ร่วมทำบุญบูชา ชุดเก่าตะกรุดดอกครูนามธรรมบุญหนุนส่งวาสนานำพา(เอื้อบุญ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ไปรษณีย์เปิดทำการ เดี๋ยวผมจะส่งของให้นะ;)
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    เมื่อวานเป็นวันครบรอบวันเกิดของบรมครู ก็คือองค์สมเด็จโตนะครับ ใครที่หลงลืมไม่ได้สวดมนต์ตั้งจิตระลึกถึงหรือทำบุญถวายเป็นกุศลต่างๆ หากระลึกได้วันนี้ก็ทำได้นะ เป็นการระลึกถึงครูบาอาจารย์ทำเป็นอาจาริยบูชา ครูสมเด็จท่านมีบริวารมาก ก็แนะนำให้ทำกันดูสิ่งดีๆจะได้เกิดขึ้นกับชีวิต;)
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่เกษมธิดา ER 8323 8987 5 TH

    พี่อัครพงศ์ ER 8323 8988 4 TH

    พี่ปภัสสร ER 8323 8989 8 TH

    พี่วิชัย ER 8323 8990 7 TH

    พี่ศุภชัย ER 8323 8991 5 TH

    พี่วีรภัทร ER 8323 8992 4 TH

    พี่ธเนศพล ER 8323 8993 8 TH

    พี่ศิระ ER 8323 8994 1 TH

    พี่วันชัย ER 8323 8995 5 TH

    พี่สราวุฒิ ER 8323 8996 9 TH

    พี่ธีรพจน์ ER 8323 8997 2 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ ER 8323 8998 6 TH
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    มีคนแจ้งประสบการณ์เข้ามา เดี๋ยวพรุ่งนี้เล่าให้ฟังกันนะครับ;)
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พูดคุย
    วันนี้ก็จะมาเล่าเรื่องของมนสาเทวีให้ฟังกันนะครับ เห็นมีแจ้งประสบการณ์เข้ามา เป็นเรื่องแปลกๆ เพราะเห็นว่าแปลกดีนี่แหละเลยนำมาเล่า

    พี่คนนี้โทรมาหาผมเล่าประสบการณ์ของมนสาเทวีให้ฟัง ว่าได้บูชาไปแล้วก็นำไปไหว้เน้นถวายนมกับขนมเป็นปกติ ตามที่ได้แนะนำกันไป แล้วก็สังเกตุดูในช่วงสั้นๆว่ามีอะไรหลายอย่างฟื้นคืนมาทันตาเห็นจริงๆเค้าว่าเช่นนั้น ก็น่าแปลกดีเพราะเพิ่งบูชาเจ้าแม่ในช่วงเวลาสั้นๆนี่เอง

    แต่ที่พี่เค้าเล่า เค้าว่ามันเป็นเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเค้ามากกว่า นั่นคือปกติตัวพี่เค้าจะนับถือหมอทรงหรือเจ้าเข้าทรงอยู่ที่หนึ่ง เค้าว่าตัวร่างเจ้าสำนักจะลงเป็นร่างของปู่พระอินทร์ พี่เค้าว่าก็นับถือศรัทธามานานไปหามาประจำทีเดียว

    เค้าว่าส่วนตัวเค้าโดยปกตินั้นคือปู่ท่านนี้เคยบอกไว้ ว่าตัวเค้าเองไม่มีองค์ ไม่มีร่างอะไรเลย แต่พอได้มาบูชามนสาเทวีแล้ว เค้าว่าก็อารมณ์ประมาณนี้ คือเวลาไปกราบปู่ก็จะเห็นท่านทักคนนั้นมีองค์คนนี้มีองค์ เห็นเขาของขึ้นลงกันโครมครามๆ แต่ตัวพี่เค้าเองที่ปู่ทักว่าไม่มีองค์นั้น กลับไม่มีความรู้สึกอะไรเลย เค้าว่าแปลก ของขึ้นเป็นยังไงอารมณ์ไหนก็ยังไม่เคยเกิดขึ้นกับตัว

    ทีนี้หลังจากที่บูชามนสาเทวีแล้วพี่เค้าว่าวันนั้นได้อาราธนาท่านสวมคอไปตำหนักร่างทรงนี้ด้วย ทีนี้เค้าว่าพอเดินเข้าไปปุ้ป วันนั้นรู้สึกแปลกจริงๆ เค้าว่าพอเค้าไปไหว้พ่อปู่ พ่อปู่ก็จะเป่าหัวให้เป็นปกติ แต่ทีนี้พี่เค้าว่าเค้าสังเกตุดูพ่อปู่มีอาการแปลกๆอย่างเห็นได้ชัด

    พอจับตัวเค้าตัวคนทรงนั้นก็มีลักษณะอาการแสดงออกเหมือนงูเลื้อยไปเลย แล้วก็ขอดูพระที่พี่ท่านนี้บูชาอยู่ในคอพร้อมกับบอกกับพี่เค้าว่าเจ้าแม่องค์นี้สำคัญมาก แฝงญาณมาแรงมาก พร้อมกับยกมือไหว้ท่วมหัวส่งคืนให้ พี่เค้าว่าวันนั้นไปตำหนักทรง เป็นอะไรที่พิเศษอย่างมาก เค้าว่าคงเพราะบูชาเจ้าแม่ไปในคอด้วย พอมีคนมีร่างมีองค์เข้ามาในตำหนักปุ้ป ก็จะมองพี่เค้าแปลกๆ และจะเข้ามาไหว้มากราบพี่เค้ากันเกือบทุกคน บางคนถึงกับนำพวงมาลัยที่เตรียมไว้ถวายเจ้าของตำหนักมาคล้องพี่เค้าก็มี พี่เค้าว่ามันเป็นความรู้สึกประหลาดๆ เพราะคนที่มาเหล่านั้นก็รู้จักกัน คุ้นหน้ากันและเค้าก็รู้ว่าเราไม่มีองค์อะไร ไม่เคยทำตัวหรือแสดงอาการอะไรกับเราแบบนี้มาก่อน

    ผมก็เลยแซวว่าจะไม่มีองค์ได้อย่างไร ก็มีแล้วนี่ มีมนสาเทวีเป็นองค์ดูแลด้วยไม่น้อยหน้าใครหรอก พี่เค้าว่าวันนั้นพอจบงานเจ้าของตำหนักยังตามมาถามถึงองค์มนสาเทวีว่าบูชามาจากไหน พร้อมทั้งฝากร่วมบุญบูชาด้วย เค้าว่ามีเท่าไหร่ขอหมดเลย เพราะพี่เค้าไปบอกว่าสร้างเพียงไม่กี่องค์เท่านั้น ก็เลยให้ลิ๊งค์เวปพลังจิตพร้อมกับให้มาติดต่อเอาเอง ซึ่งผมก็ได้คุยแล้วเนื่องจากท่านตั้งใจมาเหมาจริงๆแล้วดูอาการคือรู้เลยว่าอยากได้มากๆเราก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพราะจากที่พี่เค้าบอกเจ้าของตำหนักนั้นเป็นคนเล่นพระ จะพระใหม่พระเก่าหรืออะไรแกมีทุกรุ่น เราก็เลยลองถามเค้าดู เค้าว่าไม่เคยเจอพลังแบบนี้ ไม่เคยเจอพระแบบนี้ พลังแบบนี้ปกติจะไม่ปรากฏอยู่ในวัตถุมงคลเลย เค้าก็เลยศรัทธาอยากได้นำมาบูชามากๆ แต่ก็แห้วไปตามระเบียบ เพราะมาช้าเราก็ต้องให้สิทธิ์ที่ติดจองกันก่อน แต่ก็สำรองไว้ให้เค้าองค์หนึ่ง

    ก็เห็นว่าเป็นเรื่องแปลกดีไม่รู้จะพูดอะไร แต่ที่คุยดูพี่เค้าว่าอารมณ์ตอนนั้นมันน่าขนลุก น่าตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกตอนมีเจ้าพ่อเจ้าแม่ร่างทรงที่ต่างๆมากราบเรา ผมก็เลยดึงสติให้พี่เค้าว่าตรงนั้นอะไรจะเกิดก็ปล่อยมันไปอย่าไปเก็บมาใส่ใจเพราะไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เราเจริญขึ้น ให้ทำตามที่แนะนำแต่แรกคือถวายนมกับขนมบ่อยๆก็พอ ทีนี้อะไรที่ฟื้นคืนพลิกกลับมาในทางที่ดีอย่างรวดเร็วแล้ว มันจะได้ไม่อยู่กับที่ จะได้เจริญรุดหน้ายิ่งๆขึ้นไปอีก ให้โฟกัสตรงเรื่องพวกนี้ ใส่ใจเรื่องการทำมาหากินดีกว่า อย่างอื่นพวกนั้นมันแค่ผลพลอยได้ของคนที่บูชาสายเทพเฉยๆ


    image.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่เสฐณันฐ์ ER 8323 9212 9 TH
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พุทธทำนาย

    ช่วงนี้มีหลายที่พูดถึงสงครามโลกกันเยอะ โดยเฉพาะอเมริกากับเกาหลีเหนือ เลยเอาเรื่องของพุทธทำนายมาให้อ่านกัน อันนี้ก็อ่านไว้เจริญสติกันนะครับเพราะไม่ทราบว่าเป็นพุทธทำนายจริงหรือไม่ จริงเท็จเพียงใดไม่รู้แน่ แต่ก็อ่านก็ทราบไว้จะได้ตั้งตนให้อยู่ในความไม่ประมาท ตลอดถึงเป็นสิ่งเตือนใจให้ประกอบกรรมดีด้วยอุบายอันเป็นกุศลต่อไป


    จากศิลาจารึกในเชตวันมหาวิหาร ณ สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย โดยคณะฑูตไทยที่ไปอันเชิญพระบรมสารีริกธาตุเมื่อปี พ.ศ.2485

    อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและใน อนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้นเมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า

    อานันทะ ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี (ก่อน พ.ศ. 2560)
    จะเกิดการณ์ร้ายแรง จะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ฝนเหล็กจะตกจากอากาศ ไฟจะลงมาจากอากาศ จะเผาผลาญประชาชนให้พินาศ จะมีการล้มตายซึ่งกันและกันเป็นอันมาก

    ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคต ล่วงเลยไปก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี (ก่อน พ.ศ. 2560)
    สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้ รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิต จะรบราฆ่าฟันกันเอง ถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ

    ส่วนเวไนยสัตว์ ผู้ขวนขวายในกุศลตามวจนะของตถาคต ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงใน พระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น แต่ว่า ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะถือว่าเป็นการณ์ร้ายแรงหาได้ไม่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าหลังกึ่งพุทธกาลไปแล้วนั้น

    อานันทะ ดูก่อนอานนท์ หลังกึ่งพุทธกาล (ช่วงหลัง พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป)
    จะมีความร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมาก ๆ สมณะ ซี พราหมณ์ จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก

    เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย 2,500 ปี เป็นต้นไป (ช่วงหลัง พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป)
    ไฟจะรุกรามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ

    สงครามจากทั่วทิศศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลนทั่วแคว้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมือง ทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก

    ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ

    ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัท ไม่ต้องอยู่ในศีลธรรม
    เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบ สอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม
    ผู้ที่มีศีลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใครเคารพยำเกรง

    พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง 5,000 พระวัสสา

    ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อยมาก คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน

    ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล 5 ประการ เจริญเมตตาภาวนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดดรู้จักพอ ไม่โป้ปดคดโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ปีย์ ET 0633 6129 7 TH

    พี่ภิญโญ ET 0633 6130 6 TH
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ช่วงนี้มีแต่คนถามถึงของชุดเก่าๆกันเข้ามามาก โดยเฉพาะพระผงน้ำมันตั้งแต่ตัวน้ำมันภูติพระเจ้าทีเดียว ก็เอาเป็นว่าอะไรที่หมดแล้วก็หมดไปเพราะหาไม่ได้แล้ว รอชุดนี้ดีกว่า ตอนนี้ก็ติดตามกันดีๆ อันนี้อาถรรพ์รุนแรงแน่นอน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาคุยแบบเจาะลึกอีกนิด;)
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ติดตามกันนะเดี๋ยววันนี้มาพูดคุยกันสบายๆ แต่ยังไม่ได้เปิดให้จองแต่อย่างใด รับรองว่าทั้งรูปแบบและมวลสารเรียกว่าคุ้มทีเดียว;)
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พ่อฟ้าฟื้น

    มีไลน์ถามกันเข้ามาเยอะก็เลยจะลงรูปให้ดูกันก่อนนะครับเพราะหลายคนบอกว่าอยากเห็น เตรียมติดตามกันไว้บอกไว้แค่ว่ารุ่นนี้ไม่ธรรมดา สำหรับหลายๆคนที่เคยพลาดพ่อฟ้าฟื้นตลอดจนพระผงน้ำมันภูติพระเจ้าไป


    SAM_5298.jpg SAM_5300.jpg
    กับพระผงบูชาครู พ่อฟ้าฟื้นสามอาถรรพ์มหาพรหมเจ็ดภาค บอกได้แค่ว่าตะกรุดทั้งสามดอกที่ฝังทั้งด้านหน้าและหลังนั้นล้วนเป็นยอดแห่งวิชาและพ่ออาจารย์ท่านยอมรับว่าเป็นที่สุดของตะกรุด ท่านว่าบีบอีกขระลงให้หนเดียว เพราะแต่ละดอกนั้นล้วนแต่ละเอียดพอที่จะลงเป็นตะกรุดดอกละห้านิ้วได้ทีเดียว ในส่วนเฉพาะของตะกรุดนั้นท่านว่าลงยากและละเอียดมากไม่ต่างจากยันต์จักรพรรดิ์เลย

    ก็ติดตามกันไว้สำหรับปางที่ครูขุนแผนนั้นนั่งตกประคำหรือนับประคำบริกรรมนี้ ก็ไม่เคยเห็นที่ไหนทำเหมือนกันส่วนตัวผมเรียกว่าปางบริกรรมเหมือนกำลังเดินมนต์อะไรซักอย่าง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีความหมายลึกซึ้งไม่ธรรมดาทีเดียวทำไมต้องสามอาถรรพ์ อะไรคือมหาพรหมเจ็ดภาค ไว้จะมาลงรายละเอียดให้อีกครั้งหนึ่ง

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ตอบ PM ครบนะครับ;)
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงบูชาครูพ่อฟ้าฟื้น(สามอาถรรพ์มหาพรหมเจ็ดภาค)

    จากปฐมบทแห่งศาสตร์อาถรรพ์สู่ตำนานอันจะเป็นที่กล่าวขานกันต่อไป โอม สิทธิฟ้าฟื้นจำเริญศรี.....พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาจัดสร้างพระผงบูชาครูพ่อฟ้าฟื้นขึ้นมาอีกคำรบหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้ท่านได้พิถีพิถันกระทำเต็มสูตรอย่างถึงที่สุด ชนิดที่เรียกได้ว่าจัดสร้างไว้เพื่อให้เป็นหนึ่งในแผ่นดินทีเดียว

    พ่อครูท่านได้หล่อรูปพ่อขุนแผนหรือพ่อครูฟ้าฟื้นขึ้นมาพร้อมๆกับเหรียญหล่อมหาพรหมแปลงรูปคาดสังวาลย์(พ่อฟ้าฟื้น)ที่เคยออกให้บูชาไปนานแล้ว ซึ่งขณะนี้เป็นที่ต้องการและกล่าวขานถึงประสบการณ์อย่างมาก โดยในชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้แกะพิมพ์ทรงของพ่อฟ้าฟื้นอยู่ในปางนั่งบริกรรม ซึ่งมีนัยยะแอบแฝงที่สำคัญยิ่ง


    ซึ่งพระยาสุรินทร์ฤาชัยนั้น จะเรียกท่านว่าพระกาญจน์บุรีก็ได้ หรือที่เรารู้จักท่านกันในนามขุนแผนนั่นเอง อดีตแม่ทัพใหญ่ฝ่ายหน้าในกรุงศรีอยุธยา ผู้ที่บั้นปลายชีวิตได้ถอดจิตทิ้งสังขารไปเสวยวิมุติเป็นท้าวมหาพรหมอยู่ในปัญจสุทธาวาสพรหมโลก พ่ออาจารย์ท่านเรียกชื่อว่าท้าวมหาพรหมพระสุเรนทร์


    เมื่อจะกระทำรูปท่านครั้งนี้ พ่ออาจารย์ท่านได้ถามโดยตรงกับมหาพรหมพระสุเรนทร์ว่าต้องการจะให้สร้างรูปท่านจากธาตุใด แบบไหน ระหว่างตะกั่วลงถมหรือธาตุกายสิทธิ์ ซึ่งท่านได้ให้คำตอบว่าธาตุกายสิทธิ์ เพราะเหมาะที่จะลองรับกระแสญาณของท่านได้ดีกว่า พ่ออาจารย์ท่านจึงน้ำเหล็กไหลต่างๆมาหล่อเเละได้ควบคุมการหล่อด้วยตนเอง ได้แก่
    - เหล็กไหลช่อทิพย์
    - เหล็กไหลวัชรธาตุ(เหล็กนิพพาน)
    - หยาดน้ำฟ้าทวาราวดี (มีลักษณะคล้ายปรอทกลิ้งได้ แต่เหนือกว่าปรอทมากนักเป็นเหล็กไหลชนิดหนึ่ง)


    เมื่อได้พระมาทั้งหมดแล้ว ท่านจึงนำมาเชิญญาณเเละกระแสจิตแห่งมหาพรหม ซึ่งท่านก็กำหนดจิตนั่งดูอยู่ตลอดเวลา ท่านกล่าวว่า พ่อพระพรหมขุนแผนนี่ท่านเมตตาเราอยู่มาก เพราะท่านใช้ภาวะอำนาจแห่งมหาพรหมนิรมาณกายดวงจิตของท่านลงมาแฝงไว้ในเหรียญหล่อนี้ แม้ผู้ใดได้สวมคล้องก็จะมีพลังแลรัศมีแห่งมหาพรหมติดเนื้อต้องตัวทำให้ดูสดใส กะปี้กะเปร่า ขจัดโรคภัยร้ายเทวดาพาลเจ้ากรรมนายเวรเกเรและชะลอผลแห่งอกุศลกรรมทั้งหลาย เป็นมหาเสน่ห์ มหาเมตตาขั้นสูงสุด


    ท่านได้เมตตาให้เรียกชื่อว่าพ่อครูฟ้าฟื้น ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าความหมายดี เหมือนชื่อยอดศาสตราของท่าน ดาบฟ้าฟื้นนั้นเคยแพ้ใครเสียที่ไหน ความรักใครเคยเหี่ยวเเห้ง ธุรกิจใครจะซบเซา อะไรที่ว่าแย่ ท่านไปอยู่ด้วยนี่ฟื้นหมดเลย เอาตามเเต่ใจปรารถนาอธิษฐานบอกกล่าวท่าน จะไม่มีหยุดนิ่ง สมดังคำปกาศิตที่ท่านกล่าวว่า " ผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ แม้เราอยู่ใต้ฟ้านี้แล้ว จะกระทำกิจใดให้สำเร็จประโยชน์ก็ขอให้บอกกล่าวแก่เรา ก็ได้ชื่อว่าเราฟื้นคืนขึ้นมาเเล้ว ต่อไปนี้เจ้าจะล้มไม่เป็น มีเเต่ลุกและก้าวกระโดดในทุกเรื่อง "


    พ่ออาจารย์ได้ทำพ่อครูในปางตกประคำนี้ โดยตั้งใจว่าจะทำกิริยาดุจว่าบรมครูพ่อฟ้าฟื้นนี้กำลังนั่งบริกรรมมนต์อยู่ตลอดเวลา ท่านว่าเพราะท่านหล่อรูปพ่อครูไว้นานแล้ว โดยด้านหลังนั้นท่านได้นำมาลงจารอักขระหัวใจขุนแผนด้วยคาถาสุนะโมโลทุกองค์ และท่านยังนำมาเสกด้วยวิชาเฉพาะทางคือวิชาสำเภาหลงท่าเทวดาหลงห้อง และมนต์ด้วยคาถาจูงนางเข้าห้องอยู่แรมปี ท่านว่าท่านใช้เฉพาะวิชานี้จริงๆเพราะท่านตั้งใจว่าเวลาใครนำไปบูชาพกติดตัว จะได้เหมือนกับครูกำลังนั่งร่ายมนต์บทนี้อยู่ตลอดเวลา เค้าจะได้เจอโชคใหญ่เจอสิ่งที่เกื้อกูลสมใจปรารถนา ดุจสำเภาที่หลงท่า หลงมาจากไหนก็ไม่รู้มาเข้าท่าเรา ดุจเทวดาที่หลงห้องแม้จะมีบุญหนักหรือมีฤทธิ์วิเศษก็ยังต้องหลงมาเข้าห้องเราท่านว่าเป็นกฤติยาคมแฝดซ้ำซ้อน พูดไม่ได้ให้คิดเอาเอง อย่าไปพูดถึงเรื่องวิมานเทวดานางฟ้าที่ไหนเลย เอาว่ารูปครูพ่อฟ้าฟื้นที่นั่งหนักกำกับมนต์บทนี้อยู่รับรองว่าได้เรื่องแน่ วิชานี้ได้แต่ผลประโยชน์มีแต่รับไม่มีออกหรือเสียแต่อย่างใด ท่านว่าวิชานี้ดี ไม่ใช่เเค่มีคุณทางด้านลุ่มหลงออกไปทางกามคุณอย่างเดียว แต่คำว่าลุ่มหลงนี้ยังรวมไปถึงด้านอื่นๆด้วย คิดให้ดีมองให้ลึก คำว่าลุ่มหลงนั้นหากคนเราใช้ชีวิตจะทำอะไรคนอื่นเขาก็หลงเพียงเท่านี้มันก็หมายถึงความราบรื่นในทุกๆเรื่องอยู่เเล้ว มันง่ายถึงเพียงนั้น

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านมนต์เสร็จแล้ว แม้มีคนแจ้งความประสงค์ขอบูชาพ่อฟ้าฟื้นเข้ามา ท่านก็ยังไม่ได้นำพ่อฟ้าฟื้นรุ่นนี้ออกให้บูชา เพราะเจตนาของท่านคืออยากทำให้เต็มที่ ให้ดีกว่านี้ พร้อมกว่านี้ ให็เต็มกว่านี้จึงจะออกให้บูชา โดยท่านตั้งใจจะทำเป็นผงวิชาน้ำมันเหมือนเมื่อคราวสร้างท้าวพระยาพันเมียทีเดียว ซึ่งท่านก็ได้นำน้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้ามาเป็นมวลสารหลักในการเตรียมนวดผงผสมเนื้อหามวลสารองค์พระในครั้งนี้ ก็จะกล่าวถึงน้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้ากันคร่าวๆอีกคำรบหนึ่งก่อน


    น้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้า
    เป็นระยะเวลานานที่พ่ออาจารย์ท่านได้คร่ำครวญเเละพิจารณาเห็นอะไรบางสิ่งบางอย่าง ท่านได้เเต่เฝ้ารอข่าวของการมาถึงในวัตถุอาภรรพ์ประเภทหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือน้ำมัน

    น้ำมันนี้ฟังดูอาจจะแปลกเล็กน้อย แต่กล่าวได้เลยว่าศาสตร์ของการสร้างน้ำมันนี้เป็นศาสตร์ที่ซับซ้อนเเละลึกซึ้งที่สุด เมื่อผู้ใดได้บูชาน้ำมันที่สร้างมาตามสูตรโบราณกาลอย่างถูกต้อง จะเห็นผลได้หลากหลายมากที่สุด ซึ่งศาสตร์น้ำมันนี้ก็มีทั้งทางเสน่ห์ เมตตา ชาตรี โชคลาภต่างๆกันไป

    ยกตัวอย่างทางด้านมหาเสน่ห์ก็เช่นน้ำมันพราย ที่ป้ายใครหรือผสมให้ใครกินเเล้วจะซึมเข้าไปในเนื้อในกระดูกผู้นั้นทีเดียว นี่คือความแรงของศาสตร์น้ำมันที่เหนือกว่าเเละเลอเลิศกว่าพร้อมกับใช้งานได้ง่ายกว่าพระเครื่องหรือสีผึ้งธรรมดาทั่่วไปหลายเท่านัก

    กล่าวถึงน้ำมันที่พ่ออาจารย์รอคอยการปรากฏขึ้นนี้ จะเรียกว่าหายสาปสูญไปจากโลกเเล้วก็เป็นได้ เพราะโดนฝังไว้ฝากไว้กับเเม่พระธรณีเป็นเวลาถึง 3 ชั่วอายุคน

    น้ำมันดังกล่าวนี้ เกิดจากผู้สืบทอดอันได้เก็บไว้พิจารณาดีเเล้วเห็นถึงคุณเเละโทษอย่างชัดเจนจึงนำมามอบให้กับพ่ออาจารย์

    น้ำมันนี้เกิดขึ้นก่อนพ.ศ. 2500 นับถอยหลังไป 3 ชั่วอายุคน จะทราบว่าก่อนยุคกึ่งพุทธกาลนั้นเรื่องอาคม อิทธิฤทธิ์ของพวกนี้เป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดเจนมากเพราะยังไม่ถึงเวลาเสื่อมถอยตามพุทธบัญญัติ ในช่วงเวลานั้นได้เกิดศาสตร์ประเภทน้ำมันนี้ขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่าศาสตร์น้ำมันนั้นมีมายาวนานเเล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านอนุญาติให้เล่าเเละเปิดเผยได้บางส่วนคร่าวๆเท่านั้น จึงจะสรุปให้ฟังว่าน้ำมันนี้หุงขึ้นโดยครูหมอทั้ง 4 สาย ซึ่งทั้ง 4 ท่านนี้เเต่ละท่านต่างก็ร่ำเรียนพระเวทย์ฝึกหัดวิทยาคมมาจนเชี่ยวชาญ ครูหมอทั้ง 4 ท่านนี้เป็นฆราวาสเหมือนๆกันเเต่ที่เเน่ๆเลยก็คือเก่งชนิดหาตัวจับยากเเละไม่ยุ่งหรือสุงสิงกับโลกภายนอกเสียเท่าไหร่

    เมื่อถึงเวลาที่สหธรรมิกทั้ง 4 ท่านนี้ได้พบกันเเลกเปลี่ยนความรู้ จึงตัดสินใจที่จะหุงน้ำมันมหาเสน่ห์ชนิดหนึ่งขึ้นมา โดยใช้สรรพศาสตร์บ้านเกิดของตนเองตามที่ได้ร่ำเรียนมา นำมาผสมรวมกันทั้ง 4 ศาสตร์ ซึ่งเเต่ละศาสตร์เเต่ละสายนั้นจะต้องใช้มวลสารเเละวัตถุอาถรรพ์ที่เเตกต่างกันไป

    ศาสตร์ทั้ง 4 สายของครูหมอทั้ง 4 ท่านนั้น เเบ่งเป็นศาสตร์ต่างๆ ดังนี้

    1. แขก
    2. อิสลาม
    3. พม่า
    4. มอญ


    ซึ่งหากใครเคยรับรู้เเละเล่นของทางเสน่ห์จะทราบว่า ศาสตร์เเห่งมหาเสน่ห์ที่ยอดเเล้วได้เเก่น้ำมันพรายนั้น จะดูเป็นหิ่งห้อยด้อยเเสงไร้คุณค่าไม่มีราคาไปเลยเมื่อมาเทียบอานุภาพกับเสน่ห์สายอิสลาม และเสน่ห์สายแขกพราหมณ์ฮินดู ถึงขนาดที่กล่าวได้ว่าหากเจอเสน่ห์ที่ทำขึ้นจากผู้รู้ศาสตร์วิชาและทำได้จริงจากสองชาตินี้เเล้วไม่ต้องไปหาหมอแก้ที่ไหน นอนรอวันตายได้เลยถึงจะหาย

    เมื่อครูหมอทั้ง 4 ท่านได้ประชุมกันหุงน้ำมันจากของอาถรรพ์ทั้งหลายเเละเสกรวมกันเสร็จเเล้ว ก็ได้นำน้ำมันนี้ เเจกจ่ายให้กับผู้เคารพนับถือ ซึ่งเเรกๆผลของมันก็คือ เป็นภัยคุกคามกับสตรีเพศอย่างเห็นได้ชัด ศิษย์ที่เป็นปุถุชนคนธรรมดาไม่เคยมีภรรยาก็กลับมีเมียอยู่ร่วมกันภายในบ้านหลายคน ที่หนักหน่อยคือเอาดีทางพระศาสนาเป็นพระสงฆ์องค์เจ้าเมื่อได้นำมันไปกลับมีสีกามาติดให้สึกหาลาเพศ

    เมื่อท่านทั้ง 4 พิจารณาเห็นถึงคุณเเละโทษของน้ำมันนั้นเเล้ว จึงได้ร่วมใจกันฝังน้ำมันนี้ฝากไว้กับพระเเม่ธรณีจวบจนกาลเวลาได้ผ่านไป มาถึงยุคหลานของท่านซึ่งเป็นครูโนราห์ได้นำน้ำมันนี้ขึ้นมา ทำให้เป็นที่เเปลกใจแก่ลูกหลานเเละเพื่อนบ้านในระเเวกนั้นว่าทำไมตาแก่ธรรมดาที่ไม่เคยมีอะไร อยู่ดีๆถึงมีสาวอายุ16-17 มาอยู่ด้วยเต็มบ้าน เเละเด็กสาวเหล่านั้นก็หาได้เป็นลูกสาวหลานสาวด้วยเเต่เป็นเมียท่านทั้งหมดตกกว่า 20 คน

    ครูโนราห์ท่านนี้ได้ลองนำน้ำมันนี้ให้ผู้อื่นลองใช้บ้าง ก็ปรากฏผลเช่นเดียวกับบรมครูทั้ง 4 ในอดีตที่ทดลองกัน เขาเอาไปป้ายไปทาผู้หญิงในสถานที่ท่องเที่ยวพอหมดก็จะมาขอใหม่ เรียกได้ว่าคนหน้าตาอัปลักษณ์ได้เมียระดับนางงามเต็มบ้าน ใช้จนไม่รู้จักพอครูท่านจึงเลิกให้น้ำมันเเก่บุคคลผู้นี้ ปรากฏว่าต่อมาคนผู้นี้ก็มีปัญหาในบ้านอันเนื่องมาจากภรรยาทั้งหลายไม่ลงรอยกันเเละตายเพราะภรรยาในที่สุด ท่านจึงลองนำน้ำมันให้พระภิกษุพกดู โดยการเลี่ยมใส่หลอด ปรากฏว่าไม่เป็นอันได้จำวัตรสวดมนต์ยังไม่ครบพรรษาก็มีสาวเล็กสาวใหญ่ตามเข้าออกในกุฏิตลอดเวลาจนได้สึกหาลาเพศในที่สุด

    น้ำมันนี้ครูโนราห์ท่านนี้ซึ่งเป็นผู้สืบทอดทางสายเลือดของครูหมอทั้ง 4 ในส่วนของครูอิสลามได้พิจารณาคุณเเละโทษเเล้วจึงตัดสินใจมอบให้กับพ่ออาจารย์พลพร้อมทั้งบอกคาถากำกับการใช้น้ำมันให้อย่างละเอียด

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้รับน้ำมันมาเเล้ว ท่านพิจารณาเห็นว่าน้ำมันนี้จะเป็นคุณหนักหนาเเก่ผู้มุ่งหวังความเจริญทางโลกียะ หากใฝ่ไปทางโลกุตระก็เลิกคุยกันได้เลย ท่านกล่าวว่าผู้ที่จะบูชาน้ำมันนี้จากท่านไปจะต้องเป็นคนดี มีสติ รู้จักพอ ไม่มักมากทางกามคุณจนเกินงาม เอาว่าสำรวจจิตใจตัวเองว่าดีเเล้วก็มาบูชา

    ซึ่งวิชาน้ำมันนี้จะอยู่สูงกว่าเเละเเตกต่างจากน้ำมันพรายอย่างเทียบไม่ติด พ่ออาจารย์ท่านว่าเหนือกว่าน้ำมันพราย น้ำมันภูติ น้ำมันมหาภูติมากนัก และเนื่องจากน้ำมันนี้ไม่มีชื่อเรียกมาเเต่ต้น ท่านจึงเรียกน้ำมันตัวนี้ว่าน้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้า

    ท่านว่าน้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้านี้เป็นน้ำมันที่แปลก คือมีตัวรู้เเละสนองตอบแบบรวดเร็วรุนแรงตามใจผู้ใช้ หากพกไว้กับเนื้อกับตัวจะซึมซาบกลิ่นอายทำให้ผู้ใช้มีสง่าราศีดูหน้าใสขึ้นมีเลือดฝาดมากขึ้น ไม่ใช่น้ำมันฝ่ายต่ำ เเต่สรรพคุณนั้นกลับรุนเเรงยิ่งกว่า ที่สำคัญคือมีครูวิชาทั้ง 4 สายที่เป็นครูเเละสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดจนเจ้าของน้ำมันทั้ง 4 ท่าน ให้การอุปการะเกื้อกูลเเก่ผู้ถือครองอยู่

    ซึ่งทานได้พิจารณาเเล้วเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการนำไปใช้ไปป้ายไปผสมน้ำให้ใครกิน ท่านจึงจะผสมลงไปในเนื้อพระเพื่อสร้างวัตถุมงคลโดยใช้น้ำมันนี้หนักๆเลยเพื่อสงเคราะห์ศิษย์ที่เเสวงหาของเสน่ห์ที่มีผลรุนเเรงเเต่โบราณกาล จะไม่ใส่หลอดให้เอาไปใช้กันเล่นๆ เพื่อผลดีเเก่ตัวท่านเอง * ซึ่งน้ำมันนี้มาทราบภายหลังว่าพ่อครูโนราห์เองก็ได้นำมาเสกเพิ่มด้วย ซ้ำยังได้สาปแช่งคนที่นำของบรรพบุรุษท่านไปใช้ในทางทุจริตเอาไว้ พ่ออาจารย์ท่านจึงต้องงดเว้นมอบน้ำมันนี้ให้คนนำไปบูชา ท่านว่าถ้าเอามาผสมในเนื้อพระนี้เห็นจะมีแต่คุณไม่มีโทษอย่างใด ซ้ำอานุภาพก็ยังเสมอกันไม่ได้ลดทอนลงเลย สำหรับน้ำมันภูติพระเจ้านี้ท่านจึงตัดสินใจใช้เฉพาะผสมสร้างพระรุ่นสำคัญเท่านั้น


    พ่ออาจารย์ท่านได้นำทั้งว่านยาหลายตระกูล มาผสมกับผงวิเศษที่ท่านลบไว้ ทางเสน่ห์ล้วนๆอย่างหนึ่ง ทางโชคลาภโภคสมบัติอย่างหนึ่ง ทางค้ำคูณเกื้อหนุนดวงชะตาอย่างหนึ่ง ทางคุ้มครองป้องกันอย่างหนึ่ง ทางมหาสะท้อนย้อนคืนความพยาบาทมุ่งร้ายอย่างหนึ่ง และนำมาเจือด้วยผงพรายกุมารหัวเชื้อของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และใส่สีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบ ตลอดจนสีผึ้งพยองคำในตำนานซึ่งยากจะได้ครอบครองผสมลงไปในเนื้อพระด้วย


    สำหรับพ่อครูฟ้าฟื้นนี้ ก็จะฝังสิ่งของมงคลอันมีอาถรรพ์ต่างๆดังต่อไปนี้
    - ตะกรุดมหาพรหมเจ็ดภาค พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาแต่เขมรโบราณ ในอดีตนั้นเห็นจะมีแต่เพียงหลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือที่เรียนสำเร็จ แต่ของท่านนั้นจะเรียกว่าพรหมหกหน้าหรือพรหมหกภาคบางทีก็เรียกเทพรัญจวนไปเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชามหาพรหมเจ็ดภาคนี้ยากจะหาผู้รู้ได้ในแผ่นดินเพราะเป็นวิชาที่ปกติแล้วถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆห้ามถ่ายทอดกัน ต้องให้ตายไปกับตัวคนเรียนเท่านั้น ในครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาลงตะกรุดมหาพรหมเจ็ดภาคฝังไว้ด้านหน้าขององค์พระด้วย ท่านว่าทำเพื่อฝากเอาไว้ให้กับแผ่นดิน ว่าวิชานี้ไม่ได้สูญหายไปไหน ซึ่งวิชามหาพรหมเจ็ดภาคนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่ามันเป็นที่สุดแล้วของอาถรรพ์และวิชาตลอดจนแรงครูสายเขมรโบราณ ท่านว่าปิดบังซ้อนเร้นกันนัก อย่าว่าแต่จะได้เห็น แม้จะได้ยินยังยาก เพราะว่าเป็นที่สุดของวิชาที่ให้ผลกับคนใช้โดยตรงทางเสน่ห์และโชคลาภไปพร้อมๆกัน ท่านว่าเป็นเสน่ห์ก็เป็นเสน่ห์อย่างถึงที่สุด เช่นมีเจ้าคุณระดับเจ้าอาวาสเคยมาขอตะกรุดท่านอยู่ซ้ำยังขอตะกรุดวิชามหาพรหมเจ็ดภาคนี้ด้วยเพราะท่านไปรู้มาว่าพ่ออาจารย์เคยลงให้กับสหธรรมิกท่าน เมื่อได้ไปผลปรากฏว่าใจไม่แข็งพอ ไม่นานก็มีสีกามาพัวพันจนต้องสึกหาลาเพศไปเอาดีทางโลกไปแล้วก็ได้ดีซะด้วย เช่นนี้ท่านจึงว่าวิชาตัวนี้เป็นเสน่ห์ก็เป็นอย่างถึงที่สุด ในทางกลับกันก็เป็นโชคลาภอย่างถึงที่สุดด้วยไปพร้อมๆกัน ท่านกล่าวว่าถ้าจะเอาให้ถูกคือออกตามใจปรารถนาของคนใช้ทีเดียวว่าต้องการเสน่ห์หรือโชคลาภ ท่านว่าวิชานี้จากคนธรรมดากลายเป็นเศรษฐีมีโรงงานเป็นของตัวเองก็มี จากพระภิกษุที่ยังไม่รู้จะหางบประมาณหลายสิบล้านมาสร้างโบสถ์ได้จากที่ไหนกลายเป็นสร้างเสร็จดุจเทพเนรมิตก็มี ท่านว่า่ตะกรุดมหาพรหมเจ็ดภาคนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดวิชาและของอาถรรพ์ซึ่งเป็นวิชาในตำนานและท่านว่าพ้นวาระนี้แล้วท่านจะไม่ลงอีก เพื่อจะให้มันเป็นตำนานของตำนานสืบต่อไป

    - ตะกรุดสามกามสามอาถรรพ์ วิชานี้ท่านว่าเป็นวิชาโบราณของฝั่งเหนือ ท่านได้เรียนมาจากจารึกใบลาน พ่ออาจารย์ว่าเป็นตะกรุดประเภทวิชาอาถรรพ์ที่ลงยากมาก เพราะต้องลงรูปเรียกธาตุผูกจิตให้มีตัวรู้ ซ้ำยังต้องลงอาถรรพ์ถึงสามชนิดตามชื่อวิชา แม้การเดินอักขระก็ยังยาก ท่านว่าเป็นที่สุดของเสน่หาหากพกโดยทั่วไปก็เป็นเมตตาทำให้เป็นที่สะดุดตาของคนรอบด้าน แม้จะใช้ทางเสน่หาก็เป็นความอาลัยอาวรณ์ประหนึ่งอกจะแตก ท่านว่าวิชานี้ถึงกับใช้เรียกคนให้รักกันได้ ทำให้ผัวเมียที่โกรธกันดีกันได้ ไม่แต่เพียงเท่านั้นยังใช้แก้คุณไสยลมเพลมพัดได้ทุกชนิด ท่านว่าคราวนี้ลงเป็นตะกรุดก็ว่ายากแล้ว เพราะท่านตั้งใจจะให้คนได้พกส่งเสริมกันกับวิชามหาพรหมเจ็ดภาค ท่านว่าตะกรุดสามกามสามอาถรรพ์นี้อย่าไปคิดในทางทะลึ่งนะ ท่านว่าลงยากขนาดนี้ถ้าจะคิดแค่เรื่องแบบนั้นก็เสียของหมด ท่านว่าตะกรุดวิชานี้พกไว้กับตัวจะช่วยอำนวยความสะดวกเหมือนใบเบิกทางให้กับชีวิต แม้เราไปแห่งหนตำบลใดก็จะมีแต่คนเรียกหาอยากทักทายปราศรัยมีน้ำใจไมตรีให้เรา ให้โชคลาภให้ความอุดมสมบูรณ์บริบูรณ์กับเรา ท่านว่าเชื่อเถอะ อยู่ไหนไม่มีอด มีแต่สบายเพราะคนเค้ารักและเมตตาตัวเอง

    - ตะกรุดพระเจ้าเหยียบโลก ท่านว่าเป้นตะกรุดสำคัญอีกสายหนึ่ง เพราะว่าเป็นวิชาที่มีผลมาก โดยพ่ออาจารย์ท่านได้ลงจารเป็นรูปองค์พระเหยียบโลกเอาไว้พร้อมด้วยคาถาอักขระวิชา ซึ่งวิชานี้พ่ออาจารย์ว่าดีทุกทางสุดแล้วแต่ปรารถนากันทีเดียว ท่านว่าตัวเราอยู่ในโลกจะหาใครมีอำนาจเหยียบโลกไว้ในอุ้งเท้าได้เช่นนี้ไม่มีอีกแล้ว คำว่าพระเจ้าเหยียบโลกนั้นพูดง่ายๆก็คือพระจักรพรรดิครองโลก เป็นใหญ่ในโลก ได้ทุกอย่างในโลก เพราะได้ทุกอย่างในโลกเช่นนั้นท่านจึงว่ามันใช้ได้ทุกทางออกได้ตามใจปรารถนา ตามสภาวะอารมณ์ของเรานั่นแหละ พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดพระเจ้าเหยียบโลกนี้จึงเป็นที่สุดของตะกรุด แม้พกปกติก็จะเป็นมหาอำนาจอย่างถึงที่สุดด้วย ทำให้คึนอื่นกลัวเรา เกรงใจเราถึงกับว่าแค่เค้าคิดไม่ดีกับเราก็รู้สึกผิดแล้ว ท่านว่านี่สำคัญขนาดนั้นทีเดียว

    - อิ่นคู่นาง พ่ออาจารย์ท่านแกะมาจากไม้รักซ้อนตายพรายเสกจนมีจิตวิญญาณ เปิดอาการสามสิบสองใส่ลมหายใจให้เขา ท่านว่าผูกมาอย่างดีแล้วตามตำรับล้านนาโบราณ มีคุณวิเศษเรื่องเสน่ห์เมตตามหานิยมนั้นไม่เป็นรองสิ่งใด ด้วยลักษณะทางเอกลักษณ์ของอิ่น จึงเป็นที่น่าสนใจของคนทั้งหลายนำมาไว้ติดตัว ชาวล้านนาเชื่อว่าการมีอิ่นไว้บูชาจะทำให้มีคนเมตตารักใคร่ มีไว้กับบ้านเรือนจะทำให้คนในครอบครัวรักใคร่กัน หากมีไว้บูชากับตัวเราก็จะทำให้ดูดีมีเสน่ห์ดูมีสง่าราศี อุดมสมบูรณ์ไปด้วยโชคลาภ ข้าวของเงินทองไหลมาเทมา หญิงชายพกติดตัวไปหาใคร หรือคนที่รักใคร่ชอบพอก็จะสมหวังทุกประการ เน้นในทางเมตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลงไม่ว่าจะหญิงชายใดที่หมายตาก็มารักใคร่ชอบพอ ไปไหนมีแต่คนเข้ามาทักทายพูดคุยด้วยความเสน่หา หากบูชาดีจะมีโชคมีลาภไม่ขาด พ่ออาจารย์ท่านว่าอิ่นนั้นมีจิตวิญญาณ เขาจะติดตามไปคอยใหเฃ้การช่วยเหลือเราเหมือนเรามีตัวช่วยชั้นดีโดยเฉพาะเรื่องความรักให้สะดวกราบรื่นได้เป็นอย่างดี ท่านว่าที่จริงเขาก็ให้การสนับสนุนเราในทุกเรื่องนั่นแหละนี่คือข้อดีของอิ่นที่เสกจนเป็นมหากายสิทธิ์นั่นคือเสกจนมีจิตวิญญาณนั่นเอง ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านว่ายังดีทางปรับสมดุลย์ธาตุขันธ์ร่างกายของเราอีกด้วย ท่านว่ามันเป็นพลังพิเศษที่ช่วยชะลอและซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอไปให้ดีขึ้นและบริบูรณ์ขึ้นนั่นเอง

    - วชิราวุธ พ่ออาจารย์ว่าสามง่ามหรือตรีศูลก็เรียก จะเรียกว่าวชิราวุธก็เรียก จัดเป็นเทพอาวุธที่มีอานุภาพมาก เพราะเป็นเทพอาวุธคู่บารมีของพระอินทร์จอมเทพแห่งดาวดึงส์ มีอานุภาพแห่งการทำลายล้างสูงสุด ซ้ำยังสามารถใช้สร้างสายฟ้าได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าวชิราวุธนี้ท่านได้ขอเมตตาปู่พระอินทร์มาลงให้เป็นพิเศษ เพื่อที่จะเอาไว้ฟาดฟันศัตรูหมู่มาร ให้ทางเดินในชีวิตแต่ละคนนั้นราบเรียบไม่มีปัญหาอุปสรรคใด ซ้ำยังเป็นที่เกรงกลัวของจิตวิญญาณฝ่ายต่ำ ภูติผีสัมภเวสีไม่อาจเข้าใกล้มาทำร้ายเราได้ นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอำนาจของวชิราวุธนี้ยังมีพลังงานลึกลับที่ช่วยดึงดูดสิ่งดีๆและทำลายสิ่งเลวร้ายทั้งมวลด้วย ท่านว่าอำนาจของวชิราวุธนี่รวดเร็วมาก จะทำอะไรก็ทำได้เร็ว สำเร็จเร็ว รวยเร็ว เรียกว่าทำอะไรก็เร็วจนใจหาย ซ้ำเวลาอยู่ไหนบนบานกราบไหว้เทวดาองค์ใด เทพองค์ไหนอยู่ใกล้องค์นั้นต้องรีบมาช่วยเราก่อนไม่มีเกี่ยงงอนกันเลย ด้วยเกรงอำนาจแห่งปู่พระอินทร์ผู้เป็นเจ้าแห่งดาวดึงส์นั่นเอง


    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างพระผงบูชาครูพ่อฟ้าฟื้น(สามอาถรรพ์มหาพรหมเจ็ดภาค) นี้ไว้ได้ทั้งหมด 8 องค์ ด้วยเนื้อหามวลสารนั้นมีจำกัด และท่านว่าลำพังตะกรุดตลอดจนวิชาที่ลงก็ทำยาก ทำให้ไม่สามารถสร้างได้ในจำนวนที่คนต้องการ ดังนั้นท่านจึงได้อธิษฐานใจฝากมหาพรหมสุเรนทร์เอาไว้ ว่าให้เฉพาะลูกหลานของท่าน ลูกหลานของพ่อขุนแผนที่มีวาสนาสืบนื่องกันมาอันที่ตัวท่านมหาพรหมจะได้อุปถัมภ์ค้ำจุนนั้นได้ไว้สักการะบูชาเท่านั้น


    คาถาบูชา
    โอมสิทธิฟ้าฟื้นจำเริญศรี สุนะโมโล นะโลโมสุ โลโมสุนะ โลสุนะโม สุรินทะราชัยยะมหาพรหมมา เมตตาจิตตัง กาวะกะ สะละสู มะสังเตอะ ยะมะรานังปะนีตัง อะวิกรึงคะเร อาคัจชะติ นะโมพุทธายะ(ถวายหมากพลูตามสมควร)(สวดอาราธานาอธิษฐานขอพรตามเเต่ปรารถนา)


    * รายการนี้เปิดรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้สั่งจองให้แจ้งชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด (ตลอดจนเรื่องที่ต้องการหรือมีความปรารถนาจะแจ้งหรือไม่แจ้งก็ได้ในส่วนนี้)ไว้ด้วย เพื่อที่พ่ออาจารย์ท่านจะได้ทำการเจิมและบอกกล่าวให้เป็นกรณีพิเศษต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา พระผงบูชาครูพ่อฟ้าฟื้น(สามอาถรรพ์มหาพรหมเจ็ดภาค) บูชา 4,000 บาท


    Suphanburiwatpalelai0609a.jpg SAM_5298.jpg SAM_5300.jpg 035.jpg 110436.jpg image.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2017
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ภิญโญ ER 8323 1705 7 TH
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พูดคุย

    อรุณสวัสดิ์ครับ สำหรับวันนี้ก็จะมาพูดคุยกันต่อ เรื่องนี้เหมือนจะเคยพูดกันไปคร่าวๆแล้วเพราะมีคนถามกันเข้ามาเยอะและสงสัยกันบ่อย วันนี้ก็จะยกมาพูดกันอีกครั้งหนึ่งนะครับ


    สำหรับคำถามที่ว่าทำไมพอเริ่มสวดมนต์แล้ว พอทำเป็นประจำชีวิตไม่ดีเลย ทำไมพอเริ่มปฏิบัติ พอเริ่มเอาจริงเอาจังปัญหาต่างๆมันถามโถมเข้ามาเยอะจัง ทำไมรู้สึกได้ว่าตอนไม่สวดไม่ทำอะไรชีวิตเป็นปรกติสุขดีกว่าตอนเริ่มมาหัดทำเอาจริงเอาจังนี้เสียอีก

    ในประเด็นเหล่านี้นั้นทำให้หลายคนอดคิดไปไม่ได้ว่าเป็นผลมาจากการตัวคาถาบ้าง เป็นผลมาจากการภาวนาบ้างทำให้คิดไปอีกว่าทำผิดวิธีต้องเปลี่ยนคำภาวนาใหม่ก็มี หรือบางคนจิตตกเลิกทำไปเลยก็มาก เพราะประคองกำลังใจไม่ไหวอดโทษพระโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้นี่เอง

    ก็เรียกกันว่าเจอบททดสอบกันมากมายทีเดียว สำหรับตัวบททดสอบทั้งหลายเหล่านี้ พ่ออาจารย์ท่านได้อธิบายไว้ว่า ถ้าเราอยู่เฉยๆไม่ทำอะไรเลย มันก็จะไม่เกิดขึ้นหรอก แต่ถ้าเมื่อใดที่เราคิดจะเริ่มเดินทางในสายบารมี เริ่มฝึกจิตเริ่มสวดมนต์กระทำภาวนาแผ่เมตตาทั้งหลาย เมื่อนั้นบททดสอบต่างๆก็จะเริ่มเกิดขึ้นแก่ตัวเรา

    ไอ้ตัวบททดสอบนั้น บางคนก็จะเข้ามาแบบค่อยเป็นค่อยไป บางคนก็จะมาแบบรุนแรง อุปมาเหมือนกับสายลม ถ้ามันพัดเข้ามาเอื่อยๆเราก็พอมีกำลังจะต้านมันได้ แต่ถ้ามันพัดถาโถมเข้ามาแบบรุนแรงเกินกว่ากำลังของเราแล้ว แน่นอนว่าเราย่อมไม่สามารถต้านมันได้อีกต่อไป

    ตรงจุดนี้มันเป็นบททดสอบบารมีของผู้ปฏิบัติหลายอย่าง ดุจสมัยพระเจ้าผจญมาร พ่ออาจารย์ท่านว่าพญามารนั้นเหาะมาเฝ้าพระพุทธเจ้าทันทีตั้งแต่ทรงม้าออกจากวังเพื่อจะไปผนวช ท่านทูลให้พระพุทธเจ้าของเราเสด็จกลับเข้าวังไม่ต้องออกไป รอเสวยสุข รอเวลาอีกเจ็ดวัน เพื่อที่ทิพยรัตนจักรและสมบัติมหาจักพรรดิ์ทั้งปวงก็จะปรากฏขึ้นแก่พระองค์ นี่เห็นมั๊ยมารมาขวางไว้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำอะไรเลย

    คนที่โดนทดสอบ โดนขัดขวางทั้งหลายให้พึงรู้พึงเข้าใจไว้เถิด ว่าตัวเองนั้นไม่ใช่คนธรรมดาเลย คนธรรมดาที่ไหนเล่าแค่เมื่อปฏิบัติหรือเริ่มต้นกระทำการสร้างบารมีนั้น จะโดนบททดสอบรุนแรงและขัดขวางหนักหน่วงสารพัดเช่นนี้ บางคนโรคภัยเข้ามาบ้าง บ้านแตกครอบครัววุ่นวายบ้าง สารพัดจะบททดสอบจริงๆ

    ทั้งนี้เพราะข้างบนเค้าต้องการดูกำลังใจของเรา เค้ากลัวว่าเราจะหลุดจะรอดจากบ่วงมารไปได้ คนที่เจอบททดสอบหนักๆตั้งแต่เริ่มทั้งหลายให้พึงรู้ตัวไว้เถิดว่า ถ้าผ่านไปให้ได้และกระทำปฏิบัติบูชาทั้งหลายต่อนั้น เค้าจะเป็นเร็วมาก การปฏิบัติของเค้าจะเกิดผลเร็วกว่าผู้อื่นมาก ตรงนี้เพราะบารมีแต่เบื้องอดีตชาติของคนเหล่านี้มีมาก เค้าจึงต้องเผชิญกับบททดสอบที่มากและร้ายแรงขึ้นตามไปด้วย

    เมื่อโดนทดสอบ บางคนอาจโดนเรื่องแรงๆถาโถมเข้ามาถี่ๆเช่นกันเพราะข้างบนเค้าต้องการให้จิตเราไปกังวล ไปพยาบาท ไปวิตกอยู่กับเรื่องบททดสอบทั้งหลายเหล่านั้น ให้เราลืมเลือนการภาวนา ให้เราลืมการสวดมนต์การปฏิบัติบูชาเพื่อเข้าหาธรรมทั้งหลาย เรียกว่ายอมให้เราผ่านไปไม่ได้ต้องตัดกำลังใจกันเสียเดี๋ยวนั้นทีเดียว

    ทีนี้คนเราเมื่อยังไม่มั่นคง ศรัทธาในพระรัตนตรัยไม่เต็มที่ เมื่อความกังวล พยาบาท วิตกทั้งหลายเกิดขึ้นแก่จิตเราแล้ว จิตของเราก็จะเศร้าหมอง กลายเป็นคนกลัวพระรัตนตรัย กลัวการสวดมนต์ กลัวการภาวนา กลัวการปกิบัติบูชาทั้งหลายไป เรียกว่าจิตตก กำลังใจเสื่อม ต่อไปการกระทำก็จะเสื่อมถอยออกไปจากเส้นทางการสร้างบารมี

    เพราะเช่นนั้นสำหรับผู้ปฏิบัติทั้งหลาย ให้พึงจำเอาไว้ว่าการรักษากำลังใจ การเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยนั้นสำคัญที่สุด ทำใจเราให้มั่นคงอยู่กับพุทธัง ธัมมัง สังฆังนี้ ที่พึ่งอื่นนอกจากรัตนะทั้งสามเหล่านี้ล้วนไม่มี เมื่อกำลังใจของเรามั่นคงดีแล้ว ตอนนี้ต่อให้กระแสลมจะพัดมาอย่างไร จะมีกำลังแรงกล้า จะใช้อำนาจใดๆมาทำให้จิตเราเศร้าหมองพะว้าพะวงจนละเลยการปฏิบัตินั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้เพราะจิตเราตั้งมั่นอยู่กับพระรัตนตรัยดีแล้ว เราพร้อมที่จะสู้และเผชิญกับทุกสิ่งนั่นเอง

    สำหรับผู้ปฏิบัติแล้ว บททดสอบทั้งหลายย่อมเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว แต่สำหรับคนที่เจอหนักๆ เจอแรงๆกันตั้งแต่เริ่มทั้งหลาย ท่านว่านั่นแหละ ของเก่ามันสุกงอมเต็มที่แล้ว ให้ทำต่อไปอย่าได้ทิ้ง อย่าเลิก อย่าละเลย และอย่าเข้าใจผิดใดๆ จงผ่านทุกสิ่งไปให้ได้ด้วยความเพียรของตนเอง


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    วันนี้ใครจะฝากคำถามหรือปัญหาอะไรก็ PM ทิ้งไว้ได้เลยนะครับ ของเก่าส่งคำตอบไปครบแล้วนะ;)
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ธรณีประตู
    ความเชื่อเกี่ยวกับการเหยียบธรณีประตูนั้น เชื่อว่าหลายคนบางครั้งเวลาเข้าวัดหรือไปในวังโบราณ ปราสาทหรือโบราณสถาน ก็ได้ละเลย เดินเหยียบบ้าง บางครั้งรู้ก็ไม่ใส่ใจบ้าง วันนี้ก็เลยนำสาระความรู้เกี่ยวกับความเชื่อของธรณีประตูมาให้อ่านกัน ว่าสำคัญอย่างไร มีความเชื่อความเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงห้ามเหยียบ

    เหตุใดจึงห้ามเหยียบธรณีประตู เคยได้ยินคนโบราณบอกว่า เวลาเข้าวัด เข้าโบสถ์หรือเข้าบ้าน ห้ามเหยียบธรณีประตู ทำไมจึงห้ามเช่นนั้น คนสมัยก่อนห้ามมิให้เหยียบธรณีประตู เพราะที่ธรณีประตูนั้นเป็นที่สถิตของพระภูมิประตู (พระภูมิมีอยู่ ๙ องค์ เช่น พระภูมิบ้านเรือน พระภูมิประตูและหัวกระได พระภูมินา เป็นต้น) การเหยียบธรณีประตูจึงเท่ากับเป็นการลบหลู่พระภูมิประตูนั่นเอง (ในบางท้องถิ่นเชื่อว่าธรณีประตูมี “ผีธรณี” รักษาอยู่)

    ใน “สี่แผ่นดิน” อมตนิยายของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็กล่าวถึงความเชื่อเรื่องนี้ไว้ในตอนที่แม่พาพลอยเข้าวังเป็นครั้งแรกว่า ที่ประตูวังชั้นในมีหญิงแก่บ้างสาวบ้าง เรียกว่า โขลน ทำหน้าที่เฝ้าประตูวัง ใครที่ก้าวข้ามไม่พ้นเผลอเหยียบธรณีประตูจะต้องถูกตีหรือต้องกราบขอขมาธรณีประตูนั้น ม.ร.ว. คึกฤทธิ์บรรยายธรณีประตูที่ประตูวังชั้นในไว้ว่า “ธรณีประตูนั้นทำด้วยไม้เหลี่ยมค่อนข้างใหญ่... มีรอยคนมาปิดทองไว้บ้างเป็นระยะ ๆ และใกล้ ๆ ขอบประตูนั้นก็มีธูปปักอยู่ที่ริมขอบประตู” นี่แสดงว่าเรื่องธรณีประตูเป็นความเชื่อที่ฝังแน่นอยู่ในหมู่คนไทยมาช้านาน ใช่แต่คนไทยเท่านั้น ชาวโรมันก็เชื่อว่า ที่ตรงธรณีประตูเรือนทุกเรือนมีผีหรือเทวดาผู้ชายเฝ้าอยู่ ชื่อว่า เยนุส (Janus)

    คนไทยมีความเชื่อและข้อห้ามมากมาย ข้อห้ามบางอย่างก็สร้างความสงสัยให้แก่เราไม่น้อย คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมคนเฒ่าคนแก่จึงไม่ให้เหยียบธรณีประตูวัดหรือบ้าน วันนี้เรารวบรวมเหตุผลดี ๆมาฝาก ดังนี้
    1. ธรณีประตูเป็นจุดที่มีนายทวารบาลหรือเทพยดาที่คอยดูแลปกปักรักษา ดังนั้นต้องให้ความเคารพไม่เหยียบย่ำ
    2. เหตุผลทางธรรม เป็นอุบายสอนใจ การข้ามผ่านธรณีประตูเปรียบได้กับการข้ามพ้นโลก และอำนาจกิเลส จึงเป็นเครื่องสอนใจให้ควบคุมตนเองให้อยู่เหนือกิเลส
    3. ธรณีประตูมีหน้าที่ช่วยค้ำยันวงกบไม่ให้ยุบตัว ดังนั้นหากมีคนเหยียบหรือเตะธรณีประตูบ่อยๆ ก็อาจจะทำให้ประตูโยกคลอน หรือทำให้พื้นไม้โค้งงอจนเป็นแอ่ง เสี่ยงต่อการถูกบุกรุกโดยสัตว์เลื้อยคลานต่าง ๆ จึงเป็นกุศโลบายคนโบราณที่ห้ามเหยียบธรณีประตู
    4. เป็นกุศโลบายให้รักษาสติ เนื่องจากบางที่ธรณีประตูไม่เท่ากัน มีโอกาสมากที่จะสะดุดธรณีประตู ทำให้ได้รับบาดเจ็บได้
    5. ธรณีประตูจะมีการลงรักปิดทอง หรือทาชาดไว้ให้สวยงาม การเหยียบธรณีประตูจะทำให้รักทองหรือชาดที่ทาไว้ชำรุด-เสียหายได้
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พูดคุย

    อรุณสวัสดิ์นะครับ เห็นถามมาน่าสนใจก็เลยหาคำตอบมาให้ สำหรับเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ในวันพระ ซึ่งเชื่อวว่าหลายๆคนยังละเลยและอาจจะไม่รู้ก็ได้ สำหรับคนที่เล่นของทางเสน่ห์ทั้งหลาย ควรรู้เรื่องนี้ไว้เป็นอันดับแรกๆเลยนะครับ


    ห้ามมีเพศสัมพันธ์ในวันพระ - คนโบราณท่านห้ามมีเพศสัมพันธ์ในวันพระ

    โบราณกล่าวห้ามเอาไว้ว่า ห้ามมีเพศสัมพันธ์กันในวันพระ เพราะการมีเพศสัมพันธ์กันในวันพระนั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่อัปรีย์จัญไร ไม่เป็นสิริมงคลต่อชีวิตและครอบครัว

    วันพระเป็นวันมงคล ควรหยุดการกระทำในเรื่องคาวโลกีย์ และเรื่องไม่ดีไม่งามทั้งหลาย อีกอย่างหนึ่งวันพระนี้ ถือว่าเป็นวันปล่อยผี ผีวิญญาณทั้งหลายจะออกเที่ยวไปในที่ต่างๆ เมื่อผ่านมาเห็นการร่วมเพศเข้า ก็จะโกรธไม่พอใจ พากันสาปแช่งให้ฉิบหายวายป่วงต่างๆ นานา


    ความมุ่งหมายที่แท้จริง (ห้ามมีเพศสัมพันธ์ในวันพระ)


    อีกอย่างหนึ่ง วันนี้ถือว่าเป็นวันหยุดงานทั้งหมด เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานแล้ว เราควรจะปฏิบัติตาม สืบทอดเพื่อให้เป็นตัวอย่างต่อคนรุ่นหลัง ได้ช่วยสืบทอดสิ่งที่ดีงามต่อไป

    ได้มีโอกาสไปทำบุญที่วัดบ้าง ไม่ใช่วันๆ เอาแต่บ้ากิน กาม เกียรติ ควรจะได้พักจากชีวิตหยาบๆ เข้าสู่ชีวิตละเอียด เข้าไปทำบุญ รักษาศีล เจริญภาวนากันบ้างตามสมควร
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พระองค์นี้พี่ที่บูชาเขาฝากเลี่ยม เลยทิ้งไว้กับช่างเลี่ยมเขา ตอนเช้าเขารีบขี่มอไซด์มาคืน เค้าถามว่าพระอะไร พร้อมกับบอกเราว่าเทวดาองค์นี้หล่อดีนะ พี่ฝันเห็นนึกว่าเห็นฮาเร็ม เราเลยบอกว่าก็ขุนแผนพ่อฟ้าฟื้นจะไม่หล่อได้ยังไง ที่ได้ฟังมาเชื่อได้เลยว่ามีญาณพ่อครูฟ้าฟื้นอยู่ทุกองค์แน่นอน องค์ท่านลงมาแฝงเต็มกำลังเลย บูชาดีๆ

    SAM_5301.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ทนงศักดิ์ ET 0633 6295 5 TH
     

แชร์หน้านี้

Loading...