เมื่อหลวงปู่ปานชี้ให้หลวงพ่อเห็นโทษของการครองเรือน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 30 สิงหาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]



    สำหรับการปฏิบัติตัวก็เหมือนกัน พระท่านนั่งคุยที่ไหน ไปที่ไหน ก็ไปด้วยกัน เว้นไว้แต่เวลาอยู่ เราก็อยู่ในป่าช้าของเราตามปกติ เวลาออกมาก็คุย คุยสนุกสนานตามปกติธรรมดา ไม่แสดงตัวว่า ฉันกับเธอน่ะไม่เหมือนกันนะ ตัดมานะตัวนี้ออกไป ต่อมาก็มีความรู้สึกทางใจว่า เรานี่คงไม่สามารถชนะกิเลสแน่ ถ้าไม่ชนะกิเลส เราจะอยู่หรือเราจะสึก ในเมื่อเราออกพรรษาไปแล้วก็มานั่งปรึกษากัน ๓ องค์ ว่า ถ้าเราอยู่ต่อไป เราก็ขาดจากงานที่เราเป็นลูกจ้างเขา นี่เราลาเขาเพียงแค่ไม่กี่เดือน เวลานี้มันก็ครบแล้ว
    ถ้าหากว่าเกินเวลาไป ถ้าเราสึกไป เขาก็ไม่จ้างเรา ถ้าเราจะอยู่ ถ้าอยู่ไม่ตลอดมันก็ไม่ดีเหมือนกัน เวลานี้กิเลสทุกอย่างมันก็ห้ำหั่นเรา เราไม่ได้หั่นกิเลส ถ้าอย่างนั้น เอาอย่างนี้ดีกว่า เราสึกกันดีกว่า สึกไปหากิเลส อยู่กับกิเลสให้มันช่ำใจ ให้มันเบื่อกิเลส เพราะการเคล้าคลึงกับกิเลส ในเมื่อเราเบื่อกิเลส เราก็บวชใหม่ ปรึกษากันตอนเช้า

    พอดีตอนเช้า หลวงพ่อปานท่านก็เดินผ่านถึงหน้าบันได ท่านก็เอาไม้เท้าเคาะบันได ป๊อก ๆๆๆ หันไปหาท่าน ยกมือไหว้ ท่านบอก ว่าอย่างไร อยากไปหาเป็นขี้ข้ากิเลสอย่างนั้นรึ มันไม่มีทางชนะหรอก ออกไปแล้วนอกจากตัวเราคนเดียว เราก็ห่วงขันธ์ ๕ ต่อไปไม่ช้า นี่คุณระหว่างที่บวชอยู่นี่ผู้หญิงเขาจองหลายคนนะ ทั้งสามองค์นี่ แกอย่านึกว่า ฉันเป็นพระแก่ ฉันไม่รู้นะ ฉันรู้ว่าใครเขาจองเธอหลายคน และที่เขาจองเธอหลายคนนี่สักคนหนึ่งในจำนวนนั้นอาจจะชนะใจเธอ ในเมื่อเขาชนะใจเธอแล้วเธอก็แต่งงานกับเขา

    แต่งงานก็เลยเป็นขันธ์ ๑๐ คนเดียวขันธ์ ๕ สองคนขันธ์ ๑๐ ต่อมาลูกออกมา ก็เป็นขันธ์ ๑๕ ลูกออกมาอีกก็เป็นขันธ์ ๒๐ เพียงแค่ขันธ์ ๕ อย่างเดียว ยังมีทุกข์อย่างนี้ จะต้องการขันธ์ ๒๐, ๓๐, ๔๐ ขันธ์ มันจะมีความสุขได้อย่างไร ความห่วงใยที่คิดว่าจะตัดกิเลส มันตัดไม่ออก กิเลสมันพอกมากขึ้น ตัดสินใจเองก็แล้วกันนะว่า อยากจะเป็นอิสระหรืออยากจะเป็นขี้ข้าเขาต่อไป ท่านพูดแล้วท่านก็ยิ้ม ท่านก็เดินกลับ

    เราก็นึกในใจว่า เออ…มีเมีย เราก็เป็นขี้ข้าเมีย มีลูก เราก็เป็นขี้ข้าลูก ไปไหนไม่อิสระ บวชต่อไปดีกว่า เมื่อมันทนไม่ไหวจริง ๆ เราก็สึก สึกแล้วเรารับจ้างที่เดิมไม่ได้ เราก็ทำมาหากินปลูกผักปลูกหญ้าไปตามเรื่องตามราวก็แล้วกัน ฐานะก็พอมีอยู่บ้าง มันไม่ร่ำไม่รวยก็ช่างมันเถอะ มีพอกินไปวันหนึ่ง ๆ ก็ตัดสินใจอยู่


    ที่มา http://praruttanatri.com/v1/special/books/anlen/story15.htm
     

แชร์หน้านี้

Loading...