แตกกรุเสน่ห์!! (เมตตามหาเสน่ห์เชิญด้านในครับ)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย kwang0197, 17 พฤศจิกายน 2013.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    แตกกรุสเน่ห์



    ยินดีต้อนรับลูกค้าและผู้สนใจทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมนะครับ
    รายละเอียดต่างๆสอบถามทาง PM.
    เน้นพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยครับ


    สำหรับผู้จอง ขอให้ชำระโอนเงินภายใน 5 วันนะครับ หลังจากการจองนะครับ
    หากนานเกินกำหนด มีผู้สนใจโอนเงินมา ต้องขอให้ท่านที่จองสละสิทธ์ครับ


    สำหรับผู้สนใจสามารถ PM. โทรศัพท์ หรือไลน์มาคุยกันก่อนได้
    ถ้าบางรายการสูงเกินไป เรื่องราคาไม่เป็นปัญหาครับ
    ขอให้ถูกใจท่าน ถูกใจผม ราคาพอรัีบได้ก็พอแล้ว


    บัญชีธนาคารกสิกรไทย
    เลขที่บัญชี 233-2-36913-2 ออมทรัพย์ สาขาสวรรคโลก
    นายชำนาญวิทย์ อภิชาติตรากูล


    ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ทาง PM
    หรือเบอร์โทร 084-162-2166 (กวาง)
    หรือทางไลน์ แอคเข้ามาได้ที่ cwitapi


    หมายเหตุครับ

    ชื่อเป็นสีเขียว-->ติดต่อได้ครับ ยังไม่มีท่านใดจอง
    ชื่อเป็นสีส้ม-->รายการนี้มีคนจอง แต่ยังไม่ได้โอน
    ชื่อเป็นสีแดง-->รายการนี้ปิดแล้วครับ
    *** ดอกจันสีฟ้า-->รายการแนะนำครับ เก็บก่อนแพง

    ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2015
  2. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พระยอดอัฏฐารส กรุสุพรรณ พิมพ์ใหญ่***

    ***เก็บก่อนแพงนะครับ รายการประกวดพระ เริ่มจัดพระยอดอัฎฐารส กรุสุพรรณ อยู่ในรายการ หลายๆงานแล้วครับ ***

    ในวงการพระเครื่อง นักนิยมสะสมพระเครื่องต่างรู้จัก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก กันเป็นอย่างดี ในฐานะที่เป็นแหล่งกำเนิดพระเครื่องยอดนิยมที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของเมืองไทย โดยเฉพาะ พระพุทธชินราชใบเสมา อันถือว่าเป็นพระยอดนิยมชั้นนำ ๑ ใน ๕ ของพระชุดเบญจภาคี ยอดขุนพล เนื้อชิน รวมทั้ง พระพุทธชินสีห์ ยอดพระเครื่องเนื้อชิน ก็ถือกำเนิดจากกรุวัดนี้เช่นกัน
    นอก จากนี้ ยังมีพระเครื่องยอดนิยมอีกพิมพ์หนึ่ง ซึ่งขุดพบจากกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ. พิษณุโลก ซึ่งมีลักษณะพิเศษตรงที่เป็น พระเนื้อชินเขียว และเป็นสุดยอดของพระประเภทเนื้อชินเขียว ที่วงการยกย่องให้เป็นอันดับหนึ่ง นั่นคือ พระยอดอัฏฐารส พระเครื่องศิลปะสุโขทัย โดยขุดพบจากยอดพระเศียรพระอัฏฐารส และบริเวณฐานขององค์พระ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ด้านหลังของวิหารคดของพระปรางค์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ. พิษณุโลก
    ในสมัยโบราณ นอกจากบรรจุพระไว้ในกรุเจดีย์แล้ว ยังนิยมบรรจุไว้ภายในพระเศียรพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ด้วย แม้แต่ที่บริเวณฐานหรือบางส่วนขององค์พระก็ยังมีผู้ขุดพบพระเครื่องอยู่ด้วย จึงเกิดการลักลอบเจาะทำลายค้นหาพระเครื่อง เป็นเหตุให้พระอัฏฐารสต้องชำรุดเสียหาย
    การที่ได้พบพระเครื่องบนยอด พระเศียรพระอัฏฐารส ในสมัยรัชกาลที่ ๕ นี้เอง จึงเป็นที่มาของชื่อพระเครื่องพิมพ์นี้ พระยอดพระอัฏฐารส เป็นพระที่มี ๒ หน้า ขนาดขององค์พระ มีทั้ง พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก
    พุทธลักษณะเป็นพระ 2 ด้าน ด้านหน้าเป็นพระปางลีลา ด้านหลังเป็นพระซุ้มอรัญญิก บางองค์เป็นพระลีลาทั้ง 2 ด้านก็มี หรือบางองค์ด้านหน้าเป็นพระลีลา ด้านหลังเป็นพระพุทธก็มี

    พระยอดอัฏฐารส ทุกพิมพ์สร้างด้วย เนื้อชินเขียว หรือ ชินแข็ง เป็นเนื้อโลหะผสม ระหว่าง ดีบุก ตะกั่ว สังกะสี พลวง เหล็ก ปรอท และเงิน ทำให้เนื้อพระมีความแข็ง คงทน ไม่สึกง่าย และไม่มีรอยระเบิด หรือรอยรานแตกร้าวปรากฏให้เห็น
    พระ เนื้อนี้จะมีสนิมไขมันใสเป็นเม็ด คล้ายไข่แมงดา เรียกว่า สนิมไข่แมงดา เกาะติดฝังลึกแน่น ไขชนิดนี้เกิดจากภายในเนื้อองค์พระออกมา พร้อมมีฝ้าสีเหลืองอ่อนปกคลุมทั่วองค์พระ และมีสนิมปานดำ หรือ กระ ที่มีสีเข้มเป็นจุดดำเกิดขึ้นเป็นจุดๆ เป็นปื้นกินลึกเข้าไปในเนื้อโลหะ กระ ที่ว่านี้ไม่สามารถขัดถูออกได้
    พระเนื้อชินเขียว มีการเช่าหากันมาตั้งแต่ดั้งเดิม พิมพ์ที่ได้รับการยอมรับ และเล่นหาสะสมกันมานานปี ถือเป็นมาตรฐานสากลนิยม มีอยู่เพียง ๒ พิมพ์เท่านั้น คือ พระร่วงยืนทรงเกราะ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุโขทัย และ พระยอดอัฏฐารส กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก อันเป็นพระเนื้อชินเขียวที่คนรุ่นเก่านิยมกันมาก กล่าวกันว่า ราคาเช่าหาในสมัยก่อนสูงมาก เทียบเท่ากับพระสมเด็จ วัดระฆัง สุดยอดแห่งชุดเบญจภาคี
    นอกจากนี้ พระพิมพ์อัฎฐารส ยังมีการขุดพบที่ จ.สุพรรณบุรีอีกด้วย แต่ลักษณะพิมพ์องค์พระ และเนื้อหามวลสารแตกต่างกัน
    พระ อัฏฐารส ของเมืองพิษณุโลก เป็นพระที่เยี่ยมยอดในพุทธคุณทุกด้าน โบราณเชื่อถือมาช้านาน บูชาขึ้นคอได้อย่างมั่นใจแน่นอน ราคาเช่าหา ทุกพิมพ์หลักหมื่นขึ้นไป สุดแล้วแต่พิมพ์ที่นิยมเล่นหากัน บางพิมพ์ที่เป็นพิมพ์ใหญ่นิยม ราคาสูงถึงหลักแสนขึ้นไป บางท่านที่ชื่นชอบ "พระยอดอัฏฐารส" พิมพ์นี้ เนื้อนี้ ถึงกับไม่ยอมปล่อยต่อก็มี

    ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล เวปคมชัดลึก



    จักรพรรดิแห่งชินเขียว ยอดอัฎฐารส
    (ข้อความบางส่วนขัดลอกจากนิตยสารพระเครื่องยอดนิยม ฉบับ พฤศจิกายน 2551)
    ............สรุปความว่า พระยอดอัฎฐารสแห่งเมืองสองแคว พิษณุโลกนั้น จัดเป็นยอดนิยมสูงสุดในบรรดาพระเนื้อชินอุทุมพร สกุลยอดอัฎฐารสทุกเมือง ลือเลื่องในกฤษฎาภินิหาร จนได้รับความรับนิยมจากวงการพระเครื่อง จัดให้อยู่ในระดับ แนวหน้ายอดขุนพล เหตุผลก็คือ พุทธคุณที่เด่นด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด โชคลาภ และความก้าวหน้า ประดุจดั่งองค์ปฎิมา ในภาพลักษณ์พระอิริยาบถลีลา ก้าวเยื้องไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ส่วนด้านหลังนั่งสงบอย่างร่มเย็นมีความสุขภายใต้ซุ้มเรือนแก้วที่โอ่อ่าอลังการ จึงได้รับการกล่าวขนาอย่างไม่เสื่อมคลาย ตั้งแต่อตีดจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมีการเช่าหากันอยู่ หลักแสนในองค์ที่สวยสมบูรณ์ (พิมพ์ใหญ่นิยม)

    ***ส่วนพระยอดอัฎฐารสของเมืองอื่นๆ ถูกจัดอยู่ในสกุลพระยอดอัฎฐารส จึงมีราคาลดหย่อนลงไป อันพุทธานุภาพ ตลอดจนเนื้อหา เฉกเช่นเดียวกับองค์ต้นตระกูลทุกประการมิได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันแม้แต่น้อย เพราะได้กล่าวตั้งแต่ต้นแล้วว่า พระยอดอัฎฐารสนั้นถูกบรรจงสร้างให้เป็นพระประจำเมืองราชธานี จึงต้องมีความศักดิ์สิทธิ์อเนกอนันต์ เหนือคำบรรยายทั้งปวง***

    สำหรับนักนิยมพระเครื่องที่สนใจใครแสวงหาไว้ในครอบครอง เพื่อหวังพึ่งพามหิทธานุภาพ และอนุรักษ์ไว้เป็นมรดก ให้อนุชนรุ่นหลังได้สืบสาน ขอได้โปรดพิจารณาใคร่ครวญในด้านเนื้อหา พิมพ์ทรง คราบไข สนิม กระ ปานดำ ตามที่เสนอมาแล้วนั้น น่าจะเป็นมาตรฐาน ในการเล่นหาพระเนื้อชินอุทุมพรได้อย่างถูกทาง เพื่อว่าผู้อ่านพบเห็นพระที่มีลักษณะตามที่กล่าวมาแล้วนั้น ขอให้ท่านฟันธงตัดสินใจเป็นเจ้าของทันที ความโชคดีจะเป็นของท่าน แล้วพบกันอีกเมื่อโอกาสอำนวย สวัสดี
    ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล หนังสือนิตยสารยอดนิยม ฉบับรวมเล่ม พฤศจิกายน- ธันวาคม –มกราคม 2551-2552

    พระยอดอัฏฐารสที่นำมาให้ชมเป็นพระพิมพ์ใหญ่ ของกรุจังหวัดสุพรรณครับ ถ้าดูจากรูปรวมเป็นพิมพ์เดียวกับพระองค์ที่ 1 แถวที่ 2 ครับ

    สำหรับผู้ที่หาหรือหวังพึ่งพุทธคุณพระยอดอัฏฐารส ของจังหวัดพิษณุโลก แต่หาไม่ได้เลย เพราะเซียนใหญ่เซียนน้อย ต่างเก็บกันหมด ลองมาใช้พระอัฏฐารส ของจังหวัดนี้แทนก็ได้นะครับ

    ราคาย่อมลงมากว่ากันเยอะ (พระยอดอัฏฐารส ของจ.พิษณุโลก พิมพ์ใหญ่ เนื้ออุทุมพร ขึ้นแสนไปนานแล้วครับ) แต่พุทธคุณเค้าว่าแทนกันได้
    องค์แท้ตาเปล่า จากหนังสือเป๊ะๆ เชคค่าบูชาทาง PM ครับ ขอบคุณครับ


    ขอบคุณครับ:cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้แล้วครับ



    พระขุนแผนครูบาจันต๊ะ รุ่น 2 สีน้ำตาลออกแดงครับ

    พระขุนแผนครูบาจันต๊ะ รุ่น2 วัดหนองช้างคืน สุดยอดขุนแผนภาคเหนือ นับว่าเป็นพระเครื่องอีกหนึ่งในสายมหาเสน่ห์ ที่เป็นที่นิยมของนักสะสมมากในขณะนี้ บางท่านอาจจะเรียกว่า ขุนแผนชัยมงคล รุ่น2 ครูบาจันต๊ะ วัดหนองช้างคืนลำพูน ปี 2544

    มวลสร้างของพระขุนแผนครูบาจันต๊ะ รุ่น 2 มีมวลสารมากมาย ดังต่อไปนี้
    - พระผงหลวงพ่อแดงและผงตะไบ หลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ เพชรบุรี
    - เกษรดอกไม้ 108 ว่านต่างๆ กาฝากขนุน กาฝากมะรุม กาฝากชมพู่
    - ผงหลวงพ่อทองคำ วัดท่าทอง อุตรดิตถ์
    - ผงเผาใบลานเก่า(ธรรมเก่า) วัดหนองช้างคืน
    - ผงหลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
    - ผงพระห้วยทรายใต้ เพชรบุรี
    - อิฐ - กระเบื้องเก่า วัดหนองช้างคืน
    - น้ำมนต์ วัดพระสงฆ์ น้ำมนต์หลวงพ่อเกษม สุสารไตรลักษณ์ ลำปาง
    - น้ำมนต์ วัดหนองช้างคืน
    - ปูนเปลือกหอย พลอยพระธาตุจอมทอง
    - เกษาครูบาจันต๊ะ วัดหนองช้างคืน
    - ชานหมากพ่อแก่ แร่ร่องระกำ เพชรบุรี
    - ผงขุนแผนหลวงปู่ทิม วัดระหาไร่ ระยอง 1 ถ้วย
    - ลูกอมผงพรายกุมาร 1 ลูกของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ระยอง
    - ผงได้มาจากอาจารย์วัดป่างิ้ว อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้มาจากลูกศิษย์ของหลวงปู่ทิมซึ่งผงดังกล่าวได้นำมาผสมทำผง " ขุนแผนชัยมงคล ครูบาจันต๊ะ " รุ่นนี้ด้วย

    คาถาบูชาครูบาจันต๊ะ อนาวิโล วัดหนองช้างคืน จ.ลำพูน
    นะโม 3 จบ​

    อนาวิโลปัง สังฆังวันทามิ สิทธิกิจจัง สิทธิกัมบัง สิทธิลาภัง ภะวันตุเม (3 จบ)



    พระอธิการจันต๊ะ อนาวิโล ( ครูบาจันต๊ะ )เกิดเมื่อวันจันทร์ที่


    28 ก.พ.2468 ที่ตำบลหนองช้างคืน อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อเยาว์วัยได้มาเป็นลูกศิษย์วัดหนองช้างคืนเพื่อศึกษาเล่าเรียนจากครูบาอาจารย์หลายท่าน เมื่อมีอายุได้ 12ปีได้บรรพชา จนเมื่อท่านอายุได้ 20 ปีท่านก็ได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2487 ท่านได้เล่าเรียนธรรมจนสอบธรรมสนามหลวงแผนกธรรม ชั้นโท พ.ศ. 2494 หลังจากนั้นท่านได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองช้างคืนเมื่อ พ.ศ.2520 ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่
    เจ้าอาวาสและได้พัฒนาวัดให้มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นตามลำดับ
    ไม่ว่าจะเป็นการสร้างศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ บูรณะอุโบสถ ท่านมีความเมตตาธรรมสูง มีความสามารถพิเศษในด้านการเทศน์ธรรมมหาชาติ กัณฑ์มัทรี และได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงว่าเป็นเกจิอาจารย์ในด้านเครื่องลางของขลัง วัตถุมงคล คาถาอาคมและยันต์ต่างๆเป็นต้น จนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จนท่านมรณะภาพเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ก.ค.2544 รวมสิริอายุได้ 76 ปี พรรษา56
    เมื่อท่านมรณะภาพ ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น เมื่อฝูงผึ้งหลวงได้เข้ามาทำรังในโลงของท่านรังใหญ่ด้วยกัน นับรวมได้ทั้งหมด 11 รัง (เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าครับ) ซึ่งเป็นข่าวเกรียวกราวลง นสพ. ยักษ์ใหญ่ ในขณะนั้น
    ต่อเมื่อจะทำการพิธีพระราชทานเพลิงศพฝูงผึ้งเหล่านั้นกลับได้ออกไปเองโดยไม่มีใครไปทำลายแต่อย่างใด
    ในปี 2537 และปี 2542 ท่านได้สร้างพระเครื่องครั้งใหญ่ขึ้นโดยเป็นเนื้อผงพุทธคุณ ได้แก่ พิมพ์ขุนแผน ขุนช้าง สังขจาย ล.ป.ทวด กลีบบัว และปิดตา วัตถุมงคลรุ่นนี้ต่อมาภายหลังได้รับความนิยมของในพื้นที่มาก โดยมีความโดดเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขาย โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย โดยเฉพาะขุนแผนและขุนช้างนั้นได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในเรื่องเมตตาและมหาเสน่ห์โชคลาภ
    และไม่เพียงชื่อเสียงท่านจะขจรขจายในประเทศเท่านั้น ชาวมาเลเซีย, ฮ่องกง, สิงค์โปร์ ก็กว้านเก็บวัตถุมงคลของท่านเป็น
    จำนวนมากเช่นกัน

    ปิดรายการแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0764.jpg
      IMG_0764.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.3 MB
      เปิดดู:
      349
    • IMG_0765.jpg
      IMG_0765.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.1 MB
      เปิดดู:
      107
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2013
  4. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการครับ

    ขุนแผนพราย59ตน อ.เปล่ง บุญยืน


    สุดยอดขุนแผนสายพรายฆราวาส ที่ใครๆย่อมรู้จักดี

    อ.เปล่ง ตอนสมัยเป็นหนุ่มๆ ท่านเคยเล่าว่า ตอนนั้นเป็นนักศึกษา ได้หลบหนีเข้าป่าเนื่องจากตอนนั้นรัฐบาลได้กวาดล้างซึ่งได้ถูกกล่าวหาว่า เป็นพวกคอมมิวนิสต์ ท่านได้หลบหนีเข้าป่า ไปเจอ อ.ภา ซึ่งอยู่ในป่า อ.ภา มีเชื้อสายเขมรและเป็นพระที่มีวิชาอาคมขลังมาก ได้ชักชวน อ.เปล่ง ให้บวชด้วยกัน เนื่องจาก อ.เปล่งท่านกลัวว่าจะถูกทางการจับ จึงบวชและเรียนวิชาอยู่กับ อ.ภา เป็นเวลากว่า 10 ปี ท่านต้องกินใบไม้แทนข้าว นอนในถ้ำที่มีงูเห่าชุกชุม และนั่งสมาธิเป็นประจำ ท่านเล่าว่างูเยอะมากแต่ไม่สามารถทำอะไรท่านได้ เพราะท่านค่อนข้างมีวิชาเหมือนกัน และอีกอย่างยุงที่อยู่ในป่า เวลาตกตอนค่ำมา ท่านเล่าว่ามาเหมือนฝน หลังจากสำเร็จวิชาทางผงพราย จาก อ.ภา ท่านก็ธุดงค์ในป่า และชอบเก็บสะสมพวกว่านชนิดต่างๆ ผมเคยถามท่านว่าพวกผงพรายนี้ไปเอามาจากไหน ท่านบอกว่าก็เอามาจากศพนักศึกษาที่ถูกยิงตายนั่นแหละ ท่านเก็บสะสมและเสกมาเรื่อยๆ จนวันที่ท่านออกจากป่า อ.ภา ก็ขอร้องท่านให้บวชจนตายด้วยกัน แต่ท่านไม่สามารถทำได้เพราะท่านมีเมียแล้วจึงกลับมาสมัครสอบเป็นอาจารย์อยู่ ที่ อ.ท่าตูมด้วยความสามารถทางจิตของท่าน บางทีท่านออกจะร้อนวิชา บางวันนอนในบ้านไม่ได้ต้องออกมานั่งสมาธิหน้าบ้านใต้ต้นไม้ เมื่อท่านอายุ ได้ประมาณ 50 กว่า ปี คนแถวนั้น เขตอีสานใต้ได้รู้ถึงกิตติศัพท์ของท่าน มีครั้งหนึ่งชาวบ้านได้เชิญท่านเป็นเจ้าพิธีในงานเปิดสะพานแม่น้ำมูล ท่านได้บริกรรมอยู่บนเรือ ขณะท่านบริกรรมอยู่นั้นได้มีปลาจำนวนมากกระโดดขึ้นเรือเป็นจำนวนมากชาวบ้าน ที่ไปร่วมพิธีเห็นหมด จึงเป็นที่เลืองลือ และท่านเคยเปิดเสื้อให้ดูรอยกระสุน ที่พวกคนใต้มาท้าลองยิงใส่ตัวท่านด้วยความเป็นนิสัยนักเลงท่านก็ถอดเสื้อให้ ยิงปรากฏว่าไม่เข้า

    พระหรือวัตถุมงคลที่ท่านสร้างนั้น มวลสารหลัก ๆ คือ ผงพราย เคยถามท่านว่าดียังไง ท่านบอกว่า ถ้าใครโดนของมา พวกพรายมันจะดึงออกให้ และกันของได้ด้วยอีกทั้งเป็นมหาเสน่ห์อย่างแรง ท่านบอกว่าใช้พระท่านนั้นคุ้มตัวได้แน่นอน และให้ติดตัวตลอดเวลา เคยมีบางคนโดนอุบัติเหตุแต่กลับไม่เป็นอะไรเลยมีเยอะครับ ถ้าเป็นทหาร ตำรวจไปขอพระท่าน ท่านจะให้ฟรีๆ

    - การเซ่นพราย(ทางหยาบ)ของ อ.เปล่งใช้เพียง กล้วย และน้ำแดงครับ โดยอย่าลืมปักธูป1ดอก ที่กล้วยและน้ำแดง มิฉะนั้นพรายจะรับไม่ได้
    (ทางละเอียด)ให้ทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้พราย เพื่อที่พรายจะได้มีพลังจากบุญฤทธิ์ที่ได้รับ กลับมาช่วยเหลือเราได้อย่างเต็มที่
    ก่อนนำเข้าบ้านต้องจุดธูปบอกเจ้าที่ มิฉะนั้นพรายจะเข้าบ้านไม่ได้ และถ้าที่บ้านมี ท้าวเวสสุวรรณ อย่าลืมจุดธูปบอกกล่าวท่าน

    สุดยอดขุนแผนสายพรายอันดับหนึ่งในเมืองไทย สุดยอดประสบการณ์มหาเสน่ห์ที่ใครก็แสวงหา องค์นี้สวยระดับเทพจริงๆครับ สภาพผิวหิ้ง องค์นี้มีคราบน้ำว่านผุดขึ้นเต็มองค์พระด้านหลังเลยครับ

    วิธีบูชาขุนแผนพราย 59 ตน อิ่น สีผึ้ง ลูกอมพราย 59 ตน ของ อาจารย์เปล่ง บุญยืน

    ก่อนนำเข้าบ้านจุดธูปขออนุญาติบอกเจ้าที่ก่อน 16 ดอกกลางแจ้งตอนกลางคืน บ้านไหนมีศาล พระภูมิจุด 9 ดอก แล้วเชิญเข้าบ้าน แล้วจุดธูปบอกพระในบ้าน 3 ดอก ขออนุญาตนำพรายเข้ามา บูชา
    1.จัดขันธ์ 5 (ธูป 5 คู่ เทียนเล็ก 5 คู่ ดอกไม้ขาว 5 คู่)
    วิธีเตรียมและทำขันธ์ 5 (ธูป 5 คู่ เทียนขาว 5 คู่ ดอกไม้ขาว 5 คู่) ดอกไม้พยายามหาสีขาวให้ได้ แล้วเอามา อย่างละคู่ เอาหนังยางผูก ธูป เทียน ดอกไม้ เข้ากันเป็นชุด ให้ได้ 5 ชุด แล้วนำไปวางในจานหรือพานแล้วนำวัตถุมงคล ของ อ.เปล่ง บุญยืน ไปวางไว้ในพานด้วย เป็นอันเสร็จพิธีเตรียมขันธ์ 5

    2.เครื่องรับขวัญ-เครื่องเซ่น-พราย 59 ตน (อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง) ให้ จัดเตรียมแบบเรียบง่าย
    2.1.เหล้าขาว 1 ขวด เทใส่แก้ว ซักครึ่งแก้ว
    2.2.เนื้อสดวัวหรือควาย 10-20 บาท ขอแบ่งซื้อมา
    2.3.บุหรี่ 1 มวน (ยี่ห้ออะไรก็ได้)
    2.4.ขนมไทย 1 อย่าง อาทิเช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง หรือขนมไทยอะไรก็ได้
    2.5.ผลไม้อะไรก็ได้ซัก 1 ผล
    2.6.น้ำแดงซัก 1 แก้ว
    2.7.อันนี้แล้วแต่นะแต่คนที่จะขอเงิน ทอง หรือพวกที่ชอบการพนัน ให้เอาช็อกโกแลต ที่เป็นรูป เหรียญทอง 5-7-9 เหรียญ หรือ ช็อกโกแลตที่เป็นทองแท่ง ซัก 1 อัน มาเซ่นด้วย นี่คือการเตรียมอาหารหยาบ

    ปล.ของเซ่นไม่ต้องตามรายการด้านบนเสมอไปนะครับ ให้ท่านหาเอาตามความสะดวก เปลี่ยนแปลงได้แล้วแต่ผู้บูชา ไม่ได้จำกัดว่าต้องตามนี้ทุกประการนะครับ นี่เป็นเพียงตัวอย่าง แต่อย่างน้อยๆเหล้ากับบุหรี่ควรมีครับ ทุกขั้นตอนขอให้ตั้งใจทำ เริ่มที่จุดธูป 1 ดอกปักลงที่อาหารคาวหวาน แล้วให้ว่าคาถาเชิญพรายมารับเครื่องเซ่น ดังนี้

    คาถาเชิญพรายมารับเครื่องเซ่น
    โอม ฮะ ฮะ เซ๊ะ มหาล่ำสาย ขออัญเชิญ มหาภูติ มหาพราย ทั้ง 59 ตน ของท่านอาจารย์เปล่ง บุญ ยืน ที่ข้าพเจ้าได้เลี้ยงไว้ มุ ทุ ตุ อะ นะเมติ มารับเครื่องเซ่น (ให้พูดด้วย) มารับเนื้อ แล้วปักธูปที่เนื้อ เหล้าก็ปักลงในแก้วเลย ส่วนบุหรี่ให้จุดสูบให้ติดแล้วเอาก้านธูปเหลาก้านให้แหลมก่อน แล้วปัก-เจาะทะลุ ตรงก้นบุหรี่เลย แล้วปักบนเนื้อหรือขนมก็ได้เราต้องใช้ธูปคนละดอกกันนะเมื่อเสร็จแล้วให้ตั้งใจว่าคาถา

    คาถาบูชาพราย 59 ตน
    นะโม 3 จบ
    1. สุนะโมโล นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ มะอะอุ อมสะเน มน สะเนเมีย สะเนปูม
    สะเนปะรา เป๊าะอันขะยอมคุณ เป๊าะอันเอฮง อมสะหมติ๊ด......ขอตามปรารถนา เช่น
    วันนี้ข้าพเจ้าได้เลี้ยงรับขวัญพราย 59 ตน ขอให้พราย 59 ตน ช่วยเหลือข้าพเจ้า (เอ่ยชื่อเรา) ไม่ว่าจะให้หา เงิน-เล่นหญิง-สอบเก็บคะแนน ขอให้ช่วยให้ส าเร็จในเร็ววัน ข้าพเจ้าจะนำเครื่องเซ่นมาเลี้ยงชุดใหญ่กว่านี้ อีกและจะตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้พราย 59 ตน เป็นประจ า ขอให้พราย 59 ตน มาอาศัยอยู่กับข้าพเจ้าที่นี่ เป็นตึกนักศึกษา(หรือที่ไหนก็กล่าวไป) อาจมีการรอดราวตากผ้ากันบ้างก็อย่าถือสาหาความกัน เวลากินบาง
    วันไม่ได้เรียกกินก็ให้กินกับข้าพเจ้าเลย (ตอนนี้เรามีอะไรจะตกลงก็พูดกับเขาได้เลยนะ) แล้วว่าต่อเลย

    2.อิติปิโสภะคะวา อะระหังสัมมาสัมพุทโธ นะโมพุทธายะ นะชะนะดะ เตตีตุตะ นะอะ
    กะอังฯ. อันนี้เสร็จแล้วรับขวัญวันแรก และเซ่นไหว้ทุกๆ 1 เดือน คุณจะขออะไรก็ว่าต่อ ผมมีหัวข้อให้เลือก ว่าจะใช้ แบบไหน เช่น ขอโชคลาภ ขอเรื่องหญิง เรื่องความรัก

    เรื่องหญิง,ความรัก
    ตั้งนะโม 3 จบ
    อิติปิโสภะคะวา อะระหังสัมมาสัมพุทโธ นะโมพุทธายะ นะชะนะดะ เตตีตุตะ เนียะ
    เมียะ เพียะ เทียะ นะเมตตา โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู ขอให้อี....(ชื่อเขา).... รักข้าพเจ้าด้วย นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ * สุนะโมโล......อี(ชื่อเขา)...... สุนะโมโล นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ มะอะอุ.* (*ให้ว่า 3 จบซ้ าเฉพาะที่มีเครื่องหมาย*)

    เรื่องโชคลาภเงินทอง การงาน เรื่องเรียน
    ตั้งนะโม 3 จบ
    สุนะโมโล นะโมพุทธานะ นะมะพะทะ มะอะอุ อมสะเน มน สะเนเมีย สะเนปูม สะเน
    ปะรา เป๊าะอันขะยอมคุณ เป๊าะอันเอฮง อมสะหมติ๊ด......ขอตามปราถนา
    อิติปิโสภะคะวา อะระหังสัมมาสัมพุทโธ นะโมพุทธายะ นะชะนะดะ เตตีตุตะ เนียะ
    เมียะ เพียะ เทียะ

    แบบสั้นๆใช้เวลารีบเร่ง

    ตั้งนะโม 3 จบ
    *** นะชะนะดะ เตตีตุตะ เนียะ เมียะ เพียะ เทียะ *** แล้วขอตามที่เราปรารถนาจ่าให้ได้
    ถ้าจะคุยกับผู้หญิงก็บอกพรายให้ช่วยแล้วเข้าไปคุยเลยครับ อย่าลืมนะถ้าได้แล้วอย่าลืมตักบาตร และ เลี้ยงพรายด้วยเครื่องเซ่น

    ข้อห้าม ของเซ่นห้ามกินอย่างเด็ดขาด น้ำแดงให้เทลงพื้นดินหรือกระถางดอกไม้ ห้ามเทลงส้วม ขนมให้ห่อ ให้มิดชิดแล้วทิ้งลงในถังขยะ

    เวลาใส่บาตรหรือท่าบุญเสร็จให้กรวดน้่าแล้วว่าดังนี้
    ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลในการ (ตักบาตร-เลี้ยงพระ-ทำบุญอะไรก็ว่าไป) ให้แก่พราย 59 ตน ของ ท่านอาจารย์เปล่ง บุญยืน ที่ข้าพเจ้าได้เลี้ยงไว้ ได้รับส่วนบุญส่วนกุศลในการ (ตักบาตร-ทำบุญอะไรก็ว่าไป) ในครั้งนี้ด้วย และขอให้ (อยากให้ช่วยอะไรก็ว่าไป พูดเลย ขอเลย ถ้าสำเร็จในเร็ววันจะอุทิศส่วนกุศลให้อีก ทุกๆวันไป) แล้วบนต่อเลย

    คาถาบูชากุมารทอง
    จิเจรุนิ จิตตัง เจตตะสิกังรูปัง นิมิตตัง กุมาโรวา เจ้ากุมารทอง อาคัจฉาหิ เอหิ เอหิ นะมะพะทะ

    กุมารทองให้ถวายข้าว น้ำแดง ขนมของเล่นบ้างตามแต่โอกาส เรียกกินเรียกไปด้วยตลอด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2013
  5. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้แล้วครับ

    พระกริ่งชินบัญชร พรายบัวผุด ​


    เมื่อหลวงปู่ทิม อิสริโก มรณภาพไปแล้ว ๑๖ ปี เหรียญเจริญพร, ปรกองค์จ้อย, และพระกริ่งชินบัญชร ก็ดังขึ้นเรื่อยๆ พระกริ่งชินบัญชรเช่าหาบูชากันองค์ละหมื่นกว่าบาทขึ้นไป นายช่างทิวา ลิ้มศิวะวงศ์ ช่างบริษัทปูนซีเมนต์ที่เขียนเรื่องพระกริ่งวัดสุทัศน์เป็นตอนๆอยู่ในขณะนี้มาบุกบูชาพระกริ่งก้นอุดผงพรายหมายเลข ๑๐๑ องค์สุดท้ายจากผมไปถึงองค์ละ ๒๕,๐๐๐ บาทราคาเทียบเท่ากับพระกริ่งรุ่นเก่าที่โด่งดัง จึงเป็นที่กล่าวขานกันในวงการ พอดีพระอาจารย์เชย เจ้าอาวาสวัดละหารไร่ ต้องการสร้างหอสมุดและโรงเรียนอีกหลายแห่งในอำเภอบ้านค่าย ได้มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิหลวงปู่ทิม พวกผมเห็นว่า เมื่อพระกริ่งชินบัญชรดังมาถึงขนาดนี้จึงควรจะสร้างขึ้นมาอีกครั้งเพื่อหาเงินมาดำเนินการในเรื่องที่ขอมา

    จึงได้สร้างพระกริ่งชินบัญชรรุ่นมหาโสฬสขึ้น ถือเป็นรุ่นที่ ๒ เพียงแต่หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า, หลวงพ่อวิเวียร วัดดวงแข, หลวงพ่อหวัด, และหลวงพ่อชม ที่นั่งปรกรอบเตาทั้ง ๔ ทิศ และหลวงปู่เริ่ม ปรโม วัดจุกกะเฌอที่มาถึงตอนเททองพอดี ทุกองค์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “หลวงพ่อทิม มาเดินทักษิณาวัตร แล้ววูบหายเข้าไปในพระกริ่งองค์ใหญ่ที่เททองหล่อพร้อมกันในวันนั้น” เท่านั้นแหล่ะครับคนจองหมดอย่างมหัศจรรย์ หลังเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรมหาโสฬสไปแล้วเพียง ๒ วัน คุณประชา ตรีพาสัย นายทุนใหญ่ซึ่งรับปากว่า ถ้างานนี้ขาดทุนเท่าไหร่ จะออกให้เอง โทรมาบอกผมแต่เช้าว่า หลวงปู่ทิมมาบอก “สร้างอะไรสร้างได้ ทำไมไม่ทำเอกลักษณ์ของวัดด้วย” ผมไม่แน่ใจ คุณประชายืนยันว่าจริง และไม่ได้โกหก พวกเราจึงเอาเนื้อโลหะชนวนมาสร้างพระขุนแผนทั้งพิมพ์ใหญ่พิมพ์เล็กขึ้นมาอีก ๑,๖๐๐ ชุด ทุกครั้งที่ผมสร้างพระเพื่อหาเงินมาสร้างถาวรวัตถุในวัดละหารไร่ ก็สร้างพระขุนแผนขึ้นมาทุกครั้ง เพราะเป็นเอกลักษณ์ของวัดตามที่หลวงปู่ทิมมาบอก แต่งานเททองหล่อพระพุทธนิมิตพิชิตมารในวันศุกร์ที่ ๑๖ ตุลาคมนี้ ไม่ได้ทำพระขุนแผน ไม่ลืมแต่ของเก่าที่ทำไว้แล้วยังเหลืออยู่ ประกอบกับลูกศิษย์ผมเอาแบบพระพุทธนิมิตมาสร้างพระขุนแผนหลังยันต์จินดามณี, พุทธนิมิตหลวงปู่ทิม แต่เป็นพิมพ์เล็ก ขึ้นมาถวายในงานนี้

    จนเมื่อเช้ามืดวันอังคารที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา เมื่อผมทำวัตรนั่งสมาธิเสร็จ ก็มีเด็กชายอายุประมาณ ๔-๕ขวบ ปรากฎให้เห็นมานั่งยกมือไหว้ แล้วบอกว่า พ่อทำไมไม่ทำพระผงพรายด้วย...ทำซิ ผมจึงเอาเรื่องนี้มาคิดและตกลงใจที่จะสร้าง “แหวนพรายกุมาร” โดยมีรูปกุมารเล็กๆอยู่ที่หัวแหวน คุณฉลวย เหรียญทอง ช่างศิลป์มติชนก็ออกแบบมาให้ ถูกใจมากแต่โรงงานบอกทำไม่ทัน ๑๖ ตุลาคมนี้ ผมนึกได้ว่าได้สั่งให้ช่างขุน ถอดพิมพ์พระกริ่งชินบัญชรโดยย่อส่วนให้เล็กลง ๓๐% เพื่อเหมาะกับการใช้ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย เตรียมทำไว้แจกในงานไหว้ครู วันแรงงานแห่งชาติ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ซึ่งตรงกับผมมีอายุครบ ๖ รอบ ๗๒ ปี เลยเปลี่ยนใจสั่งให้ช่างขุนรีบติดช่อเข้าดินฝรั่งแต่ให้เททองแบบโบราณอย่างเร่งด่วน และก็เททองหล่อเสร็จไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ ๒๘ กันยายนนี้ แล้วนำเข้าพิธีปลุกเสกพระกริ่งปรโมของหลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ เมื่อวันอังคารที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๒ เพราะพิธีนี้นอกจากหลวงพ่อเริ่มจะต้องมา แล้วหลวงปู่ทิม ของผมก็ต้องลงมาด้วย เพราะท่านเป็นเกลอกัน พระกริ่งพรายบัวผุด และแหวนพรายกุมาร จึงจุติขึ้น ณ โอกาสนี้

    พระกริ่งพรายบัวผุด โดยมูลนิธิหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่บรรจุผมพรายของเด็กที่ผสมสีผึ้งเพื่อให้ผงพรายเก่าซึ่งหลวงปู่ทำเองกับมือได้ยึดติดกัน แล้วเอาทรายในกระบะที่รองรับน้ำเมื่อเวลาหลวงปู่ทิมล้างหน้านานไม่รู้กี่สิบปี และในกระบะใส่ทรายนี้เอง พลีขอแม่พระธรณีและแม่พระคงคากำมือหนึ่ง เมื่อผสมดินทรายในกระถางธูป เอาผสมกับผมพรายบรรจุไว้ในสุด แล้วปิดทับอีกชั้นหนึ่งด้วยผงพรายกุมารผสมว่าน ๑๐๘ ที่เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ดทำให้แล้ว ยังมีดินอาถรรพ์ร้อยหมื่นสังขารที่ชมรมคนรักหลวงปู่ทวด มอบให้ ตลอดจนดินอาถรรพ์จากถ้ำขุนแผนที่เมืองกาญจนบุรีและผงดินเก่าตรงที่ขุนแผนย่างกุมาร ผสมลงไปด้วย แล้วปิดทองคำเปลวที่มีผู้นำมาแก้บนกับรูปหล่อหลวงปู่ทิม ที่มูลนิธิฯ พร้อมนำโค้ดกดไว้ในองค์ที่ผงที่ยังไม่แข็ง แต่องค์ที่ผงแข็งแล้วก็ไม่ได้กดโค้ดไว้ แล้วตอกลำดับเลขไทย ๑ – ๒๒๒๒ องค์ไว้ที่ด้านหลัง

    "พุทธานุภาพกริ่งพรายบัวผุดฟาดสายรุ้งกินน้ำที่จับอยู่บนขอบฟ้าขาดออกจากกัน"


    เรื่องที่ผมจะเล่ามีอยู่ว่า ผมและเพื่อนอีกสองคนได้บูชาพระกริ่งพรายบัวผุด เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ ณ มณฑลพิธี วัดละหารไร่ ระยอง โดยในวันนั้นผมและเพื่อนได้ขออนุญาตล้วงหยิบองค์พระกริ่งพรายบัวผุดกันเองโดยมิได้เลือกแต่อย่างใด ต่างพอใจกับองค์ที่หลวงปู่มอบให้ หลังจากวันนั้นมาทุกคนก็จะห้อยพระกริ่งพรายบัวผุดตลอดมา ต่างได้พบประสบการณ์มากมาย ทั้งแคล้วคลาด เมตตา โชคลาภ ขนาดเพื่อนผมมีโชคขนาดได้ทุนเปิดร้านใหม่เลยครับ บางคนอาจจะว่าเป็นเหตุบังเอิญหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ไม่บังเอิญแน่นอนครับ

    เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนผม 1 ใน 3 คนนี่แหละครับ เพื่อนผมทำงานอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งนึงในจังหวัดระยอง โดยเมื่อคืนวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เพื่อนผมได้ฝันว่า ขณะทำงานได้ปรากฎสายรุ้งกินน้ำขึ้นจับขอบฟ้า ในฝันเพื่อนผมได้อธิษฐานพระกริ่งพรายบัวผุด ฟาดสายรุ้งกินน้ำที่จับอยู่บนขอบฟ้าจนขาดออกจากกันได้ อย่างอัศจรรย์

    ตื่นเช้ามาเพื่อนผมก็ไปทำงานตามปรกติ และที่มหัศจรรย์ก็คือได้ปรากฎสายรุ้งกินน้ำขึ้นจับขอบฟ้า จริงๆดั่งฝัน เพื่อนผมนึกถึงความฝันเมื่อคืนจึงลองอธิษฐานพระกริ่งพรายบัวผุด ฟาดสายรุ้งกินน้ำที่จับอยู่บนขอบฟ้าตามความฝัน

    ผลปรากฎว่า พระกริ่งพรายบัวผุดสามารถตัดสายรุ้งกินน้ำที่จับอยู่บนขอบฟ้าให้ขาดออกจากกันได้จริงๆ อย่างน่ามหัศจรรย์ เวลาที่รุ้งกินน้ำจะขาดบริเวณที่ถูกตัดสีจะจางซีดลงจนมองเห็นช่วงที่ขาดออกจากกัน มองเห็นได้ชัดเจนว่าสายรุ้งกินน้ำได้ขาดออกจากกัน

    พระเครื่องที่มีพุทธานุภาพในระดับสุดยอดเท่านั้น สามารถอธิษฐานฟาดสายรุ้งกินน้ำที่จับอยู่บนขอบฟ้าให้ขาดออกจากกันได้

    เรื่องที่เขียนมามีจุดประสงค์เพื่อการบูชาพระคุณของหลวงปู่ทิม อิสริโก หลวงปู่บัว ถามโก และเพื่อเป็นการเผยแพร่ความจริง เท่านั้นครับ

    จริงดั่งคำ หลวงปู่ทิมที่ว่า “ไม่ว่านี่จะอยู่ที่ไหน พรจะทำอะไรก็จะลงมาทำให้”

    ปิดรายการนี้ครับ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0802.jpg
      IMG_0802.jpg
      ขนาดไฟล์:
      615.2 KB
      เปิดดู:
      756
    • IMG_0803.jpg
      IMG_0803.jpg
      ขนาดไฟล์:
      612.4 KB
      เปิดดู:
      129
    • IMG_0804.jpg
      IMG_0804.jpg
      ขนาดไฟล์:
      625.5 KB
      เปิดดู:
      118
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2015
  6. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    แม่เป๋ออุมาลึงค์ของปู่ญาครูเฒ่าเต็ม องค์ธรรมดา


    เสน่ห์แรงๆเชิญทางนี้ครับ

    แม่เป๋ออุมาลึงค์องค์ครูหลวงปู่ญาครูเฒ่าเต็ม 6 องค์รายละเอียดที่น้อยคนจะรู้ก่อน
    แม่เป๋ออุมาลึงค์องค์ครูหลวงปู่ญาครูเฒ่าเต็ม 6 องค์เข้ามาดูรายละเอียดที่น้อยคนจะรู้ก่อน

    แม่เป๋ออุมาลึงค์
    หลวงปู่ครูเฒ่า เต็ม มหาวีโรเครื่องรางเรียกรักดึงดูดเพศตรงข้าม ดึงดูดโชคลาภเข้ามาหาเรา กดพิมพ์มือเสกเดี่ยวทีละองค์อย่างเข้มขลัง ในพิธีกรรมเป็นยอดด้าน มหาเสน่ห์ มหาละลวย มหานิยม เมตตาโชคลาภ อธิษฐานเอาตามใจเราทั้งเรื่องเสน่ห์ ความรัก โชคลาภ เสี่ยงดวง ค้าขายให้มีผลกำไร เจรจาต่อรองเรื่องงานธุรกิจซื้อง่ายขายคล่อง เข้าหาคนรัก หนุ่มจีบสาว สาวจีบหนุ่ม ผู้คนรอบข้างรักใคร่ ผู้หลักผู้ใหญ่เอ็นดูเมตตาเรา ลูกน้องบริวารเคารพเชื่อฟัง ผู้คนเชื่อถือ

    ส่วนผสมของแม่เป๋อตามกำลังหลักวิชามหาเสน่ห์ วิชาธาตุ 4 อาถรรพ์ และวิชาการเสกเผา เสกว่าน พิธีกรรมอันเร้นลับของสายวิชาได้อารธนาอัญเชิญ เอาผงหินที่กลายเป็นศิวะลึงค์ หินที่กลายเป็นโยนีพระอุมา พลีขอเอาหินเอาดินมาเป็นมวลสารหลัก มีขี้สูตรดินเพียงผงว่านโยนีพระอุมา ว่านผมผีพราย ดอกหิ่งหายผี ว่านโพง เถาวัลย์หลง ว่านดอกทอง 12 จำพวก ขมิ้นแดง กระชายดำ โด่ไม่รู้ล้ม ดอกรักซ้อน ดอกกาหลง น้ำมันพรายตานี น้ำมันพรายตะเคียน น้ำมันพรายกะลาตาเดียว ผงลูกกรอกแมว 9 ตัว กบตายคารู ปุกกลายเป็นหิน ว่านดักแด้หิน ดิน 7 จอมปลวก ผงงวงช้างตายพราย น้ำมันช้างโขลง ผงครั่งพุทราตายพราย ดินโป่ง ดิน 7 ป่าช้า ทุกส่วนทุกอย่าง มีการทำพิธีพลีกรรมอย่างถูกต้อง เพ่งกสิณ ธาตุ ปั่นธาตุ หนุนธาตุ ร่ายพระเวท คาถามหาอาคมประจุใส่ไว้ใน แม่เป๋อให้มีเสน่ห์เมตตาโชคลาภ ตามจิตของผู้นำไปใช้สำเร็จผลอย่างแท้จริง

    มีทั้งองค์ครู ฝังตะกรุด3ดอก และองค์ธรรมดา แม่เป๋อของปู่ญาครูเฒ่าเต็มลงวิชาเฉพาะทางวิชาที่1 ลงเสน่ห์แรงที่สุด วิชาที่2 วิชาโชคลาภเสี่ยงดวงมีแต่ได้กับได้แรงที่สุด วิชาที่3 เจรจาต่อรองพูดแล้วสำเร็จทุกเรื่อง

    วิธีบูชา

    ให้เอานมสดหรือนมเปรี้ยวทาบริเวณลึงค์และโยนี ภาวนาคาถา ที่ให้มาในซอง และเมื่อเลี่ยมพลาสติกให้เปิดรูเพื่อทานมเล้กน้อย ส่วนที่เหลือนำมาดื่มกิน เป็นมงคลกับชีวิตเรายิ่ง

    ตะกรุด 3 ดอกที่ฝังหลังแม่เป๋ออุมาองค์ครูคือ
    -ตะกรุดจับฝาโลง ใครพลาดตะกรุดจับฝาโลงเอาไปใช้ได้เหมือนกัน
    -ตะกรุดกล่อมนางนอน ไม่ต้องบรรยาย
    -ตะกรุดนะเข้าหานะจังงัง

    องค์ธรรมดาที่ 400 ครับ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2013
  7. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ขุนแผนเนื้อว่าน หลวงพ่อดำ วัดเขาพลูทอง


    หลวงพ่อดำ วัดเขาพูลทอง เป็นพระเกจิอาจารย์ในภาคตะวันออกรูปหนึ่งที่มีสมาธิสูงยิ่งครับ วัตถุมงคลที่สร้างขึ้นท่านจะปลุกเสกด้วยตัวท่านเองจนมั่นใจทุกครั้ง

    หลวงพ่อดำ วัดเขาูพลูทอง ท่านโด่งดังมากในด้านสีผึ้้งครับ โดยเฉพาะสีผึ้งนกการะเวก ซึ่งเป็ยสีผึ้ง ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกอย่างหนึ่งของหลวงพ่อดำ พุทธคุณเด่นทางด้านเมตตา-มหานิยม-มหาเสน่ห์ แก่ผู้มีไว้ครอบครอง โดยเฉพาะผู้ที่ทำธุรกิจการงาน เซลล์แมนค้าขายที่ใช้ด้านเจรจาเป็นหลัก รวมไปถึงนักร้อง พิธีกรฯลฯ และบุคคลทั่วๆ ไป อันจะก่อให้เกิดผลดีแก่ผู้ใช้ในทุกๆ ด้าน

    ผู้ที่เคยเห็นหลวงพ่อนั่งปรกในพิธีพุทธาภิเษกจะทราบดีว่า เมื่อหลวงพ่อดำนั่งปรกปลุกเสกครั้งใด ท่านจะทิ้งดิ่งทรงสมาธิแบบลมหายใจแทบไม่ไหวติงทันที เข้าสมาธิปลุกเสกแบบไม่สนใจสภาวะภายนอกจนกว่าจะสำเร็จสมความตั้งใจ จึงจะถอนจิตออกจากสมาธิครับ

    ขุนแผนที่นำมาเปิดให้บูชานี้ เป็นพระขุนแผนเนื้อว่าน องค์ขนาดเล็กครับ พุทธคุณคล้ายๆกับสีผึ้งของท่าน คือเมตตามหานิยมนำหน้า ใครแขวนก็เป็นที่รักของทุกๆคนครับ หาคนเกลียดมิได้เลย

    ีรายการนี้เปิดบูชาที่ 700 บาทครับ ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_9134.jpg
      IMG_9134.jpg
      ขนาดไฟล์:
      452.4 KB
      เปิดดู:
      431
    • IMG_9135.jpg
      IMG_9135.jpg
      ขนาดไฟล์:
      478.3 KB
      เปิดดู:
      579
  8. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ตะกรุดเนื้อทองแดงจารมือ ยันต์นะหน้าทอง โภคทรัพย์มหาลาภ ปี 2551 หลวงพ่อตัด วัดชายนา

    ตะกรุดเนื้อทองแดง ยาว 4 นิ้ว จารมือ จารนอกจารใน ยันต์หายาก ตอกโค๊ด โค๊ดปวโร

    ตะกรุดปล่อยที่ดอกละ 2,000 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0760.jpg
      IMG_0760.jpg
      ขนาดไฟล์:
      364.7 KB
      เปิดดู:
      59
    • IMG_0761.jpg
      IMG_0761.jpg
      ขนาดไฟล์:
      252.5 KB
      เปิดดู:
      71
    • IMG_0762.jpg
      IMG_0762.jpg
      ขนาดไฟล์:
      248.3 KB
      เปิดดู:
      130
    • 180340-3.jpg
      180340-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      9.1 KB
      เปิดดู:
      112
    • 180340-4.jpg
      180340-4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      10.2 KB
      เปิดดู:
      101
    • 180340-5.jpg
      180340-5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      15.8 KB
      เปิดดู:
      122
  9. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พระปิดตามหาเศรษฐีพิมพ์มือโบราณ "รวย เพิ่ม พูน"

    หลวงพ่อพูน ท่านได้ชื่อว่าเป็นเกจิอาจารย์ที่มากด้วยเมตตา สำหรับหลวงพ่อพูน ฐิตสีโล วัดบ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าตำรับตะกรุดดอกไม้ทองอันลือลั่น พุุทธคุณเพียบพร้อมทั้งด้านเมตตามหานิยม โชคช่วยเลื่อนยศ ค้าขายร่ำรวย

    ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมมากมายหลายรุ่น โดยเฉพาะรุ่นนี้ พระปิดตามหาเศรษฐี เนื้อไม้โพธิ์นิพพาน อายุ 800 ปี ได้อัญเชิญจากหลวงพระบาง ประเทศลาว ในอดีต ในตำรับโบราณให้สร้างพระภควัมปิดตาจากไม้โพธิ์นิพพาน (แห้งตายพราย) มีกิ่งชี้ไปทางทิศตะวันออก นำมาสร้างเป็นพระปิดตาหรือพระควัม ปลุกเสกจุนเจิมด้วยน้ำมันหอม เป็นมหาเมตตา มหาเสน่ห์ มหาลา่ภ อย่างเอกอุ เป็นวิชาเมตตาชั้นสูง มวลสารที่หายากคือ "ต้นพระมหาโพธิ์นิพพาน" ครั้งนี้ผสมกับว่านมหามงคลต่างๆ ผงพุทธคุณ108, ผงไม้แก่นจันทร์
    หลวงพ่อพูนปลุกเสกตลอดไตรมาส และพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ที่อุโบสถ วัดบ้านแพน เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2549 เวลา 16.39 - 18.09 โดยพระเกจิมงคลนาม หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน

    รายการนี้เปิดบูชาที่ 1,500 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1018.jpg
      IMG_1018.jpg
      ขนาดไฟล์:
      432.5 KB
      เปิดดู:
      67
    • IMG_1044.jpg
      IMG_1044.jpg
      ขนาดไฟล์:
      644.6 KB
      เปิดดู:
      140
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2014
  10. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดแล้วครับ

    หลวงพ่อปาน พิมพ์ทรงหนุมาน กรุวัดคู้สลอด

    ชาววงการพระเครื่องพูดกันเสมอๆ ว่า "ใครมีพระวัดคู้สลอด ก็เหมือนมีพระหลวงพ่อปาน" หรือ "หากหาพระหลวงพ่อปานไม่ได้ ก็หาพระวัดคู้สลอดใช้แทน" เพราะพระกรุนี้สร้างโดยพระอาจารย์พงษ์ แห่งวัดคู้สลอด เมื่อปี 2470 เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ตามคติความเชื่อแต่โบราณและเพื่อแจกลูกศิษย์ลูกหา โดยมอบให้ หลวงพ่อปาน แห่งวัดบางนมโค ปลุกเศกอีกครั้งหนึ่ง

    พระกรุวัดคู้สลอดนี้แตกกรุออกมาครั้งแรกเมื่อปี 2506 พุทธลักษณะพิมพ์แบบเดียวกับพระเครื่องทรงสัตว์ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค มีหลายพิมพ์ทรง เช่น พิมพ์ทรงไก่ พิมพ์ทรงหนุมาณ พิมพ์ทรงเม่น พิมพ์ทรงครุฑ พิมพ์พระสมเด็จแบบ 7 ชั้นและแบบ จันทร์ลอยฯ ส่วนเนื้อหาเป็นพระเนื้อผงน้ำมัน สำหรับเนื้อผงน้ำมันของพระวัดคู้สลอดนี้ ถ้าพระยังไม่ใช้มาหรือผ่านการเก็บมาดีจะมีสีเหลืองอมขาวแต่ถ้า ผ่านการ ใช้มาผิวจะมันเนื้อหาแลดูจัด ในด้านพุทธคุณนั้นจัดได้ว่าครบเครื่อง สามารถแขวนเพื่อหวังพึ่งพาพุทธคุณได้อย่างหายห่วง อีกทั้งเป็นพระที่อนาคตไกล ในภายภาคหน้าราคาจะต้องขึ้นสูงอย่างแน่นอน เพราะวงการให้ความสำคัญเล่นหากันมาก และพระชุดนี้ ได้ถูกบรรจุเข้าในรายการประกวดทุกๆ งาน

    วัดคู้สลอด ตั้งอยู่ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ห่างจากวัดบางนมโค 10 กว่ากิโล พระอาจารย์สมพงษ์อดีตเจ้าอาวาสวัดคู้สลอด ได้ขอผงวิเศษที่หลวงพ่อปานวัดบางนมโคใช้อุดพระเนื้อดินหลวงพ่อปาน โดยได้นำผงวิเศษที่ได้มาผสมและนำมากดพิมพ์พระซึ่งได้ขออนุญาติจากหลวงพ่อปาน และหลวงพ่อปานได้เป็นประธานในพิธีปลุกเสกพระชุดนี้ในปี 2465 พระบางส่วนได้แจกให้กับชาวบ้านที่ได้ร่วมทำบุญใน ละแวกบ้านคู้สลอดและที่เหลือได้นำบรรจุลงกรุไว้ภายในวัด มีพิมพ์พระสมเด็จ และพิมพ์ทรงสัตว์ ส่วนพิมพ์จันทร์ลอยนั้นเกิดจากพิมพ์ทรงหนุมานที่ชำรุดนำมาแต่งเป็นพิมพ์จันทร์ลอย พระที่ลงกรุได้แตกกรุออกมาในปี 2506 นับได้ว่าเป็นพระเก่าที่น่าสะสมและบูชาเป็นอย่างมากเนื่องจากราคายังไม่สูงมากนัก โดยปัจจุบันนี้ราคาอยู่ที่หลักพันต้นๆถึงหลักพันปลายๆในองค์ที่สวยสมบูรณ์

    ประวัติการสร้าง
    พระอาจารย์พงษ์อดีตเจ้าอาวาสวัดคู้สลอด จ.พระนครศรีอยุธยา เดิมอยู่วัดบางนมโค เป็นศิษย์ของหลวงพ่อปาน โสนันโท ต่อมาหลวงพ่อปานได้ให้ไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคู้สลอดที่ว่างลงในขณะนั้น พระอาจารย์พงษ์ได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคู้สลอดแล้วเห็นว่า เสนาสนะภายในวัดชำรุดทรุดโทรมสมควรแก่เวลาจะต้องบูรณะแต่ขาดกำลังทรัพย์ จึงได้สร้างพระขึ้นด้วยผงวิเศษที่ท่านได้รวบรวมมาผสมกับน้ำมันลินสีดทำให้พระหนึกนุ่มไปด้วยน้ำมัน

    เมื่อกดพิมพ์พระได้จำนวนพอสมควรแล้วจึงนิมนต์ หลวงพ่อปาน โสนันโท มาช่วยปลุกเสก หลวงพ่อปานก็เมตตาปลุกเสกให้ แต่ศิษย์ส่วนใหญ่ของหลวงพ่อปานกลับมองเห็นว่า พระอาจารย์พงษ์นั้นสร้างพระเลียนแบบหลวงพ่อปาน เพราะได้ใช้แม่พิมพ์แบบพระประทับนั่งบนสัตว์พาหนะคล้ายกับหลวงพ่อปานที่เป็นเนื้อดิน จึงกล่าวหาว่าวัดรอยเท้าพระอาจารย์ คงมีเพียงพิมพ์พระสมเด็จและพิมพ์จันทร์ลอยเท่านั้นที่แปลกแยกออกมาเป็นเอกลักษณ์

    พระชุดนี้ได้นำออกให้บูชาหาเงินมาสร้างเสนาสนะและเจดีย์ที่ชำรุดทรุดโทรม ครั้นหมดความจำเป็นในการสร้างแล้ว พระที่เหลือพระอาจารย์พงษ์ได้นำลงบรรจุกรุในเจดีย์ใหญ่ทั้งหมด พระอาจารย์พงษ์ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสอยู่ระยะหนึ่งก็ลาสิกขามาใช้ชีวิตแบบฆราวาสมีครอบครัว แต่ชาวบ้านก็ยังคงเรียกว่าอาจารย์พงษ์ตลอดมาจนถึงแก่กรรม

    พระวัดคู้สลอดนี้หากเป็นพระที่แจกในระหว่างที่อาจารย์พงษ์ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสจะเป็นเนื้อปูนน้ำมันสีเหลืองอมเขียวหรือสีเหลืองอมน้ำตาล แต่หากเป็นพระที่ออกจากกรุจะมีคราบฟองเต้าหู้จับหนาสลับกับคราบขี้มอด

    พระเจดีย์ที่บรรจุพระกรุวัดคู้สลอดนั้นถูกคนร้ายทะลวงได้พระออกมาประมาณหนึ่งลำเรือ ชะล่าพระนี้ทางวัดมารู้เมื่อสายไปแล้วจึงได้แต่พระก้นกรุขึ้นมา และได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามยึดพระคืนเป็นข่าวเป็นข่าวคราวกันอยู่พักหนึ่งแล้วก็เงียบหายไป

    พระวัดคู้สลอดเป็นพระเนื้อผงที่มีอานุภาพทางเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดเป็นหลักใหญ่ใจความ และมีผู้นิยมเสาะหาด้วยว่าเป็นพระที่หลวงพ่อปานท่านได้ปลุกเสกเอาไว้นั่นเอง

    ปิดแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1023.jpg
      IMG_1023.jpg
      ขนาดไฟล์:
      746.6 KB
      เปิดดู:
      98
    • IMG_1024.jpg
      IMG_1024.jpg
      ขนาดไฟล์:
      423.6 KB
      เปิดดู:
      48
    • IMG_1171.jpg
      IMG_1171.jpg
      ขนาดไฟล์:
      229.3 KB
      เปิดดู:
      121
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2014
  11. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้ครับ

    พระผงรูปเหมือน หลวงปู่โต๊ะ พิมพ์เล็กใบโพธิ์ปี ๒๓ (หลังยันต์นะ)
    พร้อมบัตรรับรอง สภาพสวย!!!!


    พระผงรูปเหมือนพิมพ์เล็ก หลวงปู่โต๊ะ หลังยันต์นะ ​

    พระผงรูปเหมือนพิมพ์เล็กรุ่นนี้มีลักษณะรูปทรงเป็นรูปใบโพธิ์ด้านหลังหลวงปู่นั่งสมาธิเต็มองค์ ยัน๖ด้านหลังมี ๒ พิมพ์คือ พิมพืหลังยันต์นะ และ พิมพ์หลังยันต์ตรี โดยสร้างจำนวนยันต์ละ ๒๐๐๐๐ อง๕พิมพ์ละเท่าๆกัน พระรุ่นนี้หลวงปู่โต๊ะได้ปลุกเสกใน พิธี เสาร์ ๕ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปี ๒๕๒๓ และแจกเรื่อยมาจนหลวงปู่ได้มรณภาพ พระพิมพ์นี้ได้เหลืออยู่จนกระทั่งเมื่องานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่โต๊ะ ท่านพระครูวิโรจน์ได้ตั้งใจจะนำพระพิมพ์นี้หลังยันต์ตรีมาแจกแต่ดันไปหยิบผิดเอายันต์นะมาแจก จำนวน ๑๘๐๐๐ องค์ อย่างไรก็ตามผู้ที่เคยมีพระผงรูปเหมือนทั้ง ๒ พิมพ์นี้ ต่างก็ยืนยันว่าด้านเมตตามหานิยม และโชคลาภนั้นดีล้ำเลศครับ (ท่านพระครูกล่าวไว้อย่างนั้น)


    พระราชสังวราภิมณฑ์ หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ พระผู้ทรงบารมีธรรม ด้วยปฏิปทาและจริยาวัตรอันงดงาม ท่านมีคนเคารพนับถือมากทั้งผู้ที่ถือเพศบรรพชิตและคฤหัสถ์ทั่วประเทศตั้งแต่พระประมุขของประเทศจนถึงชนชั้นสามัญชนคนธรรมดาทั่วไป ตลอดชีวิตของท่านได้ถือปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัดไม่มีด่างพร้อยใดเลย ด้วยปฏิปทาและจริยาวัตรอันงดงามของหลวงปู่แทบจะไม่มีข้อสงสัยใดๆเลยว่าหลวงปู่ตั้งอยู่ในภูมิธรรมชั้นใด ทางด้านเวทมนต์และคาถาอาคมนั้นหลวงปู่ท่านเป็นผู้ที่มีวิชาอาคมและจิตญานสูง มีคำบอกเล่าจากศิษย์ใกล้ชิดว่าเมื่อหลวงปู่ร่วมพิธีพุทธาภิเศกร่วมกับพระเกจิอาจารย์ท่านอื่น เพียงแค่จับสายสิญจน์หลวงปู่ท่านก็จะรู้ได้ทันทีว่าพระเกจิท่านใดมีพลังจิตสูงเพียงใด หลังพิธีพุทธาเศกหลวงปู่ก็จะตามไปศึกษาและแลกเปลี่ยนวิชาอาคมเพิ่มเติมจากพระเกจิท่านนั้น พระเครื่องของท่านนั้นเป็นที่นิยมเสาะหากันมากในหมู่ลูกศิษย์และประชาชนทั่วไป เนื่องด้วยปฏิปทาและจริยาวัตรอันงดงาม ของหลวงปู่แล้ว อีกอย่างหนึ่งคือพุทธคุณที่เห็นเด่นชัดเห็นผลเร็วทันตา โดยเฉพาะทางด้านโชคลาภ ค้าขาย เมตตามหานิยม

    ปิดตาหลวงปู่โต๊ะ เชื่อกันว่าเหมาะกับพ่อค้าแม่ค้า ที่เน้นเมตตามหานิยม โชคลาภค้าขายเป็นหลักครับ



    ชุดที่ลงไว้เป็นชุดย่อยๆลงมาครับ แต่พุทธคุณได้หลวงปู่เสกเหมือนกัน
    ใช้แทนกันได้สบาย

    สอบถามทาง PM ครับ

    เก็บทั้งที่ต้องเก็บแบบนี้ครับ


    ปิดครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1027.jpg
      IMG_1027.jpg
      ขนาดไฟล์:
      776.9 KB
      เปิดดู:
      901
    • IMG_1028.jpg
      IMG_1028.jpg
      ขนาดไฟล์:
      616.3 KB
      เปิดดู:
      39
    • IMG_1172.jpg
      IMG_1172.jpg
      ขนาดไฟล์:
      270.7 KB
      เปิดดู:
      99
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2015
  12. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้แล้วครับ
    องค์ที่ 1 :
    พระลักษณ์หน้าทอง รุ่น 1 หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว



    ตำนานพระลักษณ์หน้าทอง

    ด้านตำนานของวิชาพระลักษณ์หน้าทองนั้น มาจากเรื่องรามเกียรติ์ ในท้องเรื่องรามเกียรติ์นั้นพระรามมีพี่น้องทั้งหมดสี่คน คนที่สนิทที่สุดคือพระลักษณ์ ตัวพระรามนั้นเป็นนารายณ์อวตาร ร่างมีสีเขียวส่วนพระลักษณ์นั้นเป็นองค์อนันตนาคราชกลับชาตมาเกิดเพื่อช่วยเหลือพระรามในการสังหารอสูร มีร่างกายสีทอง ทั้งนี้เนื่องจากองค์อนันตนาคราชแต่เดิมนั้นก็มีเกล็ดเป็นทองคำทั้งร่างเมื่อกลับชาติมาเกิดเป็นพระลักษณ์ก็มีการทองตามไปด้วย ลักษณะพระลักษณ์นั้นกล่าวคำบรรยายว่า หนึ่งพักตร์ สองกร มีพระพักตร์เป็นสีทองคำ ใส่มงกุฎยอดแหลม อยู่ในพงศ์พันธุ์แห่งองค์นารายณ์อวตาร เรียกสั้น ๆ ว่า “นารายณ์พงศ์”

    พระลักษณ์นั้นตามท้องเรื่องรามเกียรติ์เป็นผู้ที่มีความกล้าหาญชาญชัย ซื่อสัตย์ต่อองค์พระรามด้วยชีวิต ดังจะเห็นได้ว่าครั้งหนึ่งอสูรนามว่ากุมภกัณฑ์มีหอกโมกขศักดิ์เป็นอาวุธ เมื่อได้ทีจะพุ่งใส่พระราม แต่พระลักษณ์ออกมารับแทนจนโดนฤทธิ์ของหอกโมกศักดิ์เจ็บเจียนตาย เกือบไม่รอด นี่แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจ ความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อองค์พระรามผู้พี่อย่างยากที่จะหาใครมาเปรียบได้ นอกจากนี้พระลักษณ์ยังเป็นผู้มีจิตใจเยือกเย็น คอยคิดคอยช่วยเหลือพระรามโดยตลอด

    พระลักษณ์เป็นผู้ที่มีวาสนาสูส่งผู้หนึ่งของโลกในยุคนั้นเรื่องความมีวาสนาหรือบุญบารมีของพระลักษณ์นั้นก็ไม่ธรรมดาเพราะครั้งที่มีการแข่งขันยกมหาคันศรเพื่อเสี่ยงทายว่าผู้ใดที่ยกได้จะได้นางสีดาไปเป็นภรรยา เทพพรหมทุกชั้นฟ้ามาแข่งขันเพื่อจะยกก็หาใครยกได้ไม่ แม้รวมคนตั้งพันมายกก็ยังยกไม่ขึ้น พอพระลักษณ์มาลองยกก็ยกได้แต่ด้วยรู้ว่าพี่ชายคือพระรามนั้นรักนางสีดาอยู่ก็เลยขอสละสิทธิ์ให้พระรามมายกปรากฏว่าพระรามก็ยกได้และได้แต่งงานกับนางสีดา นี่ก็เป็นอีกครั้งที่พระลักษณ์แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจทั้งยังแสดงให้เห็นถึงบุญบารมีของพระลักษณ์ว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน

    ในเรื่องรามเกียรติ์พระลักษณ์มีอาวุธเป็นพระขรรค์กายสิทธิ์เรื่องการได้อาวุธคู่บารมีของพระลักษณ์นั้นก็เป็นด้วยบุญของพระลักษณ์เช่นกัน เล่าว่าก่อนหน้านั้นมีอสูรตนหนึ่งภาวนาขอพรจากพระเป็นเจ้าเมื่อบำเพ็ญตบะจนแก่กล้าพระเป็นเจ้าก็ประทานพรให้ อสูรขออาวุธวิเศษพระเป็นเจ้าก็บันดาลให้เกิดพระขรรค์แก้วร่วงหล่นลงมาจากบนฟ้า แต่ด้วยกรรมบังตาอสูรเกิดความไม่พอใจคิดว่าพระเป็นเจ้าหมิ่นเกียรติตนเองจึงเขวี้ยงพระขรรค์ลงมาเช่นนี้ อสูรจึงทิ้งพระขรรค์นั้น ต่อมาพระลักษณ์เดินทางมาถึงพบพระขรรค์วิเศษทิ้งเอาไว้ พระลักษณ์ลองนำมากวัดแกว่งดูปรากฏว่าสะท้านสะเทือนไปทั้งสามโลก อสูรตนดังกล่าวรู้ว่าเป็นฤทธิ์อำนาจจากพระขรรค์ที่ตนบำเพ็ญตละจึงจะมาเอาคืน ต่อสู้ด้วยกับพระลักษณ์ พระลักษณ์จึงได้ใช้พระขรรค์วิเศษฟันตัวอสูรจนขาดเป็นสองท่อน อสูรนั้นก็ถึงแก่ความตาย ตำนานเรื่องพระลักษณ์จากรามเกียรติ์นั้นมีด้วยกันหายตอนแม้ว่าจะไม่มีบทบาทมากเท่าพระรามแต่ก็เป็นบุคคลสำคัญที่ใคร ๆ ก็รู้จักเป็นอย่างดี
    ที่สำคัญคือด้วยการที่พระลักษณ์ในกายทอง องค์พระลักษณ์จึงเป็นผู้ที่มีเสน่ห์เมตตามหานิยมสูงมาแต่กำเนิด ทั้งคำว่าลักษณ์ ยังเป็นคำเสียงใกล้เคียงกับคำว่า “รัก”อีกด้วย ดังนั้น นามพระลักษณ์หน้าทองนี้จึงเป็นตัวแทนแห่งเสน่ห์เมตตามหานิยมได้เป็นอย่างดีที่สุด และในสายวิชาทางไสยศาสตร์ที่มักมาจากตำนานทางศาสนาพราหมณ์ ก็ได้นำเอาตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์หลายองค์มาเป็นครูในสายวิชา อย่างพระรามก็มักเป็นครูในสายวิชาทางการรบทัพจับศึก คงกระพันชาตรี ส่วนพระลักษณ์ผู้น้องที่มีร่างเป็นทองคำนั้นก็เป็นครูสายวิชาเสน่ห์เมตตามหานิยม พระรามและพระลักษณ์จึงเมือนพลังคู่ หยินหยาง พระรามเป็นอำนาจประดุจพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน พระลักษณ์เป็นอำนาจประดุจพระจันทร์เต็มดวงยามเที่ยงคืน ที่เยือกเย็นเป็นเสน่ห์อันสุดประมาณมิได้ ด้วยเหตุนี้กำเนิดแห่งวิชาพระลักษณ์หน้าทองจึงบังเกิดขึ้นด้วยบุญบารมีแห่งพระลักษณ์บุคคลสำคัญผู้หนึ่งในเรื่องรามเกียรติ์

    คาถาและการใช้วัตถุมงคลพระลักษณ์หน้าทอง
    ตั้งนะโม 3 จบ
    โอมพระพักตร์ พระลักษณ์หน้าทอง สุวรรณผุดผ่อง หน้าทองพระพักตร์ ชายเห็นชายรัก สาวเห็นสาวรัก ผู้ใหญ่เห็นก็รัก พากันโสมนัส ใครเห็นใครก็รัก รู้จักกูถ้วนหน้าไม่ว่าใคร นะจับจิต โมจับใจ พุทโยงใย ธาหลวงใหล ยะร้องไห้มาหากู ปะสะสัมมะปติฏฐามิ
    โอมพระแลงเป็นแสงพระลักษณ์ พระฤาษีจับปากกา พระลักษณ์จับหน้า จับตาสวาหะ นะเห็นหน้ากูอยู่ไม่ได้ โมร้องไห้ครวญครางพุทกอดไว้มิใคร่วาง ธาครวญครางสะอื้นไห้ ยะหลงใหลในจิต หญิงใดชายใดได้เพ่งพิศเห็นหน้ากูก็อยู่มิได้ร้องไห้มาหากู โอมสิทธิแก่กูสวาหะ เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา พหูชะนาเอหิ

    พระคาถานี้ภาวนา 3 จบ พร้อมกับนำเศียรพระลักษณ์หรือตะกรุดวนที่ใบหน้า 3 รอบ โดยวนตามเข็มนาฬิกา (ทักษิณาวัตร) เป็นมหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม มีสง่าราศี เสริมวาสนา ชะตาชีวิตบุญบารมีดีนักแล ค้าขายประกอบกิจการสิ่งใดก็สำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ

    ***ผมได้มาลองครั้งแีรก ใส่ไปเดินห้างเลยครับ ปรากฎว่ามีจัดกิจกรรมแสดงสินค้าในห้างครับ แค่เดินผ่านเฉยๆ MC ยังชวนมาเล่นเกมซะหวานเชียว ***

    ***สังเกตได้ชัดเจนเลยครับ ว่าเป็นมหาเสน่ห์สายเทพเลย ใส่ไปที่ไหนจะรู้สึกเย็นๆ แบบเมตตานำครับ หน้าตาดูมีสง่าราศี***

    ***ทำผมติดใจเลี่ยมเงินไปองค์แล้วครับ***


    ปิดรายการนี้แล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2014
  13. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้แล้วครับ
    องค์ที่ 2 :
    พระลักษณ์หน้าทอง รุ่น 1 หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว



    ตำนานพระลักษณ์หน้าทอง

    ด้านตำนานของวิชาพระลักษณ์หน้าทองนั้น มาจากเรื่องรามเกียรติ์ ในท้องเรื่องรามเกียรติ์นั้นพระรามมีพี่น้องทั้งหมดสี่คน คนที่สนิทที่สุดคือพระลักษณ์ ตัวพระรามนั้นเป็นนารายณ์อวตาร ร่างมีสีเขียวส่วนพระลักษณ์นั้นเป็นองค์อนันตนาคราชกลับชาตมาเกิดเพื่อช่วยเหลือพระรามในการสังหารอสูร มีร่างกายสีทอง ทั้งนี้เนื่องจากองค์อนันตนาคราชแต่เดิมนั้นก็มีเกล็ดเป็นทองคำทั้งร่างเมื่อกลับชาติมาเกิดเป็นพระลักษณ์ก็มีการทองตามไปด้วย ลักษณะพระลักษณ์นั้นกล่าวคำบรรยายว่า หนึ่งพักตร์ สองกร มีพระพักตร์เป็นสีทองคำ ใส่มงกุฎยอดแหลม อยู่ในพงศ์พันธุ์แห่งองค์นารายณ์อวตาร เรียกสั้น ๆ ว่า “นารายณ์พงศ์”

    พระลักษณ์นั้นตามท้องเรื่องรามเกียรติ์เป็นผู้ที่มีความกล้าหาญชาญชัย ซื่อสัตย์ต่อองค์พระรามด้วยชีวิต ดังจะเห็นได้ว่าครั้งหนึ่งอสูรนามว่ากุมภกัณฑ์มีหอกโมกขศักดิ์เป็นอาวุธ เมื่อได้ทีจะพุ่งใส่พระราม แต่พระลักษณ์ออกมารับแทนจนโดนฤทธิ์ของหอกโมกศักดิ์เจ็บเจียนตาย เกือบไม่รอด นี่แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจ ความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อองค์พระรามผู้พี่อย่างยากที่จะหาใครมาเปรียบได้ นอกจากนี้พระลักษณ์ยังเป็นผู้มีจิตใจเยือกเย็น คอยคิดคอยช่วยเหลือพระรามโดยตลอด

    พระลักษณ์เป็นผู้ที่มีวาสนาสูส่งผู้หนึ่งของโลกในยุคนั้นเรื่องความมีวาสนาหรือบุญบารมีของพระลักษณ์นั้นก็ไม่ธรรมดาเพราะครั้งที่มีการแข่งขันยกมหาคันศรเพื่อเสี่ยงทายว่าผู้ใดที่ยกได้จะได้นางสีดาไปเป็นภรรยา เทพพรหมทุกชั้นฟ้ามาแข่งขันเพื่อจะยกก็หาใครยกได้ไม่ แม้รวมคนตั้งพันมายกก็ยังยกไม่ขึ้น พอพระลักษณ์มาลองยกก็ยกได้แต่ด้วยรู้ว่าพี่ชายคือพระรามนั้นรักนางสีดาอยู่ก็เลยขอสละสิทธิ์ให้พระรามมายกปรากฏว่าพระรามก็ยกได้และได้แต่งงานกับนางสีดา นี่ก็เป็นอีกครั้งที่พระลักษณ์แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจทั้งยังแสดงให้เห็นถึงบุญบารมีของพระลักษณ์ว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน

    ในเรื่องรามเกียรติ์พระลักษณ์มีอาวุธเป็นพระขรรค์กายสิทธิ์เรื่องการได้อาวุธคู่บารมีของพระลักษณ์นั้นก็เป็นด้วยบุญของพระลักษณ์เช่นกัน เล่าว่าก่อนหน้านั้นมีอสูรตนหนึ่งภาวนาขอพรจากพระเป็นเจ้าเมื่อบำเพ็ญตบะจนแก่กล้าพระเป็นเจ้าก็ประทานพรให้ อสูรขออาวุธวิเศษพระเป็นเจ้าก็บันดาลให้เกิดพระขรรค์แก้วร่วงหล่นลงมาจากบนฟ้า แต่ด้วยกรรมบังตาอสูรเกิดความไม่พอใจคิดว่าพระเป็นเจ้าหมิ่นเกียรติตนเองจึงเขวี้ยงพระขรรค์ลงมาเช่นนี้ อสูรจึงทิ้งพระขรรค์นั้น ต่อมาพระลักษณ์เดินทางมาถึงพบพระขรรค์วิเศษทิ้งเอาไว้ พระลักษณ์ลองนำมากวัดแกว่งดูปรากฏว่าสะท้านสะเทือนไปทั้งสามโลก อสูรตนดังกล่าวรู้ว่าเป็นฤทธิ์อำนาจจากพระขรรค์ที่ตนบำเพ็ญตละจึงจะมาเอาคืน ต่อสู้ด้วยกับพระลักษณ์ พระลักษณ์จึงได้ใช้พระขรรค์วิเศษฟันตัวอสูรจนขาดเป็นสองท่อน อสูรนั้นก็ถึงแก่ความตาย ตำนานเรื่องพระลักษณ์จากรามเกียรติ์นั้นมีด้วยกันหายตอนแม้ว่าจะไม่มีบทบาทมากเท่าพระรามแต่ก็เป็นบุคคลสำคัญที่ใคร ๆ ก็รู้จักเป็นอย่างดี
    ที่สำคัญคือด้วยการที่พระลักษณ์ในกายทอง องค์พระลักษณ์จึงเป็นผู้ที่มีเสน่ห์เมตตามหานิยมสูงมาแต่กำเนิด ทั้งคำว่าลักษณ์ ยังเป็นคำเสียงใกล้เคียงกับคำว่า “รัก”อีกด้วย ดังนั้น นามพระลักษณ์หน้าทองนี้จึงเป็นตัวแทนแห่งเสน่ห์เมตตามหานิยมได้เป็นอย่างดีที่สุด และในสายวิชาทางไสยศาสตร์ที่มักมาจากตำนานทางศาสนาพราหมณ์ ก็ได้นำเอาตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์หลายองค์มาเป็นครูในสายวิชา อย่างพระรามก็มักเป็นครูในสายวิชาทางการรบทัพจับศึก คงกระพันชาตรี ส่วนพระลักษณ์ผู้น้องที่มีร่างเป็นทองคำนั้นก็เป็นครูสายวิชาเสน่ห์เมตตามหานิยม พระรามและพระลักษณ์จึงเมือนพลังคู่ หยินหยาง พระรามเป็นอำนาจประดุจพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน พระลักษณ์เป็นอำนาจประดุจพระจันทร์เต็มดวงยามเที่ยงคืน ที่เยือกเย็นเป็นเสน่ห์อันสุดประมาณมิได้ ด้วยเหตุนี้กำเนิดแห่งวิชาพระลักษณ์หน้าทองจึงบังเกิดขึ้นด้วยบุญบารมีแห่งพระลักษณ์บุคคลสำคัญผู้หนึ่งในเรื่องรามเกียรติ์

    คาถาและการใช้วัตถุมงคลพระลักษณ์หน้าทอง
    ตั้งนะโม 3 จบ
    โอมพระพักตร์ พระลักษณ์หน้าทอง สุวรรณผุดผ่อง หน้าทองพระพักตร์ ชายเห็นชายรัก สาวเห็นสาวรัก ผู้ใหญ่เห็นก็รัก พากันโสมนัส ใครเห็นใครก็รัก รู้จักกูถ้วนหน้าไม่ว่าใคร นะจับจิต โมจับใจ พุทโยงใย ธาหลวงใหล ยะร้องไห้มาหากู ปะสะสัมมะปติฏฐามิ
    โอมพระแลงเป็นแสงพระลักษณ์ พระฤาษีจับปากกา พระลักษณ์จับหน้า จับตาสวาหะ นะเห็นหน้ากูอยู่ไม่ได้ โมร้องไห้ครวญครางพุทกอดไว้มิใคร่วาง ธาครวญครางสะอื้นไห้ ยะหลงใหลในจิต หญิงใดชายใดได้เพ่งพิศเห็นหน้ากูก็อยู่มิได้ร้องไห้มาหากู โอมสิทธิแก่กูสวาหะ เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา พหูชะนาเอหิ

    พระคาถานี้ภาวนา 3 จบ พร้อมกับนำเศียรพระลักษณ์หรือตะกรุดวนที่ใบหน้า 3 รอบ โดยวนตามเข็มนาฬิกา (ทักษิณาวัตร) เป็นมหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม มีสง่าราศี เสริมวาสนา ชะตาชีวิตบุญบารมีดีนักแล ค้าขายประกอบกิจการสิ่งใดก็สำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ

    ***ผมได้มาลองครั้งแีรก ใส่ไปเดินห้างเลยครับ ปรากฎว่ามีจัดกิจกรรมแสดงสินค้าในห้างครับ แค่เดินผ่านเฉยๆ MC ยังชวนมาเล่นเกมซะหวานเชียว ***

    ***สังเกตได้ชัดเจนเลยครับ ว่าเป็นมหาเสน่ห์สายเทพเลย ใส่ไปที่ไหนจะรู้สึกเย็นๆ แบบเมตตานำครับ หน้าตาดูมีสง่าราศี***

    ***ทำผมติดใจเลี่ยมเงินไปองค์แล้วครับ***


    ปิดรายการแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2014
  14. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้แล้วครัลบ

    ขุนแผนชมตลาด หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ วัดตาอี จ.บุรีรัมย์

    หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ ยอดพระเกจิอาจารย์สายเขมรที่เปี่ยมไปด้วยเมตตามหาบารมี หลวงปู่ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสายวิปัสนากรรมฐาน ถือธุดงค์เป็นวัตร มีพลังจิตญานขั้นสูง เชี่ยวชาญในพระเวทย์วิทยาคมอาถรรพณ์เวทย์สายเขมรโบราณ ท่านเป็นหนึ่งในศิษย์สายเขากุเลนซึ่งเป็นสถานที่ ในการเจริญวิปัสสนากรรรมฐานและพระเวทย์วิทยาคมขั้นสูงของเขมร วัตถุมงคลที่หลวงปู่ได้ทำการอธิฐานจิตปลุกเสก ล้วนแล้วแต่แรง เห็นผล และสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้บูชามากมาย โดยเฉพาะทางมหาเสน่ห์ เมตตา-มหานิยม โชคลาภ ค้าขาย เสริมดวงชะตาราศี เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน วัตถุมงคลของท่านหลายรายการที่สร้างออกมาแล้วสร้างประสบการณ์ใช้กับผู้ใช้บูชามากที่สุด เป็นที่กล่าวขานมากถึงความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง วัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นที่ได้รับความนิยมสูง เช่นขุนแผน กุมารทอง ตุ๊กตามหาเสน่ห์ ดวงตราอาถรรพณ์ ..ฯลฯ ถึงแม้หลวงปู่ท่านจะมรณะภาพไปแล้ว(มรณะปี 2547)แต่ก็ยังมีผู้คนเสาะแสวงหาวัตถุมงคลของท่านอยู่ไม่ขาด เพราะว่าใช้แล้วเห็นผลดีแรงเห็นผลทันตาอธิษฐานได้ดั่งใจปรารถนา หลวงปู่เป็นหนึ่งในพระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพบูชาของศิษยานุศิษย์และผู้คนทั้งหลายที่ศรัทธาในบุญบารมีของท่าน วัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นเป็นสุดยอดวัตถุมงคลแห่งยุคที่ต้องมีไว้บูชา

    ขุนแผนชมตลาด สร้างประมาณปี พ.ศ.2543 หลวงปู่เสกให้อย่างดี แรง และสุดเข้มขลัง ขณะที่ท่านปลุกเสกต้นไม้ข้างกุฏิถึงกับหักล้มลงมาอย่างน่าอัศจรรย์ที่ลูกศิษย์ลูกหาและคนแถวนั้นยืนยันได้ไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้นเพราะพลังจิตหลวงปู่แรงจริง หลังปลุกเสกท่านบอกว่าขุนแผนรุ่นนี้เด่นทาง มหานิยม เข้าสังคมเด่นเป็นสง่ากว่าเขา เหมาะสำหรับศิลปินนักร้องนักแสดง นักการขาย อาชีพที่ต้องเจรจาพบปะพูดคุยกับผู้คน พ่อค้าแม่ขาย บุรุษสตรีที่ต้องการโดดเด่นในสังคม

    ขุนแผนชมตลาดนี้ มีผู้นำไปใช้แล้วดีมากนะครับทางด้านมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม ไปที่ไหนโดดเด่นเป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้ที่ได้พบเห็น เช่นดั่งคำที่หลวงปู่ได้กล่าวไว้ และยังดีทางด้านโชคลาภ ค้าขาย ทำมาหากินคล่อง ดีด้วย สุดยอดของดีที่ควรมีไว้บูชาครับ

    ปสก.ที่เคยฟังเค้าเล่ามา ...


    ขุนแผนชมตลาด หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ ศิษย์หลายท่านคงทราบดี “ขุนแผนชมตลาด” เท่าที่ผมจำได้ ท่านเคยบอกว่า “ดีทางเขาสังคม เด่นสง่ากว่าเขา” เคยมีศิษย์จากกรุงเทพ เดินทางไปหาท่านไปร่วมทำบุญสร้างอุโบสถกับหลวงปูชื่น ก่อนจะลากลับ หลวงปู่ชื่น ท่านได้มอบ “ขุนแผนชมตลาด” ให้ไป ศิษย์ท่านดังกล่าวได้ถามหลวงปู่ชื่นว่า “ดีอย่างไร?” หลวงปู่ชื่นบอกว่า “พรุ่งนี้เองลองพกไปตลาดดู” เมื่อเดินทางกลับมาถึงกรุงเทพฯ รุ่งเช้าก็ลองพกพระติดตัวไปซื้อของที่ร้านไหน แม่ค้าก็แถมของให้เป็นพิเศษ แต่ที่แปลกคือ เวลาซื้อของ แม่ค้าจะทอนเงินผิดแทบทุกร้าน

    คาถาของขุนแผนชมตลาดครับ

    โอมศรี ๆ หน้ากูคือใบบัว ตัวกูคือวงพระจันทร์
    กูจะเศกแป้งน้ำมันทา ให้เจ้าแสนสิเนหา ให้พระยา
    แสนรัก สวาหะ มะอะอุ นะ เมตตา โมถามหา พุท
    รักข้า ธา อ่อนใจ ยะ เอ็นดู จิตตัง วา ปุปผัง วา
    คันธัง วา ราชกุมารี วา ราชกุมาโร วา อิตถี วา
    ปุริโส วา พานิชโช วา พานิชชา วา ปริเทวันติ
    มุทุ จิตตัง ทิสวา มุกขัง จิตตัง ปิยัง มะมะ ยังยัง อินทสิ
    เนหา พรหมสิเนหา อิศวรสิเนหา นารายนสิเนหา ( นา-รา-ยะ-นะ-สิ-เน-หา)
    สวาหะ ประสิทธิ ประสิทธิจัง มิตตะจิตตะ มิตตะจิตตัง
    ผูกจิต ผูกจัง


    โอมละลวย มหาละลวย สัพพะละลวย สวาหะ
    อุ เมตตา จะ มหาราชา สัพพสิเนหะ จะ ปูชิตา สัพพะ
    สุขัง จะ มหาลาภัง ราชาโกรธัง วินาสสันติ สาว ๆ แส้ ๆ
    หม้าย ๆ แม่ ๆ ผู้เฒ่าผู้แก่ ผู้หญิงผู้ชาย ทั้งหลายทั้ง
    ปวง เอหิ มนาปัง จิตตัง ปิยัง มะมะ อิติปารมิตตา ติง
    สา อิติสัพพัญญามาคตา

    โอมราศีกูเอ๋ย จงมาเป็นอาศน์ ศรีนาวาศมาเป็น
    เกียรติ์ ศรีชายมาเป็นช่วง หญิงชายทั้งปวง รักกูมิรู้
    วาย ด้วยศรีกูงามคือฟ้า หน้ากูงามคือพระพรหม ฟ้า
    เห็นฟ้าชม พรหมเห็นพรหมรัก หญิงเห็นหญิงรัก
    ชายเห็นชายทักกูอยู่ทุกเมื่อ ไม่เบื่อแต่สักวัน

    โอมหญิงชายทั้งหลายเอ๋ย มารักกู สวาหะ
    โอมสิทธิดำเนินศรี ๆ กูงามคือฟ้า หน้ากูงามคือ
    พระแมน แขนกูงามคือพระศรีฉัตต์ทันต์ ฟันกูงามคือพระ
    นารายณ์ กายกูคือพระอาทิตย์ ฤทธิ์กูคือพระจันทร์
    สาวใช้ในสวรรค์เห็นหน้ากูก็อยู่มิบ่มิได้ มากูจะรำลึกถึง
    ต้นไม้ ๆ ก็มาอ่อนอยู่งวยงง ก็จะรำลึกถึงพระยาหงส์ ๆ
    ก็มาทิ้งถ้ำทอง กูจะรำลึกถึงปลาในหนองก็มาลืมพระ
    คงคา กูจะรำลึกถึงอรรคมหาเสนาก็มาลืมซึ่งแท่นที่
    นอน กูจะรำลึกถึงลูกไก่อ่อน ก็มาพลัดแม่ระเหระหน
    ขวนขวาย กูจะรำลึกถึงช้างพลายในป่าต้นก็มาลืมไพร
    กูจะรำลึกถึงสาวใช้ก็มาลืมแม่ กูจะรำลึกถึงสาวแก่ก็
    มาหลงใหล กูจะรำลึกถึงเจ้าไทย ท่านก็มาปราณี กู
    จะรำลึกถึงเจ้าชีก็มาลืมสวดมนต์ กูจะรำลึกถึงฝูงคน ๆ
    ทั้งหลายก็มารักกูอยู่ถ้วนหน้า ทุกชั้นฟ้าและแผ่นดิน
    มากูจะรำลึกถึงพระอินทร์ ท่านก็มาปรารมภ์นักรักกูทุก
    ชั้นฟ้า ฝูงคนทั้งหลายเห็นหน้ากูก็มาร้องไห้อยู่งาย ๆ

    โอมรำจิตรำจวน เหวยร่ำจัก ร่ำรัก ร่ำชม ร่ำบ่น
    สวาโหม อิสวาสุ ปิโย ปิยา จิตตา ปิยา มะมะ เอหิ ตุริต ติรตา


    ปิดรายการนี้แล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2014
  15. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้ครับ
    เบี้ยแก้ หลวงปู่ตี๋ วัดหูช้าง​


    หลวงปู่ตี๋ วัดหูช้าง ทายาทและศิษย์พุทธาคม...หลวงปู่กี๋
    พระครูกิตตินนทคุณ หรือที่ชาวบ้านทั่วไปขนานนามท่านว่า “หลวงพ่อกี๋” วัดหูช้าง ต.คูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี สมัยท่านมีชีวิตอยู่ ใครมีเรื่องเดือดร้อน หรือต้องการให้ท่านขจัดปัดเป่า ท่านก็เมตตาช่วยเหลือให้ทุกรายไปโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ท่านเป็นอดีตพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญและเก่งกล้าทางด้านคาถาอาคม การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ผีเข้าหรือถูกคุณไสยต่างๆ แม้ปัจจุบันท่านจะมรณภาพไปนานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของท่านก็ยังเป็นที่กล่าวขานตลอด

    หลวงปู่กี๋ วัดหูช้าง ถูกจัดให้เป็นเกจิดังสมัย พ.ศ.๒๕๐๐ ที่คนเมืองนนท์ เคารพนับถือท่านมาก โดยเฉพาะการทำปลัด ตะกรุด และเครื่องรางของขลังต่างๆ ท่านยังคงจารเอง รวมถึงการเหลาไม้ และวัสดุมวลสารต่างๆ เองทุกขั้นตอน จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านเข้มขลัง ทรงคุณค่า และที่สำคัญหายากมาก จนเป็นตำนาน ปลัดขิกเมืองนนท์ สุดยอดของความหายากและปรารถนา เนื่องจากพุทธคุณใช้แทนอาจารย์ของท่านได้เลยทีเดียว

    หลวงปู่กี๋ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ รวมถึงเป็นศิษย์ก๋งจาบ สำนักประดู่ทรงธรรม อยุธยา ศิษย์น้องหลวงปู่เทียม วัดกษัตราฯ และหลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน ซึ่งเกจิร่วมสำนักทั้ง ๓ รูปนี้ได้ก่อปาฏิหาริย์ในคราวปลุกเสกพระที่วัดปราสาทบุญญาวาส สามเสน คือ แผ่นทองแดงของพระอาจารย์ทั้ง ๓ รูปหลอมไม่ละลายมาแล้ว และยังเป็นศิษย์หลวงปู่แดง วัดตะเคียน นนทบุรี และหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เนื่องจากท่านมาแวะพักที่วัดหูช้างเสมอๆ ด้วยบรรดาลูกหลานเหลนท่านมาตั้งรกรากบ้านเรือนในย่านวัดหูช้าง หลายสิบครอบครัว และยังได้ผงจากหลวงพ่อปานตั้งเกือบ ๑ ปี๊ป รวมทั้งเจ้าคุณโพธิ์ วัดชัยพฤกษ์มาลา อีกด้วย จึงนับว่าหลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง ท่านเป็นพระเกจิที่สืบสายพุทธาคมมาอย่างเข้มขลัง

    นอกจากนี้แล้ว ในวัยเยาว์หลวงพ่อกี๋มีความสนใจและศึกษาตำราการทำน้ำมนต์รักษาโรคต่างๆ โดยได้ศึกษาวิชาการทำน้ำมนต์จากคุณปู่ของท่านเอง ในสมัยนั้นคุณปู่ของท่านเก่งทางด้านการทำน้ำมนต์รักษาโรคต่างๆ กล่าวได้ว่า ใครมีโรคอะไรก็จะเดินทางมาหา เนื่องจากสมัยนั้นโรงพยาบาลต่างๆ ก็ยังไม่ค่อยมีเหมือนปัจจุบัน จนต่อมาชาวบ้านต่างๆ ก็ขนานนามท่านว่า “หมอบุญเทวดา” ปัจจุบันก็มีบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนทั่วไปที่ให้ความเคารพนับถือในตัวท่านเดินทางมากราบไหว้ตลอดเวลา ซึ่งบางท่านก็มากราบไหว้ขอพรท่านเฉยๆ บางท่านก็มาบนบานศาลกล่าวเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ก็สัมฤทธิผลตามที่ต้องการ

    แม้ว่าหลวงปู่กี๋จะมรณภาพไปนานหลายปีแล้วก็ตาม แต่เคล็ดวิชาการทำตะกรุดจารมือ ปลัดขิก รวมทั้งเบี้ยแก้ไม่ได้ตายตามท่านไปด้วย โดยถูกถ่ายทอดให้ พระครูสุวรรณโชติวุฒิ หรือ หลวงพ่อตี๋ เจ้าอาวาสวัดหูช้าง นนทบุรี ปัจจุบันอายุ ๗๔ปี พรรษา ท่านเป็นศิษย์เอกทายาทพุทธาคมเพียงรูปเดียว รวมทั้งยังมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงกี๋อีกด้วย

    หลวงปู่ตี๋ บอกว่า ได้ช่วยหลวงปู่กี๋จารตะกรุด เบี้ยแก้ และจารปลัดขิกตั้งเมื่อครั้งหลวงปู่กี๋มีชีวิตอยู่ โดยในเบี้ยแก้จะลงคาถาหลักๆ คือ ปิดทวารทั้ง ๙ และเฑาะว์รันโต ส่วนปลัดขิกนั้นคาถาหลวงปู่กี๋ที่ขาดไม่ได้ คือ “มะ อะ อุ นะ ละ กา ลัง จะ ภะ กะ สะ จิต ตัง พุท ธิ โส จิต ตัง พุท ธิ เม” โดยหลวงปู่กี๋จะลง “นะ โม พุทธ า ยะ อิ กะ วิ ติ” ด้วยลายมือท่านเอง

    เมื่อถามพุทธคุณของวัตถุมงคล หลวงปู่ตี๋ พูดไว้อย่างน่าคิดว่า “ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ตะกรุดทุกดอก ปลัดขิก และเบี้ยแก้ทุกตัว จะจารด้วยเมือตัวเอง ทั้งนี้เพื่อความเข้มขลังของผู้นำไปใช้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ต่อให้พระตั้งใจทำ และลงอักขระเลขยันต์มากเพียงใด ของดีทุกอย่างคนที่มีนั้นต้องเป็นคนดีมีศีลธรรมของดีจึงแสดงพุทธคุณ แต่ถ้าเป็นคนไม่มีไร้ศีลธรรมของดีย่อมไม่แสดงพุทธคุณ คนจึงมักโทษว่าพระไม่ขลัง โดยไม่ดูตัวเองว่า พยายามที่จะทำตัวเองให้ขลัง ด้วยการอยู่ในศีลตั้งมั่นในธรรมก่อนหรือเปล่า”

    นอกจากหลวงปู่ตี๋จะรักษาเอกลักษณ์ทำเบี้ยแก้ และตะกรุจารมือแล้ว งานสวดภาณยักษ์ใหญ่ของวัดหูช้างหลวงปู่ตี๋ยังคงตำรับหลวงพ่อกี๋ไว้เช่นเดียวกับเมื่อครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ เพื่อสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาเสริมบารมีให้สาธุชนทั่วไป งานสวดภาณยักษ์ใหญ่ที่วัดหูช้างถือว่าเป็นตำนาน รวมทั้งเป็นวัดแห่งแรกๆ จัดมาสมัยหลวงพ่อกี๋ยังอยู่นั้น ในปี ๒๕๕๔ นี้ จะจัดในวันอาทิตย์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นไป

    ปลัดขิกสร้างโบสถ์
    วัดหูช้าง (อยู่คนละฝั่งถนนใหญ่วัดตะเคียน) นับว่าเป็นวัดเก่าแก่โบราณวัดหนึ่ง เช่น วิหาร เจดีย์ ซึ่งเข้าใจกันว่าสร้างขึ้นราวสมัยกรุงศรีอยุธยา จากอดีตจนถึงปัจจุบัน วัดหูช้างมีเจ้าอาวาสปกครองวัดนี้หลายองค์ด้วยกัน และหนึ่งในจำนวนนี้มีเจ้าอาวาสองค์หนึ่งที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถือกันเป็นอย่างมาก และยังเป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจยามทุกข์ยาก เดือดร้อนด้วยเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บ ผีเข้าเจ้าสิง หรือเรื่องอื่น ซึ่งในสมัยนั้นนับว่าหลวงปู่กี๋เป็นเจ้าอาวาสที่เก่งกล้ามาก

    ผู้เฒ่าผู้แก่อายุ ๔๐ ปีขึ้นไป จะได้ยินได้ฟังพระเกจิดังสมัยสงครามอินโดจีน หลวงพ่อกี๋ อยู่ที่วัดหูช้าง จังหวัดนนทบุรี เก่งด้านอาคมไล่ผี สะเดาะเคราะห์เสริมดวง ที่เรียกว่าเข้าพิธีสวดภาณยักษ์ใหญ่ แก้คนถูกคุณไสยในคนที่มีจิตอ่อนไหว ถูกกระทำด้วยอาคมคนเล่นของหรือโดนของจากลมเพลมพัดไม่รู้เนื้อรู้ตัว มีอาการป้ำๆ เป๋อๆ หลวงพ่อกี๋ ผู้นำวิชาอาคมมารักษาคนที่วัดนี้เป็นครั้งแรกเป็นที่ยอมรับนับถือว่าแน่จริง

    หลวงปู่ตี๋ บอกว่า สิ่งหนึ่งที่ยืนยันในความศรัทธาที่ลูกศิษย์มีต่อหลวงปู่กี๋ รวมทั้งความเข้มขลังของปลัดขิก คือ โบสถ์ราคากว่าสิบล้าน ซึ่งสร้างไว้เมื่อ ๒๕๒๖ มาจากปัจจัยให้เช่าบูชาปลัดขิกทั้งสิ้น ที่สำคัญ คือ แพงด้วย ท่านให้เช่าตัวละ ๕๐๐-๑,๐๐๐ บาท ครั้งนั้นใครจะมาวัดต้องนั่งเรือมาเท่านั้น

    “ของดีทุกอย่างคนที่มีนั้นต้องเป็นคนดีมีศีลธรรมของดีจึงแสดงพุทธคุณ แต่ถ้าเป็นคนไม่มีไร้ศีลธรรมของดีย่อมไม่แสดงพุทธคุณ คนจึงมักโทษว่า พระไม่ขลัง โดยไม่ดูตัวเองว่า ตั้งมั่นในธรรมก่อนหรือเปล่า”

    หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง อ. บางกรวย จ.นนทบุรี ท่านเป็นหลานหลวงพ่อกี๋
    และเพียงรูปเดียวที่สืบทอดวิชาจากหลวงพ่อกี๋ ในการจัดสร้างวัตถุมงคล
    เครื่องรางเบี้ยแก้ และปลัดขิกแบบจารอักขระเต็มตัวที่ไม่เหมือนใคร

    หลวงพ่อกี๋ท่านเรียนวิชาทำเบี้ยแก้ จากหลวงปู่รอด วัดนายโรง และวิชา
    ปรอท จากเจ้าคุณโพธิ์วัดชัยพฤกษ์มาลา สมัยที่หลวงปู่โพธิ์เป็นเจ้าคณะ
    จังหวัดนนทบุรี หลวงพ่อกี๋ท่านทำเบี้ยแก้ครั้งแรกได้ประมาณ 30ตัว แจก
    พระธุดงค์ร่วมสมัยและแจกคนใกล้ชิด ไว้กันภูตผีคุณไสย

    หลวงพ่อตี๋ หรือพระครูสุวรรณโชติวุฒิ เจ้าอาวาสวัดหูช้าง ท่านจัดสร้าง
    เบี้ยแก้ตามสูตรที่หลวงพ่อกี๋ท่านถ่ายทอดให้ ท่านสร้างคราวละไม่มากไม่
    เกิน20-30 ตัว มีคนจองกันไปหมด

    ในการจัดสร้างเบี้ยแก้ หลวงพ่อตี๋ท่านจะบรรจุปรอทตลอดจนอุดชันโรง
    และจารอักขระเองทุกตัว ทุกขั้นตอนล้วนแล้วแต่ทำด้วยมือภายในวัดทั้ง
    สิ้นไม่ใช่ออกจากโรงงาน

    เบี้ยแก้หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้างมีด้วยกันสองแบบ แบบแรกเป็นเบี้ยเปลือย
    แบบที่สองเป็นเบี้ยถักเชือกลงรักมีหูทองแดง5เส้น เรียงกันเป็นขาเดียว
    เบี้ยแก้ของท่านมีตอกโค๊ต ต.กลางดอกจัน และชื่อวัดหูช้างใต้ท้องเบี้ยทุกตัว
    ท่านจะปลุกเสกเดี่ยวในโบสถ์ทุกเย็นครับ หลวงพ่อท่านตั้งใจสร้างของท่าน
    มากครับ รุ่งเช้าจึงส่งเข้าตู้ให้กรรมการวัดทำบัญชีรายได้เข้าวัด เพื่อออกให้
    ทำบุญกัน อนาคตเป็นของหายากแน่นอนครับ

    ปิดรายการนี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 015.jpg
      015.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.5 KB
      เปิดดู:
      160
    • 016.jpg
      016.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.8 KB
      เปิดดู:
      146
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2014
  16. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้ครับ

    พระปิดตาปุ้มปุ้ยปี 2537 เนื้อตะกั่ว พิมพ์ใหญ่ กลาง เล็ก
    (ใต้ฐานตอกโค๊ต)
    หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ปลุกเสกพระเวทเดี่ยว 5 วัน 5 คืน



    เปิดบูชาครบชุดที่ 2,500 บาทครับ
    รุ่นนี้หายากมากๆ ครับ นานๆถึงจะมีคนมาปล่อยที ต่อไปอนาคตดีครับ​


    มวลสารหลักๆของเนื้อตะกั่ว มาจากการนำตะกั่วอวนมาหล่อครับ


    คำว่าตะกั่วอวน คือ ตะกั่วที่ใช้ถ่วงแหหรืออวนในการจับสัตว์น้ำ ซึ่งหลวงพ่อถือว่าเป็นกุศโลบาย ใช้ในการดักทรัพย์ ดักสิ่งอันเป็นมงคล และป้องกันภยันตราย และจะต้องเป็นตะกั่วอวนที่ถูกนำไปใช้งานมาแล้ว จึงจะถูกต้องตามตำราครับ

    รุ่นนี้ชื่อว่าปิดตาปุ้มปุ้ย มหาลาภรุ่นแรก ของหลวงพ่อสาคร พุทธคุณเด่นๆก็จะตามชื่อรุ่นนะครับ เกี่ยวกับด้านโชคลาภ ค้าขาย ดักทรัพย์ แต่หลวงพ่อสาครปลุกเสกถึง 5 วัน 5 คืน ท่านคงใส่เมตตา คุ้มครองเพิ่มเติมเข้าไป

    ตอนนี้บางที่ราคาไปไกลแล้วครับ เพราะออกโดยวัด บางแหล่งเก็บเงียบ ถ้าสนใจลองสอบถามเพิ่มเติมได้นะครับ

    ปิดรายการนี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2015
  17. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้แล้วครับ

    นกสาริกาคู่ มหาเสน่ห์-มหารวย ฝังตะกรุด 16 ดอก
    หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์


    หลวงปู่ชื่นท่านได้นำผงมากดพิมพ์มือเป็นนกสาริกาขึ้นมา 2 พิมพ์ คือ 1.นกสาริกาคู่ มหาเสน่ห์-มหารวย 2.นกสาริกาหาคู่ หลังจากนั้นหลวงพ่อกำหนดฤกษ์ปลุกเสกลงอาคม มหามนต์สาริกาทุกชนิดเป็นปัจจัยพื้นฐาน เต็มสูตรแบบต้นตำรับเขมรจนบังเกิดอุคนิมิตเป็นโลกียสุข4 เข้าสู่นกสาริกาทุกคู่ ทุกตัว และท่านยังได้ลงมหามนต์คาถาอาทิเช่น พระคาถาเมตตาใหญ่ พระคาถามหานิยมใหญ่ พระคาถามหาละลวย พระคาถามหารักมหาหลงซ้ำอีกครั้งหนึ่ง นกสาริกาทั้งสองพิมพ์นี้ เหมาะกับนักธุรกิจ พ่อค้า-แม่ค้า ดารานักร้อง นักการตลาด ผู้ขายประกัน นายจ้าง ลูกจ้าง (เหมาะกับการติดต่อธุรกิจ) พุทธคุณสูงใช้ดีทาง เมตตามหานิยม-มหาเสน่ห์ มหาระลวย เจรจาพาทีไพเราะเสนาะหูจับจิตจับใจแก่ผู้ที่ได้ยินได้ฟังให้หลงใหลคล้อยตาม บันดาลโชคลาภ วาสนา เป็นที่รักชอบของผู้ที่ได้พบเห็น


    นกสาริกามหาเสน่ห์-มหารวย หลวงพ่อชื่น วัดตาอี บุรีรัมย์


    นกสาริกามหาเสน่ห์-มหารวย หลวงพ่อชื่น วัดตา หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ ยอดพระเกจิอาจารย์สายเขมรที่เปี่ยมไปด้วยเมตตามหาบารมี หลวงปู่ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสายวิปัสนากรรมฐาน ถือธุดงค์เป็นวัตร มีพลังจิตญานขั้นสูง เชี่ยวชาญในพระเวทย์วิทยาคมอาถรรพณ์เวทย์สายเขมรโบราณ ท่านเป็นหนึ่งในศิษย์สายเขากุเลนซึ่งเป็นสถานที่ ในการเจริญวิปัสสนากรรรมฐานและพระเวทย์วิทยาคมขั้นสูงของเขมร วัตถุมงคลที่หลวงปู่ได้ทำการอธิฐานจิตปลุกเสก ล้วนแล้วแต่แรง เห็นผล และสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้บูชามากมาย โดยเฉพาะทางมหาเสน่ห์ เมตตา-มหานิยม โชคลาภ ค้าขาย เสริมดวงชะตาราศี เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน วัตถุมงคลของท่านหลายรายการที่สร้างออกมาแล้วสร้างประสบการณ์ใช้กับผู้ใช้บูชามากที่สุด เป็นที่กล่าวขานมากถึงความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง วัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นที่ได้รับความนิยมสูง เช่นขุนแผน พิศวาสรุนแรง มะรุมมะตุ้ม สามอาถรรพณ์ กุมารทอง ตุ๊กตามหาเสน่ห์ ดวงตราอาถรรพณ์วัวธนู นกสาริกา จิ้งจก ล๊อกเก็ต พระขรรค์ เป็นต้น ..ฯลฯ ถึงแม้หลวงปู่ท่านจะมรณะภาพไปแล้ว(มรณะปี 2547)แต่ก็ยังมีผู้คนเสาะแสวงหาวัตถุมงคลของท่านอยู่ไม่ขาด เพราะว่าใช้แล้วเห็นผลดีแรงเห็นผลทันตาอธิษฐานได้ดั่งใจปรารถนา หลวงปู่เป็นหนึ่งในพระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพบูชาของศิษยานุศิษย์และผู้คนทั้งหลายที่ศรัทธาในบุญบารมีของท่าน วัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นเป็นสุดยอดวัตถุมงคลแห่งยุคที่ต้องมีไว้บูชา

    ตามตำรามหาขันต์สาริกา เป็นตำรามหายันต์ ในด้านมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม มหามิตร มหาโชค มหาลาภ ความเจริญรุ่งเรืองของพรหมศาสตร์ชั้นสูง หลวงพ่อชื่นท่านได้สำเร็จมหายันต์สาริกาโดยตรง ท่านได้นำสาริกาลิ้นทอง ผงสาริกาหาคู่, ผงสาริกาหลงรัง, ผงสาริกาพญาการเวก ,ผงหัวใจยูงทอง, ผงหัวใจเทพจำแลง, ผงสาริกาตัวผู้-ตัวเมีย, ผงสาริกาพญาเทครัว, ผงสาริกาป้อนเหยื่อ, และผงนางอกแตก, ซึ่งเป็นผงเกี่ยวกับมหาเสน่ห์โดยเฉพาะ ท่านได้นำมวลสารทั้งหมดมาผสมเข้าด้วยกัน มากดพิมพ์เป็นนกสาริกามหาเสน่ห์-มหารวย

    หลังจากนั้นได้กำหนดฤกษ์ปลุกเสกลงคาถาอาคมมหามนต์สาริกาทุกชนิดเป็นปัจจัยพื้นฐานเต็มสูตรแบบต้นตำรับเขมรจนบังเกิดอุคนิมิตเป็นโลกียสุขสี่ เข้าสู่นกสาริกาทุกคู่และท่านได้ลงมหามนต์พระคาถาอาทิ พระคาถาเมตตาใหญ่ พระคาถามหานิยมใหญ่ พระคาถามหาละลวย พระคาถามหารักมหาหลง ซ้ำไปอีกครั้งหนึ่ง พุทธคุณนกสาริกามหาเสน่ห์-มหารวย เหมาะกับนักธุรกิจ พ่อค้า แม่ค้า ดารานักร้อง นักการตลาด ผู้ขายประกัน นายจ้าง ลูกจ้าง(เหมาะกับติดต่อธุรกิจ) พุทธคุณเน้นในเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ พูดจาไพเราะก้องหูจับจิตจับใจแก่ผู้ฟังทุกท่านมีทั้งโชคลาภ มีอำนาจวาสนา เขาจะลืมเรามิได้เป็นที่รักของเจ้านายและบุคคลทั่วไป

    คาถาบูชา ตั้งนะโม 3 จบ เอหิ สาริกา วันตานัง เมตตัมพุทเส สิเนหะรัตถัง สาริกาลาโภ ภะวันตุเม เอหิหญิงชาย

    องค์นี้ประสบการณ์ดีครับ วันแรกๆที่ได้จับ คุยไม่หยุดเลย นึกได้ว่ามีรายการนี้อยู่ เลยลงเผื่อมีผู้สนใจครับ

    ปิดรายการนี้แล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 043.jpg
      043.jpg
      ขนาดไฟล์:
      211.3 KB
      เปิดดู:
      105
    • 044.jpg
      044.jpg
      ขนาดไฟล์:
      221.9 KB
      เปิดดู:
      311
    • 045.jpg
      045.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.3 KB
      เปิดดู:
      109
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2014
  18. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการแล้วครับ
    ขุนแผนพรายกุมาร หลวงปู่ชื่น วัดตาอี ปี 44


    หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ ยอดพระเกจิอาจารย์สายเขมรที่เปี่ยมไปด้วยเมตตามหาบารมี หลวงปู่ท่านเป็น

    พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสายวิปัสนากรรมฐาน ถือธุดงค์เป็นวัตร มีพลังจิตญานขั้นสูง เชี่ยวชาญในพระเวทย์วิทยาคม

    อาถรรพณ์เวทย์สายเขมรโบราณ ท่านเป็นหนึ่งในศิษย์สายเขากุเลนซึ่งเป็นสถานที่ ในการเจริญวิปัสสนากรรรมฐานและ

    พระเวทย์วิทยาคมขั้นสูงของเขมร วัตถุมงคลที่หลวงปู่ได้ทำการอธิฐานจิตปลุกเสก ล้วนแล้วแต่แรง เห็นผล และสร้าง

    ประสบการณ์ให้กับผู้ใช้บูชามากมาย โดยเฉพาะทางมหาเสน่ห์ เมตตา-มหานิยม โชคลาภ ค้าขาย เสริมดวงชะตาราศี

    เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน วัตถุมงคลของท่านหลายรายการที่สร้างออกมาแล้วสร้างประสบการณ์ใช้กับผู้ใช้บูชามาก

    ที่สุด เป็นที่กล่าวขานมากถึงความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง วัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นที่ได้รับความนิยมสูง เช่นขุนแผน กุมารทอง

    ตุ๊กตามหาเสน่ห์ ดวงตราอาถรรพณ์ ..ฯลฯ ถึงแม้หลวงปู่ท่านจะมรณะภาพไปแล้ว(มรณะปี 2547)แต่ก็ยังมีผู้คนเสาะ

    แสวงหาวัตถุมงคลของท่านอยู่ไม่ขาด เพราะว่าใช้แล้วเห็นผลดีแรงเห็นผลทันตาอธิษฐานได้ดั่งใจปรารถนา หลวงปู่เป็น

    หนึ่งในพระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพบูชาของศิษยานุศิษย์และผู้คนทั้งหลายที่ศรัทธาในบุญบารมีของท่าน วัตถุมงคลของหลวงปู่

    ชื่นเป็นสุดยอดวัตถุมงคลแห่งยุคที่ต้องมีไว้บูชา

    ขุนแผนพรายกุมาร ตำรับเขมรโบราณ สุดยอดพระขุนแผนพรายกุมารแห่งยุคที่เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร ที่พระเดช

    พระคุณหลวงปู่ชื่น ท่านได้เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกไว้ให้ อย่างสุดเข้มขลังตามสูตรเขมรโบราณ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง

    ทางด้านมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม และโชคลาภ อย่างเต็มเปี่ยม พระขุนแผนรุ่นนี้ได้บรรจุผงพรายกุมาร ลงไปในพระ

    ขุนแผนด้วยตามตำรับพระขุนแผนพรายกุมารอย่างแท้จริง ท่านที่อยากได้ขุนแผนมีพรายกุมารไว้บูชา ขุนแผนพราย

    กุมารตำรับเขมรโบราณของพระเดชพระคุณหลวงปู่ชื่นรุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่งครับ

    พระคาถาขุนแผนพรายกุมาร หลวงปู่ชื่น วัดตาอี

    นะโม 3 จบ

    นะเมตตา ธะนาจิตตัง พุธธังเมตตา ธะนาจิตตัง

    ธัมมังเมตตา ธะนาจิตตัง สังฆังเมตตา ธะนาจิตตัง

    ปิยังมามา มนุสโสมามา ปุริโสมามา

    กุมารีมามา กุมาโรมามา อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ มามา อะอา แอะแอ ออแอ ออแอ


    ปิดแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 052.jpg
      052.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.9 KB
      เปิดดู:
      134
    • 053.jpg
      053.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.7 KB
      เปิดดู:
      778
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2014
  19. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ลูกสวาทงมหาภูติลิ้นทอง
    สุดยอดของดีมหาเสน่ห์ เล่นบ่าว-สาว จีบบ่าว-สาว หลวงพ่อดำ วัดสันติธรรม
    ลูกสวาทมหาภูติลิ้นทอง สุดยอดของดีมหาเสน่ห์ เล่นบ่าว-สาว จีบบ่าว-สาว
    หลวงพ่อดำ วัดสันติธรรม​


    เป็นของดีที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติในป่าลึกซับซ้อนที่อุดมสมบูรณ์ต้องเป็นคนมีวิชาจึงจะไปเอามาได้เพราะจะถูกรุกขเทวีหรือเจ้าของลูกสวาททำให้หลงป่าหรือเกิดเหตุการณ์อะไรต่างๆที่เป็นอันตรายได้ มีความศักสิทธิ์ในตัว คนโบราณใช้พกติดตัวเมื่อเวลาไปหาสาว ไปหาบ่าว เวลาใช้ไปเล่นสาวเล่นบ่าว มักจะพกลูกสวาทนี้ไป ลูกสวาทนี้มีเทวดาชั้นต่ำๆที่มีกิเลศตัณหาสถิตย์อยู่ทุกลูก เป็นรุกขเทวีที่ชอบและมักมากในกามารมณ์ส่งผลให้ผู้ที่พกลูกสวาทติดตัวไปไหนมาไหนล้วนแต่มีผู้คนรักใคร่หลงไหลในเสน่ห์ ผู้คนทั้งหลายจะเมตตา รักเหมือนลูกเหมือนหลาน เป็นของศักสิทธิ์ที่มีคุณมากทางเสน่ห์ หมอเสน่ห์โบราณยังนำมาบดทำเป็นเสน่ห์ยาแฝดที่ได้ผลแรงเร็ว 100% และเป็นที่ร่ำลือกันมาจนทุกวันนี้ เป็นของดีมาแต่กำเนิด ปัจจุบันหายากมากๆ

    หลวงพ่อดำท่านได้นำมาจารอักขระเองด้วยมือทีละลูก และปลุกเสกพระมนต์ทางเสน่ห์ล้วนๆเข้าไปเสกนานเป็นไตรมาศก่อนนำออกให้ลูกศิษย์ได้บูชากัน ชุดนี้เป็นยุคต้นๆของท่านปัจจุบันหายากมากและเป็นที่หวงแหนของคนที่เคยใช้ เพราะล้วนเกิดประสบการณ์เรื่องเสน่ห์ เรื่องรักๆใคร่ๆอยู่มิขาด หลวงพ่อดำ ชื่อนี้การันตีความขลังและแรงครับ วัตถุมงคลของท่านทุกรายการล้วนสร้างประสบการณ์ดีๆมากมาย โดยเฉพาะที่ผสมผงมหาภูติลิ้นทองลงไปยิ่งก่อเกิดปาริฏิหาริ์ต่างๆมากมาย ผงมหาภูติลิ้นทองปัจจุบันนี้กลายเป็นสุดยอดผงวิเศษแห่งยุคที่กำลังจะกลายเป็นตำนานแล้วครับ

    คำเตือน ท่านที่มีคู่ครองอยู่แล้วระวังอย่าให้ฝ่ายหญิงพก เพราะจะทำให้มีผู้ชายมาพัวพันได้ง่าย ส่วนถ้าฝ่ายชายใช้ระวังเรื่องลูกเมียคนอื่นหลวงพ่อท่านห้ามไว้ครับ


    สอบถามทาง PM ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 050.jpg
      050.jpg
      ขนาดไฟล์:
      170.6 KB
      เปิดดู:
      322
    • 051.jpg
      051.jpg
      ขนาดไฟล์:
      127.6 KB
      เปิดดู:
      152
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2015
  20. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พระผงเพชรพญาธร ปัดทองทั่วองค์พระ พิมพ์เล็ก
    หลวงปู่หมุน เนื้อผงพุทธคุณ ผงชมพูนุช ออกวัดซับลำใย ปี ๔๓ ​


    เพชรพญาธร เนื้อผงหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล สร้างปี 2543 ออกที่วัดซับลำใยเพชรพญาธร เนื้อผงหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล สร้างปี 2543 ออกที่วัดซับลำใยอย่างเป็นทางการครับรุ่นนี้ เพชรพญาธรเป็นเทวดาบนสวรรค์ เจ้าชู้ ยิ่งนัก มักมากในกามารมณ์ เมื่อต้องการสาวใดแล้วก็จะแอบไปหาตอนกลางคืนร่ายมนต์ให้เกิดกามารมณ์จนต้องหลวมตัวเสร็จทุกรายไป หลวงปู่หมุนเสกเพื่อให้เป็นเมตตามหานิยม และโชคลาภ โดยพระอาจารย์ตั๋ว ศิษย์เอกของหลวงพ่อกวย ได้ถวายผงชมพูนุชในการจัดสร้างของดีของขลังรุ่นนี้ด้วย ผงชมพูนุชเป็นผงด้านเสน่ห์ พระเณรใครอยากลองของ เป็นอันสึกแทบทุกราย จนต้องเอาผงนี้ถวายหลวงปู่หมุนจนหมด เพื่อใช้ทำเครื่องรางด้านเมตตามหาเสน่ห์แก่ผู้คนทั่วไป สายของอาจารย์หนู (โตมร บุญนาค)ซึ่งเป็นหลานของหลวงพ่อกลั่น วัดพระยาญาติ จ.อยุธยา อดีตเกจิเรืองเวทชื่อดังของประเทศไทยรูปหนึ่ง ซึ่งอาจารย์หนูได้ถ่ายทอดวิชาอาคมให้แก่อาจารย์อ้วน (มณฑป รัตนวิหค) และซึ่งอาจารย์อ้วนได้ถ่ายทอดวิชาอาคมให้กับอาจารย์ทูลอีกต่อหนี่ง โดยเฉพาะวิชาเพชรพญาธร เป็นศาสตร์โบราณตามตำราซึ่งกล่าวไว้ว่าเพชรพญาธรเป็นเทพองค์หนึ่งที่ทำหน้าที่คุ้มครองรักษาดูแลพระพุทธศาสนา เป็นตัวแทนของเทพแห่งความเมตตาและโชคลาภ ให้คุณแก่ผู้ที่ได้สวดบูชาองค์เพชรพญาธร และสามารถสวดอธิฐานขอพรจากองค์เทพเพชรพญาธรได้ตามแต่จะพึงปารถนาสำหรับวิชาเพชรพญาธรสายนี้ อาจารย์อ้วนได้ถ่ายถ่ายทอดวิชานี้ให้แก่ศิษย์ 2 คน คืออาจารย์ทูล และอีกคนคือพระอาจารย์ตั้ว แห่งวัดซับลำใย จ.ลพบุรี (ปัจจุบัน มรณภาพแล้ว) ซึ่งวิชานี้เป็นที่โจษจันไปทั่ว จ.ลพบุรี (ไม่ทราบว่า อ.ตั้ว ได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้แก่ผู้ใดก่อนมรณภาพหรือไม่) ส่วนอาจารย์ทูลได้รับการถ่ายทอดวิชาเพชรพญาธรนี้จากท่านอาจารย์อ้วน จนมีความชำนาญในการเขียนอักขระเลขยันต์ อาจารย์อ้วนได้ถ่ายทอดวิชาให้แก่อาจารย์ทูลซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชานี้อย่างถึงแก่นแท้ของวิชานี้อย่างแท้จริงจนขึ้นชื่อมากจนลูกศิษย์ที่มาสักยันต์หรือวัตถุมงคลที่ลงเพชรพญาธรหรือขอผ้ายันต์เพชรพญาธรไปใช้เป็นเมตตาติดต่องานหรือเจรจาค้าขายได้ดีจนเป็นที่กล่าวขานว่าวิชาเพชรพญาธรของอาจารย์ทูลไม่เป็นสองรองใคร

    ใบคาถา พร้อมวิธีการบูชาองค์เพชรพญาธรมาลงนะครับ เรื่องโชคลาภนี่ เพชรพญาธร ของท่านที่อ ตั้วสร้างและหลวงปู่หมุนเสกให้ บอกได้เลยครับว่าแน่นอนเลยครับ แต่ต้องบูชาให้ได้ตามใบคาถา และ ต้องบูชาด้วยน้ำมันเก้ากลิ่น อย่าให้แห้งครับ ท่านใดมีลองดูครับ
    เปิดที่ 2,800 ครับ ขอบคุณครับ

    25
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 036.jpg
      036.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103.7 KB
      เปิดดู:
      471
    • 715590-3a278.jpg
      715590-3a278.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.8 KB
      เปิดดู:
      1,290
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2014
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...