เมื่อเทวดาที่ภูกระดึงถวายภัตตราหารหลวงพ่อ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 24 สิงหาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]

    ก็เป็นอันว่าตกลง เขาจะทำก็ไม่เป็นไร ก็นั่งคุยกันไปถึงประวัติความเป็นมาของภูกระดึง แกก็เล่าสภาวะต่างๆ ของอาจารย์สำราญให้ทราบ ก็เล่าความเป็นมาของภูกระดึงว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บางทีก็ได้ยินเสียงฆ้องบ้าง ระฆังบ้าง บางทีได้ยินเสียงผู้หญิงคุยกันบ้าง บางคราวเห็นคนทอผ้าบ้าง ตำข้าวบ้าง อย่างนี้เป็นต้น บางคราวจะเห็นเป็นหมู่บ้านใหญ่ ๆ บางทีก็เห็นหมู่บ้านเล็ก ๆ บางทีก็เห็นแต่คน แกก็ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของแกแล้ว แต่มาพอรุ่งเช้า ที่นี้เมื่อก็คุยกันดึกไป ต่างคนต่างตื่นสาย เจ้าของบ้านก็ตื่นพร้อม ๆ กัน ประมาณโมงเช้า
    เมื่อตื่นขึ้นมา แทนที่เจ้าของบ้านจะหุงข้าว กลับมีคนประมาณสัก ๕๐ คน นำข้าวปลาอาหารมาพร้อม แต่งตัวเป็นชาวบ้านธรรมดา ๆ นุ่งผ้าขาดบ้าง นุ่งผ้าเก่าบ้าง เหมือนชาวบ้านธรรมดา ๆ นำอาหารมาถวาย มีต้ม มีแกงเสร็จ ถามว่า โยม โยมมาจากไหน โยมก็เลยบอก อยู่แถวนี้เจ้าค่ะ เลยหันไปถามเจ้าของถิ่น นายช่าง นายช่างบอก บ้านบนี้ไม่มีครับ แกก็เลยบอก นายช่างไม่เห็นเอง บ้านฉันอยู่ใกล้ ๆ นี่แหละ ไม่ไกล ทราบว่าท่านมากัน และมากันมาก ตอนเช้าไม่มีอะไรจะฉัน ไม่มีอะไรจะบริโภคกัน เลยชวนพวกชาวบ้านนำอาหารมาถวายพระบ้าง เลี้ยงคนบ้าง ต่างคนต่างกินกันอิ่มหนำสำราญ เหลือให้เจ้าของบ้านไว้เยอะ เมื่อยถาสัพพีเสร็จ ญาติโยมก่อนจะไป ก็คุยกันนิดหน่อย แต่ว่าสังเกตแล้ว ทุกคนไม่กระพริบตาสักคน นั่งตาแข็งทื่อเหมือนกันหมด ทั้งผู้หญิงผู้ชาย แต่แต่งตัวแบบชาวบ้านธรรมดา ๆ ไอ้อย่างนี้ก็เข้าใจว่า เป็นเทวดาแน่ เป็นนางฟ้ากันแน่
    ก็รวมความว่า หลังจากญาติโยมลาไปแล้ว ก็ลาเจ้าของถิ่นเดินทางกลับ ขณะที่เดินทางกลับลงมา ก็ใช้เวลาประมา ๒ ชั่วโมงก็ลงถึงเชิงเขา แล้วก็เดินไปที่ร้านอาหารบ้านศรีฐาน ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ เข้าไปถึงเวลา ๕ โมงพอดี พอดีเจ้าของโรงสีเห็นเข้า บอกว่า ท่านกลับแล้วหรือ ก็บอก กลับแล้วโยม โยมไม่ต้องเป็นห่วง อาตมาจะซื้อข้าวเอง ท่านบอก ไม่ต้อง ๆ ผมหุงไว้แล้วครับ ถามโยมรู้ได้อย่างไร ว่า อาตมาจะลงมา บอกว่า เมื่อตอนเช้า มีคนแก่บอกว่ามีคณะชาวบ้าน ลูกบ้านของแกนำอาหารไปเลี้ยง และตอนเพลทั้งคณะจะมาที่นี่ แล้วแกก็นำหมู นำเนื้อ นำอะไรต่ออะไรมาให้ไว้ให้ทำอาหารถวายพระด้วย
    แต่ปรากฏว่า ไอ้หมู ไอ้เนื้อต่าง ๆ นี่ มันไม่มีคาว เจ้าของโรงสีก็สงสัยเหมือนกันว่า ทำไมจึงไม่มีคาว หมูก็มี เนื้อก็มี ปลาทูก็มี ปลาทูนี่ความจริงมันเหม็นคาวมาก แต่ปลาทูตัวใหญ่ ๆ แต่ไม่มีคาว เขาก็ทำอาหารไว้เสร็จ พวกเราก็เข้าที่ กินกันตามเดิม เมื่อกินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เล่าความเป็นมาว่า ขึ้นไปข้างบนไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่บ้าง บังเอิญไปเจอะกระต่ายเข้า พวกนี้จะจับกระต่าย เมื่อพ้นจากเขตกระต่ายก็ปรากฏว่าเจอะงูใหญ่ เจ้าของโรงสีศรีฐานก็บอกว่า ข้างบนมีความศักดิ์สิทธิ์มาก
    ที่มา หนังสืออ่านเล่น เล่ม21 http://praruttanatri.com/v1/special/books/anlen/story21.htm
     

แชร์หน้านี้

Loading...