เรื่องเด่น ปฏิภาณในการเทศน์ของ สมเด็จโต พรหมรังสี เรื่องเล่าที่หลายคนยังไม่เคยได้ยิน

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย อกาลิโก!, 18 กรกฎาคม 2018.

  1. อกาลิโก!

    อกาลิโก! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    609
    กระทู้เรื่องเด่น:
    531
    ค่าพลัง:
    +3,732
    B9%82%E0%B8%95-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B5.jpg


    ปฏิภาณในการเทศน์ของ สมเด็จโต พรหมรังสี เรื่องเล่าที่หลายคนยังไม่เคยได้ยิน

    พุทธศาสนิกชนหลายคนคงเคยท่องคาถาชินบัญชรอันศักดิ์สิทธิ์ และทราบดีว่าผู้ที่ค้นพบคาถาชินบัญชรนี้ ก็คือ สมเด็จโต พรหมรังสี จอมปราชญ์ผู้ฉลาดหลักแหลมแห่งวงการพุทธศาสนาเมืองไทย นอกจากนี้ชาวไทยทุกคนยังรู้จักผีนางนาค และก็รู้อีกเช่นกันว่า สมเด็จโต คือผู้ปราบ…แต่เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ซีเคร็ตเชื่อว่า หลายคนอาจยังไม่เคยได้ยิน

    ปฏิภาณในการเทศน์

    ครั้งหนึ่งเจ้าประคุณสมเด็จฯได้ถวายเทศนาในพระราชฐานติดกัน 3 วัน วันแรกท่านเทศน์ได้เรียบร้อย ไม่ยาวไม่สั้นจนเกินไปวันที่สองพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ มีพระราชประสงค์จะสดับพระธรรมเทศนาแต่เพียงย่อ ๆ  ด้วยทรงกำลังกระวนกระวายพระทัย (นัยว่าเจ้าจอมประสูติ)  แต่ทรงเกรงอัธยาศัย  จึงคงประทับฟังจนจบ วันนั้นเจ้าประคุณสมเด็จฯกลับถวายเทศน์พิสดารยืดยาวมาก  ครั้นวันที่สามทรงมีพระราชประสงค์จะสดับพระเทศนานานเท่าใดก็ได้แต่เมื่อเจ้าประคุณสมเด็จฯ ถวายศีล  บอกศักราช  ถวายพระพรแล้วกลับกล่าวเพียงว่า

    “ไม่ว่าจะถวายพระธรรมเทศนาหมวดใดๆ มหาบพิตรก็ทรงทราบหมดแล้ว…เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้” แล้วท่านก็ลงจากธรรมาสน์

    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสงสัยจึงตรัสถามว่า

    “ขรัวโต! เมื่อวานเทศน์ยาว วันนี้เทศน์สั้น เพราะเหตุประการใดหรือ” เจ้าประคุณสมเด็จฯ ถวายพระพรว่า

    “เมื่อวานมหาบพิตรทรงมีพระราชหฤทัยกังวลขุ่นมัวเป็นอันมากจะดับเสียได้ก็โดยทรงสดับพระธรรมเทศนาให้มาก แต่วันนี้เห็นว่าทรงมีพระราชหฤทัยผ่องแผ้วแล้ว  จะไม่ทรงสดับเสียก็ยังได้”

    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระสรวล และไม่ได้ตรัสถามอะไรอีก

    อีกคราวหนึ่ง  มีผู้นิมนต์ท่านไปเทศน์คู่กับพระราชาคณะองค์อื่น ขณะที่ใกล้จะจบ พระราชาคณะองค์ที่เป็นคู่เทศน์หยอดท้ายเป็นปริศนาว่า

    “พายเถอะนะพ่อพาย ตะวันจะสายตลาดจะวาย สายบัวจะเน่า”

    เจ้าประคุณสมเด็จฯเทศน์แก้ออกไปโดยทันทีว่า “ก็โซ่ไม่แก้ ประแจไม่ไข จะพายไปไหวหรือพ่อเจ้า”

    คำเทศน์ที่เป็นปริศนาธรรมประโยคแรกมีความหมายว่า อันชีวิตของมนุษย์เรานี้นับวันมีแต่จะร่วงโรยไปทุกวัน  ให้เร่งสร้างบุญสร้างกุศลและปฏิบัติตามหลักธรรมเข้าไว้เถิด มิฉะนั้นจะเป็นการสายเกินไปเพราะความตายใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว

    ส่วนคำแก้ของเจ้าประคุณสมเด็จฯนั้นมีความหมายว่า เพราะเหตุที่มนุษย์ทุกคนมีแต่กิเลสตัณหาอยู่แน่นหนาทั้งนั้นถ้าไม่ขจัดสิ่งเหล่านี้เสียก่อนแล้วจะกระทำ (สร้างบุญกุศล) ไปได้อย่างไร

    นอกจากการเทศน์ซึ่งเป็นไปตามทำนองที่นิยมเทศน์กันแล้ว เจ้าประคุณสมเด็จฯยังสามารถเทศน์โดยอาศัยหลักวิชาทางอื่นเป็นส่วนประกอบ เช่น อาศัยหลักวิชาโหราศาสตร์เทศน์เรื่องนักษัตร ด้วยความเก่งกล้าสามารถอย่างเอกอุ  ชื่อเสียงของท่านจึงขจรไปไกล  ถึงขนาดได้รับนิมนต์ให้เดินทางไปเทศน์โปรดพระเจ้าแผ่นดินเขมร  จึงถือได้ว่าเป็นพระธรรมทูตองค์แรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ที่เดินทางไปเชื่อมสันถวไมตรีที่นั่นอีกด้วย

    ข้อมูลอ้างอิง

    ชีวประวัติ –อภินิหาร  พระคาถาชินบัญชร ของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)  วัดระฆัง  รวบรวมโดยบุษยเทพย์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต  พรหมรังสี)  เรียบเรียงโดยชัย  บัญชร

    เรื่อง เสาวลักษณ์ ศรีสุวรรณ ภาพ วรวุฒิ วิชาธร

    Secret Magazine (Thailand)


    ขอบคุณที่มา
    http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/15196.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...