พระพุทธพยากรณ์

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย singhatonai, 6 กุมภาพันธ์ 2005.

  1. singhatonai

    singhatonai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +24
    แสดงธรรมโดย หลวงฤาษีฯ

    ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้เป็นวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๓๓ เป็นอันว่าในระหว่างนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัทคงจะทราบว่าตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อ่าวเปอร์เซียกำลังจะเกิดสงครามกับอิรัก กับหลายประเทศร่วมกัน คือ อิรักฝ่ายหนึ่งกับหลายประเทศฝ่ายหนึ่ง ถ้าจะเปรียบเทียบกันคล้ายๆกับ สงครามโบกครั้งที่ ๒ คือ เยอรมันกับอิตาลี ญี่ปุ่นฝ่ายหนึ่ง อเมริกา อังกฤษและฝรั่งเศส อีหลายประเทศร่วมกัน แต่ทว่าสงครามนี้จะเกิดหรือไม่เกิด อันนี้ก็ทราบไม่ได้เหมือนกัน เพราะว่าต่างคนต่างก็ตั้งท่า ต่างคนต่างก็เตรียมพร้อมที่จะลงมือกันและกัน และคำพยากรณ์ก็จะไม่พยากรณ์ว่า มีสงครามหรือไม่ แต่ทว่ามีหนังสือเล่มหนึ่ง เขาให้ชื่อว่า นอสตราดามุส เขาพยากรณ์ล่วงหน้าไว้ถึง ๒,๐๐๐ ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ ค.ศ. ๑๙๙๐ จะเป็นปีเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๓ แล้วสงครามโลกครั้งที่ ๓ นี่ จะเป็นสงครามที่มีความร้ายแรงมาก แต่ความจริงหนังสือนี่อาตมาก็ไม่ได้อ่าน เขาให้มาเหมือนกัน อ่านผ่านไปนิดเดียว แล้วก็เขาบอกว่า ประเทศอเมริกาอาจจะถูกระเบิดนิวเคลียร์ แล้วก็จะมีเหตุการณ์ร้ายต่าง ๆ เกิดขึ้น


    รวมความแล้วเป็นสงครามทำลายศาสนา ในระหว่างศาสนากับศาสนา คือศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลาม เขาว่าอย่างนั้นนะ ตามที่หนังสือว่า หรือตามที่คนบอก อาตมาก็ไม่ได้อ่านชัด ทีนี้เรื่องของดามุส ดามุสเขาพูดไว้ จะแน่นอนขนาดไหนก็เป็นเรื่องของเขา สำหรับพวกเราบรรดาท่านพุทธบริษัทในฐานะที่เป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส เป็นลูกของพระพุทธเจ้า เราก็มาดูคำพยากรณ์ของพระพุทธเจ้าบ้าง

    พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้กับพระอานนท์ว่า อานันทะดูกรอานนท์ ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง จะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ฝนเหล็กจะตกจากอากาศ ไฟจะลงมาจากอากาศ จะเผาผลาญประชาชน และบุคคลให้พินาศ จะมีการล้มตายซึ่งกันและกันเป็นอันมาก แต่ว่า อานันทะ ดูกรอานนท์ ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะถือว่าเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงนักยังหาได้ไม่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าหลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว อานันทะ ดูกรอานนท์ จะมีความร้ายแรงก่อนกึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ยักษ์สนอกพุทธศาสนานั่นหมายถึง คนที่ไม่ได้เคารพพระพุทธศาสานจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมากๆ สมณะ ชี พราหมณ์จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่งจึงจะเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก นี่เป็นคำพยากรณ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เป็นอันว่าท่านดามุสคนนี้ก็พยากรณ์ไว้ตรง แต่เขาบอกว่า ค.ศ. ๒๐๐๐ โลกจะสลาย แต่ว่าพระพุทธเจ้าของเราบอกว่าโลกยังไม่สลาย พระพุทธศาสนจะทรงอยู่ได้ตลอด ๕,๐๐๐ ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทรงพยากรณ์ไว้ที่พระธาตุดอยกิตติครั้งหนึ่ง ทรงตรัสว่า ชี้ว่าเขตประเทศนี้ต่อไปจะเป็นประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก จะสามารถทรงพระพุทธศาสนาครบ ๕,๐๐๐ ปี นี่หมายถึง ประเทศไทย

    เป็นอันว่า สงครามจะเกิดขึ้นที่ดามุสบอก ก็หมายความว่าถึงสงครามซีกตะวันตก หมายถึงอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆกับตะวันออกกลาง สงครามจริงๆยังคงไม่ถึงประเทศไทย....

    ทีนี้เรามาย้อนรอยถอยหลังกันก่อนว่า ตามที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติตรัสว่า ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ฝนเหล็กจะตกจากอากาศ ไฟจะลุกจากอากาศก็เป็นความจริง ในขณะนั้นปรากฏว่า ลูกปืนกลจากอากาศบ้าง ลูกระเบิดจากอากาศบ้าง ลูกระเบิดเพลิงบ้าง ทิ้งจากอากาศประเทศไทยเราก็พลอยยับเยินไม่น้อยเหมือนกัน เล่นเอาตู้รถไฟต้องไปขี่กันที่บางกอกน้อย ทั้งๆที่ตู้มันหนัก แต่แรงของระเบิดดันตู้รถไฟจนขี่กัน ตึกบ้านเรือนโรงลำบากมาก

    แต่ว่าสงครามนั้นเป็นเหตุบันดาลอย่างหนึ่งนั่นคือว่า สร้างความทุกข์ บรรดาท่านพุทธบริษัท คำว่าสงครามนี่ อาตมาผู้พูดเองก็ยังรู้สึกหวาดเสียวอยู่เพราะว่าเคยอยู่ในระหว่างสงคราม ไม่ได้หมายความเป็นทหารเข้าสงคราม คือ มีชีวิตอยู่ในระหว่างสงคราม ขณะนั้นอยู่กรุงเทพฯ แสงไฟฟ้าก็ใช้ไม่ได้ต้องใช้ตะเกียง ตะเกียงน้ำมันก๊าดไม่มีจะใช้ น้ำมันโซล่าหาไม่ได้ ต้องใช้น้ำมันหมู หรือน้ำมันมะพร้าวมาทำตะเกียง ของทุกอย่าง ของกินของใช้ต้องปันส่วน เพราะ หาไม่ได้ และของหายาก โรงงานต่างๆ ก็ถูกระเบิดเสียมาก ของที่ส่งมาจากต่างประเทศก็ส่งมาไม่ได้ จะได้ก็ของจากญี่ปุ่น เวลานั้นโรงงานของเราก็มีน้อย เวลานี้โรงงานมีมาก แต่ก็ไม่แน่นัก เพราะระเบิดจากอากาศก็ดี จรวดก็ดี หรือว่าระเบิดจากภาคพื้นดินก็ดี อาจจะเกิดกับโรงงงานต่างๆในประเทศไทยได้ ถ้าสงครามเขาเกิดขึ้น

    หากว่าท่านจะถามว่า ทำไมสงครามเกิดขึ้นที่ตะวันออกกลาง แล้วจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับประเทศไทย ทำไมไทยจึงต้องหวาดระแวง

    ความจริงไม่ได้พูดให้ระแวง พูดให้ทราบตามความเป็นจริง หรือตามความรู้สึกนึกคิด ถ้าเรื่องนี้ผิดก็ต้องขออภัยด้วย เพราะว่าเป็นการคาดคะเนมากกว่าอย่างอื่น คิดว่า ถ้าสงครามเกิดขึ้น ระหว่างสงครามศาสนา ก็จงอย่าลืมว่า ศาสนาที่อยู่ระหว่างสงครามก็มีอยู่ในประเทศไทยทั้งสองศาสนา ถ้าเขารบกันแต่เพียงภายนอกก็ดี แต่บังเอิญคนที่นับถือศาสนานั้นๆทั้ง ๒ ศาสนาเกิดทะเลาะวิวาทรบราฆ่าฟันในเขตของเรา เขตของเราก็ต้องยับเยินไป เหมือนกับสนามหญ้ากับสุนัข สุนัข ๒ ฝ่ายกัดกันสนามหญ้าก็แหลก ถ้าบังเอิญเขารบกันก็ไม่เป็นไร ดีไม่ดี เขาจะชวนเรารบ เราจะรบหรือไม่รบ เขาจะรบหรือว่าเราไม่รบ เขาก็ไม่รบ แต่เขายึด เรายอมให้เขายึดไหม ในส่วนต่างๆ ส่วนใดส่วนหนึ่งของประเทศไทย

    สำหรับความนึกคิดเวลานี้ ไม่ใช่หมอดูนะ ไม่ใช่พยากรณ์ตามหลักวิทยาศาสตร์หรือหลักอะไรทั้งหมด เป็นแต่การคาดคะเนว่า เหตุการณ์จะต้องเกิดขึ้น ส่วนหนึ่ง ทางใต้ของประเทศไทยจะเกิดกลียุค นั่นหมายความว่า ความเดือดร้อนจะเกิดขึ้นอาการต่างๆที่ปรากฏในปัจจุบันจะฟูขึ้น เพราะรับการสนับสนุนเรื่องการเงิน กำลังอาวุธจากที่อื่น จากนั้นเหล่าทหารตำรวจของเรา ก็ต้องเคลื่อนกำลังเข้าไปรักษาเขต ทีนี้เขตต่อเขต เขตยันเขต เขตที่เขาก็ขึ้นเป็นเขตในประเทศไทย และเขตต่อไปข้างหน้าก็เป็นเขตที่พวกเดียวกัน อะไรมันจะเกิดขึ้นบ้างลองวาดภาพกันดู ถ้ามันเกิดจริงๆตามเขาว่านะ อันนี้ไม่ใช่รับรองว่ามันจะเกิดจริงหรือไม่ ถ้าเกิดจริงส่วนประเทศไทยทุกจุดทุกภาคก็มีบุคคลที่ถือศาสนาตรงข้ามกับพระพุทธศาสนา ก็มีกำลังขึ้น ที่เขาโต้กันที่เชียงใหม่ อภิปรายก่อนหน้านี้ไม่ถึงเดือน เขาโต้กันถึงหลักสูตรการศึกษาว่า หลักสูตรพระพุทธศาสนาถูกลดลงไป หลักสูตรศาสนาอื่นเข้ามาแทน อย่างนี้ก็ต้องมีอาการน่าคิดว่า เขาวางแผนล่วงหน้าไว้ไกลมาก หรือว่าเป็นการวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อนโดยเฉพาะระยะใกล้ก็ได้

    ก็เป็นอันว่า เมื่อสงครามใหญ่เกิดขึ้นทางด้านตะวันออกลาง ทีนี้เศษสงครามมันก็อาจจะเข้ามาถึงประเทศไทย ต่อไปก็เป็นการเดาอีก ขอเดานะ ไม่ได้พูดตรงๆ จะหาว่าดูผิดก็ไม่ได้ เดามันผิดได้ ขอเดาว่า ถ้าสงครามเกิดขึ้นอย่างนั้นจริงๆ แต่ความจริงเวลานี้ยังไม่มีใครจะให้เกิดเวลาที่พูดนี่นะ วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๓๓ แต่กว่าหนังสือนี่จะออกถึงเดือนมีนาคม ถ้าสงครามเกิดก็เกิดแล้ว ไม่เกิดก็ไม่เกิด ในระหว่างนี้ ต่างคนต่างมอง ต่างคนต่างพูด แสดงเรื่องการเมืองเอาเหตุผลต่างๆ มาหักล้างกัน ก็ไม่แน่นักว่ามันจะเกิด ก็อยากจะบนบานศาลกล่าวว่า มันไม่เกิดนั่นแหละเป็นการดี แต่ทว่าพระดำรัสขององค์สมเด็จพระชินสีห์ไม่เคยผิด แต่ว่าท่านไม่ได้บอก พ.ศ.

    เป็นอันว่า ประเทศไทยก็จะถูกหางหรือท้ายฝนละอองฝนจากสงคราม ก็เป็นอันว่า เราถูกละอองฝนดินแดนเราก็จะไม่เสีย แต่ว่าชีวิตคนอาจจะเสียไปบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่น่าห่วงก็คือ ของกินของใช้ราคามันแพงมาก ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าเราต้องใช้น้ำมัน โรงงานต่างๆต้องใช้น้ำมัน ในเมื่อสงครามเกิดขึ้นในเขตของบ่อน้ำมัน เราจะมีโอกาสซื้อน้ำมันได้หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ ท่านดามุสท่านบอกว่า อำนาจของฝ่ายน้ำมันมีอำนาจมาก สามารถเอา อาวุธใส่ในท้องปลาไปยิงระเบิดที่ไหนก็ได้ นั่นหมายถึง เรือดำน้ำ ถ้าเราส่งเรือไปซื้อของในเขตใดเขตหนึ่ง ซึ่งเป็นของศัตรูเขา เรือดำน้ำของเขาอาจจะยิงเรือพาณิชย์ของเราก็ได้ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้คนที่พบระหว่างสงครามจะมีความรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ แต่ว่าขอยืนยัน บรรดาท่านพุทธบริษัทว่าสิ่งที่เราไม่ต้องกลัวอย่างหนึ่งคือ เขาประกาศบอกว่า การสงครามนี้เขาจะใช้อาวุธเคมีบ้าง จะใช้นิวเคลียร์บ้าง จะใช้นิวตรอนบ้าง อาวุธทั้งหลายเหล่านี้น่ากลัวจริงๆ แต่สำหรับความรู้สึกของผู้พูด ไม่มีความรู้สึกกลัวเลย เพราะว่าพระพุทธเจ้ามีความศักดิ์สิทธิ์ ของ ๆ ท่านทุกชิ้นที่ผลิตออกมา ท่านบอกว่ากันรังสีต่างๆได้ทั้งหมด รังสีต่างๆจะไม่กระทบกาย หรือทรัพย์สินบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่มีของของท่านได้ ที่ท่านทำให้นะ

    ก็เป็นอันว่า ท่านยืนยันมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๑ และท่านทำทุกครั้ง ท่านก็ยืนยันทุกครั้งว่า เกี่ยวกับรังสีไม่ต้องกลัวเลย รังสีจะไม่เข้ามาใกล้บุคคลที่มีของที่ท่านทำให้ ของนั้นอยู่ไหน ก็หากันเอาเองก็แล้วกัน ของนั้นจะขอบอกไว้เป็นนัยๆ เอาตรงๆเลยก็ได้คือ พุทธานุสสติ นั่นคือ นึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ และก็ภาวนาไว้ว่า พุทโธ เวลาหายใจเข้านึกว่า พุท เวลาหายใจออกนึกว่า โธ ก่อนจะออกจากบ้าน ตื่นขึ้นมาใหม่ๆ บูชาพระก่อนภาวนาว่า พุทโธ ก่อนอธิษฐานขอความปลอดภัย ก่อนจะไปก็เสกน้ำลายด้วยกำลังของพุทโธสัก ๓ ครั้ง แล้วก็เดินออกจากบ้านไปหรืออยู่บ้านก็ได้ ภัยอันตรายจะไม่มีแก่ท่าน หรือว่าถ้าทำอย่างนี้ยังไม่เกิดความมั่นใจ ก็เอาของที่องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงทำไว้ติดกับร่างกาย แต่ต้องอาราธนาทุกวันว่า นะโม ตัสสะฯ ๓ ครั้ง แล้วก็ว่า พุทโธ เหมือนกัน และก็อธิษฐานให้ปลอดภัย อย่างนี้จะปลอดภัยจากรังสีต่างๆ แม้แต่ สะเก็ดระเบิดหรือว่ากระสุนปืนของข้าศึก ก็จะไม่มีอันตรายกับท่าน ถ้าท่านทั้งหลายมีพุทธานุสสติเป็นกำลังใจ

    ทีนี้เราก็มาคุยกันต่อไป นี่มันเรื่องคุยนะ ถ้าบังเอิญเวลานี้มีอิรักตั้งท่ายัน อิรักปรากฏว่าประกาศว่ามีคน ๑๘ ล้าน แต่ทว่าอิรัก อิหร่านนี่รบกันมาประมาณ ๘ ปี พออเมริกาส่งกำลังเข้ามาในอ่าวเปอร์เซีย อิรัก อิหร่านดีกับฉิบ พื้นที่ของอิหร่านที่อิรักยึดได้ก็พันตารางไมล์ก็ตามคืนให้หมด ปล่อยเชลยให้หมด เวลานี้ศัตรูกับศัตรู อิรักกับอิหร่านเป็นมิตรกัน อิหร่านก็เข้ากับอิรักไม่เห็นด้วยที่อเมริกาจะเอวัฒนธรรมของเธอมาใช้ในตะวันออกกลาง เขาถือว่าผิดกฎของพระศาสนา นี่เป็นว่า อิรักก็มีเพื่อนเข้าอีกหนึ่ง ประเทศคือ อิหร่าน อิหร่านนี่ก็ไม่ใช่เล่นเหมือนกัน หนักเหมือนกัน แล้วต่อมาอย่าลืมว่า สายเลือดที่ร่วมกันมา เขาอาจจะไม่ทิ้งกัน นั่นคือ ศาสนา คนที่นับถือศาสนาร่วมกันอาจจะร่วมมือกันภายหลัง อย่างนี้สงครามใหญ่จะเกิดขึ้น ซึ่งตรงกับคำพยากรณ์ของพระท่าน ในปีที่ญวนแตกอเมริกาหนีกลับบ้าน ปีนั้นก็ถามพระท่านว่า หลังจากนี้จะมีอะไรบ้าง สงครามใหญ่จะเกิดขึ้นไหม ท่านบอกว่า คำว่าสงครามโลก ยังไม่เกิด คำว่าสงครามโลกนั่นหมายถึงว่า ทั้งโลกแบ่งกันเป็น ๒ พวก ร่วมกันรบกันอย่างนี้เรียกว่า สงครามโลก แต่สงครามครั้งที่จะเกิดทางด้านตะวันออกกลาง ท่านบอกตรงว่าจะเกิดที่ด้านตะวันออกกลาง เขายังไม่เรียกว่าสงครามโลก เขาเรียกว่าสงครามใหญ่ สงครามใหญ่คราวนี้จะมีความ ร้ายแรงไม่น้อย ร้ายแรงกว่าสงครามโลกครั้งที่ ๒ แต่ว่าท่านก็ไม่ได้บอกอย่างดามุสว่า ถึงแม้อเมริกาอาจจะถูกนิวเคลียร์ ท่านไม่ได้บอกไว้คือไม่ได้ถาม

    รวมความว่า คำพยากรณ์ของท่านที่พยากรณ์ว่า จะเกิดที่ตะวันออกกลางก็ตรงแล้ว เวลานี้ตะวันออกกลางจะมีสงคราม อย่างน้อยที่สุดก็เป็นสงคราม เศรษฐกิจ เริ่มบีบรัดกันขึ้นมา การถูกบีบนี่ บรรดาท่านผู้ฟังและท่านผู้อ่าน สมัยเยอรมันก็ดี ญี่ปุ่นก็ดี อิตาลีก็ดี ที่ต้องประกาศเป็นสงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็เพราะว่าการถูกบีบคั้นจากโลกตะวันตก หรือหลายๆประเทศที่เรียกกันว่า สันนิบาตชาติ ในเวลานั้นทั้ง ๓ ประเทศลาออกจากสันนิบาตชาติ สันนิบาตชาติต่างคนต่างบีบคั้นต่างๆ หาทางกลั่นแกล้ง ถ้าไม่รบก็อดตาย มีความจำเป็นต้องรบ หมายถึงว่า ยอมเสี่ยง ยอมเสี่ยงการเสียอิสรภาพ การเสียประเทศจะต้องเป็นเมืองขึ้นเขากับความตาย ทีนี้การรบความตายมันก็เกิด แต่เกิดเฉพาะบุคคลบางกลุ่มที่เป็นทหาร และบุคคลที่อยู่ใกล้จุดยุทธสาสตร์ที่ถูกระเบิด คนนอกนั้นจะไม่ตาย ถ้าไม่รบ ความอดเกิดขึ้น มันจะตายทั้งประเทศ เขาต้องตัดสินใจรบ เรื่องสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ มีฉันใด เวลานี้อิรักกับอิหร่าน กำลังจับมือกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาสนามุสลิมเป็นศาสนาที่มีความรักกันมาก

    อย่างตอนใต้ประเทศไทย คราวนั้นฟังข่าวจากโทรทัศน์จาก ท่านพันเอกณรงค์ กิตติขจร ท่านบอกว่า ใครล่ะ พันเอกกัดดาฟี มั้ง ถ้าพูดชื่อผิดขออภัยด้วย ท่านเคยไปเจรจากันบอกว่า อย่ามายุ่งกับประเทศไทย แต่เขาบอกว่า รัฐบาลไม่ได้ยุ่งด้วยแต่ที่ยุ่งนั่นเป็นเรื่องของศาสนา ที่จะให้มีการแบ่งแยกประเทศไทยออกเป็นของมุสลิมส่วนหนึ่ง ของไทยส่วนหนึ่ง เขาหวัง ๔ จังหวัดแต่ความจริงถ้าเขายึด ๔ จังหวัดได้ เขาจะเอาอีก ๘ จังหวัด ถ้า ๘ จังหวัดได้ เขาจะเอาอีก ๑๖ จังหวัด ผลที่สุดเขาก็ต้องการยึดทั้งหมดทั้งประเทศไทย ความพอใจของคนไม่มีฉันใด บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ถ้าสงครามเกิดขึ้น ถ้าเราจำเป็นต้องเสียดินแดน เรื่องเสียเฉพาะน่ะ ไม่มีแน่นอน มันต้องเสียกันเรื่อยไป เวลานี้เราก็ไม่มีพอที่จะเสียแล้ว แต่ที่พูดนี่ก็ไม่ได้หมายความว่า สงครามจะเกิดจริง สมมุติว่า ถ้ามันจะเกิด ทีนี้เรื่องของศาสนาก็จะเกิดขึ้น ที่พูดนี่ไม่ได้ยุให้คน ๒ ศาสนาทะเลาะกันนะ เป็นแต่เพียงว่าท่าน ณรงค์ ท่านบอกว่า ท่านไปพูดกับประธานาธิบดีของเขา ประธานาธิบดีของเขาก็บอกว่า รัฐบาลไม่ได้ยุ่งเป็นเรื่องของศาสนา ทีนี้ศาสนาจะเอาเงินมาจากไหนก็ทราบไม่ได้เหมือนกัน

    รวมความว่า หันมาคุยกันในประเทศไทย ถ้าสงครามเกิดขึ้นจริงๆ เราจะเป็นอย่างไร ประการแรก เรายังไม่พูดถึงศาสนาก่อน เอาสงครามทางด้านตะวันออกกลางมาพูดก่อน ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ เราจะหนัก เรื่องน้ำมันนิดหน่อย แต่ว่าน้ำมันในประเทศไทย ถ้าเร่งรัดจริงๆ จะเหลือใช้เพราะอะไร เพราะว่าน้ำมันในประเทศไทยนี่มีมาก การเจาะบรรดาท่านผู้อ่าน และท่านผู้ฟัง ที่พูดนี่ก็ขอเดา คิดว่าท่านที่เจาะ เขาคงเจาะยังไม่ถึงเพดานจริงๆ ของน้ำมัน รวมความว่าถังน้ำมันถังใหญ่จริงๆ น่ะ เราจะพูดตามความเป็นจริงแล้ว ประเทศจีนเขาก็มีน้ำมัน เขาอยู่สูงกว่าเรา ประเทศพม่าก็มีน้ำมัน อินโดนีเซียก็มีน้ำมัน มาเลเซียก็มีน้ำมัน แล้วก็ไทยล่ะอยู่กลางทำไมจะไม่มีน้ำมัน

    ทีนี้เวลานี้การเจาะน้ำมัน การดูดน้ำมันเขาว่าได้น้อยแต่ตามความรู้สึกของผู้พูด หรือตามข่าวหนังสือพิมพ์เขาบอกว่า ความจริงปริมาณน้ำมันที่ได้ มันมากกว่าข่าวที่เขาแจ้งมา ข้อนี้จะเท็จจริงประการใดก็ไม่ทราบ สุดแล้วแต่หนังสือพิมพ์ แต่เขาบอกว่าเขาแจ้งบอกว่าได้น้อย ก็ยังมีอีกหลายหลุมที่เจาะพบแล้ว เขาบอกว่าไม่พอกับเชิงพาณิชย์จึงไม่ยอมดูดขึ้นมา นี่ก็เป็นลีลาของพ่อค้าเป็นธรรดา ถ้ากำไรน้อยเขาจะไม่เอาหรือจะมาพูดกันอีกทีหนึ่ง เวลานี้ทราบว่า คนไทยศึกษาเรื่องวิชาการเจาะน้ำมันมาได้ดีแล้ว มีความชำนาญพอแล้ว แล้วกำลังจะเจาะ ก่อนหนังสือจะออกคงจะเจาะกันแล้วละมั๊ง เจาะก๊าชที่สงขลาใกล้ๆ กับบ่อเดิม จะเอก๊าชมารวมกันเข้ากับท่อเดียวกันขึ้นมาใช้จะได้มีปริมาณสูง ถ้าบังเอิญรัฐบาลท่านหรือนายทุนท่านใดท่านหนึ่ง ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาประมูลกับ บริษัทต่างๆ แต่น้ำมันมีมาก ปริมาณของประเทศไทยนี่

    ถ้าจะลองเจาะอย่างต่างประเทศเขา เอาที่ใดที่หนึ่งก็ได้ สักที่หนึ่ง ที่พูดนี่ก็เป็นการสมมุติกันนะ จะเชื่อก็ได้ สักที่หนึ่ง เพราะความรู้สึกว่ามีอยู่ว่าการเจาะที่แล้วมา เขาเจาะกันยังไม่ถึงฝาผนัง หรือเพดานของถังน้ำมัน ซึ่งมันเป็นถังใหญ่คลุมจักวาล มันเป็นทะเลอีกชั้นหนึ่งต่างหาก คือเป็นทะเลน้ำมันจริงๆ ประเทศไทยตั้งอยู่เหนือทะเลน้ำมัน จีนก็เช่นเดียวกัน แล้วก็พม่าก็เหมือนกัน บรูไนก็เหมือนกัน มันเป็นถังๆเดียวกัน ถ้าบังเอิญเราจะเจาะอย่างอังกฤษ ที่เขาบอกว่า อังกฤษเจาะที่ทะเลเหนือ เจาะลงไปลึกลงไปใต้ดินถึง ๖ กิโลเมตร ก็ได้น้ำมันขึ้นมาเพียงพอ แต่ประเทศไทยเราสำรวจแล้วว่า ที่ใดที่หนึ่งมีน้ำมันพอที่จะเจาะได้ ก็ลองเจาะสัก ๖ กิโลเมตร ถ้าเจาะสัก ๖ กิโลเมตรจะมีผลประการใด เรื่องนี้ก็ลองถามท่านผู้รู้ท่านหนึ่ง ท่านมีความชำนาญในด้านนี้มาก ก็เรียกว่า ดร.สรรพศาสตร์ ท่าน ดร.สรรพศาสตร์ท่านบอกว่า ถ้าเจาะลงไปถึง ๖ กิโลเมตร ในถังน้ำมันที่มีพื้นแผ่นดินหนาหมายความว่า หลังถังน่ะลึกลงไป เจาลงไปแค่ ๓ กิโลเมตร จะถึงผิวถังน้ำมันหรือหลังคาน้ำมัน ถ้าเจาะถึง ๖ กิโลเมตร ไอ้ท่อที่เจาะลงไปนั้นจะจมไปในตัวน้ำมัน บ่อน้ำมันจริงๆ ครึ่งกิโลเมตร ถ้าเจาะในที่ตื้น ที่บางจุดอยู่ไม่ไกลกรุงเทพนัก ในที่นี้ถ้าเจาะถึง ๖ กิโลเมตร ท่อจะจมลงไปในเขตของน้ำมันประมาณ ๖ กิโลเมตร ถามท่าน ดร.สรรพศาสตร์ ถามว่า ถ้าเราจะดูดใช้อย่างปัจจุบันนี่ ถ้าทำอย่างนั้นจะใช้ได้สักกี่ปี ท่านบอกว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกันเอา ๓๐ เท่าของปัจจุบันใช้ไป ๕,๐๐๐ ปีน้ำมันยังไม่หมด ปริมาณยังไม่ลด

    นี่แหละบรรดาท่านผู้อ่านและท่านผู้ฟัง ถ้าบังเอิญท่าน ดร.สรรพศาสตร์ ท่านพยากรณ์ตามความรู้ของท่าน ถ้าตรงตามนี้ประเทศไทยเราก็ไม่จน อย่างอื่นจะไม่มีก็ไม่เป็นไร ไฟของเรามี น้ำมันเราก็ถูก อุตสาหกรรมของเราลงทุนถูก เพราะน้ำมันถูก เราจะขายต่างชาติได้ดี ระยะนั้นประเทศไทยเราจะรวย เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย เราคุยกันมาวันนี้ก็ป่วยแต่เกรงว่าเล่มที่ ๑๘ นี่จะไม่ครบ ทำไปแล้วบ้างตามสมควร แต่ไม่แน่ใจว่าจะครบหรือไม่ครบ ก็ลุกขึ้นมาทำหันไปดูเวลาเหลือเวลาประมาณนาทีเศษๆ ก็ขอเตือนบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทซึ่งเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ว่า จงอย่าหวั่นไหวต่อสงคราม ขอยืนยันว่า ถึงแม้ว่าสงครามจะเกิดก็จริงแหล่ แต่ทว่าเราจะไม่ตายเพราะสงครามโลก เราจะไม่อดตายเพราะสงครามโลก และนักเกษตรศาสตร์ก็ดี นักเกษตรศาสตร์นี่จะโชคดีมาก คือจะรวย ข้าวจะแพง พวกที่เลี้ยงสัตว์ก็ดี ราคาจะแพง จะร่ำรวยทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าไม่มีความประมาท บรรดาท่านพุทธบริษัท ประเทศไทยจะมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ เวลานี้ก็เหลือเวลา ๒๐ วินาที ขอลาก่อน ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนผู้อ่าน และผู้รับฟังทุกท่าน (ธัมมวิโมกข์
     

แชร์หน้านี้

Loading...