หลวงพ่อสอนพรหมวิหาร4ธรรมะแห่งการไม่ไปยังนรกภูมิ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 22 สิงหาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]
    พรหมวิหาร ๔

    ๙๔) พรหมวิหาร ๔ นี่ ถ้ายืนลงในจิตของใคร คนนั้นลงนรกไม่เป็น ลงไม่ได้
    แน่นอน เขาไม่ให้ลง ถ้าลงไปเขาขับขึ้นมา ลงไม่ได้ไม่มีสิทธิ์ คือว่าอารมณ์
    ของเราให้ทราบอยู่ให้มี เมตตาจิต เราจะไม่เป็นศัตรูกับใครเลยในโลกทั้งคน
    และสัตว์ เราจะเป็นมิตรที่ดีของเขา แต่ว่าเขาจะเป็นศัตรูกับเราน่ะเป็นเรื่อง
    ของเขา เราหวังดีแต่เขาหวังร้าย อย่างนี้เราต้องใช้ อุเบกขา วางเฉยไว้ถ้าเรา
    พูดกับเขา เขาโกรธ เราก็หยุดพูด เราใช้ อุเบกขา ตัวท้าย แต่ว่าเราไม่ได้
    โกรธ
    กรุณา ความสงสาร จิตคิดไว้เสมอว่า ใครเขาทุกข์ยากลำบาก ถ้าไม่เกิน
    วิสัยของเราที่จะช่วยได้ เราพร้อมที่จะช่วย ถ้าเราช่วยได้ด้วยทรัพย์สิน เราจะ
    ให้ทรัพย์สิน ทรัพย์สินไม่มี เราจะให้กำลังกาย กำลังกายให้ไม่ได้ เราให้ด้วย
    ปัญญา แต่ทั้งนี้ถ้าเขารับความช่วยเหลือจากเรา ถ้าเราให้การช่วยเหลือกับเขา
    เขาโกรธเรา เราต้องวางเฉย เราไม่โกรธตอบ เราไม่ช่วยเพราะช่วยไม่ได้
    ต่อมา
    มุทิตา เราไม่มีจิตคิดอิจฉาริษยาใคร ใครได้ดี เรายินดีด้วย
    ถ้าอารมณ์ ๔ ประเภทนี้ทรงตัวอยู่จริง ๆ ศีลก็บริสุทธิ์ศีลก็ไม่บกพร่อง
    เลย ถ้าเราจะทำสมาธิ สมาธิก็ทรงตัว อารมณ์แจ่มใส ไม่มีมัวหมอง ถ้าสมาธิ
    ไม่มัวหมอง ปัญญา คือ วิปัสสนาก็เกิด เท่านี้เอง
    ๙๕) ค่อย ๆ คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกคนคิดถึง พรหมวิหาร ๔ ให้มาก
    ๑.เมตตา ความรักคนและสัตว์ มีสภาวะความรู้สึกเหมือนกัน คือ รักสุข
    เกลียดทุกข์ ต้องการความสุข ต้องการความช่วยเหลือ
    ๒. กรุณาความสงสาร สงเคราะห์ตามกำลังที่เราพึงจะสงเคราะห์
    ๓. มุทิตา มีจิตอ่อนโยน ไม่อิจฉาริษยาใคร เห็นใครได้ดีก็พลอยยินดี
    ด้วย
    ๔. อุเบกขา วางเฉย เมื่อบุคคลใดมีทุกข์เพลี่ยงพล้ำ เราไม่ซ้ำเติม
    ถ้าไม่เกินวิสัยที่เราจะช่วยได้ ถ้ามันเกินวิสัยที่เราจะช่วยได้ เราไม่ซ้ำเติม
    เราวางเฉยเสียก่อน
    ถ้าจิตใจทรงตัวแบบนี้ทุกคน ทานบารมีก็เกิด เมื่อจิตคิดจะให้ทาน
    อย่างเดียวมีอยู่ ไม่อยากลัก ไม่อยากขโมยใคร ไม่แย่งทรัพย์สมบัติของใคร
    เวลานั้นถือว่า เรามีทานบารมีเต็ม เป็น ปรมัตถบารมี ถ้าจิตทรง
    พรหมวิหาร ๔ เป็นปกติ ศีลก็เป็น ปรมัตถบารมี และก็ในเมื่อบารมี
    ทั้งสองอย่างเต็ม ปัญญาบารมีก็เต็มด้วย เพราะถ้าขาดปัญญาเสียแล้ว
    พรหมวิหาร ๔ มีไม่ได้ คนที่จะทรง พรหมวิหาร ๔ ได้ เพราะอาศัย
    มีปัญญา

    ที่มา โอวาทหลวงพ่อเล่ม4
     

แชร์หน้านี้

Loading...