภคแต่ตนผู้เดียว "แล้วเอาทองคำหนักแสนบาทใส่ไหไพใหญ่ ไปฝังไว้ที่จอมปลวกนั้น"
นั่นแหละ "จิตปฏิพัทธ์รักใคร่ พอดีสิ้นลม กรรมกับกิเลสพาไปเกิดเป็นงูเหลื่มใหญ่แล้วก็เลื้อยไปอยู่ที่จอมปลวกนั้น" ความตระหนี่เหนียวแน่นผูกมัดรึงรัดให้ขนดขดตัวอยู่ที่จอมปลวกนั้น ไปไหนไม่ได้ อดอยากข้าวปลาอาหารอยู่อย่างนั้น .. "
ธรรมพเนจร
หลวงปู่จันทา ถาวโร -
พระราชปุจฉาวิสัชนาธรรม ระหว่าง พระบรมราชินีนาถ กับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ : พระองค์หญิงวิภาวดี รังสิต ต้องสิ้นชีพิตักษัย เพราะกฎของกรรมที่ทำไว้ในชาติปางก่อนใช่ไหม?
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ : ถ้าจะกล่าวถึง กฎของกรรมเดิม ก็ถือว่ามีความสำคัญเหมือนกัน แต่กรรมที่ใหญ่ไปกว่านั้นคือ กรรมดีในปัจจุบัน ในเมื่อท่านเข้าถึงแล้ว ก็มีความจำเป็นต้องสิ้นชีพิตักษัยในวันรุ่งขึ้น เพราะตามธรรมดาความดีที่มาก เขาถือว่าความดีล้น ร่างกายของคนทนไม่ไหว จะต้องตาย อันนี้ ถ้าไปถามหมอดูหลายๆท่านจะรู้ แต่บางท่านอาจจะรู้หรือไม่รู้ อาตมาไม่ทราบ เคยทราบมาตั้งแต่เป็นเด็กๆ มีขุนนางท่านหนึ่งเป็นพระยา อยู่ๆก็ปรากฏว่ามี ต้นบัวหลวงมาขึ้นอยู่บนหลังคาของท่าน ซึ่งไม่มีน้ำ มันก็ขึ้น แล้วก็มีดอกงามไสว ท่านไปนิมนต์พระมาสวดต่อนาม บังเอิญอย่างยิ่งอาตมาก็มีส่วนไปด้วย ก็ถามท่านว่า การที่มีต้นบัวหลวงดอกบัวหลวงเกิดอยู่บนหลังคาซึ่งไม่มีน้ำ จัดว่าเป็นมหามงคล ทำไมท่านเจ้าคุณจึงต้องทำบุญอย่างนี้ คือคล้ายๆทำบุญต่ออายุ ท่านบอกว่ามันเป็นมหามงคลจริงขอรับ เป็นโชคใหญ่ แต่ร่างกายของคนเรา โบราณท่านถือว่า โชค ถ้ามันใหญ่จริงๆละก้อ ร่างกายมันทนไม่ไหว มันต้องพัง ท่านก็เลยทำบุญกันไว้ก่อน ไม่ใช่กันตาย... -
ต้นกำเนิดพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม จากนิมิตหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เมื่อหลวงปู่ปานมาย้ำเตือนว่า ไม่ใช่อุปทานแต่เป็นพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรด!
ต้นกำเนิดพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม จากนิมิตหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เมื่อหลวงปู่ปานมาย้ำเตือนว่า ไม่ใช่อุปทานแต่เป็นพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรด!
ในสายของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ จะรู้จักพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งนามว่าสมเด็จองค์ปฐม หลายท่านอาจไม่ทราบว่าสมเด็จองค์ปฐมคือใคร ทั้งนี้ผู้อ่านต้องทราบก่อนว่า พระพุทธเจ้านั้นในอดีตกาลที่ผ่านมามีจำนวนมากมาย โบราณอุปมาเปรียบเทียบไว้ว่า มากกว่าเม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทรทั้ง ๔
สำหรับสมเด็จองค์ปฐม ก็คือพระพุทธเจ้าองค์แรกหรือองค์ที่หนึ่งทรงพระนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขี” แต่พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ผ่านไปแล้วอาจจะมีชื่อซ้ำกันได้ โดยเฉพาะชื่อนี้มีด้วยกันถึง ๕ พระองค์ จึงเรียกขานกันว่าเป็น พระพุทธสิกขีทศพลที่๑ พระองค์จึงทรงเป็นต้นพระพุทธวงศ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ จึงสมควรยกย่องพระพุทธองค์ว่าทรงเป็น “สมเด็จองค์ปฐมบรมครู”อย่างแท้จริง
สมัยที่สมเด็จพระพุทธองค์ ได้ทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ในเวลานั้น คนมีอายุขัยประมาณ ๘ หมื่นปี พระพุทธองค์ทรงผนวชออกมหาภิเนษกรมณ์ เมื่อพระชนมายุได้ ๔ หมื่นปี หลังจากทรงผนวชแล้วเป็นเวลาอีก ๒หมื่นปี... -
“เณร! เมื่อคืนพญาครุฑมา ถ้าเขามาเมื่อไหร่จะต้องมีงูตายนะ” หลวงปู่เจี๊ยะบอกลูกศิษย์ให้ดูหลักฐานที่ถ้ำช้างร้อง จ.ตาก
“เณร! เมื่อคืนพญาครุฑมา ถ้าเขามาเมื่อไหร่จะต้องมีงูตายนะ” หลวงปู่เจี๊ยะบอกลูกศิษย์ให้ดูหลักฐานที่ถ้ำช้างร้อง จ.ตาก
ในวงศ์พระกรรมฐานสายท่าน”พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต” นั้น “หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท” จะเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เป็นที่ยอมรับเรื่องธรรมภายใน กิริยาภายนอกที่สบาย ๆ ของท่าน ท่านพระอาจารย์มั่นเป็นผู้ที่เรียกหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโทป็นองค์แรกว่า “ผ้าขี้ริ้วห่อทอง” แล้วหลวงตามหาบัวนำมาเรียกบอกเล่าให้บรรดาลูกศิษย์ฟัง หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท ท่านเป็นพระ อุปัฏฐากหลวงปู่มั่น อยู่ถึง 3 ปี หลวงปู่มั่นถึงกับเคยเอ่ยชมหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโทว่า “เออหมู่เอ๊ย!... มีหมู่มาเล่าเรื่องการภาวนาให้เราฟังที่เชียงใหม่เว้ย... เธอปฏิบัติของเธอสามสี่ปีเหมือนเราลงที่นครนายก ‘มันลงเหมือนกันเลย’ ท่านย้ำว่าอย่างนั้น ท่านองค์นี้ภาวนา ๓ ปี เท่ากับเราภาวนา ๒๒ ปี อันนี้เกี่ยวเนื่องกับนิสัยวาสนาของคนมันต่างกัน” ซึ่งหลวงปู่มั่นบรรลุธรรมขั้นอนาคามี ใช้เวลาถึง ๒๒ปี ที่ถ้ำสาลิกา จ.นครนายก แต่หลวงปู่เจี๊ยะนั้นบรรลุธรรมขั้นอนาคา มี ที่วัดทรายงาม จ.จันทบุรี โดยใช้เวลาแค่ 3 ปี
ในช่วงพรรษที่43-47ของหลวงปู่เจี๊ยะอยู่ในช่วงพ.ศ.2522... -
คนที่ตั้งหน้าทำแต่ความดี ทำไมจึงไม่ได้ดีเหมือนคนชั่วบางคน?
"หลวงพ่อครับ คนที่ตั้งหน้าตั้งตากระทำแต่ความดี ทำไมจึงไม่ได้ดีเหมือนคนชั่วบางคนเล่าครับ"
"ถ้าคุณเริ่มปลูกต้นมะม่วงในวันนี้ คุณจะเก็บมะม่วงกินได้สักเมื่อใด?" หลวงพ่อย้อนถาม
"เอ ผมก็ไม่ค่อยจะมีความรู้ในเรื่องของมะม่วง แต่ที่บ้านผมปลูกไว้ไม่ต่ำกว่า ๕ ปี จึงจะออกผลครับ" ข้าพเจ้าตอบ ชักลังเลไม่แน่ใจว่าหลวงพ่อฟังเรื่องที่ข้าพเจ้าเล่า หรือฟังคำถามของข้าพเจ้าหรือเปล่า
"เอ้อ ตอนปลูกคุณเหนื่อยไหม?" หลวงพ่อถามเรื่อยๆ
"เหนื่อยสิครับ เพราะดินที่บ้านผมเป็นดินเปรี้ยว ต้องขุดหลุมกว้างถึง ๑ เมตร ยาว ๑ เมตร ลึก ๑ เมตร แล้วหาดินใหม่มาใส่แทน อีกทั้งต้องให้ปุ๋ยและเอาปูนขาวลงไว้รอบๆ หลุมอีกด้วยครับ" ข้าพเจ้าตอบตามความเป็นจริง
"ปลูกต้นมะม่วงเหนื่อย แต่ก็ยังไม่ได้กินผลในทันที แล้วตอนนี้คุณต้องคอยดูแลต้นมะม่วงของคุณอีกหรือไม่?" หลวงพ่อยังถามเรื่อยๆ
"ไม่แล้วครับ ปล่อยทิ้งๆ ขว้างๆ หากเกิดขยันเมื่อไร ผมจึงรดน้ำให้บ้าง แต่ก็นานๆทีครับ" ข้าพเจ้าตอบ
"แล้วมันออกลูกให้คุณกินทุกปีไหม?" หลวงพ่อถามยิ้มๆ
"ทุกปีแหละครับ มากบ้างน้อยบ้าง สุดแล้วแต่ว่าเพลี้ยจะลงหรือไม่ครับ" ข้าพเจ้าตอบตามความเป็นจริง... -
ปัญหาของผู้ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิมาก่อน : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
หลวงพ่อ :- “คำว่า มโนมยิทธิ แปลว่า มีฤทธิ์ทางใจ
มโนมยิทธิ นี่เป็นการเตรียมอภิญญา จะเรียกวิชชาสามตรงๆก็เข้มเกินไป จะเรียกอภิญญาก็ยังอ่อนอยู่ เป็นการเตรียมอภิญญา เตรียมเพื่อรับอภิญญาหก
วิชชาสามจริง ๆ ไปไม่ได้ แต่เห็นได้ นั่งอยู่ตรงนี้ สามารถเห็นเทวดา เห็นพรหม เห็นพระอริยะ สามารถคุยกันได้ นั่งอยู่ตรงนี้ สามารถคุยกับเปรตได้ คุยกับอสุรกายได้ คุยกับพวกสัตว์นรกได้ แต่ก็นั่งอยู่ตรงนี้เอง
ทีนี้สำหรับมโนมยิทธินี่ ก็เป็นอภิญญาทางใจส่วนหนึ่ง ต้องถือว่าเป็นกึ่งหนึ่งของอภิญญา เพราะว่าสามารถเอาจิตไป เอากายในไป
ทว่า ถ้าเป็นอภิญญาจริงๆ เขายกตัวไปเลย จะไปสวรรค์ไปพรหม เขาเอาตัวไปเลย นั่นต้องใช้กำลังเข้มแข็งกว่า สูงกว่า แต่ว่ากันโดยผล มีผลเสมอกัน เพราะไปเห็นมาได้เหมือนกัน”
ผู้ถาม :- “หลวงพ่อคะ ถ้าอย่างดิฉันต้องการฝึกบ้าง ต้องใช้เวลากี่วันคะ…?”
หลวงพ่อ :- “ก็สุดแล้วแต่คุณจะทำได้ ถ้าคนทำได้เร็วไม่ถึงวันก็ได้ อันนี้จริงๆนะ ถ้าทำได้เร็วใช้กำลังใจถูกต้อง โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้หญิงนี่จะได้เร็วมาก เพราะพวกผู้หญิงนี่ไม่ค่อยสงสัย เพราะตัวสงสัยเป็นตัวนิวรณ์
ส่วนใหญ่จริง ๆ พวกผู้หญิงนี่ มักจะเป็นได้วันแรก... -
คนยากจนที่สุดหากรู้จักทำทานก็รวยได้
คนยากจนที่สุดหากรู้จักทำทานก็รวยได้
การทำทานทำให้คนรวยได้จริง การทำทานไม่ใช่เรื่องของแค่คนรวยๆ อย่างท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีเท่านั้น หลายๆ คนอาจมองว่าเพราะเขามีมากเขาจึงทำได้ คนจนๆ จะเอาอะไรไปทำทานเพียงแค่หากินให้พอเลี้ยงปากท้องก็แย่พอแล้ว
ความจริงแล้วคนที่ยากจนนั้นยิ่งต้องทำทานให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้หายจนเพราะยิ่งตระหนี่มากเท่าไหร่ ความตระหนี่ก็จะผลักเอาความร่ำรวยออกไปทำให้ยิ่งจนลงมากกว่าเดิม ส่วนคนที่เกิดมายากจนแต่รู้จักทำทานให้ถูกคน ถูกกาล มีจิตยินดีเสมอในการทำทานเขาก็จะสามารถร่ำรวยมีความสุขขึ้นมาได้
ในยุคสมัยของพระพุทธเจ้ากัสสปะ มีชายคนหนึ่งที่ชื่อ “มหาทุคตะ” แปลว่า “ชายที่แสนยากจน” มีอาชีพเป็นขอทานความยากจนของแกนั้นเรียกได้ว่าจนระดับที่สุดของเมืองเลยก็ว่าได้
วันหนึ่งนายมหาทุคตะก็ได้รับการชักชวนจากบัณฑิตผู้หนึ่งให้ทำบุญกับพระภิกษุสาวกของพระพุทธเจ้าบ้างจะได้เป็นบุญวาสนาติดตัวไปไม่ทำให้ยากจนอีกในภายภาคหน้า มหาทุคตะได้ยินการอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้าแล้วก็เกิดความรู้สึกยินดีมาก คิดจะทำทานกับพระสาวกของพระพุทธองค์สักรูปหนึ่งก็เลยไปทำการจองพระไว้รูปหนึ่งกับบัณฑิตที่มาชักชวน... -
นิสัยเทวดาทำบุญ กับ นิสัยเปรตทำบุญ
นิสัยเทวดาทำบุญ กับ นิสัยเปรตทำบุญ
เทวดากับเปรต อยู่คนละมุมกัน อยู่คนละด้านกัน
เทวดาจะไม่ทำบาป จะมีแต่ให้ จะไม่อยากได้อะไร อยากให้ ให้แล้วมีความสุข
เปรตนี้อยากได้ ได้แล้วมีความสุข ได้แบบไม่ถูก ได้ด้วยการทำบาป ด้วยการฉ้อโกง ด้วยการโกหกหลอกลวง ด้วยการลักทรัพย์ ด้วยการฆ่าผู้อื่น อันนี้จะทำให้ใจหิวโหย ได้เท่าไหร่ก็ไม่พอ ได้หนึ่งล้านก็อยากจะได้สองล้าน ได้สองล้านก็อยากจะได้สามล้าน อันนี้ก็จะทำให้หิวให้อยากเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
ส่วนคนชอบให้ จะไม่โลภอยากได้ อยากแต่จะให้ ให้แล้วมีความสุข แล้วไม่อยากเบียดเบียนผู้อื่น ไม่อยากทำบาป ทำมาหากินก็ทำด้วยวิธีสุจริต ได้เงินมามากเกินกว่าจะใช้ได้ก็เอาไปทำบุญทำทาน นี่เป็นลักษณะของเทวดา ไม่ได้หวังจะต้องร่ำรวยมหาศาล พออยู่ได้กินได้ ไม่เดือดร้อนก็พอแล้ว นิสัยเทวดาจะเป็นแบบนี้ ไม่โลภ ไม่อยากเกินความจำเป็น ขอให้มีแบบพอมีพอกิน พอมีเกินกว่านั้นก็เอาไปทำบุญ
เราเคยบิณฑบาตที่กรุงเทพฯ มีร้านขายของอยู่ร้านหนึ่ง วันหนึ่งๆเขาจะใส่บาตรพระเป็น100รูป หุงข้าวหม้อเบ้อเร่อเลย เขาเตรียมใว้ ฐานะเขาก็ไม่ร่ำรวยอะไร มีห้องแถวสองห้อง ขายของอะไรตามปกติ แต่ใจเขาไม่โลภ... -
"ปัญญา เกิดจากใจที่สงบ" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
"ปัญญา เกิดจากใจที่สงบ"
" .. "ปัญญานั้นก็ต้องเกิดจากสมาธิ" ไม่ใช่ว่าปัญญาที่เรานึกเดาเอา นึกคาดคะเนไปตามอาการต่าง ๆ อย่างนั้นไม่ใช่
ปัญญาในที่นี้หมายถึง "ปัญญาเกิดจากใจที่สงบตั้งมั่นอยู่ภายใน" เมื่อใจตั้งมั่นอยู่ภายในแล้ว มันก็ผ่องใส มันก็ไม่มัวหมอง เมื่อมันผ่องใสแล้ว เราจะคิดนึกถึงเรื่องอะไร มันก็เห็น มันก็รู้เรื่องนั้นโดยแจ่มแจ้งได้
"เหมือนอย่างไฟฟ้าที่ไส้มันก็ยังดีอยู่ หัวเทียนก็ดี อย่างนี้แหละไม่เสียอะไร พอกดสวิตช์เท่านั้น มันก็สว่าง" มองเห็นวัตถุสิ่งของต่าง ๆ อยู่ในรัศมีแห่งความสว่างนั้นได้โดยชัดเจน ข้อนี้ฉันใดปัญญาก็เป็นเช่นนั้นแหละ
"เมื่อใจสงบผ่องแผ้วดีแล้ว เราพิจารณาเรื่องอะไรมันก็เห็นชัดไปในเรื่องนั้น เพราะว่ากระแสจิตมันใสสะอาด กระแสจิตมันสว่าง" ดังนั้นมันจึงรู้ความจริงของเรื่องนั้นได้ตามความเป็นจริง .. "
โดย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย -
คนเรากำลังใจมีแค่ไหนก็จะคิดแค่นั้น ทำแค่นั้น
✨ คนเรากำลังใจมีแค่ไหนก็จะคิดแค่นั้น ทำแค่นั้น ✨
จำไว้อย่างหนึ่งว่า คนที่น่ากลัวที่สุดก็คือคนที่เหลือแต่กิริยาไม่มีมารยาแล้ว ❄️ คนประเภทนี้ นี่ทำอะไรก็ทำไปโป้ง ๆ เลย ไม่ต้องไปดัดจริตแล้ว เพราะว่าดีชั่วเท่านั้นตัวเองรู้อยู่ ก็ไม่ต้องไปดัดจริตรอว่าใครจะมาชมว่าเป็นคนดี ทำอะไรทำจากน้ำใสใจจริง คนประเภทนี้น่ากลัว เพราะว่าทางของเขาสั้นกว่าคนอื่นแล้ว
เมื่อกำลังใจไปถึงระดับนั้น เขาจะมองทุกอย่างเหมือนกับรุงรัง เกะกะ มีแต่จะขวางให้ช้า ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็พร้อมที่จะโยนทิ้งได้ทันที บางครั้งดูเหมือนเป็นคนไม่มีน้ำใจ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ เขาเอาเฉพาะเรื่องที่เป็นอรรถเป็นธรรมเท่านั้น เรื่องอื่นที่นอกทุ่งนอกท่าเข้ามา ถูกไล่เตลิดเปิดเปิงไปหมด ลักษณะเหมือนกับเป็นคนขี้รำคาญ ...เพราะอะไร ? เพราะตัวเขาเองเห็นทางตรงแล้ว คนอื่นจะมาดึงเขาออกนอกทาง เขาก็ต้องรำคาญ..ใช่ไหม ?
เรื่องนี้อาตมาเคยถามหลวงพ่อวัดท่าซุงครั้งหนึ่ง ท่านบอกว่าลองสังเกตดูสิ ❤️ ถ้าคนที่กำลังใจมุ่งตรงแล้ว ทำอะไรทำรวดเร็ว รักษาเวลามาก รู้แล้วว่าเวลาตัวเองมีน้อย จึงรักษาเวลาตัวเองมาก ทำอะไรทำเร็ว แต่ขณะเดียวกัน พวกที่เวลายังเยอะ... -
เคล็ดวิธีทำบุญเสริมความรัก จากตำรับหลวงพ่อเงิน กตสาโร
เคล็ดวิธีทำบุญเสริมความรัก จากตำรับหลวงพ่อเงิน กตสาโร
มีหลายท่านอยากจะหาเคล็ดที่ทำบุญอย่างไร จะช่วยเสริมผลบุญให้ชีวิตคู่มีแต่ความสุขหรือเสริมผลบุญไม่ให้ชีวิตขมขื่น หรือระหว่างเรากับคนรักทำไมทะเลาะกันบ่อย ทั้งที่ไม่เป็นเรื่อง จู่ๆแฟนเราก็เอาแต่เข้าใจผิดหึงไร้สาเหตุ ชีวิตนี้ไม่มีความสุข ผมขอแนะนำวิธีทำบุญเพื่อเสริมความรัก ของหลวงพ่อเงิน กตสาโร และหวังว่าอานิสงส์ผลบุญจากวิธีนี้จะช่วยให้ชีวิตคู่ชีวิตรักเดินหน้าต่อไปได้ครับ
หลวงพ่อเงิน กตสาโร ท่านบอกว่ามันต้องแก้ที่นิสัยก่อนคือต่างฝ่ายต่างเอาความดีความจริงเข้าหากัน และหมั่นถือศีล 5 โดยเฉพาะข้อ 3 ไว้ให้มั่น จะทำให้ชีวิตรักไปได้ดังจุดหมาย หลวงพ่อเงินกล่าวว่าการทำบุญจะช่วยให้ผลแห่งความดีและกุศล ชะลอกรรมเก่าให้ออกผลน้อยลงหรือช้าลง
หลวงพ่อเงินท่านว่าคนที่ชีวิตรักไม่ราบรื่นเกิดจากกรรมเก่าที่เคยพรากเนื้อคู่ สามี หรือภรรยาเขามา หรืออิจฉาทำให้คนรักผิดใจซึ่งกันและกัน หรือชาติที่แล้วเราอาจข่มเหงรังแกน้ำใจคนรักเราหรือไปทำบุญกับคนรักแบบไม่เต็มใจ
หลวงพ่อเงินท่านจึงบอกให้ลองเอาเคล็ดนี้ไปใช้ดูเพื่อขออโหสิกรรมเก่าต่อกัน...
หน้า 394 ของ 412