เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว บุญกุศลจะหามาจากที่ใดเล่า???

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 28 มกราคม 2005.

  1. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,067
    ค่าพลัง:
    +7,067
    การที่เวไนยฯบำเพ็ญธรรมและสร้างบุญกุศล โดยมุ่งหวังแต่จะรอรับผลบุญตอบสนอง ยึดติดในผลบุญจึงส่งผลให้พฤติกรรมที่แสดงออกไม่ได้เกิดจากธรรมชาติของจิตเดิมแท้
    หากเป็นเช่นนี้ก็เป็นเพียงการปลูกสร้างเนื้อนาบุญเพื่อยังผลให้ไปเกิดเป็นเทพยดาบนสวรรค์ชั้นเทวภูมิ หรือผู้มีลาภสักการะในมนุษย์ภูมิเท่านั้น
    เพราะเป็นการกระทำเพื่อหวังผลบุญตอบแทน ผลบุญที่ได้รับจึงมีจำกัด เมื่อเสพบุญกรรมหมดสิ้นก็ต้องกลับลงมาเวียนว่ายต่อไป เปรียบได้ดั่งการยิงธนูขึ้นฟ้า พอแรงหนุนส่งหมดลูกธนูก็ตกลงมาฉันใดก็ฉันนั้น
    คำว่า
     
  2. casy99

    casy99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +449
    น่าจะไม่ถูกต้องนะ ลองศึกษาดูใหม่หาที่มีหลักมีเกณฑ์จริงๆคงจะดีกว่าเข้าใจเช่นนี้เพราะสิ่งที่คิดอยู่เรียกว่าวิจิกิจฉามันจะขวางความสำเร็จในการปฏิบัติ
     
  3. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,937
    ตราบใด ที่ยังมีเชื้อ
    คือยังยึดติดใน บุญกุศล หรือ บาปอกุศล
    ก็ยังคงต้องเวียนว่าย ตายเกิดกันอยู่

    เหตุเพราะเชื้อมันยังไม่ดับ
     
  4. casy99

    casy99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +449
    ลองอธิบายการบำเพ็ญบารมีที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิบชาติว่าเป็นการยึดติดหรือไม่?
     
  5. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,937
    ก็ยังถือว่า ยึดติดอยู่ครับ

    พระพุทธเจ้า สมัยที่ยังอยู่ในชาติที่ยังบำเพ็ญบารมี ยังไม่ใช่พระพุทธเจ้าของพวกเรา

    ท่านบำเพ็ญพระโพธิญาณ มุ่งหวังเพื่อที่จะเป็นพระพุทธเจ้า

    เป็นนิตยโพธิสัตว์ มีความมุ่งหวังอย่างแรงกล้าเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าโปรดเหล่าสัตว์โลก

    ถือเป็นกิเลสอย่างนึง แต่เป็นฝ่ายมหากุศล



    สัตว์โลก .... ถ้ามีกิเลส ไม่ว่าด้านดีหรือไม่ดี

    ก็ถือว่ายังมีเชื้อที่จะทำให้มีการเกิดอยู่นั้นเอง

    --------------------------------------------------

    ส่วนตัวเรา ถ้าอยากจะไม่เกิด หรือไม่อยากจะทุกข์

    ก็ต้องมาเรียนรู้ความทุกข์

    เพราะถ้าไม่รู้จักมัน คงหลุดจากมันไม่ได้

    รู้จัก ทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ และหนทางดับทุกข์

    ทุกข์ก็ถูกดับได้
     
  6. PalmPalmnaraks

    PalmPalmnaraks บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ของทุกอย่างไม่เที่ยง

    บุญไม่เที่ยง บาปไม่เที่ยง บุญเป็นสิ่งที่ให้วิบากอันสุข บาปให้วิบากทุกข์ ควรใช้ผลบุญเพื่อเป็นรากฐานแห่งการประพฤติทำนิพพานให้แจ้งเพราะบุญเป็นเครื่องหนุนนำ ควรใช้ผลบาปเป็นเครื่องเตือนใจ แต่ไม่ควรไปยิดติดกับบุญ บาปเพราะสุดท้ายเราต้องละออกทั้งบุญแลบาป จึงจักพ้นทุกข์
     
  7. casy99

    casy99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +449
    หากพระพุทธองค์ไม่บำเพ็ญบารมีสร้างสมบุญกุศลมาอย่างนับชาตินับภพไม่ได้ จะมีสิ่งใดเกื้อหนุนให้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ แม้กระทั่งการชนะจากพญามาราธิราชพระองค์ยังต้องกล่าวอ้างถึงบุญกุศลซึ่งบำเพ็ญมาโดยเรียกพระแม่ธรณีมาเป็นพยานโดยพระแม่ธรณีได้บิดมวยผมจนน้ำ ซึ่งพระพุทธเจ้าได้อธิษฐานกรวดลงบนพื้นดินซึ่งพระแม่ธรณีได้เก็บไว้ในมวยผม มาหลังจากสร้างบุญกูศลในทุกภพทุกชาติไหลออกมาท่วมจนทัพพญามารต้องถอยออกไปจนสุดขอบอนันตจักรวาล มนุษย์ปัจจุบันมีความคิดแปลกๆ อยากเก่งเกินกว่าครูบาอาจารย์นำความคิดความเห็นมาใส่เหตุใส่ผลตามความคิดของตนแล้วเอ่ยอ้างว่าเป็นเช่นนั้น พระพุทธเจ้าเปรียบเสมือนหนึ่งเป็นบิดาของพุทธบริษัททุกประเภท คำสอนของท่านคือตัวท่าน ผู้ใดลบหลู่แอบอ้าง กล่าวตู่ในคำสอนเพื่อให้ผู้อื่นเกิดความสงสัยในพระธรรมชื่อว่า เนรคุณ การจะเดินไปสู่เส้นทางแห่งอริยะเบื้องต้นเริ่มมาจาก ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา หากไม่เริ่มจากทานแล้วจะหาเสบียงจากไหน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2005
  8. กรุงเก่า

    กรุงเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +335
    คนจะหลุดพ้นได้ก็ด้วยกุศล ถ้าไม่มีกุศลก็ไม่มีทางสำเร็จในทางอริยะ คนเราจะดับทุกข์ไม่อยากเวียนว่ายตายเกิดก็แสดงว่าปรารถนาพระนิพพาน(หากนับถือพุทธ) ถ้าไม่สร้างกุศลย่อมไปนิพพานไม่ได้ ผลบุญกุศลชองผู้ปฏิบัติบูชาเพื่อความหลุดพ้นย่อมมีพระนิพพานเป็นที่ไปในท้ายที่สุด แต่การไม่ยึดผลบุญกุศลคงเป็นอวิชชาอย่างหนึ่งในมุมมองของผม
     
  9. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,937

    ศาสนา หรือ ลัทธิอื่นๆ บนโลกนี้ ส่วนใหญ่จะขึ้นต้นด้วย ศรัทธา และลงท้ายด้วยศรัทธา
    แต่ของศาสนาพุทธ ขึ้นต้นด้วยศรัทธา แต่ลงท้ายที่วิมุตติ คือความหลุดพ้น

    สำหรับผู้เริ่มสนใจศาสนาพุทธ คำสอนสำหรับผู้เริ่มแรก จะสอนไปในทางให้ยึด บุญ กุศล
    ไว้เป็ฯเสบียงในการเดินทาง เช่น การถือ ศีล 5-8 หรือ กุศลกรรมบท 10

    แต่เมื่อปฏิบัติไปสักระยะนึงแล้ว ศึกษาคำสอนพระพุทธเจ้าเพิ่มเติม
    ท่านบอกต่อไปว่า ตรงนั้นยังไม่ใช่ความสุขขั้นสูงสุด
    ความสุขขั้นสูงสุขในศาสนาพุทธคือ" นิพพาน "

    การจะมาถึงนิพพานได้ต้อง " สละ "
    อกุศลทั้งหลายเราไม่ทำ บุญกุศลทั้งหลายเราทำไว้ แต่ไม่ยึดติด
    เดินตามเส้นทางที่ท่านบอก คือ " มรคค8 " หรือ " ศีล สมาธิ ปัญญา "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2005
  10. กรุงเก่า

    กรุงเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +335
    ก็เข้าใจในส่วนที่คุณบัวใต้น้ำแจ้งมาครับ แต่น่า(หรืออาจจะ)เป็นอารมณ์ท้ายๆของผู้ที่จะไปถึงอรหันตผลครับแต่คนส่วนใหญ่ในนี้ยังไม่ใช่ครับต้องให้ยึดกุศลไปก่อนจิตจะได้มุ่งการสร้างกุศลแต่อย่างที่ท่านบอกก็ถูกคือต้องมีปัญญาประกอบมิฉะนั้นความงมงายมาหาโดยไม่รู้ตัวแล้วมัวแต่ทำในด้านเดียวแต่ครอบครัวหรืออย่างอื่นเสียหายก็ไปไม่ได้

    ส่วนที่ท่านบอกว่าแบบอื่นเริ่มที่ศรัทธาแล้วจบที่ศรัทธานั้นผมว่าอย่าไปพูดถึงของคนอื่นเลยเรายังไม่ทำของเขาให้ถึงที่สุดเรายังไม่รู้หรอกว่าไปได้ถึงไหน วิเคราะห์โดยเทียบกับทางพุทธอย่างเดียวว่าถูกต้องนี่อาจจะไม่ถูกทั้งหมดก็ได้ ปริญญาเอกมีทั้งสาขาเกษตร วิศวกรรม แพทย์ ภาษา โบราณคดี ฯลฯ อีกมากซึ่งก็ไม่เอามาเทียบเคียงกันฉันใดทางธรรมก็เป็นแบบนั้นครับ พุทธ คริส อิสลามจะนับถือศาสนาใดก็ธรรมชาติเดียวกันพาไปที่เดียวกันได้เพราะมาจากบ่อเกิดแห่งธรรมที่เดียวกันเพียงแต่เวลาต่างกันต่างสถานที่กันต่างวัฒนธรรมกันและสิ่งแวดล้อมต่างกันย่อมต้องการการสอนแตกต่างกันไปก็มีศาสดาแตกต่างกันไปคนที่จดบันทึกคำสอนก็มากมายมนุษย์เราก็คิดว่าของเราดีที่สุดของคนอื่นไปไม่ได้อันนี้ก็เป็นธรรมชาติของคนเรา เอาเป็นว่าเราชอบแบบไหนก็ทำไปของคนอื่นเราก็ไม่กล่าวถึง - ด้วยความนับถือสวัสดีครับ
     
  11. NanoProbe (นาโนโพรบ)

    NanoProbe (นาโนโพรบ) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +261
     

แชร์หน้านี้

Loading...