หลวงปู่ปานสงเคราะห์รักษาโรคเหน็บชาให้ชาวบ้าน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 21 สิงหาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]
    ฉันจะเล่าเรื่องย่อๆ เบ็ดเตล็ดอีกสักเรื่องหนึ่ง คือเรื่องธรณีสูบคน เขาร่ำลือกันว่าวัดของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคน่ะ มีคนถูกธรณีสูบ ๔-๕ คน เพราะสมัยนั้นการสัญจรการจราจรก็ไม่มาก มีเรือเขียว ๑ ลำ เรือแดง ๑ ลำ ล่องตอนเช้า แล้วก็ตอนเย็นๆ มีเรือเขียว ๑ ลำ เรือแดง ๑ ลำจากกรุงเทพฯ ผ่านหน้าวัด มีเท่านั้นนะ การจราจรมีไม่มาก คนที่เขาลงเรือเมล์มาเขาเห็นคนที่วัดบางนมโคจมดินลงไป จมดินลงไปถึงแค่คอหลายคน ๔-๕ คน แล้วพวกที่นั่งเรือนั่งแพ เรือแจวเรือพายก็ตาม ใครไปก็เห็นใครมาก็เห็น ข่าวเล่าลือกันไปว่าที่วัดของหลวงพ่อปานคนถูกธรณีสูบ ๔-๕ คนข่าวนี้มันก็ไปไว ปากคนเสียงคนนี่มีความสำคัญมาก ไม่ช้าคนเต็มวัดเต็มวา เรือแพหน้าวัดคนเต็มไปหมด ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะทุกคนเขาก็สนใจกัน สนใจเรื่องธรณีสูบ เมื่อขึ้นไปแล้วเขาก็ไปถามหลวงพ่อ ๆ ขอรับ คน ๔-๕ คนน่ะบาปอะไรธรณีถึงได้สูบ หลวงพ่อท่านก็ยิ้ม ท่านบอกว่าใครเขาบอกพวกเอ็งล่ะ ใครเขาบอกพวกเอ็งว่าธรณีสูบ คนพวกนี้น่ะมันเป็นโรคเหน็บชา คือขามันชา ข้าให้เอาใบขี้เหล็กกับอะไรบ้างก็ไม่ทราบ แล้วเผาเหล็กให้แดงเอาไปวางไว้ข้างล่างขุดหลุมแล้วเอาใบขี้เหล็กทับลงไป แล้วให้มันหย่อนขาลงไปเหยียบ เอาตูดนั่งบนแผ่นดิน แล้วก็เอาขาแหย่ลงไปถึงก้นหลุม แต่ไอ้เจ้าของไข้ของมัน อยากให้คนไข้น่ะมันหายเร็วเข้า มันก็ดันขุดหลุมเสียแค่คอเลย พอขุดหลุมเสร็จมันก็ทำพิธีกรรมตามข้าว่านั่น ทำตามนั้น แล้วเอาคนของมันลงไปยืนในหลุม นี่ข้าสั่งมันพักแล้วนะ มันก็บังคับคนไข้ของข้ายืนกันคนละครึ่งวันค่อนวัน นี่มันไม่ใช่ธรณีสูบนะ ข้าสั่งให้เขารับการรักษาโรคเหน็บชา นี่เรื่องธรณีสูบน่ะไม่มีอะไรมากหรอก มีเท่านั้น แต่ว่าคนที่จะต้องรับผลอันนี้มากคือใคร ก็คือหลวงพ่อปาน ในเมื่อชาวบ้านชาวเมืองมากันเต็มวัดเต็มวา งานประจำปีก็ยังสู้ไม่ได้ มากันหลายวัน หลวงพ่อปานก็เกณฑ์สิ หาคนไม่ทันก็พระนั่นแหละ ตั้งกระทะเป็นแถว เอากระทะหุงข้าวตั้งเป็นแถวเลี้ยงชาวบ้าน แต่อาหารประจำของท่านต้องมี พอท่านสั่งเลี้ยง ฉันก็ต้องรีบไปหาหัวตาลมากับผักบุ้ง ต้มปลาร้าหัวตาลกับแกงคั่วส้มผักบุ้ง ต้องมีทุกรายการที่หลวงพ่อปานมีงาน ฉันรู้ใจท่าน ฉันไปหามากัน แล้วก็ขนม ๒ อย่าง คือ ข้าวตอกน้ำกะทิ แมงลักละลายน้ำ ๒ อย่างนี้เป็นขนมประจำ เป็นอันว่ารายจ่ายของหลวงพ่อปานไม่รู้ว่าเท่าไหร่ แต่น่าอัศจรรย์นะ คนถูกธรณีสูบเพราะอาศัยการรักษาโรค เป็นปัจจัยที่ทำให้หลวงพ่อปานได้สตางค์คราวนั้นหมื่นบาทกว่า หมื่นบาทกว่าเชียวนะ พอได้ทุนหมื่นบาทกว่า ทั้งๆที่ท่านไม่ได้ประกาศเรี่ยไรอะไรทั้งหมด ท่านก็เลยตั้งท่าตั้งทุนเอาสร้างโบสถ์สร้างศาลา เรื่องการเก็บไม่ต้องพูดกัน การเก็บสะสมไม่ต้องพูดกัน เอาละ บรรดาลูกหลานทั้งหลาย เรื่องข่าวลือไม่มีสาระ แต่ว่าคนที่อาศัยข่าวลือให้เป็นประโยชน์ คือทำที่ไม่เป็นสาระให้เป็นสาระก็สามารถทำได้ นั่นก็ได้แก่ข่าวลือ คนเขามาแล้วหลวงพ่อปานท่านก็เลี้ยงด้วยอำนาจเมตตาบารมีนี่คนเมื่อมีความใจดี หลวงพ่อปานเลี้ยงจนอิ่มก็บังเกิดจิตเป็นกุศล เอาสตางค์มาทำบุญกับท่าน ในที่สุดท่านได้สตางค์หมื่นกว่าบาท ก็เอาเงินนั้นไปสร้างโบสถ์สร้างศาลาที่วัดอื่น ไม่ใช่วัดบางนมโค ก็ปรากฏว่าคนธรณีสูบมีอานิสงส์ คือสามารถสร้างโบสถ์สร้างวิหารได้ ขอหยุดเท่านี้นะ ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผลจงมีแก่ลูกหลาน สวัสดี <!-- #EndEditable -->
    ที่มา หนังสือประวัติหลวงพ่อปาน และ http://thaisquare.com/Dhamma/book/prawat_luangpopan/content.html#
     

แชร์หน้านี้

Loading...