พระครูนิรุติธรรมธร หลวงพ่อน้อย วัดส้มเสี้ยว

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย กำธร นครปฐม, 4 พฤษภาคม 2010.

  1. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    หลวงพ่อน้อย วัดส้มเสี้ยว

    [​IMG]

    หรือท่านพระครูนิรุติธรรมธร ท่านเป็นพระเกจิ ยุคเดียวกับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ครับ ผมเคยประสบอภินิหารในคราวไปกราบรูปเหมือนของท่านที่ในวิหารของหลวงพ่อน้อย ที่วัดส้มเสี้ยว คือกล้องถ่ายรูปของผมใช้กล้อง Cannon รุ่น 400 D ใช้แฟลต ราคาประมาณ 5,000 กว่าบาท คือ ตอนนั้นผมได้สักการะไหว้ท่านเสร็จแล้ว ก็ขอถ่ายรูป ปรากฎว่าแฟช ไม่ติดครับ ลองกดดูตั้งหลายครั้งก็ไม่ติด (4-5 ครั้ง) พอหันกล้องออกไปนอกวิหารแฟลชกับติด แต่พอใช้แฟลชกับกล้อง ก็ติดเป็นปกติ ครับ ก็เลยคิดว่าจะขอนำประวัติและเกียรติคุณของท่านมาเผยแพร่ ดังนี้ครับ





    <TABLE style="LINE-HEIGHT: normal; WIDTH: auto; BORDER-COLLAPSE: collapse; WORD-WRAP: break-word; EMPTY-CELLS: show; TABLE-LAYOUT: fixed; MARGIN-LEFT: 1px" cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY style="LINE-HEIGHT: normal; WORD-WRAP: break-word"><TR style="LINE-HEIGHT: normal; WORD-WRAP: break-word"><TD style="FONT: 14px/1.6em Verdana, Helvetica, Arial, sans-serif; WORD-WRAP: break-word; COLOR: rgb(68,68,68)" id=postmessage_140 class=t_msgfont>
    พระครูนิรุตธรรมธร หรือ หลวงพ่อน้อย วัดส้มเสี้ยว

    อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์



    ท่านเกิดเมื่อ วันพฤหัสบดี เดือน 10 ปีเถาะ พ.ศ 2410 เป็นบุตรของนาย ป่วนเพียว และนางปราง มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ท่านเป็นคนที่ 4



    อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ 2432 ณ พัทธมีมาวัดบางตาหงายเหนือ หลวงพ่อมี วัดบ้านแก่ง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อจง วัดหัวดงใต้ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อ
    เผือก วัดหัวดง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    เหรียญรุ่นแรกของท่าน สร้างปี พ.ศ 2481 มีด้วยกัน 2 พิมพ์ คือ พิมพ์รูปไข่ กับ พิมพ์ดอกจิก บางท่านกล่าว่า เหรียญรุ่นนี้สร้างเพื่อแจกในงาน พระราชทานเพลิงศพ แต่ บางท่านกล่าวว่าเป็นเหรียญที่สร้างก่อนมรณภาพ


    พอจะสรุปได้ว่า หลวงพ่อน้อย ท่านมรณภาพ ประมาณปี พ.ศ.2481
    หลวงพ่อน้อย ท่านเป็นพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณ เรืองเวทย์พุทธาคมรูปหนึ่งของ อ. บรรพตพิสัย ทั้งยังเป็นอดีตเจ้าคณะอำเภอ สร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่ชุมชนแห่งนี้เป็นอย่างมาก

    ปัจจุบันภายในวัดมีวิหารประดิษฐานรูปเหมือนจำลองของท่าน ให้ ศาสนิกชนได้กราบ
    ไหว้บูชา







    </TD></TR></TBODY></TABLE>




    <DL style="PADDING-BOTTOM: 10px; LINE-HEIGHT: normal; OVERFLOW-X: visible; OVERFLOW-Y: visible; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 10px; WIDTH: 580px; PADDING-RIGHT: 10px; WORD-WRAP: break-word; FLOAT: left; HEIGHT: auto; PADDING-TOP: 10px" class="t_attachlist attachimg"><DT style="LINE-HEIGHT: normal; WIDTH: 0px; WORD-WRAP: break-word; FLOAT: left; FONT-WEIGHT: 700"><DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; LINE-HEIGHT: normal; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; WORD-WRAP: break-word; COLOR: rgb(153,153,153); PADDING-TOP: 0px">





    </DD></DL>


    ขอขอบคุณ หลวงพ่อน้อย วัดส้มเสี้ยว - นครสวรรค์ - แนะนำพระเกจิ - พระเครื่องเมืองสี่แคว! Board - Powered by Discuz!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 พฤษภาคม 2010
  2. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    ประวัติและเกียรติคุณต่าง ๆ ของหลวงพ่อน้อย ที่ผมได้คัดลอกมาจากหนังสือพระนวกะ ปี 2507 ครับ ขอนำเผยแพร่ เพื่อให้เพื่อน ๆ และพี่น้องในเว็บพลังจิต ได้รู้จักพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ องค์นี้ เนื่องจากในสมัยท่านยังดำรงขันธ์อยู่ ท่านไม่ได้สร้างพระเครื่อง วัตถุมงคล ให้บูชา จึงไม่ได้โด่งดังเหมือนพระเกจิรุ่นราวคราวเดียวกับท่าน ทราบมาว่า หลวงพ่อน้อยท่านทำแผ่นยันต์ และตะกรุดโทน ไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหาใกล้ชิดไว้ใช้แค่นั้นเองครับ แผ่นยันต์ของท่าน ท่านให้ใช้ทำน้ำมนต์แก้โรคภัยไข้เจ็บ โรคระบาดต่าง ๆ ถ้าท่านสร้างวัตถุมงคลออกมาเยอะ ชื่อเสียง และเกียรติคุณของท่าน คงจะดังไม่แพ้พระเกจิองค์อื่นในรุ่น บทความในหนังสือมีดังนี้ครับ

    ชีวประวัติของพระครูนิรุติธรรมธร
    (หลวงพ่อน้อย วัดส้มเสี้ยว)<O:p</O:p

    เรียบเรียงโดยพระภิกษุปรีดา โรจนวิเชียร

    [​IMG]<O:p</O:p

    เนื่องจากข้าพเจ้า ได้เข้ามาบรรพชาอุปสมบทในสำนักวัดส้มเสี้ยว อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ในปี พ.ศ.2507 ซึ่งมีนวกะภิกษุในพรรษานี้ 18 รูป เห็นสมควรที่จะได้จัดพิมพ์หนังสือเกี่ยวแก่ นวกะภิกษุขึ้นจะเป็นประโยชน์มาก

    จึงได้ปรารภ เรื่องการที่จัดทำหนังสือ นวกะอุสรณ์ประจำสำนักวัดส้มเสี้ยวขึ้นเพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนาและเพื่อเป็นอนุสรณ์ของนวกะภิกษุประจำปี พ.ศ.2507 อีกด้วย บรรดานวกะภิกษุส่วนมากลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าควรทำเป็นอย่างยิ่ง นวกอุสรณ์เล่มนี้จึงอุบัติขึ้นมาอยู่ในมือของท่านผู้อ่าน ณ บัดนี้<O:p</O:p

    การทำหนังสือเล่มนี้ข้าพเจ้าได้เป็นผู้เรียบเรียง ชีวประวัติพระเดชพระคุณ ท่านพระคุณนิรุติธรรมธร (หลวงพ่อน้อย) ตามคำเรียกร้องของบรรดาศิษยานุศิษย์ ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต ซึ่งปรารถกันว่า ชีวประวัติของพระคุณท่านเท่าที่มีผู้เขียนไว้บ้างแล้วนั้น เป็นเวลานานมาแล้วนั้น ซึ่งชนรุ่นหลังจะไม่มีโอกาสที่จะได้อ่าน และทราบรายละเอียดชีวประวัติของท่านผู้สามารถสละชีวิตเข้าขุดค้นคุณธรรมพิเศษและเป็นผู้อบรมเราชาวบรรพตพิสัย ซึ่งเราสมควรเขียนชีวประวัติของท่านที่แล้วมาหื้ละเอียดเป็นหลักฐาน ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น ถ้าใครสงสัยก็ยังสอบถามท่านได้

    แต่ปัจจุบันนี้เราจะรู้เรื่องราวของท่านได้ก็โดยการบันทึกชีวประวัติของท่านนี่เอง ทั้งนี้ เพื่อประดับความรู้แก่ผู้สนใจ ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงรวบรวมชีวประวัติของท่านทั้ง ๆ ที่ตนเองก็ว่ารู้คงทำให้ละเอียดไม่ได้ ซึ่งในการนี้ข้าพเจ้าได้ค้นคว้าหนังสือชีวประวัติของท่าน ซึ่งเคยเขียนขึ้นโดย พระมหาเกษม เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพของท่านพระครูนิรุติธรรมธร

    ซึ่งเป็นประโยชน์ในการเรียบเรียงแก่ข้าพเจ้า ซึ่ง ข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย นอกจากท่านผู้นี้แล้ว โยมท่าม โยมทอง โยมซัว ซึ่งเคยเป็นศิษย์ของท่านพระครูนิรุติธรรมธร ได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของพระคุณท่านให้ฟัง เพื่อประกอบการเรียบเรียงของข้าพเจ้า จึงถือโอกาสขอบพระคุณในที่นี้เช่นเดียวกัน

    ต่อไปนี้ได้โปรดอ่านชีวประวัติของพระคุณท่านพระครูนิรุติธรรมธรได้<O:p</O:p


    ท่านพระครูนิรุติธรรมธร เจ้าคณะแขวงบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ชื่อเดิมเป็นชื่อจีนว่า “เกงลี่” ชื่อไทยว่า“น้อย” เมื่ออุปสมบทมีฉายาว่า “ธมฺมโชโต” บิดาชื่อ “ย่วนเพียว” มารดา ชื่อ “ปราง” เกิดที่บ้านส้มเสี้ยว<O:p</O:p
    อำเภอบรรพตพิสัยจังหวัดนครสวรรค์ ตรงที่ว่าการอำเภอบรรพตพิสัยขณะนี้

    มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 7 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 4 คน เรียงตามลำดับดังนี้<O:p</O:p

    1. นางงิ้ว 5. นายท้ง<O:p</O:p
    2. นายอยู่ 6. นางกิ้ม<O:p</O:p
    3. นางสา 7. นายอินทร์<O:p</O:p
    4. นายน้อย (พระครูนิรุติธรรมธร) <O:p</O:p
    <O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 94849484.jpg
      94849484.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.3 KB
      เปิดดู:
      5,896
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 พฤษภาคม 2010
  3. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    ต่อครับ
    พระครูนิรุติธรรมธร เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 10 ปีเถาะ พ.ศ.2416 เมื่อวัยเยาว์ได้เรียนหนังสือจีนก่อน คือที่โรงเรียนจีนบ้านสะแก ด้วยความเฉลียวฉลาดของท่านซึ่งมีมาแต่เยาว์ ไม่นานนักท่านก็สามารถอ่านเขียนหนังสือได้เก่ง ส่วนคำพูดนั้น ภาษาจีนท่านสามารถพูดได้คล่องแคล่วชำนาญจนเหมือนบิดาของท่าน แต่ท่านได้พอใจจะเรียนแต่ภาษาจีนเท่านั้น

    ดังนั้นท่านจึงเลิกเรียนภาษาจีน แล้วหันกลับมาเรียนหนังสือไทยกับพระอาจารย์จง วัดส้มเสี้ยว ด้วยความเฉลียวฉลาดของท่าน ในไม่ช้าท่านก็เรียนจนเก่งกว่าศิษย์ร่วมรุ่นอาจารย์เดียวกัน แต่ท่านก็ไม่เพียงพอเท่านี้ ด้วยนิสัยรักการเรียนท่านจึงได้ฝึกฝนด้วยตนเองให้ได้รับความชำนาญยิ่งขึ้น ซึ่งในไม่ช้าท่านก็สามารถ เข้ารับราชการเมืองบรรพตพิสัย ครั้งยังไม่ได้เป็นอำเภอ ในตำแหน่งเจ้าพนักงานจัดเก็บภาษีอากรที่มีผู้ผากขาดจากรัฐบาล จนกระทั่งท่านมีอายุได้ 22 ปี ก็เบื่อหน่ายต่อการงานที่ต้องจัดเก็บภาษีเอากับราษฎร ท่านจึงได้ตัดสินใจลาออกจากราชการ ออกบรรพชาอุปสมบทในบวรพระพุทธศาสนา ซึ่งยังความยินดีปรีดามาสู่บิดามารดาและบรรดาญาติพี่น้องเป็นอย่างยิ่ง

    ถ้าได้ทำการอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบางตาหงายเหนือ โดยมีพระอาจารย์มี วัดบ้านแก่ง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์คง วัดดงใต้ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เผือก วัดหัวดง (ซึ่งต่อมาเป็นพระครูบรรโตปมญาณเจ้าคณะอำเภอเมืองบรรพรตพิสัย) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ในท่ามกลางพระภิกษุมากมาย เมื่ออุปสมบทแล้วท่านได้จำพรรษาอยู่กับพระอุปัชฌาย์ที่วัดบ้านแก่งเป็นเวลา 1 พรรษ พร้อมกับศึกษาข้อวัตรตามสมควร

    ในพรรษาที่ 2 ท่านก็ย้ายไปอยู่ในสำนักพระอาจารย์จันทร์ วัดโบสถ์ เมืองอุทัยธานี เพื่อไปศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดนั้น จนได้ความรู้ความสามารถเป็นที่ยิ่งแล้ว ในพรรษาที่ 3 ท่านก็พยายามหาทางก้าวหน้าต่อไป โดยไปอยู่ที่วัดสระเกศ กรุงเทพฯเพื่อทำการศึกษาวัปัสสนา ธุระ ซึ่งก็ยังไม่อิ่มในการดิ้นรนศึกษาของท่านอีก ท่านจึงย้ายไปอยู่วัดระฆัง ธนบุรี ท่านได้ศึกษาคันถธุระ และวิปัสสนาธุระ เมื่อท่านเห็นว่าได้ศึกษาทั้งทางวิปัสสนาธุระและคันถธุระ พอจะรักษาตนเองและสหธรรมมิกในสำนักได้แล้ว จึงนึกถึงบ้านเกิดเมืองนอน และได้กลับมาประจำพรรษา ณ วัดส้มเสี้ยว

    [​IMG]


    และต่อมาท่านก็ได้เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดส้มเสี้ยว ให้การศึกษากุลบุตรกุลธิดาและสพรหมจารีบริษัทผู้อยู่ในสำนักตลอดมา จนเป็นที่นับหน้าถือตา และเป็นที่นับถือสักการะของชาวส้มเสี้ยวและบุคคลทั่วไป ในอำเภอบรรพตพิสัย ท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ไม่นาน ทางฝ่ายปกครองคณะสงฆ์ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์ในท้องถิ่นมณฑลนครสวรรค์ ท่านก็ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าคณะหมวด และด้วยความเป็นผู้มีความรู้และเฉลียวฉลาด ประกอบกับความเมตตากรุณาของท่านที่มีต่อประชาชนทั้งหลายนี้เอง เมื่อพระครูบรรพโตปมญาณ เจ้าคณะเมืองบรรพตพิสัย มรณภาพแล้ว ทางคณะสงฆ์จึงเห็นความสามารถของท่าน
    และเนื่องจากท่านเป็นที่เคารพของพระภิกษุจำนวนมาก จึงมอบหมายให้ท่านรั้งตำแหน่งทำการในหน้าที่เจ้าคณะเมืองบรรพตพิสัย จนกระทั่งถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2451 คณะสงฆ์เห็นว่าเป็นที่ควรแล้วจึงแต่งตั้งท่านเป็นพระครูเจ้าคณะแขวงบรรพตพิสัย และได้รับพระราชทานสัญญาบัตรสมณศักดิ์ มีราชทินนามว่า “พระครูนิรุติธรรมธร” เจ้าคณะแขวงบรรพตพิสัย และเนื่องจากท่านได้เป็นพระอุปัชฌาย์เป็นเวลานาน ทำให้ท่านมีสัทธิวิหาริกจำนวนมาก

    นับได้ว่าท่านพระครูนิรุติธรรมได้ประจำพรรษาอยู่ที่วัดส้มเสี้ยว ตั้งแต่ท่านเป็นพระภิกษุ เป็นเจ้าอาวาส เป็นเจ้าคณะหมวด และเจ้าคณะแขวงแล้ว ท่านก็ยังประจำพรรษาอยู่ที่วัดส้มเสี้ยวจนถึงวันที่ถึงมรณภาพ ท่านจึงได้สั่งสอนภิกษุสามเณรวัดส้มเสี้ยวให้นิยมการศึกษาและการปฏิบัติตลอดเวลา เปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามคราว และได้นำคณะสงฆ์ในแขวงบรรพตพิสัย ให้ย่างขึ้นสู่สมณรสได้เป็นอย่างดี<O:p</O:p<O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • oun99189918.jpg
      oun99189918.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.2 KB
      เปิดดู:
      284
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 พฤษภาคม 2010
  4. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    เกี่ยวกับความนิยมในตัวท่าน ท่านพระครูนิรุติธรรมธร เป็นผู้พอใจในการศึกษา ได้จัดการศึกษาให้เจริญทั่วถึงในแขวงบรรพตพิสัย ในทางก่อสร้างปฏิสังขรณ์ ท่านก็ขวนขวายเพื่อการนี้ตลอดมา ทั้งในวัดส้มเสี้ยวเอง และในวัดอื่น ๆ ที่อยู่ในการปกครองของท่านเท่าที่ท่านพอจะอนุเคราะห์ได้ เช่น บูรณะวัดตาเสือใหม่ ให้เจริญและมีอาณาเขตกว้างขวางและให้ชื่อใหม่ว่า วัดเจริญผล ในด้านการปฏิบัติ ท่านพอใจวิปัสสนา หาโอกาสปลีกตนให้สงบบางครั้งบางคราวเป็นนิตย์เสมอมา เป็นผู้รู้ใจและเห็นใจผู้อยู่ใต้ปกครอง และแสดงความสนิทสนมผู้เข้ามาสมาคมด้วยจนเป็นที่นิยมแก่บรรดาชาวบรรพตพิสัยโดยไม่จืดจาง ทั้งทางปฏิบัติของท่านก็น่าเลื่อมใสเป็นไปพอเหมาะพอดี ภิกษุผู้มีปฏิปาทาดังนี้ย่อมมีมากนัก จึงควรเป็นตัวอย่างอันดีของสัทธิวิหาริกอันเตวาสิก และอนุชนต่อไป

    แต่เป็นที่น่าเสียใจ ที่ท่านต้องมาเริ่มอาพาธเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะพิการตั้งแต่เดือน 6 ปีฉลู พวกเหล่าพุทธศาสนิกชนผู้เลื่อมใสในท่านก็ได้พยายามจัดหาหมอมารักษาท่านแต่ต้นมา อาการของท่านมีแต่ทรงกับทรุด จนกระทั่งถึงเดือน 8 ปีเดียวกัน อาการอาพาธของท่านก็ยิ่งโหมมากขึ้น ถึงกับท่านปัสสาวะไม่ออกหมดความสามารถของหมอในถิ่นเรา

    ดังนั้น พุทธศาสนิกชจนทั้งหลายจึงพร้อมใจกันอาราธนาให้ท่านไปรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ ซึ่งที่โรงพยาบาลนี้หมอได้เจาะที่ท้องน้อยให้ท่านปัสสาวะออกมาทางท้องน้อยนั้น อาการของท่านจึงค่อยดีขึ้น แต่ก็ยังปรากฏว่ามีเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะอุดช่องทางเดินของปัสสาวะ

    จึงต้องอยู่ทำการรักษาอยู่ที่โรงพยาบางศิริราชอยู่ประมาณ 1 เดือนเศษ อาการของท่านจึงค่อยดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ต้องใช้สายยางช่วยในการปัสสาวะทางท้องน้อยอยู่อีก ด้วยความเป็นห่วงท่านจึงได้กลับมายังวัดส้มเสี้ยวและอาการของท่านก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งปัสสาวะลงสู่คลองเดิมแล้ว ซึ่งทำให้พุทธศาสนิกชนที่เคารพและนับถือท่านก็พลอยเบาใจไปด้วย แต่ด้วยความไม่ดูดายของท่าน

    คือในคราวที่เปิดสนามสอบประโยคนักธรรมในแขวงบรรพตพิสัยในปี 2479 นั้นท่านได้ขวนขวายเพื่อพยายามอบรมนักเรียนทั้งต่างวัดและในวัดที่มาประชุมกัน มิใยที่ญาติโยมจะพยายามคัดค้านห้ามปรามและขอร้องท่านโดยอ้างว่าสุขภาพของท่านยังไม่สมบูรณ์ แต่ท่านก็ไม่ฟังในคำห้ามหรือขอร้องนั้น ท่านจึงทำการสอนและอบรมต่อไปจนกระทั่งเสร็จการสอบ

    ซึ่งเป็นผลให้ท่านเกิดอักเสบขึ้นอีก คราวนี้อาการของโรคมีแต่หนักขึ้นโดยลำดับและรวดเร็ว ซึ่งทำให้เป็นที่อนาทรร้อนใจแก่บรรดาศิษย์สานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย และได้พยายามหาหมอมาทำการบำรุงรักษาท่านแต่ก็เหลือความสามารถของหมอที่จะแก้ให้หายได้ ท่านจึงถึงแก่มรณภาพด้วยอาการสงบด้วยโรคเก่านั่นเอง

    ในเวลา 20.20 น. วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2480 ตรงกับวันแรม 13 ค่ำ เดือนยี่ ปีฉลู ที่กุฏิสงฆ์วัดส้มเสี้ยว แขวงบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ คำนวณอายุได้ 71 ปี ซึ่งทำให้ชาวบรรพตพิสัยที่นิยมนับถือท่าน ต้องเศร้าสลดเสียใจเป็นอย่างยิ่ง และได้ตั้งศพท่านไว้ที่วัดส้มเสี้ยว เพื่อรอการพระราชทานเพลิงศพท่านต่อไป จนกระทั่งถึงวันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2482 จึงจัดการมีงานพระราชทานเพลิงศพท่านขึ้นที่วัดส้มเสี้ยว อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนและภิกษุสามเณรจำนวนมาก

    และต่อมาเนื่องจากความเคารพนับถือและระลึกในพระคุณท่าน ชาวบรรพตพิสัย จึงร่วมใจร่วมมือกันหล่อรูปท่านขึ้นไว้ที่หน้าพระอุโบสถ เพื่อสักการบูชาและระลึกถึงในพระคุณของท่านดังที่เราได้เห็นกันอยู่ ทุกวันนี้ และได้ทำการซ่อมแซมต่อเติมให้ดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ และนอกจากนั้น เมื่อถึงเดือน 12 ทุกปี ก็ได้จัดให้มีงานเพื่อระลึกถึงในพระคุณของท่านเป็นประจำตลอดมา<O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 พฤษภาคม 2010
  5. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    ต่อไปนี้เป็นเรื่องราวต่าง ๆ ของท่านหลวงพ่อน้อยซึ่งเล่าให้ฟังจาก โยมห่าม โยมทอง และโยมซัว ซึ่งทั้ง 3 คนนี้เคยเป็นศิษย์ที่เคยคลุกคลีอยู่กับหลวงพ่อในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ พอจะรวบรวมได้ดังนี้
    ในด้านการปกครอง ท่านปกครองเอาใจใส่ไม่เฉพาะแต่พระลูกวัดเท่านั้นแม้แต่เด็กวัด ท่านก็เอาใจใส่ดูแลเคี่ยวเข็ญอยู่เสมอ ในระยะแรกนั้นท่านเป็นคนที่ดุมากจนเป็นที่หวาดกลัวต่อบรรดาพระภิกษุสามเณรและศิษย์วัดมาก ก็เพราะว่าท่านจะเคี่ยวเข็ญให้ได้ดี (ตอนนั้นเด็กวัดในสมัยนั้นแก่นมาก) เมื่อเวลาทีท่านว่าง ๆท่านมักจะเรียกเด็กให้ไปต่อหนังสือกับท่านเสมอ

    ถ้าใครหลีกเลี่ยงหรือต่อหนังสือไม่ได้ท่านก็จะทำโทษ จึงทำให้เด็กต้องพยายามท่องบ่นหนังสือเพื่อให้พ้นโทษ ซึ่งเป็นผลให้เด็กมีความรู้ และเด็กทุกคนมาพูดกันในตอนที่ตนเติบโตว่า ที่เขาได้ดีมานี้ก็เพราะความดุด่าของท่าน
    โดยเฉพาะยิ่งคนที่ได้รับโทษจากท่านมากก็ยิ่งรู้ในคุณของท่านและเคารพท่านมากเท่านั้น แม่แต่พระที่อยู่ในความปกครองของท่าน ท่านก็ตักเตือนดุด่าเสมอไม่เว้นแต่ละองค์ และทั้ง ๆ ที่เคี่ยวเข็ญก็ไม่มีพระองค์ไหนโกรธหรือเกลียดท่านเลย เพราะรู้ดีว่าท่านดุด่าก็เพื่อหวังให้เป็นคนดี

    ต่อมาท่านปลีกเวลาเพื่อวิปัสสนากรรมฐานซึ่งในตอนนี้เองที่ท่านเปลี่ยนจากการเป็นคนดุ มาเป็นคนใจดี ตอนนี้ท่านสั่งสอนมากแต่ไม่ค่อยเคี่ยวเข็ญเหมือนแต่ก่อน และท่านเคยพูดว่า ต่อไปจะไม่เคี่ยวเข็ญแล้วใครอยากได้ดีก็จงทำตามเอาเอง ซึ่งยิ่งทำให้ท่านเป็นที่เกรงใจแก่พวกพระภิกษุสามเณร ที่อยู่ในปกครองยิ่งขึ้น นอกจากการสั่งสอนอบรมแล้ว ท่านหลวงพ่อยังให้ ความเมตตากรุณาต่อพระภิกษุสามเณรโดยทั่วถึงกัน อาทิเช่น
    เมื่อถึงวันโกน ท่านจะเรียกพระภิกษุสามเณรทุกองค์ให้ท่านปลงผมให้ และท่านก็ไม่รบกวนพวกพระเณรเหล่านั้น โดยที่ท่านจะทำการปลงผมของท่านเองในทุกคราวไป<O:p</O:p

    ในด้านสมาคมกับชาวบ้านนั้น
    ท่านรับหน้ารับตาแขกด้วยความเสมอภาค ตั้งแต่มหาเศรษฐีมาจนกระทั่งถึงยาจก ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนจีนท่านต้อนรับโดยเท่าเทียมกัน ไม่ว่าใครจะเดือดร้อนมาถึงจะเป็นเวลาที่ท่านจำวัดให้ปลุกท่านได้ทุกเวลา ใครดีท่านก็สรรเสริญ ใครไม่ดีท่านก็ช่วยสั่งสอนถึงกับดุด่าก็มี แต่ทุกคนที่ท่านดุด่าไม่มีใครโกรธท่านกลับมีแต่จะยกมือไหว้ท่านและเชื่อฟังท่าน ด้วยความเสมอภาคของท่านนี้เอง ทำให้ชนทุกชั้นรักใคร่เคารพท่าน ดังประจักษ์พยานที่ได้รู้กันอยู่ทุกวันนี้<O:p</O:p

    ในด้านการปฏิบัติ
    นอกจากการสวดมนต์ทำวัตรแล้ว ท่านยังพอใจในการวิปัสสนา กรรมฐานและเดินจงกรม กลางคืนท่านโดยมากมักไม่ค่อยจะจำวัด และหาเวลาว่างในตอนกลางวันจำวัด โยมทั้ง 3 บอกว่าท่านเกิดปีกระต่ายนี่ถึงไม่ชอบจำวัดตอนกลางคืน เพราะในเวลากลางคืนท่านใช้เวลาส่วนมากนั่งวิปัสสนากรรมฐานและเดินจงกรมแทบจะไม่เว้นแต่ละคืน และปกติท่านแสดงธรรมเทศนาให้ประชาชนฟังตามกาลที่เห็นสมควร และกระบวนการเทศน์แล้วท่านเทศได้ไพเราะจับใจผู้ฟังมาก โดยเฉพาะเทศน์มหาชาติท่านสามารถเทศน์ได้ทุกกัณฑ์และเป็นที่ติดอกติดใจผู้ได้ฟังมาก<O:p</O:p

    ในด้านการบูรณะ
    ท่านก็ขวนขวายพยายามค่อยทำค่อยไป เพราะเวลานั้นมีคนน้อยไม่เหมือนปัจจุบันนี้ อีกทั้งเงินทองก็ไม่ค่อยจะมีกันนัก แต่ถึงกระนั้น ท่านก็สร้างพระอุโบสถ สร้างศาลาและกุฎิขึ้นจนสำเร็จ ซึ่งก็ด้วยความช่วยเหลือจากญาติโยมอุทิศที่ดินให้บ้าง ช่วยกำลังเงินบ้าง ช่วยแรงงานกันบ้าง และท่านยังได้ย้ายขยับขยายวัดเข้ามาตั้งข้างในเพื่อให้เหมาะสม และท่านพยายามเสาะแสวงหาที่ดินเพื่อขยายเขตวัดให้กว้างขวางออกไป โดยบิณฑบาตจากญาติโยมบ้าง และโดยจัดซื้อมาบ้าง จนเขตวัดได้ขยายโตขึ้นกว่าเดิมเป็นจำนวนมาก และนอกจากนี้ท่านยังได้เจียดที่ดินของวัดให้รัฐบาลสร้างโรงเรียน เพราะท่านเล็งเห็นว่าโรงเรียนเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อกุลบุตรกุลธิดาต่อไป ซึ่งก่อสร้างโรงเรียนนี้ท่านก็อนุญาตให้ใช้ศาลาการเปรียญเป็นโรงเรียน ซึ่งเท่าที่ท่านได้กระทำนี้เป็นสิ่งที่มากหลาย โดยเฉพาะเป็นในสมัยระยะเวลาที่เงินทองและผู้คนไม่มากเหมือนในปัจจุบันนี้<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 พฤษภาคม 2010
  6. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    พูดเรื่องของขลังของท่านแล้ว ประชาชนในสมัยนั้นย่อมรู้จัก น้ำมนต์ และตะกรุดมหารูด ใครได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจหรือมีความทุกข์อะไรมา ก็จะนึกถึงน้ำมนต์หลวงพ่อน้อยหรือพวกข้าราชการก็มาขอน้ำมนต์ของหลวงพ่อเพื่อที่จะให้มีความเจริญก้าวหน้า

    ท่านก็สงเคราะห์ให้ไปโดยทั่วหน้า แต่เรื่องการเข้าหาผู้ใหญ่ เรื่องการหนีภัยหนีโจร และเรื่องเมตตาผูกมิตรกับคนทั่วไปแล้ว ตะกรุดมหารูดพของท่านทำความพอใจให้ผู้ใช้เป็นอย่างดีทีเดียว ที่ทท่านให้ชื่อว่ามหารูดนั้นก็เพราะการใช้ตะกรุดนี้จะต้องรูดให้ถูกทาง เช่น เวลาเข้าหาผู้ใหญ่ให้รูดมาข้างหน้า เวลาใช้หนีภัยให้รูดไปไว้ทางหลังเป็นต้น

    สำหรับความนิยมของประชาชนในตัวท่าน อย่าว่าแต่คนในสมัยท่านเลย แม่แต่ชนรุ่นหลังได้ยินเรื่องราวของท่านต่อ ๆ กันมาก็เคารพนับถือท่านไม่เว้นแต่ละคน ดังประจักษ์พยานที่เห็นไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่มากราบไหว้บูชารูปหล่อของท่าน เพื่อระลึกในคุณของท่านเสมอ

    และยิ่งกว่านั้น ผู้ที่จะเข้ามาบรรพชาอุปสมบท ก่อนที่จะเข้าพระอุโบสถเพื่อบรรพชา ก็จะไม่เว้นเสียซึ่งความเคารพกราบไหว้ระลึกถึงพระคุณของท่าน นี่เป็นการแสดงว่าความดีของท่านหลวงพ่อน้อยไม่มีวันเสื่อมสูญไปยังเป็นที่รู้ในหมู่ชาวเราจนกระทั่งบัดนี้

    สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกว่า หลวงพ่อน้อยท่านเป็นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีอภินิหารมากมาย เป็นที่ประจักษ์ แก่ชาว อ.บรรพตพิสัย และในละแวกใกล้เคียง

    รวมทั้งถึงบุคคลที่เคารพสักการะบูชาท่าน คุณซูม ซอกแซก นักเขียนคอลัมน์นิสต์ชื่อดัง แห่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ก็เป็นคนบรรพตพิสัย ท่านเคยเขียนถึงหลวงพ่อน้อยว่า "ลูกหลานชาวบรรพตทุกคน ไม่ว่าไปอยู่ที่ไหน เวลากลับมาบ้านเกิด ก็จะต้องมากราบไหว้หลวงพ่อน้อยทุกครั้ง" รวมทั้งตัวคุณซูม ด้วย ซึ่งเป็นชาว อ.บรรพตพิสัยเหมือนกัน

    อย่างไรก็ต้องให้คนบรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ อย่างคุณอดุลย์ เมธีกุล มาเปิดเผยและเผยแพร่ เรื่องราวอภินิหารของหลวงพ่อน้อย วัดส้มเสี้ยว ให้ชาวเว็บพลังจิตได้รับรู้ กันบ้างล่ะครับ

    ผมเองได้คิดเรื่องนี้อยู่นานว่าจะเผยแพร่ในเว็บพลังจิตดีมั้ย หลังจากได้ประสบอภินิหารของหลวงพ่อน้อย เมื่อคราวไปกราบรูปเหมือนท่านที่วัดส้มเสี้ยว แต่แล้วก็คิดได้ว่าควรเผยแพร่ประวัติและเกียรติคุณของท่าน เพราะหลวงพ่อน้อยท่านเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบที่เก่งจริง เป็นที่พึ่งของชาวบรรพต และชาวบ้านใกล้เคียงตลอดมา ถึงแม้ว่าท่านจะละสังขารไปหลายสิบปีแล้วก็ตาม แต่อภินิหารของท่านก็ยังเป็นที่ปรากฎ แก่ผู้ที่เคารพนับถือท่านเสมอมา

    เวลาชาวบ้านเดือดร้อนเรื่องราวอะไร หากไม่ผิดศีลธรรมแล้ว ไปจุดธูปบอกเล่าท่าน ก็จะสมหวังกันทุกรายเสมอไป ท่านเป็นพระดีที่ไม่ดังครับ ไม่เหมือนสมัยนี้ที่พระไม่ดีก็ดังได้ด้วยแรงเชียร์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 พฤษภาคม 2010
  7. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    และนี่เป็นรูปเหมือนของท่านในวิหารวัดส้มเสี้ยว ผมถ่ายไว้เมื่อคราวไปกราบท่านที่วัดครับ ดวงตาของท่านนั้นมีเมตตา เหมือนผู้ใหญ่มอบเด็กเล็กอย่างไรอย่างนั้นเลยครับ ช่วยกันพิจารณานะครับว่าจริงหรือเปล่า อ้อลืมบอกไป ถ้าไปเที่ยวที่ อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ไปกราบท่านแล้ว มีขนมเค้กนมสดอร่อยที่สุดในโลกอยู่ในครับ ที่สำคัญราคาไม่แพงครับ อยู่ในตลาดบรรพตครับ ชื่อ ร้าน UD เบอเกอร์รี่ ครับ อร่อยหรือไม่ถามคุณอดุลย์ ดูได้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • img11912.jpg
      img11912.jpg
      ขนาดไฟล์:
      327.9 KB
      เปิดดู:
      7,546
    • img11971.jpg
      img11971.jpg
      ขนาดไฟล์:
      406.3 KB
      เปิดดู:
      333
  9. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดีขอเจ้ากรรมนาย<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>เวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ และจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
    <st1:personName ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข" w:st="on"></st1:personName><st1:personName ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข" w:st="on"></st1:personName>
    <st1:personName ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข" w:st="on">และขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เทพยดาทั้งหลายที่ปกปักษ์รักษาข้าพเจ้า เทพยดาทั้งหลายทั่วสากลพิภพและพระยายมราช ขอเทพยดาทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้และจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด</st1:personName>

    <st1:personName ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข" w:st="on"></st1:personName><st1:personName ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข" w:st="on"></st1:personName>
    <st1:personName ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข" w:st="on">และขอแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลที่ได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้ ให้แก่ท่านทั้งหลายที่มีชีวิตอยู่ก็ดีที่ล่วงลับไปแล้วก็ดี ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี ที่เสวยความทุกข์อยู่ก็ดีเป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี อาทิ บิดามารดา เป็นต้นขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์และความสุขเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด</st1:personName>
    <st1:personName ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข" w:st="on"></st1:personName><st1:personName ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข" w:st="on"></st1:personName>
    <st1:personName ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข" w:st="on">[COLOR=blue][COLOR=red]และขอถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว [/COLOR][COLOR=red]สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ ทุก ๆ พระองค์[/COLOR][COLOR=red]ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน [/COLOR][COLOR=red]มีพระราชประสงค์สิ่งใดขอให้สำเร็จตามพระราชประสงค์ทุกประการเทอญ[/COLOR][/COLOR]</st1:personName>
    <st1:personName ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข" w:st="on"></st1:personName><st1:personName ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข" w:st="on"></st1:personName>
    <st1:personName ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข" w:st="on">ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญมาแล้ว ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด หากไม่สามารถเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ได้ ขอให้คำว่า ไม่มี ไม่รู้ ไม่เป็น ไม่สำเร็จ จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ</st1:personName>
    สาธุ สาธุ สาธุ นะ โม พุท ธา ยะ
    นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง

    http://palungjit.org/forums/ขம.ml#post3146526[.179/B]<!-- google_ad_section_end -->ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคท่อส่งน้ำถวาย วัดเขาชี จ.พิษณุโลก<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  10. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,794
    [​IMG]

    ภาพพิธีพุทธาภิเศกพระรูปเหมือนหลวงพ่อน้อย ในพิธีเสาร์ ๕ ที่ผ่านมา
    โดยมีคุณอนุวัฒน์ เมธีวิบูลย์วุฒิ อธิบดีกรมที่ดินและรองอธิบดีกรมที่ดิน ตลอดทั้งท่าน ส.ส.สัญชัย วงษ์สุนทร ซึ่งเป็นลูกหลานคนบรรพตพิสัยทั้งสิ้นที่ให้เกียรติมาร่วมเป็นประธานในพิธี

    ซึ่งท่านเหล่านี้มีความเคารพนับถือในองค์หลวงพ่อน้อยมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2010
  11. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    พิธีดูยิ่งใหญ่ และเข้มขลังดีมากครับพี่อดุลย์ ขอบคุณนะครับที่นำมาให้ชมภาพบรรยากาศของงานครับ ครับ ท่านผู้หลักผู้ใหญ่บุคคลสำคัญ ก็ยังให้ความเคารพและนับถือหลวงพ่อน้อย วัดส้มเสี้ยว นี่ก็แสดงให้เห็นว่า หลวงพ่อน้อย วัดส้มเสี้ยว นั้น ท่านศักดิ์สิทธิ์จริงครับ
     
  12. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,794
    ภาพพระหล่อรูปเหมือนท่านหมดแล้วตั้งแต่วันงานครับมีทั้ง 5 นิ้วและ 9 นิ้ว
     
  13. pharm.taung

    pharm.taung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2009
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +432
    น่าเสียดายจังเลย :'(

    ขอบคุณพี่กำธรมากครับที่นำประวัติของหลวงพ่อมาลง :cool:
     
  14. บอมม์

    บอมม์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2008
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +474
    ขอบคุณครับ อ่านเพลินเลยครับ นึกถึงวันที่ไปกับพี่กำธร ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ถ่ายใช้แฟลซไม่ออกเลยครับแสงแฟลซ แต่พอหันไปทางอื่นดันออกซะงั้น
     
  15. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    น่าเสียดายที่รูปหล่อของท่านหมดแล้ว ทั้ง ๆ ที่สร้างในรุ่นหลัง ของ ๆ หลวงพ่อน้อย วัดส้มเสี้ยว นั้น ศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ ครับ รูปหล่อเท่าองค์หลวงพ่อน้อย วัดส้มเสี้ยว ในวิหารเคยแสดงอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ ให้ชาว อ.บรรพตพิสัย ได้ประจักษ์กันทั้งอำเภอ จนกระทั่งถึงกับทำบุญกันอย่างใหญ่โต ใน อ.บรรพตพิสัยครับ เป็นอย่างไร ต้องให้คุณอดุลย์ เข้ามาเล่าให้ฟังแล้วล่ะครับ
     
  16. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,794
    ครับพี่กำธร
    [​IMG]


    เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่กล่าวถึงกันมากเมื่อช่วงปีก่อนประมาณ 51-52 ที่ผ่านมา มีชายวัยกลางคนได้เข้ามาทำบุญในวันพระที่วัดส้มเสียว เป็นประเพณีที่เวลาถวายข้าวพระเสร็จช่วงพระฉันจังหันเช้า ชาวบ้านมักพากันไปกราบและถวายดอกไม้ที่วิหารหลวงพ่อน้อย กันเป็นประเพณีที่ทำสืบเนื่องกันมานานแล้ว
    วันพระนี้ก็เช่นกัน ก็มีชาวบ้านได้เข้าไปกราบถวายดอกไม้ธูปเทียนและปิดทองในองค์ท่าน ชายผู้นี้ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่เข้าไปกราบและปิดทององค์ท่าน ไม่ทราบว่าชายผู้นี้เข้าไปกราบไหว้ขอพรอะไรเพราะจากที่ลุกขึ้นและเดินมายังที่ตั้งองค์หลวงพ่อน้อย ที่เป็นทองเหลืองหล่อแบบสมัยก่อน มีความน้ำหนักหนักมากขนาดยกตั้ง 5-6 คนยังแย่ ชายผู้นี้เอื้อมมือจะไปปิดทองบริเวณใบหน้าของท่าน
    ทันใดนั้นเองชายวัยกลางคนรู้สึกเหมือนวูบ ไม่ทันที่จะโดนองค์หลวงพ่อน้อย พร้อมกับรูปหล่อท่านเคลื่อนไปด้านหลัง เหมื่อนหลบไม่ให้โดนองค์ท่านจนล่วงจากฐานแท่นไปขูดกับผนังด้านหลังเป็นรอยทางยาว บรรดาชาวบ้านที่อยู่และเห็นเหตุการณ์ต่างตกตะลึงนึกว่าชายผู้นี้ไปผลักหรือทำให้ท่านล้ม แต่ชายผู้นี้กล่าวยืนยันด้วยเสียสั่นเครือตกใจว่า เขาไม่เคยถูกรูปหล่อหลวงพ่อน้อยเลย เหมือนท่านเขยื้อนตัวหนีผมไปด้านหลัง
    ทางคณะกรรมการรวมทั้งชาวบ้านต่างเห็นว่าเป็นเรื่องที่ประหลาดใจและอาจมีเหตุไม่ดีอะไรสักอย่าง เลยพร้อมใจกันทำบุญและทำบายสีขอขมาต่อรูปหล่อท่านในวันถัดมา เรื่องนี้ทำให้ท่านเป็นที่กล่าวขวัญกันมากจนชาวบ้านที่อยู่ใน อ.ละแวกใกล้เคียงต่างพากันมากราบไหว้และมาชมบารมีกัน

    (เรื่องนี้มีที่มาคือ ชายวัยกลางคนดังกล่าวที่จะเข้าไปปิดทองหลวงพ่อน้อย ได้บนหลวงพ่อไว้ว่า "ขอให้ลูกชายเขา รอดจากคดีขายยาบ้า แล้วเขาจะมาแก้บน ) เรื่องนี้ทำให้มีชาวบ้านที่วิพากษวิจารณ์กันว่า ทำความชั่วแล้วยังจะมาขอให้พระช่วย ท่านไม่ยอมรับจึงทำให้มีเหตุการณ์ดังกล่าวจึงเกิดขึ้น
     
  17. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,794
    พระเกจิอาจารย์ในอดีตสายนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    เรื่องบนหลวงพ่อน้อย วัดส้มเสี้ยว นี้ผมก็มีประสบการณ์เหมือนกันครับ คือหลานชายของผมไปสอบเข้าที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม แล้วปรากฎว่าไม่ได้ พอดีวันนั้นผมไปที่ อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เพื่อไปกินขนมเค้กนมสดอร่อยที่สุดในโลก ที่ร้าน UD เบเกอร์รี่ ในตลาด อ.บรรพตพิสัย ขากลับได้แวะไปกราบรูปหล่อหลวงพ่อน้อย ที่วัดส้มเสี้ยว และได้บนบานกับหลวงพ่อน้อยไว้ ขอให้หลานชาย ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ด้วยเถิด แล้วจะนำพวงมาลัยมากราบถวายท่าน พร้อมปิดทองคำแท้ หลังจากนั้นไม่นาน หลวงพี่ต้อย วัดบางพระ โทรมาบอกว่า หลานมึงได้แล้วนะ จะช่วยค่าบริจาคโรงเรียนเขาเท่าไร ผมได้บอกว่า 5,000 บาทครับ (เพราะพ่อเจ้าเอสเคยบอกไว้ว่าสู้แค่นี้) แต่มาปีนี้ ทางโรงเรียนได้บอกว่า คนเป็นรัฐมนตรีฝาก ยังเสียเป็นหมื่น ๆ เลย และผมก็ได้ไปบอกเจ้าเอสว่าให้ไปคุยกับป๊า เอ็งซิ ว่าบริจาคให้โรงเรียนซัก 10,000 บาท ก็ไม่น่าเกลียดแล้ว ปรากฎว่าคนที่หลวงพี่ต้อยฝากไป เงียบไปเลย และแถมบางคนเสีย 30,00 - 40,000 บาท แต่ไม่มีเส้น ยังไม่ได้เข้าเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากปีนี้ฝากกันมาเป็นหลายร้อยคน ทำเอา ผอ.โรงเรียนแห่งนั้นปวดหัวไปเลยครับ พอมาตอนหลังพ่อเจ้าเอสไม่ยอมบริจาค เนื่องจากใจไม่ถึงมากกว่า อย่างไร ผมก็เลยมานั่งคิดว่า หลวงพ่อน้อย ได้ช่วยให้ขนาดนี้แล้ว แต่ว่าเพราะเจ้าเบส (น้องเจ้าเอส) มีพ่อไม่ดี ไม่มีน้ำใจให้กับลูก ๆ เพราะเงินแค่นี้ ถ้าซื้ออนาคตให้กับลูกได้ก็น่าจะให้ได้ มีลูกกับเมียน้อยอีก 3 คน ลูกตัวเอง อีก 3 คน (ซึ่งเกิดกับพี่สาวผมเอง) จึงอยากจะฝากบอกเพื่อนสมาชิกทุกท่านว่า "ผัวเดียว เมียเดียว ดีที่สุดครับ" และบ้านก็จะไม่แตกสาแหรกขาด อย่างทุกวันนี้ครับ อ้อ ลืมไปครับ เจ้าเอส ได้ไปยกช้างเสี่ยงทายที่หน้ารูปหล่อหลวงพ่อน้อย (ได้อธิษฐานในเรื่องที่น้องสอบไม่ได้นี่แหละครับ) ปรากฎว่ายกช้างขึ้น แต่พออธิษฐานกลับกัน บอกว่า ถ้าน้องได้ ขอให้ยกไม่ขึ้น ก็ยกไม่ขึ้นครับ เจ้าเอส ตัวใหญ่ หนักร่วม 100 กิโลกรัม สูงประมาณ 180 ซม. ก็น่าแปลกนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2010
  19. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    อ่านเพลินเลยครับพี่โจ๊ะ......
    กราบ กราบ กราบ หลวงทวดน้อยครับ.....
     
  20. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    ขอบคุณ คุณเกรียงที่ดันกระทู้ขึ้นมา เป็นโอกาสดีให้กับคนที่ไม่รู้ ได้รู้จักพระดีที่น่ากราบไหว้แห่งเมืองบรรพต นครสวรรค์ ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...