เรื่องเด่น ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวถึงบุญคุณของในหลวง ร.๙

ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวถึงบุญคุณของในหลวง ร.๙



ประธานาธิปดีปูตินให้สัมภาษณ์

“รัสเซียมีข้าวสาลีใช้ในประเทศจนเหลือส่งออกไปขายได้ ปัจจุบันรัสเซียส่งออกข้าวสาลีได้มากที่สุดในโลก เป็นเพราะบุญคุณของ King Bhumibol” ปูติน กล่าวชื่นชม

ประธานาธิบดีปูตินได้กล่าวถึงบุญคุณ ที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงแนะนำศาสตร์พระราชา ไปใช้กับประเทศรัสเซีย จนสามารถยืนหยัดอยู่ได้ถึงปัจจุบัน

ผมชอบนิสัยคนไทย ตรงที่มีจิตใจดี มีเมตตา เอื้อเฟื้อแม้กับคนที่ไม่ใช่ญาติ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ลักษณะอย่างนี้หาได้ยากในชาติตะวันตก ผมมีทัศนคติที่ดีต่อคนไทยมานานแล้วครับ ตั้งแต่ผมพบเพื่อนคนไทยคนนี้ หลังจากนั้นอีกนานผมได้เป็นประธานาธิบดีมีโอกาสเข้าพบ King Bhumibol ผมได้รับความเมตตาจากท่านมากมายหลายอย่าง ท่านให้คำแนะนำเรื่องการเกษตรกับผม เรื่องน้ำ เรื่องการส่งเสริมให้ประชาชนพึ่งพาตนเองในเรื่องอาหาร ทรงมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าว่าผมจะต้องสู้กับพวกตะวันตก และเรื่องอาหารจะเป็นจุดอ่อนของประเทศรัสเซีย เพราะเราไม่เคยศึกษาพัฒนาการเกษตรอย่างจริงจังเลย พอเรามีเงินเราสั่งเข้ามาอย่างเดียว

King Bhumibol ท่านบอกว่า ถ้าซื้อเขามากินอย่างเดียว ไม่เคยทำเอง ถ้าเขาไม่ขายให้เรา เราจะทำอย่างไร ประชาชนอดอยากโทษรัฐบาล และรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ รัฐบาลไม่ดีช่างเถิด แต่ถ้าเป็นรัฐบาลที่ดีจะต้องถูกไล่เพราะหาอาหารให้ประชาชนไม่ได้อย่างนั้นหรือ การแจกเงินให้ประชาชนเป็นการซื้อเสียงวิธีหนึ่ง ได้เงินไปไม่ได้มากอะไร ไม่สามารถนำเงินนั้นไปเป็นเงินทุนทำมาหากินได้ แต่เอาไปใช้จ่ายสนุกสนานเดี๋ยวหมด

รัสเซียมีที่ดินมากมาย ผมถึงริเริ่มแจกที่ดินแก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ที่คนทั่วไปยังยึดติดว่าที่นั่นเป็นที่กันดาร เคยเป็นคุก เพาะปลูกไม่ได้เพราะอากาศหนาวจัดดินแข็ง แต่ King Bhumibol ท่านยืนยันว่าทำได้ทุกแห่ง ไม่ว่าอากาศหนาวหรือร้อน ถ้าเราศึกษาอย่างจริงจัง วิเคราะห์ดิน แหล่งน้ำ พืชพันธุ์ที่ทนอากาศหนาวจัดได้มีอะไรบ้าง หน้าร้อนอุณหภูิมิเฉลี่ยเท่าไร กินเวลากี่เดือน เราควรปลูกอะไรที่ให้ผลในภูมิอากาศแบบนั้น ผมเดินทางไปที่นั่นด้วยตนเอง พานักวิชาการเกษตรไปด้วย เราเริ่มวิจัยลักษณะดิน หาแหล่งน้ำเตรียมไว้ มาลงตัวที่ข้าวสาลี ที่เราใช้เป็นอาหารหลัก ยุโรปก็ใช้ ผมเริ่มสนับสนุนปลูกข้าวสาลีเป็นบริเวณกว้าง

รัสเซียมีประชากร 143,500,000 คน ประมาณนี้ เริ่มแรกเราทำให้พอกินในประเทศก่อน ลองดูครับ แรกๆพอบริโภคในแต่ละปีเท่านั้น พอเราถูก Sanction อาหารหลายชนิดขาดแคลน รวมทั้งเนื้อสัตว์ด้วย รัฐบาลช่วยให้ทุนแก่เกษตรกรไปเพาะปลูกพวกมันฝรั่ง ข้าวสาลี ข้าวโพด มากขึ้น จนกระทั่งปี 2016 รัสเซียมีข้าวสาลีใช้ในประเทศจนเหลือส่งออกไปขายได้ ปัจจุบันรัสเซียส่งออกข้าวสาลีได้มากที่สุดในโลก เป็นเพราะบุญคุณของ King Bhumibol

คนของประเทศใดย่อมรู้จักและเข้าใจคนในชาติเดียว กันว่าเขาต้องการอะไร และเราต้องทำอย่างไรเพื่อสนองความต้องการนั้นๆให้ได้ King Bhumibol ท่านอธิบายให้ผมฟังว่า คนนั้นต้องการแค่ 4 อย่าง คืออาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค แค่นี้เท่านั้นที่ผมควรระลึกไว้ตลอดเวลา และจัดหาให้ประชาชนอย่าได้ขาด สิ่งอื่นนอกจากนี้เป็นของฟุ่มเฟือย มีได้ ไม่มีไม่ตาย แต่ถ้าขาด 4 อย่างนี้ตาย รัฐบาลตายด้วย

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ออกแถลงแสดงความเสียใจ ต่อประชาชนและรัฐบาลของไทย ภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ

ปูตินกล่าวว่า “ในรัชสมัยของในหลวง ร.9 ไทยบรรลุความสำเร็จทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และเสริมจุดยืนของประเทศในเวทีนานาชาติ รัสเซียจะจดจำพระองค์ในฐานะผู้สนับสนุนคนสำคัญ ของการพัฒนามิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับไทย”
http://tass.ru/politika/3702824

จากเฟสบุคผู้ใช้นามว่า “สาโรจน์ขอเป็นข้า รองพระบาททุกชาติไป”

ที่มา https://chanaview.wordpress.com/2019/04/14/ปธน-วลาดิเมียร์-ปูติน-แห/

 

"EU-US" พัง ไทยดูไว้ "ปูติน" เชื่อในหลวง ร.9 เศรษฐกิจพอเพียง

26 เม.ย. 2020​

 

ผญบ.ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผักแจกชาวบ้านฟรี!

16 เม.ย. 2020​

 

สมัยรัชกาลที่ 9 ทรงพระชนม์อยู่ไม่เคยมีข่าวคนไทยฆ่าตัวตายเพราะจะอดตายไม่มีอะไรจะกิน เพิ่งจะมีก็สมัยนายกฯประยุทธนี่แหละ

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านนายกฯประยุทธกำลังคืนความสุขหรือความทุกข์ให้คนไทยทั้งประเทศกันแน่ แต่ที่แน่ๆบรรดาท่านนายพลทั้งหลายในกองทัพก็ยังอยู่ดีมีสุขเหมือนเดิมครับ

 

อดทนกันอีกหน่อยเถิด...ศิวิไลซ์ กำลังจะมาบังเกิดขึ้นในสยาม!!!



ในหลวง ร.9 ทรงรับสั่ง "ฉันจะอยู่ถึง 120 ปี"

“ฉันจะอยู่ถึง 120 ปี จะอยู่จนฉลองพระราชพิธีครองสิริราชสมบัติครบ 100 ปี” นั่นคือพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่มีต่อท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ระหว่างจัดถวายพระพรและขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ที่จะถวายพระพรว่า ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมพรรษาเกินกว่า 100 พรรษา

Aunyasit สมาชิก

หลวงปู่เทพโลกอุดร (หลวงปู่ใหญ่) ท่านบอกว่าบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะอยู่ถึง 120 ปี หลวงปู่ใหญ่ท่านรู้เกี่ยวกับรหัสนัยของการมีอายุยืน เพราะท่านอยู่มา 2500 กว่าปีแล้ว หลวงปู่ใหญ่ท่านจึงลงมานำพาในการสร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสเฉลิมพระชนพรรษา 80 พรรษา เมื่อหล่อพระเสร็จฯ ก่อนหลวงปู่ใหญ่กลับท่านก็บอกอีกว่า พระเจ้าอยู่หัว ร.9 จะอยู่ถึง 120 ปี แน่นอน

ก่อนหล่อพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ หลวงปู่ใหญ่ท่านให้ผม เขียนพระนามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จย่า รวมทั้งวันพระราชสมภพ ลงในแผ่นทองคำแท้ ขนาด 9 X 9 เซ็นติเมตร จำนวน 5 แผ่น แล้วนำไปให้หลวงปู่ใหญ่ ที่ จ. หนองคาย จากนั้นเมื่อหลวงปู่ใหญ่ท่านลงมาในวันพระ ตอนขากลับขึ้นข้างบน หลวงปู่ท่านก็นำแผ่นทองคำหายไปกับท่านในนภากาศ จนกระทั่งถึงวันหล่อผมก็ถามหลวงปู่ถึงแผ่นทองคำที่มีพระนามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จย่า หลวงปู่ใหญ่ท่านบอกว่า หลวงปู่ได้นำไปหล่อในองค์พระทั้งห้าพระองค์เรียบร้อยแล้ว

หล่อพระฯเสร็จจึงถึงบางอ้อ ในความหมายที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านกล่าวไว้ว่า "การสร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ในครั้งนี้สำคัญต่อพระเจ้าอยู่หัวและสำคัญต่อประเทศชาติ" ตอนนี้ก็พอจะเข้าใจได้ว่าพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ สำคัญต่อพระองค์ท่านและประเทศชาติอย่างไร

ผมก็เคยคุยกับหลวงปู่ใหญ่หลายเรื่องเกี่ยวกับประเทศไทย หลวงปู่ท่านบอกว่าพวกเทพเทวดา จะช่วยกันประคับประคองพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัวให้ท่านอยู่นานที่สุด ซึ่งจะเป็นการยืดเวลาของความหายนะที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยด้วย เพราะประเทศไทยในเวลานี้ต้องพึงบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากไม่มีพระเจ้าอยู่หัว คนไทยเราจะไม่สามารถอยู่กันอย่างเป็นสุขได้ แผ่นดินสยามจะร้อนเป็นไฟ และจะแยกออกเป็นสามส่วน

ขอพระบารมีแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ จงโปรดดลบันดาลให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน สถิตย์เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

เคยถามหลวงปู่ใหญ่ท่านว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือใคร หลวงปู่ท่านตอบว่า ไปศึกษาดูนะว่าเทพองค์ไหนที่มีพญาครุฑเป็นพาหนะ ผมก็เลยสรุปเอาเองว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คงจะเป็นพระมหาโพธิสัตว์ องค์หนึ่ง

หลวงปู่ท่านก็ให้ผมมาทำการบ้าน โดยให้หาว่า 1 ใน 80 ของพระอสีติมหาสาวก มีอยู่หนึ่งองค์ที่มีฝ่าเท้าเป็นกงจักร ท่านบอกว่าให้ศึกษาดูว่าพระอรหันต์องค์นั้นชื่ออะไร เพราะพระองค์นี้ก็จะมีบทบาทสำคัญในพระพุทธศาสนาในระยะเวลาอันใกล้นี้ ตอนนี้ผมก็ยังหาชื่อท่านไม่ได้ ใครทราบก็ช่วยบอกด้วยนะครับ ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นคนที่หลวงปู่ใหญ่ท่านเคยบอกว่า เป็นมือขวาของหลวงปู่ซึ่งเป็นคน(ในยุคปัจจุบัน)ที่เกิดมาแล้วเดินอยู่เหนือพื้น 1 ศอกเท้าไม่เคยแตะพื้น ซึ่งปัจจุบันกำลังทำบารมีอยู่หรือเปล่า

Aunyasit, 11 มิถุนายน 2008

ที่มา https://palungjit.org/threads/ในหลวงตรัส-ฉันจะอยู่ถึง-120-ปี.133121/

ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา

คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ

 

เรื่องอจินไตย ของในหลวง ร.9



ในพระพุทธศาสนามีคำสอนอยู่เรื่องหนึ่งคือ "อจินไตย" คือเรื่องที่ไม่ควรคิด

เรื่องนี้ถ้าฟังเผิน ๆ แล้ว ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับคำสอนในพระพุทธศาสนา เพราะพระพุทธศาสนานั้นเป็นศาสนาเดียวในโลกที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกล้าประกาศว่า คำสอนทุกคำประกอบด้วยเหตุผล มีความลุ่มลึก ไปตามลำดับ จากง่ายไปหายาก ตื้นไปหาลึก สามารถพิสูจน์ได้ว่า ใครทำกรรมอย่างไรไว้ ตนจะต้องได้รับผลของกรรมนั้น ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว และธรรมะของพระองค์ต้องน้อมนำมาไว้ในตัว ยิ่งเรียนแล้วยิ่งรู้จักตัวเอง เป็นผลให้เข้าใจคนทั้งโลกจะตามมา พระพุทธศาสนาสอนให้มีเหตุผล แต่ทำไมถึงมาสอนเรื่องที่ไม่ควรคิด เพื่อขยายความเรื่องนี้ให้ชัดเจน หลวงพ่อจะมาพูดคุยกับพวกเราเรื่อง "อจินไตย"

ทำไมจึงไม่ควรคิดเรื่องอจินไตย

ความจริงแล้วธรรมะทุกข้อที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้ ควรแก่การขบคิดทุกข้อ เพียงแต่ว่าเมื่อจะขบคิดอะไรนั้น ต้องมีพื้นฐานในเรื่องนั้นเพียงพอ ถ้าพื้นฐานไม่พอ แล้วไปคิดเข้า อาจจะมีส่วนแห่งความเป็นบ้าได้

ยกตัวอย่าง เด็กอนุบาลไปคิดเรื่องคณิตศาสตร์ว่า ทำอย่างไรถึงจะไป ดวงดาวได้ด้วยจรวด ยิ่งคิดเดี๋ยวก็จะยิ่งบ้าเท่านั้น เพราะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ของเด็กไม่เพียงพอ แต่ว่าถ้าจบมหาวิทยาลัยแล้ว ประสบการณ์ความรู้มากพอ คิดจะไปดวงดาว ดวงเดือนไหน ก็สามารถเป็นไปได้

ในทำนองเดียวกัน ธรรมะทุกข้อของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าล้วนเป็นเรื่องจริง มีความละเอียดลุ่มลึกหลายระดับ เพราะฉะนั้นใครจะตรองหาเหตุผลข้อใดก็ตาม ต้องมีความรู้พอเหมาะพอสมกับเรื่องนั้น ๆ ด้วย

เรื่องอะไรที่ไม่ควรคิด

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย อจินไตย คือเรื่องที่ไม่ควรคิดนั้น มี ๔ ประการ ดังนี้

ประการที่ ๑ พุทธวิสัย คือ ความเป็นไปในอานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ซึ่งไม่เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป

ประการที่ ๒ ฌานวิสัย คือ วิสัยของผู้ได้ฌานตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไป

ประการที่ ๓ วิบากแห่งกรรม คือ ผลของกรรม ทำกรรมอย่างไรไว้จะได้ รับผลของกรรมตามนั้น

ประการที่ ๔ ความคิดเรื่องโลก หรือโลกจินดา คือ ความคิดเรื่องโลก ดวงอาทิตย์ ดวงดาว ดวงจันทร์ ใครเกิดก่อนกัน ใครเป็นคนสร้าง เป็นต้น

ทั้ง ๔ ประการนี้ ยากต่อการนึกคิดหรือเดา ถ้าพื้นฐานทางธรรมยังไม่พอ อย่าเพิ่งไปตรองมาก เอาแค่รับรู้ รับไว้ แต่ห้ามปฏิเสธ แล้วลงมือฝึกฝนตัวเอง จนกว่าระดับใจของเราจะละเอียดลุ่มลึกไปถึงขั้นที่ตรองได้

ที่มา https://th.search.yahoo.com/yhs/sea...th:itype=e:instd=1564643377:uip=825292196:up=

 

ภาพพ่อหลวง ร.9 ทรงทอดพระเนตร ห่วงใยประชาชนของท่านมาก



ก้อนเมฆบนท้องฟ้าเมืองอุบลราชธานี ปรากฏภาพคล้าย พ่อหลวง ร.9 กำลังเฝ้ามองและยังทรงห่วงใย

จากกรณีน้ำท่วมหนักในหลายจังหวัดของประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งในปีนี้ปริมาณน้ำสูงมาก สร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ในพื้นที่จนขณะนี้มีหน่วยงานราชการและภาคเอกชนลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือและร่วมบริจาคสิ่งของซับน้ำตาให้ผู้ประสบภัยนั้น

แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 ที่เพจ มีด่านบอกด้วย อุบลราชธานี ก็ได้มีการแชร์ภาพที่ทำให้ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ถึงกับตื้นตันใจ เมื่อปรากฏก้อนเมฆรูปร่างคล้ายกับพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยหลายคนก็เชื่อว่าพ่อหลวงทรงห่วงใยประชาชน โดยทางเพจได้โพสต์รูปภาพพร้อมทั้งระบุข้อความเอาไว้ว่า.. เห็นเหมือนกันไหม?

หลังจากที่ภาพนี้ได้ถูกแชร์ออกไปในโลกโซเชียล ก็มีชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก

ที่มา https://www.xn--42c2dgos8bxc2dtcg.com/33753/

 

เหตุผลที่ "ในหลวง ร.9 ไม่เคยละทิ้งประชาชน"
​

พระราชนิพนธ์เรื่องเมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งบันทึกเหตุการณ์เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๙ ว่า "ถึงวัดเบญจมบพิตรรถแล่นเร็วขึ้นได้บ้าง

ตามที่ผ่านมาได้ยินเสียงใครคนหนึ่งร้องขึ้นดังๆ ว่า 'อย่าละทิ้งประชาชน' อยากจะร้องบอกเขาลงไปว่า ถ้าประชาชนไม่ 'ทิ้ง' ข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะ 'ละทิ้ง' อย่างไรได้ แต่รถวิ่งเร็วและเลยไปไกลเสียแล้ว"

อีกยี่สิบปีต่อมา คนผู้นั้นได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ในหลวงมีรับสั่งถามว่า "เราน่ะรึที่ร้อง" เขาตอบว่า "ใช่ครับ ตอนนั้นเห็นหน้าท่านเศร้ามาก กลัวจะไม่กลับมา จึงร้องไปเหมือนคนบ้า"

ในหลวงตรัสตอบว่า "นั่นแหละที่ทำให้เรานึกถึง 'หน้าที่' จึงต้องกลับมา" เสด็จสู่ฟากฟ้าสุราลัย พระมหากรุณาธิคุณจารึกในใจไทยชั่วกาล ข้าพระพุทธเจ้า .... ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และหมู่เหล่าคนไทยทั้งชาติ

ขอขอบพระคุณเสียงเพลงเพราะๆ จากพี่เบิร์ด และบริษัทแกรมมี่ ขอขอบพระคุณภาพสวย จากเจ้าของภาพ จุดประสงค์จัดทำขึ้นเพื่อ " เรารักพระองค์ท่าน อย่างไม่มีคำใด จะมาเปรียบได้ ด้วยความบริสุทธิ์จริง "

 

เรื่องอจินไตย ของปรมาจารย์ตั๊กม้อ​

การดู 2,920,663 ครั้ง
8 พ.ค. 2015​

 

ศูนย์รวมใจไทยทั้งชาติ รวมทั้ง 6 ตอน
​

20 ต.ค. 2016​

บีบีซีไทย รวบรวมบันทึกพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ได้พระราชทานสัมภาษณ์แก่บีบีซีในสารคดี Soul of a Nation – The Royal Family of Thailand (ศูนย์รวมใจของชาติ – พระราชวงศ์ไทย) ซึ่งได้นำออกเผยแพร่ไปแล้วทั้งหมด 6 ตอน มาให้ชมกันอีกครั้งในที่นี้ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ตราบนานเท่านาน

 

ใครจะไปเชื่อ จากประเทศที่ดีที่สุดในโลก จะตกอยู่ในภาวะปากเหวแห่งความอดอยาก

10 เม.ย. 2020​

 

เปิดคลิปประวัติศาสตร์ ในหลวง ร.๙ และ พระราชินี พระราชทานสัมภาษณ์สื่อสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาษาฝรั่งเศส

เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร 19 ต.ค. 2016
​

คลิปวีดีโอ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานสัมภาษณ์เป็นภาษาฝรั่งเศส ที่เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี 1960 โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในวัยเยาว์ ประทับอยู่ด้วย

โดยบทสัมภาษณ์ตอนหนึ่ง ผู้สัมภาษณ์ได้ถามว่า หากพูดถึงเรื่องการทำงานขณะที่มีกษัตริย์เหลืออยู่น้อยมากทั่วโลก ท่านรู้สึกโดดเดี่ยวบ้างหรือไม่ พระองค์ตรัสตอบว่า "ท้ายที่สุดแล้วการเป็นกษัตริย์ก็เป็นอาชีพอย่างหนึ่งเหมือนที่คุณได้พูดมา การเป็นกษัตริย์ ถือเป็นอาชีพที่ค่อนข้างจะมีลักษณะที่พิเศษ เพราะว่าไม่มีการเรียนการสอนให้เป็นกษัตริย์ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นอาชีพอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นต้องทำหน้าที่ตรงนี้ให้ชำนาญและต้องรู้ในทุกๆ เรื่องอย่างละนิด เพื่อที่จะสามารถทำความเข้าใจปัญหาที่มีในทุกด้าน"

 

วิกฤติรุมเร้าสังคมไทย พระมหาชนกสอนอะไรคนไทย! : ช่วงที่ 1

20 ก.พ. 2020​

 

วิกฤติรุมเร้าสังคมไทย พระมหาชนกสอนอะไรคนไทย! : ช่วงที่ 2

20 ก.พ. 2020​

 

พระโอวาทานุสาสนี...จากพระไตรปิฏก



บุคคลใด มีจิตปรารถนาพระโพธิญาณ

จงอุตสาหะ อภิบาล บำรุงบิดา มารดา

ประพฤติกุศลสุจริตธรรม

จักสมปรารถนาทุกประการ

***********************************

 

บ้านราชธานีอโศก จ.อุบลราชธานี
​

26 เม.ย. 2017​

 

อโศกรำลึก โจนจันได กับ อาจารย์ยักษ์ วีดีโอคอล​

8 มิ.ย. 2020​

 

"สมคิด" ชูเศรษฐกิจพอเพียง สู้วิกฤตโควิด-19
​

24 มิ.ย. 2020​

"สมคิด" รองนายกฯ ชูโครงการเศรษฐกิจพอเพียง สร้างไทยรับมือวิกฤตโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้สถานประกอบการหยุดกิจการ คนตกงาน และต้องย้าย
กลับภูมิลำเนา กระทบต่อรายได้ของคนและเศรษฐกิจถดถอย

 

"พ่อ" ไม่ได้จากไปไหน...​

การดู 2,824,344 ครั้ง 1 ธ.ค. 2016
​

จากเหตุการณ์สะเทือนใจที่สุดครั้งหนึ่งของคนไทย พวกเราไม่เคยคาดคิดและไม่เคยเตรียมตัวมาก่อน คนไทยจึงกำลังตกอยู่ในความเศร้าโศกจากการสูญเสีย เพราะท่านได้ทรงช่วยเหลือประชาชนไว้มากมาย ทั้งทรงช่วยสร้างชีวิตความเป็นอยู่ของคนให้ดีขึ้น สร้างอาชีพ พัฒนาแหล่งน้ำ ดิน การเพาะปลูก การเกษตร การเลี้ยงปศุสัตว์ ฯลฯ ที่เป็นหัวใจหลักของคนไทยจากโครงการที่ท่านสร้างขึ้นกว่า 4,ooo โครงการ จึงเป็นแนวคิดว่า “ท่านไม่เคยจากไปไหน เพราะสิ่งที่ท่านทำไว้ยังคงอยู่กับประชาชน ยังคอยช่วยเหลือประชาชนคนไทยตลอดไป จากโครงการที่ท่านสร้างขึ้น”

กำกับโดย คุณบรรจง ปิสัญธนะกูล (โต้ง) เนื้อเรื่องย่อ จากแนวคิด “ท่านไม่เคยจากไปไหน ท่านยังคงสธิตย์ อยู่ทุกที่” เนื้อเรื่องเล่าผ่านประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ที่กำลังใช้ชีวิตปกติแต่แฝงไปด้วยอารมณ์ที่เศร้าหมอง แต่แล้วคนเหล่านั้นก็เห็นสิ่งที่ท่านทรงสร้างไว้ให้จากโครงการต่างๆ ทั้งโครงการหญ้าแฝก โครงการปลาร้องไห้ โครงการฝนหลวง โครงการชั่งหัวมัน ทำให้ประชาชนเหล่านั้นคิดถึงท่าน พร้อมระลึกได้ว่าท่านยังคงไม่จากไปไหน ท่านยังอยู่กับ ดิน น้ำ ลม ฝน ที่ท่านสร้างไว้ ทุกคนซาบซึ้งพร้อมกราบไปยังดิน น้ำ ลม ฝนที่ท่านสร้างไว้ให้