พระพุทธเจ้าทรงยืนยันว่าเทวดามีจริง

พระพุทธเจ้าทรงยืนยันว่าเทวดามี<WBR>จริง
ธรรมโอวาท หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย<WBR>
พระพุทธเจ้าตรัสกับพระเองน่ะ เรื่องนี้พระพุทธเจ้า
... ทรงยืนยันว่า เทวดามี แต่ว่าการเคารพเทวดา
ของบรรดาท่านพุทธบริษัทจะเคารพอ<WBR>ย่างไหน
มันก็ดีทุกอย่าง บางท่านเคารพว่า เทวดามีฤทธิ์
บนบานศาลกล่าวเทวดา อาตมาก็ว่าดี
แต่การบูชาเทวดานี้ก็ควรจะถือเอ<WBR>าหัวใจเทวดาเป็นเรื่องสำคัญ
นั่นก็คือ คนที่จะเป็นเทวดาได้ต้องทรงคุณธ<WBR>รรม ๒ ประการ
คือ หิริ และ โอตตัปปะ หิริ ได้แก่ความละอายต่อความชั่ว
โอตตัปปะ เกรงกลัวผลของความชั่วจะให้ผลเป็<WBR>นทุกข์
ทีนี้คนที่เป็นเทวดาได้ก็ต้องอา<WBR>ศัยกำลังใจว่า
ก่อนที่จะตายนะกำลังใจเขาผ่องใส<WBR> ใจตั้งอยู่ในอารมณ์ที่เป็นกุศล อารมณ์ประเภทนี้ก็เป็นอารมณ์ที่<WBR>ไม่ทำตนให้เป็นทุกข์
มีอารมณ์เป็นสุข คือ ผ่องใสใน ทาน ศีล ภาวนา
คือว่าจะมีใจในทานก็ดี พอใจในศีลก็ดี พอใจในภาวนาก็ดี
หรือจิตใจจะน้อมไปในด้านกตัญญูรู้<WBR>คุณก็ดี เพียงเท่านี้
และก็ตายไปสวรรค์เป็นเทวดา นี่เป็นอันว่า คนที่จะเป็นเทวดาได้
เพราะอาศัยความดีคือ
๑. อายความชั่วก่อนจะตาย
๒. เกรงกลัวผลของความชั่วจะให้ผลเป็<WBR>นทุกข์
หากว่าท่านจะบูชาเทวดาก็บูชาได้<WBR>ทั้งสองอย่างคือ
อามีสบูชา ก็ได้ ปฏิบัติบูชา ก็ได้

 

กราบโมทนา สาธุ ท่านผู้มีใจบุญใจกุศล เสียสละเวลาหาบทความ นำบทความที่ดี มีสาระประโยชน์ ให้ผู้อ่านได้ศึกษา อันก่อให้เกิดปัญญาในการพิจารณา เมื่อปัญญาพิจารณาแล้ว จิตจะเป็นผู้กำหนด เป็นผู้เลือกความถูกต้อง ถือว่าเป็น จาคะ คือการให้และการให้นั้น ให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน อีกทั้ง ถือว่าการให้นั้น เป็นธรรมทาน เป็นบุญใหญ่ สมดั่งพระธรรมคำสั่งสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตอบปัญหาท้าวสักกะผู้เป็นจอมเทพยดา ปรากฏใน ตัณหาวรรค ธรรมบท ว่า “การให้ธรรมทาน ชนะการให้ทั้งปวง ผู้ใดให้ธรรมะเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้พระนิพพานแก่คนทั้งหลาย“ ขอโมทนาสาธุ