หลวงพ่อท่านพูดถึงพระราชจริยวัตรอันน่าประทับของในหลวง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 26 กันยายน 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]




    วันนี้วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๔ ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาพอดี ฉันดีใจที่บ้านเมืองเรายังมีพระมหากษัตริย์ ด้วยการมีพระมหากษัตริย์นั้นฉันเห็นว่าเรายังมีคนมีบุญเห็นอยู่ ในด้านการปกครอง แม้พระมหากษัตริย์จะไม่ได้ทรงบริหารประเทศด้วยพระองค์เองโดยตรงก็ตาม ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็น พระประมุขของปวงชน ทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขได้ด้วยบุญบารมีของพระองค์ เพราะคนที่จะเป็นกษัตริย์ได้นั้นต้องมีบุญพิเศษที่ทำมาดีแล้ว และเป็นบุญยิ่งกว่าปวงชนในขอบขัณฑสีมาของพระองค์ ถ้า มิฉะนั้นแล้วพระองค์จะทรงดำรงพระยศเป็นกษัตริย์ไม่ได้ เป็นอันว่าวันนี้เป็นวันเกิดของคนมีบุญ ทุกคน จงโมทนาในความดีของพระองค์ และก็ตั้งใจทำความดีตามที่พระองค์ทรงทำมา เมื่อไม่ทราบว่าชาติก่อนพระองค์ทรงทำมาอย่างไร ก็เลือกเอาความดีที่พระองค์ทรงทำในชาตินี้ ทำอย่างพระองค์ แต่ไม่ต้องลงทุนเท่าพระองค์ พระองค์ทรงพระเมตตาปรานี เราก็เป็นคนมีเมตตาบ้าง พระองค์ทรงบริจาคทรัพย์เพื่อความสุขของปวงชน เราก็บริจาคบ้าง พระองค์ทรงศีล เราก็รักษาศีลบ้าง พระองค์ทรงเยี่ยมเยียนประชาชน เราก็เยี่ยมบ้าง อย่างนี้เป็นต้น เราทำเหมือน แต่ไม่ใช่ทำเท่า คือพระองค์ทรงเมตตาสงเคราะห์คนและสัตว์ด้วยทรัพย์มาก เราก็ทำเหมือนพระองค์ที่ทรงมีเมตตาสงเคราะห์ ทรัพย์ก็ทำมากสละมาก แต่มากเท่าที่ทุนของเราจะอำนวย ต้องแบ่งทรัพย์ก่อน ส่วนไหนที่มีความจำเป็นอย่างไร แบ่งปันไว้เสียให้พอเหมาะพอดีกับความจำเป็น ส่วนที่จะสงเคราะห์ต้องเป็นส่วนที่ไม่มีอะไรผูกพัน มีสักบาทหรือสลึงก็ตาม สงเคราะห์ไปตามที่มีอย่างนี้ เรียกว่ามาก คือมากตามความจำเป็น เอากันอย่างนี้ ไม่ใช่ขี้ตามช้าง มันจะเกิดยุ่ง พระพุทธเจ้าก็ไม่ทรงสรรเสริญคนที่ทำเกินตัว ที่แนะให้ทำไม่ใช่เพื่อหวังเป็นกษัตริย์ เพื่อหวังความสุขตามกษัตริย์ ด้วยพระองค์ทรงสร้างความดีมาอย่างนี้ จึงมาเป็นพระมหากษัตริย์ได้อย่างนี้
    เมื่อปัจจัยความดีเดิมมีมา และพระองค์ก็ไม่ทรงทอดทิ้งความดีมาให้ขาดสาย กลับมาบำเพ็ญใหญ่อย่างไม่เห็นแก่ความสุขส่วน พระองค์ เมื่อตัวอย่างความดี เรารู้เองเห็นเอง ก็ถือเอาความดีของพระองค์เป็นครูทำบ้าง สร้างความดีบ้าง ก็จะพบดีและมีความสุข พระองค์มีความสุขอย่างพระมหากษัตริย์ เราก็มีความสุขอย่างราษฎรดี ต่างก็มีความสุขเหมือนกัน ต่างคนต่างสบาย พระมหากษัตริย์ก็ไม่ต้องทรงหนักใจเพราะพวกเราไม่ดี พวกเราก็ ไม่ต้องระวังภัยที่จะเกิดจากราชภัย คือ ความผิดตามกฎหมาย ต่างก็สบาย บ้านเมืองก็จะร่มเย็นเป็นสุข ไม่ต้องมีตำรวจก็ยังได้เลย เป็นเมืองที่มีความสุขอย่างจริงจัง ความสุขแบบที่ฉันว่านี้ เห็นเขาลือกันว่าศาสนาพระศรีอาริย์ท่านมีความสุขอย่างนี้ เขาลือกันนะ คนที่เอาข่าวมาบอกฉันเขาเก่ง เขารู้เรื่องก่อน พระศรีอาริย์เกิด แต่เป็นข่าวดีที่ควรรับฟัง เพราะเขาลือกัน ทำเป็นข่าวให้คนสร้างความดี ฉันว่าน่าจะมีข่าวอย่างนี้มาก ๆ ฉันชอบจริง ๆ เมื่อข่าวนี้มีมาก คนอยากดี อยากรวย อยากสวย อยากสบายมาก ก็ต้องทำความดีมาก เว้นความชั่วมาก ต่างก็มีความสุขมาก ฉันเห็นชอบด้วยกับข่าวนี้ และอยากให้ลือกันมาก ๆ ทั่ว ๆ ไป อยากให้คนที่ฟังข่าวลืออยากไปเห็นศาสนาพระศรีอาริย์ จะได้เห็นความสุขของโลกเสียที ฉันมันคนแก่หูมืดตามัว มองไม่ใคร่เห็นความสุขของโลก หูก็ฟังข่าวความสุขของโลกไม่ใคร่ได้ยิน ลืมตาเห็นแสงอาทิตย์ เขาเอาหนังสือพิมพ์มาให้อ่านก็เห็นแต่เรื่องทะเลาะกัน เรื่องฆ่ากัน เปิดวิทยุที่ลูกอัศนียาให้ไว้ฟัง ก็มีแต่เรื่องปล้นฆ่า มีเรื่องเดือดร้อน หูตาฉันเสียไปที่เห็นและได้ยินอย่างนั้นอย่างนั้น เพราะคนแก่ประสาทหู ตาไม่ดี หรือว่าเขาเขียนข่าว อ่านข่าวตามที่ฉันว่า ลูกหลานตาดี หูดีช่วยฉันฟัง ช่วยอ่านให้ฉันฟังด้วย ถ้าหากฉันอ่านไม่ผิด เพราะคนแก่ประสาทแก่แล้ว ฉันว่าโลกนี้ไม่น่ารักเลย มันเดือดร้อนจริง ๆ รีบทำความดีเสีย ไปศาสนาพระศรีอาริย์ดีกว่า ที่นั่นสบายมาก คนสวยน่ารักทุกคน รวยทุกคน มีความสุขทุกคน ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บทุกคน ไม่แก่กระย่องกระแย่งอย่างฉันทุกคน ทำดีอะไรหรือที่จะไปเกิดในศาสนาพระศรีอาริย์ได้ ไม่ยาก ค่อย ๆ รักษาศีล ๕ ไม่ต้องรักษาแรง ศีลจะช้ำและตกใจกลัว จงค่อย ๆ รักษา อย่ารักษาแรง ค่อย ๆ ดึงเอามาเก็บไว้ในใจและทำตามทีละตัวสองตัว อย่าเอามากจะหนักเกินไป รักษาตัวนี้ดีแล้วก็พยายามระมัดระวังอย่าให้มีอันตราย เมื่อแน่ใจว่ารักษาได้ไม่บกพร่องแล้ว ก็ค่อย ๆ เอามาใหม่อีกตัว ทำอย่างนี้จนกว่าจะมีครบ ๕ ตัว เรื่องเมตตาให้ทานเป็นการสงเคราะห์ก็เหมือนกัน ค่อยทำจากวงแคบ ลงทุนน้อย ไปหาวงกว้างและลงทุนใหญ่ตามความสามารถของตนจะทำได้ ค่อย ๆ รักษาอารมณ์ใจให้เป็นสมาธิ อย่าทำแรง อย่าทำมาก วันหนึ่งใช้เวลา ๑๐ นาที เอาพระพุทธรูปมาตั้งตรงหน้า ยกมือไหว้แล้วก็นั่งดูท่าน นึกถึงเฉพาะรูปพระพุทธ ไม่นึกเรื่องอื่น จะดูท่านสวย หรือดูว่าท่านเป็นพระสมัยไหนก็ตาม เมื่อครบ ๑๐ นาทีก็พัก เอาพระพุทธเจ้าเก็บ วิปัสสนาก็ทำด้วย ไม่ต้องทำมาก ตั้งอารมณ์สักวันละ ๕ นาที คิดว่าอะไรบ้างนะที่มันมีขึ้นแล้วจะไม่เก่า จะไม่พัง คนและสัตว์ประเภทใดที่เกิดแล้วไม่เแก่ ไม่ป่วย ไม่ตาย ไม่ต้องกิน ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องทุกข์ คิดดู หาดู ค้นคว้าตำราเก่า ๆ จะเป็นตำราอะไรก็ช่าง หยิบมาดู ไม่ต้องดูหรืออ่านมาก ดูที่ปกหนังสือว่าหนังสือเล่มนี้ใครแต่ง คนเขียนแต่งเดี๋ยวนี้อยู่หรือตาย ทำเท่านี้แหละ ใช้เวลาวันละไม่ต้องมาก เท่านี้ก็ขี้เกียจจะได้เกิดทันศาสนาพระศรีอาริย์ ฉันรับรองว่าทันแน่ ได้เกิดแน่ สวยแน่ มีความสุขแน่ ใครไม่เชื่อก็เชิญทำ เมื่อทำแล้วถ้าเกิดไม่ทันศาสนาพระศรีอาริย์ จะปรับฉันอย่างไร ฉันยอมทุกอย่าง ใครจะเชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อก็ไม่ขัดคอใคร แนะให้คนทำดีไม่ตกนรก
    ที่มา http://www.putthawutt.com/html/menu.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...