'รุ่ง สุริยา'นักร้องลูกทุ่งชื่อดังแนะเรียน'สมาธิ'เป็น'กำลังใจ'อันเลิศในสังคมยุคนี้

ในห้อง 'พุทธศาสนากับคนดัง' ตั้งกระทู้โดย montrik, 21 พฤษภาคม 2021.

  1. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    'รุ่ง สุริยา'นักร้องลูกทุ่งชื่อดังแนะเรียน'สมาธิ'เป็น'กำลังใจ'อันเลิศในสังคมยุคนี้
    574493.jpg
    วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 19.06 น.

    "รุ่ง สุริยา" นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เจ้าของบทเพลง "ติงนัง" และ "วอนพ่อตากสิน" ชีวิตพลิกในทางที่ดี หลังพบ "สมาธิ" แนะสังคมยุคนี้ เร่งเรียน "ครูสมาธิ" เพื่อสร้างกำลังใจให้กับตนเอง

    "แนวหน้า ออนไลน์" มีโอกาสพบกับ "รุ่ง สุริยา" เจ้าของฉายา "สุภาพบุรุษลูกทุ่ง" ซึ่งเป็นเจ้าของบทเพลง “ติงนัง” และท่าชูนิ้วโป้งสองข้างสร้างความฮือฮามาแล้วในปี 2541 ขณะที่ผลงานอัลบั้มชุดแรก คือ “วอนพ่อตากสิน” ในปี 2540 วันนี้สุภาพบุรุษลูกทุ่งยอมรับกับ “แนวหน้า ออนไลน์” ว่า ชีวิตพลิกผันได้ทางที่ดีขึ้น หลังจากได้มาเรียนหลักสูตร “ครูสมาธิ” ของสถาบันพลังจิตตานุภาพ ” (Willpower Institute) ของท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระญาณวชิโรดม (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) และ ยังได้เป็นอาจารย์สอนครูสมาธิ รวมทั้งรับหมวกที่สำคัญอีกหนึ่งใบคือ เป็นประชาสัมพันธ์ให้กับวัดศรีรัตนธรรมาราม จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสาขาที่ 143 ของสถาบันพลังจิตตานุภาพ อ่านเรื่องราวของเขากับ “สมาธิ” ได้ดังต่อไปนี้

    -ทำยังไงคะพี่รุ่งถึงก้าวเข้ามาเรียนหลักสูตรครูสมาธิได้?
    ที่ได้มารู้จักหลักสูตรครูสมาธิของ “สถาบันพลังจิตตานุภาพ” (Willpower Institute) เกิดจากว่า อันนี้ย้อนไปนิดนึง ไปคอนเสิร์ตที่จังหวัดสุโขทัย แล้วพอไปคอนเสิร์ตแถวนั้น เดิมทีผมเป็นเด็กวัดเจดีย์ยอดทอง ที่จังหวัดพิษณุโลก ก็จะมากราบพระที่เจดีย์ยอดทอง ทีนี้พอเข้าไปที่วัดมีป้ายอยู่ มีรูปหลวงพ่อฯอยู่ แล้วก็เขียนสถาบันพลังจิตตานุภาพ ก็แปลก! วันนั้นผมได้มีโอกาสคือ ปกติแล้วไปคอนเสิร์ตก็จะกลับเลย มีโอกาสไปกราบ เสร็จแล้วก็ไปถามนักศึกษา วันนั้นเขามีเรียนกันพอดี เขาก็บอกว่า คุณรุ่งคือ “สถาบันพลังจิตตานุภาพ” เขาสอนเกี่ยวกับ “สมาธิ”

    ผมก็ยังเฉยๆอยู่น่ะ แต่มีลูกศิษย์มาบอกว่า พระอาจารย์หลวงพ่อฯ เป็นศิษย์หลวงปู่มั่น โอ้โห! ขนลุกซู่เลย น่ะครับ เพราะว่า เราเคยศึกษาประวัติของหลวงปู่มั่นด้วย แล้วก็ครูบาอาจารย์ฯไม่ว่าจะเป็นหลวงตามหาบัว หลวงพ่อชา ทีนี้พอบอกหลวงปู่มั่น เราก็โอ้โห! ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น อย่างเงี้ย อยากไปกราบ พอกลับแล้วอยากไปกราบ มันเหมือน ไม่รู้เป็นไร อยากจะไปกราบหลวงพ่อวิริยังค์

    ผมไม่เคยรู้จักหลวงพ่อฯเลย แล้ววันหนึ่งผมก็ได้มากราบ วันนั้นผมยังจำได้ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2560 เสร็จแล้วพอกราบเสร็จ ก็นี่ล่ะครับ เขามีรับสมัครนักศึกษาครูสมาธิ ก็มีรุ่นพี่ ก็เป็นสะพานบุญว่า ต้องไปสมัครอย่างนี้ อย่างนี้น่ะ ตอนแรกก็มี ยังแอนตี้อยู่ในใจน่ะครับว่า ตอนนี้มันมียูทูบ มีครูบาอาจารย์พูดเกี่ยวกับสมาธิเยอะแยะ หมดเลย เราไปศึกษาเองก็ได้ คือ เขาเรียกไม่ได้เคลือบแคลง แต่เราศึกษาเองดีกว่า ก็ไม่รู้ยังไง ก็มาใส่บาตร ครั้งสองครั้ง สามครั้ง เราก็เอ้อ ลองดูก็ได้ มาสมัครครับ แล้วก็มาเรียนรุ่น 41 มาใส่บาตรที่วัดศรีรัตนธรรมราม สมุทรปราการ อยู่รังสิตแล้วก็ขับรถมาที่บางพลี ตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่งเลย (หัวเราะ) ตอนนั้นถ่ายรายการศึกวันดวลเพลงด้วย เสร็จแล้วพอได้มากราบเราก็รู้สึกว่า ได้มาเจอหลวงพ่อฯด้วย ก็ต้องบอกว่า เราน่าจะมีบุญอยู่บ้าง อันนี้คือ บอกกับตัวเองน่ะ ได้มีโอกาสมากราบหลวงพ่อฯ

    เสร็จแล้วพอเราได้มาเรียนหลักสูตรครูสมาธิรุ่น 41 แต่ว่าเวลาเรียนของเรา ในการจัดสรรเวลา ยังไม่ได้ ก็เลยไม่จบ ก็สามารถมาต่อรุ่น 42 ครูสมาธิรุ่น 42 พอมาเรียนแล้วก็เหมือนว่า พลิกเลยน่ะ พลิกเลย เพราะว่าเราเคยผ่านชีวิตที่มัน เขาเรียกว่าอะไรล่ะ ใช้ชีวิตแบบประมาท อดีตต่างๆที่เราเคยเที่ยว เคยดื่ม เคยกิน เราพลิกหมดเลย หยุดดื่มเป็นเวลา 10 ปีแล้ว แต่ว่าเรียนสมาธินี่ได้ 3 ปี ก็คือ พอได้มาเรียนก็ได้รู้หลัก อ๋อ! สมาธิ คืออะไร ทำสมาธิเพื่ออะไร จุดประสงค์ของการทำสมาธิก็เพื่อ “สะสมพลังจิต” มีอะไรเล่าที่ติดตัวเราไป จิตเดียวเท่านั้นข้ามภพข้ามชาติไป อะไรที่จะสะสมไว้ ก็คือ “อริยทรัพย์” บุญกับบาป เราจะทำอะไร

    ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ก็คือ มันจะสอน สอนเราไปในตัว แล้วทำให้เรา “ปิติ” ซาบซึ้ง ที่ได้กราบพระอาจารย์หลวงพ่อฯ แล้วพอเรามาเรียน เรียนแล้วก็นำไปปฏิบัติด้วย เพราะว่าตอนเรียนช่วงที่เขาไปทำการบ้านน่ะครับ ไปปฏิบัติที่บ้าน นั่นก็คือ เดินจงกรม นั่งสมาธิ เรียนนี่คือเป็นหลักการ เป็นปริยัติ เป็นทฤษฎี พระอาจารย์หลวงพ่อฯบอกว่า ต้องให้ครบ 3 อย่าง ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ทั้ง 3 อย่างนี้ให้ครบ เพราะฉะนั้นเราทำตรงนี้แล้วเหมือนว่า ค่อยๆสะสมไปทีละเล็กละน้อย เราจะรู้ของเราเอง ถ้าภาษาพระเรียกว่า เป็นปัจจัตตัง รู้เฉพาะตน แล้วถ้าบอกมันดียังไง เรารู้สึกว่า เราเนี่ย อย่างน้อย “ใจ” มันดีขึ้น

    ใจมันดีขึ้น หมายความว่ายังไง คือ เรารู้ทันใจเรามากขึ้น ทันกิเลสที่มันมาปะทะกับอารมณ์ของเรา เพราะอะไร เพราะว่า หลักสูตรครูสมาธิของพระอาจารย์หลวงพ่อฯ คือ ให้บริกรรม “พุทโธ” ใช่ไหมครับ อันนื้คร่าวๆ อย่างมาเรียนใช้เวลา 6 เดือน คอร์สหนึ่งเนี่ย 6 เดือน จบ เพราะฉะนั้น ในการที่เราจะทำสมาธิแล้วเกิดผล มันใช้ระยะเวลานานน่ะ หลายปี อยู่ที่บุญวาสนาเราด้วย ทีนี้ หลักสูตรของพระอาจารย์หลวงพ่อฯ เรียกว่า ย่นระยะเวลาการเรียนเข้ามา เป็นหลักสูตรเลย เรียกว่า “สมาธิไฮเทค” 6 เดือนจบปุ๊บ สามารถที่จะรู้หมดเลย “สมาธิ” เป็นยังไง “สมาธิ”ต้องไปขั้นไหนๆ จนบรรลุมรรคผล จนสำเร็จ อย่างเนี้ย เพราะฉะนั้น เราจะมีแผนที่ในการเดินตามพระอาจารย์หลวงพ่อฯขึ้นไป
    7328.jpg

    -เท่าที่ฟังแล้ว คุณรุ่งได้รับแรงบันดาลใจจากท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระญาณวชิโรดมใช่ไหมคะ?

    ครับ แน่นอนครับ (เสียงเครือ) พระอาจารย์หลวงพ่อฯ พูดไว้เสมอว่า ลูกศิษย์ที่มาเรียน มาเรียน “สมาธิ” คือ ได้ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ได้ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ใครจะกระโดดเรือก่อนหรือเปล่า อันนั้น ก็อยู่ที่บุญวาสนาเขา มาเรียนตรงนี้ บางคนบอกว่า ไม่มีเวลาเลย มาเรียนคือ จะต้องไปนั่งเรียนอะไรอย่างนี้

    ที่จริงแล้วเรามาเอาหลักการ เราค่อยๆซึมซับไปเรื่อยๆ ค่อยๆรู้ไปเรื่อยๆ ค่อยๆรู้ทีละนิดๆ รู้วาระจิตของเรา แล้วนำไปปฏิบัติด้วย ก็คือ แต่เราต้องไปสู้กับทางโลก บางทีบางคนบอกว่า มาเรียนแล้วต้องหนีโลก เราต้องอยู่กับโลกนี้แหละ เรียนตรงนี้บอก “สมาธิ” ทำได้ทุกเวลา ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน ได้หมดเลย เพราะฉะนั้น คือ ในขณะที่เราไปปฏิบัติ “หน้าที่” หรือ ทำงาน รับผิดชอบงาน อยู่กับครอบครัว อยู่กับสังคม เราใช้ “สมาธิ” ได้หมด ทำให้เรามี “สติ” ตัวนี้ล่ะครับ

    บอกว่ามีอะไรเปลี่ยน ดีขึ้นไหม รวยขึ้นไหม ครูสมาธิทำให้รวย มันไม่ใช่ บุญก็คือบุญ แต่มันทำให้เกิดอะไร จะทำให้ดีขึ้น คือ พอมีสติ เราก็ทำอะไรที่เขาเรียกว่า มีปัญญา พอมีสมาธิ มีสติ ก็เกิดปัญญา ปัญญาในการที่จะพิจารณางานอะไรต่างๆ เรายังอยู่กับคนอยู่ มันก็ดีขึ้น ให้เรารู้จักสำรวมกาย วาจา ใจ แล้วก็ให้มันทันกิเลสมากขึ้น ครับ เนี่ยตรงนี้ ทำก็ง่ายๆมาก ทำง่ายมาก

    -จากจุดที่เรีอ่ยนหลักสูตรครูสมาธิ วันนี้กลายมาเป็นฟันเฟืองเล็กๆในการขับเคลื่อนงานครูสมาธิของพระอาจารย์หลวงพ่อฯ วันนี้คุณรุ่งได้รับหน้าที่อะไรบ้างคะ ?

    ตอนนี้ก็เป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ด้วย ก็อยากจะเชิญชวนทุกท่านน่ะครับ ถ้ามีโอกาสก็สามารถที่จะสมัครเรียน หรือ หารายละเอียดได้ เพราะตอนนี้ “สถาบันพลังจิตตานุภาพ” มีทั้งในประเทศ แล้วก็ต่างประเทศด้วย ใครอยากจะสมัครเรียน ก็มีสาขาอยู่ใกล้ๆบ้านท่าน มีประชาสัมพันธ์นะครับ ก็สามารถที่จะสมัครเรียนกันได้น่ะครับ ก็คือ มีงานอะไรที่เราพอจะช่วยได้ก็ช่วย น่ะครับ พอที่จะมาเป็นสะพานบุญได้ เราก็มาเป็นสะพานบุญ แล้วตัวรุ่งเองก็ได้อบรมเป็น “อาจาริยสา” ก็คือเป็น “อาจารย์” สอนหลักสูตรครูสมาธิ สาขา 143 วัดศรีรัตนธรรมารามนี่ล่ะครับ เป็นอาจาริยสารุ่นที่ 21 ครับผม

    เพราะฉะนั้น เมื่อผู้ฟัง ฟังพี่รุ่งแล้ว ก็ได้รับแรงบันดาลใจ อยากจะฝากทิ้งท้ายให้กับคนในสังคมบ้างไหมคะ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคภัยไข้เจ็บ แล้วก็พิษทางเศรษฐกิจที่เข้ามา?

    ก็คือ ให้เราไม่ประมาท ให้เราตั้งสติ แล้วจะมีสติตรงไหนล่ะ ก็มาทำ “สมาธิ” เสริมกำลังใจเข้าไป ให้มีพลังจิตที่จะสู้กับ “กิเลส” อะไรต่างๆ ครับ พอเราสามารถที่จะทำให้ใจเรา คือว่า อยู่กับความจริงอย่างมี “สติ” แล้วก็มี “ปัญญา” ในการพิจารณาปัญหาต่างๆมันก็จะเบาลง อาจจะพอไปเจอจริงๆ ขนาดตัวเองปฏิบัติน่ะ แต่พอเวลาไปเจอปัญหาอะไรมา มันก็ยังว่า โอ้โห! ปะทะตลอด แต่ว่า มันสามารถที่จะมีตัวกรอง กรองอารมณ์ ไม่ให้โกรธ ไม่ให้หลง ไม่ให้เกลียด ให้มี “สติ” อยู่ตลอดเวลา ก็จะช่วยได้ในการดำเนินชีวิต ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนน่ะครับ ให้ผ่านวิกฤต แล้วก็ใช้ “สมาธิ” ในการที่จะทำให้เรามี “สติ” ที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ครับ ตรงนี้แหละครับ ไม่เห็นทุกข์ไม่เห็นธรรม เมื่อเห็นธรรมแล้ว ก็อยากจะเป็นสะพานบุญบอกทุกๆคนน่ะครับ ถ้ามีเวลามาเรียน “สมาธิ” กันครับ

    ขอขอบคุณ
    https://www.naewna.com/likesara/574493

     

แชร์หน้านี้

Loading...