เรื่องเด่น เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอนอานุภาพของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด(ธรรมปกิณกะครูบาชัยยะวงศา)

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 30 พฤษภาคม 2017.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอนอานุภาพของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด(ธรรมปกิณกะครูบาชัยยะวงศา)
    18698242_10213201156413171_6612781928034569176_n.jpg
    18698242_10213201156413171_6612781928034569176_n.jpg

    พระพุทธคุณในพระธาตุเขาสามร้อยยอดนั้น มีอัปมาณนา เกินที่จะคาดคะเนได้ ไม่ว่าจะเป็นลายไหน หินสีอะไร ก็มีคุณวิเศษเหมือนกันหมด เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นพระธาตุแล้วย่อมบริสุทธิ์ ไม่มีวัตถุสิ่งใดมาเทียมได้ในสามแดนโลกธาตุนี้ เพราะฉนั้นย่อมมีเทวดาคุ้มครองรักษาครับ ใครได้ไป ก็นับว่าเป็นบุญของคนๆนั้นจริงๆ ผู้ที่ครอบครองไว้บูชา จะอยู่ร่มเย็นเป็นสุข คุ้มครองปกป้องภยันตรายได้ เป็นหลักใหญ่ของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดครับ สีหินที่พบ ส่วนใหญ่ออกตามวรรณะพระธาตุที่ฝัง อยู่ เช่น สีแดง สีน้ำผึ้ง สีน้ำตาล สีเหลือง สีดำ สีขาว เป็นต้น มีผู้หลายท่านได้จำแนกสีหินพระธาตุ ไว้ว่าสีนี้มีอิทธิคุณ อย่างไร อาจจะพบโดยประสบการณ์หรือ ได้ญาณหยั่งรู้บ้างก็มี

    ความเชื่อตามสีของหินพระธาตุ...
    คิดหิน หรือไข่ในหินทุกสี หรือที่นิยมเรียกว่าหินพระธาตุนั้นจะเป็นชั้นๆ เมื่อผ่าออกภายในจะมีลักษณะเป็นวงซ้อนกัน คล้ายกับพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ทรงกลด จัดเป็นธาตุกายสิทธิ์ตามธรรมชาติ มีอิทธฤทธิ์พลังฤทธิ์ โดยไม่ต้องผ่านพิธีกรรมทางศาสนา คดหินสามร้อยยอดเป็นหินที่สะสมพลังงานธรรมชาติ จากพระอาทิตย์ พระจันทร์ ทะเล ขุนเขา และฟ้า ดิน นานนับล้านปีๆ และช่วยให้ผู้สักการะบูชาได้รับคุณประโยชน์ต่างๆ ตามลักษณะสีของคดฝังอยู่ในหินดังนี้
    18670855_10213201156973185_202010825555024279_n.jpg
    1) หินพระธาตุออกวรรณะสีแดง
    มีพลังพิเศษทางด้านเสริมสร้างอำนาจบารมี ความเจริญรุ่งเรือง ทางเดช ทางฤทธิ์ มหาอำนาจ คุ้มครองผองภัย เป็นหินที่เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีบริวาร มีศรี มีอำนาจ จะมีเดชา นุภาพ ไปที่ไหนใครก็ย่ำเกรง สีแดงของหิน ย่อมหมายถึงสรรพมงคล ทำให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง เหมาะสำหรับ นายทหาร ตำรวจ ผู้บริหาร ผู้นำต่างๆ เจ้าของธุรกิจ ฯ

    2) หินพระธาตุออกวรรณะสีน้ำผึ้ง
    มีพลังพิเศษทางด้านความคุ้มครองสูง ความเมตตาพรหมวิหาร ร่มเย็นเป็นสุข เป็นที่รักใคร่ ของคนทั่วไป ความโดดเด่นอยู่ที่พลังอำนาจในการสร้างความมั่นคงให้กับจิตใจ สร้างความมั่นคงให้กับ ธุรกิจการงานของคุณ เหมาะกับเจ้าของธุรกิจทั้งหลาย มีไว้หนุนกิจการไม่ให้สั่นคอน

    3) หินพระธาตุออกวรรณะสีขาว
    เป็นหินพระธาตุที่มีบารมีธรรมสูงส่งมาก ให้พลังด้านบวกสูง ให้จิตสงบ ร่มเย็นเป็นสุข เย็นใจ มีความเจริญในธรรม มีความก้าวหน้าในสมาธิภาวนา มีพลังแห่งความเมตตาสูง ความพิเศษอยู่ที่พลังบารมีธรรมในตัวหิน ทำให้ผู้ที่มีหินสีขาวไว้บูชา เกิดความเย็นใจ ใจเป็นสมาธิได้เร็ว เจริญเมตตาพรหมวิหารได้ดี เหมาะแก่ผู้ที่ปฏิบัติธรรม ชอบสวดมนต์ หรือนั่งสมาธิ

    4) หินพระธาตุออกวรรณะสีดำ
    ถือว่าเป็นหินพระธาตุที่มีเหล็กไหล(ละอองเหล็กไหล)เป็นส่วนประกอบอยู่ ดูเข้มขลัง มีพลังวิเศษทางด้านคุ้มครอง คงกะพัน เป็นมหาอุต และยังช่วยในเรื่องบำบัดโรคภัย ไข้เจ็บได้ดี ป้องกันคุณไสยต่างๆได้ดีมากๆ ใครมีไว้นับว่าเป็นโชควาสนา บารมีของผู้นั้น

    5) หินพระธาตุออกวรรณะสีน้ำตาล
    เป็นหินที่ให้พลังอำนาจความเชื่อมั่น ทำให้สุขุมรอบคอบ มีความกล้าหาญภายในจิตใจ กล้าที่จะตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง เสริมสร้างทางด้านสุขภาพได้ดี เพราะมีพลังในการบำบัดสูง เหมาะสำหรับ นักแสดง นักพูด ผู้ทีใช้วาทะเป็นประจำ ผู้ขายของ แม่ค้าและผู้ที่เจ็บป่วยบ่อยๆ

    บทความนี้คัดลอกจากหนังสือธรรมปกิณกะ เล่ม 1 ที่เขียนขึ้นจากคำบอกเล่าของพระครูพัฒนกิจจานุรักษ์ หรือ หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน ซึ่งเป็นพระมหาเถระที่มีจริยวัตรงดงาม และโดดเด่นในเรื่องเกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุเป็นอย่างมาก

    "หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา เกิดเมื่อปี 2456 ที่ จ.ลำพูน บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 13 ปี และเมื่ออายุครบบวช จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีครูบาพรหมา พรหมจักโก วัดพระพุทธบาทตากผ้าเป็นพระอุปัชฌาย์ ตลอดชีวิตของท่าน ได้ไปจำวัดสั่งสอนอบรมศิษย์ยังสถานที่ต่างๆ จนกระทั่งได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดพระบาทห้วยต้ม และมรณภาพในปี 2543 หลังจากมรณภาพแล้ว สังขารของท่านมิได้เน่าเปื่อย และยังคงเก็บรักษาไว้ที่วัดพระบาทห้วยต้ม จนถึงปัจจุบัน"

    ...เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว 500 ปี พระสงฆ์ทั้งหลายที่มาไม่ทันพระพุทธเจ้าแต่ยังทันพระศาสนา ในสมัยนั้นยังมีพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติธรรม ยึดถือพระธรรมอันเคร่งครัดอยู่เป็นจำนวนมาก พระสงฆ์เหล่านั้นต่างแยกย้ายออกหาที่สงบวิเวกปฏิบัติธรรม

    .............เขาสามร้อยยอด เป็นที่สนุกสำหรับการปฏิบัติธรรมเพราะเป็นป่าหิมพานต์ชั้นหนึ่ง ผู้ที่มาพักอาศัยส่วนใหญ่เป็นพระอภิญญาเพราะท่านต้องเข้ามาบิณฑบาตข้าวในเมือง ในกรุงเทพ เพียงครู่เดียวก็กลับไป คนใส่บาตรก็เห็นเป็นพระธรรมดา สถานที่ท่านอยู่ไม่มีคนเห็นเพราะอยู่ในป่าลึก พระสงฆ์เหล่านี้มีความขยันหมั่นเพียรปฏิบัติธรรมเคร่งครัดดังได้อยู่เฉพาะพระพักตร์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประกอบกับมีอาจารย์ใหญ่ผู้เป็นศากยวงศ์ มาจากประเทศอินเดีย มาสอนปฏิบัติกรรมฐานให้หมดจากกิเลส ให้รีบปฏิบัติธรรมให้ทันพระพุทธเจ้าซึ่งรออยู่แล้ว พระสงฆ์ทั้งหมดต่างปฏิบัติธรรมจนบรรลุอรหัตตผลนิพพานในถ้ำเขาสามร้อยยอดนั้น การมาปฏิบัติธรรมในที่นี้เป็นการหนีภัยอันตรายคืออันตรายจากการที่มีคนมาหาไม่หยุดหย่อนไม่อาจจะปฏิบัติธรรมได้ ดังเช่นพระสงฆ์ในปัจจุบันนี้ไม่ห่วงการตัดกิเลส ห่วงแต่โชคลาภ

    .............สังขารของพระอรหันต์ที่นิพพานในถ้ำมีเป็นจำนวนมาก ต่อมาช้านานกลายเป็นก้อนหินมีเทวดารักษา ก้อนหินนั้นมีลวดลายต่างๆ กัน พระอรหันต์ที่มีอานุภาพมากหินพระธาตุก็มีลวดลายสวยงาม พระอรหันต์ทีมีอานุภาพน้อยหินก็ไม่มีลาย พระอรหันต์แต่ละองค์จะมีฤทธิ์ไม่เหมือนกัน พระพุทธเจ้ามีฤทธิ์แบบหนึ่ง พระอานนท์มีฤทธิ์อย่างหนึ่ง พระกัสสปะมีฤทธิ์อย่างหนึ่ง พระสารีบุตรมีฤทธิ์อย่างหนึ่ง พระโมคคัลลาน์มีฤทธิ์อีกอย่างหนึ่ง บารมีที่สร้างมาเป็นอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง อารมณ์เกิดเป็นนิมิตเป็นกรรมฐานกองใดกองหนึ่ง พิจารณากรรมฐานนั้นให้ถึงอรหัตตผล ตัวอย่างเช่น ใช้กสิณไฟ กสิณน้ำ กสิณลม เอาสิ่งนั้นมาเป็นนิมิตเป็นรูปพระ พิจารณาให้กว้างและลึก ทำจนแก่กล้าขึ้น เรียนมาก รู้มากขึ้น เป็นพระอรหันต์ที่โปรดสัตว์ได้มาก พระธาตุก็มีลักษณะสวยงามมีลวดลายมาก

    หลายท่านเชื่อว่าในหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดนี้ คือ เหล็กไหลในพระธาตุ จึงมีอิทธิคุณมหาอุด แคล้วคลาด คงกระพัน คุ้มครองป้องกันภัยจากอันตรายทั้งปวง ดังเช่นชาวใต้และทหารที่ไปรบชายแดนใต้ ยืนยันในคำเดียวกันถึงการคุ้มครองป้องกันของพระธาตุนี้ นอกจากนี้ธาตุเย็นของหินพระธาตุยังผลให้ผู้บูชาอยู่เย็นเป็นสุข เกิดเมตตามหานิยม เป็นสื่อนำโชคลาภวาสนา และความเจริญรุ่งเรืองในการงานมาให้ ทั้งยังเป็นแหล่งรวมกระแสความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ผู้บูชาติดตัว มีสุขภาพดี อายุยืน แม้น้ำจากการแช่หินพระธาตุนี้ ยังมาทำเป็นน้ำมนต์รักษาโรค นอกจากความเจริญทางโลกแล้ว ยังนำความเจริญทางธรรมมาให้อีก จากการนำหินพระธาตุนี้มาช่วยในการเจริญภาวนา จะส่งผลให้เข้าสู่สมาธิได้เร็วขึ้น

    จากการได้พูดคุยกับผู้นำหินพระธาตุลงมา ท่านว่าจะเป็นหินจากถ้ำใดก็ตาม หากเป็นเขาสามร้อยยอดแล้ว พุทธคุณแฉกเช่นเดียวกันหมด เพียงแต่ละถ้ำจะมีสีสรรและลายต่างกัน เท่านั้น

    ปัจจุบันทางอุทยานสั่งห้ามไม่ให้มีการนำหินพระธาตุลงมาแล้ว ดังนั้นหินพระธาตุสวยๆก็หายากขึ้นทุกที

    อิทธิคุณของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดนั้นมีมากมายดังที่กล่าวมาข้างต้น ลวดลายและสีสันที่เกิดจากธรรมชาติมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด สมบูรณ์ด้วยสุขภาพพลานามัย เนื่องจากหินพระธาตุเป็นสิ่งที่สะสมปราณ ฟ้าดิน พระอาทิตย์ พระจันทร์ ขุนเขา และทะเล มานานนับหมื่นปี จึงทำให้มีพลังแห่งจักรวาลอยู่ในตัวสูง ผู้พกพาหินนี้หรือมีหินพระธาตุอยู่ใกล้ๆตัว ย่อมได้รับกระแสพลังปราณอันลี้ลับ ช่วยให้สุขภาพสมบูรณ์ ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ และมีอายุยืนยาว

    และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดจากการรวบรวมตามคำบอกเล่าและความเชื่อของชาวบ้านรวมไปถึงผู้ที่ได้สัมผัสครับ และยังมีข้อมูลอีกหลายๆที่มาที่ผมไม่ได้นำเสนอเพราะสรุปแล้วก็คล้ายๆกัน สรุปคือ หินพระธาตุเขาสามร้อยยอดนี้เป็นของดีครับ ถ้าคิดแบบไม่มีความเชื่อบางท่านอาจจะมองเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง ที่สามารถ ชื่นชมและกราบไหว้บูชา เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และก้อนหินในถ้ำบนภูเขา ก็คือธรรมชาติอย่างหนึ่ง ซึ่งมีการสะสมของพลังงานและผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน ก่อนที่บรรบุรุษเราเกิดซะอีก มนุษย์เราทุกคนไม่เคยมีใครชนะธรรมชาติได้ซักคน สุดท้าย ทุกคนก็ต้องตายจากโลกใบนี้ไปทั้งนั้น แต่ระหว่างที่ได้มีชีวิตอยู่นั้น ทุกคนได้ทำอะไรแตกต่างกันออกไป เจอเจอเรื่องราวไม่เหมือนกัน และมีชีวิตในรูปแบบของแต่ละบุคคล

    หินพระธาตุ เขาสามร้อยยอด ยังไม่เป็นที่รู้จักของคนไทยมากนัก กว่าจะเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย หินพระธาตุคงหายาก และราคาสูงมากๆ

    อย่างไรก็ดีหินพระธาตุก็จัดว่าเป็นของที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีอภินิหารช่วยเหลือผู้คนมาอย่างมากมาย จัดได้ว่าเป็นของดีอย่างหนึ่งของเมืองไทย ที่ควรจะมีไว้บูชาบ้าง เพราะชาวต่างชาติขนกันออกไปอย่างมากมาย บางทีขนกันออกไปเป็นเทรลเลอร์จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นใกล้เกลือกินด่าง คนที่อื่นมากว้านเอาไปเสียหมด คนไทยเองกลับไม่มีเอาไว้บูชาน่าเสียดายจริง ๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...