วัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี-เปิดอบรมธรรมกรรมฐาน

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 5 ตุลาคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] [​IMG] วัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสีเปิดอบรมธรรมกรรมฐาน
    วัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี
    เปิดอบรมธรรมกรรมฐาน
    ---------
    ดินแดนแห่งบุญบารมี ทั้งปวงนี้ ขอจงประสบโชคดี มีชัยทุกๆ รูป ทุกๆ นาม ขอจงสมความปรารถนา เทอญ เมื่อทำคุณงามความดีแล้ว ขอคุณงามความดีจงบังเกิดโดยฉับพลันทันใด ทุกรูป ทุกนาม และจงอย่ามีความทุกข์ร้อนเลย ใครจะเป็นอย่างไร ก็ตามเถิด เราจงอย่าไปวิตกกังวลกับเขาเหล่านั้นเลย ถือว่าเป็นกรรมของเขาไป ทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดี เพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
    "ผู้ใดทำกรรมอะไรไว้ จะได้รับผลกรรมนั้น"
    ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จะได้รับผลกรรมนั้น โดยบริบูรณ์ทุกประการ นี่เป็นหลักคำสอนกรรมฐานของ หลวงพ่อวิรัตนนัง ภิกขุ (หลวงพ่อเบิ้ม) เจ้าอาวาสวัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี หรือ ชาวบ้านเรียกว่า วัดเขาชี
    หลวงพ่อเบิ้ม กล่าวว่า การจะเข้าไปพิจารณาในกองสังขารทั้งปวง สำหรับการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน มีการวางแบบแผนไว้มากพอสมควร แต่หลักธรรมสำคัญที่ถูกต้อง เราควรดูจิตและนิสัยของตัวเราก่อนแล้ว ค่อยๆ เลือกสรรวิธีต่างๆ ที่ตรงกับจริตเรา แล้วจะง่ายไม่ลำบากในตัวเราเอง
    ลืมแล้วและก็ยังลืมอีก และลืมอีกแล้วยังลืมอีก แต่ไม่เป็นเป็นไร เพราะเราถือว่า กุสะลาธัมมา อากุสะลาธัมมา ธัมมา สังขารา อะนัตตา แต่เราก็เป็นปกติ เพราะปัจจุบันเองก็ยังเป็นธัมมา สังขารา อะนัตตา
    "ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน การรักษาจิตอยู่เนื่องๆทุกขณะนั้น ให้รู้อยู่มิให้อาการของจิตเราเกิดขึ้นได้ในทางอกุศล(ทุกข์) ในทุกๆ กรณี พึงเจริญปฏิบัติให้จิตใจเราเกิดขึ้นแต่เพียงกุศล (สุข) อยู่เนื่องๆ ในทุกๆ กรณีนั้น และคือ การเอาตัวเรารอดพ้นจากภัยพิบัติในทุกข์ในชาตินี้และชาติต่อๆ ไปแล" เจ้าอาวาสวัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสีกล่าว
    สำหรับวัดแห่งนี้จะตั้งอยู่บนเขา ในป่าธรรมชาติ ซึ่งห่างไกลจากชุมชน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา การเดินทางไม่ค่อยสะดวก ถนนลูกรังย้อนไป ๒๐ ปีก่อน หลวงพ่อเบิ้มได้ธุดงค์มาเรื่อยๆ ทุกภาค อีสาน เหนือ กลาง ใต้ ตามที่หลวงพ่อได้เคยนิมิตเห็นดินแดนที่บริสุทธิ์ที่รัชกาลที่ ๕ เคยพามาพบในนิมิตของหลวงพ่อ
    กระทั่งมาพบที่ดินแดนนี้ เป็นดินแดนบริสุทธิ์เพื่อชาวโลก และสถานแห่งนี้ นับเป็นสถานที่ลายแทงโบราณ ที่เขียนไว้ "ลายแทงเส้นทางสู่แดนถ้ำเขาพนมฉัตร (ถ้ำทิพย์)" ซึ่งจัดว่าเป็นแดนอาถรรพ์แต่โบราณ จึงได้เล่าขานสืบต่อๆ มาถึงปัจจุบัน
    การสร้างวัดเริ่มจากศาลาเล็กๆ ใช้เป็นที่พักญาติโยมเวลาที่มาปฏิบัติธรรม แต่พออยู่ๆ ไปก็เกิดความศรัทธาจากญาติโยม จากหลายที่ มาช่วยลงแรงเกร็ดเล็กผสมน้อย ช่วยกันก่อสร้าง ปรับปรุง โดยไม่มีการจ้างรับเหมาก่อสร้างใดๆ ทั้งสิ้นเลย จนถึงปัจจุบันก็ยังมีการซ่อมแซม และสร้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับญาติโยมที่มาปฏิบัติได้อย่างเต็มที่
    ปัจจุบัน วัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี ได้เผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ ทำบาป-ย่อมได้บาป ทำบุญ-ย่อมได้บุญ จริงยังอยู่บนโลกไม่ไปไหน โดยทางวัดจะเน้นในเรื่องธรรมชาติล้วนๆ ป่าสมบูรณ์ สิ่งแวดล้อมรื่นรมย์ สมกับธรรมะพระพุทธเจ้าสอนธรรมะอยู่กับธรรมชาติ เหมือนคำดำรัสที่ว่า
    "สุขอื่นใด เหนือความสงบไม่มี"
    หลักการปฏิบัติธรรม จะเน้นในการประพฤติปฏิบัติกรรมฐานพิสูจน์บาป-พิสูจน์บุญ โดยใช้ธรรมเปิดโลก จะเปิดให้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำ หรือเคยเป็นในอดีตชาติ หรือเรียกว่า ทางลัดสั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา หรือมีเวลาน้อย ก็สามารถพิสูจน์ได้เห็นผล ถึงจะแค่ครั้งเดียวก็ตาม คือ พลังธรรมทั้งหลายทั้งปวงในสากลจักรวาลนี้ รวมลงมาอยู่ที่ลมหายใจ เข้า-ออก ของเรานี้เอง พยายามหายใจ และให้มีพลังที่รุนแรงและรวดเร็วให้เต็มร้อย
    อานุภาพที่มีแสนยานุภาพจะเกิดเองอย่างมหัศจรรย์ ถอดถอนอาถรรพ์ ทุกๆ ประการ ที่เป็นอัปมงคลวิบากกรรมทั้งหลาย ทั้งปวง ทุกกรณี จะถอดถอนได้เอง โดยธรรมชาติอย่างมหัศจรรย์ เมื่อเราพร้อมด้วยพลังธรรมแห่งพระพุทธเจ้า จะมีพลังพุทธานุภาพที่ประเสริฐ ดวงตาธรรม ปัญญาธรรม เจริญเองโดยบริบูรณ์
    ส่วนการช่วยเหลือทั่วไปที่ วัดเขาพนมฯ ส่วนใหญ่การช่วยเหลือที่วัดก็เป็นผู้ที่มาปฏิบัติธรรม แล้วก็ขออยู่รับใช้ศาสนาต่อแล้วแต่ความประสงค์ โดยทางวัดก็เรียกผู้ที่มาขอรับใช้ศาสนาว่า "สิขมนา" และก็ยังมีพระท่านอื่นๆ ที่ขอเข้ามาปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อ โดยหลวงพ่อได้เห็นว่า ทุกอย่างเกิดจากแรงศรัทธาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเห็นได้ด้วยตัวเองเท่านั้น ถ้าจะพูดอย่างภาษาพระก็ว่า "ใคร่จะมาประพฤติปฏิบัติ"
    นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมดีๆ ทั้งเทศกาล และวัฒนธรรมของชาวไทย ที่ทางวัดจะจัดขึ้นโดยตลอด อาทิ วันแม่ ,วันพ่อ ,วันเด็ก ,วันสงกรานต์ ฯลฯ ในช่วงเดือนตุลาคม ๒๕๔๙ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๙ (แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๑) ทางวัดได้จัดงานบุญใหญ่ "ทอดกฐินสามัคคี ประจำปี ๒๕๔๙" ณ วัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี
    พุทธศาสนิกชนที่สนใจมีความประสงค์ร่วมอนุโมทนาบุญในการ "ทอดกฐินสามัคคีประจำปี ๒๕๔๙ ได้ในครั้งนี้
    สามารถอนุโมทนาบุญด้วยการโอนเงินผ่าน ธนาคารทหารไทย สาขาทรัพย์ไพรวัลย์ ประเภทบัญชีออมทรัพย์ บัญชีชื่อวัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี เลขที่บัญชี ๔๐๐-๒-๐๘๒๕๒-๙ แล้วแต่ศรัทธา
    หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ วัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี บ้านเขาชี หมู่ ๑๕ ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก โทร.๐-๗๘๔๙-๕๑๒๗,๐-๙๓๑๖-๓๖๑๘

    0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ เพ็ญสาขา จวนสวัสดิ์ 0

    -->[​IMG]

    วัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี
    เปิดอบรมธรรมกรรมฐาน [​IMG]
    ---------
    ดินแดนแห่งบุญบารมี ทั้งปวงนี้ ขอจงประสบโชคดี มีชัยทุกๆ รูป ทุกๆ นาม ขอจงสมความปรารถนา เทอญ เมื่อทำคุณงามความดีแล้ว ขอคุณงามความดีจงบังเกิดโดยฉับพลันทันใด ทุกรูป ทุกนาม และจงอย่ามีความทุกข์ร้อนเลย ใครจะเป็นอย่างไร ก็ตามเถิด เราจงอย่าไปวิตกกังวลกับเขาเหล่านั้นเลย ถือว่าเป็นกรรมของเขาไป ทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดี เพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
    "ผู้ใดทำกรรมอะไรไว้ จะได้รับผลกรรมนั้น" [​IMG]
    ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จะได้รับผลกรรมนั้น โดยบริบูรณ์ทุกประการ นี่เป็นหลักคำสอนกรรมฐานของ หลวงพ่อวิรัตนนัง ภิกขุ (หลวงพ่อเบิ้ม) เจ้าอาวาสวัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี หรือ ชาวบ้านเรียกว่า วัดเขาชี
    หลวงพ่อเบิ้ม กล่าวว่า การจะเข้าไปพิจารณาในกองสังขารทั้งปวง สำหรับการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน มีการวางแบบแผนไว้มากพอสมควร แต่หลักธรรมสำคัญที่ถูกต้อง เราควรดูจิตและนิสัยของตัวเราก่อนแล้ว ค่อยๆ เลือกสรรวิธีต่างๆ ที่ตรงกับจริตเรา แล้วจะง่ายไม่ลำบากในตัวเราเอง
    ลืมแล้วและก็ยังลืมอีก และลืมอีกแล้วยังลืมอีก แต่ไม่เป็นเป็นไร เพราะเราถือว่า กุสะลาธัมมา อากุสะลาธัมมา ธัมมา สังขารา อะนัตตา แต่เราก็เป็นปกติ เพราะปัจจุบันเองก็ยังเป็นธัมมา สังขารา อะนัตตา
    "ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน การรักษาจิตอยู่เนื่องๆทุกขณะนั้น ให้รู้อยู่มิให้อาการของจิตเราเกิดขึ้นได้ในทางอกุศล(ทุกข์) ในทุกๆ กรณี พึงเจริญปฏิบัติให้จิตใจเราเกิดขึ้นแต่เพียงกุศล (สุข) อยู่เนื่องๆ ในทุกๆ กรณีนั้น และคือ การเอาตัวเรารอดพ้นจากภัยพิบัติในทุกข์ในชาตินี้และชาติต่อๆ ไปแล" เจ้าอาวาสวัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสีกล่าว
    สำหรับวัดแห่งนี้จะตั้งอยู่บนเขา ในป่าธรรมชาติ ซึ่งห่างไกลจากชุมชน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา การเดินทางไม่ค่อยสะดวก ถนนลูกรังย้อนไป ๒๐ ปีก่อน หลวงพ่อเบิ้มได้ธุดงค์มาเรื่อยๆ ทุกภาค อีสาน เหนือ กลาง ใต้ ตามที่หลวงพ่อได้เคยนิมิตเห็นดินแดนที่บริสุทธิ์ที่รัชกาลที่ ๕ เคยพามาพบในนิมิตของหลวงพ่อ
    กระทั่งมาพบที่ดินแดนนี้ เป็นดินแดนบริสุทธิ์เพื่อชาวโลก และสถานแห่งนี้ นับเป็นสถานที่ลายแทงโบราณ ที่เขียนไว้ "ลายแทงเส้นทางสู่แดนถ้ำเขาพนมฉัตร (ถ้ำทิพย์)" ซึ่งจัดว่าเป็นแดนอาถรรพ์แต่โบราณ จึงได้เล่าขานสืบต่อๆ มาถึงปัจจุบัน [​IMG]
    การสร้างวัดเริ่มจากศาลาเล็กๆ ใช้เป็นที่พักญาติโยมเวลาที่มาปฏิบัติธรรม แต่พออยู่ๆ ไปก็เกิดความศรัทธาจากญาติโยม จากหลายที่ มาช่วยลงแรงเกร็ดเล็กผสมน้อย ช่วยกันก่อสร้าง ปรับปรุง โดยไม่มีการจ้างรับเหมาก่อสร้างใดๆ ทั้งสิ้นเลย จนถึงปัจจุบันก็ยังมีการซ่อมแซม และสร้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับญาติโยมที่มาปฏิบัติได้อย่างเต็มที่
    ปัจจุบัน วัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี ได้เผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ ทำบาป-ย่อมได้บาป ทำบุญ-ย่อมได้บุญ จริงยังอยู่บนโลกไม่ไปไหน โดยทางวัดจะเน้นในเรื่องธรรมชาติล้วนๆ ป่าสมบูรณ์ สิ่งแวดล้อมรื่นรมย์ สมกับธรรมะพระพุทธเจ้าสอนธรรมะอยู่กับธรรมชาติ เหมือนคำดำรัสที่ว่า
    "สุขอื่นใด เหนือความสงบไม่มี"
    หลักการปฏิบัติธรรม จะเน้นในการประพฤติปฏิบัติกรรมฐานพิสูจน์บาป-พิสูจน์บุญ โดยใช้ธรรมเปิดโลก จะเปิดให้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำ หรือเคยเป็นในอดีตชาติ หรือเรียกว่า ทางลัดสั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา หรือมีเวลาน้อย ก็สามารถพิสูจน์ได้เห็นผล ถึงจะแค่ครั้งเดียวก็ตาม คือ พลังธรรมทั้งหลายทั้งปวงในสากลจักรวาลนี้ รวมลงมาอยู่ที่ลมหายใจ เข้า-ออก ของเรานี้เอง พยายามหายใจ และให้มีพลังที่รุนแรงและรวดเร็วให้เต็มร้อย
    อานุภาพที่มีแสนยานุภาพจะเกิดเองอย่างมหัศจรรย์ ถอดถอนอาถรรพ์ ทุกๆ ประการ ที่เป็นอัปมงคลวิบากกรรมทั้งหลาย ทั้งปวง ทุกกรณี จะถอดถอนได้เอง โดยธรรมชาติอย่างมหัศจรรย์ เมื่อเราพร้อมด้วยพลังธรรมแห่งพระพุทธเจ้า จะมีพลังพุทธานุภาพที่ประเสริฐ ดวงตาธรรม ปัญญาธรรม เจริญเองโดยบริบูรณ์
    ส่วนการช่วยเหลือทั่วไปที่ วัดเขาพนมฯ ส่วนใหญ่การช่วยเหลือที่วัดก็เป็นผู้ที่มาปฏิบัติธรรม แล้วก็ขออยู่รับใช้ศาสนาต่อแล้วแต่ความประสงค์ โดยทางวัดก็เรียกผู้ที่มาขอรับใช้ศาสนาว่า "สิขมนา" และก็ยังมีพระท่านอื่นๆ ที่ขอเข้ามาปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อ โดยหลวงพ่อได้เห็นว่า ทุกอย่างเกิดจากแรงศรัทธาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเห็นได้ด้วยตัวเองเท่านั้น ถ้าจะพูดอย่างภาษาพระก็ว่า "ใคร่จะมาประพฤติปฏิบัติ"
    นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมดีๆ ทั้งเทศกาล และวัฒนธรรมของชาวไทย ที่ทางวัดจะจัดขึ้นโดยตลอด อาทิ วันแม่ ,วันพ่อ ,วันเด็ก ,วันสงกรานต์ ฯลฯ ในช่วงเดือนตุลาคม ๒๕๔๙ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๙ (แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๑) ทางวัดได้จัดงานบุญใหญ่ "ทอดกฐินสามัคคี ประจำปี ๒๕๔๙" ณ วัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี
    พุทธศาสนิกชนที่สนใจมีความประสงค์ร่วมอนุโมทนาบุญในการ "ทอดกฐินสามัคคีประจำปี ๒๕๔๙ ได้ในครั้งนี้
    สามารถอนุโมทนาบุญด้วยการโอนเงินผ่าน ธนาคารทหารไทย สาขาทรัพย์ไพรวัลย์ ประเภทบัญชีออมทรัพย์ บัญชีชื่อวัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี เลขที่บัญชี ๔๐๐-๒-๐๘๒๕๒-๙ แล้วแต่ศรัทธา
    หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ วัดเขาพนมสัจจฉัพพรรณรังสี บ้านเขาชี หมู่ ๑๕ ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก โทร.๐-๗๘๔๙-๕๑๒๗,๐-๙๓๑๖-๓๖๑๘
    0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ เพ็ญสาขา จวนสวัสดิ์ 0
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ที่มา: คมชัดลึก
    http://www.komchadluek.net/2006/10/05/j001_53128.php?news_id=53128
     

แชร์หน้านี้

Loading...