รู้จัก “เต่า” ก่อนปล่อยไปแล้วได้บาป

.
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รู้จัก “เต่า” ก่อนปล่อยไปแล้วได้บาป</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=40><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>19 มิถุนายน 2555 09:56 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="http://platform.twitter.com/widgets.js" type=text/javascript></SCRIPT>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
-http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9550000074922-

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>การปล่อยเต่าโดยไม่รู้จักชนิดและพฤติกรรมการอยู่อาศัย นอกจากไม่ได้บุญแล้วยังได้บาปด้วย </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เคยหยุดคิดกันก่อนหรือไม่ว่าปล่อย “เต่า” ไปแล้วจะได้บุญหรือบาป หลายคนไม่เคยทราบด้วยซ้ำว่าสัตว์สี่ขาหลังขามุงกระเบื้องนี้ มีหลากหลายสายพันธุ์ และมีถิ่นอาศัยจำเพาะ บางชนิดอยู่ในน้ำไม่ได้ บางชนิดเอาชีวิตไม่รอดบนบก เฉพาะเมืองไทยก็มีเต่ามากถึง 30 ชนิด และนอกจากการปล่อยไม่ถูกที่ถูกทางแล้ว ถิ่นอาศัยของเต่าทั้งบนบก ในน้ำ ภูเขา ทะเล ก็ลดลงจนทำให้สัตว์อายุที่มีวิวัฒนาการมานานกว่า 220 ล้านปีใกล้จะสูญพันธุ์

รศ.ดร.กำธร ธีรคุปต์ หัวหน้าภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ศึกษาเต่าไทยมากว่า 30 ปี บอกแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ว่า เต่ามีวิวัฒนาการนานกว่า 220 ล้านปี อาจจะสูญพันธุ์ในยุคปัจจุบันนี้ เพราะแหล่งที่อยู่อาศัยทั้งในป่า น้ำ ทะเล ถูก “มนุษย์” ทำลายจนเต่าแทบไม่มีที่อยู่ และยังมีความเชื่อผิดๆ ทั้งเรื่องการกินเต่าแล้วอายุยืน หรือการปล่อยเต่าโดยไม่รู้จักประเภท พฤติกรรมและที่อยู่อาศัยของเต่า ล้วนเป็นปัจจัยเสริมให้เต่าสูญพันธุ์เร็วขึ้น

จากการศึกษาของทั้งนักศึกษา นักวิจัยและอาจารย์ของภาควิชาชีววิทยา จุฬาฯ พบว่า มีเต่าไทยอยู่กว่า 30 ชนิด ซึ่งมีทั้งเต่าบก เต่าน้ำจืด เต่าทะเล และตะพาบ โดยมีประมาณ 20 ชนิดที่สามารถเก็บข้อมูลวิจัยทั้งเรื่องลักษณะ ที่อยู่ การกินอาหาร การผสมพันธุ์ การใช้ชีวิต ส่วนอีกประมาณ 10 ชนิดนั้น รศ.ดร.กำธร กล่าวว่า มีเพียงข้อมูลการสำรวจซึ่งเป็นข้อมูลที่ระบุเพียงว่า “มี” หรือ “ไม่มี” เต่าเหล่านั้น โดยการออกสำรวจเพื่อเก็บข้อมูลวิจัยของนักชีววิทยาก็ไม่พบเต่าเหล่านั้น

ทั้งนี้ เพื่อให้คนไทยได้รู้จักเต่าและสะท้อนสภาพวิกฤตของเต่าไทย ทางองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) จึงร่วมกับ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดนิทรรศการ “เต่า” (Turtles) ณ จตุรัสวิทยาศาสตร์ ชั้น 4 จามจุรีสแควร์ ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือน ส.ค.55 และเพื่อร่วมฉลองปีเต่าสากล 2554 ที่กำหนดโดยองค์กรนานาชาติในการอนุรักษ์สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ (Partners in Amphibian and Reptile Conservation: PARC)

ภายในนิทรรศการนำเสนอร่างสตัฟฟ์ของเต่าที่เก็บรวบรวมโดยนักชีววิทยา จุฬาฯ และปกติจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์เต่า คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ โดย รศ.ดร.กำธร กล่าวว่า ตัวอย่างเต่าที่นำมาแสดงทั้งหมดนั้นได้จากเต่าที่ตายแล้วทั้งหมด และไม่ได้นำเต่าที่มีชีวิตมาทำสตัฟฟ์ และโดยหลักของการอนุรักษ์ นักชีววิทยาที่เข้าไปเก็บตัวอย่างสิ่งมีชีวิตในแหล่งธรรมชาติ เมื่อพบและเก็บรายละเอียดแล้วก็จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ

“ความจริงเราจะจัดนิทรรศการนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ติดปัญหาเรื่องน้ำท่วมเสียก่อน จึงต้องเลื่อนออกมา” รศ.ดร.กำธร นักชีววิทยาสัตว์เลื้อยคลานผู้สนใจศึกษาเต่าเป็นพิเศษเพราะเลี้ยงเต่ามาตั้งแต่เด็ก กล่าว

สำหรับไฮไลต์ของนิทรรศการนั้น ดร.พิชัย สนแจ้ง ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า นิทรรศการที่จัดขึ้นนี้พยายามจะตอบคำถามของเด็กๆ เช่น เต่าวิ่งออกจากกระดองได้ไหม ขี้เต่าเหม็นไหม เต่าตัวผู้กับตัวเมียต่างกันยังไง เป็นต้น และอยากจะเน้นเรื่องการอนุรักษ์ เพราะเป็นสัตว์ที่อยู่คู่โลกมานาน แต่มีการปล่อยตามวัดแล้วตายกันไปเยอะ นอกจากนี้ อยากให้ทางจุฬาฯ มาให้พื้นที่ของจตุรัสวิทยาศาสตร์ให้มาก และอยากแสดงจุดแข็งในเรื่องงานวิจัยด้วย

ศ.ดร.สุพจน์ หารหนองบัว คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตัวอย่างเต่าที่นำมาจัดนิทรรศการในครั้งนี้เป็นเพียง 20% ของตัวอย่างเต่าทั้งหมดในพิพิธภัณฑ์เต่า และคิดเป็นเพียง 1% ของนิทรรศการตัวอย่างสิ่งมีชีวิตในพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งนอกจากเต่าแล้ว คณะยังมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องหอย กุ้ง ปู ซึ่งคาดว่าจะมีความร่วมมือกับ อพวช.ในการจัดนิทรรศการครั้งต่อไป

“ตอนนี้จะเริ่มต้นที่เรื่องเต่าก่อน เพราะเต่าเป็นวิกฤตระดับหนึ่งที่ถูกคุกคาม และภัยที่ร้ายแรงที่สุดของเต่าคือ “มนุษย์” ที่เอาเขาไปกิน เชื่อว่า เป็นยาอายุวัฒนะ หรือความเชื่อทางศาสนาในการเอาไปปล่อยอย่างไม่เหมาะสม แล้วทำให้เต่าตาย ซึ่งเราจัดนิทรรศการเพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของเต่าที่มีต่อระบบนิเวศ” ศ.ดร.สุพจน์ กล่าว

สำหรับนิทรรศการเต่านี้แบ่งเนื้อหาเป็น 3 ส่วน คือ ชีววิทยาเต่า ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับสรีระวิทยาเต่า เพื่อมห้ผู้ชมเข้าใจเกี่ยวกับร่างกายและพฤติกรรมในการดำรงชีวิตของเต่า เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเต่า รวมถึงวิถีชีวิตของคนกับเต่า ความเชื่อเกี่ยวกับเต่า งานศิลปะจากเต่า และ ความสำคัญและการอนุรักษ์ โดยนำเสนอให้เห็นสาเหตุที่เต่าลดจำนวน บทบาทของเต่าในระบบนิเวศ ปล่อยเต่าให้ได้บุญ ความสำคัญของการอนุรักษ์เต่า

ผู้สนใจนิทรรศการเต่าเข้าชมนิทรรศการไดตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือน ส.ค.55 ณ จตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช.ชั้น 4 อาคารจามจุรีสแควร์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0-2160-5356 หรือดูรายละเอียดที่ www.nsm.or.th

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ศ.ดร.กำธร ธีรคุปต์ ชี้ตัวอย่างลูกตะพาบม่านลายไทย โดยเมื่อโตเต็มวัยอาจมีกระดองหลังยาวกว่า 1 เมตร และอาจใหญ่ที่สุดในโลก แต่ปัจจุบันอยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์และหายากมาก </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>วัชระ สงวนสมบัติ ผู้เชี่ยวชาญนก อพวช. ชี้ชวนดูโครงสร้างเต่า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นอกจากนิทรรศการเต่าแล้วยังมีมุม "โอริกามิ" พับกระดาษเป็นรูปเต่า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>(ซ้ายไปขวา) รศ.ดร.กำธร ธีรคุปต์ ดร.พิชัย สนแจ้ง และ ศ.ดร.สุพจน์ หารหนองบัว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นิทรรศการเต่า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นิทรรศการไขคำตอบ เต่าอยู่นอกกระดองเต่าได้หรือไม่</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ศิลปะที่มีแรงบันดาลใจจากเต่า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ไข่เต่า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เต่าแพนเค้ก ตัวแบนๆ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กระดองงามๆ ของเต่าหกดำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เต่าตนุ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>โครงร่างของตะพาบลายม่านไทยที่ใกล้จะสูญพันธุ์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>



.

 

เมื่อครู่ไปคอมเม้นไว้ เรื่องเต่าเหมือนกัน มูลนิธิอะไรลืมไปแล้ว
นี่มาอีกแล้ว สถาบัน.......เป็นวิชาการ....
เรื่องสัตว์ ต้องมีกฏหมายคุ้มครองสัตว์ ต้องปฏิบัติได้จริง ต้องกวาดล้างพวกจับสัตว์มาให้ผู้ใจบุญทำบุญ ส่วนมันทำบาปได้เงิน ล้นถนน ล้นวัดไปหมด...
เต่าทะเล ถ้าไม่ได้กองทัพเรือช่วยไว้ ป่านนี้ไทยสูญพันธ์ไปแล้ว พลเรือนป่าไม้ เอาไม่อยู่
.....ปล่อยสัตว์แล้วมันตาย เป็นบาปกรรมที่ไม่เจตนา ได้บาปเล็กๆติดตัวไป....
...ทางวิชาการ ถ้าจะช่วย ต้องช่วยผลักดันกฏหมาย ช่วยขจัดแก็งค้าหมา ค้าเต่า ค้านก ค้าปลาสีฯลฯมันมีขบวนการหากินของมันอยู่ รณณรงค์เรื่องขจัดภัยให้สัตว์แบบยั่งยืนดีกว่ามาทำบุญเอาหน้าภาวนากันตาย.....ขอโทษถ้าแรงไป

 

นานาจิตตัง.....สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

 

เป็นบทความที่ดีมากเลยค่ะ ชาวพุทธหลายคนที่ชอบทำบุญโดยการปล่อยสัตว์ เช่นนก ปลา เต่า จะำได้มีความรู้ว่า สัตว์ที่เราปล่อยไปนั้น เขาจะรอดหรือไม่ ไม่งั้นแทนที่จะได้บุญ กลับได้บาปแทนที่เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์





งานพาร์ทไทม์ หางานพาร์ทไทม์ทำที่บ้าน

 

ได้อ่านแล้วก็นึกถึง " พุทธมณฑล " บริเวณที่เป็นคลองหรือแอ่งน้ำ จะเห็นเต่า ว่ายน้ำด้วยอาการเหนื่อยล้า เหมือนกับว่าจะหาทางขึ้นฝั่งแต่ขึ้นไม่ได้ อาจเป็นเพราะคันฝั่งเป็นคันกำแพงปูน ที่เขาไม่สามารถปีนข้ามได้

กำลังพยายามหาทางช่วยอยู่ ทั้งการรณรงค์ว่าการปล่อยเต่าไม่ใช่ปล่อยในน้ำ ในคลอง และหาทางช่วยเต่าที่ต้องจมผุดจมว่ายอยู่ในคลอง โดยเฉพาะคลองใหญ่โดยรอบพุทธมณฑล

 

เราซื้อจากการถูกฆ่าแล้วนำไปปล่อยหลังจากปล่อยก็เหมือนปล่อยให้อยู่รอดตามธรรมชาติควรปล่อยให้ถูกที่หลังจากนั้นเต่าจะโดนจับอีกหรือไม่ก็ตามนั้นครับ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

พรสเต็น

 

ขอบคุณที่เผยแพร่ข้อมูลดีๆ
ผมเคยอ่านเจอข้อมูลแบบนี้นานแล้ว
แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบ

 

อนุโมทนาบุญกับผู้โพสด้วยนะ
ที่นำสาระดีๆที่หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงมาฝาก

 

รินจังนอกจากจะรักเสือ สิงห์โตแล้ว อิอิยังรักช้างด้วย

 

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับเรื่องราวดีดี ที่ผ่านมาไม่เคยรุ้มาก่อนเลย

ต่อไปจะได้เลือกในการทำบุญที่ถูกวิธีครับ

 

อยากจะเลี้ยงเต่า เพราะเขาน่ารัก
แต่คงไม่มีวันทำ เพราะเหมือนกับเอาเขามากักกัน เขาคงไม่มีความสุข

 

เล่าให้ฟังค่ะ
ประสบการณ์จริงของข้าพเจ้าผู้เกือบจะปล่อยเต่าแล้วได้บาป

เรื่องผ่านมาเกิน10ปี ขออภัยที่ข้าพเจ้้าจำอะไรไม่ค่อยจะได้ ยังไม่แก่แค่เกือบๆจะแก่ แต่คล้ายจะหลงลืมอะไรง่ายเสียจริงๆ ถ้าข้อความใดคลาดเคลื่อนไปบ้างก็เป็นเพราะข้าพเจ้าจำไม่ได้เองนะคะ ปีนั้นจำไม่ได้แน่ว่ามีเหตุเกี่ยวกับเรื่องอะไร แต่มีผู้แนะนำให้ทำบุญและปล่อยเต่า ข้าพเจ้าไปตลาดซื้อเต่า2กะละมังใหญ่น่าจะประมาณ30-40 ตัว
ใส่กระโปรงท้ายรถไป แง้มฝากระโปรงไว้เดี๋ยวเต่าหายใจไม่ออก ระหว่างทางคุยกับสามีว่าจะไปปล่อยที่แม่น้ำสะแกกรังที่แพปลาวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
วันนั้้นไปถึงวัดก็แวะไปกราบสมเด็จองค์ปฐม ที่วิหารสมเด็จองค์ปฐมก่อน กราบเสร็จถอยออกมาพบหลวงพี่พระอาจารย์พอก้้มลงกราบท่าน ท่านเมตตาเต่าและเมตตาข้าพเจ้าทั้้งๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลยว่าจะมาปล่อยเต่า ท่านกล่าวทักขึ้นมาว่าเต่าไม่ใช่สัตว์ที่จะอาศัยอยู่ในแม่น้ำที่น้ำไหลแรงอย่างนั้้นเขาหากินไม่ได้ เต่าต้องอาศัยอยู่ตามหนองบึงมีที่ให้เขาได้หาอาหารกินได้มีที่ให้พักด้วย ข้าพเจ้าจึงเรียนปรึกษาท่านว่าจะปล่อยที่ไหนดี ท่านอนุญาตให้ปล่อยที่บึงน้ำข้างวิหารสมเด็จองค์ปฐมนั้้นแหละ ต่อมาอีกหลายปีมีการบูรณะบริเวณนั้้นใหม่ให้สวยงามร่มรื่น มีการขุดลอกบึงนั้นด้วยท่านก็ยังเมตตาให้เอาเต่าขึ้นมาก่อน เมื่อเสร็จแล้วก็ปล่อยให้เขาอยู่อย่างมีความสุขที่เดิมต่อไป พระอาจารย์ท่านเมตตาจริงๆ หาไม่แล้วข้าพเจ้านี้แหละจะเป็นผู้ปล่อยเต่าได้้บาปไปแล้ว ด้วยความไม่รู้้ธรรมชาติของเต่าและไม่ศึกษาให้ดีก่อนจะนำเต่าไปปล่อย

อานิสงค์ของการปล่อยเต่า และอานิสงค์ของการบอกเล่าเป็นธรรมทานนี้มีประการใด ข้าพเจ้าขออุทิศออกไปทั่วโลก ทั่วจักรวาล สาธุ สาธุ สาธุ