ส.ส.ประแสง มงคลศิริ ผู้ศรัทธาในหลวงพ่อของเรา

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 11 กรกฎาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,440
    พระเครื่องคู่ใจคนดัง: บนๆๆๆ...จนสอบได้ที่ ๑ ส.ส.ประแสง มงคลศิริ



    [​IMG]ในช่วงสอบเอ็นทรานซ์ ภาพหนึ่งที่เรามักเห็นจนกลายเป็นสิ่งชินตา คือ การขอพรบนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันอย่างทั่วหน้า สุดแล้วแต่คนใดจะนับถือและ ศรัทธาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ใด บ้างก็สมหวัง บ้างก็ไม่สมหวัง ดังที่ได้ตั้งใจเอาไว้ ใครจะว่าเป็นเรื่องเหลวไหล ไร้สาระหา แก่นสารไม่ได้ก็ตาม แต่ ผศ.ดร.ประแสง มงคลศิริ ส.ส.อุทัยธานี เขต ๑ ได้ลองทำมาแล้ว และที่สำคัญคือ ได้ผลสมหวังจริงๆ
    ส.ส.ประแสง เล่าว่า ตั้งแต่เป็นเด็กมีความเคารพนับถือหลวงพ่อมงคล วัดสังกัสรัตนคีรี จ.อุทัยธานี ยิ่งเวลาที่ใกล้สอบก็จะไปกราบท่านทุกครั้ง เนื่องจากความเป็นเด็ก เราต้องการกำลังใจ เชื่อว่าเด็กนักเรียนส่วนใหญ่จะอธิษฐานขอให้สอบได้ด้วยกันทั้งนั้น ส่วนตนเองไม่ขอแค่สอบได้เท่านั้น แต่ขอให้สอบได้ที่ ๑ ด้วย อธิษฐานกี่ครั้งที่ผ่านมาก็ขอให้สอบได้ที่ ๑
    เรียนจนจบปริญญาตรีก็ไม่เคยสอบได้ที่ ๑ สักครั้ง ขนาดเรียนอยู่ที่กรุงเทพฯ พอใกล้ถึงเวลาสอบก็จะกลับมาอธิษฐานกับหลวงพ่อมงคลขอให้สอบได้ที่ ๑ การอธิษฐานแบบนี้ไม่ได้บนบานเพื่อเอาอามิสสินจ้างอะไรไปแก้บนแบบนั้น ไม่ใช่ แต่สิ่งที่ตนเองทำคือการอธิษฐานมากกว่า เชื่อไหมคำอธิษฐานมาสมหวังเมื่อเรียนจบปริญญาโท วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสอบได้ที่ ๑
    "ตลอดชีวิต ๒๓ ปีที่อธิษฐานมาทั้งชีวิตไม่เคยสอบได้ที่ ๑ เลย มาครั้งนี้สอบได้ที่ ๑ ถือว่าเป็นครั้งที่เปลี่ยนชีวิต พอดีว่าทางจุฬาฯ มีโควต้าให้นิสิตไปเรียนปริญญาเอกได้ วันนั้นดูเหมือนทุนญี่ปุ่นทุ่มใส่หัวผมเลย ผมคิดว่าคำอธิษฐานที่ผมทำเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง ให้มุ่งมั่น เชื่อว่าเป็นสิ่งที่กำหนดสมาธิเราได้ กำหนดความตั้งใจ วันนี้พรุ่งนี้ไม่ปรากฏ แต่ถ้าเรามีความมุ่งมั่นก็สำเร็จได้" ส.ส.อุทัยธานีนักอธิษฐานกล่าว
    อย่างไรก็ตาม เมื่อมาลงเล่นการเมือง ทุกครั้งของการลงพื้นที่หาเสียง ส.ส.ประแสงจะไปขอพรหลวงพ่อมงคลให้เป็นมงคลทุกครั้ง โดยไม่ได้ไปบนบานขออะไร แต่มีชาวบ้านที่ชอบไปบนขอให้ตนเองได้เป็น ส.ส. ทุกวันนี้ยังต้องไปแก้บนชาวบ้าน เช่น ชาวบ้านบางคนไปบนลิเกไว้ พอเรารู้ก็ตามไปแก้บนให้
    ขณะเดียวกัน ส.ส.ประแสง ยังให้ความเคารพนับถือ พระครูอุทัยธรรมสาร (หลวงพ่ออั้น) เจ้าอาวาสวัดธรรมโฆษก (โรงโค) เพราะบ้านอยู่ติดกับกุฏิวัด ทำให้ได้เห็นท่านทำอาหารเลี้ยงชาวบ้านที่ยากจนเสมอ ใจเราก็ใกล้ศาสนามาตั้งแต่บัดนั้น
    [​IMG]นอกจากนี้ ส.ส.ประสง ยังมีความศรัทธาต่อ พระราชพรหมยาน ( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี มีความคุ้นเคย ได้ยินชื่อเสียงของท่านมาตั้งแต่เกิดก็ว่าได้ เรียกว่าชื่อของท่านได้ฝัง อยู่ในหัวเรามาตลอดเวลา ยิ่งเกิดในช่วงสงครามเวียดนาม สงครามเกาหลี ก็จะเห็นเหล่าบรรดานายทหารที่จะไปรบ หลวงพ่อท่านก็จะเทศน์ธรรมะ พร้อมกับมอบเครื่องรางให้กับเหล่าทหารดังกล่าว เพื่อให้มีกำลังใจ แล้วหลายคนรอดชีวิตกลับมากลายเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ ลูกศิษย์จึงมีตั้งแต่ระดับเล็กๆ จนกระทั่งไปถึงระดับนายพล
    ส.ส.ประแสง บอกว่า ทุกๆ วันจะเห็นทหารแต่งเครื่องแบบเต็มยศ มาหาท่านไม่ว่างเว้น บางคนก็มารับประทานอาหารที่วัด ตรงนี้เหมือนถูกปลูกจิตสำนึกว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำมีคนศรัทธามากขนาดไหน ความเข้าใจก็คือเหตุมาจากความเชื่อ ที่ทหารไปรบแล้วรอดกลับมา หลังจากนั้น เข้ามาเรียนปริญญาตรี วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ไม่ได้ลืมเลือนความเป็นหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่เคารพนับถือของชาวบ้าน ยังคงได้ยินชื่อเสียงของท่านอย่างต่อเนื่อง
    กระทั่ง พ.ศ.๒๕๓๔ เรียนจบปริญญาเอก วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อายุ ๒๘ ปี ก็ได้บวชทดแทนบุญคุณให้กับพ่อที่เพิ่งเสียชีวิตไป ประกอบกับเป็นจังหวะ ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่าน จัดงานพิธีพุทธาภิเษก โดยมีพระเกจิอาจารย์นั่งปรกปลุกเสกทั้งหมด ๙๙ รูป นับเป็นความโชคดีที่ได้ติดตามหลวงพ่ออั้นไปร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย ทำให้ได้เข้าไปนั่งท้ายแถวเป็นพระรูปที่ ๑๐๐
    พิธีครั้งนั้นถือว่าเป็นงานพุทธาภิเษกที่ใหญ่ และเป็นครั้งสุดท้ายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำก่อนจะมรณภาพ
    "เป็นพระสงฆ์บวชใหม่ถือว่ามีบุญอย่างมาก แม้คาถาสวดมนต์ต่างๆ ยังท่องไม่ได้ก็ตาม ช่วงเวลานั้นพยายามมองภาพที่เห็นด้วยสติว่า ทำไมชาวบ้านถึงได้ศรัทธาหลวงพ่อขนาดนี้ เชื่อหรือไม่ว่า วันนั้นมีชาวบ้านเข้าคิวทำบุญใน บาตรที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเป็นจำนวนมหาศาล เอาบาตรมาเปลี่ยนแล้วหลายบาตร ก็ไม่พอที่รองรับ ตรงนั้นพยายามคิดเป็นวิทยาศาสตร์ เป็นไปได้ไหมว่า มีหน้าม้ามาประเดิมการทำบุญก่อน จนเกิดกระแสสาธุชนจึงได้ทำตามกัน สังเกตพระสงฆ์บางรูปก็ชะโงกดู คงคิดเหมือนกันว่า ทำไมชาวบ้านถึงได้ทำบุญที่บาตรของตนเองมากมายขนาดนี้" ส.ส.ประแสงกล่าว พร้อมกับพูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า
    "ผมจะเชื่อหลักวิทยาศาสตร์ แล้วต่อต้านความเชื่อความศรัทธาเหล่านี้ ขอบอกว่าไม่ได้ต่อต้านใดๆเลย เพราะบางสิ่งบางอย่างมีความรู้สึกว่า มันอธิบายยาก ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปรากฏการณ์ หรือเป็นปาฏิหาริย์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ แต่ผมมองในเชิงวิทยาศาสตร์ กรณีผมที่เป็นพระบวชใหม่แต่ มีคนมาทำบุญกับ ผมเยอะ เป็นไปได้ไหมว่า เป็นจิตวิทยาจัดตั้งให้คนมาทำบุญ วันนี้ผมเชื่อเรื่องบาปบุญดีชั่วมีแน่ แต่พระเครื่องหนังเหนียวคงกระพันผมไม่เชื่อ"
     

แชร์หน้านี้

Loading...