หลวงพ่อเล่าเรื่องการเข้ามาของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 11 กรกฎาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,440
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=578 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=3><TABLE class=webbody cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=webbody width=749 height=33>
    พระพุทธศาสนาเข้ามาในประเทศไทย<!-- #EndEditable -->​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=206></TD><TD vAlign=top colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><!--DWLayoutTable--><TBODY><TR><TD vAlign=top><!-- #BeginEditable "detail" -->

    (คัดจากเทปเล่าเรื่องไปภาคใต้ เดือนเมษายน 2521 หลายตอน)
    ถอยหลังลงไปตั้งแต่ สมัยพระพุทธเจ้า ยังทรงพระชนม์อยู่ ก็มีพระจำพรรษา ตั้งแต่ภาคใต้ของประเทศไทย ถึงภาคเหนือ ภาคเหนือจริงๆ ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่พระมหาโมคัลลามาคุม คือ เป็นสายของพระมหาโมคัลลาแดนเหนือ ออกไปด้านเชียงตุงติดต่อประเทศจีน แล้วก็ในเขตจีนเป็นสายของพระมหากัสสป ความจริง ก็ไม่ไกล กันนักแต่ มันเดินยาก แต่ท่านผู้นั้น ท่านเหาะ แล้วสำหรับใต้ล่องลงมานี่ นับตั้งแต่ จังหวัดสุพรรณบุรี มาถึง จังหวัดนครปฐม เพชรบุรี เป็นต้นแล้วก็แดนประจวบคีรีขันธ์ ตอนนี้เป็นสายของพระมหากัจจายนะ กับพระอนุรุทธ มักจะมากันเสมอ ๆ ต่ำลงมาจากประจวบคีรีขันธ์ ถึงจังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี สายนี้ก็เป็นสายพระโสณะกัณณะ ที่มากันเป็นปกติ สายใต้ลงไปจากนั้น ก็เป็นสายลูกศิษย์ของพระพวกนั้น ที่กล่าวมาแล้ว ที่สอนต่อๆ กันมาเป็นอันว่า ประเทศไทยรับคำสอน ของพระพุทธศาสนามาก่อน ที่เราคิดว่า รับพระพุทธศาสนาเข้ามาประเทศไทย
    เวลานั้น ไอ้เมืองมันมากอยู่กันเป็นหย่อมๆ มีพระราชาที่เขาเรียกว่า พ่อเมือง คนก็มีหลายเผ่าด้วยกัน คนไทยเวลานี้มาเรียกว่า ไทยๆ สมัยนั้นเขาก็ได้เรียกว่า ไทย รวมความว่า เป็นเผ่าคล้ายคลึงกันคนในดินแดน แผ่นนี้จะเรียกเป็นเผ่าใหญ่ๆ จริงๆ แล้วมันมีอยู่ 7 เผ่าด้วยกัน เวลาจะพูด ต้องพยายามเรียนภาษากันอยู่เจ็ดเผ่าด้วยกัน นับตั้งแต่โน่นแน่ะ เชียงตุงมานั่นแหละ จนกระทั่งปลายเขตแดน ของสิงคโปร์ มี 7 เผ่าที่ เป็นเผ่าใหญ่ แล้วเผ่ากระจอกงอกง่อย ก็มีอีกตั้งเยอะแยะ แต่บางทีก็เป็นเผ่าไทยด้วยกัน แต่เรียกชื่อ ต่างกันเสียอีก แต่ว่า พูดกันรู้เรื่องว่า ฉันพวกเผ่านายดำ ฉันพวกเผ่านายเขียว ฉันพวกเผ่านายขาว เนื้อแท้มันพูดเหมือนกันจริยาอาการต่างๆ วัฒนธรรมเหมือนกัน มันก็เผ่าเดียวกัน แต่ก็ยัง ไม่ยอมรวมกันถือว่า อยู่กันเป็นหมู่บ้าน เมืองสมัยนั้น ก็เป็นหมู่บ้าน ที่มีความสำคัญเพียงเท่านี้
    ในช่วงนั้น ที่มีพระอรหันต์มาเรื่อย ๆ หมออาชีวกโกมารภัจ ก็เคยมาเที่ยว ถ้าจะถามว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เคยเสด็จไหม ก็ต้องตอบว่า เวลานั้น พระพุทธเจ้ามาในเขตนี้หลายวาระ แล้วก็คราวหนึ่งทำให้คนสำเร็จอรหันต์ไปไม่น้อย การเสด็จมาของพระองค์ ใช้เวลาเดินนานหน่อย เพราะนาน ๆ จะได้เดิน ส่วนมากท่านเหาะมา มาคราวหนึ่ง ก็มีพระติดตามไม่น้อยกว่า 500 รูป ที่มากันอย่างนั้น ก็เพื่อเป็นกำลังใจของคน คือ เวลาก่อนหน้า นั้นหมอผี มันมีมาก ดินแดน ดินเดียเขาเล่น สมาธิจิตกัน เล่นกำลังจิต แต่ดินแดนแห่งนี้ เขาเล่นผีกัน นับถือผีอยู่ก่อน ให้ผีเป็นเจ้า ผีเป็นนาย ทำอะไรก็ต้องเชื่อผี จนกระทั่ง มีการตั้งศาลพระภูมิขึ้นมา อันนี้เราก็เรียกว่า ผีเหมือนกัน เพราะว่า กำลังใจของคนพวกนี้ ยอมรับนับถือผี มาเป็นตัวอย่าง เป็นเหตุ
    เมื่อองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์เสด็จมา ก็เอาผีพวกนี้ มาแสดงตัวให้ปรากฏ สมเด็จพระบรมสุคต ให้บุคคลทั้งหลายเห็นว่า ผีที่เขาบูชานั้น เป็นตัวเป็นตนขึ้นมา อันนี้ เราก็เรียกว่า ผีเหมือนกัน เพราะว่า กำลังใจของคนพวกนี้ ยอมรับนับถือผีมา เป็นตัวอย่างเป็นเหตุ เมื่อองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์เสด็จมา ก็เอาผีพวกนั้นมาแสดงตัวให้ปรากฏ สมเด็จพระบรมสุคต ให้บุคคลทั้งหลายเห็นว่า ผีที่เขาบูชานั้น เป็นตัวเป็นตนขึ้นมา เห็นกันจนผีเห็นคน คนเห็นผี ในเมื่อผีเหล่านั้น เห็นพระพุทธเจ้าก็มากราบพระพุทธเจ้า และแสดงว่า ยอมรับนับถือพระพุทธเจ้า อันนี้ เองเป็นเหตุให้ผู้ได้เห็น เกิดมีใจเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ฉะนั้นเมื่อพระพุทธเจ้าเทศน์อะไรลงไปเขารับฟังทันที สมเด็จพระชินสีห์เทศน์จึงมีผลให้คน เป็นพระอริยเจ้า
    หลังจากที่ พระพุทธเจ้านิพพานแล้ว มีพราหมณ์ คนหนึ่ง ชื่อว่า โสณะพราหมณ์ เป็นพราหมณ์อยู่ที่ กุสินารามหานคร ชื่อเก่าของเขานะ โสณะพราหมณ์ ไอ้โสณะ พราหมณ์ นี่ จะแปลว่าอะไร ไม่ต้องพูด แต่ว่า เป็นพราหมณ์ ที่บอกอรรถปัญหาแก่พระราชา เป็นปุโรหิต เป็นคนมีความรู้ดี พ่อแม่ ให้นามว่า โสณะ ๆ ต่อมา คนเรียกกันว่า โทณะพราหมณ์ โทณะเขาแปลว่า ทะนาน ตอนที่ตวงพระบรมสารีริกธาตุ แบ่งกันกับพระราชาเมืองอื่น ปรากฏว่า โทณะพราหมณ์ซ่อนพระเขี้ยวแก้ว ไว้ในผม พระอินทร์เห็นว่า ไม่สมควรกับโทณะพราหมณ์ จึงเอา พระเขี้ยวแก้ว ไปบรรจุที่พระจุฬามุนีเจดีย์สถาน บนชั้นดาวดึงส์เทวโลก ในเมื่อแจกของหมด แกก็มาคลำดู เห็นหายไปจากมวยผม จึงได้ขอทะนาน ที่ใช้สำหรับตวงพระบรมสารีริกธาตุเอาไปบูชา เป็นทะนานทอง ทะนานนี้ภาษาบาลี เขาเรียกว่า โทณะ เมื่อตาพราหมณ์คนนี้ แกรับทะนานมาแล้ว เขาจึงให้ชื่อว่า พราหมณ์ทะนาน หรือว่าพราหมณ์ผู้รับทะนาน ความจริงเมืองนครปฐม ที่เราเรียกกันว่า ทวาราวดี รู้จักกับพระพุทธเจ้า รู้จักกับพระอรหันต์ รู้จักกับพระพุทธศาสนา มาตั้งแต่พระพุทธเจ้ายังอยู่ การเดินไปเดินมาจาก กรุงกบิลพัสดุ์มหานคร ถึงจังหวัดนครปฐม หรือทวาราวดี ใช้เวลาเดินจริงๆ ไม่เกิน 17 วัน พ่อค้าใช้เวลาเดินประมาณเดือนเศษๆ นับว่า ใช้เวลานานเพราะ มีน้ำหนักมาก ถ้าลองนึกดูว่า คนสมัยนี้ กับสมัยตอนที่ท่านเป็นหนุ่ม ใครมันเดินสู้กันได้ และ สมัยที่ท่านเป็นหนุ่ม ก็เดินสู้คนเก่าๆ เขาไม่ได้ เขาเดินกันเป็นปกติ เป็นอันว่า การรอนแรมมาเป็นของไม่ยาก
    โทณะพราหมณ์ เมื่อได้รับทะนานทองแล้ว ก็เดินทางมาสู่เมือง ทวาราวดี เพราะโดยปกติแกมาเสมอๆ มีที่หมู่บ้านหนึ่ง เขาเรียกว่า บ้านพราหมณ์ใกล้ ๆ กับพระประโทน นั่นแหละ หมู่บ้านพราหมณ์ ก็เป็นหมู่บ้าน ของอีตาโทณะพราหมณ์นั่นเอง เมื่อได้มาแล้ว แกก็ทำเจดีย์ ขึ้นเป็นองค์ย่อมๆ บรรจุทะนาน ที่ตวงพระบรมสารีริกธาตุไว้ ณ ที่นั้นแล้วก็ทำการบูชาเป็นอันว่า พระประโทนนี่ก็ก่อนพระปฐมเจดีย์องค์ใหญ่
    การที่พระอริยสงฆ์ สมัยพระมหินทร์ ประกาศพระศาสนา ก็เดินทางมาขึ้นที่ จังหวัดนครปฐมก่อน เป็นจุดแรกที่พระพวกนั้น มาปักหลัก นำพระพุทธศาสนาเข้ามาเผยแพร่ แต่ความจริง พระพุทธศาสนา ได้มีมาก่อนนั้นอย่างที่เล่ามาแล้ว เป็นแต่เพียงท่านทั้งหลาย เอาพระไตรปิฎกที่เขียนเป็นหนังสือมายืนยันว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าน่ะมี ตำรา ไม่ใช่จำกันเฉยๆ แล้วบรรดาพระอรหันต์เหล่านั้น ก็มาประกาศชักจูงให้ เจริญความดี ตามคำสั่งสอน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความจริงการเอาความดี มาเสริม ความดีที่มีอยู่แล้วมันก็เป็นของไม่ยาก ถ้าจะพูดกันไปจริงๆ ในเขตสุวรรณภูมิส่วนนี้ ก็ถือว่า มีพระสำรองอยู่แล้ว คือ พระอรหันต์ และพระอริยะเจ้าทั้งหลาย เมื่อ พระอรหันต์ มาพบพระอรหันต์ด้วยกันเข้า ของมันก็ไม่ยาก อ่านตำรับตำราทบทวนกันเดี๋ยวเดียวเห็นว่าใช้ได้ ต่างคนต่างก็ลอกเอาเป็นแบบเป็นแผนไป เพื่อให้เป็นพื้นฐาน แน่นอน เพื่อสอนแก่บรรดาประชาชนทั้งหลาย และคนส่วนใหญ่ในเมืองนี้ ก็นับถือพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว ดังนั้น จังหวัดนครปฐมจึงต้องถือว่า เป็นเมืองแม่ในการประ กาศพระศาสนา


    <!-- #EndEditable --></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. kk008

    kk008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +148
    T T สมัยพุทธการ อินเดีย ไม่มีนโยบายในการเดินทางออกนอกประเทศ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ใช่วิสัยของคนอินเดีย ในพระไตรปิฏก ก็ไม่ได้กล่าวถึง ส่วน นครปฐม หรือ ทวารวดี นั้น น่าจะเป็นเมืองของชนชาติ มอญ นะขรับ พี่น้อง
     
  3. Supernova

    Supernova เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +2,488
    โมทนาครับ
    เคยอ่านเจอ หนังสือที่หลวงปู่อ่ำ วัดโสมนัส
    หนังสือชื่อ "ชินปกรณ............." มีหลักฐานจาก จาร (เป็นเหมือนกระเบื้อง)
    ว่า ศาสนาพุทธได้เข้ามาในดินแดนแถบประเทศไทยนานมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล
     

แชร์หน้านี้

Loading...