นิพพานไม่ใช่เป็นแดนสุขาวดีที่เป็นอมตะและเพรียบพร้อมด้วยความสุขล้วนๆ ตลอดนิรันดร์กาลตา

นิพพานไม่ใช่เป็นแดนสุขาวดีที่เป็นอมตะและเพรียบพร้อมด้วยความสุขล้วนๆ ตลอดนิรันดร์กาลต

<TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>นิพพานหมายถึง ความหลุดพ้นจากกิเลสตัณหา ผู้ที่ปราศจากกิเลสตัณหาแล้วนั้น เมื่อสิ้นชีวิตลงก็จะไม่มีการสืบต่อของ จิต+เจตสิก และรูป อีกต่อไป
ไม่มีการสืบต่อภพชาติ หยุดการเวียนวายตายเกิด พ้นจากทุกข์ทั้งปวงโดยสิ้นเชิง
จึงกล่าวว่านิพพานเป็นธรรมชาติที่ปราศกิเลส ตัณหา เป็นธรรมชาติที่ดับทุกข์โดยสิ้นเชิง และเป็นธรรมชาติที่พ้นจากขันธ์ 5
นิพพานไม่ใช่แดนสุขาวดี ที่เป็นอมตะและเพรียบพร้อมด้วยสุขล้วนๆ ตลอดนิรันดร์กาล..
(ข้อความจาก หนังสือสาระน่ารู้เกี่ยวกับพระอภิธรรม
อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หน้าที่ 27)
อยากรู้เรื่องพระนิพพานที่แท้จริง โปรดศึกษาพระอภิธรรม หรือติดตามตอนต่อไป..
</TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ รักพระสัทธรรม </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ทฤษฏีนี้ คือพระธรรม ที่ควรศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ครับ

ทุกอย่างต้องเริ่มจาก การศึกษาทฤษฏีก่อนทั้งนั้น และ ลงมือปฏิบัติ เพื่อให้ถูกต้อง มิหลงทาง

 

ปฏิบัติอยู่ครับ แต่ไม่อยากให้พระสัทธรรมบิดเบือน สำหรับผู้มีปัญญา

 

พระไตรปิฏกอาจไม่ครบ 100 เปอร์เซนต์ตามที่คุณกล่าวก้อเป็นได้ แต่ส่วนใหญ่เนื้อหาธรรมะหลายส่วนยังอยู่ ผู้ศึกษาอย่างแท้จริงย่อมทราบว่า ธรรมะในพระไตรปิฏก ส่วนใหญ่กล่าวไว้โดยสอดคล้องกัน สนับสนุนกัน และสามารถเป็นหลักในการปฏิบัติ เพื่อมุ่งสู่พระนิพพานได้ จนกว่าจะ 5000 ปีผ่าน
การศึกษาธรรม ต้องเริ่มจากการฟัง(แม่แต่ในสมัยพุทธกาล) หรือการอ่าน ก่อนทั้งนั้น จนเข้าใจดี ถึงจะนำไปปฏิบัติ ถ้าสงสัย ก็จะถามพระผู้มีพระภาคจนหมดสงสัย(หรือใครไม่ต้องศึกษาก่อนได้ละครับ)
ผู้ที่ปฏิบัติธรรมโดยไม่ศึกษา มักจะหลงได้ง่าย ไม่รู้จุดมุ่งหมายโดยแม้จริง
ผู้ศึกษาธรรมะย่อม สามารถที่จะมีเหตุมีปัจจัย ที่จะเข้าใจจุดมุ่งหมาย (นิพพาน) ได้อย่างถูกต้อง ไม่ได้มุ่งหวังผิดทาง
แล้วก้อ ผมวิจารณ์เพราะมีประโยชน์กับผู้อื่นครับ

 

ผมไม่ได้วิจารณ์ชาวบ้าน เพื่อเอาชนะหรอกครับ แต่ผมสงสารคนที่ จะมาเข้าใจธรรมะผิดๆ หลักจากพระไตรปิฏก ครับ

 

ขอบคุณครับ..ที่กรุณาเตือนครับ กระผมพยายามปฏิบัติธรรมและแนะนำจุดมุ่งหมายที่ถูกต้องแก่ผู้สนใจ ตามแนวทางของพระไตรปิฏกครับ ก็จะเป็นกุศลปัจจัยอย่างหนึ่งครับ...ด้วยจิตเป็นกุศลครับเป็นความผ่องใสของจิต ในการนำเสนอ

 

น่าจะได้ข้อสรุปนะครับว่า ผู้หวังดี ในบอร์ดคนเมืองบัว narit ในบอร์พลังจิต รักษ์สัทธรรม และอื่นๆ ในบอร์ดต่างๆ เป็นคนเดียวกันกับ เว็ปมาสเตอร์ของ http://apinyatatip.cyber2host.com/ ที่มีบอร์ด คือ http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vboard.php?user=apinyatatip

หลังจากมีผู้รู้ที่มาของคนผู้นี้ กระทู้ป่วนต่างๆ หายไปเลยครับ ในบอร์ดคนเมืองบัว อาจมีการลบกระทู้ แต่ในพลังจิต ไม่มีการลบ ก็ไม่เข้าไปป่วนอีก

น่าขำดีนะครับ ของตัวเองเพี้ยนหนักกว่าชาวบ้านอีก เที่ยวไปว่าชาวบ้านเขา มีการบอกว่า ดูสวรรค์หรือนรกครบกี่ครั้งก็ไม่รู้ล้างบาปได้ ลองอ่านดูนะครับจากhttp://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=5&highlight=%BE%D4%C1%BE%D2

 

คำสอนที่ถูกต้องเชิญศึกษาได้จากครูบาอาจารย์ของ คุณnarit จากhttp://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=5

คำสอนที่ถูกคือ เผาบัญชีบาปได้ เลยว่าพระได้ ไม่ตกนรก นี่เป็นคำสอนของครูของnaritทั้งหลาย เก่งกว่าพระพุทธเจ้าอีก

 

กล่าวสิ่งใดถ้าไม่แน่ใจ ก็อย่าเสี่ยงเลยครับ ...มันหมิ่นเหม่ต่อนรก

 

เฮ้อ...ขำ ทีตัวเองว่าอาจารย์คนอื่นไม่เป็นไร พออาจารย์ตัวเองโดนว่าบ้าง ดันมาบอกเสี่ยงนรก ถุย

 

หมั่นปฎิบัติธรรมให้ถึงนิพพานซิครับ ไม่เห็นจะต้องอยากรู้เลยว่านิพพานเป็นอย่างไร
ผมว่าถ้ายังอยากรู้ ก็ไปไม่ถึงซักทีนะครับ