เมื่อหลวงพ่อฝึกเดินบนน้ำ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 22 สิงหาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]
    หลวงปู่ปาน โสนันโท




    [​IMG]
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน)




    [​IMG]





    ในคืนหนึ่งฉันคิดว่า ถ้าฉันทำอะไรไม่ได้ ฉันจะลองฝึกเดินน้ำดู ว่ามันจะเป็นยังไงการเดินน้ำเดินท่า จะลองเดินน้ำดู แล้วก็ลองเดินกลางคืนดึก ๆ ฉันก็เริ่มใช้ปถวีกสิณ กสิณดินเอาเข้ามาเพ่ง เพ่งจนกระทั่งปรากฏว่าน้ำในแก้วแข็ง จะเอานิ้วจิ้มลงไปตรงไหน น้ำมีสภาพเหมือนน้ำแข็งทุกอย่าง มันแข็งเป๋งเหมือนกับหิน ซ้อมอยู่อย่างนี้ ๓ คืน เมื่อ ๓ คืนแน่ใจแล้ว คืนหนึ่งตอนตี ๒ แล้วก็เดือน ๑๒ เสียด้วยนะ

    กำลังหนาวจัด ที่วัดบางนมโคนั่นมันด่านลม ลมหนาวพัดมาน้ำเป็นคลื่น ความหนาวเย็นสะท้าน ฉันก็เตรียมจะเดินน้ำ คิดว่าตอนนี้มันหนาวนี่ แล้วดึก ๆ อย่างนี้หลวงพ่อท่านคงจะไม่ออกไปนอกกุฏิ พระแก่คงจะไม่สู้กับความหนาว

    ฉันนุ่งผ้าผืนเดียว เตรียมพร้อมที่จะลงน้ำ ไปนั่งอยู่ที่โป๊ะหน้าวัดแล้วก็เข้าปถวีกสิณ ประเดี๋ยวเดียวอธิษฐานจิต เอานิ้วจิ้มลงไปในน้ำ ปรากฏว่าน้ำแข็ง ฉันแน่ใจว่าน้ำแข็งมันจะเดินได้แล้วฉันก็ก้าวลงจากโป๊ะ ตอนก้าวลงนี่แหละ บรรดาลูกหลานทั้งหลาย การคุมอารมณ์มันไม่ทรงสภาพ สมาธิมันเคลื่อน

    ตอนนี้เอง พอก้าวลงจากโป๊ะ ตัวมีน้ำหนักตัวทางต่ำมาก ลงตูมลงไปเลย ปรากฏว่าหัวมิดน้ำจมน้ำลงไป แล้วโผล่ขึ้นมารู้สึกว่ามันหนาวจัด แต่ว่าความอยากน่ะมันยังไม่ยับยั้ง มันยังไม่ยอมหนาว ตัวอยากด้วยอำนาจตัณหาน่ะ มันยังไม่ยอม มันยังอยากจะทำต่อไป พอขึ้นมาจากน้ำ นั่งอยู่บนโป๊ะ

    ปรากฏว่าหลวงพ่อปานยืนอยู่บนเขื่อนหน้าวัด ท่านร้องเรียกไปว่า ไอ้ลิงดำ นี่เอ็งจะแสดงฤทธิ์หรือยังไงนี่ จะมาเดินน้ำเรอะ ท่านถามอย่างนั้น ก็หนีกันไม่ได้แล้วนี่ ในเมื่อหนีไม่ได้มันก็ต้องยอมรับ ก็ยกมือประณมไหว้ท่านแล้วก็บอกว่า ผมจะเดินน้ำขอรับ

    ท่านก็บอกว่าฉันห้ามแล้วไม่ใช่เรอะ ห้ามแกแล้วนาว่าอภิญญาน่ะแกทำไม่ได้ แต่ความจริงถ้าแกจะทำมันก็เป็นของไม่ยาก ทำได้ แต่ที่ฉันไม่ให้แกฝึก ให้แกฝึกในขั้นของวิชชา ๓ นี่ก็เพราะว่าแกมีพันธะอยู่กับคน



    [​IMG]



    พระที่ได้อภิญญานี่น่ะ ได้อภิญญาแล้วจะอยู่กับคนไม่ได้ จะต้องเข้าป่า แต่แกนี่มีบริษัทมีบริวารมาก แกจะทรงอภิญญาไม่ได้ ในเมื่อทรงอภิญญาแล้ว เรื่องของอภิญญานี่น่ะ คนที่ยังเป็นโลกีย์วิสัย ยังมีอารมณ์ข้องอยู่ในกิเลส มันอดที่จะอวดดีไม่ได้ แต่ความจริงสิ่งที่จะอวดไม่ใช่อวดดี มันเป็นอวดเลว

    แต่ไอ้ความเลวนี่เราเข้าใจว่ามันเป็นความดี มันเป็นความผิด เพราะผิดพุทธพจน์ แต่ว่าไม่เป็นไร ในเมื่อเธอมีความปรารถนาฉันก็จะให้ทำ แต่ว่าทำได้คราวนี้คราวเดียวนะ ต่อไปห้ามทำ เพื่อเป็นการพิสูจน์อารมณ์สมาธิของเธอ เอาอย่างนี้ ตั้งอารมณ์ใหม่ เมื่อกี้นี้เธอทำผิด เพราะว่าเธอตั้งใจอธิษฐานให้แม่น้ำทั้งแม่น้ำเป็นน้ำแข็ง อย่างนี้มันผิดจากจริยามาก ถ้าน้ำเป็นน้ำแข็งทั้งแม่น้ำแล้วเรือแพสัญจรไปมาไม่ได้ การจราจรมันก็ติดขัด อย่างนี้มีโทษนะ เป็นการกลั่นแกล้งชาวบ้านเขา ถ้ากระไรก็ดีละก็ เธอเอาใหม่

    เธอทำอย่างนี้ เธอตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอน้ำที่ข้าพเจ้าเหยียบไปนี่นะ เท้าของข้าพเจ้าเหยียบไปตรงไหนขอให้น้ำตรงนั้นแข็ง แล้วก็ควบคุมอารมณ์ให้ทรงอยู่ในอุปจารสมาธิ ในขั้นแรกเข้าปถวีกสิณก่อน ให้ถึงฌาน ๔ ท่านเรียกตามภาษาพระว่าจตุตถฌาน แปลว่าฌาน ๔ มีอารมณ์เป็นอุเบกขาดีแล้ว คลายจิตลงมาสู่อุปจารสมาธิแล้วอธิษฐานว่า น้ำที่ข้าพเจ้าเอาเท้าเหยียบไป จะเป็นตรงไหนก็ตาม ขอน้ำตรงนั้นจงแข็งเหมือนหินหรือไม่ก็เหมือนดินให้ข้าพเจ้าเดินไปได้โดยสะดวก แล้วก็เข้าฌาน ๔ ใหม่ แล้วคลายฌาน ๔ ออก เมื่อตั้งอารมณ์อยู่ในอุปจารสมาธิแล้วก็เดินไป แค่นี้ทำได้ไม่ยาก


    [​IMG]


    เรื่องของอภิญญาเป็นเรื่องไม่ยาก ความจริงเธอมีความสามารถพอจะทำได้ แต่ว่ามันไม่ใช่วิสัยของเธอควรทำ ฉันจึงห้าม เธอไม่ต้องวิตกกังวล ผลใดก็ตามที่เธอมีความปรารถนา ผลนั้นจะมีความสำเร็จกับเธอ เมื่อเธอผ่านการบวชไปแล้ว ๒๖ พรรษา เรื่องการเอาดีเอาพระอภิญญาไปอวดชาวบ้านอย่านึกว่ามันเป็นของดี ถ้าชาวบ้านเขารู้ว่าเธอทำได้เขาจะขอให้เธอทำ แล้วในที่สุดเธอก็จะเหน็ดเหนื่อย

    ถ้าเธอไม่ทำให้กับบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คนกลุ่มนั้นก็จะพากันว่าพากันนินทา พากันพูดเสียดสี หนักเข้า ๆ อารมณ์จิตของเธอก็จะไม่ดีตกอยู่ในอำนาจของโทสะ ฌานต่าง ๆ มันก็จะเสื่อม หรือว่าถ้าหากว่าฌานไม่เสื่อม คนก็จะติดในฤทธิ์ ในเมื่อคนติดในฤทธิ์เสียแล้ว พระอื่นแสดงฤทธิ์ไม่ได้ คนเขาก็ไม่เลื่อมใส แล้วคนที่ติดในฤทธิ์ทั้งหมดก็ไม่ต้องการบุญต้องการกุศล ต้องการอย่างเดียวคือให้พระแสดงฤทธิ์ให้ดู อย่างนี้ศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็จะเสื่อม

    อาการอย่างนี้ปิณโฑลภารทวาชะทำมาแล้วในสมัยพระพุทธเจ้า ที่เหาะไปเอาบาตรแก่นจันทร์ พระพุทธเจ้าทรงทราบก็เพราะว่า ชาวบ้านที่ไม่เคยเห็นการเหาะมาดูการเหาะกันทุกคน ต่างก็พากันอยากจะเห็นพระเหาะ เพราะไม่เคยเห็นเลย เมื่อคนนี้ได้ดูแล้ว คนอื่นยังไม่ได้ดูก็ขอดูใหม่ เมื่อท่านปิณโฑลภารทวาชะไม่เหาะให้ดู ก็ว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ต่อว่าต่อขาน จนกระทั่งท่านรำคาญท่านก็ต้องเหาะให้ดู เป็นอันว่าการเหาะของท่านปิณโฑลภารทวาชะต้องเหาะกันทุกวัน วันละหลายครั้ง เพราะชาวบ้านรู้ถึงไหนก็มาถึงนั่น การเห็นคนเหาะมันเห็นยาก ไม่มีใครเขาทำให้เห็น

    เมื่อปรากฏว่าคนทำได้เข้าก็อยากดูกันใหญ่ ในที่สุดพระพุทธเจ้าก็เรียกท่านปิณโฑลภารทวาชะมาติเตียนต่าง ๆ แล้วก็มีพระพุทธบัญญัติตรัสห้ามว่า ต่อแต่นี้ไป พระองค์ใดก็ตามจะแสดงปาฏิหาริย์จะต้องได้รับอนุญาตจากพระองค์เสียก่อน ถ้าใครไม่ได้รับอนุญาตจากพระองค์แล้วแสดงปาฏิหาริย์ พระองค์ทรงปรับเป็นโทษ เรียกว่ามีความผิดตามพระวินัย นี่เรื่องมันใหญ่ เธอจำไว้นะ เธอเรียนมาแล้ว เธอพบแล้วน่าจะจำ แต่เอาเถอะ ในเมื่อกิเลสตัณหามันยังบังคับใจเธออยู่ เธออยากจะทำก็จงทำ เอ้า ทำได้แล้ว


    ท่านบอกให้ฉันทำ ฉันก็ทำ ในเมื่ออธิษฐานตามท่านมันไม่ยาก ท่านบอกให้เข้าฌาน ๔ ฉันก็เข้าปุ๊บ เข้าปุ๊บ แป๊บเดียวมันไม่ถึงครึ่งวินาที มันก็ได้ฌาน ๔ เป็นของง่ายไม่ใช่ของยาก จะว่าเป็นของกล้วย ๆ ก็ได้ กล้วยก็กล้วยสุกไม่ใช่กล้วยดิบ เมื่อเข้าฌาน ๔ สบายใจถอยจิตออกมาถึงอุปจารสมาธิแล้วอธิษฐานตามที่ท่านบอกว่าน้ำตรงไหนที่ข้าพเจ้าเหยียบลงไป ขอน้ำตรงนั้นจงแข็งเหมือนดิน แล้วเข้าฌาน ๔ ใหม่ เข้าปุ๊บเดียวก็ถึง เมื่อออกจากฌาน ๔ แล้วก็ตั้งจิตอยู่ในอุปจารสมาธิ อธิษฐานใหม่ว่าน้ำที่ข้าพเจ้าเหยียบจงแข็ง เหยียบลงตรงไหนตรงนั้นจงแข็ง แล้วหลวงพ่อปานก็มีบัญชาบอก เอ้า เดินได้ เพียงเท่านั้นฉันก็เดินน้ำเล่นได้ตามสบาย หลวงพ่อปานบอกว่า ทรงกำลังใจไว้ให้ดีนะ ฉันจะกลับไปนอน แกเดินตามสบายเถอะ จะเดินสักกี่ชั่วโมงก็ได้ เท่านี้แหละอภิญญาเป็นของไม่ยาก ฉันก็เดินเล่นทั้ง ๆ ที่อากาศหนาว ตัวก็เปียก แต่จิตมันอยากนี่ ความครึ้มใจมันมี มันก็เลยไม่หนาว เดินอยู่ประมาณ ๒ ชั่วโมงเศษ ๆ มันก็ถึงตี ๔ กว่า ๆ เพราะเขาตีระฆัง ก็เกรงว่าพระจะมาเห็นเข้า ก็เลยเลิกกลับมาที่นอน ผลัดผ้าผลัดผ่อน นุ่งสบงทรงจีวรพาดสังฆาฏิ เข้าเจริญพระกรรมฐานตามเวลาปกติ คืนนั้นเลยไม่ต้องได้นอนกัน


    [​IMG]


    เป็นอันว่าเรื่องการเจริญอภิญญาของฉันคือเดินน้ำก็หมดไป นี่ลูกหลานฟังไว้นะ เมื่อฟังแล้วก็จงจำว่า เรื่องของความอยากนี่มันไม่ใช่ของดี มันไม่มีอะไรจะดีหรอก ความอยากนอกรีตนอกรอยนี่นะไม่ดี เข้าใจว่าการเจริญอภิญญาดี

    ถ้ามันเป็นวิสัยของเรา เราได้ง่าย ๆ มันก็ดี ถ้ารู้สึกว่าจะได้ยากเราก็คิดว่าอภิญญานี่น่ะไม่ใช่อรหัตผล แล้วอภิญญาไม่ใช่พระโสดา สกิทาคา อนาคา อภิญญาก็คือโลกีย์ญาณ ถึงแม้ว่าจะได้สักเท่าไรก็ตามที จิตก็ยังตกอยู่ในอำนาจกิเลส ตัณหา อุปาทาน กรรม ถ้าหากว่าเราทำได้ยาก เราก็หาโอกาสแบบนี้ดีกว่า หาโอกาสทำอย่างอื่น คือ เจริญวิปัสสนาญาณให้สามารถตัดสังโยชน์ ๓ ประการ ได้เป็นพระโสดาบันแทน

    หรือว่าเป็นพระสกิทาคามีแทน หรือเป็นพระอนาคามี หรือพระอรหันต์ เอายังงั้นเลยดีกว่า นี่ทำยากนา ถ้าทำได้ง่าย ๆ คือเป็นวิสัยของเราละก็ทำเถอะ ไม่เป็นไร เพราะการได้อภิญญานี่เป็นการช่วยให้การบรรลุมรรคผลสำเร็จได้โดยง่าย

    ถ้าเราไม่เมาอภิญญา แต่ว่าเราได้อภิญญาแล้วเมาอภิญญาอย่างท่านพระเทวทัตไม่ดีเหมือนกัน ชวนลงนรก เรื่องนี้ขอผ่านไปไม่มีอะไรหนัก นี่เล่าให้ฟังเท่านั้น



    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน)





    ที่มา : หนังสือประวัติหลวงพ่อปาน และ
    http://thaisquare.com/Dhamma/book/prawat_luangpopan/content.html#
     
  2. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    [​IMG]
     
  3. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ร่วม [​IMG] อนุโมทนาบุญด้วยครับ.^./|\.^. [​IMG]
     
  4. จันทร์เจ้า

    จันทร์เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,948
    บางคนเสียเวลาฝึกอภิญญาเป็นสิบๆปีเพียงเพื่อตอบสนองความอยากเพียงชั่วครู่เดียว
    ทั้งๆที่ใจของตนเองก็รู้ว่าทำได้ไปก็แค่นั้น แต่ความอยากมันมีมาก ระงับความอยากไม่เป็น
    เมื่อทำได้แล้วลองย้อนกลับมาดูสิ่งที่ผ่านมา ก็พบว่าได้เสียเวลาไปเกือบค่อนชีวิตไปกับอวิชาไปแล้ว
    ถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก สู้เอาเวลามานั่งฝึกฝนขัดเกลาจิตใจตนเองเพื่อเอาชนะกิเลศตัญหาความอยากต่างๆดีกว่า
    ผมก็ทำได้เพียงแค่เตือนให้ผู้ที่ยังมีเวลาทองในกำมืออยู่มากไม่ให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์กับเรื่องแบบนี้เท่านั้น
    พูดง่ายแต่ปฎิบัติยาก ไม่อย่างนั้นมนุษย์ก็เป็นอรหันต์กันไปหมดแล้ว ขอจงฝึกฝนดูใจของตนเองให้ดีเถิด
     
  5. กองทัพเทพ

    กองทัพเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +2,629
    คนที่ยังเป็นโลกีย์วิสัย ยังมีอารมณ์ข้องอยู่ในกิเลส
    มันอดที่จะอวดดีไม่ได้

    แต่ความจริงสิ่งที่จะอวดไม่ใช่ อวดดี มันเป็น อวดเลว

    แต่ไอ้ความเลวนี่เราเข้าใจว่ามันเป็นความดี
    มันเป็นความผิด เพราะผิดพุทธพจน์

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    อนุโมทนา
     
  6. countdown

    countdown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +3,165
    เป็นคำพูดที่ถูกแล้วครับ เพราะแสดงได้แต่อย่าให้คนรู้
     
  7. AJ_Purngkan

    AJ_Purngkan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +3,789
    สาธุ ผู้เจริญในธรรมทั้งหลาย

    ข้าพเจ้ามีความคิดเห็นว่า
    ที่หลวงปู่ปานนั้นสอนมีความเป็นจริงมากเลยทีเดียว
     
  8. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,099
    ค่าพลัง:
    +2,696
    ว่าแล้วก็อยากเห็นจังว่าจะเป็นอย่างไร จะทำให้ยิ่งศรัทธาในศาสนามากยิ่งขึ้นนะผมว่า
     
  9. อิทธิปาฏิหาริย์

    อิทธิปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,834
    ค่าพลัง:
    +1,472
    ขอเชิญบูชาวัตถุมงคลสายตรงจากวัด ขลัง สายเขมร แท้ 100%
    ขอเชิญบูชาวัตถุมงคล หลวงพ่อผาด วัดบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ สายตรงจากวัด อาทิ
    พระเจ้าลิ้นทอง (ประวัติคล้ายขุนแผนบ้านเรา) บูชา 300.-
    พระผงรูปเหมือน บูชา 200
    ล็อคเกต (ด้านหลังมีเกศา ,ตะกรุดสามดอก,ผงพุทธคุณ) สร้างน้อย บูชา 700
    พระเจ้าครอบเมือง บูชา 200
    พญาครุฑ (เนื้อพิเศษ 1,500.-)
    เนื้อผงปถมังผสมไม้มงคลเก้า,ผงจินดามณี,ไม้งิ้วดำ,ไม้งิ้วดำโรยผงเกสรดอกดาวเรือง,ว่าน 108 บูชา 300.-
    ขุนแผนพรายกุมาร บูชา 300
    พระยอดขุนพล (เนื้อหัวเชื้อ 2,000, เนื้อผงตะไบ โรยเกศพระโบราณ 1,500 ,ใบลานเผา 300)
    เหรียญรุ่นสร้างกุฏิ บูชา 200
    รายการวัตถุมงคล หลวงพ่อชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ บูชาดังนี้
    พระชัยวรมัน ร่น ชัยมหานาถ (หล่อโบราณ) 1800
    ดวงตราอาถรรพ์ 500
    ตะกรุด 9 อาถรรพ์ 1200
    ผ้ายันต์นางเหมา 500
    ขุนแผนสะกดทัพ (โทรสอบถาม)
    ขุนแผนชมตลาด 300
    ขุนแผนเคลื่อบน้ำผึ้ง 500
    เหรียญ รุ่นแรก (เนื้อทองแดง) 300
    เหรียญเจริญพร 100
    รูปหล่อ ขนาดบูชา 5 นิ้ว 2000
    ตุ๊กตามหาเสน่ห์ (เนื้อมวลสารล้วน 1200) ธรรมดา 500
    น้ำมันบายน 300
    น้ำมันปักษินสุวรรณชิวหา 300
    ตะกรุดนกทึกทือ 300
    กุมาร พรายขอดทรัพย์ 500
    สีผึ้งวันเพ็ญเดือน 12 500
    หนุมาน 700
    และยังมีทุกร่นทุกรายการ โทรสอบถามได้ทุกเวลา
    อิทธิปาฏิหาริย์ พระเครื่อง ( อยู่ใกล้ๆโรงพยาบาลตากสิน เลยปากทางเข้าวัดทองนพคุณไปนิดนึง
    ติดถนน )529 ถ.สมเด็จเจ้าพระยา แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กทม 10600
    เปิดบริการทุกวัน 9.00 น.-22.30 น. ติดต่อสอบถามที่ 089-052-5456 เอก ติดต่อผมได้ทุกเวลานะครับ
    ลูกค้าต่างจังหวัด สนใจธนาณัติสั่งจ่ายในนาม สุกัณจักขณ์ กิตติวรเกียรติ ปณ.คลองสาน
    หรือ โอนเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขา ลาดหญ้า เลขที่ 075-2-80735-3 ก่อนโอนกรุณาโทรแจ้งให้ทราบด้วยครับ
    ******เอารถส่วนตัวมา วันจันทร์-ศุกร์ จอดรถหน้าร้านได้ เวลา 10.00น.-14.00น.,ตั้งแต่ 18.30น.ขึ้นไปจอดได้ตลอด วันเสาร์-อาทิตย์ จอดได้ทั้งวัน*****
    ดูรายละเอียด รุ่น ต่างๆได้ที่ http://www.itti-patihan.com , http://www.itti-patihan.com/SH.phpฤ
    น้ำมันบายน หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์
    ทำพิธีบวงสรวงอาราธนาบารมี ปลุกเสก ณ วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 10 ธันวาคม 2546 หลังพิธีเสร็จ
    หลวงปู่ชื่น ท่านบอกว่า น้ำมันนี้ดีมาก พระเจ้าศรีชัยวรมันมหาราชท่านมาทำให้เป็นทั้งเมตตา มหาปราบ
    มหาเสน่ห์ กันและแก้คุณไสยได้ทุกชนิด ใช้ก้านธูปจุ่มน้ำมันอาราธนาแกว่งในขันน้ำ
    เป็นน้ำมนต์ประพรมสินค้าขายของดีมาก ทาคิ้ว สีปากเป็นมหานิยม ติดต่อค้าขาย เจรจาต่อรอง ใช้เจิมบ้าน
    เจิมร้าน เจิมรถ ฯลฯ เป็นมงคลทุกอย่างสุดแล้วแต่จะอธิษฐาน ก่อนใช้ ขออาราธนาบารมี พระพุทธเจ้า
    พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า พระโพธิสัตว์ พระอวโลกิเตศวร คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ พรหมเทวดา พญานาคราช
    หลวงปู่ชื่น มีพระเจ้าศรีชัยวรมันมหาราช เป็นที่สุด
    ตั้งนะโม 3 จบ พุทธังสรณังคัจฉามิ ธัมมังสรณังคัจฉามิ สังฆังสรณังคัจฉามิ นะโมพุทธายะ พุทโธโพธิสัตโต
    อวโลกิเตศวร มหาจักรพรรดิราชันชัย เสด็จพ่อศรีชัยวรมัน พุทธราชะ จตุรโชค ศรีมหาราช
    พระโพธิสัตว์ชัยมหานาถ นะโมพุทโธ คุณแก้วโสภะคะวา สะระณัง อะ ยะธาพุทโมนะ 3-5-7-9 จบ
    (แล้วตั้งจิตถึงองค์ท่านอธิษฐานตามความปรารถนา)

    ตุ๊กตามหาเสน่ห์ หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์
    ตุ๊กตามหาเสน่ห์ สุดยอดเครื่องรางทางด้านมหาเสน่ห์ มหาหลง
    สายเขมรที่แรงและเข้มขลังให้เป็นเครื่องรางติดตัวเป็นสน่ห์ดึงดูดใจเพศตรงข้าม ใครเห็นรักชอบ
    ถ้าเป็นเครื่องรางทางเหนือก็ต้องเป็นอิ่น แต่ถ้าเป็นเครื่องรางทางด้านสายเขมรก็ต้องเป็น ตุ๊กตามหาเสน่ห์
    นี่แหละสุดยอดจริงๆ

    ขุนแผนเนื้อผงอาถรรพณ์ ฝังตะกรุดเงินสาริกาปากผี ใครชอบขุนแผนสายเขมรแบบเฮี้ยนๆแรงๆ ไม่ควรพลาด
    หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ วัดตาอี จ.บุรีรัมย์
    ยอดพระเกจิอาจารย์สายเขมรที่มีสายพระเวทย์สุดเข้มขลังเปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี มีพลังจิตญานขั้นสูง
    หลวงปู่ท่านเป็นพระสงฆ์ สายวิปัสนากรรมฐาน ถือธุดงค์เป็นวัตร
    ท่านเป็นหนึ่งในศิษย์สายเขากุเลนซึ่งเป็นสถานที่ ในการเจริญวิปัสสนากรรรมฐานและพระเวทย์วิทยาคมขั้นสูง
    และยังเคยฝากตัวเป็นศิษย์เล่าเรียนวิชาอาคมจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าอีกด้วย
    ซึ่งข้อมูลนี้น้อยคนที่จะรู้จัก วัตถุมงคลที่หลวงปู่ได้ทำการอธิฐานจิตปลุกเสก ล้วนแล้วแต่แรง เห็นผล
    และสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้บูชามากมาย โดยเฉพาะทางมหาเสน่ห์ เมตตา-มหานิยม โชคลาภ ค้าขาย
    วัตถุมงคลของท่านหลายรายการที่สร้างออกมาแล้วสร้างประสบการณ์ใช้กับผู้ใช้บูชามากเป็นที่กล่าวขานกัน เช่น
    กุมารทองดูดรก(พรายขอดทรัพย์)ที่มีประสบการณ์สูงทางด้าน โชคลาภ ค้าขาย และ
    ขุนแผนของท่านก็เป็นที่นิยมสูง
    ถึงแม้หลวงปู่ท่านจะมรณะภาพไปแล้วแต่ก็ยังมีผู้คนเสาะแสวงหาวัตถุมงคลของท่านอยู่ไม่ขาด
    เพราะว่าใช้แล้วเห็นผลดี
    พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรกัมพูชา ทรงครองราชย์ระหว่าง
    ค.ศ. 1181-1219 พระราชกรณียกิจของพระองค์ที่ฝากไว้ให้กับแผ่นดินนั้นมีมากมาย
    ในสมัยของพระองค์ทรงสร้างสิ่งก่อสร้างทางพุทธศาสนาขนาดใหญ่ คือ ปราสาทบันทายกุฎี ปราสาทพระขรรค์
    ปราสาทบายน (หรือปราสาทตาพรหม) โดยทรงสร้างขึ้นตรงศูนย์กลางพระนครหลวง
    นอกจากนี้พระองค์ยังทรงสร้างสถานพยาบาลขึ้นหลายแห่ง และทรงสร้างโรงพยาบาลต่าง ๆ ไว้เป็นจำนวนมาก
    พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา โดยนำพุทธศาสนามาใช้แทนลัทธิเทวราชา
    ด้วยบุญบารมีที่ท่านสร้างและสั่งสมมา หลังจากเสด็จสวรรคตแล้ว พระองค์ทรงไปจุติเป็นพระโพธิสัตว์
    สถิตย์อยู่ในสรวงสวรรค์
    ดวงตราอาถรรพณ์ชัยมหานาถ ขนาดประมาณ 4 cm. ชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย
    โดยมีมวสารสำคัญคือผงอาถรรพณ์ของราชวงศ์วรมันสรรพสิทธิ์ ของพระเจ้าชัยวรมันมหาราชที่ 7 แห่งอาณาจักรบายน
    ซึ่งผงนี้จะใช้ในพระราชพิธีศักดิ์สิทธิ์ของอานาจักรขอมโบราณ ด้านหน้าเป็นรูปดวงตราอาถรรพถ์ชัยมหานาถ
    ด้านหลังเป็นรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรอยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วยพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ต่างสุดเข้มขลัง
    อธิษฐานจิตบรรจุพุทธาคมปลุกเสก โดยพระเดชพระคุณหลวงปู่ชื่น
    และพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงอีกหลายท่านอาทิเช่น หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด หลวงปู่ธรรมรังษี
    หลังจากพิธีพุทธาภิเศกหลวงปู่ชื่นท่านบอกว่า พระโพธิสัตว์ชัยมหานาถพระเจ้าชัยวรมันมหาราชที่ 7
    ลงมาปลุกเสกและอวยชัยให้ด้วย ดวงตราอาถรรพ์ชัยมหานาถ พุทธคุณครอบจักรวาลดีครบถ้วนทุกทาง
    บูชาไว้เป็นตบะเดชะมหาอำนาจ คุ้มครองป้องกันภัยภยันตรายทั้งปวง เป็นเมตตามหานิยม ขจัดปัดเป่า ป้องกัน
    ถ่ายถอน สิ่งชั่วร้าย อำนาจของคุณไสย์ และเสนียดจัญไรทั้งปวง
    เหมือนมีอำนาจของเทพเทวาป้องป้องคุ้มครองอยู่ตลอดเวลา เป็นสุดของของดี
    การบูชาเหมือนบูชาเทพเทวาองค์หนึ่ง น่าเช่าบูชามากครับ ใครชอบบูชาวัตถุมงคลแบบแรงๆแนะนำรายการนี้ดีมาก

    สีผึ้งวันเพ็ญเดือน 12 สร้างประมาณปี พ.ศ.2545 สร้างขึ้นตามตำราสีผึ้งมหาเสน่ห์ของเขมรอย่างสุดเข้มขลัง
    หลวงปู่ชื่น ดำริให้สร้างขึ้น ในวันขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งเป็นวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันลอยกระทง
    หลวงปู่ชื่น บอกว่าหากทำสีผึ้งในวันนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์ แรงและเข้มขลังมากกว่าวันใดๆ
    โดย หลวงปู่ชื่น ทำพิธีกวนสีผึ้ง ด้วยตัวเอง และทำการปลุกเสกให้อย่างเข้มขลัง สีผึ้งวันเพ็ญเดือน 12 นี้
    ให้ผลแรงมากทางด้านมหาเสน่ห์ มหาหลง เมตตา มหานิยม มีผู้ใช้แล้วให้ผลดีมาก
    ใครชอบใช้สีผึ้งแรงๆแนะนำรายการนี้ครับ น่าบูชามาก

    พระยอดขุนพล เนื้อผง รุ่นแรก ขนาดฐาน 2.2 x สูง 3.8 cm. สร้างประมาณปี พ.ศ.2542
    ถือเป็นพระยุคแรกๆที่ท่านสร้างขึ้น หลวงปู่ได้เก็บไว้ที่กุฏิท่านและทำการอฐิตธานจิตปลุกเสกยาวนาน
    พุทธคุณสูงส่งโดดเด่นทุกทางไม่ว่าจะเป็นทางด้านมหาอำนาจ มหาอุตม์ คงพระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม
    โชคลาภ
    รุ่นนี้พบเห็นน้อยรู้จักกันในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและเป็นที่หวงแหนของผู้ที่รู้ถึงสายพระเวทย์และวิชาอาคมขอ
    งพระเดชพระคุณ หลวงปู่ชื่น เป็นอย่างยิ่ง
    ตะกรุด 9 อาถรรพณ์ เป็นวิชาอาถรรพณ์ ตำรับเขมรที่หลวงปู่ได้ร่ำเรียนมา ซึ่งได้ลงเป็นตะกรุด 9 ดอก
    แต่ละดอกหลวงปู่ท่านได้จารเองทุกดอก และได้ลงอาถรรพณ์ต่างๆไว้ดังนี้
    ดอกที่ 1.ลงอาถรรพณ์พระเจ้าแผ่นดิน
    ดอกที่ 2.ลงหัวใจอาถรรพณ์พญานาคตัวผู้-ตัวเมีย
    ดอกที่ 3.ลงหัวใจอาถรรพณ์ราชา
    ดอกที่ 4.ลงหัวใจอาถรรพณ์
    ดอกที่ 5.ลงหัวใจอาถรรพณ์นครธม
    ดอกที่ 6.ลงหัวใจอาถรรพณ์อัปสร
    ดอกที่ 7.ลงหัวใจอาถรรพณ์นครชุม
    ดอกที่ 8.ลงหัวใจอาถรรพณ์พญาพาลี
    ดอกที่ 9.ลงหัวใจอาถรรพณ์ครูเสน่ห์
    อาถรรพณ์แต่ละอย่างล้วนแล้วแต่มีพลังอำนาจที่แตกต่างกันไป ตะกรุด 9 อาถรรพณ์
    นี้เป็นหนึ่งในวัตถุมงคลของหลวงปู่ ที่ได้รับความนิยมและหวงแหนเป็นอย่างมากในหมู่ลูกศิษย์
    เพราะสร้างน้อยและไม่ค่อยพบเห็นมากนัก พุทธคุณสูงส่งเข้มขลังตามตำรับเขมร
    ครบถ้วนทุกทางไม่ว่าจะเป็นทางด้าน มหาอำนาจ คุ้มครองป้องกันภยันตรายทั้งปวง เป็นมหาเสน่ห์ เมตตา-มหานิยม
    ขจัดปัดเป่า ป้องกัน ถ่ายถอน สิ่งชั่วร้าย อำนาจของคุณไสย และเสนียดจัญไรทั้งปวง
    เป็นสุดยอดของดีที่มีผู้นิยมเช่าหามาก ในบรรดาผู้ที่เคารพศรัทธา หลวงปู่ชื่น ครับ
    คาถาบูชา
    ตั้ง นะโมฯ 3 จบ แล้วตามด้วย
    อาถันโท โมสิตังวะกะริงคะรัง อิสวาสุ อิอาถันโทโมสิตัง วะกะริงคะรังสุสวาอิฯ (9 จบ)
    ขอแนะนำหนึ่งในสุดยอดของขลังทางด้านมหาเสน่ห์ มหาหลง
    ที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ชื่นท่านได้อธิษฐานจิตปลุกเสกไว้ให้ ขุนแผนชมนาง หลังม้าเสพนาง รุ่นรับทรัพย์ ปี
    พ.ศ.2545 สีน้ำตาล แบบแจกกรรมการ ฝังตะกรุดทองคำแท้ 9 ดอก ด้านหน้าเป็นรูปขุนแผนชมนาง ฝังพลอยสีแดง
    ด้านหลังเป็นรูปม้าเสพนางฝังพลอยสีแดง จำนวนสร้างแค่ประมาณ 99 องค์เท่านั้น
    ขุนแผนรุ่นนี้เป็นหนึ่งในวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
    และมีประสบการณ์มากที่สุดอีกรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ เป็นที่เสาะแสวงหาของผู้คนเป็นอย่างมาก
    ใครที่เคยถามรุ่นนี้ไว้รีบเช่าบูชาได้เลยครับก่อนที่จะหมด
    ยิ่งเป็นแบบแจกกรรมการสร้างน้อยมีคุณค่าน่าบูชามากครับ
    วัตถุมงคลรุ่นรับทรัพย์นี้ทำพิธีพุทธาภิเศกเดี่ยวโดยพระเดชพระคุณหลวงปู่ชื่น ที่ปราสาทพนมรุ้ง
    โดยหลังพิธีหลวงปู่บอกว่าเห็นนางฟ้านางอัปสร มาโปรยดอกไม้ทิพย์ไปยังวัตถุมงคลที่หลวงปู่ปลุกเสกด้วย
    จึงไม่เป็นที่สงสัยเลยว่าทำไมวัตถุมงคลรุ่นนี้จึงได้รับความนิยมมากและมีผู้นำไปใช้แล้วดีมีประสบการณ์สูง
    เพราะแม้นแต่เทพเทวดาก็ยังลงมาอวยพร
    พระยอดขุนพล เนื้อผง รุ่นแรก ขนาดฐาน 2.2 x สูง 3.8 cm. สร้างประมาณปี พ.ศ.2542
    ถือเป็นพระยุคแรกๆที่ท่านสร้างขึ้น หลวงปู่ได้เก็บไว้ที่กุฏิท่านและทำการอฐิตธานจิตปลุกเสกยาวนาน
    พุทธคุณสูงส่งโดดเด่นทุกทางไม่ว่าจะเป็นทางด้านมหาอำนาจ มหาอุตม์ คงพระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม
    โชคลาภ
    รุ่นนี้พบเห็นน้อยรู้จักกันในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและเป็นที่หวงแหนของผู้ที่รู้ถึงสายพระเวทย์และวิชาอาคมขอ
    งพระเดชพระคุณหลวงปู่ชื่นเป็นอย่างยิ่งครับพระยอดขุนพล เนื้อผง รุ่นแรก ขนาดฐาน 2.2 x สูง 3.8 cm.
    สร้างประมาณปี พ.ศ.2542 ถือเป็นพระยุคแรกๆที่ท่านสร้างขึ้น
    หลวงปู่ได้เก็บไว้ที่กุฏิท่านและทำการอฐิตธานจิตปลุกเสกยาวนาน
    พุทธคุณสูงส่งโดดเด่นทุกทางไม่ว่าจะเป็นทางด้านมหาอำนาจ มหาอุตม์ คงพระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม
    โชคลาภ
    รุ่นนี้พบเห็นน้อยรู้จักกันในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและเป็นที่หวงแหนของผู้ที่รู้ถึงสายพระเวทย์และวิชาอาคม
    พระขุนแผน รุ่นรับทรัพย์ ปี 2545 (ปลุกเสกพร้อมกับขุนแผนหลังม้าเสพนาง) เนื้อผงว่านสีดำ
    ฝังตะกรุดสามกษัตริย์ ๓ ดอกฝังพลอยสีแดง มีจีวรด้านหลัง พุทธคุณโดดเด่นทางด้านมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม
    โชคลาภ ค้าขายครับ
    ชุดที่ได้มานี้พิเศษหลวงปู่ได้อฐิษฐานจิตปลุกเสกให้อีกรอบหนึ่งพุทธคุณสุดเข้มขลังมากขึ้นครับ
    ใครที่อยากบูชาขุนแผนชมนางหลังม้าเสพนาง
    บูชารุ่นนี้แทนก็ได้ครับเพราะแรงเหมือนกันคาถาด้านหลังก็เป็นคาถาเดียวกัน
    ปลุกเสกพร้อมกันและที่พิเศษชุดที่ได้มานี้นำมาจากกุฏิหลวงปู่ซึ่งหลวงปู่ได้ปลุกเสกให้อีกเป็นพิเศษนอกเหน
    ือจากที่ปลุกเสกในพิธี
    นกถึดทือหรือว่านกฮูกนั้นเป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางคืนมีสายตาที่ยาวไกลและยังสามารถจับเหยื่อได้แม่นยำ
    อีก นกถึดทือทางนั้นเดียเขาถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการทำมาหากินไม่ฝืดเคือง
    ซึ่งชาวอินเดียนั้นถือว่านกฮูกมีความเกี่ยวพันกับพระลักษมีเทวีแห่งควมมั่งคั่ง
    อุดมสมบูรณ์ซึ่งเกี่ยวกับปางหนึ่งของพระนางที่เกี่ยวกับการให้ผลทางความสมบูรณ์ทางพืชพันธุ์ก็จะมนกฮูกประ
    กอบอยู่
    คติความเชื่อของไทยเรานั้นบางคนเห็นรูปนกฮูกที่ดูคล้ายนกแสกจะมีอคติทันทีว่าเครื่องรางแบบนี้ต้องเป็นสิ่
    งไม่ดีแน่เป็นศาสตร์แห่งไสยเวทย์มนต์ดำหรือเปล่า ต้องบอกเลยว่าศาสตร์นี้ไม่ใช่มนต์ดำ
    เป็นศาสตร์แห่งการณ์ทำมาหากินโดยตรงและมีอุปเท่ห์การใช้ต่างๆมากมาย นกถึกทือนี้ใช้ทางด้านเสน่ห์ เมตตา
    มหานิยม ช่วยเรื่องทำมาหากินคล่อง ป้องกันการกระทำทางคุณไสย์ ล้างอาถรรพณ์สิ่งที่ไม่ดีได้

    พระเดชพระคุณ หลวงปู่ชื่น ท่านได้สืบสานตำนานพระเวทวิทยาคมสายเขมรโบราณอันสุดเข้มขลัง
    โดยสร้างตะกรุดนกทึกทือขึ้น โดยตะกรุดแต่ละดอก หลวงปู่ชื่นได้เมตตาจารให้เองทุกดอก
    จากนั้นนำตะกรุดทั้งหมดมาทำการปลุกเสกบรรจุพลังเวทให้เข้มขลังตามตำรา ตะกรุดนกทึกทือ
    ใช้ดีทางด้านเจรจาค้าขาย เมตตามหานิยม โชคลาภ ทำมาหากินกล่อง กันคุณไสย์เสนียดจัญไรต่างๆ
    มีผู้นำไปใช้บูชาแล้วมีประสบการณ์มากมาย จากประสบการณ์ของผู้ที่บูชาตะกรุดนี้ไปจากศูยน์
    บางท่านนำตะกรุดนี้บูชาติดตัวมีงานเข้ามาไม่ขาด น่าบูชามากครับ โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ขาย ศิลปิลนักแสดง
    นักการขาย บุคคลทั่วไปที่ต้องการความสำเร็จ
    ขอเชิญ ทำบุญบูชา รูปหล่อ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ จัดสร้างโดย วัดคลองนนทรี รายได้ สร้างศาลาการเปรียญ
    ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.uamulet.com/newsBoardDetail.asp?qid=19896
     
  10. อิทธิปาฏิหาริย์

    อิทธิปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,834
    ค่าพลัง:
    +1,472
    ขอเชิญ ทำบุญบูชา รูปหล่อ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ จัดสร้างโดย วัดคลองนนทรี รายได้ สร้างศาลาการเปรียญ
    ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.uamulet.com/newsBoardDetail.asp?qid=19896
     
  11. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ถ้าเธอไม่ทำให้กับบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คนกลุ่มนั้นก็จะพากันว่าพากันนินทา พากันพูดเสียดสี หนักเข้า ๆ อารมณ์จิตของเธอก็จะไม่ดีตกอยู่ในอำนาจของโทสะ ฌานต่าง ๆ มันก็จะเสื่อม หรือว่าถ้าหากว่าฌานไม่เสื่อม คนก็จะติดในฤทธิ์ ในเมื่อคนติดในฤทธิ์เสียแล้ว พระอื่นแสดงฤทธิ์ไม่ได้ คนเขาก็ไม่เลื่อมใส แล้วคนที่ติดในฤทธิ์ทั้งหมดก็ไม่ต้องการบุญต้องการกุศล ต้องการอย่างเดียวคือให้พระแสดงฤทธิ์ให้ดู อย่างนี้ศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็จะเสื่อม


    อนุโมทนาด้วยครับ
     
  12. อานนท์

    อานนท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +305
    อานนท์

    โมทนาบุญด้วยครับ เป็นความรู้ทีเดียวครับ
    ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข.......ย่อมละได้
     
  13. prapatpong

    prapatpong Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +128
    อนุโมธนาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...