ปาฏฺหาริย์หลวงพ่อแก้ว วัดควนศรี สุราษฎร์ธานี

พ่อท่านคงแก้ว วัดควนศรี สุราษฎร์ธานี
พ่อท่านคงแก้ว วัดควนศรี อมตะเถราจารณ์แห่งเมืองสุราษฎร์ธานี ท่านอยู่ในยุคที่มีสงครามพม่าและมรณภาพลงในช่วงนั้นซึ่งมิอาจจะทราบข้อมูลที่ชัดเจนได้มากนัก ท่านเป็นผู้สร้างวัดพร้อมกับตาปะขาวผู้สหาย ซึ่งวัดควนศรีเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่ยุคศรีวิชัยแต่ไม่ทราบนามเดิมของวัด

พ่อท่านคงแก้วมีศิษย์เอกที่เป็นฆาราวาสขมังเวทย์อยู่สองคน คือ ตาสุด ศิษย์ผู้เป็นเลิศทางปัญญามักนุ่งขาวห่มขาว ตาคง ศิษย์ผู้เป็นเลิศทางอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์มักใช้ผ้าขาวม้าพันคอ ท่านทั้งสองมักแสดงอภินิหารให้ประจักษ์แก่สายตาผู้คนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจุบัน เรื่องราวของท่าน,วัดและลูกศิษย์ทั้งสองเกือบจะลืมเลือนกันไปแล้วถ้าไม่เกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้นมานั้นคือ โรคฝีดาษ

100ปีเศษมาแล้ว ชาวบ้านควนศรีหนีโรคฝีดาษ ซึ่งชาวบ้านอพยพผูกแพหนีออกจากพื้นที่มากมาย และเหตุการณ์ประหลาดก็มาถึง เมื่อมีคนตาบอดพิการที่ไม่สามารถเดินได้เกิดอาการประทับทรงวิ่งฝ่าความมืดท่ามกลางแมกไม้ป่าในอดีตไป ณ ใต้ต้นไทร ชาวบ้านแตกตื่นวิ่งตามไป ชายชราในอาการประทับทรงจึงพูดขึ้นว่า พ่อชื่อคงแก้ว เป็นอดีตสมภารวัดนี้ในอดีต ไม่ต้องหนีไปไหน ให้สร้างวัดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ พ่อจะช่วยรักษาโรคเอง หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นชาวบ้านจึงถากถาง ณ โคนไทรมีพระพุทธรูปหินศิลาแลงลักษณะพระกรหักสองข้าง และพระศอ เอว หักไป มีรากไทรโอบอยู่หน่าแน่น และทราบว่านั้นคือพระพุทธรูปตัวแทนแห่งพ่อท่านคงแก้วนอกจากนี้ยังพบพระพุทธรูปอีกมากมาย และแบบแตกหักก็มีอยู่มาก พบร่องรอยซากเก่าของวัด ชาวบ้านจึงถมซากเก่า สร้างวัดขึ้น ณ บนซากเก่า หลังจากนั้นโรคฝีดาษก็หายขาดไปจากหมู่บ้านทำให้ชาวบ้านไม่ต้องอพยพไปไหนอีก พระพุทธรูปนี้ชาวบ้านได้รวบรวมไว้ในศาลาอดีตตั้งอยู่ภายในสวยยางพาราของวัด ภายหลังมีการปลูกมณฑปขึ้นจึงเคลื่อนย้ายมาไว้ในบริเวณวัด
#ปาฎิหารย์พ่อท่านคงแก้วบางส่วน
1.เนื่องจากรูปพ่อท่านคงแก้วไม่สมบูรณ์คือมีแขนหักสองข้าง มีคนจะบูรณะโดยจะต่อแขน แต่ชายผู้นั้นกลับขยับตัวไม่ได้ จึงรู้ว่าพ่อท่านไม่อนุญาติจึงล้มเลิกไป
2.พ่อท่านคงแก้วจะเลือกร่างทรงที่อยู่ในศีลธรรม สมัยก่อนมีชายชราไม่สามารถลุกจากที่นอนได้ พ่อท่านได้ไปประทับทรงลุกขึ้นวิ่งมาที่วัด ระยะทางหลายกิโล พร้อมยังต้องข้ามคลองมาอีก เนื่องจากไม่มีสะพานเลย แต่เมื่อมาถึงวัดร่างกายกลับไม่เปียก มีคนถามพ่อท่านจึงว่า ข้ามสะพานมา (ทั้งที่ไม่มีสะพานมีคลองกว้าง)หลังจากพ่อท่านออกจากร่างเล่นเอาร่างทรงหมดสภาพตามเดิมต้องหามกลับบ้าน
3.ใครมาจัดมหรสพในวัดโดยไม่บอกกล่าวท่าน มักปวดท้องหรือท้องเสียต้องเกิดอาเภททุกราย จนมีคณะหนังตะลุงโรงหนึ่งเล่ากันเป็นกลอนว่า ว่าบทคำไหนขี้ไหลคำนั้น เพราะไม่ขออนุญาตท่านก่อนมาเล่นในงานวัด
4.พ่อท่านชอบชมมโนราห์ ทุกเดือน4จะมีการรำแก้บน ท่านจะเรียกมโนราห์ว่า หัวเลี่ยม เล่ากันว่าหากมีคณะมโนราห์ผ่านวัดต้องนัดกลองบูชาเสียก่อน มิฉะนั้นจะจุกในท้องชักดิ้นชักงอไปทุกราย
5.วัดควนศรีเมื่อมีเหตุการณ์บ้านเมืองเป็นลาง เช่นก่อนเกิดคอมมิวนิสต์ จะมีเสียงฆ้องประหลาดดังขึ้น สืบทราบว่าดังมาจากใต้ดินใต้ต้นโพธิ์ในวัด ซึ่งชาวบ้านในสมัยนั้นได้ยินกันทั่ว
6.บริเวณวัดควนศรีมีสระน้ำซึ่งช่วงหนึ่งถูกถมลง แต่พ่อท่านคงแก้วประทับทรงบอกให้ขุดเหมือนเดิม สระนี้มีมาแต่โบราณ มีชาวบ้านเคยเจอพระพุทธรูปลอยขึ้นมา และจมหายไปต่อหน้าต่อตา ยังมีชาวบ้านเคยได้ปลาไหลเผือก ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็นานมาแล้ว
7.ครั้งนั้นทางวัดมีโครงการจะสร้างรูปพ่อท่านคงแก้วในรูปสมบูรณ์ ท่านจึงประทับทรงบอกว่าให้สร้างด้วยหินศิลาแลงเช่นองค์เดิม จึงได้สร้างที่จังหวัดศรีษะเกษ เมื่อสร้างเสร็จกลับยกไม่ขึ้น ครั้นนั้นร่างทรงพ่อท่านได้อยู่ในเหตุการณ์ เกิดการประทับทรงและบอกว่า ทำไมไม่ออกชื่อบอกกล่าวกันก่อน จึงมีการออกชื่อบอกกล่าว จากยกไม่ขึ้นกลับเป็นยกเบาสบาย
8.เมื่อมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นพ่อท่านจะประทับทรงบอกลูกหลานก่อนล่วงหน้าพร้อมบอกวิธีแก้ พ่อท่านในร่างทรงจะแทนตนว่า พ่อ มีท่าทางสงบเสงี่ยม จึงนับว่าเป็นบุญของชาวควนศรีที่พ่อท่านคุ้มครองและรักดั่งลูกหลานของท่านทุกคน
9.ตาสุด ตาคง ศิษย์เอกพ่อท่านทั้งสอง สมัยก่อนมีคนเคยเห็นชายชรานั่งคร่อมหลังคาโบสถ์แสดงอิทธิฤทธิ์ให้เห็นอยู่เสมอ
10.งานเดือน4ปีหนึ่ง เกิดไฟฟ้าในวัดลัดวงจรขณะพ่อท่านและลูกศิษย์ประทับทรงอยู่ในมณฑปผู้ร่วมงานต่างโวยวาย มีกระแสไปแลบตามสายไฟบนมณฑป พ่อท่านจึงว่า ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องหนีไม่เป็นไรพ่อช่วยเอง อาการไฟฟ้าบกพร่องก็หายไปทันทีที่ท่านเอ่ย (ขณะนั้นผู้เขียนนั่งอยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย)
11.พ่อท่าน จะไม่ฉันและรับเครื่องเซ่นไหว้ที่ทำด้วยเนื้อสัตว์ มีรายหนึ่งแก้บนโดยการนำหัวหมูไปถวายบนมณฑปถึงกับวิ่งหิ้วหัวหมูกลับไม่เป็นท่า ซึ่งผู้เขียนเองก็ไม่ทราบว่าเขาไปเจออะไรมา
12.งานเดือน4วัดควนศรีเป็นงานแก้บนและบวงสรวงพ่อท่านคงแก้วที่มีมาทุกปี จะมีการถวายพองลา ไว้บนศาลามากมาย เมื่อมีการประทับทรงศิษย์พ่อท่านไม่ตาสุดก็ตาคงจะขึ้นบนศาลาโยนพองลาที่ทอดด้วย น้ำมันหมูหรือรอยสัตว์ทิ้ง ซึ่งท่านรู้ได้อย่างไรก็ไม่ทราบ

หลวงพ่อแก้ว วัดควนศรี


ขนมลา ขนมประจำเทศกาลบุญสารทเดือนสิบของชาวใต้

ขนมลา หรือขนมที่มีลักษณะเป็นเส้นสีทองบาง ๆ จับกลุ่มรวมกันเหมือนผ้าแพรผืนหนา เป็นขนมหวานที่มีถิ่นกำเนิดจากภาคใต้ของประเทศไทย

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
บทความ ประวัติขนมลา ขนมประจำเทศกาลบุญสารทเดือนสิบของชาวใต้
https://cooking.kapook.com/view96524.html
ประวัติพอสังเขปพ่อท่านคงแก้ว ของคุณขวาน นาสาร ไกรสิทธิ์ ชูชาติ
FB พ่อท่านคงแก้ว วัดควนศรี