เรื่องเด่น เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน พระธาตุ๕๐๐อรหันต์ของดีถ้ำดับเถ้าเชียงใหม่

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 29 พฤษภาคม 2017.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน พระธาตุ๕๐๐อรหันต์ของดีถ้ำดับเถ้าเชียงใหม่
    18740596_10213211465590894_8755364553727181995_n.jpg ในสมัยแห่ง พระพุทธเจ้ากัสสปะ ได้มีค้างคาวหนู 500 ตัว ห้อยอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง วันหนึ่งได้มีพระเถระ 2 รูปเข้ามาบำเพ็ญสมณธรรมและสวดมนต์ (อภิธรรม) ค้างคาวหนูทั้ง 500 ตัวก็ได้ฟังเสียงสวดมนต์ด้วยความดื่มด่ำเพลิดเพลิน ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจในความหมายแห่งบทสวดมนต์นั้นๆ ด้วยอานิสงส์นี้ ค้างคาวหนูทั้ง 500 ตัวจึงได้ไปเกิดเป็นเทวบุตรในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นานถึง 1 พุทธันดร เมื่อจุติจากสวรรค์ก็ได้มาเกิดในโลกมนุษย์ ในกรุงสาวัตถีสมัยพระพุทธเจ้ายุคปัจจุบัน

    .............ในพรรษาที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดง ยมกปาฏิหาริย์ โปรดพระมารดาที่ชั้นดาวดึงส์ด้วย พระพุทธนิรมิต จนกว่าจะกลับ แต่พระวรกายจริงกลับเสด็จไปยังป่าหิมพานต์ แล้วโปรดพระสารีบุตรกับศิษย์กุลบุตร 500 คน (ค้างคาวหนูทั้ง 500 ตัวที่มาเกิด) กุลบุตรทั้ง 500 คนเลื่อมใสใน ยมกปาฏิหาริย์ จึงได้บวชกับพระสารีบุตร พระพุทธองค์ก็ทรงเสด็จกลับเทวโลก พระสงฆ์ทั้ง 500 องค์ได้เป็นผู้ชำนาญใน ปกรณ์ทั้ง 7 และ บำเพ็ญจนบรรลุเป็นพระอรหันต์ด้วยกันทั้งหมด 500 องค์ และได้พักจำพรรษาอยู่ ณ ถ้ำแห่งหนึ่ง

    .............ก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จไปยังเมืองกุสินารา ได้ทรงแวะทำภัตกิจ ณ ถ้ำแห่งนี้ พร้อมกับทรงประชวรเนื่องจากทรงเสวยเนื้อสุกร จึงได้ประทับในถ้ำเป็นเวลาพอสมควร ก่อนหน้าที่หมอชีวกโกมารภัจจ์จะติดตามมาทัน ดังนั้นจึงได้มีการสร้าง พระพุทธไสยาสน์ ประทับบนแท่นที่พระพุทธองค์เคยประทับมาก่อนเพื่อเป็นพุทธานุสรณ์ว่า พระพุทธองค์ได้เคยเสด็จมาประทับ ณ ที่แห่งนี้ก่อนเสด็จดับขันธ์เข้าสู่ปรินิพพานที่เมืองกุสินารา

    .............เมื่อพระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธ์เข้าสู่ปรินิพพานแล้ว พระอรหันต์ 500 องค์ ซึ่งยังคงอยู่ที่ถ้ำแห่งนั้นก็ได้นิพพานในเวลาที่ใกล้เคียงกับพระพุทธองค์ ส่วนพระอินทร์เมื่อทราบว่า พระอรหันต์ 500 องค์ นิพพานแล้วก็ได้เนรมิตไฟมาถวายเพลิง ไฟที่เผาไหม้ได้ร้อนไปถึงเมืองบาดาล พญานาคจึงขึ้นมาพ่นน้ำดับไฟจนเหลือแต่เถ้า จึงเรียกว่า ถ้ำดับเถ้า ตอนหลังเพี้ยนเป็น ถ้ำตับเต่า

    .............ปัจจุบันรูที่เกิดจากพญานาคผุดขึ้นมาจากเมืองบาดาล ก็ยังคงสภาพเดิมอยู่อย่างนั้น เนื่องจากไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ เพราะกลัวพญานาค และน้ำที่ผุดขึ้นมาค่อนข้างจะน่ากลัวเพราะเกิดจากแรงดันจากใต้บาดาล ทำให้น้ำไหลเชี่ยวและแยกเป็นหลายลำธารไม่เคยขาดสายตลอดปี สามารถนำมาใช้อาบและต้มดื่มกินได้ และยังมีความศักดิ์สิทธิ์สามารถดับพิษไฟได้อีกด้วย

    .............ส่วน เถ้าอังคาร ที่จมอยู่ในน้ำตามลำธารใกล้ถ้ำดังกล่าวได้จับตัวรวมกันเป็นพระธาตุมีหลายขนาด และหลากสีสันวรรณะ เราจึงเรียกพระธาตุเหล่านั้นว่า พระธาตุพระอรหันต์ 500 หรือ พระธาตุ 500 อรหันต์

    อานุภาพพระธาตุ๕๐๐อรหันต์
    พระอรหันต์ 500

    ประสบการณ์ที่เกี่ยวกับเทวดาที่เคยพบมาก็ตอนที่ไปถ้ำตับเต่า อาตมาชอบไปเที่ยวขอเทวดาว่าขอพระธาตุ ตอนนั้นไปกราบครูบาวงศ์บอกว่าจะไปถ้ำตับเต่า ท่านก็บอกเออไป พอไปแล้วมีญาติโยมตามไปด้วย ไปพักที่นั่นก็อธิษฐานว่า ถ้าถ้ำตับเต่านี้มีเทวดารักษาพระธาตุอยู่ อาตมาจะขอนำพระธาตุไปให้ชาวโลกเขาสักการะบูชา ถ้าจะให้ก็ขอให้มีนิมิต คืนนั้นก็มีนิมิตว่ามีช้างเผือกประมาณหลายร้อยเชือกนับไม่ถ้วน วิ่งผ่านหน้าพระราชวังไป อาตมาเห็นจนสุดลูกหูลูกตา ตอนเช้าตื่นขึ้นมาก็เล่าให้เจ้าอาวาสฟัง ตอนนั้นพระอาจารย์บุญช่วยไม่อยู่ ท่านน้อย รักษาการเจ้าอาวาสแทน ก็เลยเล่าให้ฟัง ท่านบอกว่าถ้ามีนิมิตอย่างนี้ก็ดีแล้วจะพาท่านเข้าไป ถ้ำนั้นจะทราบเฉพาะเจ้าอาวาสกับท่านน้อยเท่านั้น เพราะท่านเข้าไปนั่งภาวนาแต่ตอนนี้ถ้ำได้ถูกปิดแล้ว ปากถ้ำแคบมาก เหมือนกับว่าจะมีแต่พญานาคหรืองูเท่านั้นทีจะเลื้อยเข้าไปได้ เพราะปากถ้ำใหญ่เท่าลำตาลแค่นั้น แต่ลึกเข้าไปจะเป็นที่โล่ง เย็นมาก พระธาตุจะอยู่สุดถ้ำพอดี ตรงนั้นเป็นที่ภาวนาพระธาตุจะเต็มไปหมด อาตมาก็ขอเทวดาว่า ถ้าจะได้พระธาตุไปเพื่อให้ชาวโลกสักการะบูชา ก็ขอให้เทวดาช่วยด้วย คือขอให้ออกจากถ้ำได้ทันเวลา เพราะเวลานั้นบ่ายสามบ่ายสี่โมงแล้ว เป็นช่วงที่เขาจะไม่ให้คนเข้าถ้ำเพราะงูจะออกหากิน แล้วมันมืดมาก ถ้าไฟที่เราจุดเกิดดับไป เราจะออกจากถ้ำไม่ได้ จะไม่มีใครมาช่วยก็เลยใจแข็งยอมเอาพระธาตุออกมาหลายถุงมากโดยไม่รู้ว่า คือ พระธาตุอะไร ตอนแรกยังไม่ทราบ พอออกมามันติดปากถ้ำพอดี เพราะตรงนั้นแคบมาก ช่วงที่ออกมานี่ปากถ้ำแคบเกินกว่าที่เราจะเอาพระธาตุออกมาได้ เฉพาะเราจะนั่งก็นั่งไม่ได้แล้วถุงพระธาตุจะถูลู่ถูกังมาตามทางเดินไม่ได้ เพราะทางเดินเราต้องเลื้อยออกมาเหมือนงู ถ้าถูลู่ถูกังมาอย่างนั้น ถุงก็จะขาดเอาพระธาตุออกมาไม่ได้ ก็เลยบอกเทวดาว่าถ้าอาตมาหรือข้าพเจ้าจะนำพระธาตุออกมาให้คนสักการะบูชา ให้ชาวโลกสักการะบูชาได้ ก็ขอให้เทวดาช่วยขยายปากถ้ำให้นำออกมาได้ด้วย ปากถ้ำนี่ขยายออกมาจนอาตมาสามารถนั่งได้และคนที่จะตามมาสามารถนั่งได้ เราทุกคนแปลกใจมากและก็ขนพระธาตุออกมาได้ ปรากฎว่าพระธาตุที่นำออกมานั้น เอามาถวาย ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ท่านว่านี่คือ พระธาตุของห้าร้อยอรหันต์ ซึ่งมีปรากฎเฉพาะใน ธรรมบท ที่ว่าพระสารีบุตรเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าตอนที่อยู่บนดาวดึงส์ บอกว่าสารีบุตรเธอจงนำธรรมบทนี้ไปแสดงแก่ภิกษุห้าร้อย ภิกษุห้าร้อยนี้เคยเกิดเป็นค้างคาวที่ถ้ำหนึ่งแล้วก็ได้ฟังเทศนาธรรมนี้จนเคลิ้มแล้ว
    ตกลงมาตายพร้อมกัน แล้วก็หมดบุญไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นฟ้า หลังจากหมดบุญแล้วก็ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ มาบวชในสำนักพระสารีบุตร แล้วก็ได้บรรลุอรหันต์พร้อมกันทั้งห้าร้อยรูป
    หลังจากบรรลุธรรมเป็นอรหันต์พร้อมกันแล้ว ก็ไปนิพพานบนถ้ำตับเต่า แต่ก่อนไม่มีชื่อเรียกถ้ำ บนถ้ำนี้คนขึ้นไปไม่ได้ มันสูงมาก ไม่มีใครทราบว่ามี พระอรหันต์ 500 รูป ไปนิพพานข้างบน ก็ร้อนถึงพระอินทร์ พระอินทร์ก็ได้เนรมิตไฟมาเผา จนเป็นผงแล้วความร้อนของไฟที่เผาร้อนไปถึงเมืองบาดาล พญานาคก็เลยโผล่ขึ้นมาดูว่าทำไมถึงร้อนขนาดนี้ ก็เห็นเป็นไฟกำลังลุกไหม้ เลยพ่นน้ำมาดับ ถ้ำนั้นจึงเรียกว่า ถ้ำตับเต่า ที่ทางเหนือเขาเรียกถ้ำตับเต่าก็คือ ถ้ำดับเถ้า นั่นเอง
    ปัจจุบันนี้รูนั้นก็ยังอยู่ อาตมาเคยไปภาวนาที่ถ้ำนั้น ครูบาวงศ์ท่านเล่าให้ฟังอย่างนี้ ก็เลยถวายพระธาตุท่านไป ท่านก็ว่านี่คือ ห้าร้อยอรหันต์ ไม่มีที่อื่น มีที่เดียว ปัจจุบันถ้ำนี้ถูกปิดไปแล้ว เพราะฉะนั้นพระธาตุห้าร้อยอรหันต์นี้ อาตมาคิดว่าอาตมาได้ขอเทวดามาให้ชาวโลกได้สักการะบูชา ก็คิดว่าถ้าจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์โลก คือตอนนี้เมืองไทยเราทุกข์ร้อนมาก เจ้าอาวาสวัดถ้ำตับเต่าเคยพยากรณ์ไว้ตั้งแต่ปี 2538 ว่าเมืองไทยจะเป็นหนี้ชาวต่างชาติ อาตมาเห็นใจชะตากรรมของเมืองไทยมาก ว่าต้องตกเป็นหนี้เขา รัฐวิสาหกิจขายไปหมดแล้ว เมืองไทยไม่มีอะไรเหลือแล้วตอนนี้
    อาตมาบอกเทวดาว่า ถ้าพระธาตุนี้สามารถที่จะช่วยชาวโลกได้ อาตมายินดีมอบให้ อย่างเช่น อาจารย์สุรเสียง ปัญญาวชิโร (หลวงเตี่ย) ซึ่งเป็นคนจังหวัดมหาสารคาม อาตมาเป็นคนแนะนำท่านเองว่าอาจารย์เอาข้าวสารดำนี้ไปช่วยคนนะ ท่านก็เอามาช่วยคนได้มาก มีปาฎิหาริย์มาก ตอนที่พาไปเอาพระธาตุเทวดามาเข้านิมิตท่านว่าให้อาตมาเขียนเรื่องพระธาตุ อาตมาก็บอกว่าไม่รู้จะเขียนไปทำไม ท่านก็บอกอีกว่าท่านพงษ์ศักดิ์เขียนเรื่องพระธาตุนะ ผมจะช่วยเองเรื่องจัดพิมพ์ต่างๆ อาตมาไม่ได้สนใจ เรื่องนี้ก็เลยไม่ได้ทำ แต่ท่านก็ยืนยันว่าเทวดาบอกผมเองว่าให้ท่านเขียนเรื่องพระธาตุ ให้คนไปบูชา ไปสักการะบูชาเขาจะดีเอง ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง เพราะนิมิตมาอย่างนั้นก็เลยไม่กล้า เพราะอาตมาเชื่อว่านิมิตที่มานั้นคงมีบุญร่วมกันมา คงจะมีอะไรสักอย่างที่จะเกิดประโยชน์ต่อคนอื่นบ้าง ทั้งที่ในช่วงนั้นอาตมาไม่พร้อมนัก ตั้งใจว่าจะหลบไปภาวนาสักพักหนึ่ง ตอนนี้หาที่เจอแล้ว แต่ว่าเวลายังไม่พร้อม คงจะเป็นเพราะว่าต้องเจอพวกโยมก่อน ไม่งั้นไม่แน่ใจก่อนจะออกจากวัดนั้นมีนิมิตมาบอกแล้วว่าโยมจะมา แต่ไม่เห็นหลวงพ่อหรอก เห็นแต่โยมนั่งอย่างนี้แหละ คงจะลืมมองทางซ้ายมือ
    พระธาตุอรหันต์ในโลกนี้มีเฉพาะอาตมาและถ้ำตับเต่า เขาไม่ให้หรอก เขาไม่ให้ อาตมายินดีให้ตามสัจจะว่า ถ้าอาตมามีบุญที่จะนำพระธาตุออกมาให้ชาวโลกสักการะบูชา อาตมายินดีที่จะให้ อาตมาไม่เรียกร้อง
    อะไรเลย ให้เฉย ๆ เห็นคนไทยทุกข์มาก คือพระธาตุอรหันต์นี้ อาตมาเคยให้คนไปสักการะบูชาที่เขาใหญ่ งูจะมาเฝ้าเลย พอไปถามครูบาวงศ์ ท่านบอกว่าไม่ใช่งูนะเป็นพญานาค แต่งูนี้แปลกมาก จะขอถ่ายรูป ถ้าเป็นพญานาคจริง ขอถ่ายรูปนะ แล้วต้องชูคอให้ด้วย ให้เห็นว่ารับรู้ เขาชูคอขึ้นมาจริงๆ แล้วก็ถ่ายรูปมาด้วย แต่ไม่ติด
    ตอนที่ไปจังหวัดเลย เอาผงไปทำพระ ช่วงนั้นมีกฐิน ปรากฎว่าเขาตามมาถึงที่นั้นจริง ๆ แล้วมีพระเต็มรถอาตมาเลย อาตมาเปิดประตูรถจะทำธุระข้างนอก พอเปิดออกมาเห็นพระเต็มรถ คืออยู่ข้างนอกนะ ท่านหลบอาตมาหลบไม่ทันผ้าเหลืองเต็มไปหมดนั่นแหละ คือ ห้าร้อยอรหันต์ แล้วมีคนเคยเอาไปเช็ก เขานั่งข้างใน เขาบอกว่าไม่ใช่ห้าร้อยนะท่าน คืออาตมาไม่ได้ไปเองหรอก โยมเขาอยากทราบว่านี่คือ ห้าร้อยอรหันต์จริงไหม มีความศักดิ์สิทธิ์ไหม ปรากฎว่ามีคนเห็นพระอรหันต์เต็มท้องฟ้า นับพัน ๆ องค์ เป็นพระอรหันต์ล้วน ๆ ไม่ใช่แค่ห้าร้อยแต่เป็นพัน ๆ เลย แสดงว่าสมัยก่อนนี้คล้าย ๆ เรียกโจรห้าร้อย อรหันต์ห้าร้อย คือ ชื่อเรียกกลุ่มอรหันต์ห้าร้อย แต่นี่มากมายก่ายกองนัก ประมาณไม่ได้ว่ามากมายแค่ไหน ก็เลยเรียกรวมกันว่า อรหันต์ห้าร้อย

    เป็นหนี้เทวดา

    อาตมาอธิฐานว่าถ้าเทวดาจะให้พระธาตุแก่ชาวโลกสักการะบูชา อาตมาใช้คำว่าชาวโลก ไม่ได้ระบุเฉพาะประเทศไทย เพราะคนไทยไปอยู่ทั่วโลก พบได้ทั้งนั้นเพราะฉะนั้นคนที่เป็นลูกหลาน ของพระอรหันต์ห้าร้อยต้องมีแน่นอน ถ้าชาวโลกจะได้สักการะบูชาพระธาตุก็ขอให้นำพระธาตุในถ้ำไปได้ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ อาตมาคิดแล้วกับเด็กที่ไป เป็นไปไม่ได้เลยที่จะนำพระธาตุออกมาจากถ้ำให้ได้ เฉพาะเวลาที่พวกเราจะออกจากถ้ำ ทั้งอาตมารวมทั้งโยมทั้งสองคนที่ติดตามไปมันไม่ทันอยู่แล้ว ทั้งภาระที่จะเอาพระธาตุออกมาเป็นไปไม่ได้เลย แต่ทำไมเราออกมาทัน เพราะเสียงงูที่ออกมาหากินมันออกมาแล้ว อาตมาไม่กล้าบอกเด็กว่าถ้าได้ยินเสียงพวกนี้อย่าตกใจนะ เพราะงูมันเต็มถ้ำ ถ้ำที่ครูบาธรรมชัยไป งูจะเฝ้าหน้าถ้ำเลย ถ้ำรอดบาตรนั่นแหละ โดยเฉพาะถ้าที่มีพระธาตุบูชาเขายิ่งไม่ให้ ถ้าไม่ขอเทวดาเขาจะไม่ให้เลย ครูบาวงศ์ท่านสั่งไว้ว่า ก่อนเข้าถ้ำให้ปักธูปไว้ก่อน แล้วโยมเข้าไปจะต้องสมาทานศีล 5 ก่อน คนไม่มีศีลมีธรรมเข้าไม่ได้ เขาไม่ให้เข้า แล้วจะขออะไรออกมาให้อธิษฐานขอก่อน ถ้าขอแล้วเขาจะให้ ถ้าไม่ให้ก็คือไม่เห็น อาตมาอธิษฐานว่าสิ่งใดที่จะให้ก็ขอให้เห็น อะไรไม่ให้ก็อย่าให้เห็น เพราะมันจะเกิดความโลภ เขาจะมาลอง อาตมาไม่ปรารถนาอะไรหรอก มันมีนิมิตอย่างนี้ ตามที่อธิษฐานขอว่า ถ้าที่นี่มีพระธาตุ ถ้าจะให้อาตมาก็ขอให้เห็น ก็มีนิมิตจริงๆ มีนิมิตก็ปรากฎว่าท่านน้อยตอนแรกจะไม่พาเข้าถ้ำ เพราะถ้ำนี้เขาไม่ให้บุคคลภายนอกเข้า จะทราบเฉพาะท่านเจ้าอาวาสเท่านั้น แล้วชื่อถ้ำตับเต่านี่ไม่มีใครทราบมาก่อน ยกเว้นวัดหนึ่ง พระครูอะไรไม่ทราบเขียนไว้ หรือทางเหนือเขาจะทราบกันว่าถ้ำตับเต่าจริง ๆ ก็คือถ้ำดับเถ้า เกี่ยวพันกับพระอินทร์และพญานาค
    ถ้าอยากทราบจะพาไป ถ้ามีเวลาจะพาไป ปล่องที่พญานาคโผล่ขึ้นมายังมีน้ำอยู่เลย น้ำไหลตลอดปี ถ้ำนี้เป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ น้ำนี้สามารถดับพิษได้ ดับพิษไฟได้ แต่หลักฐานที่เห็นก็คือพระธาตุที่นำออกมาจากถ้ำนั่นแหละ กับสิ่งของอื่นที่ติดมืออาตมามา คืออาตมาจับเฉยๆ มันก็หลุดติดมือมา ไปถวายครูบาวงศ์ท่านบอกว่ายังขาดอีกแท่งหนึ่ง เป็นเทียนที่พระอรหันต์ท่านปักเอาไว้ ท่านนั่งภาวนา มันแข็งอยู่บนพระธาตุไม่น่าเชื่อ อาตมากลับมาถึงวัดห้วยต้มแล้ว คืออาตมาพักที่นั่นเฉยๆ แต่ไม่ได้จำพรรษาที่นั่น ครูบาวงศ์ท่านนั่งภาวนาอยู่ก็ไปพร้อมกับโยม เลยเข้าไปกราบท่านและนั่วภาวนากับท่านด้วยตอนนั้นล้ามาก กะว่าจะลุกให้ท่านั่งแล้วแล้วถึงจะไปกราบท่าน ท่านบอกว่าใครจะนั่งภาวนาให้จับลูกประคำ มันลุกไม่ได้แล้ว
    ปกติท่านจะไม่พูดอย่างนี้นะ แสดงว่าท่านไม่อยากให้ลุก ท่านรู้ว่าเราคิดยังไง ตอนนั่งนี่คิดแล้วว่า เอ...พระธาตุที่เอามาเป็นพระธาตุจริงไหม จะศักดิ์สิทธิ์จริงไหม เป็นห้าร้อยอรหันต์จริงไหม อาตมาไปที่นั้นสองครั้ง ครั้งที่สองเข้าไปด้วยตัวเอง
    ครั้งที่สองกลับมาก็ไปหาครูบาวงศ์อีก ท่านบอกว่ายังขาดเทียนพระอรหันต์ อีกเล่มหนึ่งนะไปเอามา กลัวมากนะ เพราะช่วงที่เข้ามันช่วงบ่ายแล้ว ท่านน้อยบอกว่า ผมไม่แนะนำให้เช้าช่วงนี้นะ เพราะมันอันตราย เพราะงูมันออกหากิน ถ้าท่านออกมาช้าแล้วพระจะเข้าไปช่วยมันก็เสี่ยงอันตรายมาก ช่วงเย็นๆ เขาไม่ให้คนเข้าถ้ำ อาตมาก็บอกว่าครูบาวงศ์ท่านสั่งมาแล้ว ให้เข้าไปเอายังไงถ้าวาสนาผมจะได้พระธาตุออกมาคงจะเข้าไปได้ ก็เลยเข้าไป พระธาตุที่เอามาอธิษฐานให้โยม อยากทราบว่าศักดิ์สิทธิ์ไหม
    ครั้งแรกตอนนั่งกับครูบาวงศ์ว่าเป็นพระธาตุจริงไหม ตอนมันสงบเป็นสมาธิขึ้นมา มันอยู่ในขั้นอุปจารสมาธิ สมาธิจร คือ ยังไม่นิ่ง ก็แว่บไปเห็นค้างคาวเต็มท้องฟ้าไปหมด บินกรูลงมา พุ่งมาที่ตัวอาตมาเลย พุ่งมาเลยนะ อาตมาบอก..โอ...เชื่อ จริงแล้วเพราะว่านั่นคือค้างคาวที่ตายไปแล้วนั่นแหละ เกิดมาเป็นคนแล้วมาบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ก็เลยเชื่อจริงว่าธรรมบทพูดจริง ไม่ใช่ของเล่นหรือเล่าเป็นนิทาน แล้วที่ครูบาวงศ์ท่านเล่ามา ก็เป็นจริงหมด ที่ว่าเป็นค้างคาวห้าร้อยตัวนั้น แล้วพอให้โยมไปอาตมาก็อธิษฐานว่า ถ้าเป็นพระธาตุจริงศักดิ์สิทธิ์จริงตามที่เห็นในนิมิตต้องมีผลในการบูชา
    มีโยมที่ฐานะไม่ค่อยดี เงินเขาคล่องตัวขึ้น คนที่อยากได้งานทำก็ได้งานทำ โดยที่ไม่ต้องวิ่งหางานเลย คนอยากถูกหวยถูกเบอร์ก็ถูก แกบ้าเรื่องนี้มาก แกคลั่งมาก อาตมาก็ไม่รู้จะเลี่ยงเขายังไง เพราะเขาไม่มีรายได้พิเศษอย่างอื่น เป็นชาวไร่ชาวสวนธรรมดา อาตมาบอกเอาพระธาตุไปบูชาแล้วกัน ท่านคงจะสงเคราะห์ได้ เขาถูกหวยติดต่อกันทุกงวด แล้วมาบอกอาตมาว่าพระธาตุศักดิ์สิทธิ์จริง และบางคนที่บูชาไปบอกว่า ครอบครัวช่างเย็น ภรรยาที่ขี้บ่นบ้านจะร้อน ตั้งแต่เอาพระธาตุห้าร้อยเข้าบ้าน เย็นเลย ภรรยาไม่ขี้บ่น

    ที่มา ธรรมะปกิณกะ ครูบาชัยยะวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ลำพูน
     

แชร์หน้านี้

Loading...