ภัยพิบัติทั่วไทย

นี่ก็เป็นภัยพิบัติทางสังคัง เอ๊ยย..สังคม ที่กำเริบเสิบสานขึ้นทุกวัน ภัยแบบนี้ใครจะช่วยได้

ขนาดครอบครัวที่เป็นผู้ผลิตทายาท ยังทำอะไรไม่ได้ โรงเรียนซึ่งเป็นสถานที่แห่งที่สอง ที่ได้ชื่อว่ารองรับคนเหล่านี้ต่อจากครอบครัว ก็แบ๊ะๆๆ เช่นกัน

ถ้าถามว่า แล้วไง เขาจะมั่ว จะฉาว จะเน่า จะเหม็น ก็ตัวของเขา ไม่เกี่ยวกะใคร งั้นก่อนอ่านข่าวข้างล่าง จะเล่าเรื่องจริงสักเรื่อง ที่มันเป็นพิบัติภัยของจริง ซึ่งทุกคนมีโอกาสเจอะเจอได้ง่ายในชีวิตประจำวัน ไม่แพ้ภัยธรรมชาติต่างๆ นาๆ

เมื่อวันที่ 27 พย. 55 เวลาประมาณทุ่มกว่า ขณะที่เดินข้ามสะพานลอย จากฝั่งเซ็นทรัลลาดพร้าว มาฝั่งจตุจักร ก็เห็นว่า ที่พื้นสะพานลอย มีเลือดสดนองอยู่จำนวนมาก กับอาเจียนอีกจำนวนหนึ่ง แล้วก็มีคราบเลือดแห้ง หยดเป็นทาง จากกองเลือด ไปถึงบันไดสะพานลอย ต่อเนื่องไปที่ฟุตบาทด้านล่าง

ด้วยความสงสัย เลยสอบถามแม่ค้าขายเครื่องดื่ม ตรงเชิงสะพานลอย ได้ความว่า เมื่อเวลาประมาณบ่ายโมง ลุงเก็บขยะคนหนึ่ง ถูกตีจนหน้าผากยุบบนสะพานลอย แต่ไม่มีใครเห็นตัวคนทำ

โดยลุงแกนอนจมกองเลือดอยู่ร่วมชั่วโมง กว่าจะมีรถมารับไป ส่วนเจ้าหน้าที่ พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไร เหตุผลคือ เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง สน.

ได้แต่แผ่บุญ - แผ่เมตตาให้ลุง เพราะไม่รู้ว่าแกเป็นตายร้ายดียังไง ฟังจากแม่ค้าเล่าว่า หนักเอาการ และหลังจากนั้น 4 - 5 วัน ไปแถวนั้นอีก ทีนี้เจอพ่อค้าขายของแถวนั้น ก็ถามเขาเพิ่มเติมว่า สรุปตำรวจจับได้ไหม คนทำลุง เขาบอกเหมือนเดิม ทำไอะไรไม่ได้ พื้นที่รอยต่อ

แต่เขาเชื่อว่า คนทำอยู่โน่น ว่าแล้วก็ชี้ให้ดูเงาดำๆ นั่งอยู่ใต้สะพานรถข้ามอีกฝั่ง เขาบอกเป็นวัยรุ่นติดยา อยู่แถวนี้แหละ ที่ผ่านมาเคยไล่ตีคนอะไรทำนองนี้

คลิปฉาว! ประกาศศักดา-ท้าดวล-มั่วยา เย้ยกฎหมาย แต่จ้างให้ก็จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน???

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 23 ธันวาคม 2555



พฤติกรรมอัปโหลดภาพแชร์คลิป อัปเดตชีวิตส่วนตัวผ่านสังคมออนไลน์ยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ซ, ทวิตเตอร์, โซเซียลแคม ฯลฯ ดูจะเป็นเรื่องปกติสุขของคนในยุคนี้ไปเสียแล้ว แต่ทว่า มุมมืดของกลุ่มอาชญกรตัวเป้ง รวมถึงวัยคะนอง ก็ปรากฏขึ้นพร้อมๆ

คำถามที่คาใจกับสังคมว่า คลิปการท้าดวลด้วยถ้อยคำทีท่ายั่วโทสะ โชว์กร่างประกาศศักดา แม้กระทั่งคลิปเสพยาแบบโจ๋งครึ่ม โผล่ออกมาว่อนเน็ตขนาดนี้ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร?

ยิ่งสืบค้นข้อมูลของบรรดาชายหญิงในคลิปฉาว (มีให้ติดตามชมเป็นซีรี่ย์) ก็พบว่าคนเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับแก๊งค์อาชญกรที่ถูกหมายหัวอันดับต้นๆ หรือที่เรียกกันว่า 'แก๊งค์โอรส'

เป็นที่รู้กันว่าแก๊งค์นี้ขายยาเสพติดแบบครบวงจร ยาบ้า ยาไอซ์ ยาอี มีครบเครื่องแถมยังมีเครือข่ายอยู่ทั่ว งานนี้ไม่รู้ว่าคนมีสีหนุนหลังหรือเปล่า เพราะแก๊งค์นี้เพ่นพ่านกันเป็นปีๆ ทางเจ้าหน้าก็ยังไม่สามารถกำราบได้เลย

ปฐมบทโชว์กร่าง มั่วยาผ่าน โซเชียลแคม

คลิปมหากาพย์ของแก๊งที่ว่ากันว่าเป็นมาเฟียค้ายาบ้า ย่านฝั่งธนฯ ถูกเรียกในชื่อ 'แก๊งค์โอรส' ความกร่างของพวกเขาถูกโพสผ่านคลิปวิดีโอที่มีเนื้อหาท้าดวลโต้ตอบกันไปมาอย่างดุเดือด ท่ามกลางชาวโซเชียลมีเดียจำนวนนึงที่ร่วมเป็นสักขีพยาน

เรื่องเริ่มจากการหักหลังกันเองของลูกพี่ลูกน้อง เป็นเหตุให้สมาชิกอย่าง เน วัดดาว (ที่เปลี่ยนชื่อจาก เน โอรส) ต้องระหกระเหินออกจากแก๊งค์โอรสเพราะถูกลูกพี่โยนความผิดให้ติดหางเลขในคดียิงตำรวจตาย เมื่อช่วงต้นปีที่ คิว โอรส หนึ่งในหัวหน้าเป็นผู้ก่อเหตุ

เน วัดดาว สารภาพข้อเท็จจริงและแก้ต่างให้ตัวเองผ่านโซเซียลแคม แรกทีเดียวเขาตั้งใจจะวางมือ แต่สุดท้ายเขาก็เลือกล้างแค้นหัวหน้าเก่าอีกคนนึงคือ แอล โอรส

ดูเหมือนว่าแผนลอบยิงของ เน วัดดาว (โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้ว่าเขาเป็นผู้ยิง) สำเร็จไปด้วยดี แฟนสาวของ แอล โอรส แชร์ภาพงานศพแสดงความเสียใจต่อการจากไปในครั้งนี้

ต่อมา เน วัดดาว ถ่ายคลิปร่ำไห้เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมใช้ขวดฟาดหน้าตัวเองเลือดอาบเพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อแก๊งค์โอรส

แต่เรื่องไม่จบ จีจี้ หรือ จี้ พรานนก น้องสาวของ เน วัดดาว ก็ใช้บารมีพี่ชายกร่างท้าชนไปทั่ว กระทั่งสารท้าตบร่อนไปถึง อุ้ม แฟนสาวของ แอล โอรส อดีตรุ่นพี่สาวร่วมแก๊งค์

ท้ายที่สุด จี้ ก็พ่ายแพ้แก่อุ้ม ด้วยความที่เคยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน จี้ ได้รับการยกโทษและคืนสู่ดีสู่แก๊งค์โอรส

นั้นเท่ากับว่า เน วัดดาว พี่ชายถูกน้องสาวอกหัก และเรื่องราวของ แอล โอรส ถูกลอบยิงก็ถูก จี้ เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วเป็นฝีมือของพี่ชายเธอนั้นเอง

เรื่องกลับตารปัตร แอล โอรส ที่ถูกเข้าใจว่าตายแล้วออกมาเผยตัวว่ายังมีชีวิตอยู่ท่ามกลางประหลาดใจของผู้ติดตามเรื่อง พร้อมส่งสารท้าด้วย เน วัดดาว มือปืนที่ยิงตนและอดีตลูดน้องผ่านโซเชียลแคม

ทั้งคู่ประกาศสงครามผ่านโซเซียลแคม ท้ารบกันอย่างไม่กลัวใคร แถมทางด้าน แอล โอรส ยังเย้ยคู่กรณีด้วยการนำสารเสพติดออกมาโชว์ พร้อมกับเพื่อนร่วมแก๊งค์เสพโชว์ผ่านคลิปดังกล่าว

หรืออีกคลิปนึงที่สะเทือนใจไม่น้อย เพราะมีเนื้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดที่โจ่งครึ่มเชิญชวนและขายอย่างไม่เกรงกลังกฎหมาย

“สวัสดีชาวโซเชียลแคม วันนี้ก็มาอีกแล้ว วันนี้มีของมาโชว์ อยากได้กันหรือเปล่า” คลิปวีดีโอ ปรากฏภาพหญิงวัยรุ่น ลักษณะการพูดจาคล้ายกำลังมึนเมา ที่ทุกคนต่างพากันเรียกเธอว่า จี้ พรานนก สมาชิกสาวแก๊งค์โอรส

“เปิดก่อนมีของดีอะไร ..เห้ยอะไร ..อ่ะๆ อยากได้หรือเปล่า ไปหาซื้อเอง” จี้ หันกล้องโทรศัพท์ไป ถ่ายในมือเพื่อนสาวรุ่นพี่ ที่กำลังคลี่แบงค์สีเขียวเผยให้เห็น ผงสีขาว หากไม่รู้คงคิดว่าแป้งฝุ่นเนื้อละเอียด

แต่ถัดมาเธอก็เฉลยขึ้นว่าผงสีขาวนั้นคืออะไร “ไม่ต้องเครียด ดม K เดี๋ยวทุกคนก็จะหายดี”


จี้ หันกล้องเข้าหาตัวพร้อมพูดเชิงชี้ชวนให้ผู้ชมเข้ามาเสพสุขกับผงละเอียดที่กลุ่มเพื่อนสาวประมาณ 4-5 คน ของเธอกำลังรวมเมามันกันอยู่

กู่ไม่กลับ หรือไม่คิดจะกลับตัว

พฤติกรรมใต้โคลนตมเหล่านี้ถูกแชร์บนโลกออนไลน์ โชว์กร่าง มั่วสุ่มเสพยา ฯลฯ ราวกับกำลังประกาศศักดาว่า พวกข้า..แก๊งค์โอรสนั้นยิ่งใหญ่ หน้าอินทร์หน้าพรหมก็ทำอะไรไม่ได้?

ชื่อเหล่านี้คนทั่วไปอาจอาจไม่คุ้นหูนัก แต่พฤติกรรมของพวกเขารวมทั้งสาวกผู้ที่ไม่ได้เอ่ยนาม กำลังบ่งชัดว่าระบบงานยุติธรรมของสังคมไทยกำลังเน่าเฟะ

แม้จะมีสมาชิกถูกจับดำเนินคดี จำคุก จากคดียาเสพติดหรือฆ่าคนตาย ก็ใช่ว่าบรรดาเพื่อนสมาชิกจะเกรงกลัว หรือตื่นตระหนก ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจสืบสาวราวเรื่องดำเนินคดีกับกลุ่มแก๊งค์ตน ในฐานเป็นกระบวนค้ายาเสพติด หรือมีอาวุธปืนครอบครองโดยมิชอบ ฯ

ขณะเดียวกัน ผู้ที่มีความข้องเกี่ยวกับแก๊งค์โอรส กลุ่มวัยรุ่น วัยกลางคนผู้ไร้ความยั้งคิด ก็หลงระเริงไปกับยาเสพติด คึกคะนองกับกฎหมู่ของพวกเขา ใช้พื้นที่สาธารณะบนโลกออนไลน์แสดงตัวตน พฤติกรรมเย้ยกฎหมาย อัปโหลด..แชร์..อัปโหลด..แชร์ แพร่ภาพความกร่างผ่านสังคมออนไลน์เป็นวัฎจักรที่ไร้การควบคุม

ต้องจัดการ อย่าปล่อยให้เป็นเยี่ยงอย่าง

หลังปรากฏการณ์คลิปท้ากฎหมายของคนกลุ่มนี้โด่งดังไปทั่วโซเซียลมีเดีย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ก็ออกมาเปิดใจต่อกรณีดังกล่าว

พร้อมย้ำว่า ทางเจ้าหน้าที่เองก็กำลังติดตามอันธพาลแก๊งค์โอรสอยู่ แน่นอนว่าทางตำรวจไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้เงียบเป็นแน่เพราะภาพที่แพร่ออกมาเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายทั้งการท้าดวลทะเลาะวิวาท และมั่วสุมเสพยา

ส่วนทางพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยว่ามีการประสานไปยังกระทรวงไอซีทีเพื่อขอให้ปิดเว็บไซต์ดังกล่าวหากละเมิดกฎหมาย ทั้งยังขอความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเร่งติดตามกลุ่มคนเหล่านี้มาดำเนินคดี

พ.ต.ต.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ประธานบริหารหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันรัฐประศาสนศาสตร์ วิทยาลัยบริหารธุรกิจและรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต วิเคราะห์ถึงการแสดงพฤติกรรมคึกคะนองของหนุ่มสาวแก๊งค์นี้ว่า

ต้องยอมรับว่า เป็นเรื่องปกติของวัยรุ่นที่ชอบทำอะไรท้าท้าย กล้าได้กล้าเสีย แต่ถ้าเกินขอบเขตละเมิดกฎหมายก็ต้องมีการดำเนินคดี เพื่อยับยั้งไม่ให้คนกลุ่มอย่างเช่นเด็กและเยาวชนเกิดพฤติกรรมลอกเลียนแบบ

“เสพยาบ้าแล้วอัดคลิปโชว์แบบนี้ มันก็ไม่ถูกต้องเพราะเป็นการละเมิดกฎหมาย ในส่วนนี้ฝ่ายตำรวจที่เกี่ยวข้อง อย่างด้านต่อต้านอาชญกรรมทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี สามารถตามเรื่องได้

เขามีเทคนิคสืบสวนจับกุม และถ้าเกิดจับกุมได้ต้องมีการเสนอผ่านสื่อว่าการทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ละเมิดกฎหมายและตำรวจสามารถตามจับได้นะ คนที่คิดจะทำตามเขาก็จะเกิดความเกรงกลัว”


เงาสะท้อนสังคมป่วยจิตวิปลาศ

นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ นายกสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าพฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้ ถือเป็นปัญหาสุขภาพจิตของสังคมเลยทีเดียว ปรากฎการณ์นี้กำลังสะท้อนภาพว่าคนจำนวนมากยังนิยมใช้ความรุนแรงและเห็นความรุนแรงเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจให้คนอื่นรู้

“มันสะท้อนความเจ็บป่วยของสังคมแบบหนึ่ง เขาอยากจะแสดงถึงศักดิ์ศรี ความโดดเด่น ตรงนี้เรียกความกล้าก็คงไม่เชิงแต่เป็นลักษณะของความไม่ยั้งคิดมากกว่า

คือเขาไม่กลัวว่า มันจะเป็นหลักฐานทางกฎหมายอยู่แล้ว แต่เป็นการขาดความยั้งคิด ต้องการแสดงให้รู้ว่าตัวเองมีความโดดเด่น เป็นปมสุขภาพจิตชนิดนึง”

นพ.ยงยุทธ กล่าวสอดคล้องกับความคิดเห็นของ พ.ต.ต.ดร.กฤษณพงค์ ว่าพฤติเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับวัยรุ่นวัยคึกคะนองในช่วงหนึ่ง

“ขั้นตอนในช่วงของชีวิตวัยรุ่นมันอาจจะมีความสับสนในเรื่องการแสดงออกถึงอัตลักษณ์หรือความเป็นตัวของตัวเอง

ในช่วงนี้อาจจะมีความสับสนไปแสดงออกทางลบได้ พวกนี้เขาก็จะยึดลักษณะลบนี้เป็นแบบอย่าง เรื่องแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นอยู่ชั่วคราว”

อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนที่นิยมอัปโหลดคลิปแชร์ภาพขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมจำพวกนี้ ไม่ได้ระบุชัดว่า พวกเขากำลังเผชิญปัญหาทางจิต แต่มันเป็นปัญหาทางสังคมที่คาบเกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย ซึ่งพวกเขาต้องถูกดำเนินคดีตามความผิด
__________________

 

ข่าวดี จับได้แล้วกากสังคม ตีคนหาเข้ากินค่ำ ขายลูกชิ้นทอด กระโหลกแตก สมองไหลตาย อาวุธที่ใช้ฆ่าคน ถึงจะไม่ได้ลงทุนซื้อ อย่างกับพวกวัยรุ่นฝรั่งที่ควงปืนไปฆ่าลูกชาวบ้านตายหมู่ในโรงเรียนประถม ตามที่เป็นข่าวเมื่อกลางๆ เดือน ธค. 2012 ที่ผ่านมา

แต่ก็น่าคิดว่า ไอ้ของที่กากสังคมพวกนี้ใช้ทำให้คนอื่นตาย มันช่างหาได้ง่ายตามถนนหนทาง รึตามไซด์งานก่อสร้าง พี่น้องปวงชนชาวไทย ก็ต้องระวังตัวกันเอาเอง เพราะถึงจะจับกากสังคมรายนี้ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีรายอื่นอีก

รวบแล้ว สองขี้ยา ฆ่าชิงทรัพย์พ่อค้าลูกชิ้นทอด

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 24 ธันวาคม 2555



ผบ.ตร.แถลงผลงานจับกุมสองผู้ต้องหาฆ่าชิงมทรัพย์พ่อค้าลูกชิ้นทอดเสียชีวิตอย่างเหี้ยมโหด ในพื้นที่ สน.แสมดำ

สารภาพ ก่อเหตุเพราะเป็นทาสยานรก ต้องการเงินไปซื้อยาบ้าเสพ จึงลงมือก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ 2 คดีซ้อน

วันนี้ (24 ธ.ค.) เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมกองอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ประวัติ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท ผกก.สน.ท่าข้าม พ.ต.อ.มนต์ชัย รัตนะวิศ ผกก.สน.แสมดำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง

ร่วมแถลงผลจับกุม นายวิชัย หรือแก หรือเสือ ปั่นทอง อายุ 23 ปี และนายวินัย หรืออาร์ท จำนงค์ทิพย์ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 812-813/2555 ลงวันที่ 23 ธ.ค. 2555 พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีแดงคาดขาว หมายเลขทะเบียน กลค 66 แพร่, มีดพับปลายแหลมแบบสปริง 1 เล่ม, กระเป๋าสตางค์ที่ก่อเหตุชิงทรัพย์มา 1 ใบ,โทรศัพท์มือถือที่ชิงทรัพย์มา 1 เครื่อง และเสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ

โดยสามารถติดตามจับกุมนายวิชัย ได้ที่บริเวณถนนเลียบชายหาดจอมเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนนายวินัย จับกุมได้ที่โต๊ะสนุกเกอร์ ในซอยสะแกงาม 35/1 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า สืบเนื่องเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. เวลาประมาณ 02.00 น. เกิดเหตุ คนร้ายใช้ไม้ตีศีรษะนายทองยอน อินทวนิช อายุ 41 ปี ชาว จ.สุรินทร์ พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว ได้รับบาดเจ็บ บริเวณปากซอยสะแกงาม 12 ถนนสะแกงาม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน

ต่อมา เวลาประมาณ 03.00 น.วันเดียวกัน มีคนร้ายก่อเหตุ ฆ่าชิงทรัพย์ นายคิด โชตะกา อายุ 44 ปี ชาว จ.มหาสารคาม พ่อค้าขายลูกชิ้นทอด บริเวณริมถนนบางขุนเทียนชายทะเล ระหว่างซอย 5 กับซอย 7 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน โดยใช้ไม้และมีดปลายแหลมเป็นอาวุธ พร้อมนำทรัพย์สินของผู้ตายติดตัวไปด้วย จากการสันนิษฐานคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.9, สน.ท่าข้าม และ สน.แสมดำ ร่วมกันสืบสวนหาข้อมูล มุ่งเน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่นที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในซอยสะแกงาม จนทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 2 คดีต่อเนื่องกัน คือ นายวิชัย และนายวินัย ซึ่งพักอาศัยในซอยดังกล่าว

จึงนำกำลังติดตามจับกุมได้ในเวลาเพียงแค่ 2 วัน ทั้งนี้ นายวิชัยเคยติดคุกคดีเสพยาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้งที่ จ.ชลบุรี

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุต้องการซื้อยาบ้ามาเสพแต่ไม่มีเงิน จึงชักชวนกันตระเวนชิงทรัพย์ โดยใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ มีนายวินัยเป็นผู้ขับขี่ และนายวิชัยเป็นคนซ้อนท้าย เมื่อผ่านมาถึงซอยสะแกงาม 12 พบนายทองยอน ผู้เสียหายเดินผ่านมา นายวิชัยใช้ไม้ที่เตรียมมาตีศีรษะจนล้มฟุบ แล้วชิงเงินสดไป 300 บาท

จากนั้น ได้กลับที่พักในซอยสะแกงาม 35/2 แต่พบว่า เงินไม่พอซื้อยาบ้า จึงชวนกันมาก่อเหตุอีกครั้ง ซึ่งพากันขับขี่จักรยานยนต์ไปยังบริเวณถนนบางขุนเทียนชายทะเล พบนายคิดอยู่เพียงลำพัง นายวิชัยได้ใช้ไม้ตีทำร้ายแล้วชิงกระเป๋าสตางค์ไป

แต่เมื่อเปิดดูกระเป๋าสตางค์ไม่มีเงิน เลยพากันขี่รถย้อนกลับมาใช้มีดปลายแหลมจี้บังคับนายคิด แต่นายคิดพยายามหนี จึงใช้มีดแทงไปหลายแผลจนยอมเปิดเบาะรถจักรยานยนต์ได้เงินไปประมาณ 900 บาท ก่อนพากันหลบหนีและซื้อยาบ้ามา 5 เม็ด แบ่งกันเสพ โดยที่แทงไป ก็ไม่คิดว่าจะถึงกับตาย เพียงต้องการเงินเท่านั้น

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนนำตัวส่ง สน.ท่าข้าม ดำเนินคดีต่อไป

 

ตร.ทำแผน เด็กช่างกลสติเฟื่อง แค้นยิงมั่ว คนใส่เสื้อช็อป

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 24 ธันวาคม 2555



ตำรวจ สน.บางเขน นำตัวสองผู้ต้องหา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คดียิงนักศึกษา VBAC เสียชีวิต เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา

เผย เคยถูกช่างกลใส่เสื้อช็อป ยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงแค้น ซื้อปืนเถื่อนมาก่อเหตุคนที่ใส่เสื้อช็อป ชี้ ผู้ตายดันใส่เสื้อช็อป จึงชะตาขาด ทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องกันมาก่อน


วันนี้ (24 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย สว.สส.สน.บางเขน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขนกว่า 10 นาย พร้อมด้วย ร.ต.ต.กิตติคม เหมือนทอง พนักงานสอบสวน สน.บางเขน เจ้าของคดี

นำตัว นายอรรถพล หรืออั๋น แก้วสันเทียะ อายุ 23 ปี นายธารินทร์ หรือริน หรือเปียว นาครุ่ง อายุ 19 ปี 2 ใน 4 ผู้ต้องหาที่จับได้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณหน้าเต้นท์ขายรถยนต์มือสอง ชื่อพีเค.คาร์เซ็นเตอร์ บริเวณปากซอยลาดปลาเค้า 72

สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. เวลาประมาณ 18.45 น.ได้เกิดเหตุนักศึกษาโรงเรียนวิบูลย์บริหารธุรกิจ (VBAC) ทราบชื่อต่อมาคือนายจตุพล หรือเรน เชียงอินทร์ อายุ 21 ปี นักเรียนชั้น ปวส.ปี 1 ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าเต็นท์รถยนต์มือสองชื่อพีเค.คาร์เซ็นเตอร์ ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขต กทม. และหลบหนีไป

ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวบได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้ในแฟลตรามอินทรา 21 จากนั้น ก็นำตัวไปขยายผล จนไปพบของกลาง ซุกซ่อนอยู่ในแฟลตดังกล่าว

โดยเจ้าหน้าที่นำตัวมายังจุดเกิดเหตุที่นายอรรถพล หรืออั๋น เป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ขาว ทะเบียน อทฬ 356 กรุงเทพมหานคร แล้วนายธารินทร์ หรือเปียว เป็นคนซ้อนท้าย ได้ขับตามมาประกบกับจักรยานยนต์ผู้เสียชีวิต แล้วขับปาดหน้า

ต่อมานายธารินทร์เป็นผู้ใช้ปืนลูกโม่ไทยประดิษฐ์ ยิงใส่นายจตุพล หรือเรน เชียงอินทร์ จำนวน 1 นัดจนเสียชีวิต หลังจากนั้น ได้รีบหลบหนีไป แล้วนำปืนไปซ่อนไว้บริเวณแฟลตรามอินทรา 21 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ซึ่งใช้เวลาในการทำแผนประมาณ 20 นาที

พ.ต.อ.ชยุตเปิดเผยหลังจากทำแผนเสร็จสิ้นว่า หลังก่อเหตุตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ร่วมกับตำรวจสืบสวน บก.น.2 สืบทราบว่าผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 6 คน ก่อนจับกุมได้ 4 คน เป็นเยาวชน 2 คน ส่วนอีก 2 คนกำลังตามจับกุมอยู่

ซึ่งคนที่ก่อเหตุ คือ นายเปียว และนายอั๋น ตำรวจตามจับกุมได้ที่แฟลตรามอินทรา 21 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ก่อนที่นายเปียวจะนำไปหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ที่ซ่อนไว้ใต้แฟลตรามอินทรา 21 จนพบ

พ.ต.อ.ชยุตกล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุนั้นนายเปียวอ้างว่าเมื่อประมาณ ต.ค.ที่ผ่านมาเคยโดนคู่อริต่างสถาบันดักยิงจนบาดเจ็บย่านบางเขน และรักษาตัวกว่า 2 เดือน หลังหายดีไปหาซื้อปืนเถื่อนมา

จนวันดังกล่าว พกอาวุธปืนเพื่อจะไปยิงล้างแค้น โดยจะยิงคู่อริที่ใส่เสื้อช็อปสถาบันไหนก็ได้ กระทั่ง ขับมาเจอผู้ตายใส่เสื้อช็อปเลยยิงใส่ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งฟ้องศาลอาญารัชดาฯ

ส่วนเยาวชนอีก 2 คนนั้น ต้องรอเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ร่วมสอบปากคำ ก่อนนำตัวส่งศาลเยาวชน ย่านสนามหลวง สำหรับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 2 คน เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

 

รวบสมาชิก “แก๊งตามาร” ก่อเหตุถีบ จยย.ชิงทรัพย์ จนเหยื่อสาวเสียชีวิต

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 ธันวาคม 2555



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แถลงข่าวจับ “แก๊งตามาร” ถีบรถ จยย.ปล้นชิงทรัพย์ แม่บ้านสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดตรัง จนพลัดตกคูเสียชีวิต

วันนี้ (24 ธ.ค.) พล.ต.ท.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผกก.สส.ภ.9 พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี ผบก.ภ.ตรัง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายศุภณัฐ หรือณัฐ เทพทอง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/3 ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ตามหมายจับของศาลจังหวัดตรัง ที่ 491/2555 ลงวันที่ 22 ธ.ค.55 ในข้อหา “ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด”

โดยเหตุดังกล่าวเป็นคดีที่สลดใจ และเป็นที่ติดตามของประชาชน เกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นางปรีญา ศรีนุ่นวิเชียร อายุ 38 ปี ลูกจ้างจ้างเหมาตำแหน่งแม่บ้านของสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดตรัง ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตามถนนสายสาลิกา-โคกพลา ม.10 ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง

ได้มีคนร้าย 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์นั่งซ้อนท้ายกันมา ก่อนขี่รถเบียดประกบชิดทางด้านขวาของนางปรีญา แล้วคนร้ายที่นั่งตรงกลางได้ใช้เท้าถีบรถของนางปรีญาจนเสียหลักพลิกคว่ำตกลงไปในคูข้างถนน

จากนั้น ได้ลงไปปลดทรัพย์สินของนางปรีญาไปหลายรายการ ต่อมา มีผู้ประสบเหตุนำตัวนางปรีญาซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสส่งโรงพยาบาลตรัง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ต่อมา เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2555 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้ทำการจับกุมนายศุภณัฐได้ในข้อหา ร่วมกันผลิตยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (น้ำต้มพืชกระท่อม) โดยผิดกฎหมาย

และได้มีการตรวจสอบเพิ่มเติมขยายผลพบว่า นายศุภณัฐมีตำหนิรูปพรรณสัณฐานตรงกับคนร้ายที่ใช้รถ จยย.ตระเวนก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ และปล้นทรัพย์ในพื้นที่ อ.เมืองตรัง หลายคดี จึงได้รวบรวมหลักฐาน และขออนุมัติออกหมายจับนายศุภณัฐในคดีของนางปรีญา

ซึ่งนายศุภณัฐ ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นสมาชิกของ “แก๊งตามาร” มีนายเบียร์ (ไม่ทราบนามสกุล) เป็นหัวหน้า ได้ก่อคดีปล้นทรัพย์ถีบรถจักรยานยนต์ของนางปรีญาจริง โดยตนเองเป็นคนถีบ และนายเบียร์เป็นคนลงไปปลดทรัพย์ ซึ่งตนเองก็ไม่คาดคิดว่า นางปรีญา จะถึงตาย จึงขอขมา และขอแสดงความเสียใจต่อญาติของนางปรีญาด้วย

สำหรับนายศุภณัฐ เคยก่อคดีทั้งลักทรัพย์ และปล้นทรัพย์มานับสิบคดีแล้ว ส่วนเพื่อร่วมแก๊งอีก 2 คนที่ยังหลบหนี ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวหมดแล้ว กำลังอยู่ระหว่างสืบสวนติดตามจับกุมตัว

 

มันเป็นกันทั่วโลกและจะเพิ่มทวีคุณไปเรื่อย ๆ ต่อไปในอนาคตการทำในสิ่งชั่ว ๆ ก็จะเป็นเรื่องปกติ เดี่ยวนี้ก็เริ่มมีให้เห็นในหลายประเทศแล้ว

 

น่าเป็นห่วงชีวิต สังคม ของเด็ก ๆ รุ่นลูก รุ่นหลาน...

 

ถ้าศีลธรรม ไม่กลับมา โลกาวินาศ

มนุษยชาติ จะเลวร้าย กว่าเดรัจฉาน

มัวหลงเรื่อง กิน กาม เกียรติ เกลียดนิพพาน

ล้วนดื้อด้าน ไม่เหนี่ยวรั้ง บังคับใจ

อาชญากรรม เกิดกระหน่ำ ลงในโลก

มีเลือดโชก แดงฉาน แล้วซ่านไหล

เพราะบ้ากิน บ้ากาม ทรามเกินไป

บ้าเกียรติก็ พอไม่ได้ ให้เมาตน

อยากครองเมือง ครองโลก โยกกันใหญ่

ไม่มีใคร เมตตาใคร ให้สับสน

ขอศีลธรรม ได้กลับมา พาหมู่คน

ให้ผ่านพ้น วิกฤตการณ์ ทันเวลา

พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)

 

ใกล้ปีใหม่แล้ว มีเรื่องดีที่เร้ากุศล มาฝากสมาชิกทุกท่าน



หลากหลายกิจกรรมช่วง ๑๐ วันก่อนปีใหม่ จนถึงการสวดมนต์ข้ามปี - ภาวนาถือธุดงควัตร เนสัชชิก - และตักบาตรปีใหม่ ศึกษารายละเอียด download ตารางกิจกรรมได้ที่

http://www.bia.or.th/pdf/mindful_festival_2012.pdf

บ่ายวันศุกร์ที่ ๒๘ ธค. สห+ภาพ จะยกชุมนุมคนถ่ายภาพธรรมมานำเสนอธรรมในรูปแบบใหม่พร้อมภาพ หนังสือ และ นานา application ในชุดธรรมภาพ



สำหรับเสาร์อาทิตย์สุดท้ายของปี ตลอดวันเสาร์ที่ ๒๙ ธค. พระอาจารย์สุขจิตโต จากวัดอมราวดี อังกฤษ ผู้บวชเรียนที่สวนโมกข์ในช่วงปลายของท่าน อ.พุทธทาส จะมานำวิปัสสนาเสวนาว่าด้วย อานุภาพและความท้าทายของการทำสมาธิ เป็นภาษาอังกฤษพร้อมล่ามแปลเป็นไทยซึ่งถือเป็นครั้งพิเศษที่สุด



ส่วนวันอาทิตย์ที่ ๓๐ ธค. ตลอดวัน มีกิจกรรมพิเศษ "ล้างพิษกาย - ผ่อยคลายใจ" กับ อ.กัมปนาท บัวฮุมบุรา ด้วยการฝึกจักระ โอมและนานาเทคนิควิธีต่าง ๆ รวมทั้งดนตรีบำบัด Crystal Singing Bowl

โดยในช่วงบ่ายพระอาจารย์ปสันโนภิกขุ จากวัดป่าอภัยคีรี แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาจะมาแสดงธรรมกถาพิเศษส่งท้ายปีที่สวนพุทธธรรม

วันที่ ๓๑ ธค. จะมีกิจกรรมตลอดทั้งวันต่อเนื่องถึงรุ่งเช้าวันที่ ๑ มค.๕๖ แบ่งเป็น ๖ ช่วง เริ่มจากช่วงเช้าเป็นการทำบุญตักบาตรถวายสังฆทาน รับศีล ฟังธรรมและทำสมาธิกับพระอาจารย์สิงห์ทอง เขมิโย จากสวนโมกขพลาราม ไชยา, ช่วยบ่าย ฟังธรรมบามบ่าย เพลงสบายใจและขลุ่ยเซ็น กับ เมธี จันทรา และ จำรัส เศวตาภรณ์



ช่วงเย็นถึงย่ำค่ำ ร่วมทำวัตรเย็น แล้วร่วมแบ่งของขวัญ ปันข้อคิด พร้อมกับร่วมร้องเพลงดีปีใหม่ จนถึงประมาณ ๓ ทุ่ม จึงเข้าสู่ช่วงข้ามปี มีการเสวนาและรับธรรมพร พร้อมกับร่วมสวดมนต์ภาวนา ปฏิบัติบูชาข้ามปี เพื่อชีวิตใหม่ที่ดี ที่สวนพุทธธรรม

จากนั้น จึงเข้าสู่ช่วงที่ ๕ สำหรับผู้ที่ตั้งใจจะลองถือธุดงควัตรเนสัชชิก ร่วมกับพระอาจารย์สิงห์ทอง และ พระมหาสนธยา สามารถเตรียมอุปกรณ์มาตั้ง ปัก กางได้ที่สังเวชนียสถานจำลองริมสระใหญ่ในสวนรถไฟ รายรอบสวนพุทธธรรม

ก่อนที่จะร่วมรับอรุณ ทำวัตรเช้า รับพรสำหรับปีใหม่จากพุทธทาสภิกขุ แล้วร่วมทำบุญตักบาตรสาธิตแบบพุทธกาลที่สวนพุทธธรรม



จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมได้ตามความสะดวกและอัธยาศัย หลายรายการมีการรับลงทะเบียนล่วงหน้า กรุณาลงทะเบียนได้ที่

กิจกรรม สวนโมกข์ กรุงเทพ ส่วนท่านที่ประสงค์จะเข้าร่วมกิจกรรมที่สวนโมกขพลาราม ไชยา จะมีกิจกรรมตลอดวันที่ ๓๑ ธค. โดยเฉพาะตั้งแต่เวลา ๒๑.๐๐ น. ต่อเนื่องถึงการตักบาตรเช้าที่ลานหินโค้ง เวลา ๐๘.๐๐ น. สอบถามได้ที่ ๐๗๗ ๔๓๑ ๖๖๑-๒



หมายเหตุ มี 3 กิจกรรม ย่อยที่ขอความร่วมมือลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อจัดเตรียมสถานที่ อุปกรณ์ และการแบ่งกลุ่ม ได้แก่

๑. กิจกรรมแบ่งของขวัญ ปันข้อคิด : เชิญชวนนำของที่มีอยู่แล้ว มีคุณค่าและความหมาย โดยไม่ต้องซื้อหามาใหม่ มาแบ่งปัน พร้อมเล่าข้อคิดแก่กันและกัน

๒. กิจกรรมทำการ์ดปีใหม่
ลงทะเบียนได้ที่ กิจกรรม สวนโมกข์ กรุงเทพ

๓. ภาวนาถือธุดงควัตร เนสัชชิก เริ่ม ๐๑.๐๐ น. ของวันปีใหม่



๐๑.๐๐ – ๐๒.๓๐ น. ปาฐกถาธรรมและนาภาวนา โดย พระสิงห์ทอง เขมิโย วัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม

๐๒.๓๐ – ๐๔.๐๐ น. ปาฐกถาธรรมและนาภาวนา โดย พระมหาสนธยา เขมาภิรโต วัดชลประทานรังสฤษฏ์

๐๔.๐๐ -๐๔.๓๐ น. พักเปลี่ยนอิริยาบถ, ดื่มน้ำปานะ

๐๔.๓๐ -๐๕.๓๐ น. ทำวัตรเช้า สวดมนต์รับอรุณรุ่ง ทำวัตรเช้า สวดมนต์รับอรุณรุ่งแห่งปีใหม่

ลงทะเบียนได้ที่ กิจกรรม สวนโมกข์ กรุงเทพ



หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ สวนวชิรเบญทัศ (สวนรถไฟ) ถนนนิคมรถไฟสาย ๒ แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐

เปิดบริการทุกวัน ๐๙.๐๐ น. - ๑๘.๐๐ น. โทรศัพท์: ๐-๒๙๓๖-๒๘๐๐ โทรสาร: ๐-๒๙๓๖-๒๙๐๐ อีเมล์: info@bia.or.th l แผนที่

 

ไฟไหม้บ่อยจัง ทั้งห้าง.... คลังน้ำมันโตโยต้า ล่าสุดโรงงาน

อาจจะแค่ความบังเอิญ หรือมาเตือน

 

ลองเข้าเว็บข่าวหลายๆ เว็บย้อนหลังดู จะเห็นว่าตลอดทั้งปี ตั้งกะต้นปีเรื่อยมา มีไฟไหม้กี่ครั้ง ทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด มันมีเหตุการณ์อย่างนี้อยู่ทุกปี

 

เอาเว็บ ผจก. พิมพ์คำว่า ไฟไหม้ ดูย้อนไปเกิน 3 วัน ออกมาเป็น 10 หน้า

http://allsearch.myfirstinfo.com/cgi-bin/mngnewssearch2?t=8&q=%e4%bf%e4%cb%c1%e9

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 >>


ปฏิรูปบุหรี่อีกระลอก ปลอดไฟไหม้+ควันมือสอง+เด็กซื้อ
...ดูภาพขนาดใหญ่) (คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่) 'โดนโจรปล้น 10 ครั้ง ก็ไม่เท่าไฟไหม้บ้านครั้งเดียว' เป็นสำนวนที่พูดกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณในบ้านเรา ซึ่งสำนวนที่ว่านี้ แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่มีต่อไฟไหม้ว่า มันช่างเป็นภัยร้าย...
>> ASTV ผู้จัดการรายวัน - 14 ม.ค. 2554

แฉพังทั้งเกียร์-เบรก ตายศพ 30 หมอห่วงอีกหลายราย ไหม้ทั้งตัว-โคม่า "ศิริราช"
สิ้นใจเพิ่มอีก 1 เป็นศพที่ 30 เหยื่อไฟมรณะทัวร์นรกเพราะทนพิษไฟไหม้ไม่ไหว "หมอมงคล" เผยยังเป็นห่วงอีกหลายรายที่อาการโคม่า มีสิทธิ์สูญเสียเพิ่มขึ้นอีก ญาตินับพันแห่ดู - รับศพแน่นศิริราช มุงดูรูปภาพและ...
>> ข่าวสด - 22 มี.ค. 2550

"ลูกตาล" อาริษา "โจอี้" หวิดดับ ไหม้เกือบผับซ้ำรอย "ซานติก้า"
รมว.ยธ.ตั้ง กก.สอบเหตุไฟไหม้ซานติก้า ผับดังย่านเอกมัย เผาทั้งเป็น 58 ชีวิต เจ็บอีกกว่าร้อย 2 ดีเจดังเผยวินาทีเฉียดตาย เชื่อสาเหตุไม่ได้เกิดจากไฟเย็น "ลูกตาล" อาริษา วิลล์ ช็อกหวิดดับ โชคดีออกไปฉลอง...
>> คม ชัด ลึก - 2 ม.ค. 2552

ไฟไหม้ ร.ร.ลามวัด วิศวะไฟฟ้าซัด ตร. ด่วนสรุป "ลัดวงจร"
...ฐาน เจ้าอาวาสเชื่อสร้างสถานการณ์ บช.ภ.3 อ้างไม่มีคลื่นใต้น้ำในพื้นที่ เหตุไฟไหม้ ร.ร.โคราชบ่อยเป็นเพราะมีเยอะ ยังไม่ตัดทิ้งปมลอบวางเพลิงโรงเรียนหนองแวงฯ สมาคมช่างเหมาไฟฟ้าซัด ตร.สรุปเร็วเกินไปไฟฟ้าช็อร์ต แม้...
>> มติชนรายวัน - 6 ธ.ค. 2549

วินาศภัยสังเวยไฟไหม้ 6 พันล. เศรษฐกิจซบซัดประกันทรัพย์สินเป๋
...เผาวอดเฉพาะกรมธรรม์อัคคีภัย 1,185 ครั้ง ขณะที่ประกัน IAR เจอไป 579 ครั้ง ตะลึง! ไฟไหม้ใหญ่เผาวอดโกดังยาง-ตลาดโบ๊เบ๊-โรงไฟฟ้าราชบุรี-การบินไทยค่าเสียหายกว่า 3,600 ล้านบาท บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน...
>> สยามธุรกิจ - 29 ส.ค. 2550

ทำอย่างไร! เมื่อเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
บทความโดย รศ.นพ.พรพรหม เมืองแมน ภาควิชาศัลยศาสตร์บาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกพบได้บ่อย โดยมากมักจะมีสาเหตุจากอุบัติเหตุ ความประมาท ขาดความระมัดระวัง ซึ่งอาการการบาดเจ็บจะมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใดขึ้นกับหลายปัจจัย...
>> ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - 1 ก.ค. 2553

3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายชี้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ลด เตรียมเวิร์กชอปแก้ปัญหาอ้อยปนเปื้อน
3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายชี้แนวโน้มสถานการณ์อ้อยไฟไหม้ดีขึ้นชัดเจนหากมีการรณรงค์อย่างจริงจังและชาวไร่อ้อยให้ความร่วมมือ เผยบางโรงงานลดสัดส่วนอ้อยไฟไหม้ได้กว่า 20% ลุยเดินหน้านำประเด็นการจัดการสิ่งปนเปื้อนในอ้อยเข้า...
>> ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - 18 ต.ค. 2555

3 สมาคมโรงงานน้ำตาลฯ เตรียมจัดเวิร์กช็อปแก้ปัญหาอ้อยปนเปื้อน - อ้อยไฟไหม้
3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย ชี้แนวโน้มสถานการณ์อ้อยไฟไหม้ดีขึ้นชัดเจน หากรณรงค์อย่างจริงจังและชาวไร่อ้อยให้ความร่วมมือ เผยบางโรงงานลดสัดส่วนอ้อยไฟไหม้ได้กว่า 20% ลุยเดินหน้านำประเด็นการจัดการสิ่งปนเปื้อนในอ้อยเข้าทำเวิร์กช็...
>> ไทยรัฐ - 19 ต.ค. 2555

ชาวราชบุรีผวาสารพิษโรงไฟฟ้าไฟไหม้สูญ 100 ล.
ไฟไหม้โรงไฟฟ้าราชบุรียังคลำสาเหตุไม่เจอ อีก 3 สัปดาห์รู้ผล ความเสียหายเบื้องต้น 90 ล้านบาทแต่มีประกัน "ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง" แจงไฟไหม้เฉพาะเครื่องดักสารซัลเฟอร์ฯ ไม่กระทบโรงงานไฟฟ้า เดินเครื่องได้ตาม...
>> ไทยโพสต์ - 15 ต.ค. 2548

"ชาววิเศษชัยชาญ" ต้าน "โลตัส" (1) โลตัสซ้ำเติมชาวตลาด 100 ปีหลังไฟไหม้
...ตัวตลาด แต่โลตัสพิฆาตทั้งชุมชน" - "โลตัสมาชาวตลาดตาย" - "ไฟไหม้สุดชอกช้ำ กระทืบซ้ำด้วยโลตัส" - "เทศบาลจ๋าอย่าฆ่าประชาชน" - "เทศบาลเซ็นต์ให้โลตัสเหมือนไฟไหม้ซ้ำสอง" เป็นต้น...
>> ผู้จัดการออนไลน์ - 14 มิ.ย. 2549