หลวงพ่อเล่าเรื่องคนที่มีจิตกังวลก่อนตาย

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 28 สิงหาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]

    พบหญิงแก่



    เมื่อไปถึงท่านลุงทั้งสอบนั่งประจำที่ แต่ไม่มีการสอบสวนพบหญิงแก่ร่างใหญ่ ผิวเนื้อสองสีชื่อ.... บ้านอยู่รอบนอกของกรุงเทพฯ หน้าตามีกังวลมาก เธอเข้ามาหา เธอบรรยายเรื่องต่าง ๆ ตามแบบฉบับของคนมีกังวล ก็คิดว่าตายแล้วยังไม่ละกังวลอย่างนี้ก็แย่ ถามท่านลุงว่า สอบสวนแล้วหรือ ท่านลุงบอกว่า ไม่มีการสอบสวนเพราะเป็นศิษย์ของคุณ เขาบอกให้ฉันเป็นพยาน เมื่อฉันเป็นพยานก็ไม่ต้องสอบสวน ฉันคอยตั้งแต่ ๔.๐๐ น. เห็นเธอหลับสนิทก็เลยให้คอยก่อน ต่อเมื่อพระท่านให้รอถึงเวลานี้ จึงรอเอาไว้ก่อน
    เมื่อถามลุงว่า แล้วเธอจะไปไหน
    ท่านลุงบอกว่า บุญของเธอมีแต่กังวลมากเหลือเกิน บุญบูชาพระ ทำบุญร่วมกับคุณ ถวายสังฆทานชุดเล็ก เจริญกรรมฐาน แต่เอาดีไม่ได้ เวลาทำอารมณ์ไม่เยือกเย็นเพราะมีกังวลมาก เป็นพวกวิตกจริตและโมหะจริตไม่มีเวลาจบ เคยรักษาศีลแปดเมื่อเวลามาเจริญกรรมฐาน เวลากลับบ้านก็เหลือ ๕ บ้าง ๓ บ้าง ศีลกระพร่องกระแพร่งเต็มที แต่ก็มั่นคงในการบูชาพระ พอใจในทาน และสังฆทาน ถ้าจิตมั่นคงมากจะได้ไปอยู่ชั้นปรนิมฯ จิตมีกังวลปานกลางจะไปดาวดึงส์ แต่นี่ตายแล้วยังกังวลถึงลูกหลานไม่หยุด จิตขุ่นมัวไปต้องเป็นรุกขเทวดา
    ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    ก่อนตาย

    <O:p></O:p>
    เมื่อเธอถามว่า ก่อนตายป่วยเป็นโรคอะไร
    เธอตอบว่า ก่อนตายท้องอืดแน่นหน้าอก นึกถึงบุญไม่ออก มันเสียดแทงมาก ร้อนใน อารมณ์ไม่แจ่มใส เมื่ออาการหนักมาก จิตก็ห่วงลูกหลานมาก เพราะจน เกรงว่าเธอจะหากินไม่พอกิน เมื่ออาการหนักที่สุดคืนวันที่ ๒๑ ก.ย. ๓๑ ประสาทททางร่างกายหยุดจิตออกจากร่างมีคนนุ่งเขียว ๒ คนไปรับ
    ตอนนี้พระยายมท่านบอกว่า เธอมีอารมณ์เป็นกุศลก่อนป่วยหนัก เมื่อไม่มีการสอบสวนจึงให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสวรรค์ไปรับ ชุดนี้นุ่งเขียวบ้างสีอื่นบ้าง แต่ไม่แต่งชุดสีแดง ถ้าเป็นอย่างนี้ เมื่อชุดนี้ไปรับจึงไม่ต้องสอบสวน เพราะมีสิทธิ์ไปสวรรค์แน่นอน ที่รับมาก็เพื่อเอามาแนะนำย้ำความจำถึงบุญที่ทำไว้แล้ว ให้จิตสะอาดพอที่จะไปสวรรค์ได้ ถ้าไม่ย้ำให้จิตสะอาดจะต้องเป็นสัมภเวสีชั่วคราว เมื่อครบกำหนดจึงไปสวรรค์ได้
    เมื่อถามถึงกำหนดเวลาที่เป็นสัมภเวสี ท่านบอกว่า เอาเวลาแน่นอนไม่ได้ สุดแท้แต่จิตเศร้ามากหรือน้อยขอลัดให้เร็วขึ้น ถามเธอว่า วิมานรุกขเทวดา หรือเทวธิดา ก็สวย มองเห็นแล้วพอใจไหม เธอตอบว่า พอใจมากงานน้อย ไปเยี่ยมลูกหลานได้สะดวก
    ถามเธอว่า วิมานอยู่ห่างจากบ้านลูกหลานเกิน ๕๐ กิโลเมตร ไม่ไกลหรือ
    เธอตอบว่า ไม่ไกลเวลาที่ไปไม่ถึงนาทีก็ถึงแล้ว
    เมื่อถามเธอว่า ตั้งแต่ตายมาแล้วไปบ้านหรือยัง
    เธอตอบว่า ยัง เพราะเพิ่งเป็นอิสระด้วยรอการปลดออก
    เมื่อถามว่า วันนี้จะไปวิมานก่อนหรือไปบ้านก่อน
    เธอตอบว่า ไปวิมานก่อนแต่ก็คงไปบ้านวันนี้
    เมื่อถามเธอว่า ลูกหลานทำบุญให้บ้างหรือยัง
    เธอตอบว่า ทำให้แล้วแต่จิตคนทำให้ไม่ผ่องใส พระที่รับทานก็มีจิตเศร้าหมองมาก ฉันเองก็ไม่เป็นอิสระเขาให้บุญก็ยังโมทนาไม่ได้ วันนี้เป็นอิสระแล้วโมทนาได้แต่ผลไม่สมบูรณ์ รอวันที่ ๘-๑๐ ตุลาคม เขาจะถวายสังฆทานให้อีก วันนั้นมีหวังไปดาวดึงส์
    ถามท่านลุงว่า เธอไปได้หรือ ท่านบอกว่า อานิสงส์โมทนาสังฆทานไปดาวดึงส์ได้สบาย
    เมื่อคุยกันเสร็จเธอก็ไปวิมานเธอ ฉันก็กลับวิมานฉันคือบ้าน เรื่องวันที่ ๒๖ ก็จบเท่านี้แต่เล่าให้ฟังเมื่อตอนสายของวันที่ ๒๗ ก.ย. ๓๑
    ที่มา http://praruttanatri.com/v1/special/books/anlen/story02.htm
     

แชร์หน้านี้

Loading...