เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเสด็จมารักษาอาการป่วยของหลวงพ่อ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 23 สิงหาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444



    [​IMG]


    พุทธพยากรณ์ คำว่า พุทธพยากรณ์ ไม่ได้หมายความว่าพระพุทธเจ้าพยากรณ์ไว้ก่อนนิพพาน พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๘ เพราะว่าในระหว่างนั้น ก่อนหน้านั้น ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๑ อาตมาได้รับพระราชดำรัสจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ที่พระราชวังสวนจิตรลดา ว่า ขอให้ตั้ง ศูนย์สงเคราะห์บุคคลผู้ยากจนในถิ่นทุรกันดาร ก็ทำตามรับสั่งของท่านเรื่อยมา ก็มีบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้า

    ต่างก็สละทรัพย์สินเป็นเงินบ้าง เป็นวัตถุบ้าง เป็นอาหารบ้าง เป็นผ้าผ่อนท่อนสไบบ้าง เป็นข้าวบ้าง ก็ช่วยกันจำนวนมาก เป็นการบรรเทาทุกข์เฉพาะเวลา แก่ท่านทั้งหลายกำลังตกอับ เวลานั้นฝนแล้งมาก ข้าวปลาไม่ได้กินหลังจากนั้นมา ปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ก็เริ่มป่วย มีอาการไข้เพราะการเข้าป่า ถ้าพูดตามภาษาชาวบ้าน เขาเรียกว่า ไข้ป่า ไข้ป่ากินมาแล้วทางท้องก็กำเริบ มันไม่ถ่าย ใช้ยาแบบไหนก็ไม่ไหว ใช้หมอรักษาแบบไหนก็ไม่ลด มันเอาหนัก สภาพที่เรียกว่า เอากันขั้นตาย เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๘ เวลานั้นอาการเครียดมา วันหนึ่งออกไปจากร่างกาย ไปยืนดูประสาท การไหลวนไปมาของเลือดเป็นอย่างไรบ้าง

    มันไหลได้น้อย ช้าเต็มที เท่าที่สังเกตว่า คนที่เขาจะตายจริง ๆ เลือดไหลเร็วกว่านั้น และก็ประสาทบางส่วน เลือดเกือบจะไม่ไหล มีอาการซึม ๆ ก็คิดว่า อาการอย่างนี้ไม่ใช่อาการของคนอยู่เป็นอาการของคนตาย จึงกราบทูลองค์สมเด็จพระจอมไตร คือ พระพุทธเจ้าว่า ในเมื่อร่างกายมันเป็นอย่างนี้ มันทนไม่ไหว ขอลาตาย คือ ลาจากร่างกายนี้ ไปอยู่ในสถานที่ที่ควรจะไป แต่ทว่าองค์สมเด็จพระจอมไตรท่านตรัสว่า เอาไว้ก่อน ยังจะไปก่อนไม่ได้ ฉันต้องการจะใช้ร่างกายของเธอทำงานต่อไป ขออยู่ช่วยงานกันก่อน ก็ถามท่านว่า จะอยู่ช่วยงานอย่างไร นี่มันไปไม่ไหวแล้ว ท่านก็บอกว่า ฉันจะเอาไว้ให้ได้ หลังจากนั้นท่านก็บอกยา ยาก็เป็นยาแพทย์แผนปัจจุบัน

    บอกยาขนานนั้นบ้างบอกยาขนานนี้บ้าง นายแพทย์ก็ช่วยกัน ในระหว่างนั้น นายแพทย์ประสิทธิ์ ฟู่ตระกูล กำลังทำการรักษาอยู่ ท่านก็ช่วยทุกอย่าง เมื่อมีอาการหนักขึ้นมาเมื่อไร ก็ปรากฏว่านายแพทย์ประสิทธิ์ มาทันทีทันใด หลังจากนั้นก็มีแพทย์มาช่วยกันหลายคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้ แพทย์ก็ช่วยกันมาก เช่น นายแพทย์จรูญ ปิรยะวราภรณ์ แพทย์หญิงแสงโสม ปิรยะวราภรณ์ นายแพทย์ชนะ สิริยานนท์ นายแพทย์มนตรี อมรพิเชษฐ์กุล นายแพทย์วัฒนะ ฐิตะดิลก แพทย์หญิงพงศ์ภารดี (ปุ๊ก) เจาฑะเกษตรินทร์ นายแพทย์นพพร แพทย์หญิงเตือนใจ กลิ่นสุภา นี่ฝ่ายฟัน และนายแพทย์พิเชษฐ์ จันทร์อิสสระ กับภรรยา ท่านเป็นแพทย์เหมือนกัน ที่อยุธยา

    ต่างคนต่างก็ช่วยกันอย่างหนัก ท่านบอกยาอะไรมา หมอก็หาตามนั้นมาให้ อาการโรคอย่างไหน หมอก็หามาให้ การที่มีแพทย์รักษามาก ๆ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทไม่ใช่ว่าจะจ่ายเงินมาก นายแพทย์เป็นคนจ่ายทั้งหมดที่พูดมานี้ทั้งหมด แพทย์เป็นคนจ่าย และไม่จ่ายเฉพาะค่ายาค่ารถ จ่ายสตางค์ให้กินให้ใช้ด้วย มันก็ดีขึ้นมาไม่ได้ มันมีแต่จะตกอับไปทุกที ลดตัวลงไปทุกที อาการหนักขึ้นมาทุกที แต่ทว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายเวลาที่พบหน้ากัน มีหลายคนบอกว่า ไม่เห็นมีอาการป่วย นี่ขอพูดตรง ๆ ว่า เป็นลีลาของพระถ้าจะถามกันอีกที ก็บอกกันว่า พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว นิพพานมีสภาพสูญ ไม่มีอะไรทั้งหมดจะพบพระพุทธเจ้าได้อย่างไร ในตอนนี้ก็ไม่ขอตอบ ไม่ขอเถียงใคร เพราะถ้าเถียงกันทั้ง ๒ ฝ่าย ก็จะกลายเป็นคนบ้าทั้ง ๒ ฝ่าย ตอนนี้อาตมาขอบ้าคนเดียว บ้าฝ่ายเดียว บ้าพบพระพุทธเจ้าได้ก็แล้วกัน ในเมื่อพระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ฉันจะเอาไว้ให้ได้ ท่านก็หาแพทย์มา แพทย์ต่าง ๆ มาตามความต้องการของท่าน และก็ตรงกับจุดของโรคที่เป็น แพทย์ก็เก่งจริง ๆ หายาได้ตรงกับโรค แต่โรคก็ได้แต่ทรงตัว นาน ๆ ไปก็ทรุดนิดหนึ่ง ดีไม่ดีก็ทรงตัวต่อมา เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๑ เดือนธันวาคม เวลานั้นอาตมาไม่สบายมาก อาการเครียดจัด ดูเหมือนว่าท่าทางจะไม่ไหว

    ร่างกายนอนอยู่ที่เตียง แต่ว่าจิตใจไปนอนที่นิพพาน นี่พูดกันตรง ๆ นะ ใครไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ ถ้าอยากเชื่อก็เชื่อ พูดกันอย่างพระ และในที่สุดก็ตัดสินใจว่า วันนี้เราจะไม่กลับ เวลานั้นเวลาประมาณตีสองเศษ ๆ เรียกใครเขาก็ไม่ไหว อาการทางร่างกาย ท้องก็อืดขึ้นมา มันอืดขึ้นจุกหน้าอกไม่มีอาการเสียด แต่มีอาการเพลียมาก ก็คิดว่า ปล่อยให้ร่างกายมันตายไปเถิด ขออยู่ที่นี่ดีกว่า เวลานั้นก็พบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบอกว่า อย่าเพิ่งตัดสินใจแบบนั้น การตัดสินใจแบบนั้นไม่ถูก เพราะฉันต้องการร่างกายของเธอทำงานต่อไป (วันนี้เสียงแห้งมาก โยม)ก็ถามท่านว่า จะทำงานไหวหรือ ท่านบอกว่า ต้องไหวบอกว่า อาการนี่มันจะตายอยู่แล้วนะครับ ท่านบอกว่า ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป อีก ๒ ธันวาฯ คือถึงธันวาฯ ปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ร่างกายของเธอจะดีเป็นปกติ จากนี้ไปถึงเดือนมีนาคม ร่างกายจะดีขึ้น ถึงเดือนเมษายนจะดีขึ้น เดือนพฤษภาคมจะดีขึ้น แต่ว่ากรรมบางอย่างที่เป็นอกุศลที่ทำไว้ มันก็จะริดรอนในระหว่างเป็นธรรมดาและก็ต่อมา

    เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ท่านก็มาบอกยา ให้หมอไปหา ก็หมอจรูญกับหมอชนะกับหมอมนตรีด้วยละมั้ง ไปช่วยหายาที่ท่านบอก ก็ได้มาแค่ ๒ หลอด บอกอาการที่เป็นอยู่นี่ อาการไข้มันไม่ได้คลายตัว มันเกาะกินอยู่ข้างในให้ใช้ยานั้นมาฉีดทำลายเชื้อไข้ เชื้อไข้มันกินมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๕ หมอไปหายามาได้แล้ว ต่อมาก็หาเพิ่มมาอีก ก็ฉีด ฉีดจนอาการนั้นคลายตัว แต่มันก็ยังไม่ดีขึ้นนัก ต่อมาท่านก็บอกยาอีกขนานหนึ่ง ความจริงเวลานอนธรรมดามันจะไม่หลับ ต้องใช้ยาให้หลับ อาการไม่หลับนี่ ความจริงถ้าไม่มีงานประจำ ไม่ใช่ของแปลก เราก็อยู่ด้วยธรรมปีติ สบาย ๆ จะเป็นไรไป ทีนี้เวลาเช้าจะต้องมีงาน เวลาบ่ายจะต้องพบกับแขก งานมันก็หนักเกินตัว ก็ต้องใช้ยาช่วยให้หลับ ไม่อย่างนั้นร่างกายจะแย่ พอได้ยาประสาทขนานนี้มาก็รู้สึกว่าประสาทในร่างกายดีขึ้นมา ค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งเห็นว่าประสาทในร่างกายใกล้จะสมบูรณ์ แต่ทว่าอาการรวนเรทางร่างกายยังมีอยู่มากอุจจาระถ่ายมันก็ไม่ค่อยจะออก ก็ต้องใช้การสวนกัน ใช้วิธีสวนกันมานี่ตั้ง ๓ ปี

    บางทีสวนทุกอาทิตย์ ท่านทั้งหลายลองคิดดูว่า มันจะไหวไหมแต่ต่อมาก็ถามท่านบอกว่า ยาขนานนี้เป็นยาถึงที่สุดแล้วหรือยัง ท่านบอกว่า ยัง จะต้องมียาสมุนไพรอีกชุดหนึ่ง จึงจะหาย ก็พอดีเดือนพฤษภาคม ๒๕๓๓ ๒-๓ วันนี้เอง ก็พบท่านเจ้าของยามีลูกสาวแนะนำว่า แม่ของเธอเป็นโรคอาการคล้ายคลึงแบบนี้อาการแย่เต็มที แม่ของเธอหายด้วยยาหมอนี้ แต่ว่าลูกสาวคนนี้ก็ดี หมอก็ดี ไม่ต้องการให้ประกาศตัว เขาไม่ต้องการให้ประกาศว่าเธอคือใคร หมอคือใคร นี่แปลกเหมือนกัน ระหว่างนี้ก็ใช้ยาแพทย์แผนปัจจุบันที่ท่านบอก ที่หมอสั่งไว้ก็ดีแล้วยาสมุนไพร ยาสมุนไพรนี่ใช้มา ๓-๔ วัน รู้สึกว่าอาการดีขึ้นมา ค่อย ๆ ดีขึ้นท่านก็บอกว่า ร่างกายอย่างนี้จะถือว่าดี ไม่ได้ ยังต้องบังคับการขับถ่ายอยู่ ยังกินไม่ค่อยได้ นอนไม่ค่อยหลับ การจะหลับก็ต้องใช้ยา หมอบอกว่า ยาที่ให้มานี่เป็นยาปรับปรุงร่างกายเสีย ๗๐ เปอร์เซ็นต์ แล้วเป็นยารักษา ๓๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะร่างกายรวนเรมาก ประสาทเรรวนมาก

    ต่อไปเมื่อประสาทไม่เรรวนแล้วก็จะให้ยารักษาโรคโดยตรง เมื่อรักษาหายดีแล้วให้ยาบำรุง เห็นว่าถ้าเป็นอย่างนี้จริงก็คงจะหายกัน ธันวาคม ๒๕๓๓ ตามพุทธพยากรณ์ นี่เป็นอันว่า พระพุทธพยากรณ์ที่ทรงพยากรณ์ไว้ตรงทุกอย่างบรรดาท่านพุทธบริษัททีนี้หากมีคนเขาเถียงว่า พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้วพบได้อย่างไร ตอนนี้ก็ขอตอบว่า มีพระมาก พระสมัยก่อนซึ่งไม่นานนักอย่าง หลวงพ่อโหน่งก็ดี หลวงพ่อเนียมก็ดี หลวงพ่อปานก็ดี หลวงพ่อจงก็ดี ที่อาตมาอยู่ใกล้ หรือว่า พระครูอุดมสมาจารย์ (พระครูสังข์) วัดน้ำเต้า อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็ดี นี่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปาน ท่านใช้คำว่า พระ ท่านจะทำทุกอย่างต่อเมื่อพระสั่งหรือพระยินยอมให้ทำ

    เมื่อถามท่านแล้ว ท่านก็บอกว่า พระ คือ พระพุทธเจ้า ทีนี้สำหรับพระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว นักวิชาการต่าง ๆ เขาเถียงว่า นิพพานมีสภาพสูญ อาตมาก็ไม่ขอเถียงกับพวกนักวิชาการ ขอพูดเฉพาะบุคคลผู้ปฏิบัติที่ได้ผลเท่านั้น นักปฏิบัติที่ปฏิบัติได้ผลตรงตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริง ๆเอากันตั้งแต่หลักสูตร วิชชาสาม อภิญญาหก ปฏิสัมภิทาญาณ สามส่วนนี้ ถ้าทั้ง ๓ ส่วนนี้ละก็ เขาจะยืนยันว่า นิพพานมีสภาพไม่สูญ และถึงแม้ว่า ท่านสุกขวิปัสสโก ท่านจะไม่เห็นนิพพาน ท่านก็ยืนยันว่า นิพพานมีสภาพไม่สูญ แต่ท่านอาจจะไม่เถียงกับใครเขา โดยเฉพาะพระวิชชาสามก็ดี อภิญญาหกก็ดี ปฏิสัมภิทาญาณก็ดี ถ้าอย่างนี้ไปพูดกับท่าน ถ้าพูดอย่างอวดรู้ท่านก็คงจะไม่ตอบ ท่านคงจะนิ่งทั้งนี้เพราะอะไร คำว่า หูหนวก หมายความว่า ฟังเสียงที่เป็นทิพย์ไม่ได้ยิน ตาบอด ไม่เห็นสภาพที่เป็นทิพย์ ท่านก็บอกว่า นิพพานปราศจากขันธ์ ๕ อันนี้ก็ยอมรับ ทีนี้เรามาคุยกันอีกที พวกที่บอกว่า นิพพานสูญ เขายืนยันว่า นรกมีจริงไหม สวรรค์มีจริงไหม พรหมโลกมีจริงไหม ถ้าเขาบอกว่า มี ก็ถามเขาดูทีหรือว่า นรกมีขันธ์ ๕ ไหม เปรตมีขันธ์ ๕ ไหม อสุรกายมีขันธ์ ๕ ไหม เทวดา นางฟ้า พรหมมีขันธ์ ๕ ไหม ถ้าใครคนไหนตอบว่า มี ก็ทราบว่า คนนั้นบ้า ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ท่านทั้งหมดพวกนี้ ท่านไม่มีขันธ์ ๕ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคเทวดามีร่างกายเป็นทิพย์ ภาคนรกเป็นร่างกายของบาป ไม่มีขันธ์ ๕ เช่นเดียวกัน

    ในเมื่อเทวดา นางฟ้า หรือพรหม ท่านไม่มีขันธ์ ๕ แต่ว่าคนที่มีตาทิพย์สามารถมองเห็นได้ คนที่มีหูทิพย์สามารถฟังเสียงท่านได้ตามปกติ แล้วคนที่มีความเป็นทิพย์ของจิตเขาสามารถจะคุยกับเทวดากับพรหม กับนางฟ้าได้ ทีนี้เราพูดกันถึงนิพพาน นิพพานก็ไม่มีขันธ์ ๕ เขาบอกว่า นิพพานไม่มีเมืองก็อย่าไปเถียงเขาเลย การเถียงคนบ้า ท่านจะบ้าไปตามเขาด้วย ในเมื่อคนบ้าพูดอะไรมา เป็นที่ไม่ถูกใจไม่ต้องตามทำนองคลองธรรม ก็ต้องนิ่งเสีย ถ้าท่านไปเถียงเข้า แสดงว่า ท่านยอมรับความเป็นบ้าของเขา ท่านก็บ้าด้วย

    ทีนี้ในเมื่อเทวดากับพรหม ท่านมีความเป็นทิพย์ มีวิมานเป็นที่อยู่ได้ แล้วก็นิพพานมีความเป็นทิพย์สูงสุดกว่า สะอาดกว่าเทวดาหรือพรหม เทวดากับพรหมมีจิตสะอาดนิดหน่อย คือว่า มี หิริ และโอตตัปปะ อาจจะทำบาปมาก ๆ แต่ว่าเวลาใกล้จะตาย จิตใจนึกถึงบุญ ถ้านึกถึงบุญมีกำลังใจอ่อนหน่อยหนึ่งก็สามารถเป็นเทวดา เป็นนางฟ้าได้ ถ้านึกถึงบุญมีกำลังใจเข้มข้น มีความเข้มแข็งที่เรียกกันว่า ฌาน ก็สามารถไปเป็นพรหมได้ ทีนี้ถ้าคนที่ถึงนิพพาน มีจิตสะอาดที่สุด ทำไมจะไปนิพพานไม่ได้

    ในเมื่อเทวดากับพรหม ซึ่งมีบุญญาธิการน้อยกว่านิพพาน มีวิมานที่เป็นทิพย์อยู่ได้ คนที่จะไปนิพพานมีความสะอาดของจิตมา มีบุญญาธิการมากทำไมจะมีวิมานอยู่ไม่ได้ เวลานี้แม้แต่เด็ก ๆ เล็ก ๆ ก็รู้จักนิพพาน คนแก่ที่ยากจนเข็ญใจก็รู้จักนิพพาน คนหนุ่มคนสาวก็รู้จักนิพพาน เขารู้จักกันเยอะ แล้วพวกที่สอนคนให้ไปสวรรค์ ไปพรหมโลก สามารถจะไปนิพพานได้ไหม รู้จักนิพพานไหม ถ้าไม่รู้จักนิพพานก็พึงทราบเถิดว่า สภาวะของท่านหรือการปฏิบัติของท่านความรู้สึกของท่านตรงกันข้ามกับพระพุทธเจ้า คือว่า ไม่ปฏิบัติตามธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนจริง ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะติดตำรา ตำรานี่เขาเขียนถูก แต่กำลังใจของท่านมีความเข้าใจไม่ถูก

    ที่บอกว่า นิพพานํ ปรมํ สุญญํ มักจะอ้างกันว่า นิพพานมีสภาพสูญ ถ้าอ้างอย่างนี้ก็แสดงว่า ไม่มีความรู้เลย คำว่า สูญ เขาแปลว่า ว่าง นิพพานํ ปรมํ สุญญํ แปลว่า นิพพานเป็นธรรมว่างอย่างยิ่ง คือว่า ธรรมว่างอย่างยิ่ง ไม่ใช่ สภาพว่างอย่างยิ่ง คำว่า ว่าง ก็หมายถึงกิเลส คือ ความชั่ว ความชั่วในใจนิดหนึ่ง ที่เป็นความชั่วทางความรักก็ดี ความโลภก็ดี ความหลงก็ดี ความติดในร่างกายของเราก็ดี ของคนอื่นก็ดีติดในวัตถุก็ดี ติดในภพ ในชาติก็ดี ไม่มีกับบุคคลนั้น ถ้าอาการอย่างนี้มีอยู่กับบุคคลผู้ใด บุคคลนั้นสามารถเข้าถึงนิพพานได้ ถ้าสวรรค์ ก็แค่มีจิตเป็นบุญนิดหน่อยไปสวรรค์ได้ พรหมโลก มีจิตเป็นฌานนิดเดียว ก็ไปพรหมโลกได้ ก็รวมความว่า พุทธพยากรณ์ ท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นเรื่องของท่าน วันนี้มาพูดกันให้ฟังที่ท่านพยากรณ์บอกว่า จะต้องมียาสมุนไพร อีกขนานหนึ่ง เข้ามาช่วยกับยาที่หมอจัดหาให้ และร่างกายจะดีขึ้น ความจริงพอกินเข้าไปประมาณ ๓ วัน มันก็เริ่มดีขึ้น จนกระทั่งวันนี้ก็รู้สึกว่า ร่างกายดีขึ้นมาก แต่ว่าเสียงมันแห้ง เป็นของธรรมดา ทั้งนี้เพราะว่า ก่อนที่จะมาพูดนี่ไปขี้มาแล้ว คอมันก็แห้ง เสียงมันก็แห้ง แต่ก็จำเป็นต้องพูด ถ้าไม่พูดเกรงว่าหลายวันจะลืมไป เผอิญเมื่อคืนนี้โทรศัพท์กับคนที่เขาติดต่อหมอ เขาบอกว่า ห้ามออกชื่อเขา เขาไม่อยากจะปรากฏชื่อในการช่วยเหลือ ก็น่าแปลก เพราะหมอเองก็ไม่อยากจะปรากฏชื่อ และหมอกำลังคิดจะเตรียมยา จะจัดยามาอีก หมอจะมาตรวจให้อีก เป็นอันว่า ทั้งหมด แพทย์แผนโบราณกับแพทย์แผนปัจจุบันช่วยกัน ก็มีผลด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย แพทย์แผนปัจจุบันประคับประคองมาหลายปี จนกระทั่งประสาทเริ่มมีกำลังขึ้นเวลานี้ แพทย์แผนโบราณมาช่วยอีกชั้นหนึ่ง ก็อาศัยยาทั้ง ๒ ประเภทนี้ร่วมกัน ร่างกายค่อย ๆ ดีขึ้น ค่อย ๆ มีกำลังขึ้น




    ที่มา หนังสืออ่านเล่นเล่ม20 http://praruttanatri.com/v1/special/books/anlen/story17.htm
     
  2. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ร่วม [​IMG] อนุโมทนาบุญด้วยครับ.^./|\.^. [​IMG]
     
  3. noi

    noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,120
    ค่าพลัง:
    +47,443
    [​IMG]ด้วยครับ
     
  4. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,307
    ขออนุโมทนาบุญ...ด้วยครับ
    Dangcarry
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. แค่ได้รู้

    แค่ได้รู้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +43
    ขออนุโมทนาด้วยครับ

    เจริญในสีลที่สมบูรณ์ ธรรมที่แท้จริงครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • index.jpg
      index.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13 KB
      เปิดดู:
      111
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2007
  6. webchit

    webchit สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +11
    นิพพานที่มีสภาพเป็นสูญ อันที่จริงน่าจะเป็นการไม่มาเกิดอีกของวิญญาณหรือจิตในร่างกาย เพราะไม่มีกายเป็นเครื่องห่อหุ้มอีกต่อไป
     
  7. นพสร

    นพสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    548
    ค่าพลัง:
    +1,175
    ^_^
     

แชร์หน้านี้

Loading...