เรื่องเด่น เหรียญ มีสามด้าน

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย rachotp, 9 สิงหาคม 2021.

  1. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,215
    กระทู้เรื่องเด่น:
    252
    ค่าพลัง:
    +23,820
    B.PNG

    คนส่วนใหญ่มักจะเชื่อกันว่า เหรียญมีสองด้าน คือด้านหัวกับด้านก้อย จึงคุ้นอยู่กับการมองเหรียญเพียงสองด้านจนเป็นนิสัย ไม่เห็นด้านหัวก็เห็นด้านก้อยเหมือนการมองสิ่งต่างๆที่ตนสัมผัสอยู่ในชีวิตประจำวัน จะเกิดความรู้สึกต่อสิ่งที่มากระทบไปในทางที่ชอบไม่ชอบหรือยินดี ยินร้าย เหมือนเห็นเหรียญเพียงสองด้านนั่นเอง ความรู้สึกชอบนำมาซึ่งความอยาก เป็นพลังดึงดูดให้เราอยากเสพในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสตามที่ตนชอบ โดยทั่วไปแล้วคนส่วนใหญ่ต่างอยากเสพและอยากได้ในสิ่งที่ตนพอใจทั้งสิ้น

    ครั้นเผชิญกับสิ่งที่ตนไม่พอใจก็เกิดความรู้สึกไม่ชอบต่อสิ่งนั้นทันที ความไม่ชอบเป็นพลังผลักไส ไม่ชอบคนบางคน ไม่ชอบสถานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ความอยากเสพในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ความอยากได้ อยากมี อยากเป็นในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อันเป็นสาเหตุให้เกิดทุกข์ เหตุใดเมื่ออยากในสิ่งใดสิ่งหนึ่งจึงเป็นเหตุให้มีความทุกข์ด้วย โดยทั่วไปแล้วเมื่อชอบสิ่งไหนก็อยากได้ในสิ่งนั้น ครั้นเมื่ออยากได้ อยากมี อยากเป็น ต้องเสาะหาสิ่งนั้นมาเสพครอบครอง การเสาะหานับเป็นความทุกข์ในเบื้องต้น เพราะในช่วงที่ยังไม่ได้ ใจก็ผูกพันต่อสิ่งนั้น คอยรบเร้าจิตใจไม่ให้มีความสุข แม้ความปรารถนาในสิ่งที่ตนอยากได้จะสมหวังก็ต้องทุกข์กับสิ่งดังกล่าวอีก เช่น เมื่อได้ตำแหน่งสูงขึ้น ทำให้มีปัญหาในการบริหารงานมากขึ้น มีความเครียดหรือทุกข์มากขึ้น ในทำนองเดียวกัน เมื่อมีครอบครัวที่มีความรักความอบอุ่น ก็เพิ่มความห่วงใย อันทำให้ใจวิตกกังวล ว่าบุคคลอันเป็นที่รักจะได้รับความลำบาก โดยกฎของธรรมชาติ สิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง มีความเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา ไม่สามารถบังคับได้ดังปรารถนาเพราะไม่ใช่ของใครจริง เพราะในที่สุดแล้วสรรพสิ่งทั้งหลายต้องเก่าแก่เสื่อมสภาพและแตกสลายไป แม้ชีวิตก็มีความพลัดพรากและความตายเป็นที่สุด

    A.PNG

    ครั้นตนไม่สามารถบังคับสิ่งนั้นให้ผ่านพ้นไปได้ ก็ทุกข์ใจอยู่กับสิ่งนั้น ความทุกข์ทั้งหลายในชีวิตมาจากใจที่เห็นผิดนั่นเอง คือใจที่มองไม่เห็นความเป็นจริงอีกด้านหนึ่งของเหรียญ ไม่รู้ว่าเหรียญมีสามด้าน นอกจากด้านหัว ด้านก้อยที่ตนคุ้นเคยเห็นอยู่ในวิถีชีวิตแล้ว แท้จริงระหว่างด้านหัวกับด้านก้อยก็ยังมีด้านสันของเหรียญ ที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงให้เหรียญทั้งสองด้านติดกันอยู่ หากเรามองด้านที่เป็นกลางคือด้านสันของเหรียญให้คุ้นเคยแล้ว เราก็จะวางใจที่เป็นกลางหรือเที่ยงธรรมได้ แทนที่จะไปติดอยู่กับด้านหัว ด้านก้อย หรือชอบ กับชัง เหมือนอดีตที่ผ่านมา ชอบก็เป็นทุกข์ ชังก็เป็นทุกข์ ไม่ชอบไม่ชัง คือใจที่เป็นกลางเป็นอุเบกขา ย่อมพ้นจากความทุกข์ใจได้


    ในเสียก็มีดี ในดีก็มีเสีย ฝึกมองให้เห็นตามความเป็นจริงและวางใจให้เที่ยงธรรม ต้องเข้าใจว่าธรรมชาติของทุกๆ สิ่งเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่เราชอบเพราะเห็นว่าดีก็ใช่ว่าจะดีตลอดไป ในทำนองเดียวกันสิ่งที่เราไม่ชอบเพราะเห็นว่าไม่ดีก็ใช่ว่าจะไม่ดีอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะพฤติกรรมหรือกรรมของสัตว์บุคคลย่อมทำทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีเป็นวิถีชีวิต ส่วนวัตถุสิ่งของนั้นเดินทางไปสู่ความเก่า เสื่อมสภาพ และผุพังในที่สุด การที่ใจของเรายังชอบ ยังชังอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เป็นเพราะยังยึดหรือมีอุปาทาน ต่อสิ่งนั้นนั่นเอง


    C.PNG

    ฝึกใจ มองให้เห็นความเป็นจริงพยายามที่จะอยู่กับด้านที่สามของเหรียญ คือด้านที่เป็นกลางหรือวางใจเป็นอุเบกขาเพื่อถอดถอนความชอบ ความไม่ชอบ ออกเสียให้ได้ ความยึดติด ต่อสิ่งนั้นก็จะคลายลงหรือหมดไป ใจก็จะเป็นอิสระ ไม่ยินดียินร้ายต่อสิ่งต่างๆ เพราะเข้าใจตามความเป็นจริงของสิ่งทั้งหลายว่า มีธรรมชาติที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์เพราะถูกบีบคั้นกดดัน ไม่สามารถคงทนอยู่ในสภาพเดิมได้ จงอยู่อย่างมีสติปัญญา มิใช่อยู่อย่างมีกิเลสตัณหา เมื่อนั้นใจของเราก็จะร่มเย็นเป็นสุขได้

    Credit: ขอขอบพระคุณที่มาจากหนังสือ พาใจไปพบสุข พระอาจารย์ชาญชัย อธิปญฺโญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...