สงเคราะห์ญาติ

ในห้อง 'ภพภูมิ-สวรรค์ นรก' ตั้งกระทู้โดย สังขารไม่เที่ยง, 13 มกราคม 2008.

แท็ก: แก้ไข
  1. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    สงเคราะห์ญาติ

    คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด



    คําว่า ญาติ หมายถึง คนที่เป็นเชื้อสายเดียวกัน เป็นเหล่ากอเดียวกัน เป็นสายโลหิตเดียวกัน หรือคนที่รู้จักคุ้นเคยสนิทสนมกัน เกิดแต่ความสนิทสนมกับญาติทางสายโลหิตของเราบ้าง ได้ประพฤติและปฏิบัติธรรมร่วมกันบ้าง

    ญาติจะมีความรักใคร่นับถือกันและมีความสามัคคีกันอย่างมั่นคงได้ ต้องมีธรรมะสำหรับประพฤติปฏิบัติต่อกัน เพื่อส่งเสริมความรัก ความนับถือ ความสามัคคีให้แน่นแฟ้นมั่งคงยิ่งขึ้น

    ธรรมะอันเป็นอุบายเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจญาติ ให้ร่วมกลุ่มกันได้ด้วยความเคารพ รักใคร่กันนั้น ได้แก่ ญาติธรรม คือ การสงเคราะห์ญาติด้วยธรรม 4 ประการ คือ

    1. ทาน การอุดหนุนจุนเจือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละ แบ่งปัน ช่วยเหลือหรือสงเคราะห์อนุเคราะห์ด้วยทรัพย์วัตถุสิ่งของ ตลอดจนให้ความรู้ ความเข้าใจ และศิลปวิทยา

    2. ปิยวาจา การกล่าวคำสุภาพ ไพเราะ น่าฟัง ชี้แจง แนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ มีเหตุผล เป็นหลักเป็นฐาน ชักจูงในทางที่ดีงาม หรือคำพูดที่แสดงความเห็นอกเห็นใจ ให้กำลังใจ รู้จักพูดให้เกิดความเข้าใจดี สมานสามัคคี เกิดไมตรี ทำให้รักใคร่นับถือและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

    3. อัตถจริยา การช่วยเหลือด้วยแรงกาย และขวนขวายช่วยเหลือกิจการต่างๆ บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ รวมทั้งช่วยแก้ไขปัญหาและช่วยปรับปรุงส่งเสริมในด้านจริยธรรม

    4. สมานัตตตา การทำตัวให้เข้ากับเขาได้ วางตนเสมอต้นเสมอปลาย ให้ความเสมอภาค ปฏิบัติสม่ำเสมอกันต่อคนทั้งหลาย วางตนเหมาะแก่ฐานะ ภาวะ บุคคล เหตุการณ์และสิ่งแวดล้อม ให้ถูกต้องตามธรรม

    การสงเคราะห์ด้วยการประพฤติญาติธรรม 4 ประการ คือ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่ญาติตามสมควร การพูดจาด้วยถ้อยคำน่ารัก การรู้จักทำประโยชน์แก่กันตามสมควร และการรู้จักวางตัวเสมอต้นเสมอปลายกับทุกคนดังกล่าวมา ย่อมเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีในหมู่ญาติ ตลอดจนสังคมและประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้า มั่นคง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นมงคล เพราะเป็นเหตุให้บรรลุคุณพิเศษคือ ความสรรเสริญที่มีอยู่ในปัจจุบันและให้เป็นไปในภพหน้ามีการถึงสุคติโลกสวรรค์

    บุคคลที่รวบรวมทรัพย์ไว้มาก แต่ไม่ได้ใช้สอย ไม่ได้สงเคราะห์ญาติ ไม่ทำบุญให้ทาน มัวแต่ยินดีเพลิดเพลินกับบุญเก่ากุศลก่อนที่เคยได้ทำมา ท่านผู้รู้ทั้งหลายกล่าวติเตียนว่าเป็นเหมือนนกมัยหกะ บินไปจับต้นไม้ที่มีผลแล้วก็ส่งเสียงร้องว่า ของเราๆ อยู่ตลอดเวลา นกตัวอื่นก็ไม่อาจจะกินได้ ครั้นผลไม้นั้นสุกก็หล่นไป นกที่ร้องก็ไม่ได้กิน นกอื่นก็ไม่ได้กิน ผลไม้ก็หมดหาประโยชน์ไม่ได้ เป็นตัวอย่าง

    บุคคลผู้มีทรัพย์แล้วไม่รู้จักใช้สอย ไม่ทำบุญกุศล ไม่สงเคราะห์ญาติของตน ถึงแม้จะมีทรัพย์มากมายก็ไม่มีประโยชน์สำหรับตนและคนทั้งปวง หาประโยชน์อะไรไม่ได้ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า เพราะมีจิตคิดหวงแหนเก็บไว้ ทำให้ลูกหลานคนสนิทชิดใกล้ ต่างพากันแย่งชิงจนเกิดคดีฟ้องร้องกัน เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายตามมา เพราะทรัพย์เป็นเหตุ

    ควรหมั่นทำบุญกุศล และสงเคราะห์ญาติของตนตามสมควร เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในชาตินี้และชาติหน้าต่อไป

    หน้า 31


    http://matichon.co.th/khaosod/view_...ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09DMHdNUzB4TXc9PQ==
     

แชร์หน้านี้

Loading...