เปิดให้บูชาเพชรพญานาค ชุดสัตตรัตนะ จากถ้ำในแถบเทือกเขาภูพาน ปิด 28 มกราคม 2567

เปิดให้บูชาเพชรพญานาคสัญฐานหยดน้ำ รูปหัวใจ และแบบหลังเบี้ย จากถ้ำในแถบเทือกเขาภูพานค่ะ

มีทั้งหมด ๓ ชุด ชุดที่ ๓, ๔ และ ๖ บูชาชุดละ ๑,๙๙๙ บาท

 

กติกา


1.ปิดให้บูชาเวลา 16.19 น. ราชาฤกษ์ 28 มกราคม 2567

2.บูชาชุดละ 1,999 บาท (รวมค่าส่งแล้ว) โดยแจ้งความประสงค์ในกระทู้

3.โอนปัจจัยภายใน 29 มกราคม 2567 24.00 น. มิฉะนั้นจะถือว่าท่านสละสิทธิ์ค่ะ

4.ปัจจัย 5% จากยอดบูชา ร่วมบุญต่าง ๆ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะคะ


ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ

 

แก้วมณีนาคาราช


แก้วมณีนาคราช หรือ “ลูกแก้วพญานาค” หรือบางตำนานเรียกว่า “แก้วจันทรกาล”เป็นดวงแก้วประจำกายของพญานาค และเกิดขึ้นด้วยบุญฤทธิ์ของพญานาคองค์นั้นๆ การปรากฏของดวงแก้วประจำกาย มิได้เกิดขึ้นพร้อมการจุติแบบโอปปาติกะของพญานาค แต่บังเกิดขึ้นในวัยอันควร เมื่อถึงเวลาที่พญานาคนั้นโตเต็มที่ ก็จะต้องไปจำศิลเข้าฌานสมาบัติเพื่อชำระกายใจให้บริสุทธิ์ เตรียมรองรับการปรากฎของดวงแก้วมณีประจำกายแห่งตน คล้ายกับการปรากฎขึ้นของดวงแก้วมณีแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ ครั้นถึงคืนวันเพ็ญขึ้น ๑๕ คำ ผลของบุญกุศลที่เคยสั่งสมมาตั้งแต่ครั้งอดีตจะรวมตัวกันดลบันดาลให้ดวงแก้วมณีของพญานาคอุบัติขึ้น ดวงแก้วมณีเปล่งประกายรัศสว่างไสวทั่วทั้งภพบาดาล และบันดาลให้เกิดทิพตสมบัติต่าง ๆ ขึ้นตามกำลังบุญของพญานาค หากพญานาคองค์นั้นเป็นผู้มีบุญญาธิการมาจุติ จะเกิดทิพยสมบัติมากมายกว่าพญานาคองค์เดิม คล้ายการจุติของเทวดาในภพภูมิอื่นๆ พญานาคผู้เป็นเจ้าครองนครองค์เดิมจะต้องสละสมบัติเพื่อให้ผู้ที่มีบุญญาธิการมากกว่าได้ครองนครบาดาลแห่งนั้นสืบต่อไป การปกครองในภพบาดาลนั้นถือหลักบุญญาธิปไตย คือผู้มีบุญญาธิการมากกว่าปกครองผู้มีบุญน้อยกว่า สำหรับอานุภาพของแก้วมณีนาคาราชจะคล้ายกับดวงแก้วมณีซึ่งเป็น ๑ ในรัตนะทั้ง ๗ แห่งพระเจ้าจักรพรรดิสามารถบันดาลข้าวปลาอาหารทิพย์ ทิพยวิมาน และทิพยสมบัติอื่นๆ เช่น แก้วหวานเงินทองต่าง ๆ ตามกำลังบุญ ดวงแก้วมณีนาคราชจึงเป็นของที่รักและหวงแหนของพญานาคมาก เนื่องการเป็นเครื่องบันดาลให้เกิดทรัพย์ต่างๆแก่พญานาค นอกจากนี้แก้วมณีนาคราชยังมีความสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ใช้ในการจำศิลทุกๆปี พญานาคที่เคยเกิดทันในสมัยพุทธกาล ในวันที่สมเด็จพระเจ้าเสด็จ กลับมาจากโปรดพระพุทธมารดาในวันอออกพรรษา และเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และได้ทันเห็นพุทธานุภาพ นั้นก็จะมีการถ่ายยทอดประสบการณ์ให้แก่พญานาครุ่นหลัง ให้ทำใจน้อมระลึกถึงคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ระยะเวลาการถือศิลนั้นพญานาคจะนับตามวันเดือน เกิดและเดือนดับตามจันทรคติของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา

 

สถานที่พบเพชรพญานาค

ตามตำนานที่เล่าต่อๆมาว่าครั้งแรกพบเพชรพญานาคที่ภูเขาควาย ประเทศลาว และพบที่ภูผาเหล็กจังหวัดสกลนคร ต่อมาก็มีผู้พบเห็นอีกหลายแห่ง เช่น จังหวัดชัยภูมิ,จังหวัดอุดรธานี,จังหวัดหนองคาย,จังหวัดพังงา,จังหวัดภูเก็ต,จังหวัดสระบุรี,จังหวัดลพบุรี, และคงปรากฏขึ้นอีกหลายแห่งสิ่ง ที่เหมือนกันมากก็คือ หินศิลาคอนหอหุ้มเพชรพญานาค เป็นเนื้อของหินภูเขาจากภูผาเหล็ก จังหวัดสกลนคร เพชรพญานาคที่หอหุ้มด้วยหินศิลาคอนนี้เมื่อนำมาล้างน้ำทำความสะอาดแล้วนำไปสองกับแสงที่สว่างมากๆ เช่น แสงอาทิตย์ หรือแสงจันทร์จากเปลวไฟ
ก็จะเห็นความระยิบระยับของเกล็ดแก้ว สวยงามอย่างพิสดารเหมือนกับหินที่ภูผาเหล็กที่ระยิบระยับกลางแสงแดดที่เจิดจ้า น้ำหนักของเพชรพญานาคจะหนักกว่าพลาสติกประมาณ ๓-๔ เท่า หนักกว่าแก้วประมาณ ๒-๓ เท่าเมื่อได้สัมผัสบ่อยๆ ก็จะสามารถทราบได้โดยง่าย เพชรพญานาค ทุกเม็ดมีพลังสูงมากในตัวโดยไม่ต้องผ่านการปลุกเสก และจะมีรูปทรงตั้งๆ ขนาดจะมีเท่ากันเลย เพราะไม่ว่าทำจากบล็อกหล่อหลอม (เรื่องนี้เป็นข้อสังเกตได้โดยง่าย) และเพชรพญานาคนั้นจะแข็งมากสามารถกรีดประจกให้เป็นรอยได้