เรื่องเด่น พระเมตตาธิคุณของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 27 กุมภาพันธ์ 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,667
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +70,508
    ?temp_hash=429ee468b32cf0f55c7bb05e21b9b420.jpg


    พระเมตตาธิคุณของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า

    พระอาจารย์กล่าวว่า "...องค์พระปัจเจกพุทธเจ้าต้องการให้พวกเราทุกคน เข้าใจถึงวิธีในการเจริญภาวนาคาถาเงินล้าน เพื่อให้เกิดผลสูงสุด ที่จะพึงมีพึงได้ตามวาสนาบารมีของแต่ละคน ดังนั้นขอให้ทุกท่านตั้งกายให้ตรง แต่ไม่ใช่เกร็ง เวลาหายใจเข้า นึกถึงคาถาเงินล้านที่เราภาวนา ไหลตามลมหายใจเข้าไป จนสุดลมหายใจของเรา ให้อยู่ตรงนั้น นั่นคือศูนย์กลางกาย
    ให้ทุกคนขยับโยกหน้าโยกหลัง หาความตรงพอดี ๆ ให้เป็นศูนย์กลางของเรา เสร็จแล้วคำภาวนาทั้งหมดของเรา ให้กำหนดจดจ่อลงตรงนั้น โดยใช้สมาธิเพียงเบา ๆ ท่านที่ทรงสมาธิในระดับใช้งานได้จะเข้าใจตรงจุดนี้เลย แต่ถ้าหากว่าท่านที่ยังไม่เข้าใจ ให้รู้สึกเหมือนลมหายใจแตะแผ่ว ๆ อยู่ตรงศูนย์กลางกาย แล้วภาวนาคาถาเงินล้านของเราไปเรื่อย ๆ
    องค์พระปัจเจกพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ว่า ถ้าใครสามารถทำอย่างนี้ได้ต่อเนื่องกัน วันละประมาณ ๑ ชั่วโมง จะมีความคล่องตัวมาก จะทำงานใหญ่ขนาดไหน เงินทองก็จะไม่ขาดมือ ยิ่งถ้าเป็นบุคคลที่เริ่มด้วยทานบารมีมาตั้งแต่อดีต ทรัพย์สินเงินทองจะไหลมาเทมามากเป็นพิเศษ
    ดังนั้น..ให้ทุกคนขยับหาจุดกึ่งกลางของเราที่พอดี โดยไม่ต้องเกร็งตัวเอง กำหนดความรู้สึกทั้งหมด พร้อมลมหายใจและคาถาเงินล้านของเรา ให้ลงไปที่กึ่งกลาง ให้ออกมาจากกึ่งกลาง โดยให้สัมผัสเพียงเบา ๆ เท่านั้น ให้รักษาอารมณ์ใจอย่างนี้ไว้จนกว่าจะได้ยินเสียงสัญญาณบอกหมดเวลา
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    (หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน)
    เก็บตกงานหล่อพระ วัดเขาวง ๓๐ เมษายน- ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓


    ขอบคุณ https://www.facebook.com/Phutthanussatiamulet/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,667
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +70,508
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,667
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +70,508
     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,667
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +70,508
    ต้องบอกกับญาติโยมว่า เศรษฐกิจปีนี้ค่อนข้างจะแย่ถึงแย่มาก ดังนั้น..ถ้าพวกเราสามารถที่จะหาสิ่งทดแทน ก็คือการภาวนาพระคาถาเงินล้าน เพื่อความคล่องตัวในความเป็นอยู่ ถ้าหากว่าเราไม่รู้จักทำทดแทน ก็อยากจะบอกว่าเสียทีที่เกิดมา..! เนื่องจากว่าปัจจุบันนี้ที่อาตมาพบเห็นมา ส่วนใหญ่แล้วญาติโยมมักง่าย ติดสบายจนเกินเหตุ ไม่ยอมลงทุนลงแรงอะไรทั้งนั้น พอชีวิตลำบากก็ไปหาหมอดูเปลี่ยนชื่อ ถามว่าใช่หรือ ? มีอะไรที่เราขวนขวายด้วยตัวเราเองบ้างไหมที่จะให้ชีวิตนี้ดีขึ้น ?
    แม้กระทั่งการสวดมนต์ภาวนาที่ทำแล้วมีแต่คุณประโยชน์ เราก็ไม่ทำกัน เพราะว่าทำแล้วลำบาก ต้องบังคับตัวเอง ต้องทำทุกวัน สู้เปลี่ยนชื่อไม่ได้..ง่ายดี สู้ไปหาร่างทรงไม่ได้ ไปไหว้ไอ้ไข่ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่..!
    ในเมื่อเรามักง่าย ชีวิตเราก็จะยาก แต่ถ้าเรายอมทนลำบาก ก็จะเป็นอย่างที่โบราณท่านว่า “ลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ” บรรดาเพื่อนพระสังฆาธิการก็ดี ผู้บังคับบัญชาก็ดี ท่านถามว่า “ทำไมอาจารย์เล็กทำอะไรสะดวกคล่องตัวไปหมด ?” ก็กราบเรียนถวายไปว่า “ก่อนที่ผมจะสะดวกคล่องตัวแบบนี้ ผมทุ่มเทปฏิบัติมาชนิดที่แทบจะไม่ได้กินไม่ได้นอนมานานครับ”
    โดยเฉพาะเรื่องของพระคาถาเงินล้าน อาตมาภาวนาแบบสบาย ๆ ทุกวัน วันละ ๓๖๐ จบ เป็นเวลา ๓ ปีเต็ม ๆ แล้วก็เคยลองเร่งรัดดูว่า ถ้ามากกว่านั้นผลจะเป็นอย่างไร ก็มี ๔๘๐ จบ ๖๐๐ จบ ๗๒๐ จบ ๙๖๐ จบ ไปถึง ๑,๒๐๐ จบต่อวัน มีใครทดลองขนาดนี้บ้าง ? ไม่มีหรอก เพราะว่าขนาด ๑,๒๐๐ จบนี่เริ่มตั้งแต่ตี ๓ ไปเลิกเอา ๑ ทุ่มทุกวัน เป็นเวลา ๒ เดือนกว่าเกือบ ๓ เดือน ไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย นอกจากฉันมื้อเดียวประมาณ ๑๐ กว่านาที แล้วก็ไปห้องน้ำ แม้กระทั่งอยู่ในห้องน้ำก็ภาวนา นี่คือการที่เรายอมลำบากก่อน เมื่อถึงเวลาแล้วผลที่เกิดขึ้นมาสนอง จนกลายเป็นความคล่องตัวในปัจจุบัน
    สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ พวกเรามาเห็น เพื่อนฝูงมาเห็น ผู้บังคับบัญชามาเห็น ตอนที่ทุกอย่างประสบความสำเร็จแล้ว แต่ไม่ได้เห็นตอนที่ยากลำบาก เดินจงกรมจนพื้นเป็นร่อง เดินภาวนาทั้งวันจนฝ่าเท้าแตก หรือภาวนาไม่ได้กินไม่ได้นอนเป็นวันเป็นคืน เพราะว่าต้องการทดสอบหลายอย่างด้วยกัน อย่างแรกก็คือ กำลังสมาธิของเรายืนหยัดได้นานเท่าไร ? ก็ได้ ๑๑ วัน ๑๑ คืน ลองดูได้นะ ๒๐๐ กว่าชั่วโมงเท่านั้น..!
    แล้วถ้าหากว่าเราทรงสมาธิตั้งเวลาแต่ละช่วง นานเท่าไรที่จะไม่ลำบากตัวเรามากนัก ? ช่วงละประมาณ ๔ ชั่วโมงจะเหมาะสมที่สุด แล้วการเข้าสมาธิภาวนาของเรา ถ้าเรากำหนดใจมุ่งมั่นว่าไม่ครบ ๑,๒๐๐ จบ เราจะไม่เลิก สมาธิก็จะทรงตัวต่อเนื่องแล้วไปคลายเอาจบสุดท้าย เท่ากับเป็นการซักซ้อมการทรงสมาธิแบบตั้งเวลา และท้ายที่สุด ส่วนที่เป็นผลพลอยได้ก็คือความคล่องตัวที่เกิดขึ้น
    ดังนั้น..พวกเราที่ไม่ช่างค้นคว้า ไม่ขี้สงสัย ขอให้ทำตามก็ยังดี ไม่ต้องมากมายถึงขนาดที่อาตมาเคยทำ บอกแล้วว่าขอแค่ ๑๐๘ จบต่อวัน ถ้ารู้สึกว่ามากไปก็แบ่งเป็น ๓ ช่วง ช่วงละ ๓๖ จบเท่านั้น ก็จะไม่หนักเกินกำลังของพวกเรา แต่คราวนี้ก็อย่างที่ว่า พวกเราส่วนใหญ่แล้วมักง่าย อะไรลำบากไม่ทำ ในเมื่อเป็นอย่างนั้นถึงเวลาแล้วเราลำบาก ก็ต้องบอกว่าโทษใครไม่ได้ ถ้าเราใช้ความพยายามได้เพียงพอ มั่นใจเลยว่าในหมู่ลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุง จะไม่มีใครลำบากในเรื่องของการทำมาหากิน หรือว่าเรื่องของความสะดวกคล่องตัว เพียงแต่ว่าเรายอมทนลำบากหรือไม่ ?
    สมัยหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค เราจะเห็นตัวอย่างก็คือท่านนายห้างประยงค์ ตั้งตรงจิตร ตัวอย่างของลุงแจ่ม เปาเล้ง ที่ทำพระคาถาพระปัจเจกโพธิโปรดสัตว์ได้สำเร็จ หรือแม้กระทั่งนายเฉลิม คงทอง เราก็จะเห็นว่ามีแค่ไม่กี่คน ก็แปลว่าบุคคลที่ยอมทนลำบาก ยอมเหนื่อยในช่วงแรก จะประสบความสำเร็จทุกคน
    พอมาถึงรุ่นของหลวงพ่อวัดท่าซุง อาตมาเองเห็นว่ารุ่นหลวงปู่ปานมีบุคคลตัวอย่าง รุ่นหลวงพ่อวัดท่าซุงยังไม่มี ในเมื่อไม่มีเราก็ไม่ต้องรอคนอื่น เราก็ทำเสียเอง แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นแรงบันดาลใจเริ่มต้นนอกจากตัวคาถาที่ช่วยให้ความคล่องตัวแล้ว ก็คือพี่ชายที่แสนดี หลวงตาวัชรชัย ท่านจะคอยกระตุ้นน้อง ๆ ให้ประพฤติปฏิบัติในเรื่องของการภาวนา มีการนำวิเคราะห์วิจัยแต่ละวันว่า ใครมีปัญหาติดขัดตรงไหน ? หรือว่ามีเคล็ดลับวิธีการอะไรที่ทำให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น ทรงสมาธิได้ดีขึ้น ใช้สมาธิไปในการพินิจพิจารณาแบบไหนถึงจะเกิดผลง่าย
    หลวงตาท่านเริ่มว่า “เล็ก..ข้าติดใจบารมี ๓๐ ทัศของพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น..คาถาเงินล้านข้าไม่เอา ๙ จบ ข้าจะเอา ๓๐ จบ” อาตมาก็ "โมทนาด้วยพี่ ๓๐ จบ ผมก็ ๓๐ จบด้วย" ทำไปทำมา..น้อยไปไหม ? ก็เลยเพิ่มเป็น ๖๐ เป็น ๙๐ เป็น ๑๐๘ ท้ายที่สุดก็ไปยืนพื้นอยู่ที่ ๓๖๐ จบ ที่บอกว่าทำอยู่ตลอด ๓ ปีเต็ม ๆ ถ้าถามว่าคล่องตัวถึงระดับไหน ? ก็ระดับจากวัดท่าซุงมากรุงเทพฯ จากกรุงเทพฯ กลับวัดท่าซุง ช่วงอยู่ในกรุงเทพฯ ใช้แท็กซี่ตลอด เสียค่าใช้จ่ายไป ๓ บาทถ้วน ๆ ที่ไปยัดให้รถสองแถวช่วงมโนรมย์-วัดท่าซุง เขาไม่เอาเหมือนกัน แต่อาตมาบอกว่าให้เก็บเอาไว้เป็นขวัญถุง อาตมาเต็มใจให้ ก็คือขึ้นรถคันไหนก็คันนั้น ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าเขารับพระ ขออนุญาตทำบุญไม่คิดค่าโดยสาร
    แม้กระทั่งนั่งรถทัวร์มาด้วยกัน พระ ๔ รูป สมัยก่อนรถทัวร์เขาไม่ได้ตีตั๋วที่ท่ารถ เขาขึ้นมาเก็บบนรถเหมือนกัน จัดการเก็บ ๓ รูปด้านข้างหมด เว้นอาตมาไว้คนเดียว ทั้งที่ส่งเงินให้เขาก็เดินหนี..ไม่รับ จนกระทั่งพระอื่นคิดว่าอาตมาเป็นเด็กเส้น รู้จักกับเจ้าของรถ..! นี่คือความคล่องตัวที่พิสูจน์มาด้วยตัวเอง
    ในเมื่อมีบุคคลตัวอย่าง ทางเราก็อย่ารอกินบุญคนอื่น ตอนนี้ที่ดีใจก็คือ ทางบริษัท มุลเลอร์ แมคคานิค จำกัด ที่เป็นหน่วยงานคุณธรรมในสังกัดชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน ทำโครงการสวดคาถาเงินล้านในลักษณะของการแข่งขันกันทำความดี ตั้งเป้าไว้ที่ ๑ ล้านจบบ้าง เท่าโน้นเท่านี้บ้าง แล้วก็ทำได้สำเร็จ ซึ่งวันนี้จะมีการมอบรางวัลให้ผู้ที่ทำสำเร็จเป็นคนแรก
    แต่คราวนี้การภาวนาในลักษณะแข่งขันกันทำความดี ขอให้ภาวนาแบบมีคุณภาพ ไม่ใช่เร่งให้ได้จำนวนจบมาก ๆ ถ้าเร่งให้ได้จำนวนจบมาก ๆ เราจะได้แต่ปริมาณไม่ได้คุณภาพ ให้ภาวนาไปแบบใจเย็น ๆ จับลมหายใจเข้าออกพร้อมกับคำภาวนาพระคาถา จะเอาสั้นเอายาวอย่างไรขึ้นอยู่กับลมหายใจของเรา ไม่ต้องไปจำกัดว่ามาถึงบทนี้ต้องหายใจเข้า มาถึงบทนี้ต้องหายใจออก ถ้าทำลักษณะอย่างนั้นได้ก็จะทำให้สมาธิสูงขึ้น
    ...................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
     
  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,667
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +70,508
    ถาม : การภาวนาเงินล้านที่ศูนย์กลางกายที่พระปัจเจกพุทธเจ้าแนะนำ ศูนย์กลางกาย คือ เหนือสะดือ ๒ นิ้วแบบ หลวงปู่สด วัดปากน้ำ ใช่ไหมครับ ?
    ตอบ : ตรงนั้นแหละ
    ถาม : เวลาลืมตาหรือหลับตา ทั้งตอนภาวนาหรือทำการงานอื่นก็ตาม แล้วเกิดภาพปิ๊งขึ้นมา อาจจะเป็นภาพ เช่น หลวงพ่อฤๅษี ฯ เอาไม้เท้ามาเขกหัว หรือภาพพระพุทธรูปเกิดขึ้นมาเอง สภาวะแบบนี้คืออะไร ? และเราจะพัฒนาปฏิบัติในแนวทางไหนเสริมต่อ นอกจากอานาปานสติ ?
    ตอบ : เขาเรียกว่านิมิต ไม่ควรให้ความสนใจใด ๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นว่าเป็นนิมิตที่ตรงกับกองกรรมฐานของเรา อย่างเช่นว่า ภาวนาพุทโธอยู่แล้วเกิดภาพพระพุทธเจ้าขึ้นมา ก็สามารถที่จะจับภาพท่านแล้วภาวนาต่อไปเลย แต่ถ้าเป็นภาพที่ไม่เกี่ยวกับกองกรรมฐานเฉพาะหน้าตอนนั้น อย่าไปสนใจ
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
    #พระครูวิลาศกาญจนธรรม #หลวงพ่อเล็ก
    #ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร


    dq7zZ3-t0ov16GhzYjDNdHxk787fjdJW06&_nc_ohc=_X3we0j7d9UAX-O2wrY&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...