ลูกศิษย์หลวงพ่อพระราชพรหมยานเล่าผลการฝึกมโนยิทธิ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 28 ตุลาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    <CENTER>สัมภาษณ์ผู้ฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลัง</CENTER>
    <TABLE width=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG] <TD vAlign=center align=left>พระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ ผู้ถาม
    คุณปู ศรีนวล ผู้ตอบ ( เล่าผลการฝึก )
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD align=right width=91>พระครูปลัดฯ : <TD>ไม่ต้องกลัว พี่น้องกันทุกคนนี่ ลูกพ่อเดียวกันทุกคนนะ บ้านอยู่ที่ไหน สุพรรณหรือ วันที่ได้มโนมยิทธิเต็มกำลังนี่วันไหน วันเสาร์ หรือ วันอาทิตย์
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>วันที่ วันอะไรล่ะ วันแรก
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>วันที่ภาวนา นะมะ พะธะ หรือเปล่า
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ที่ภาวนา ก็ที่เขาบอกว่าให้นั่ง บอกว่า นะมะ พะธะ เนี่ย เขาว่าเนี่ย ขอบารมีอยากจะเห็นหลวงพ่อ อยากจะเห็นหลวงพ่อด้วย แล้วก็อยากเห็น ก็ขอพระพุทธเจ้าช่วยลูกด้วย ฉันก็ว่าไม่เป็น ฉันก็ว่าไปยังงั้นแหละ พูดไปพูดมา มันก็สั่น มันก็ตึ๊ก ๆ ๆ ฉันก็กลัว ใจมันยังไงก็ไม่รู้ ตึ๊ก ๆ ๆ บอกไม่ถูก มันรัว ฉันก็ร้องไห้เลย
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>ร้องเพราะอะไร
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>มันกลัวน่ะ มันกลัวมันจะขาดไปเลยน่ะ มันขาดเปี๊ยบไปงั้น ทีนี้มันก็ไงก็ไม่รู้ มันปุ๊บ หายไปไงก็ไม่รู้ ไม่กลัวอีกแล้ว ไม่กลัวก็เห็นรูปพระพุทธเจ้าเนี่ย องค์อย่างนี้ องค์ใหญ่อย่างนี้ ก็เลยไหว้เลย บอกช่วยลูกด้วย ลูกกลัว ขอพรให้ลูกได้ไปเห็นหลวงพ่อทีเถอะ ว่ายังงั้น มาอีกองค์แล้ว ทีนี้ก็สูงสิ ฉันก็แหงนขึ้นไป สูงใหญ่ โอ๊ย.. ไม่มองแล้ว ทีนี้ก็กราบเท้า ก็ขอให้เห็น หลวงพ่อทีเถอะ ลูกอยากเห็นหลวงพ่อ ทีนี้มันก็แว๊บอีกแล้ว อะไรมันแว๊บขาวพรึ่บไปเลย ก็ไม่รู้ไปยังไง แว๊บไปเห็นหลวงพ่ออีกแล้ว
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>เห็นหลวงพ่ออีก
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ฉันก็เลยไหว้ ฉันก็ร้องไห้ หลวงพ่อ ลูกกลัวจะตายไป ว่างั้นนะ ลูกกลัวเหลือเกิน หลวงพ่อช่วยลูกด้วยสิ "อีคนนี้มันขี้แงจริง ๆ" หลวงพ่อว่าฉันขี้แง
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>หลวงพ่อว่าหรือไง
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ใช่ แล้วก็เอาไม้นั้นน่ะ เคาะหัวฉันทีหนึ่ง มันขี้แง ขี้ขลาด ว่างั้น ฉันก็ว่า หลวงพ่อ ลูกอยากเห็นหลวงพ่อ "ก็เห็นแล้ว ก็ไหว้สิ" หลวงพ่อบอก "ไม่ไหว้หลวงปู่ก่อนล่ะ"
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>หลวงปู่ปานหรือ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ใช่หลวงปู่ปาน บอกไม่ไหว้หลวงปู่ก่อนล่ะ ฉันก็เลยไหว้หลวงปู่ปานอีก ไหว้ ๆ ฉันก็ว่า หลวงพ่อ ลูกอยากเห็นอะไรล่ะ หลวงพ่อต้องพาลูกไปนะ ลูกกลัว ว่างั้น ท่านก็เดิน เอ้า..ไปก็ไป หลวงปู่ปานก็เดินขึ้นหน้า หลวงพ่อก็ตามหลัง ฉันก็ตามตูดไปนั่นแหละ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>ตามตูดเหรอ.. ( หัวเราะ )
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>( หัวเราะ ) ตามไป ๆ ๆ ฉันก็บอก อยากเห็นพระมุนีน่ะ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>พระจุฬามณี
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>จ้ะ เรียกไม่ถูก เอ้า..ไป ฉันก็ไป แว๊บ ไปถึงอีกแล้ว ไปถึงก็ไหว้ ๆ ฉันก็ร้องไห้อีก ร้องไห้อีกแล้ว หลวงพ่อยืนรอ ฉันก็บอก หลวงพ่ออย่าไปไหนนะ อยู่รอลูกตรงนี้นะ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>ชักดุแล้ว
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ฉันขี้ขลาดนะ ว่ายังงี้ หลวงพ่อบอก "เออ ยืนรอก่อน" ฉันก็ไหว้ ๆ ๆ แล้วก็องค์ขาว ๆ น่ะ เป็นพลอยขาวเลย สวยเหลือเกิน ที่นั่งอยู่น่ะ สวยแว๊บหมดเลย สวย ฉันก็ร้องไห้อีก ขอสตังค์
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>ขอใคร ขอเงินหลวงพ่อ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ฉันก็ขอเงิน ขอเงิน ๆ ทีนี้บอก ลูกตัวคนเดียวนะ ลูกลำบาก ลูกอยากมาหาหลวงพ่อได้ไหม มาง่าย ๆ มีเงินเยอะ ๆ ว่างั้น ท่านก็หัวเราะ พูดไปพูดมา ไม่ให้ พูดไปพูดมา ให้กระเป๋า ให้กระเป๋าเป็นสี่เหลี่ยม อุ๊ย.. ไม่เอาหรอก กระเป๋าไม่เห็นมีอะไรเลย ฉันว่ายังงั้นนะ กระเป๋าเป็นพลอย ๆ ไม่มีอะไรไม่เอาหรอก ท่านก็นิ่ง ท่านก็ว่า "เออ..อะไร ให้กระเป๋าไม่เอา" ทำไปทำมา เอาก็เอาวะ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>( หัวเราะ ) ตัดสินใจเอาเลย
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>เอา ๆ ๆ กระเป๋าเปล่า ๆ ก็ดี ฉันว่างั้นนะ เอามาก็เอามา แต่กระเป๋าเฉย ๆ ไม่มีเงินเลยนะ ให้ส่ง ฉันว่างั้น
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>( หัวเราะ ) แหม..ให้ส่งได้ สตังค์จะใส่สักหน่อยก็ไม่ได้
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ฉันก็ว่าให้ส่ง ฉันก็ว่าขอเงิน ท่านก็ "เอาน่ะ เดี๋ยวมีเอง" ท่านว่างั้นแหละ ก็ไป ๆ ๆ แว๊บไป ไปถึงมีแมี เขาบอกว่า เป็นแม่ศรี นั่งอยู่ขาว ๆน่ะ เป็นขาว ๆ ขาวเป็นแก้วน่ะ นั่งยังงี้ ฉันก็ไหว้ ไหว้ก็เอ๊ะ..ทำไมเป็นสองคนขึ้นมาได้ก็ไม่รู้ ข้างหลังมีอีกองค์ เอ๊ะ..ไง เดี๋ยวคนเดี๋ยวไงสองคน ฉันก็ไหว้ ฉันก็ขอสตังค์ ของสตังค์อีกแล้ว ขอสตังค์ ไม่รู้เป็นยังไง ( หัวเราะ ) ขอสตังค์อีกแล้ว ( หัวเราะ ) ไม่รู้เป็นไง ขออยู่นั่นแหละ ทีนี้ท่านบอกว่า เออ..เดี๋ยวก่อนนะ ๆ ทีนี้ไป ๆ ก็บอกว่า เออ..ให้พรก็ได้ ไม่ต้องเอาสตังค์ ลูกเอาไปทำไม ประเดี๋ยวก็มีเองนั่นแหละ เดี๋ยวชีวิตกับร่างกายก็เอาไปไม่ได้ ตายไป ก็บอก ก็ฉันมีหนี้มีสินนะ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>( หัวเราะ ) นี่ไม่รู้อะไร แม่ศรีนี่ ลูกเต้ามีหนี้มีสิน
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ฉันยังจนอยู่น่ะ ยังไม่มีเงินเยอะ ๆ ฉันก็ขอแม่สิ ว่างั้นนะ แม่ก็บอกว่า ให้วิชาเอาไหม ฮู้.งไม่อยากได้เลย แต่อยากจะได้เงิน
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>( หัวเราะ ) วิชามันต้องท่องนี่ ลำบาก
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ฉันก็ว่า เออก็ว่างั้น ทีนี้ฉันก็ไป นึกในใจ เดี๋ยวต้องไปต่อว่าหลวงพ่อสักหน่อย ว่ามีแม่คนเดียว นี่น่ะ มีมาสองคนแล้ว ไปอีกแป๊ปนึงเป็น ๓ คน เป็น ๓ สวย ๆ ทั้งนั้นเลย หลวงพ่อก็ยังอยู่ตรงนั้น หลวงพ่อยืนอยู่ ฉันก็ว่า หลวงพ่อบอกว่า มีองค์เดียว มีตั้ง ๓ คน ฉันว่ายังงี้ ท่านแม่ก็บอกว่าจะให้คาถา ฉันก็ว่า ให้คาถายังไงล่ะ โธ่..คาถา อันนี้ฉันเคยเห็นพ่อว่า เห็น เขาว่ากัน จะเป็นเรื่องเป็นราวรึ ฉันว่างั้น เอาเถอะ เอาไปเถอะ เดี๋ยวดีเอง ว่า..ลูกเดี๋ยวดีเอง เอาไปเถอะ แล้ววันหลังมันก็ตามไปเองแหละ เงินทองไม่ต้องกลัว แล้วก็ฉันที่จริงฉันไม่อยากไป อยากอยู่กับแม่จังเลย สวยดีที่นี่ ฉันว่างัน้นะ ไปก็ลำบากเหลือเกิน
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>ตอนนั้นเราแต่งตัวยังไงรู้ไหม
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ฉันหรือ ฉันมันตัวเล็ก ๆ มันเหมือนไม่ใช่ตัวฉันหรอก มันก็ขาวสวยเหมือนเขาแหละ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>แน่..สวยเหมือนกันนะ ไม่ใช่เล่น สวยเหมือนกัน ใช่ไหม
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>จ้ะ ฉันก็ยืน ฉันก็สวยมั่ง มันตัวเล็ก แต่ว่าสวยมั่งเหมือนกันแฮะ ว่างั้น เหมือนกันแฮะ แม่ก็สวยมาก เราก็สวยหวิดเหมือนแม่แล้วนะ ทีนี้ก็ให้คาถา ลองว่าซิคาถาอะไร ฮึ..ไม่เอาดีไหม คาถาอันนี้ เอาไปเถอะ ไปใช้ เวลาทำบุญหรือว่ามีงานอะไรก็ไปว่าเถอะ ว่าเรื่อย ๆ มันดีเอง ฉันก็บอกว่า ว่าอะไรล่ะ ก็ว่า
    <CENTER>พระพุทธัง พระพุทธเจ้าเปิดโลก
    พระธัมมัง พระพุทธเจ้าเปิดโลก
    พระสังฆัง พระพุทธเจ้าเปิดโลก
    </CENTER>
    ว้า .. ฉันร้องว่ายังงั้น ว้า..ฉันเคยได้ยินที่ไหนก็มี ว่างั้น ฉันก็จะไม่เอา
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>ที่ไหนก็มียังงี้ใช่ไหม
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ที่ไหนก็ได้ยินเขาว่า ฮึ..นึกว่าจะเงิน ก็ยังดีมั่ง ( หัวเราะ ) ทีนี้ท่านก็ว่าเดี๋ยวมีเอง เอาไปเถอะ ไปใช้เถอะ ทีนี้ก็ไปบอกลาก แล้วก็ไป หลวงพ่อก็ไป ๆ ๆ ฉันอยากจะดู ได้นั่นอีกแล้ว อะไรเห็นเรียกปฐม ๆ ๆ น่ะ หลวงพ่อบอกไปซิ ปฐมอะไรก็ไม่รู้
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>สมเด็จองค์ปฐม
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ใช่ ๆ ๆ นั่นแหละ ๆ ไป สวยแหม..สวย เป็นพลอยแล้วก็มีรูปท่านสวยมากเลย หลวงพ่อบอกไปไหว้สิ ฉันก็ไหว้ ๆ ๆ เสร็จออกมา หลวงพ่อบอกไปเที่ยววิมานหลวงพ่อไหมล่ะ ไป ฉันบอก ไป ๆ ก็ไปปุ๊บไปอีกแล้ว อู้ฮู้.. เยอะแยะจัง ทำไมไม่มีหลังเดียว มันหลายหลังจัง
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>หลายหลังใช่ไหม
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>จ้ะ เยอะแยะไปหมด คนก็เยอะ มี..เขาไม่แต่งตัวอย่างนี้หรอก แต่งไงก็ไม่รู้ ใส่ชฎาบ้าง ไม่ใส่บ้าง แล้วก็มีพระมีชีแถบหนึ่ง ประเดี๋ยวพอไปถึงแล้ว ไปนั่ง หลวงพ่อบอก ขึ้นมากอยากตามแท้ ดูซิเป็ฯไง หลวงพ่อลูกอยากตาม ลองมองหน้าซิ หลวงพ่อทำท่าไงก็ไม่รู้ ตาโบ๋เลย โอ๊ย..แหงนมอง กลัวไหมนี่ ทำไง ก็นึกในใจ ไม่กลัวหรอก ๆ ๆ แต่ไม่มองหน้า ก้มที่ตีน ไม่กลัวหรอก ๆ แต่ไม่มองหน้า หลวงพ่อทำหน้ายังงั้นน่ะ อะไรก็ไม่รู้ น่ากลัวจริง ๆ ทีนี้ท่านบอก กลัวไหมล่ะ อยากติดตามกลัวไหม บอกไม่กลัวหรอก ๆ ตะโกนใหญ่ แต่กราบตีนไม่มองหน้า ประเดี๋ยวก็เป็นหน้าอย่างเดิม บอก อ้อ..ดีอย่างเก่าแล้ว ทีนี้ก็ทำเป็นชุดขาว ๆ อีกแล้ว แต่งสวยอีกแล้ว ไม่เป็นหลวงพ่อหรอก เป็นอะไรก็ไม่รู้ สวย .. แว๊บ ๆ ขาว ๆ สวย..แก้วเหมือนยี่เกยังงั้นแหละ เอ..หลวงพ่อนี่ทำได้หลายแบบจริง บอกยังงั้น หลวงพ่อบอกอีคนนี้มันต้องยังงั้น ๆ มันโง่ ๆ อยู่ ท่านบอกกับหลวงปู่ปาน มันโง่ ๆ ต้องทำยังงี้ให้มัน ทีนี้ก็หลวงพ่อ ที่หลวงพ่อเทศน์ หลังที่เคยเทศน์สอนอยู่ตรงไหนล่ะ หลวงพ่อเทศน์ อู้ฮู..ทั้งพระทั้งอะไรเยอะ นั่งฟังเทศน์หลวงพ่อที่นั่นน่ะ พอเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อว่าจะไปไหนอีกล่ะ ชวนไปก็ชวนให้หมด ท่านว่ายังงั้น หลวงพ่อฉันอยากเห็นนั่นน่ะ เขาว่าพระอินทร์ หลวงพ่อก็บอก ไม่กลัวหรือพระอินทร์น่ะ ฉันก็ว่าไปกับหลวงพ่อ ไม่กลัวหรอก หลวงพ่อให้ไปอีก ก็ไป ๆ โอ้โฮ..สวยน่ะ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>พระอินทร์สวยไหม ใส่รองเท้าหรือเปล่า
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ใส่... สวย.. เขาสวยแหละ มันช่างงอนไปหมด สวย..บอกไม่ถูกพูดยังไงล่ะ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>พระอินทร์หนุ่มหรือแก่ล่ะ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>หนุ่ม ๆ จ้ะ แต่ผู้หญิงมีนั่งอีกคนข้าง ๆ น่ะสวย จะใช่ไงก็ไม่รู้ น่ากลัวจะเป็นแฟนเขาหรือไง ไงก็ไม่รู้ ฉันก็ไหว้หมดเลย ไหว้องค์ผู้ชายก่อน แล้วก็ไหว้ผู้หญิง ไหว้ ๆ ดู ๆ แล้วก็ขอพร พระอินทร์บอกว่า ไปบ้านน่ะ ไปทำบายศรีนะ เอา ๑๖ ชั้น ว่างั้นนะ และอันข้าง ๆ เอา ๙ ก็ได้ ฉันบอกทำไมต้อง ๑๖ ล่ะ ท่านก็บอก มันจะได้ ๑๖ ชั้นฟ้าน่ะสิ แล้วก็เอาดอกบัว ตรงกลางนะ แล้วก็เอาดอกดาวเรือง ดอกอะไรก็ได้ เอาดอกไม้ ๓ สีนะ พระอินทร์ท่านบอกว่ายังงั้น ว่า.. แล้วเวลามีงานมีการน่ะให้ดูที่หลวงพ่อสิ ที่สัคเคน่ะ โอ๊ย..ฉันว่าไม่เป็นหรอก ฉันว่ายังงั้นนะ ก็เอาหนังสือกางสิ ฉันว่างั้นก็ได้จ้ะ แล้วก็จะดีขึ้นไหม ฉันไม่อยากไป อยากอยู่นี่ ท่านก็บอกยังอยู่ไม่ได้นะ ให้กลับไปทำบารมีให้เยอะ ๆ ก่อน ไปทำบุญให้เยอะ ๆ ก่อน พูดไปพูดมาพอเสร็จแล้ว ก็ลากลับ หลวงพ่อบอก จะไปไหนอีกล่ะ ฉันอยากเห็นแม่จัง ไปก็ไป ลงมาอีกแล้ว ขึ้นแล้วก็ลง ลงแล้วก็ขึ้นอยู่งั้นเอง ทีนี้ลงมาหาแม่ ก็เดินไป ฉันไม่รู้เดินไป เหมือนไม่เดินน่ะ มันแว๊บ ๆ ๆ ไปงั้น ทีนี้ ไปถึงแล้วเร็วอีกแล้ว เข้ามานี่
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>แม่ตายแล้วหรือยัง
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ตายแล้ว เนี่ยเข้าไป หลวงพ่อเข้าด้วยซิ รอตรงนี้ ท่านบอกยืนรอตรงนี้ ฉันก็เดินเข้าไป แม่ฉันน่ะก็แก่ เห็นแม่เป็นแม่แล้วล่ะ ประเดี๋ยวเป็นสาวอีกแล้ว ไงแก่เดี๋ยวเป็น สาวอีกแล้ว ก็บอกนี่ล่ะเขาล่ะแม่ ฉันก็ร้องไห้ แม่ก็สบาย บ้านแม่เขามี มีโต๊ะ มีพระพุทธไหว้ สักประเดี๋ยว ถาดที่ฉันตอนเด็ก ๆ ยังจำได้ ที่ฉันเอาข้าวไปวัดน่ะ มาตั้งฉึก ๆ ๆ ๆ เอ๊ะ..ถาดเนี่ยเมื่อก่อนทำบุญ ถาดก้ใช่ ขันก็ใช่ เนี่ยมาอยู่นี่ ฉันว่ายังงี้นะ เอ๊ะ..ของทำไมมาอยู่นี่หมดล่ะ บอกว่ามาให้แม่เอ็งกินน่ะสิ ฉันก็ว่า เออ..ดีแม่ได้จำได้ เสร็จแล้วหลวงพ่อช่วยแม่ฉันทีได้ไหม เฮ้ย..ช่วยเองสิ ว่างั้น ฉันไม่ใช่ บวชได้นี่ จะช่วยไงล่ะ ฉันว่างั้น
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>( หัวเราะ ) ฉลาดดีนี่
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ฉันว่างั้น หลวงพ่อบอก เออ..ค่อย ๆ ไปเถอะ เดี๋ยวได้เอง ว่างั้นนะ พอเสร็จแล้วก็ลากลับ หลวงพ่อบอกไปไหนอีกล่ะ หลวงพ่อบอกมันขี้แง ต้องถามแบบนี้ ท่านพูดกับหลวงพ่อปาน มันขี้แงต้องถามยังงี้ มันขี้ขลาด ก็ไปอีก ไป ๆ ฉันอยากเห็นพ่ออีกแล้ว ท่านก็ว่า อะไรเดี๋ยวพ่อเดี๋ยวแม่ เอ้า..ไป ไปก็ปุ๊บไป ไปถึงพ่อ โอ้โฮ้..หลวงพ่อไม่ยอมเข้าไป พ่อฉันโดนล่ามโซ่ เส้นเท่าแขนสองข้างเลย ตาย..เดินไม่ได้เลย ฉันเห็นฉันจำได้ร้องโฮ ๆ ๆ เลย ร้องไห้ใหญ่ พ่อ..พ่อทำไงโดนเขาล่ามเล่า ว่างั้นนะ ทำไงดีช่วยไม่ได้แล้ว นุ่งแต่ผ้าตาโสร่งเท่านั้นแหละ ทีนี้ก็บอก หลวงพ่อช่วยพ่อลูกด้วยซิ หลวงพ่อบอก กรรมใครกรรมมัน ว่างั้น กรรมใครกรรมมัน บอกกรรมใครกรรมมันเส้นเบ้อเร่อเลยนะ หลวงพ่อก็เฉย ๆ ไม่ช่วยบอก เออ..แล้วค่อย ๆ ไปเถอะ ฉันก็ไม่รู้จะทำไง มีคน โฮ..น่ากลัวเหลือเกิน ๔ คนนั่นน่ากลัว เป็นรูปยักษ์รูปอะไรก็ไม่รู้ โอ้ใหญ่ทำเขี้ยวทำงามันน่ากลัว แต่ว่าข้างล่างเป็นคน แต่ข้างบนไม่ใช่ น่ากลัว หลวงพ่อบอกไปกราบเขาสิ ขอสิ ฮึ .. ตัดสินใจไม่มองหน้ามองขาดีกว่า ฉันก็ไป ไหว้ขางั้นแหละทั้ง ๔ คน ขอช่วยพ่อฉันด้วยเถอะ ช่วยที ช่วยพ่อไม่ต้องล่ามได้ไหม ฉันว่างั้นน่ะ ทั้ง ๓ - ๔ คนก็นิ่ง นิ่งสิ ช่วยทีสิสงสารฉันเถอะ ฉันบวชไม่เป็นน่ะ ฉันว่างั้นนะ ช่วยฉันทีเถอะสงสารพ่อ เป็นพ่อฉันแล้ว ช่วยทีเถอะ เขาก็มอง ๆ กัน ก็เออ..เฉย ๆ เออ..จะช่วยไม่ช่วยก็ไม่บอก ก็เออ..งั้นแหละ หลวงพ่อช่วยทีซิ ฉันยืนเรียกหลวงพ่อ ท่านก็เฉย ไม่มาช่วยหรอก ทีนี้ทำไง เห็นมีอีกแล้ว เขามีเป็นสมุด เป็นสองคน นั่งยังงี้ โต๊ะเงี้ยโต๊ะนึง เขาเขียนอะไรน้อ ลองไปดูซิ ฉันไปกราบ บัญชีใช่ไหม บอกนี่บัญชีชื่ออะไรล่ะ ชื่อปู ศรีนวลน่ะ ดู ๆ ๆ เอ..ไม่มีน่ะ โอ๊ะโฮ..ดำ ๆ แล้วนี่ล่ะมีชื่อฉันไหมนี่ เขาก็ดู ๆ ไม่มี ไอ้ที่ข้างฝาใหญ่ ๆ น่ะ มีไหม ไอ้ที่ข้างฝามีอีกไหมล่ะ ยัง เอ..ยังไม่มีน่ะ แล้วนี่ เขาคืออะไรล่ะ นี่แหละสอบสวนตกนรกขึ้นสวรรค์อยู่ตรงนี้ งั้นช่วยพ่อฉันด้วยสิ ฉันว่างี้นะ เขาบอกว่า อือ..ช่วยยังไงล่ะ ก็พ่อฉันยังงี้จะทำไงได้ล่ะ เดินไม่ได้ติดโซ่ยังงั้นล่ะ แล้วเขาก็พูดว่า เออ..ดู ๆ ก็น่าสงสารดี มันร้องไห้จัง เออ..ช่วยสักหน่อยก็ได้ ว่ายังงี้นะ เอางี้นะ ถึงเวลาขึ้นก็ขึ้น ถึงเวลาลงก็ลง เขาว่างั้นนะ ทีนี้ก็หลวงพ่อช่วยทีสิ หลวงพ่อก็หัวเราะงั้นแหละ ช่วยเองสิ ท่านว่างั้น กรรมใครกรรมมัน เอ..ทำไง ทำไงก็ไม่เห็นช่วยสักที ทีนี้ฉันบอก หลวงพ่อไม่รักลูกเลย ไม่ช่วยพ่อลูกด้วย หลวงพ่อบอกว่า ดูมันสิ ๆ ท่านบอกกับหลวงปู่ปาน ดูมันสิ ๆ มันว่าเรื่อยสิ ทีนี้ฉันก็นิ่ง ก็ไป ๆ ๆ อีก พักหนึ่ง ไงก็ไม่รู้ ไปดูอะไร เดี๋ยวมาช่วยพ่อใหม่ หลวงพ่อพาไปที่รำทีสิ ที่เขารำกันน่ะ ที่เทวดานางฟ้าสวรรค์เขารำ ตรงนั้นน่ะ พาฉันไปดูที ไปอีกแล้ว ไปดูรำ เขาสวย รำสวย ๆ กว้างขวางสวย ๆ อยู่นี่ไหมล่ะ หลวงพ่อบอก อยู่นี่ไหมล่ะ เขารำได้สวย อยู่นี่เปล่า ฉันก็ว่า หลวงพ่ออยู่หรือเปล่าล่ะ เออ..ไปทำบารมีก่อนเดี๋ยวค่อยมาก็ได้ งั้นกลับ เดี๋ยวแวะไปดูพ่อหน่อยซิ เผื่อเขาจะยกโทษให้หรือเปล่า ฉันว่างี้ กลับอีกแล้ว อื๋อ..นี่ไงวะ มาแป๊บ ๆ ให้กลับอีกแล้ว ก็มา ๆ พ่อเขาปล่อย นุ่งผ้าม่วงเขียว ๆ ใส่เสื้อสีขาว โอ..ไม่มีโซ่แล้ว ดีแล้วสิ ว่างั้น พ่อดีแล้วนะ พ่อบอกช่วยด้วยซิ อีเล็กช่วยพ่อด้วย แล้วฉันจะช่วยไงเล่า ทีนี้ก็บอกว่า หลวงพ่อทำไง เออ..แล้วก็ดีเอง ไปนะ กลับไปก็ไปทำสังฆทานให้เยอะ ๆ นะลูกนะ กลับไปก็ทำสังฆทานให้พ่อให้เยอะ ๆ แล้วก็ลูกรวยน่ะ อย่าลืมวัดท่าซุงล่ะ หลวงพ่อท่านว่ายังงี้ อย่าลืมวัดท่าซุงนะลูก ต้องมาวัดท่าซุงบ่อย ๆ นะ จ้ะ..แล้วฉันจะรวยไหม หลวงพ่อบอก เออ..ไปเถอะ มันดีเอง ท่านว่างั้นนะ แล้วก็จะกลับหรือยังล่ะ หลวงพ่อว่า หลวงพ่อให้กลับก็กลับ หลวงพ่อไม่กลับฉันก็ไม่กลับ ฉันว่างั้นนะ กลับไปก่อนเถอะลูก ไปทำกุศลก่อน ไปทำบุญให้เยอะ ๆ ไปสังฆทาน ทำอะไรต่ออะไร ทีนี้ก็แว๊บ ๆ แล้วก็กลับมา กลับเลย หมดสิทีนี้ เมื่อวานนี้ไปใหม่อีกหน่อย นั่ง ๆ ๆ อีกแหละ ภาวนางี้นะ ทีนี้ก็แป๊บฉันก็ร้องไห้ หลวงพ่อบกว่า อีขี้แยนี่น่าดู ฉันก็เลยบอกว่าทำไมล่ะ พ่อฉันนี่ เขาจะเอาลงนรกอีกเปล่า ฉันว่างี้ ห่วงพ่อจังเลย เออ..เดี๋ยวก็ขึ้นมาเอง ทำกุศลให้ได้ เดี๋ยวช่วยเอง เดี๋ยวก็ช่วยขึ้นมาแล้ว ตรงนั้นใครล่ะที่นั่ง ไม่รู้จักพระยายมหรือ? พระยายมราชไม่รู้จักหรือ นายสมุห์บัญชีไม่รู้จักหรือ ก็ฉันไม่ตายจะรู้จักไงเล่า ฉันว่างั้น ( หัวเราะ ) หลวงพ่อบอกว่า อื้อฮือ..มันเถียงทุกอย่าง ก็ฉันไม่ตายจะไปรู้ยังไง หลวงพ่อเพิ่งพามาแค่นี้ ฉันก็ว่า เออ..แล้วทีนี้ทำไงดีล่ะ จะไปไหนดีล่ะ ใช้ทั้งปีเลย ท่านว่างั้น หลวงพ่อว่าฉันน่ะ ใช้ต้องเอาไปด้วย ไปคนเดียวก็ไม่ได้ต้องไปด้วย ทีนี้ฉันก็ไม่ว่าอะไร ก็นิ่งก็ไป ให้กลับอีก กลับไปกลับมากลับไปกลับมา ไม่รู้มาดูอะไร จำไม่ได้ น่ากลัวจะตาย ข้างล่างไม่อยากดูเลยหลวงพ่อ ดูข้างบนดีกว่า ฉันว่างั้นน่ะ เดี๋ยวเอาลง มันเป็นหลุม ๆ งี้ ลึก ๆ เป็นน้ำแล้วมันเดือดเป็นไฟวุ๊บ ๆ ๆ ขึ้นมาโยนพลุ แล้วขึ้นมาเป็นคนอีกแล้ว โยนก็ไม่ตาาย โยนกันมือสลอน ๆ ๆ โยนไปเดี๋ยวมันขึ้นมาได้กลับเป็นคน น่าจะเน่าตาย ไม่ตาย ไม่เป็นไรมาเป็นคน เป็นกระดูกก็มี แล้วเป็นรูปก็มีเยอะแยะ ไม่ดูนี่หลวงพ่อไปเถอะ นี่แหละนรก หลวงพ่อว่า นี่มันเมืองนรก โอ้โฮ..เจ้าประคุณ อย่าให้ลูกตกนรกนะ ( หัวเราะ ) กลัวจังเลย น้ำอะไรแดง โอ๊..ต้มเดือดพลั่ก ๆ ทีนี้หลวงพ่อก็ว่า ดูอะไรหมดแล้วจะกลับหรือยังล่ะ กลับเถอะ ๆ ๆ ไม่ดู ฉันว่างั้น ถ้างั้นฉันก็กลับจ้ะ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>ไม่ไปดูวิมานตัวเองเลยหรือ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ทีนี้ก็มาอีกสิ มากลับมาก็มานั่งที่นี่ อีกวันมานั่งก็ไปแบบนี้ ไป ๆ ๆ ก็ไปดู ทีนี้ลัดแล้วนะ ไม่เล่าแล้ว ก็ไหว้หมดแล้ว ๆหลวงพ่อว่า ไปดูวิมานตัวเองมั่งสิ ก็ไป อ้อ..มีแล้วทีนี้นั่งได้ไหม นั่ง เอ๊ะ..มันไม่เป็นฉันนี่ ตัวฉันอยู่นี่ไง โน่น ไปนั่งนิดหนึ่งแล้วก็มันก็สวยด้วย มันแต่งตัวสวย นอนก็ได้
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>ผู้หญิงหรือผู้ชาย ตอนนั้นน่ะ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>มันแต่งตัวเหมือนผู้ชายแน่ะ แต่งตัวเหมือนผู้ชาย แต่ใจมันก็ฉันอยู่เนี่ย แต่โน่นก็ฉันอีกแหละ ทีนี้ก็ไป ๆ กระโดดเห็นน้ำ ก็เล่นน้ำไหม โอ้..มีดอกบัว ครั้งแรกก็เป็นดอกบัวขาว ๆ แล้วก็เป็นสีดอกบัวจริง ๆ น่ะมี
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>น้ำใสไหม
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>น้ำใส โดดลงไปแล้ว ว่ายไม่เป็น แล้วทำไมว่ายเป็นก็ไม่รู้น่ะ ว่ายเป็น โอ้..ไม่รู้ว่ายน้ำได้โว๊ย ไม่ตายโว๊ย ฉันว่างี้ เอ๊ะ..นี่ก็ฉัน นั่นก็ฉัน ยังไงกันหว่า
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>ตอนโดดลงไปตัวนั้นโดดหรือตัวนี้โดด
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ตัวนั้นโดด ตัวเล็ก ๆ ที่สวย ๆน่ะโดด โดดลงไปเอาดอกบัวมา ทีนี้เก็บดอกบัว เอ๊ะ..ดอกบัวไงพอเอามาแล้ว ไงเป็นขาวหมดก็ไม่รู้ เป็นแก้วขาวหมดเลย ๙ ดอก ดีใจ เลยเอามา มาถึงก็บอกหลวงพ่อ เอาดอกบัวมาฝาก ใส่ย่ามหลวงพ่อเลย ๙ ดอก หลวงพ่อบอกให้พ่อใช่ไหม ไปไหนอีกล่ะ หลวงพ่อบอกเหาะไหมล่ะ เหาะไปดูทางโน้น ไป..ฉันเหาะไม่ได้น่ะ ว่งั้นนะ จับตีนหลวงพ่อ บาปเปล่าก็ไม่รู้ ว่งี้ หลวงพ่อฉันหิ้วย่ามเอง หลวงพ่อบอกพ่อหิ้วเอง ก็เอา ๆ ขอหลวงพ่อก็ให้ เอ๊ะ..จะสะพายแขนก็กลัวหล่น ใส่คอเลยดีกว่า ใส่คอ หลวงพ่อก็ไปน่ะ หลวงพ่อก็ปู๊ดไป พ่อ ฉันทำไง จับขาเลย บาปก็บาปเถอะ เหาะจ๊อกแจ๊กตามหลวงพ่อ จะหล่น ไม่หล่นโว๊ย พึ๊บลงมาอีก ได้อีกแล้ว ไม่หล่น บาปเปล่า เจ้าประคุณอย่าให้บาปนะ เขาว่าผู้หญิงห้ามจับ ก็จับเข้าไปแล้วนี่ ( หัวเราะ ) กลัวหล่น จับไป หลวงพ่อไปแล้วนี่ ก็ไป ทีนี้ก็ เอ..หลวงพ่อ ไม่ใช่ขาหลวงพ่อแล้วนะ ขาพ่อเป็นแก้วแล้วนี่ หลวงพ่อไม่ใช่ยังงี้นะ หลวงพ่อเป็นแก้ว ๆ ไปหมดทั้งตัว ก็จับไม่ถูกเนื้อ ไม่บาปหรอก ฉันว่างี้นะ หลวงพ่อบอก ไม่บาปหรอก ทีนี้ก็กลับ กลับมา หลวงพ่อบอก เออ..กลับบ้านได้แล้ว กลับสถานที่อยู่เถอะ ไปทำกุศลให้เยอะ ๆ จ้ะ ฉันก็รับพรหลวงพ่อมา ขอตังค์อีกแล้ว ขอตังค์หลวงพ่อตะพึด ไม่รู้เป็นเรื่องอะไร (หัวเราะ ) หลวงพ่อบอก เอาสตังค์ที่ไหนล่ะ เอาตังค์ทำไม ก็ฉันไม่มีสตังค์ เอ้า..พ่อจะให้นะ รอ..นั่งอยู่นั้นแหละ เมื่อไหร่ก็ไม่ให้สักที นั่งอยู่นั่นแหละ ไม่เห็นควักซะที ( หัวเราะ ) นั่ง ๆ หลวงพ่อเมื่อไหร่จะควักซะ ทำไปทำมา ไอ้ที่พ่อให้นี่รู้ไหมดียิ่งกว่าอะไร ฉันก็คอยฟังเต็มที่เลย ไอ้มโนมยิทธิที่นั่ง ๆ นี่ พ่อให้นี่มันดีที่สุดแล้วลูกเอ๊ย ให้วิชานี่ที่ให้ลูกน่ะ ดี..ดียิ่งกว่าสตางค์เสียอีก ฉันก็ว่าดีน่ะดี แต่สตางค์ไม่มีใช้ ( หัวเราะ )
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>แหม..ยอดจริง ๆ มโนมยิทธิน่ะมันดี แต่สตังค์ไม่มี รู้น่ะว่าดี ไม่ใช่ไม่รู้
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>ทีนี้ก็ว่าสตางค์ไม่มีใช้สิ หลวงพ่อจะให้ หลวงพ่อก็ควักสิ อะไรหว่า เป็นแหวน มีพลอยขาว ๆ ด้วย แว็บ ๆ ๆ เนี่ยเป็นอำนาจ ไม่เอาหรอก ประเดี๋ยวพอลงไปไม่มีแหวนจริง ๆ ( หัวเราะ ) ฉันบอกไม่เอาหรอก เดี๋ยวลงไปเขาถาม ไม่เห็นมีอะไร หลวงพ่อให้หลอก ๆ น่ะสิ ฉันว่างั้น หลวงพ่อก็ว่า ดูซิมันว่า หาว่าให้หลอก ๆ ฉันก็ เอ๊ะ..เอาดีไม่เอาหว่า นึกไปนึกมา เอ๊ะ..เอามือไหนใส่ดี หลวงพ่อบอก เอานิ้วชี้สิ หลวงพ่อ ถ้าลงไปใครไม่เห็นล่ะก็ เขาไม่ว่าฉันโกหกตายห่..หรือ ฉันว่างี้
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>( หัวเราะ ) โอ๊ย..ของแท้เลย เล่าต่อ เออ..ดี ๆ ๆ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>หลวงพ่อหัวเราะร่วน ๆ ๆ หัวเราะก๊าก ๆ ใหญ่เลย หัวเราะใหญ่ ก็ว่า ดูมันพูดซิ ฉันก็ว่า ก็ตอนนี้ให้แล้ว มันเดี๋ยวกลัวหล่อหาย มันเป็นของกายสิทธิ์หลวงพ่อจะหายได้ เดี๋ยวเขาหัวเราะตาย อวดเขาที่ไหน มีแต่นิ้วเปล่า ๆ หลวงพ่อ อือ..เอาเถอะน่า เป็นของนิมิตเนี่ยมันดี พ่อให้ติดนิ้วดี เอาก็เอาวะ ฉันก็เอามือไหนดีหว่า สองมือ เอามือนี้ก็ได้ เออ.. หลวงพ่อก็ใส่พรึ่บลงมา มองดูก็สวยเหอะ พลอยขาว ๆ แว๊บ ๆ เอ้า..ชี้ที่คนไหนคนนั้นอำนาจวาสนาดีนะลูก ไอ้ตอนนี้ก็ดีแล้ว พอลงไปข้างล่างชี้ไม่ได้ละ ตายเลย ( หัวเราะ )
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>บอกข้างบนนี่ก็ชี้ดีหรอก ชี้ก็เห็น ลงข้างล่างชี้ไม่ได้ ตายห่..เลย ( หัวเราะ )
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>หลวงพ่อก็บอกว่า อีลูกคนนี้มันย้ำจังเลย เถียงเก่งจริง ๆ ฉันก็ว่า ก็ทีแรกหลวงพ่อว่าฉันเป็นอะไรกับหลวงพ่อล่ะ ถึงได้มายังงี้ หลวงพ่อก็ว่า ก็เป็นลูกหลวงพ่อน่ะสิ ลูกอดีตน่ะสิ ฉันก็ว่า อดีตก็ให้ของจริง ๆสิ ท่านก็ว่านี่ก็ของจริง เดี๋ยวดีเอง พ่อให้ดีเอง ทีหลังน่ะนึกว่าจริงนะลูกนะ นึกจริงก็จริงล่ะ เอาว่างั้นนะ แล้วหลวงพ่อก็ใส่ให้ แล้วท่านว่าไง ท่านว่า
    <CENTER>พระพุทธัง ประสิทธิโชคลาภ
    พระธัมมัง ประสิทธิโชคลาภ
    พระสังฆัง ประสิทธิโชคลาภ
    พุทธังให้มีอำนาจ ธัมมังให้มีอำนาจ ...
    </CENTER>โอ๊ย..อำนาจไม่เอาหลวงพ่อ (หัวเราะ) เอาโชคลาภเถอะ ฉันว่างั้น อำนาจไม่เอาหรอก ไม่เห็นใครกลัวฉันเลย ฉันว่างั้น ฉันไม่ใช่ตำรวจนี่เขาจะได้กลัว ทีนี้หลวงพ่อบอกว่า เออ..ไอ้นี่มันของคาถา พูดแล้วมันเถียงจังนะ งั้นเอาก็เอา ฉันก็ว่า แล้วท่านก็บอกว่าลงอย่างอื่นลงอะไรก็ได้ลงไปเถอะ ชี้ไปเรื่อย ๆ เถอะ ใช้นิมิตเอา แล้วก็หลวงพ่อ ฉันมันขี้โรคขี้ภัย เป่าหัวให้ด้วยสิ ฉันว่างั้นนะ หลวงพ่อก้มเอาไม้นั้นน่ะ เขียน ๆ ๆ ที่หัว แล้วก็เป่าพ่วง หลวงพ่อกันอะไร ( หัวเราะ )
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>ถามเสียด้วยนะ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>หลวงพ่อกันอะไรหลวงพ่อ กันหมดทุกอย่างนั่นแหละ ให้มันดี ไม่ให้มันบ้า ( หัวเราะ ) ท่านว่างั้น งั้นก็กลับได้แล้วสินะหลวงพ่อ เอ้า..กลับก็กลับกัน ท่านว่างั้นนะ ฉันก็เลยกลับมาเลยจ้ะ กลับมาข้างล่าง ก็ไม่เห็นมีแหวนอะไร ( หัวเราะ )
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>นี่ดีมาก นี่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดนะ เห็นชัดที่สุด นี่ไม่เคยสัมภาษณ์ใครอย่างนี้เลย เป็นตัวอย่างออกมาจากใจล้วน ๆ เลย ใจล้วน ๆ ของจริงล้วน ๆ เลย เป็นตัวอย่าง ของคนต่อไป อันนี้นี่อาจจะไปลงหนังสือ ธัมมวิโมกข์ เพราะว่าอาจจะถอดเป็นหนังสือออกมาเป็นตัวอย่างของคนอื่นที่เขาปฏิบัติธรรมนะ เป็นบุญใหญ่ของคนที่ไม่เกิดศรัทธา เป็นบุญใหญ่ เออ..ขอที่อยู่ด้วยนะ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>อยู่ตลาดทุ่งคอก อำเภอสองพี่น้อง บ้านเลขที่ ๖๒
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>นี่พูดแล้วอารมณ์ใจเหมือนลูกคนที่สนิทชิดเชื้อกันมากเลย อารมณ์ที่พูด เป็นการพูดอย่างนั้น ล้อเล่นอย่างนี้ นี่เรารู้ได้ว่าเป็นลูกที่ติดกระเป๋ากันมาเลย อย่างนี้เป็น ลูกติดกระเป๋า นี่คนสุพรรณเหมือนกัน หลวงพ่อก็คนสุพรรณ พูดแล้วเหมือนสนิทกัน เคยมาวัดแล้วใช่ไหม
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>คุณปู : <TD>มา..แต่ไม่เคยทำยังงี้จ้ะ มาตอนมาบวชก็ทำ แต่ก็ไม่เป็นเรื่องเป็นราวหรอก ทำก็เห็นมั่งแว๊บ ๆ แวม ๆ งั้นน่ะ มาปฏิบัติก็ พุทโธ เพิ่งจะมา นะมะ พะธะ นี่แหละ
    </TD><TR vAlign=top><TD align=right>พระครูปลัดฯ : <TD>นี่เป็นไง ชื่นใจจริง ๆ เลย คุ้มแล้ว คุ้มแล้วที่จัดงานนี้ คุ้มมากเลย พระหายเหนื่อยเลย หายเหนื่อย คือ ดีใจน่ะ มีความดีใจมาก
    ที่มา http://www.putthawutt.com/html/menu.html
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...