เรื่องการบนแล้วไม่แก้ตามสัจจะที่ให้ไว้กับกรมหลวงชุมพร

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 28 สิงหาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]

    กรมหลวงชุมพรฯ ถูกโกง ไปถูกโกงที่นี่เอง ไม่ยาก แต่ความจริงเรื่องมีมากของดเอาแค่นี้ ถูกโกง เพราะผู้หญิงคนหนึ่งอยู่อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท เขตวัดปากคลองมะขามเฒ่า ตอนนั้นอาตมาอยู่ที่นั่น หญิงคนนี้ปรากฏว่าลูกชายหาย ลูกชายเป็นวัยรุ่น อายุประมาณ ๑๘ ปี หายไป ๓ ปี ไม่ยอมกลับบ้าน เธอก็มาขอร้องว่า อยากจะให้ลูกชายกลับ อาตมาก็เป็นเพียงตัวแทน เป็นคนบอก
    ตามที่ พระพุทธเจ้าตรัสว่า "อักขาตาโร ตถาคตา" ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอก บอกแล้วเธอทำได้ก็ได้ ไม่ได้ก็เป็นเรื่องของเธอ แนะนำไปก็เลย แนะนำบอกว่า คนหายนี่โยม เขาก็อาศัยกรมหลวงชุมพรฯ กันนะ ถ้าบนกรมหลวงชุมพรฯ แล้ว ก็มีสิทธิ์ที่จะมากัน แต่ว่าจะมาหรือไม่มาอาตมาก็ไม่ยืนยัน เวลาบนโยมก็ใช้ของสักหน่อยหนึ่ง ถ้ามาจริง ๆ ก็ใช้ของมาก ๆ ก็แนะนำตามที่เขาทำกัน แต่ว่าเวลานั้น กรมหลวงชุมพรฯ ยังนิยมไอ้เป้อยู่ ยังเรียกไอ้เป้อยู่
    ก็เป็นอันว่าหญิงผู้นั้นก็บน เวลาบนก็ใช้ไอ้เป้ ๑ จอก และกราบเรียนกับท่านในเวลาบนว่า ถ้าลูกชายกลับมาจะถวายไอ้เป้ ๓ ไห (นั่นแน่ ใจป้ำ) เมื่อบนเสร็จปรากฏว่า วันที่ ๓ ลูกชายมาถึงบ้าน วันที่ ๓ ของลูกชายมา เธอก็แก้บน อย่าลืมว่า เวลาบน เธอบนบอกไอ้เป้ ๓ ไฟ แต่เวลาแก้บนจริง ๆ บรรดาท่านผู้ฟังให้สังเกตเรื่องของคนแก้บนจริง ๆ ปรากฏว่า เอาไหมาตั้ง ๓ ไห แต่เอาไอ้เป้ใส่ไปไหละจอก อย่างนี้เขาเรียกว่า เทวดาถูกมนุษย์โกง แล้วก็แก้บนท่าน เมื่อแก้บนเสร็จ ปรากฏว่าอยู่เวลาอีก ๓ วัน ได้จอกละวัน ลูกชายหายไปตามเดิม เมื่อลูกชายหายไปหลายวัน ๑๐ วันกว่า ตามก็ไม่พบ ถามใครก็ไม่พบ
    ในที่สุด เธอก็มาถามอาตมาอีกว่า ขณะที่บนกรมหลวงชุมพรฯ บนแล้ว ลูกชายก็มาแล้ว วันที่ ๓ ก็มาถึงบ้าน แต่ว่าพออยู่บ้านได้ ๓ วัน ฉันหาของได้ ฉันก็แก้บน เมื่อแก้บนได้ ๓ วัน ลูกชายหายไปอีก หายไป ๑๐ วันกว่าแล้ว ตามไม่พบ อยากจะทราบว่าถ้าจะตามใหม่ เธอจะมาไหม ก็ถามเธอว่าเวลาเธอบน บนอะไร เธอก็เล่าให้ฟังแล้ว เวลาแก้ เวลาแก้เธอก็บอกว่า มีคนข้างบ้านเขามาแนะนำ คำว่า ไห ให้เอาไหมาตั้ง แต่ว่าของไม่จำเป็นต้องเต็มไห เอาใส่ไหละจอกก็ใช้ได้ ถือว่า ๑ ไห มันเต็มไห หรือไม่เต็มไห ก็ของในไห เธอก็ทำตามนั้น และในที่สุดลูกชายก็หายไป
    ก็เลยบอกเธอว่า นี่โยมมันไม่ไหวเสียแล้ว เป็นเหตุเกินวิสัย ทั้งนี้ เพราะอะไร เพราะว่าเราบน ๑ ไห หรือ ๓ ไห แต่ว่าใช้ไหละจอก ปริมาณมันไม่ได้กัน อาตมาก็ไม่มีหน้าที่บังคับเทวดา เทวดาก็ไม่ใช่ลูกน้องอาตมา อย่างนั้นขอโยมได้โปรดทราบว่า ต่อแต่นี้ไปให้เป็นภาระของโยม อาตมาไม่รับรองเด็กจะมาหรือไม่มา จะบนท่าน ท่านจะรับหรือไม่รับ ก็เป็นหน้าที่ของโยม ก็เป็นอันว่าเลิกกัน
    นี่แหละบรรดาพุทธบริษัททุกท่าน นอกจากนี้ก็มีอยู่เยอะ เป็นอันว่า การแก้บนกรมหลวงชุมพรฯ แก้กันเกือบทุกวัน แล้วก็มีคนมาขอร้องให้ติดต่อกรมหลวงชุมพรฯ ทุกวัน แต่ก็เป็นความดีบรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ทุกคนที่เขาทำกันก็ไม่มีใครเขาโกงกรมหลวงชุมพรฯ มีโกงอยู่รายเดียว ต่อมาเมื่อท่านวิรุฬหก ที่เป็นเจ้านายโดยตรง ท่านเลื่อนไปอยู่พรหม กรมหลวงชุมพรฯ เป็นอินทกะ เป็นเทวดาเตรียมการ อินทกะนี่มีพันท่าน ก็ถูกเลือกให้เป็นวิรุฬหก
    หลังจากเป็นเทวดาชั้นวิรุฬหกแล้ว เป็นเจ้านายเขา เป็นท้าวมหาราช ท่านก็มารายงานให้ทราบว่า เวลานี้ผมเลื่อนเป็นวิรุฬหกแล้วครับ เป็นผู้บังคับบัญชาใหญ่ ต่อไป ถ้าใครเขาจะบนผม การบนเหล้าก็ดี บนน้ำขาวก็ดี บนไอ้เป้หรือน้ำตาลเมาก็ดี ของดทั้งหมด ให้ใช้แต่ของบนธรรมดา ๆ
    เอาละบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้า เวลาก็ยังเหลือเยอะก็มาคุยกัน เป็นอันว่าเรื่องราวของกรมหลวงชุมพรฯ ก็ขอยับยั้งเพียงเท่านี้ เรื่องเทวดายังมีอีกเยอะ เรื่องผีก็ยังมีอีก ยังต่อกันเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็ถือว่าจบเล่นที่ ๕ เป็นตอนสุดท้ายของเล่มที่ ๕ ในเมื่อเวลาเหลือประมาณ ๓ นาทีก็คุยกัน
    ถ้าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกท่าน หรือท่านผู้ฟังทุกคนอยากจะเป็นคนดี มีความสุข ให้ปฏิบัติใน สังคหวัตถุ ๔ ประการ สังคหวัตถุ คือธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ธรรมะส่วนนี้ไม่ขัดคอกับคนขี้เมา คนกินเหล้าก็ปฏิบัติได้ คนเจ้าชู้ก็ปฏิบัติได้ แต่ทว่าบังเอิญปฏิบัติไปแล้วเข้าถึงความดี เขาก็ต้องเลิกเหล้า เพราะคนดี ก็เลิกเจ้าชู้
    นี่เป็นเรื่องธรรมดา ยังไม่ห้ามในตอนต้น กินเหล้าก็ปฏิบัติได้ คนเจ้าชู้ก็ปฏิบัติได้ ความจริง ศีลมี ๕ ข้อ ทำไมชอบพูด ๒ ข้อ ก็เพราะว่า ๒ ข้อนี้ เวลานี้ยังเป็นสมัยนิยม คือเป็นศีลที่บุคคลต้องการจะละเมิดอย่าง กาเมสุมิจฉาจาร เวลานี้สะดวก หาไม่ยาก และสุราและเมรัย ก็สะดวกหาไม่ยาก อาตมาก็ไม่ตำหนิ เป็นของธรรมดา เพราะเป็นของที่ทุกคนชอบ ของที่ทุกคนรัก แต่ต้องการเอาธรรมปฏิบัติให้ดี เอา ๔ อย่างคือ
    ๑. ทาน การให้ รู้จักสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน ตามสมควรอย่าให้หนักนัก เอาแต่พอดี พอควร เราให้เขาเขารักเรา เขาให้เราเรารักเขา ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของบุคคลผู้รับ คือ เมื่อเรามีคนรัก เราก็มีความสุข
    ๒. ปิยวาจา คือ พูดดี พูดเป็นที่ถูกใจของบุคคลผู้รับฟัง เราพูดดี เขาชอบ เขาพูดดีเราชอบ เมื่อต่างคนต่างชอบกันแบบนี้ มันก็เป็นความสุข มีแต่ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าหากัน มีความรักกัน
    ๓. อัตถจริยา การช่วยเหลือการงานซึ่งกันและกัน ถ้าเขาทำไม่ไหว เราช่วยเขาเขาก็รักเรา ถ้าเราทำไม่ไหว เขาช่วย เขาช่วยเรา เราก็รักเขา รวมความว่า การช่วยงานซึ่งกันและกันตามกำลัง ก็เป็นปัจจัยให้เกิดความรักเกิดความสุข
    ๔. สมานัตตตา การไม่ถือตัวไม่ถือตน จะไปที่ไหนก็ตาม วางตนเสมอเขา ถือว่าเป็นเพื่อน เฮไหนไป ฮาไหนมา ทำอะไรก็ทำด้วยกัน สนุกก็สนุกด้วยกัน ไม่เย่อหยิ่งจองหอง ไม่ถือฐานะ ไม่ถือตระกูล ไม่ถือหลักความรู้ว่าฉันรู้ดีกว่า ถ้าถือแบบนั้นมันอด เป็นที่เกลียดของคน รวมความว่าการไม่ถือตัวไม่ถือตนก็เป็นปัจจัยให้เกิดความรัก ในเมื่อคนรักมาก เราก็มีความสุข
    ฉะนั้น ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกคนที่นับถือพระพุทธศาสนา อันนี้เป็นคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนไว้สำหรับฆราวาสจะได้ปฏิบัติ เพื่อความสุขของคน ถ้าอยู่คนเดียวก็มีความสุข อยู่หลายคนก็มีความสุข จะไปไหนก็มีความสุข เพราะมีคนรัก มีคนรักมากเท่าไร เราก็มีความสุขมากเท่านั้น ขอย้อนอีกทีหนึ่งว่าการปฏิบัติ ๔ ประการคือ ๑. รู้จักสงเคราะห์ซึ่งกันและกันด้วยวัตถุ คือ การให้ ๒. พูดดี ๓. ช่วยเหลือการงาน และ ๔. ไม่ถือตัว ไม่ถือตน<O:p></O:p>
    ๒. ปิยวาจา ท่านเกิดทุกชาติจะมีวาจาเป็นทิพย์ พูดอะไรใครก็เชื่อ
    ๓. การช่วยเหลืองาน เป็นเหตุบันดาลความสุข เปลื้องความทุกข์ให้เขา เราเกิดไปทุกชาติ การงานจะสะดวก รูปร่างหน้าตาจะสวย
    ๔. ไม่ถือตัว ไม่ถือตน จะเป็นคนมีอำนาจวาสนาสูง และเป็นที่ยอมรับนับถือของคนทุกคน
    เอาละ บรรดาท่านพุทธศาสนิกชน ชักจะกลั้วแล้ว เพราะว่าเวลาหมด เกือบจะไม่ทันเวลา ขอลาก่อน ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนผู้รับฟังทุกท่าน สวัสดี
    ที่มา http://praruttanatri.com/v1/special/books/anlen/story05.htm#_เทวดาและผีเมืองชัยนาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2007

แชร์หน้านี้

Loading...