พุทธวิธีชนะมารในการบริหาร จากบทพาหุง 8 บท

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย satan, 11 พฤษภาคม 2008.

แท็ก: แก้ไข
  1. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,015
    ค่าพลัง:
    +17,915
    พุทธวิธีชนะมารในการบริหาร จากบทพาหุง 8 บท

    สมหวัง วิทยาปัญญานนท์

    1 กุมภาพันธ์ 2545


    สรุปประเด็น
    บทสวดพาหุง ได้สอนให้เรานึกถึง วิธีของพระพุทธเจ้าในการปราบมารอยู่ 8 วิธี ดังนั้นเมื่อสวดคาถาพาหุงแล้ว อย่าคิดแต่ว่าเป็นคาถาอาคมไสยศาสตร์อย่างเดียว เพราะนี่คือบทสวดที่สอนให้เราแก้ปัญหาชีวิตที่มาจากมารมาผจญได้

    บทคัดย่อย
    สมเด็จพระพนรัตน์ ได้แต่งบทสวดให้พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไว้สวดเป็นประจำ ทำให้ทรงมีชัยชนะอยู่เสมอ

    พุทธวิธี ชนะมาร ในคาถาพาหุงได้แสดง 8 วิธีการใน 8 เหตุการณ์ เหมือนกรณีศึกษา (Case Study) ที่เรียนกันในมหาวิทยาลัยต่างๆ ในโลก ที่จะชนะมารได้ดังนี้ ชนะด้วย ทาน ขันติ เมตตา อิทธิฤทธิ์ ระงับใจ ใช้ปัญญาสั่งสอน มอบฤทธิ์ที่เหนือกว่าให้คนทำแทน และการเข้าไปนั่งในใจเขา

    การประยุกต์พุทธวิธีชนะมารมาใช้ในการบริหารงานเชิงธุรกิจ ก็เป็นสิ่งที่น่าพินิจพิจารณา เพราะสามารถนำคาถาพาหุงมาเจริญภาวนา (วิเคราะห์ วิจัย ปรับปรุง ประยุกต์ใช้งาน) ทำให้เกิดประโยชน์ในชีวิตแห่งการทำงานในยุคปัจจุบันได้

    1. บทนำ
    ผมได้ไปอ่าน "พุทธชัยมงคลคาถา" หรือคาถาพาหุงมหาการุณิโก พุทธวิธีชนะมาร โดยหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม พิมพ์โดยธรรมสภา (ราคา 10 บาท) หรือที่เราเรียกกันว่า "บทสวดพาหุง" เมื่อมองอย่างผิวเผินแล้ว คนส่วนใหญ่มักจะคิดในแนวไสยศาสตร์ หรืออิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ใช้สวดไล่ผีไล่มาร หรือไม่ก็ให้สวดก่อน ออกไปรบ ออกสงคราม แต่ถ้ามองอีกมุมมองหนึ่ง ว่าบทสวดนี้กำลังยกตัวอย่างพุทธวิธีปราบมารศัตรูคู่แข่ง แบบยกตัวอย่าง 8 เหตุการณ์ เพื่อให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม จากการถกเสวนาธรรม พุทธวิธีชนะมารที่จะนำมาประยุกต์ใช้ในเชิงบริหารกับนายช่างวีระพล สูตรสุคนธ์ นับว่าผู้เขียนมีความแตกฉานเพิ่มขึ้นและได้นิยาม "มาร" ในสมัยปัจจุบันนี้ คือ ศัตรู คู่แข่ง ฝั่งตรงข้าม ปัญหาอุปสรรคงาน หรือทุกข์ในชีวิตเพื่อให้สามารถประยุกต์ พุทธวิธีชนะมาร มาใช้ในการบริหารงาน บริหารคนได้

    2. ความเป็นมาของพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุง)
    หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ได้เล่าประวัติของคาถาพาหุงว่าสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยาปัจจุบันเรียกเป็นวัดใหญ่ชัยมงคล จ.อยุธยา เป็นผู้รจนาฉันท์บาลีว่าด้วยชัยชนะของพระพุทธเจ้า ที่ผจญมาร 8 บท เรียกว่า พาหุงมหากา (รุณิโก)

    3. ความเชื่อเกี่ยวกับคาถาพาหุง
    ธรรมอำนวยพร พุทธวิธีชนะมาร โดยพระราชสุทธิญาณมงคล (จรัญ ฐิตธัมโม) กล่าวไว้ว่า "ความเป็นไปในชีวิตของมนุษย์เรา เปรียบเสมือนการเดินข้ามห้วงเหว และสะพานที่เสี่ยงภัย แม้เราจะเดินเก่งหรือมีกำลังเรี่ยวแรงสักเพียงไร ถ้ามีเครื่องยึดเหนี่ยวไว้บ้าง ก็ดีกว่าไม่มี ผู้ใดสวดมนต์ชัยมงคลคาถาหรือพาหุงมหากาเป็นประจำทุกๆ วันแล้ว จะมีแต่ชัยชนะทุกประการ เรียนหนังสือก็เกิดปัญญา มีแต่ความเก่งกล้าสามารถทุกประการ วิธีการแก้ปัญหาทุกชนิด เริ่มด้วยการทำจิตให้สงบ วิธีที่ดีที่สุดก็คือสวดมนต์เป็นนิตย์ อธิษฐานจิตสม่ำเสมอ จะเกิดปัญญา แก้ไขปัญหาได้อย่างอัศจรรย์ โดยมีเคล็ดลับ คือ ต้องมีความตั้งใจจริง มีความไม่ย่อหย่อน ปฏิบัติเป็นประจำ แล้วท่านจะประสบความสำเร็จ"

    4. ทำไมคนสวดคาถาพาหุงบ่อยๆ แล้วจึงชนะมาร
    เมื่อพิจารณาจากธรรมอำนวยพร จากหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม แล้ว เมื่อสวดคาถาพาหุงบ่อยๆ แล้ว จะทำให้ชนะทุกอย่าง แก้ปัญหาได้ทุกชนิด เนื่องจาก


    1. ทำให้จิตสงบ แล้วทำให้เกิดปัญญา ซึ่งเป็นอาวุธในการแก้ปัญหาทุกชนิด ถ้าแก้ได้ก็เรียกว่า
    "ชนะ"

    2. การทำบ่อยๆ โดยไม่ย่อท้อ จะทำให้จำได้มีสติอยู่ตลอด ทำให้เกิดศรัทธาความเชื่อมีกำลังใจในการต่อสู้ปัญหา เป็นฤทธิ์ของศรัทธา

    ในมุมมองของผู้เขียน คนโบราณเขารู้ภาษาบาลีเขารู้ความหมาย พระสงฆ์ในปัจจุบันนี้ที่เรียนสูงๆ เขาก็รู้ภาษาบาลีเหมือนภาษาไทย ขณะสวดเขารู้ความหมาย เมื่อสวดไปเขาก็พิจารณาได้ เข้าใจได้ และเอาไปปฏิบัติใช้งาน โดยไม่รู้สึกตัว เพราะการสวดบ่อยๆ จะเกิดปัญญาที่ฝังเข้าไปในสมอง จนเป็นสัญชาติญาณ หากเป็นพวกเราๆ ทั้งหลาย ไม่รู้ภาษาบาลี สวดไปก็เหมือนนกแก้วนกขุนทอง จะได้แต่ศรัทธา ปัญญาไม่เกิด ซึ่งจะให้ผลแห่งการต่อสู้เพื่อเอาชัยชนะย่อมไม่ได้ผลเท่าที่ควร เหมือนตีตะปูผิดวิธีเอาแต่กำลัง บางครั้งก็ตีเข้าได้ดี บางครั้งก็งอคด บางครั้งก็ให้ผลร้ายเกิดอุบัติเหตุ แต่ถ้าตีตะปูด้วยปัญญาตะปูก็จะตีเข้าได้ดี และใช้กำลังน้อยลงอีกด้วย


    คลิกขยายภาพเพื่ออ่าน ^^

    http://www.budmgt.com/budman/bm02/bud-win-tech.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pahung-v.gif
      pahung-v.gif
      ขนาดไฟล์:
      20.1 KB
      เปิดดู:
      3,373
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 พฤษภาคม 2008
  2. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,015
    ค่าพลัง:
    +17,915
    5. คำแปลบทสวด พุทธชัยมงคลคาถา
    คาถา : บทสวด
    พุทธ : ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
    ชัย : ชนะ สำเร็จ ผ่านล่วงมาได้
    มงคล : สิ่งที่ทำให้โชคดี นำมาซึ่งความสุขความเจริญ
    ต่อจากนี้ไป เป็นพุทธวิธีชนะมาร 8 วิธี
    ในบทสวดพาหุง (คัดลอกมาจาก พุทธชัยมงคลคาถา ของหลวงพ่อจรัล ฐิตธัมโม เพื่อเป็นพื้นฐานในการพิจารณาในบทต่อๆ ไป)

    5.1 ชนะด้วยทานบารมี
    เรื่องที่ 1 เริ่มจาก "พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสา……..ชะยะมังคะลานิ"
    พระจอมมุนี ได้ทรงชนะพญามาร ผู้นิรมิตแขนมากตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ ขี่คชสารชื่อครีเมขละ พร้อมด้วยเสนามาร โห่ร้องก้องกึก ด้วยธรรมวิธี คือทรงระลึกถึงพระบารมี 10 ประการ ที่ทรงบำเพ็ญแล้วมีทานบารมีเป็นต้น ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า (ท่าน) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    5.2 ชนะด้วยขันติบารมี
    เรื่อง 2 เริ่มจาก "มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะ……...ชะยะมังคะลานิ"
    พระจอมมุนี ได้ทรงชนะอาฬวกยักษ์ ผู้เข้ามาต่อสู้ยิ่งนักจนตลอดรุ่ง ด้วยวิธีที่ทรงฝึกฝนเป็นอันดี คือขันติบารมี ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า (ท่าน) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคล นั้น

    5.3 ชนะด้วยเมตตา
    เรื่องที่ 3 เริ่มจาก "นาฬาคิริง….ชะยะมังคะลานิ"
    พระจอมมุนี ได้ทรงชนะพญาช้างชื่อนาฬาคิริ เป็นช้างเมามันยิ่งนัก ดุร้ายประดุจไฟป่า และร้ายแรงดังจักราวุธ และสายฟ้า (ขององค์อินทร์) ด้วยวิธีรดลงด้วยน้ำ คือพระเมตตา ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า (ท่าน) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    5.4 ชนะด้วยอิทธิฤทธิ์ (อิทธิปาฎิหาริย์)
    เรื่องที่ 4 เริ่มจาก "อุกขิตตะขัดคะมะติหัตถะ…..ชะยะมังคะลานิ"
    พระจอมมุณี ทรงบันดาลอิทธิฤทธิ์ทางใจอันยอดเยี่ยมชนะโจรชื่อองคุลิมาล (ผู้มีพวงมาลัยคือนิ้วมือมนุษย์) แสนร้ายกาจ มีฝืมือ ถือดาบวิ่งไล่พระองค์ไปสิ้นทาง 3 โยชน์ ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า (ท่าน) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    5.5 ชนะด้วยการระงับใจ
    เรื่องที่ 5 เริ่มจาก "กัตตวานะ……..ชะยะมังคะลานิ"
    พระจอมมุนี ได้ทรงชนะคำกล่าวร้ายของนางจิญจมาณวิกา ผู้ทำอาการประหนึ่งว่ามีครรภ์ เพราะทำให้มีสัณฐานกลม (ผูกติดไว้) ให้เป็นประดุจมีท้อง ด้วยวิธีสมาธิอันงาม คือความสงบระงับพระหฤทัย ในท่ามกลางหมู่ชน ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า (ท่าน) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    5.6 ชนะด้วยปัญญาสั่งสอน
    เรื่องที่ 6 เริ่มจาก "สัจจัง วิหายะ……. ชะยะมังคะลานิ"
    พระจอมมุนี ทรงรุ่งเรืองแล้วด้วยประทีป คือปัญญา ได้ชนะสัจจกนิครนถ์ ผู้มีอัชฌาสัยในที่จะสละเสียซึ่งความสัตย์ มุ่งยกถ้อยคำของตนให้สูงล้ำดุจยกธง เป็นผู้มืดมนยิ่งนัก ด้วยเทศนาญาณวิถี คือรู้อัชฌาสัย แล้วตรัสเทศนาให้มองเห็นความจริง ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า (ท่าน) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    5.7 ชนะด้วยการมอบฤทธิ์ที่เหนือกว่าให้ศิษย์เอกไปจัดการ
    เรื่องที่ 7 เริ่มจาก "นันโทปะนันทะ…….ชะยะมังคะลานิ"
    พระจอมมุนี ทรงโปรดให้พระโมคคัลลานะเถระ พุทธชิโนรส นิรมิตรกายเป็นนาคราช ไป
    ทรมานพญานาคราช ชื่อ นันโทปนันทะ ผู้มีความหลงผิด มีฤทธิ์มาก ด้วยวิธีให้ฤทธิ์ที่เหนือกว่าแก่พระเถระ ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า (ท่าน) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    5.8 ชนะด้วยเทศนาญาณ
    เรื่องที่ 8 เริ่มจาก "ทุคคาหะทิฏฐิ…….ชะยะมังคลานิ"
    พระจอมมุนี ได้ทรงชนะพรหม ผู้มีนามว่า พกาพรหม ผู้มีฤทธิ์ สำคัญตนว่าเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์ มีความเห็นผิดประดุจถูกงูรัดมือไว้อย่างแน่นแฟ้นแล้ว ด้วยวิธีวางยาอันพิเศษ คือเทศนาญาณ ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า (ท่าน) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    5.9 บทส่งท้าย
    เริ่มจาก "เอตาปิ…สะปัญโญ"
    นรชนใดมีปัญญา ไม่เกียจคร้าน สวดก็ดี ระลึกก็ดี ซึ่งพระพุทธชัยมงคล 8 บทนี้ ทุก ๆ วัน นรชนนั้นจะ
    พึ่งละเสียได้ ซึ่งอุปัทวันตรายทั้งหลาย มีประการต่าง ๆ เป็นเอนกและถึงซึ่งวิโมกข์ อันเป็นบรมสุขแล


    http://www.budmgt.com/budman/bm02/bud-win-tech.html
     
  3. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,015
    ค่าพลัง:
    +17,915
    6. พุทธวิธีชนะมารในการบริหารงาน
    ตามที่สมเด็จพระพนรัตน์ แต่งบทสวดพาหุง : พุทธวิธีชนะมาร 8 บทนี้ ผู้เขียนเข้าใจว่า พระพุทธเจ้าคงมีวิธีมากกว่า 8 วิธี ที่เขียนอย่างนี้ ก็เผื่อว่าจะมีใครจะไปค้นคว้าพบแล้วจะได้นำมาเล่าสู่กันฟัง

    ผู้เขียนจะนิยาม "มาร" ในทางบริหารงานว่าเป็น "คู่แข่ง ศัตรู ฝั่งตรงข้าม ปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆในงาน ปัญหาในชีวิตและครอบครัว" เพราะชีวิตเราๆ คงไม่ต้องไปปราบมารผีร้าย ซาตาน คงไม่ต้องไปผจญกับยักษ์ ช้างป่าดุๆ โจรผู้ร้าย พญานาคราช หรือ พรหมใดๆ

    มารในทางพุทธมี 5 อย่าง เรียกว่ามาร 5 คือสิ่งที่ฆ่าบุคคลให้ตายจากคุณความดี สิ่งที่ล้างผลาญคุณความดี ตัวขัดขวางบุคคลไม่ให้บรรลุผลสำเร็จซึ่งความดีงาม มี กิเลสมาร (โลภ โกรธ หลง) ขันธมาร (ความเสื่อมของขันธ์) อภิสังขารมาร (จิตฝ่ายอกุศล) เทวปุตตมาร (ให้ลุ่มหลง) และมัจจุมาร (ความตาย)

    พุทธวิธีชนะมาร ในคาถาพาหุง มี 8 วิธีสรุปได้ดังนี้ ชนะด้วย ทาน ขันติ (ความอดทน) เมตตา อิทธิฤทธิ์ ระงับใจ ใช้ปัญญาสั่งสอน มอบฤทธิ์ที่เหนือกว่าให้คนทำแทน และชนะด้วยการเข้าไปนั่งในใจเขา
    เมื่อพอประสบเหตุการณ์หนึ่ง เราจะต้องพิจารณาว่า เหตุการณ์ใด ควรใช้วิธีการใดจึงจะสัมฤทธิ์ผล ต้องใช้ปัญญาไตร่ตรอง หากผู้ใดสนใจต้องการลึกซึ้ง ก็น่าที่จะหาเนื้อหาในแต่ละเรื่องทั้ง 8 เรื่องมาอ่านก็จะได้เก็บเกร็ดมาพิจารณาได้เป็นบทสอนใจได้

    6.1 วิธีการเอาชนะด้วยการให้ทาน
    วิธีนี้ใช้ปราบพญามาร เมื่อพิจารณาดูแล้ว พญามารนี้มีฤทธิ์มาก มีกำลังไพร่พลมากไม่ต้องการทำร้ายจริงๆ แต่ชอบหลอก หรือทดสอบจิตใจคน ไม่มีความแค้นใจกับใคร ชอบก่อกวนให้เกิดความเดือนร้อนรำคาญ และที่สำคัญมักมีนิสัยชอบอยากได้ของเล็กๆ น้อยๆ ทานปรากฎในหลักธรรมต่าง ๆ เช่นสังคหวัตถุ 4 (ข้อ1) บุญกิริยา (ข้อ1) ทศพิธราชธรรม (ข้อ1) บารมี 10 (ข้อ1)

    ในการบริหารงานธุรกิจ มักจะพบพวกม๊อบก่อกวน ต้องแก้โดยวิธีการให้ทาน ให้ของกำนัล ของติดไม้ติดมือ บางคนก็ต้องให้รางวัล แจกของขวัญ เป็นสิ่งจูงใจ เพื่อให้กำลังใจกัน บางคนก็ชอบสร้างปัญหา เพื่อสร้างความสำคัญให้กับตนเอง แล้วฝั่งตรงข้ามจะต้องเสียสละอะไรบางอย่างให้

    ทานนี้มี 3 อย่าง คือ วัตถุทาน อภัยทาน และธรรมทาน เขาขาดอะไรก็ให้สิ่งนั้น
    ผู้ให้ย่อมได้รับไมตรีตอบ เพราะฉะนั้น การให้จะทำให้ศัตรูกลายเป็นมิตรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าขายที่ชอบแจกชอบแถม ชอบให้ของแถม ปั๊มน้ำมันบางแห่งก็นิยมแจกกล่องทิชชู น้ำขวด ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบของแถม จนลืมการพิจารณาวัตถุประสงค์การซื้อ ว่าซื้อไปทำไม ซื้อแล้วก็เอาไปเก็บอีก ไม่ได้ใช้ประโยชน์

    เทียบกับงาน ก็คงเป็นงานที่ใช้วัสดุสิ้นเปลืองสึกหรอบ่อยๆ หมดเร็ว น่ารำคาญใจเดี๋ยวก็เบิกๆ ให้คิดถึงการให้ จัดให้เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ก็นึกถึงการใช้แบบประหยัดคุ้มค่าด้วย


    http://www.budmgt.com/budman/bm02/bud-win-tech.html
     
  4. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,015
    ค่าพลัง:
    +17,915
    6.2 วิธีการเอาชนะด้วยการขันติหรือความอดทน
    วิธีนี้ใช้ปราบอาฬวกยักษ์ นิสัยยักษ์ จะมีความดุร้าย ใจกระด้าง เหี้ยมโหด มีฤทธิ์มาก สามารถ
    ทำร้ายคนอื่นได้ง่าย มีอำนาจอยู่กับมือ พวกนี้ไม่มีความอดทน ชอบแกล้งคนอื่น ขันติอยู่ในหลักธรรมต่าง ๆ เช่น บารมี 10 (ข้อ 6) มงคล 38 (ข้อ 27) ทศพิธราชธรรม 10 (ข้อ 9) ฆราวาสธรรม 4 (ข้อ 3) โสภณกรณธรรม 2 (ข้อ 1)

    ในชีวิตประจำวันจะเห็นว่า สมัยตอนเด็กๆ เด็กนักเรียนที่ขี้แย มักจะถูกเพื่อนร้ายกลั่นแกล้ง หากพวกนี้ไปกลั่นแกล้งอีกคน แล้วทำเฉยๆ เขาก็ไม่สนุก แล้วก็จะเลิกแกล้งไปเลย เพราะไม่มีผลตอบสนอง สู้ไปแกล้งคนอื่นสนุกกว่า อีกตัวอย่างหนึ่ง สมัยก่อนโน้นเราไปติดต่อราชการเพื่อทำนิติกรรม ถูกข้าราชการแกล้ง ส่งเอกสารไปเขาก็บอกว่าขาดสำเนาบัตรประจำตัว เราก็ไปถ่ายเอกสารให้ ส่งไปตรวจอีกแล้วก็บอกว่าให้ภรรยามาเซ็นด้วย ก็ต้องกลับบ้านไปตามภรรยามาอีก อย่างนี้ไปเรื่อยๆ อย่างนี้ต้องอาศัยความอดทน เขาก็เห็นใจยอมให้ผ่านไป ขืนเราโวยวายเขาก็จะแกล้งเอาอีก เพราะอำนาจอยู่ในมือเขา

    ในการบริหารงาน นายบางคนชอบแกล้งให้ทำโน่นทำนี่ เป็นลูกน้องก็ต้องอดทน ใช้มาก็ทำไป ขืนไปอวดเก่งก็อาจถูกกลั่นแกล้งตัดคะแนนความประพฤติได้ ลูกค้าบางคนมีอำนาจมาก เป็นเอเย่นต์ตัวแทนจำหน่าย บางรายมีอำนาจทางการเมือง มีตำแหน่งการเมืองในจังหวัด มักชอบจุกจิก ชอบร้องเรียน ต้องการให้เราบริการดีๆ อย่างนี้อย่าฟิวส์ขาด ต้องอดทน ต้องมีหัวใจนักบริการ (Service Mind) มิเช่นนั้น จะขายของไม่ออก หรือไม่ก็เขาก็จะไปร้องเรียนกับนายของเราได้

    หากเทียบกับงาน ก็คงเป็นงานที่ชำรุดเรื้อรังหาสาเหตุไม่ค่อยได้ แต่มีผลกระทบต่อผลผลิต อย่างนี้ต้องใช้ความอดทนในการแก้ปัญหา สักวันหนึ่งก็คงชนะได้

    6.3 วิธีการเอาชนะด้วยความเมตตา
    วิธีนี้ใช้ปราบพญาช้าง เป็นช้างที่เมามัน ดุร้าย และแข็งแรงมาก สรุปง่ายๆ คือ พวกที่มีกำลังแต่สติปัญญาไม่สูงนัก ชอบใช้กำลังในการตัดสินปัญหา ชอบอาละวาด ทุบทำลายข้าวของ แต่ก็มีจุดอ่อนคือ ใจอ่อน หากพบคนที่ ทำดีให้ ก็จะรักมาก คล้ายนักเลงมือปืน ใจนักเลง ชอบว่าข้าเป็นลูกผู้ชายชื่อไอ้แผน พบคนถูกคอก็จะรักมาก หลักธรรมที่เกี่ยวกับเมตตา มีบารมี 10 (ข้อ9) พรหมวิหาร 4 (ข้อ1) เบญจธรรม 5 (ข้อ1)

    ในการบริหารงานอาจพบคนประเภทนี้ ในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน มีอะไรก็ชอบโวยวาย ฮึดฮัด อย่างนี้ต้องปราบด้วยเมตตา คือปรารถนาให้เขามีสุข เช่นมอบหมายให้เขาทำในสิ่งที่เขาชอบ กล่าวชมบ้าง ปลอบใจเขาบ้าง มีเมตตาก็อาจตามด้วยกรุณาบ้าง คือช่วยให้เขาพ้นทุกข์ คนที่มีอารมณ์ดุร้าย ส่วนใหญ่มักมีปัญหาที่จิตใจ มีความเครียด มีทุกข์ร้อนอยู่ภายใน เฉกเช่น เสือโคร่งมีหนามแหลมตำเท้าอยู่ ย่อมดุร้ายมาก

    หากเทียบกับงานก็เป็นงานที่เป็นของหนักๆ เช่นเครื่องจักรใหญ่ๆ เกียร์ใหญ่ๆ แถมมีสนิมจับ คดเบี้ยวอย่างนี้เราจะซ่อมงัดแบบแรงๆ ไม่ได้ ต้องหาวิธีถอดแบบนุ่มๆ ใช้ไฟอุ่น หรือใช้ยากัดสนิมออกก่อน (ชนะความแข็งด้วยความอ่อนนุ่ม)


    http://www.budmgt.com/budman/bm02/bud-win-tech.html
     
  5. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,015
    ค่าพลัง:
    +17,915
    6.4 วิธีการเอาชนะด้วยอิทธิฤทธิ์
    วิธีนี้ใช้ปราบโจรองคุลีมาล เป็นบุคคลที่มีฝีมือเก่งกล้า ในใจลึกๆ เป็นคนดี แต่สำคัญผิด คิดผิด
    จึงทำให้ดูเหมือนเป็นคนไม่ดี เพราะคิดผิด จึงไปทำผิด การที่จะสอนเขาโดยตรงในครั้งแรกทำไม่ได้เลย เพราะจะถูกทำร้าย หรือถูกโจมตีเอาก่อน เหมือนคนกำลังโมโห ย่อมไม่คุยด้วยเหตุผล ต้องหนีก่อน แล้วทำให้เขาคลายโมโหก่อน จึงค่อยคุยกัน อีกตัวอย่างหนึ่งเหมือนม๊อบกำลังคุ้มคลั่ง ยอมสู้แบบหัวชนฝา การเจรจาในช่วงนี้ย่อมไร้ผล

    ฤทธิ์ที่ใช้ก็คือพระพุทธเจ้าจะทรงเสด็จหนีแบบที่องคุลีมาลไล่ตามเท่าไรก็ตามไม่ทัน จนเหนื่อยอ่อน แล้วใช้ตรัสคำพูดที่สะกิดใจคือ "เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด" ทำให้องคุลีมาลหยุดไล่ตามแล้วหันมาเจรจาว่า "เป็นพระมาพูดโกหกได้ยังไง" ก็เห็นวิ่งหนีอยู่ กลายเป็นพระพุทธเจ้าทรงหยุดทำบาปแล้ว แต่องคุลีมาลยังทำบาปอยู่ คือคิดจะฆ่าคนอยู่อีก แล้วจึงค่อยทรงเทศนาสั่งสอนจนองคุลีมาลทูลขอบวชด้วย

    ในการบริหารงานอาจพบคนที่มีฝีมือดี เก่งกล่า หัวแข็ง เชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก ดื้อรั้น ชอบทำเอง คนอื่นสอนก็ไม่ฟัง หากพบลูกน้องอย่างนี้ต้องให้ไปทำงานที่เราเก่งกว่า และค่อนข้างยากสำหรับเขา พอเขาทำไม่ได้ หรือปล้ำทำอยู่จนเหนื่อยอ่อน เราก็ค่อยไปสอนเขา หากเจอดื้อหลายๆ ครั้ง นายอาจใช้ฤทธิ์ที่เหนือกว่า คือในฐานะผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษเลย อาจเป็นด้วยวาจา ปราม ตักเตือน ลงโทษ การขู่ให้กลัวหรือปลดออก

    ลูกค้าแบบนี้ก็มีมาก เรามักเรียกลูกค้ากลุ่มนี้ว่าลูกค้าผู้มีการศึกษาสูง (High Education) ซึ่งมีความรู้ พอมีเงินจนถึงมีเงินมาก ชอบจู้จี้จุกจิก ชอบติ บางครั้งมีความรู้มากกว่าเราเสียอีก แถมสอนเราอีกต่างหาก อย่างนี้เราต้องไปศึกษาว่าเขามีปัญหาอะไร เราก็ไปศึกษาเรื่องนั่นให้เก่งกว่าเขา วันหนึ่งเราก็ไปช่วยสอนเขาในสิ่งที่เราเหนือกว่า
    หากเทียบกับงาน ก็มีลักษณะนี้เช่นกัน เช่นการถอดเพลาออกจากเฟืองเกียร์ อาจต้องใช้แม่แรงระบบไฮดรอลิกซึ่งมีแรงมากกว่า เป็นตัวดันออกมา ซึ่งต้องพิจารณาแล้วว่าวิธีนี้ดีกว่าวิธีการอื่น เนื่องจากมีการออกแบบให้มีการถอดแบบนี้

    6.5 วิธีการเอาชนะด้วยการระงับใจ
    วิธีการนี้ใช้ปราบนางจิญจมาณวิกา ที่ต้องการใส่ร้ายป้ายสี ใส่ความพระพุทธเจ้า ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงใช้วิธีระงับใจท่ามกลางหมู่ชนในที่สุดความจริงก็ปรากฎ เมื่อพระอินทร์ทำให้ไม้กลมที่มัดไว้ที่หน้าท้องหลุดตกลงมา ความจริงจึงถูกพิสูจน์ปรากฎขึ้น

    ในการบริหารงานอาจพบคู่แข่งในสำนักงาน ขัดแย้ง ขัดขา เพื่อให้ตนนำหน้า โดยใช้การเมืองในสำนักงานมาใส่ร้าย ให้ใช้วิธีการระงับใจ เฉยๆ ไว้ ไม่ต้องสะดุ้งสะเทือน ในที่สุดความจริงก็ปรากฏ เพชรก็คือเพชร เพชรไม่ใช่ตะกั่ว
    บางครั้งคู่แข่ง อาจปล่อยข่าวว่าสินค้าของเราไม่ดี บางครั้งคู่แข่งเราให้บัตรสนเท่ห์ว่า เราคอรัปชั่น เราก็ระงับใจไว้ให้หาผู้เป็นกลางมาเป็นคนพิสูจน์ความจริง

    เมื่อเทียบกับงาน ข้อมูลในการผลิตหรือการทำงานมีอยู่มากมาย ที่อาจเป็นทั้งความจริง และความเท็จ ซึ่งอาจมาจากความไม่ตั้งใจก็ได้ เช่นเก็บตัวอย่างมาผิดวิธี จดเลขมิเตอร์ผิด อ่านผิด แล้วเอามาพิมพ์ผิด เครื่องชั่งวัดไม่เที่ยง ชั่งขาด ชั่งเกิน ข้อมูลก็ย่อมเป็นเท็จ เมื่อเราพบปัญหาแบบนี้ เราก็ต้องใช้วิธีการบริหารด้วยความจริง (Management by Facts)


    http://www.budmgt.com/budman/bm02/bud-win-tech.html
     
  6. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,015
    ค่าพลัง:
    +17,915
    6.6 วิธีการเอาชนะด้วยปัญญาสั่งสอน
    วิธีนี้ใช้ปราบสัจจกนิครนถ์ ซึ่งมีนิสัยชอบโกหกตอแหล คุยโวโอ้อวด ยกตนข่มท่าน ตัวเองดีหมด
    คนอื่นเลว ปราบโดยสั่งสอนเทศนาให้มองเห็นความจริงเป็นเช่นไร ก็จะอับอายยอมแพ้ ราบคาบ
    ในการบริหารก็มักจะพบคนประเภทนี้ในเพื่อนร่วมงาน ที่ชอบแสดงเอาหน้า ตี 2 หน้า ตลบตะแลง เข้าได้ทุกฝ่าย ชอบแต่งตัวเลข ชอบโม้ ชอบอวด ว่าตัวเองเก่ง คนอื่นด้อย อย่างนี้เราจำเป็นต้องพิสูจน์ให้เห็นความจริง เขาจึงจะยอมแพ้

    หากเทียบกับงาน ก็คงเห็นข้อมูลต้นทุนแปรผันดีมากเพราะโชว์อยู่แค่นี้ ที่ไหนได้มีการโยกย้ายไปที่ต้นทุนคงที่ ไม่ใช่เก่งจริง หรือเห็นเครื่องจักรดูเข้าท่า พอใช้ไปสักหน่อย เสียโน่นเสียนี่

    ธรรมที่เกี่ยวกับปัญญา มี อธิฏฐานธรรม 4 (ข้อ1) พละ 5 (ข้อ5) นาถกรณธรรม 10 (ข้อ10) บารมี 10 (ข้อ4) สัมปรายิกัตถประโยชน์ 4 (ข้อ4) เวลารัชชกรณธรรม 5 (ข้อ5) และอริยทรัพย์ 7 (ข้อ7)

    6.7 วิธีการเอาชนะด้วยการมอบฤทธิ์ที่เหนือกว่าให้ศิษย์เอาไปจัดการ
    วิธีนี้ใช้ปราบพญานาคราชนันโทปนันทะ โดยพระพุทธเจ้าทรงมอบฤทธิ์ที่เหนือกว่าพญานาคราชให้กับพระโมคคัลลานะเถระเอาไปจัดการ

    ในการบริหารมักจะพบว่าอาจมีข้าราชการ หรือผู้นำชุมชนท้องถิ่นมารบกวนกลั่นแกล้ง เราอาจใช้ลูกน้องที่เก่งกล้า แล้วมอบอำนาจให้ไปจัดการ ก็จะสำเร็จ หากพิจารณาแล้วว่ามือคู่แข่งไม่คู่ควรในการต่อกรกับเรา เป็นเรื่องของการใช้คน ไม่ต้องไปทำทุกเรื่อง เป็นการมอบอำนาจให้ (Empower)

    งานบางอย่างผู้จัดการแผนก และหัวหน้างานทราบปัญหาดี เพราะอยู่หน้างาน ดูอยู่ทุกวัน รู้ว่าเหตุเกิดจากอะไร แต่อำนาจจำกัด และนายไม่สนใจ หากปัญหานั้นนายให้ความสำคัญ ก็ใช้วิธีมอบอำนาจให้ผู้จัดการแผนก (Empower) ไปจัดการ หรือหากปัญหานั้นเป็นปัญหาเทคนิคสูง ก็อาจมอบอำนาจให้วิศวกรลงไปดู


    http://www.budmgt.com/budman/bm02/bud-win-tech.html
     
  7. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,015
    ค่าพลัง:
    +17,915
    6.8 วิธีการเอาชนะด้วยเทศนาญาณ
    วิธีนี้ใช้ปราบพกาพรหม ผู้ซึ่งเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก สำคัญผิดว่าตนเองบรรลุธรรมขั้นสูงแล้ว
    วิธีการปราบคือ ใช้เทศนาญาณ หรือสั่งสอนให้รู้ว่าเขายังไม่บรรลุธรรม โดยแสดงขั้นตอนญาณจนถึงขั้นสุดยอด มีอะไรบ้าง เมื่อทราบแล้ว ก็จะรู้ตัวเองว่ายังไม่ได้บรรลุธรรมขั้นสูงแต่อย่างใด

    เทศนา แปลว่า การแสดงธรรมสั่งสอน
    ญาณ แปลว่า ความรู้ ปรีชาหยั่งรู้ ปรีชากำหนดรู้
    ญาณ 16 คือญาณที่เกิดแก่ผู้บำเพ็ญวิปัสสนาโดยลำดับ ตั้งแต่ต้นจนถึงจุดหมายคือ มรรคผล นิพพาน มี 16 อย่าง ดังนี้


    1. ญาณกำหนดแยกนามรูป (นามรูปปริจเฉทญาณ)
    2. ญาณกำหนดจับปัจจัยแห่งนามรูป (ปัจจัยปริคคหญาณ)
    3. ญาณพิจารณานามรูป โดยไตรลักษณ์ (สัมมสนญาณ)
    4. ญาณพิจารณาเห็นความเกิดและความดับแห่งนามรูป (อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ)
    5. ญาณพิจารณาเห็นจำเพาะความดับเด่นขึ้นมา (ภังคานุปัสสนาญาณ)
    6. ญาณอันมองเห็นสังขารปรากฏเป็นของน่ากลัว (ภยตูปัฏฐานญาณ)
    7. ญาณคำนึงเห็นโทษ (อาทีนวานุปัสสนาญาณ)
    8. ญาณคำนึงเห็นด้วยความหน่าย (นิพพิทานุปัสสนาญาณ)
    9. ญาณหยั่งรู้อันให้ใคร่จะพ้นไปเสีย (มุจจิตุกัมยตาญาณ)
    10. ญาณอันพิจารณาทบทวนหาทาง (ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ)
    11. ญาณอันเป็นไปเพื่อความเป็นกลางแห่งสังขาร (สังขารุเปกขาญาณ)
    12. ญาณเป็นไปโดยควรแก่การหยั่งรู้อริยสัจจ์ (สัจจานุโลมิกญาณ)
    13. ญาณที่ข้ามพ้นภาวะปุถุชน (โคตรภูญาณ)
    14. ญาณในอริยมรรค (มัคคญาณ)
    15. ญาณในอริยผล (ผลญาณ)
    16. ญาณที่พิจารณาทบทวน (ปัจจเวกขณญาณ)


    http://www.budmgt.com/budman/bm02/bud-win-tech.html
     
  8. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,015
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ในการบริหารเรามักจะพบคนเก่าที่มักลองภูมิเพื่อนร่วมงานคนใหม่ หรือนายคนใหม่ เรียกว่า
    "ชอบลองของ" เพราะคิดว่าตัวเองแน่ เจนจบ เป็นเจ้าถิ่น ผู้มาใหม่จึงจำเป็นต้องแสดงฝีมือว่าตัวเราเองก็มีดีเหมือนกัน แล้วรู้แจ้งแทงตลอดมากกว่า สามารถสั่งสอนสิ่งที่แท้จริง รู้โลกมากกว่า ให้กับเขาได้ เป็นที่พึ่งให้เขาได้ เขาก็จะยอมมาสวามิภักดิ์ เป็นลูกน้องที่ดีต่อไป เหมือนม้าพยศ ต้องปราบให้หายพยศก่อน แล้วม้าพยศก็จะเป็นม้าดีในที่สุด

    สุดท้ายนายช่างวีระพล สูตรสุคนธ์ ได้ส่งความหมายพุทธวิธีชนะมาร มาให้พิจารณา ตามตารางข้างล่าง

    7. บทส่งท้าย
    ในการบริหารงานก็ย่อมพบปัญหา เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าผจญมาร และวิธีการที่พระพุทธเจ้าใช้ปราบมารก็สามารถนำมาใช้ในการปราบความขัดแย้ง การแก้ปัญหางาน การแก้ปัญหาคนในองค์กร หรือการแก้ปัญหาลูกค้าก็ได้ การเลือกใช้วิธีการต่างๆ นั้น จะต้องพิจารณาจากอุปนิสัยของคู่แข่ง คู่ต่อสู้ หรือคู่ต่อกรด้วยว่า มีนิสัยเช่นไร มีความเชื่ออะไร มีจุดอ่อนอะไร แล้วจึงค่อยเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมมาใช้ปราบหรือแก้ปัญหางาน ปัญหาคนได้เป็นอย่างดี


    การทำงานเป็นหมู่เหล่า หรือทำด้วยกลุ่ม (Teamwork) และการทำงานประสานกับหน่วยงานอื่น มิอาจหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งในรูปแบบต่างๆ มิได้ พุทธวิธีชนะมาร อาจเป็นประโยชน์ในการปรับใช้งานได้เป็นอย่างดี


    พุทธวิธีบริหาร
    Buddhist Style in Management

    พุทธวิธีชนะมาร (BuddhistWinnerTech)


    http://www.budmgt.com/budman/bm02/bud-win-tech.html
     
  9. Tenpokensin

    Tenpokensin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2007
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +1,639
    อนุโมทนาครับ เอาธรรมะมาใช้ในชีวิตจริง ๆ


    ผมก็สวดเกือบทุกคืนครับ เป็นบทสวดที่มีคุณมากจริง ๆ สาธุ
     
  10. อดีตโก

    อดีตโก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +1
    สาธุครับมีคำแปลอย่างละเอียด
    เอาตรงท่องได้แปรได้แปดบทดีมากครับท่องแล้วไม่แปรตามบางทีมือมันไปก่อนครับ เรื่องนี้เจอกับตัวเองเลยนะครับ
     
  11. กระติ๊บ

    กระติ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +940
    ขอบคุณมากเลยนะคะ ที่เอาคำแปลกับการประยุกต์ใช้มาเผยแพร่แบบนี้
    มีประโยชน์ มากเลย อนุโมทามิ......
     
  12. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,015
    ค่าพลัง:
    +17,915
    สาธุ ... ดีก็เป็นธรรมะ ชั่วก็เป็นธรรมะ ... แต่ธรรมอย่างไรควรละ...ธรรมอย่างไรควรเจริญ...ก็พิจารณากัน...
     
  13. มารพรหม

    มารพรหม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +17
    555 สาธุ

    อย่าใช้ด้วยจิตมารก็แล้วกันครับ เพราะหากใช้ด้วยจิตมาร จะกลายเป็นทำเพื่อหวังผลประโยชน์เท่านั้น ขาดความจริงใจต่อกันครับ เลยมีแต่เล่ห์เหลี่ยม
    อันเป็นวิสัยที่ไม่สมควรให้เกิดมีครับ
     
  14. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,015
    ค่าพลัง:
    +17,915
    โมทนา สาธุๆ ครับ ^-^ :boo: ;) :d
     

แชร์หน้านี้

Loading...