เรื่องเด่น ออกกำหนดการ งานพระราชพิธี วันที่13-14ตุลา.

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 4 ตุลาคม 2017.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590
    0b899e0b894e0b881e0b8b2e0b8a3-e0b887e0b8b2e0b899e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b89ee0b8b4.jpg
    ราชกิจจานุเบกษาประกาศหมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ขณะที่กระทรวงวัฒนธรรมจัดทำหนังสือที่ระลึกงานพระราชพิธี ‘นวมินทรา ศิรวาทราชสดุดี’ และ ‘พระเสด็จสู่ฟ้า ราษฎร์ล้วนอาลัย’ สมพระเกียรติ เตรียมแจกจ่ายประชาชน 3 หมื่นเล่ม

    เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ราชกิจจานุเบกษาประกาศหมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตุลาคม พุทธศักราช 2560

    เลขาธิการพระราชวัง รับพระราชโองการเหนือเกล้าฯ สั่งว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระบรมชนกนาถ เสด็จสวรรคตจะบรรจบครบรอบ 1 ปี ในวันศุกร์ ที่ 13 ตุลาคม 2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล มีกำหนดการ ดังนี้

    วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง

    เวลา 17 นาฬิกา เสด็จพระราชดำเนินเข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงวางพวงมาลาของส่วนพระองค์และพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 แล้วทรงจุดธูปเทียน เครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะกราบถวายบังคมพระบรมศพ ชาวพนักงานประโคมมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ ปี่พาทย์ ทหารกองเกียรติยศพระบรมศพถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทรงจุดธูปเทียน เครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูปสวดพระพุทธมนต์และสวดคาถาพิเศษ จบ พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่ง เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ที่จะถวายพระธรรมเทศนาและสวดธรรมคาถาขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระราชาคณะถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบ พระสงฆ์ 4 รูปสวดธรรมคาถา แล้วทรงประเคนเครื่องไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์และทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ทั้งนั้นสดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนที่แท่นเตียงพระสวดพระอภิธรรม เสด็จพระราชดำเนินกลับ

    การแต่งกาย แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ไว้ทุกข์ สายสะพายมหาจักรี หรือช้างเผือก

    วันเสาร์ ที่ 14 ตุลาคม 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง

    เวลา 10 นาฬิกา 30 นาที เสด็จพระราชดำเนินเข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะ กราบถวายบังคมพระบรมศพ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูป ที่สวดพระพุทธมนต์แต่วันก่อนถวายพรพระ จบ ทรงประเคนภัตตาหารพระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ทั้งนั้นถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่ง เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์อีก 89 รูป เท่าพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สวดมาติกา สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินกลับ

    การแต่งกาย แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ไว้ทุกข์ สายสะพายจุลจอมเกล้า หรือมงกุฎไทย

    วันเดียวกัน ที่ห้องดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในฐานะคณะกรรมการฝ่ายจัดทำหนังสือที่ระลึกและจดหมายเหตุงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แถลงข่าวการเผยแพร่วีดิทัศน์ หนังสือที่ระลึกและจดหมายเหตุงานพระบรมศพฯ ว่า จากการที่คณะกรรมการฝ่ายจัดทำหนังสือที่ระลึกและจดหมายเหตุงานพระราชพิธีฯ ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพ พระปรีชาสามารถ และพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ จัดทำสื่อวีดิทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และอีบุ๊ก เพื่อใช้สำหรับเผยแพร่ผ่านสื่อทุกแขนงนำไปเผยแพร่ช่วงพระราชพิธีเพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ประกอบด้วยวีดิทัศน์ จำนวน 29 เรื่อง รวม 548 ตอน

    ได้แก่ 1.สารคดี “ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์” นำเสนอเหตุการณ์นับตั้งแต่เสด็จสวรรคต จำนวน 32 ตอน 2.สารคดี 365 วันนี้ในอดีต พระราชกรณียกิจในรัชกาลที่ 9 รวบรวมพระราชกรณียกิจในอดีตระหว่างปี? 2503-2523 ?ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์หอภาพยนตร์(องค์การมหาชน) 3.วีดิทัศน์ศิลปินพื้นบ้านแสดงความอาลัยในฐานะองค์อัครศิลปินดาวน์โหลดผ่านเว็บไซต์กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) และ 4.ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันเรื่องเมืองนิรมิตแห่งจิตตนคร ผ่านเว็บไซต์กรมการศาสนา รวมทั้งหนังสือพระราชประวัติพระบรมราโชวาท หนังสือคำศัพท์ และราชรถ ราชยาน เผยแพร่แก่ประชาชนผ่านทางเว็บไซต์ของ วธ. www.m-culture.go.th

    นายวีระกล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการจัดพิมพ์หนังสือที่ระลึกและจดหมายเหตุงานพระราชพิธี จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย หนังสือจดหมายเหตุฉบับหลัก ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล จะดำเนินการจัดพิมพ์ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน หลังเสร็จสิ้นนิทรรศการหลังพระราชพิธี หนังสือจดหมายเหตุฉบับรอง อาทิ จดหมายเหตุฉบับประชาชนและฉบับสื่อมวลชน ได้รับความร่วมมือจากหนังสือพิมพ์ส่วนกลางและห้องสมุดจาก 40 ประเทศส่งข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง อยู่ระหว่างจัดทำต้นฉบับ ส่วนหนังสือและซีดีบทเพลงแสดงความอาลัยฯ “บทเพลงแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระผู้สถิตในหทัยราษฎร์” และหนังสือ “พระผู้สถิตในหทัยราษฎร์” สมุดภาพรวมแผ่นป้ายแสดงความอาลัยฯ ทั้งสองเล่มจัดทำต้นฉบับเสร็จแล้ว

    ขณะที่หนังสือที่ระลึก “พระเมรุมาศสมัยรัตนโกสินทร์ และพระเมรุในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” อยู่ระหว่างจัดพิมพ์ต้นฉบับ เช่นเดียวกับหนังสือที่ระลึก “เครื่องประกอบพระราชอิสริยยศงานพระบรมศพฯ” กำลังจัดทำต้นฉบับเช่นกัน สำหรับแผ่นพับที่ระลึกเนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ สำหรับแจกประชาชนที่มาร่วมถวายดอกไม้จันทน์ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ จัดพิมพ์เสร็จแล้วจำนวนกว่า 10 ล้านฉบับ โดยจะส่งให้กับกรุงเทพมหานคร(กทม.) จำนวน 3 ล้านฉบับ ส่วนภูมิภาค 6 ล้านฉบับ รวมถึงต่างประเทศอีกว่า 1 ล้านฉบับ

    “หนังสือที่ระลึก 2 รายการที่จะแล้วเสร็จพร้อมสำหรับใช้ในพระราชพิธี ได้แก่ หนังสือพระเสด็จสู่ฟ้า ราษฎร์ล้วนอาลัย ซึ่งคัดเลือกบทกลอนแสดงความอาลัยของประชาชน จำนวน 189 บท จาก 10,000 บทและหนังสือที่ระลึกนวมินทราศิรวาทราชสดุดี เป็นร้อยกรองเพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 สร้างสรรค์โดย 9 กวีรัตนโกสินทร์ จัดพิมพ์อย่างละ 15,000 เล่ม เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้เข้าร่วมพระราชพิธี ขณะที่หนังสือที่ระลึกพระเมรุมาศฯ และหนังสือเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศฯ จะจัดพิมพ์แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.2561 เพื่อให้เนื้อหามีความถูกต้องและสมบูรณ์ รวมถึงภาพประกอบที่งดงามที่สุด จัดพิมพ์อย่างละ 25,000 เล่ม โดยหนังสือทุกรายการจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค.61 โดยประชาชนสามารถดาวน์โหลดหนังสือที่ระลึก อีบุ๊ก และสื่อวีดิทัศน์ต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์ของ วธ.ได้ทุกรายการ” รมต.วธ.กล่าว

    นางพิมพ์รวี วัฒนวรางกูร อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรมดำเนินการพิจารณาขอลิขสิทธิ์บทเพลงที่บุคคลและหน่วยงานต่างๆ จัดทำขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติและแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 198 เพลง แบ่งออกเป็นเพลงไทยสากล 99 เพลง และเพลงไทยลูกทุ่ง 99 เพลง พร้อมไฟล์เพลง เพื่อรวบรวมและนำมาจัดพิมพ์ไว้ในหนังสือบทเพลงจากดวงใจแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 “พระผู้สถิตในหทัยราษฎร์” เป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำหนังสือที่ระลึก โดยกำหนดจัดพิมพ์ 10,000 เล่ม จะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค. ส่วนหนังสือ “พระผู้สถิตในหทัยราษฎร์” เป็นสมุดภาพรวมแผ่นป้ายแสดงความอาลัย ถ่ายภาพโดยนายวรนันทน์ ชัชวาลทิพากร ศิลปินแห่งชาติและคณะทำงาน จากนั้นมีคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกภาพแผ่นป้ายที่มีเหมาะสมสวยงาม รวมถึงสามารถสื่อความหมายของคนไทยทั้งประเทศ จำนวน 516 ภาพ เพื่อจัดพิมพ์หนังสือ ขณะนี้ต้นฉบับแล้วเสร็จเช่นกัน กำหนดจัดพิมพ์ 9,300 เล่ม แล้วเสร็จ ต.ค.นี้เช่นกัน

    วันเดียวกัน มีการประชุมคณะอนุกรรมการฝ่ายบริหารจัดการนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ โดยนายวีระกล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีการกำหนดการเข้าชมพระเมรุมาศในเบื้องต้น โดยให้ประชาชนเข้าชมในรูปแบบอิสระ แต่จะมี 2 จุดที่ต้องกำหนดทางขึ้นและลงให้เป็นระบบ ได้แก่ พระเมรุมาศและพระที่นั่งทรงธรรม ซึ่งที่ประชุมหารือถึงรายละเอียดและระยะเวลาการเข้าชมทั้ง 2 ส่วน รวมทั้งการจัดเวลานำชมนิทรรศการทั้งหมด โดยจะคำนวณรวมจากการเข้าชมแต่ละอาคารและสรุปเวลาเข้าชมในแต่ละรอบ นอกจากนี้ ได้กำหนดจุดให้บริการทางการแพทย์บริเวณศาลาลูกขุนทั้ง 4 หลัง ขณะเดียวกันที่ประชุมได้เห็นชอบให้จัดนิทรรศการประมวลภาพพระราชพิธีพระบรมศพนับตั้งแต่เสด็จสวรรคตกระทั่งถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และเปิดโรงราชรถเพื่อเป็นการเชื่อมโยงกับนิทรรศการพระเมรุมาศตลอดเดือน พ.ย.ด้วย

    นายวีระกล่าวอีกว่า ขณะที่การบริหารจัดการนอกพื้นที่ ทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะจัดเส้นทางเดินรถโดยสารให้กับประชาชนมายังท้องสนามหลวง ตั้งแต่เวลา 05.00-23.00 น. รวม 6 เส้นทาง ดังนี้ 1.อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 2.สถานีรถไฟหัวลำโพง 3.สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ 4.สถานีขนส่งหมอชิต 5.สถานีขนส่งเอกมัย และ 6.วงกลมรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ขณะที่กองทัพเรือจะมีบริการเรือข้ามฟากที่ท่านิเวศน์วรดิฐ และท่าราชนาวิกสภา ในเวลา 06.00-22.30 น. สำหรับการรับสมัครจิตอาสาเบื้องต้นจะให้จิตอาสาช่วยปฏิบัติงานศิลปกรรมด้านต่างๆ อาทิ พระโกศจันทน์ การบูรณะราชรถ ราชยาน การลงสี และประติมากรรม ประกอบพระเมรุมาศ กว่า 300 คน เป็นผู้นำและถ่ายทอดเรื่องราวการจัดสร้างพระเมรุมาศในครั้งนี้ อีกทั้งการประชุมครั้งนี้ได้นำตัวอย่างพระเมรุมาศจำลอง เพื่อให้ผู้แทนกลุ่มผู้พิการทางสายตาได้ทดสอบและให้ข้อคิดเห็นเพื่อให้นิทรรศการเพื่อคนตาบอดสมบูรณ์ที่สุด.

    ขอขอบคุณที่มา
    http://www.thaipost.net/?q=node/36385
     

แชร์หน้านี้

Loading...