หลวงพ่อเล่าเรื่องพระราชอุทัยกวีเป็นพรหมอนาคามี

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 1 กันยายน 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]
    บรรดาท่านทั้งหลาย สำหรับเรื่องราวของผีเจ้าคณะจังหวัด หลวงพ่อราชอุทัยกวีท่านบอกว่า ท่านไปอยู่อนาคามี จงอย่าคิดว่า คนพูดเข้าฌานนะ อย่าเป๋นะ ฟังให้ดีนะ อย่าเป๋นะ อย่าลืมว่า เวลาที่เห็นภาพท่าน ลืมตากำลังคุยกับแขก ไม่ได้เอาจิตไปคิดถึงท่าน แต่ไปปรารภเรื่องของท่านเข้า การตายของท่านเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ คนที่ตายอย่างนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัทจะเป็นพระก็ดี จะเป็นเณรก็ตาม ฆราวาสก็ตาม ผู้หญิงผู้ชายก็ตาม เด็กผู้ใหญ่ก็ตาม ถ้าตายพร้อมสติสัมปชัญญะสมบูรณ์อย่างนี้น่ะ มันลงนรกไม่ได้ ถ้าอยากจะถามว่า ถ้าคนเคยทำบาปมาก่อน เคยทำบาปมาก่อนก็ตาม แต่ก่อนจะตาย ถ้าจิตมีบุญอย่างนี้ ลงนรกไม่ได้ นี่เป็นเรื่องธรรมดา ๆ ถ้าถามว่า จะไปอยู่ที่ไหนก็ตอบว่า สุดแล้วแต่บุญที่เขาระลึกได้ในเวลานั้น
    สำหรับท่านผู้นี้ ท่านปรารภกับโยมชีที่ถวายอาหารท่าน ท่านบอกมันตั้ง ๙๕ แล้วนี่วะ มันจะตาย ก็ไม่ตาย อยู่ไปก็ลำบาก แต่เท่าที่ทราบมาในกาลก่อนท่านบอกว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๐ คืนวันนั้นทำท่าจะตายครั้งหนึ่ง ท่านเรียกพระครูประชุม เจ้าคณะอำเภอเข้าไป พระครูประชุม นี่เป็นชื่อนะ ราชทินนามจำไม่ได้จริง ๆ บอกด้วยวาจาด้วย ให้บันทึกเสียงไว้ด้วย และก็ให้บันทึกเป็นหนังสือด้วยว่า การเงินการทองอะไรก็ตาม มีที่ไหนเท่าไร เงินอะไรเท่าไร ท่านจำได้ดี สั่งเสียเรียบร้อยหมด ท่านบอก ถ้าฉันจะตายคืนนี้ก็ต้องตายในระยะ ๒ ยาม ถ้าเลย ๒ ยามไปแล้ว จะไม่ตาย
    นี่ก็แสดงว่า ก่อนจะพูดแบบนั้นต้องมีคนมาบอก คนในที่นี้ ไม่ใช่คนมีเนื้อ ต้องไม่มีเนื้อ มีร่างกายเป็นทิพย์ เหมือนกับ ท่านธัมมิกอุบาสก ก่อนจะตาย ก็เห็นเทวดาล้อมบอกฉันอยู่ชั้นนั้น ฉันอยู่ชั้นนี้ ไปอยู่กับฉันเถอะ และท่านเจ้าคุณราชอุทัยกวี หลวงพ่อองค์นี้ก็เช่นเดียวกัน อาตมาเคารพเหมือนพ่อจริง ๆ มีความดีมาก ท่านก็คงจะต้องสัมผัสติดต่อกันมาก่อนว่า คืนนี้ไปกันนะ ไปเวลา ๒ ยาม ถ้าหากเวลา ๒ ยาม ไม่ไป ก็ยังไม่ต้องไป อยู่อีกหลายปี คงจะพูดแบบนี้
    ก็เป็นอันว่า คืนวันนั้นหลังจาก ๒ ยามไปแล้ว อาการร่อแร่ของท่านเต็มที มันหายไป กลายเป็นมีกำลังดี พูดจ้อ ทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อย เหมือนกับหายจากป่วยไข้ไม่สบาย ก็รวมความว่า ก็อยู่อีก ๓ ปี ถึงวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๓๓ ก็เป็นวาระที่ท่านตัดความทุกข์ ต่อไปนี้ก็มีแต่ความสุข ขึ้นชื่อความทุกข์สักนิดหนึ่งจะไม่มีกับท่านอีกต่อไป
    ทั้งนี้เพราอะไร เพราะเขตของอนาคามีเป็นเขตที่มีความสงัดจากความทุกข์ทุกอย่าง ต่อจากนั้นไปก็เข้าเขตนิพพาน เขาบอกว่า เวลานี้ไม่มีพระอรหันต์ก็ดี ไม่มีพระอริยเจ้าก็ตาม อาตมาก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ผีเจ้าคณะจังหวัดท่านจะบอกตรงหรือไม่ตรง แต่ขอท่านทั้งหลายอย่าลืมว่า โลกที่โกหก มีโลกเดียว คือ โลกมนุษย์ แต่เวลานี้ อาตมาไม่ได้โกหก พูดตามผีบอก และโลกที่ไม่โกหก คือ โลกที่อื่นจากมนุษย์ ฉะนั้น เวลานี้ท่านไปอยู่โลกอื่นแล้ว ท่านพูด ต้องพูดตามความเป็นจริง
    เอาละ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทชายหญิง ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจใคร มีเรื่องก็พูดไป เวลานี้ก็หมดเวลา ขอลาก่อน ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนผู้รับฟังทุกท่าน สวัสดี
    ที่มา

    ffice:eek:ffice" /><O:p>http://praruttanatri.com/v1/special/books/anlen/story14.htm</O:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...