ทางมันขรุขระ ก็มาเล่า ๆ ให้กันฟังครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย BossTH, 20 พฤษภาคม 2012.

  1. BossTH

    BossTH Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +89
    ทางมันขรุขระ ก็มาเล่า ๆ ให้กันฟังครับ

    สิ่งที่มารบกวนผมในการปฏิบัติธรรมคราวนี้กลับไม่ใช่เพื่อนต่างภพ กลายเป็นเพื่อนในภพเดีวกันแทนซะงั้น ผมโดนเคาะประตูห้องวันละหลาย ๆ ครั้ง 7 - 8 ครั้งได้ เป็นเวลา 4 - 5 วัน จากเพื่อนอายุ 45 (ผู้ชาย) เค้าทะเลาะกับเมียใหม่แล้วเลิกกัน จนถึงขนาดไปซื้อกระสุนปืนหัวระเบิด 10 นัด แล้วเค้าก่อต่อสายโทรศัพท์ให้ผมคุย (ใจก็ไม่อยากยุ่งอะนะแต่เห็นว่ามาขอร้อง) ผมก็คุยกับเมียใหม่เค้า ก่อนวางสาย "ไปตายที่ไหนก็ไป" วางเลย เพื่อนผมคนนี้ก็ ลุก จากเก้าอี้เลย พร้อมกระสุน ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะพูดมาทั้งวันแล้ว หมดภูมิปัญญาทางธรรมแล้ว เลยจำใจต้องพูดว่า "แล้วจะทำบุญไปให้แล้วกัน" เค้าถึงยอมหยุด แต่กรรมใดใครก่อจริง ๆ ครับ ผมต้องรับผลกรรมนี้ไปหลายวันเลย สุดท้ายผมเลยต้องบอกว่าไม่ช่วยอะไรแล้ว เพราะเค้า อยากฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า จากปากผม และจะฟังจนกว่าความทุกข์ในใจเค้าจะหมดไป ที่ผมไม่ทนแล้วเพราะ เค้าบอกว่า "ของ ๆ กู กูจะเอา ของ ๆ กู คืน" พูดไป 3 - 4 วัน วันละหลายชั่วโมง ได้แค่นี้เอง สุดท้ายก็มาคืนดีกัน เจอกันผมก็ถามว่าทำยังไง เค้าก็บอกว่า ใช้วิธีของผม เฮ้อ... ก็ถือว่าช่วยไป 2 ชีวิต ได้บุญ แต่อึดอัดใจ อย่างที่สุด

    ผมเจอผู้หญิงคนนึงอายุ 79 รู้จักกันมานานแล้ว สามีตายไปได้หลายปี ก็เลยหาแฟนใหม่ เท่าที่เห็นน่าจะอายุ 80 เกือบ 90 แล้ว ....(เอ่อ แล้วจะเข้าวัดอ่านหนังสือธรรมะทำไมกันละเนี่ย)

    ผมเจอผู้ชายคนนึงอายุ 90 กว่า แต่งงานใหม่กับภรรยาอายุ 40 กว่า ๆ (นี่เค้ายังไม่ปลงอีกหรือเนี่ย กิเลส ไม่เคยเลือกอายุเลยจริง ๆ)

    ผมเจอผู้หญิงคนนึงอายุ 60 กว่าแล้ว รู้กันกันมานานแล้ว พอเค้ารู้ว่าผมอ่านธรรมะ ศึกษาธรรมะและปฏิบัติ เค้าก็มาคุยกับผมเรื่องนี้ คุยกันไปได้ซัก 2 - 3 ชม. จบลงด้วยการทะเลาะกัน เพราะเค้าไม่เข้าใจและยอมรับกับสิ่งที่ผมพูดเลย เค้าไม่เข้าใจว่า ความสุขทุกอย่างในชีวิต ก็คือความทุกข์อย่างนึง เค้าจะพยายามให้ผมเชื่อตามที่เค้าเชื่อให้ได้ว่า สุข ก็คือสุข ทุกข์ก็คือทุกข์ ความสุขมันจะเป็นความทุกข์ไปได้ยังไงกัน.... ผมเลยไม่คุย ได้แต่บอกว่า ถ้าเค้าเห็นความสุข เป็นความทุกข์เมื่อไหร่ ค่อยมาคุยกันเรื่องธรรมะนะ (พูดกันต่อไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะอธิบายให้ฟังจนหมดภูมิแล้ว)

    ผมเจอคนๆ นึง ได้รถมาใหม่ ผมถามว่า ถ้าอีก 10 ปี เค้าก็จะอายุ 70 แล้ว เค้ายังจะซื้อรถใหม่อยู่มั้ย เค้าก็บอกว่า ซื้อ ผมก็เลยบอกว่า ซื้อเพราะมันสวย และขับได้ ใช่มั้ย เค้าตอบว่าใช่ ผมก็ถามต่อว่า ทีนี้พอจะเข้าใจหรือยังว่า ทำไมถึงจะต้องมีธรรมะในใจ ทำไมถึงจะต้องมาศึกษาธรรมะ เค้าก็ตอบผมว่า แค่เข้าวัดไปทำบุญก็พอแล้ว o_O" ก็จบไป ผมก็เลยพอ พร้อมกับมีคำถามในใจว่า จะมาชวนผมคุยเรื่องธรรมะ ทำไมกันเนี่ย...เฮ้อ

    เพื่อนผมมาเคาะประตูหาคนนึง ผู้ชายอายุ 45 กลุ้มใจเรื่องกิ๊กกับเมียมาก เมีย 1 กิ๊ก 3 ผมก็อธิบายและพูดธรรมะของพระพุทธเจ้าให้เค้าฟัง อยู่นาน หลายวันเหมือนกัน ครั้งละประมาณ 1 - 2 ชม. แต่สุดท้ายเค้าก็พูดเสียงดังว่า "คุณเข้าใจมั้ย รู้ แต่ทำไม่ได้" (เสียงดังเลย) ก็จบไป ผมก็เลยพอ พร้อมกับมีคำถามในใจว่า แล้วจะมาหาผมทำไม จะมาคุยกับผม ให้ผมพูดธรรมะให้ฟังทำไม เฮ้อ...งง

    จากเหตุการณ์ที่ผมเล่าให้ฟังทั้งหมด ทำให้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม พระพุทธเจ้า ถึงไม่สอนคนทุกคน หรือ พอสอนไปแล้ว คน ๆ นั้นรู้แล้ว แต่ไม่ยอมทำ ไม่ยอมปฏิบัติ ท่านจะลุกหนี หรือไม่ก็นิ่งเงียงไปเฉย ๆ เพราะความยึดมั่นในตัวเอง ยึดมั่นถือมั่น ตัวเราของเรา ตัวกูของกู ยึดอย่างแรงกล้า นี่เอง


    สิ่งที่ผมได้เรียนรู้เพิ่มเติมก็คือ
    1. คนสมัยนี้รู้ธรรมะกันเยอะ แต่ไม่มีธรรมะ
    2. คนสมัยนี้โดยมาก ตัดสินคนกันที่อายุ อายุมากกว่าต้องรู้มากกว่าเสมอ อายุน้อยกว่าจะเห็นต่างหรือเห็นขัดเป็นไม่ได้ ซึ่งกระลามมาถึงเรื่องธรรมะด้วยว่า คนอายุน้อยกว่าจะรู้ธรรมะ เข้าใจธรรมะ เข้าถึงธรรมะมากกว่าคนที่อายุเยอะได้ยังไง
    3. ธรรมะเป็นเรื่องเฉพาะตัวอย่างแท้จริง ถึงแม้เรามีเจตนาดีแค่ไหน แต่ถ้าเค้าไม่รับมันก็เท่านั้น ไม่มีประโยชน์
    4. คนสมัยนี้ ไม่อยากมีทุกข์เลย อยากจะให้ทุกข์ในใจหายไปด้วยความรวดเร็ว เหมือนกับเสกได้ โดยคิดว่าธรรมะจะช่วยได้ โดยไม่ต้องปฏิบัติ แค่ฟังก็หายแล้ว
    5. ผมคงไม่ค่อยคุยธรรมะกับใครแล้ว เพราะไม่อยากทะเลาะด้วย

    เพื่อนผมคนนึงบอกว่า ผมนะเป็นมนุษย์ แต่เค้าเป็น คน ผมก็เข้าใจแล้วละคราวนี้

    เป็นคน นี่ง่ายกว่าเป็นมนุษย์เยอะเลย

    นึกถึงคำพูดของคุณป้า ที่ขายหนังสือชุดพระโอษฐ์ ที่วัดอุโมงค์ คุณป้ามองหน้าผมอย่างเพ่งพินิจ แล้วบอกว่า ถ้าคุณอ่านจนจบเมื่อไหร่ คุณจะเปลี่ยนไป ตอนนั้นก็ไม่ค่อยเชื่อนะ แต่ตอนนี้ผมเชื่อแล้ว ไว้อ่านจบคงได้ไปขอบคุณท่าน และคงมีเรื่องคุยกันอีกเยอะ

    สิ่งที่ผมเปลี่ยนไป
    - ผมเห็นความทุกข์ในใจคนง่ายเกินไป
    - ผมเห็นกิเลสในใจคนง่ายเหลือเกิน
    จนผมลืมไปว่า ในบางครั้งและในบางคน เค้าเลือกแล้ว ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า ทำผิด ก็ยังทำ เพื่อกิเลส ที่พวกเค้ายึดถือกันนั่นเอง ธรรมะไม่สามารถช่วยอะไรพวกเค้าได้เลย แม้ในใจของพวกเค้ายังคงอยากมีธรรมะในใจก็ตาม

    วันนี้จุดประสงค์ในการปฏิบัติธรรม จุดประสงค์ในการศึกษาธรรมะของผมได้เปลี่ยนไปแล้ว
    ต่อจากนี้ไป ผมจะสร้างแต่เหตุ โดยไม่สนใจผลแล้ว เพราะถ้าเหตุถูกต้อง ผลก็ย่อมถูกต้องเสมอ

    หากเส้นทางที่ผมจะต้องเดินยาวไกล นับ 1,000,000 กิโลเมตร ตอนนี้ผมก็เดินด้วยเท้าของตัวเองไปได้แล้วซัก 2 - 3 กิโลแล้ว ยังไงก็ไม่ถึงล้านแล้วทีนี้

    จบแล้ว บ่น ๆ เล่า ๆ ให้ฟังครับ 555 (จากคนพูดมากนะครับ 55) ^_^
    ---------------------------------------------------------------

    เรื่องที่เล่าให้ฟังเรื่องแรก เป็นเรื่องที่ัขัดขวางการทำสมาธิของผม ไปเป็นครึ่งเดือนเลย เพราะคอยแต่ผวาอยู่เรื่อย ว่าจะมีใครมา เคาะประตูห้องอีกหรือเปล่า เคาะทีเสียงยังกับจะไปออกรบกับใคร 55

    ยินดีเป็นเพื่อนกับสหายธรรม และ กัลยาณมิตร ทุกท่านนะครับผม
     
  2. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    คนสมัยนี้ รู้ธรรมะแบบผิวเผินเยอะครับ ลึกๆ จริงๆ รู้กันน้อย

    เรื่องอายุ... ระลึกชาติได้เมื่อไหร่ เรื่องอายุ ก็ไม่ต้องพูดกัน
     
  3. somchai_eee

    somchai_eee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +413
    ผมคิดว่า
    หากรู้ธรรมลึกๆ แต่เข้าไม่ถึงธรรมนั้นๆ กลับกลายเป็นผลเสีย หลงติดดี สร้างอัตตา ติดในสมมุติ
    สาธุ
     
  4. BossTH

    BossTH Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +89
    @ปุณบพิธ โดนใจมากเลยครับ คำพูดนี้

    @somchai_eee เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
     
  5. BossTH

    BossTH Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +89
    @somchai_eee คงจะเข้าข่ายที่ว่า ปริยัติีที่เป็นดั่งงูพิษครับ
     
  6. BossTH

    BossTH Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +89
    มุ่งมั่นอ่านต่อไป อีก 2 เล่มที่เหลือ ก็จะครบคำสอนที่พระพุทธเจ้า ได้ทิ้งเป็นมรดกไว้ให้แล้ว
     
  7. somchai_eee

    somchai_eee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +413
    ผมขอเสนอแง่คิดนิดนึงนะครับว่า
    หากจะปฏิบัติธรรม ผมขอให้คาถาไว้ป้องกันตัว นะครับ
    จงระลึกไว้เสมอว่า "ทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งความคิดเรา อย่ายึดมั่นถือมั่น ""และเราปฏิบัติเพื่อ ละ ไม่ได้ปฏิบัติเพื่อ มีหรือเป็นอะไร"

    หากมี 2 คาถานี้ แล้วปลอดภัยจากผู้อื่น และตัวเอง แน่นอนครับ
    สาธุ
     
  8. Mareo

    Mareo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2012
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +39
    ถ้าบอกแค่ว่า "อุเบกขา" จะสั้นไปมั้ยครับ
    ปฏิบัติเยอะๆ ครับ
    หนทางแม้จะยาวไกล แต่ถ้าได้เริ่มต้น และทำไป
    จุดหมายที่แสนไกล ก็เข้าใกล้ ขึ้นทุกที
     
  9. chaiwat88

    chaiwat88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +275
    ถ้าทำดี สร้างบารมีไว้ เส้นทางก็มีแต่จะสั้นลง
    ถ้าหลงผิด ทำแต่ความชั่ว ภพชาติก็จะยาวนานขึ้น เพราะมัวแต่หลงทาง กว่าจะกลับถูกทางก็เสียเวลาไปไกล
    จะมิชฉา หรือ สัมมา สุดท้ายก็ปลายทางเดียวกัน แตกต่างที่กาลเวลาในการสะสม บุญบารมี
     

แชร์หน้านี้

Loading...