พระไตรปิฏกมิเคยกล่าวถึงเรื่องเมืองพระนิพพาน...การนำเสนอของข้าพเจ้าย่อมมีประโยชน์มิใช่

<TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>ทำไมกระผมถึงต้องโพสหรือ?
1.กระผมคิดว่าข้อความในพระไตรปิฏกที่นำมาโพส เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านอีกหลายท่านที่ได้ศึกษา
2.กระผมเป็นผู้มีจิตหวังดี มุ่งหวังรักษาพระสัทธรรม คำสอนอย่างแท้จริง ในพระไตรปิฏก
3.หากไม่ถูกใจใคร โปรดมองผ่านไป แต่ขอให้ผู้อื่นได้ศึกษาเถอะครับ


ขอกล่าว ธรรมวิจัย โปรดพิจารณา
คำสอนในพระไตรปิฏก มีคุณค่ามากที่สุด เป็นแก่นสาร เป็นสาระสำคัญในการที่จะศึกษาให้เข้าใจมากที่สุด ก่อนที่จะนำไปปฏิบัติ เพราะพระผู้มีพระภาคเป็นผู้ตรัสรู้ธรรม แสดงธรรมอันลึกซึ้ง และมอบธรรมไว้เป็นพระศาสดาแทนพระองค์
ผู้ที่เน้นปฏิบัติ โดยไม่ศึกษาให้ดีพอ หรือศึกษา จากความเข้าใจผิด ย่อมปฏิบัติผิด และสืบทอดคำสอนผิดๆต่อไป อันนำไปทำให้เกิดความเสียหายต่อตนเอง และพระพุทธศาสนาต่อไป(นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ผมขออนุญาติโพส)
ข้อพิจารณาต่อไป.......ในพระสุตตันตปิฏก(42000 พระธรรมขันธ์) ทั้งหมด ไม่มีข้อความใดที่กล่าวถึงเมืองนิพพาน เลย ไม่มีกล่าวไว้แม่แต่น้อย ในเรื่องภายหลังปรินิพพานของพระพุทธเจ้าองค์ใดๆ
พระพุทธองค์ ทรงสนทนาธรรมกับมนุษย์ เทวดา มาร พรหม
แต่ไม่เคยมีตอนใด ที่ทรงตรัสสนทนากับ พระพุทธเจ้า หรือ พระอรหันต์ ที่นิพพานไปแล้วเลย
แม้พระอรหันตสาวก จำนวนมากมาย ที่มีนามเขียนไว้ปรากฏในพระสูตร ก็ไม่มีท่านใดกล่าวถึงเมืองพระนิพพาน หรือกล่าวว่า ได้สนทนาธรรมกับท่านใดภายหลังปรินิพพานเลย
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
ในพระอภิธรรม(21000 พระธรรมขันธ์) ทรงบัญญัติชื่อเรียกต่าง ให้เข้าใจไปในทางเดียว บัญญัติ ประเภทของสัตว์โลกทุกประเภทจนถึง พระอรหันต์ แต่มิเคยได้บัญญัติถึงพระพุทธเจ้า หรือพระอรหันต์ ที่ ภายหลังนิพพานแล้วเลย
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ทั้งๆที่พิจารณา แล้ว ก็น่าจะมีประโยชน์ เพราะ พระพุทธองค์ก็ทรงมุ่งสอนให้เข้าถึงพระนิพพาน แต่ทำไมไม่กล่าวถึงน่ะหรือ
ก็เพราะ สิ่งนั้น คือเมืองนิพพานไม่มี พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ สาวก นิพพานแล้ว ดับขันธ์แล้ว ไม่มีขันธ์แล้ว
จะบัญญัติ ได้อย่างไรเล่า จะเอาสิ่งใดมาบัญญัติได้เล่า
ถ้านิพพานเป็นของทิพย์อย่างที่เข้าใจผิดๆกัน ก็ไม่ต่างอาไรจากภพภูมิทิพย์หนึ่งเท่านั้นเองครับ ถ้ายังติดต่อ ในพระนิพพานได้อยู่ ท่านผู้นั้นก็ยังมีจิตเกิดดับอยู่ ประกอบด้วยขันธ์ หรือรูป นาม นั้นอยู่ ซึ่งก้อแสดงว่ายังมิได้ดับขันธ์นิพพาน อย่างแท้จริง
ผมว่า ข้อวิจัย นี้ น่าจะมีประโยชน์กับ ผู้ศึกษา เป็นอย่างยิ่งครับ และวอนเจ้าของบอร์ด หากท่านยังคิดว่า สิ่งที่ฟังมาเรื่องเมืองนิพพานนั้นถูกต้อง หรือปฏิบัติจนเห็นเอง(ซึ่งผมก้อไม่รู้ว่าเห็นภูมิทิพย์ไหนแล้วเข้าใจว่าเป็นเมืองนิพพาน และก้อนำมาบัญญัติ มาสอนกันนอกเหนือคำสอนในพระไตรปิฏก)
ท่านก็ปฏิบัติต่อไปเถอะครับ...
แต่ขอให้ผู้อื่นๆได้มีโอกาสศึกษาข้อความนี้ โปรดใจกว้างครับ ขออนุโมทนา ขอบคุณครับ.</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

มิได้ว่า หรือเพ่งโทษใครหรอกครับ เพียงแต่ต้องการให้ เกิดข้อคิดสำหรับผู้เข้ามาอ่านครับ ...อนุโมทนา ผู้มีปัญญาย่อมทราบดีครับ

 

ผมกล่าว ว่าท่านเข้าใจผิดเรื่องแดนพระนิพพานครับ พระนิพพานมีอยู่ แต่ไม่มีเมือง ไม่มีแดน หรอกครับ แค่นั้นเองครับ

 

ถ้าผมไม่กล่าวแบบนั้น และนำพระไตรปิฏก มาอ้างอิง แล้วจะมีคนได้ศึกษาไหมละครับ หรือจะเชื่อ ตามๆกันไป...อนุโมทนาครับ

 

ผมเองความรู้ทางพระไตรปิฏกน้อยมากครับ อยากเรียนถามคุณ Narit เรืองคัมภีร์วิสุทธิมรรค ว่ากล่าวถึงพระนิพพานไว้ด้วยไหมครับว่าเป็นแดนรึเปล่า

 

วิสุทธิมรรค เขียนขึ้นภายหลังครับ ผมก้อเคยศึกษา บ้าง แต่ผมคิดว่าศึกษาจากพระไตรปิฏก โดยตรงเลยจะดีกว่า เลยไม่ค่อยเข้าใจในวิสุทธิมรรคเท่าไรครับ ...ขออภัยด้วย

 

ในเวลานั่งสมาธิภาวนาจิตตกลงสู่ภวังค์แล้ว เผลอสติ บังเกิดนิมิตเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้น ก็มี หรือไม่เผลอสติ จิตเป็นขณิกสมาธิ อุปจาระสมาธิ อัปปนาสมาธิ ย่อมมีนิมิตต่าง ๆ บังเกิดขึ้น ปรากฏเห็นชัด ในจักขุทวาร มโนทวาร

นักปฏิบัติบางจำพวก กระทำปุพพภาค แห่งการปฏิบัติเบื้องต้น ไม่ถูกต้อง จะทำโลกุตตระให้แจ้ง ก็ทำไม่ได้ เมื่อนั่งสมาธิภาวนา ได้แต่เพียงนิมิตสมาธิ ภาวนา คือได้เห็นนิมิตต่าง ๆ มาปรากฎ ในจักขุทวาร มโนทวารเท่านั้น ก็ดีใจบังเกิดถือทิฏฐิมานะว่าตนได้รู้ได้เห็น และได้สำเร็จมรรค ผล ธรรมวิเศษชั้นนั้น ๆ ไม่รู้เลยว่าตนเป็นผู้หลงติดข้องอยู่ในชั้นโลกีย์ ไม่ใช่ชั้นโลกุตตระ

 

สาธุ ๆ กับคุณโนบอดี้ครับ และคุณนาริท ที่ได้ ยกเอา ข้อความในพระไตรปิฎิกมาชี้แจงครับผม แต่ ขอนะครับ ถือว่ากระผมหวังดี ละกัน ครับ ว่า อย่าปรามาศเลยผู้ทรงศีลเหนือกว่า หรือแม้กระทั่ง ถ้าคุณคิดว่า หลวงพ่อฤาษีและหลวงตามหาบัวกล่าวผิดเกี่ยวกับพระนิพพาน ก็เป็นความคิดเห็นของคุณไม่มีใครสามารถโต้แย้งครับ ตามแต่กรรมเป็นตัวพาไป
อย่างน้อยอยากให้ผู้มีปัญญาจงพิจารณาโดยโยนิโสนมสิการ นะครับ เป็นห่วงจริงๆ


NB: --->We can know some people who are claimed himself better than many people by .... claimed the others for compare their self ...Is it good?

 

อ้อ.ขอฝากผู้เจริญทุกๆท่าน สังเกตการละ สังขาร ของพระอริยเจ้าทั้งหลาย คงเหลืออะไรที่เป็นปาฏิหารย์ ถึงไม่เหลือ ปาฏิหารย์ แต่การละสังขารอย่างสงบ ก็เป็นข้อเปรียบเทียบที่ดีครับ ผมจำได้ว่า มีพระหลายรูปที่เป็นพ่อค้าคำพูดที่ก่อให้เกิดมิจฉาทิฐฐิ มากมายนั้น การละสังขารของท่านเหล่านั้นถึงกับต้อง defrib.อะครับ คือไปไม่สงบครับ

 

พิจารณาตามพระไตรปิฏก เถอะครับ อนุโมทนา อย่าสอนหรือ บัญญัติ อาไรที่นอกเหนือจากพระไตรปิฏกเลย
จะทำให้เกิดมลทิน จดจำผิดๆ บาปกรรม ต่อไป
พระไตรปิฏก เป็นธรรมะแท้จริง ผู้ปฏิบัติตามสามารถบรรลุมรรคผลนิพพาน ที่แท้จริงได้คัรบ

 

นิพพาน เป็น ธรรมเหนือโลก หาที่ตั้งไม่ได้ แต่มีอยู่จริง ทีว่าเป็นแดนเป็นสภาพ ผมก็ฟังๆ อยู่ ผมไม่ปักใจเชื่อ 100 เต็มหรอก

แต่ผมชอบ แนวคิด เอานิมิตที่เห็น มาเป็นประโยชน์ สร้างกำลังใจในการ ปฏิบัติธรรม คนที่เชื่อแนวนี้ ผมเห็น เขาก็ตั้งใจทำความดีกันทุกคน กลุ่มนี้กลุ่มใหญ่เลย ของมันทำแล้วต้องมีดีสิครับ

นิมิตบนโลก ของลวงทั้งนั้น กรรมฐาน 40 กอง ก็ของลวง เป็นมายาครับ แต่ตราบใดที่ยังก้าวไม่ถึง เราก็ต้องเอาของลวง บนโลก มาทำประโยชน์ เป็นพาหนะ เข้าฝั่งครับ ถึงฝั่งแล้วค่อยว่ากัน

ผมเชื่อ เทคนิคนี้เต็มๆ 100 ครับ ในแง่ เป็นอุบายในการนำคน สร้างกำลังใจคน มองการปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องง่าย เข้าถึงง่าย โดยเฉพาะ การทรงอารมณ์ ละตัวละตน ละขันธ์ 5 ทุกนาที จิตจับอารมณ์กรรมฐานตลอด ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา เขาก็มีครับ

มองธรรม คือ ชีวิต ชีวิต คือ การปฏิบัติธรรม สร้างความดี เพื่อ นิมิต สิ่งที่เขาเห็น ผมเชื่อในเทคนิคนี้ ว่า เป็นอุบายจูงคนที่สุดยอดครับ

ไม่สน นิพพาน จะ เป็น อย่างไร เป็นบ้าน เป็นแดน แต่สนคือ

1. เทคนิค และ อุบายในการเข้าถึง
2. เขาทำความดี ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา
3. เชื่อ นรก สวรรค์ นิพพาน กรรม ไม่ มิจฉาทิฐิ
4. มองนิพพานเป็นเรื่อง ง่าย สร้างกำลังใจในการปฏิบัติ
5. ทำความดี อย่างน้อย ก็ สวรรค์ แล้ว สวรรค์บนดินครับ ความสุขในปัจจุบันก็ได้ ตายไปก็ได้
6. เป็นกำลังในการสืบทอด ศาสนา ต่อๆ กันไป


และที่สำคัญ คุณไม่ใช่ จริตแบบ นี้ เลยไม่ชอบ ก็ไม่แปลก อาจไม่ใช่สายคุณ ต่างสาย ต่างความคิด ถ้าไม่เปิดใจ ยอมรับความต่าง คุยกัน ไม่รู้เรื่องหรอกครับ

จุดที่คุณตีกระทบ สำหรับผม แล้ว น้ำหนักมันน้อยครับ ผมมอง รายละเอียด สิ่งที่เขาทำมากกว่า ผมตามและศึกษาแนวนี้มาตลอด คิดหลายรอบ ผมก็ชั่งน้ำหนัก ความดี ให้ 100 เต็ม

นิพพาน เป็น ของจริง ไร้ลักษณ์ ไร้รูป หาที่ตั้งไม่ได้ แต่ มีจริง
นิมิต เป็น ของลวง และ ต้อง เอานิมิต เป็น แพ ข้าม เกาะนิมิต เพื่อ จุดหมาย
__________________

 

อนุโมทนาครับ....คุณ ไรเดอร์ พูดได้ดีครับ
ประเด็นสำคัญ อยู่ที่ว่า ผู้ที่ไม่ใจเข้าแบบคุณ จะยึดถือ เป็นเรื่องราว แล้วพระไตรปิฏก จะผิดไป
มีการบัญญัติ คำสอนของสมเด็จองค์ปฐมขึ้นมาใหม่ หรือจูงใจ โดยไม่สนใจที่จะศึกษาพระไตรปิฏก ที่แท้จริง อันนี้เป็นภัยของผู้มาใหม่ และ ภัยของศาสนา ครับ คนเก่าๆผมมิได้อยากไปเปลี่ยนความคิดเขาหรอกครับ และก้อคนที่เข้าใจดีแบบคุณ ก็ ดีอยู่แล้วนี่ครับ แต่ขอให้เข้าใจเรื่องการดับกิเลส ดับทุกข์อย่างแท้จริง ถ้ามุ่งสู่พระนิพพาน มิฉะนั้นจะไปไม่ถึง ไม่รู้จุดหมาย แล้วจะไปถึงได้อย่างไรละครับ....แต่ทำดีก้อดีแล้ว ผมมิได้ ขัดขวางการทำดีของใครเลยครับ

 

ใบไม้ในกำมือคุณยังรู้ไม่หมด...การปฏิบัติคุณทำได้แค่ไหนถึงกล้าบอกว่าหลวงตาสอนผิดทั้งที่ท่านปฏิบัติแบบเอาชีวิตเข้าแลกถึงได้เนื้อธรรมมาสั่งสอนคน

 

ไม่ทราบ ไม่กล้าพูดครับ เดี๋ยวตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิด

 

คุณ narit กับ คุณผู้หวังดี ใช่คนคนเดียวกันหรือเปล่า
ถ้าใช่ ก็บอกว่าใช่ นะครับ ผมไม่ว่าหรือตำหนิอะไรคุณหรอก คนอื่นเค้าอยากรู้
ถ้าไม่ใช่ก็คงจะเป็นแฝดคนละฝากัน ที่เผอิญมาเหมือนกัน

 

น่าจะได้ข้อสรุปนะครับว่า ผู้หวังดี ในบอร์ดคนเมืองบัว narit ในบอร์พลังจิต รักษ์สัทธรรม และอื่นๆ ในบอร์ดต่างๆ เป็นคนเดียวกันกับ เว็ปมาสเตอร์ของ http://apinyatatip.cyber2host.com/ ที่มีบอร์ด คือ http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vboard.php?user=apinyatatip

หลังจากมีผู้รู้ที่มาของคนผู้นี้ กระทู้ป่วนต่างๆ หายไปเลยครับ ในบอร์ดคนเมืองบัว อาจมีการลบกระทู้ แต่ในพลังจิต ไม่มีการลบ ก็ไม่เข้าไปป่วนอีก

น่าขำดีนะครับ ของตัวเองเพี้ยนหนักกว่าชาวบ้านอีก เที่ยวไปว่าชาวบ้านเขา มีการบอกว่า ดูสวรรค์หรือนรกครบกี่ครั้งก็ไม่รู้ล้างบาปได้ ลองอ่านดูนะครับจากhttp://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=5&highlight=%BE%D4%C1%BE%D2

 

คำสอนที่ถูกต้องเชิญศึกษาได้จากครูบาอาจารย์ของ คุณnarit จากhttp://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=5

คำสอนที่ถูกคือ เผาบัญชีบาปได้ เลยว่าพระได้ ไม่ตกนรก นี่เป็นคำสอนของครูของnaritทั้งหลาย เก่งกว่าพระพุทธเจ้าอีก

 

อันไหนไม่ทราบจริง ก้ออย่าเสี่ยงกล่าวเลยครับ มันเสี่ยงนรกเกินไป....

 

ไม่เป็นไรผิดพลาดอย่างไร ค่อยไปเผาบัญชีบาปเอา

 

ตามสบายครับ...นรก กว้างขวางพอ..อยากพูด อยากทำอาไร ก้อทำไปเถอะครับ