โกหกคนไป ไม่สบายใจเลยค่ะ

พี่ๆคะหนูได้ทำการโกหกไป หนูไม่สบายใจเลยค่ะถึงแม้ว่าการที่หนูโกหกไปนั้นก็เพื่อให้อีกฝ่ายได้สบายใจ รู้สึกดีขึ้น หนูควรทำไงดีคะเพื่อที่จะลบล้างความผิดเหล่านั้น

 

ถ้าเป็นผมนะครับ
เอาแบบง่ายๆก่อน เพื่อให้เราสบายใจก็แค่
สวดมนต์สักบท หรือ แผ่เมตตาสักจบ
ก็โอเคแล้วครับ
ส่วนจะลึกซึ้งกว่านั้น ก็คงต้องให้ผู้รู้มาชี้แจงอีกทีนะครับ
---------------

สาธุกับการสำนึกได้....

 

รู้ว่าผิดคราวหน้าก็ไม่ต้องทำ อะไรที่พูดไม่ได้ ก้อนิ่งเสีย อะไรที่ผ่านไปแล้ว แก้ใขไม่ได้ อย่าเอามาคิด จนเป็นเรื่องเป็นราว ผิดก้อรู้ว่าผิด ก้อดีอยู่แล้ว กิจอะไรที่ควร ก้อทำไปเถอะค่ะ ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนไม่ไช่เหรอ

 

ถ้าโกหกแล้วไม่สบายใจก็พูดความจริงนั่นแหละ พูดแล้วคนฟังจะรับได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องนึง พูดตรง ๆ สบายใจดี
การที่เราโกหกละเมิดศีลแล้วไม่สบายใจเพราะจิตเรามี หิริและโอตัปปะนั่นเอง
พยายามให้มากนะ ให้กำลังใจ

 

ชอบอันนี้ เจ๋งเป้ง แหล่มเลยย...ตัดฉึบ ตัดฉึบ ... ^^

 

คำว่าโกหก ที่มีโทษจริงๆ ก็คือเจตนาที่หวังร้าย มุ่งร้าย

อย่างเจตนาพูดโกหกเพื่อหลอกเอาตังค์จากคนอื่น อย่งางี้มีโทษแน่นอน

โกหกเพื่อหลอกไห้เขามาชอบเรา รักเรา แต่เราไม่จริงใจ หวังแค่หลอก อย่างงี้เป็นต้น

แต่การพูดไห้อีกฝ่ายหนึ่งสบายใจ อาจจะเรียกว่ากุสโลบายก็ได้

คำว่ากุสโลบาย คือทำไห้อีกฝ่ายหนึ่ง สบายใจ โดยที่ไม่โทษ ไม่ได้มุ่งร้าย

แบบนี้ ศีลไม่ขาดนะ ถ้าเรากังวลใจ เขาเรียกว่าศีลด่าง มันมีตำหนิหน่อย

ถ้าโกหก เพราะความคะนองปาก หรือเผลอพูดโม้เกินความจริง อันนี้ก็ แหว่งและ

หนักกว่าศีลด่าง ศีลขาดจริงๆ แบบเต็มร้อยก็คือ

1ตั้งใจไว้แล้ว หรือมีเจตนา

2 และได้กระทำไห้เกิดขึ้น

3 ผลของการกระทำเสร็จอย่างสมบูรณ์( เช่นหลอกเอาสตาค์ คนอื่นใส่กระเป๋าเราเรียบร้อยแล้ว เป็นต้น) โทษหนักเบา ก็ดูสามข้อเป็นหลัก ก็ลดลั่นลงไป

อย่าไปกังวลเลยครับ จิตเศร้าหมองไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่มีประโยชน์ มันก็จะมีโทษไช่ไหม

คำว่าเกิดเป็นคน ไม่มีใคร ไม่เคยทำความผิดไช่ไหม

ลองดูสิครับ หััวใจของคำสอน ขององค์สมเด็จ พระพุทธองค์จึงได้ตรัสไว้ดังนี้ครับ

1 หยุดทำความชั่ว (พระพุทธองค์ทรงรู้เพราะพระองค์ท่านเป็นสรรพํญญู ผู้รู้แจ้งโลก ท่านรู้ว่าคนมันชั่วกันแน่ๆ ขึ้นต้น

พระองค์ท่านก็เลยสอน ไห้หยุดทำความชั่วก่อนเลย)

2 กระทำแต่ความดี

3 ทำใจไห้ใสสอาด ไม่ให้มัวหมอง

อนุโมทนาครับ ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนครับ

 

สร้างกุศลให้มากๆ โดยการบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา แล้วแผ่เมตาขออโหสิกรรมบ่อยๆ ถ้าไม่ใช่กรรมหนักจะเป็นอโหสิกรรมในที่สุด แล้วอย่าลืมอาราธนาศีลด้วยจ้าจะเป็นกุศโลบายให้เราไม่กล้าละเมิดศีล

 

มุสาเขาว่าห้ามพูดเท็จแต่ถ้าพูดสำเร็จอันนี้ก็ไม่เป็นไร(deejai)

 

มีผู้ร้ายกระชากสร้อยคนหนึ่งวิ่งหนีผ่านกุฎิพระซึ่งพระภิกษุนั่งอยู่หน้ากุฎิ แล้วก็มีตำรวจวิ่งตาม เมื่อพระเห็นตำรวจจึงได้ขยับเก้าอี้ไปอีก1ฟุต เมื่อเจ้าหน้าที่ถามว่า ท่านๆเห็นคนร้ายวิ่งผ่านมาทางนี้หรือไม่ พระตอบว่า อาตมานั่งอยู่ที่นี่ไม่เห็นมีใครเลย อย่างนี้พระโกหกหรือปล่าว(อย่างนี้มันต้องใช้ปัญญากันหน่อย)