เรื่องเด่น ดร.สมิทธชี้เสี่ยงท่วมหนัก ดร.ก้องภพเผยพลังงานสุริยะส่งผลภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 15 ธันวาคม 2010.

  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,020
    p1flourl.jpg


    กูรูภัยพิบัติธรรมชาติ "ดร.สมิทธ" เตือนรัฐบาลเร่งทุกฝ่ายทำงานร่วมกันป้องกันเหตุสึนามิ เชื่อไทยยังอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเกิดขึ้นอีกครั้ง ย้ำภาวะโลกร้อนทำภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดถี่และรุนแรงขึ้น ระบุกรุงเทพฯเสี่ยงโดนน้ำท่วมหนัก แนะสร้างเขื่อนปากอ่าวไทย ขณะที่ “ดร.ก้องภพ” ชี้ระบบสุริยจักรวาลมีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อนด้วย ชี้หากพลังงานสุริยะเกิดการเสียดสีกันจะเกิดภัยพิบัติตามมาได้

    เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวถึงสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติในปัจจุบันว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับโลกถี่มากขึ้น ทั้งน้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุรุนแรง เป็นต้น มีปัจจัยหลักมาจากภาวะโลกร้อน แม้ปกติจะเกิดขึ้นได้ตามกลไกของธรรมชาติ แต่การกระทำของมนุษย์ เช่น ตัดไม้ ใช้สารเคมี ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้โลกมีการเปลี่ยนแปลงจนเข้าสู่ภาวะโลกร้อนที่รุนแรง และรวดเร็วขึ้น การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกมีผลต่อระบบนิเวศ เช่น น้ำแข็งขั้วโลกละลายเพิ่มขึ้น สภาพอากาศแปรปรวน ร้อนจัด และอากาศที่หนาวจัด ทำให้มีหิมะปกคลุมมาก เหมือนที่กำลังเกิดขึ้นในทวีปยุโรป หรือเมื่อเกิดฝนตกในปริมาณมากเป็นเวลานานส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนัก และแผ่นดินถล่มได้

    297522_002.jpg

    ดร.สมิทธ กล่าวต่อว่า ปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งหมด สามารถคำนวณ เวลาเกิดได้เกือบทั้งสิ้น มีเพียงเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างเดียวเท่านั้นที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะ เกิดเมื่อไร ที่ไหน แต่เมื่อเกิดขึ้นในระดับรุนแรงแล้ว เราสามารถคาดการณ์ได้ว่ามีโอกาสจะเกิดสึนามิตามมาหรือไม่ จากการศึกษาข้อมูลและนำมาวิเคราะห์คิดว่าภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีโอกาส เกิดขึ้นกับประเทศไทยได้มากที่สุด คือ น้ำท่วมกรุงเทพฯ โดยมีสาเหตุจากภาวะโลกร้อน ที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วจนทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น เกิดการกัดเซาะชายฝั่ง ขณะที่ดินในกรุงเทพฯเป็นดินอ่อนมีการทรุดตัวลงทุกปี

    “โดยส่วนตัวยังเชื่อว่าไทยจะประสบภัยสึนามิได้อีก หากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงแถบภูมิภาคนี้ โดยเกิดขึ้นได้ทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย หากเกิดขึ้นฝั่งอ่าวไทยจะมีความรุนแรงน้อยกว่าฝั่งทะเลอันดามัน อย่างไรก็ตามต้องดูการเกิดแผ่นดินไหวเป็นองค์ประกอบ จึงจะคาดการณ์ ได้ว่าสึนามิอาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ใด ที่ผ่านมาภาครัฐไม่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและเตือนภัยเท่าที่ควร หน่วยงานต่าง ๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบยังขาดการประสานงาน ที่ดี และรัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณให้ เพียงพอ ทั้งเรื่องอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ การป้องกัน และการซ้อมเตือนภัย” ดร. สมิทธ กล่าว

    ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือน ภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวอีกว่า เรื่องน้ำท่วมกรุงเทพฯ ที่มีผลงานวิจัยระบุว่ามีโอกาสเกิดขึ้น เราสามารถป้องกันได้ ด้วยการก่อสร้างเขื่อนหรือคันคอนกรีตป้องกันน้ำสูง 10 เมตร รอบบริเวณปากอ่าวไทย แม้ใช้งบประมาณมากก็จำเป็นต้องทำ ไม่เช่นนั้นจะไม่ทันเวลา เพราะขณะนี้ประเทศเวียดนาม ที่ประสบปัญหาเหมือนกันได้ลงมือก่อสร้างไปแล้ว


    kongpop.jpg

    ด้าน ดร.ก้องภพ อยู่เย็น วิศวกรคนไทย จากองค์การนาซา สหรัฐอเมริกา ที่สนใจและศึกษาเกี่ยวกับระบบสุริยจักรวาล กล่าวว่า ภาวะโลกร้อนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หลายคนรู้ว่าสาเหตุหลักมาจากการกระทำของฝีมือมนุษย์ แต่ในความเป็นจริงปรากฏการณ์ที่ทำให้โลกร้อนนั้น อาจจะเกิดขึ้นจากระบบสุริยจักรวาล โดยที่ดวงอาทิตย์ ส่งพลังงานสุริยะมายังโลก และการเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมหนักในไทยช่วงที่ผ่านมาก็ไม่ใช่เพราะภาวะโลกร้อน เพียงอย่างเดียว

    “โลกของเรานั้นอยู่ในระบบสุริย จักรวาล ในกาแล็กซีทางช้างเผือกหรือที่เรียกว่ามิลกี้เวย์ ซึ่งจะโคจรรอบดวงอาทิตย์และหมุนรอบตัวเอง กาแล็กซีทางช้างเผือกนั้นมีรูปแบบเป็นระนาบเห็นเป็นแถบเส้นตรง ใน 33 ล้านปี จะเกิดการตัดผ่านของระบบสุริยจักรวาล สิ่งที่เราจะพบในช่วง ของการตัดผ่านนั่นก็คือการเสียดสีของพลังงานสุริยะและจะเกิดภัยพิบัติตามมา สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการเสียดสี มาจาก ดวงอาทิตย์จะผลักฝุ่นละอองบางอย่างออกมาตลอดเวลา มีลักษณะเป็นพลาสมาเรียกว่าลมสุริยะ โดยทุก ๆ 11 ปีจะมีการเปลี่ยนแปลงของลมสุริยะ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นครั้งล่าสุดนั้น จะตรงกับการตัดผ่านของระบบสุริยจักรวาลพอดี (33 ล้านปีเกิดครั้งหนึ่ง) จึงเป็นผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโลก” ดร.ก้องภพ กล่าว

    ดร.ก้องภพ กล่าวต่อว่า โลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากพอสมควร ถ้าดูจากการเกิดปรากฏการณ์ครั้งที่ผ่าน ๆ มา แต่ในครั้งนี้พิเศษมากกว่า ผลกระทบของลมสุริยะทำให้เกิดพายุมากขึ้น ใหญ่ขึ้น และอาจเชื่อมโยงถึงแผ่นดินไหว และเกิดการกระเพื่อมของระบบไฟฟ้าทั่วโลก จนทำให้เกิดไฟดับได้ นอกจากนั้นยังส่งผลต่อสภาพอากาศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือโลกจะร้อนขึ้น น้ำจะท่วมเพราะเกิดการระเหยของมหาสมุทร อากาศจะร้อนจัด ป่าไม้ที่เคยอุดมสมบูรณ์อาจกลับกลายเป็นทะเลทรายที่แห้งแล้ง ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการตัดผ่านของระบบสุริยจักรวาลและพลังงานสุริยะ ทั้งสิ้น

    สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสัมมนาเชิงวิชาการ “เจาะลึกภัยพิบัติพลิกวิกฤติให้เป็นทางรอด” ลงทะเบียนสำรองที่นั่งผ่าน เว็บไซต์พลังจิตดอทคอม http://www.palungjit.org/seminar/ และอีเมล seminar@palungjit.org หรือโทร. 08-6534-1112 ถึงวันที่ 16 ธ.ค. จำนวน 1,200 ที่นั่ง เท่านั้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ งานจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 19 ธ.ค. เวลา 08.30-17.00 น. ที่ห้องบัวหลวงแกรนด์รูม ชั้น 6 อาคาร ดร.สุข พุคยาภรณ์ มหาวิทยาลัย ศรีปทุม วิทยาเขตบางเขน กรุงเทพฯ.


    ที่มา
    [​IMG]
    Daily News Online > หน้าสังคม > แนะสร้างเขื่อนอ่าวไทยป้องกท.จม สมิทธชี้เสี่ยงท่วมหนัก
     
  2. จำปาขาว

    จำปาขาว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +33
    ขอบคุณนะคะ ที่ให้ข้อมูล
    จะได้เตรียมตัว เตรียมใจค่ะ
     
  3. เจาตา

    เจาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +217
    สนใจแต่ไปไม่ได้...จะรอติดตามที่นี่นะคะ
     
  4. ตุ้ม ณ บ้านโป่ง

    ตุ้ม ณ บ้านโป่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +112
    ขอบคุณนะครับที่ให้ข้อมูล
    จะได้เตรียมตัว เอาไว้ครับ
     
  5. ต้นไทร

    ต้นไทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +666
    ขอบคุณ ครับ สำหรับ ข้อมูลที่ ดีๆ
     
  6. gravy_love

    gravy_love Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +44
    น่าสนใจจัง แต่ไม่ว่าง ขอบคุณค่ะ
     
  7. pangbualun

    pangbualun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2010
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +285
    เสียดายจัง อย

    เสียดายจังอยู่ไกลไปหน่อย
     
  8. kalaman

    kalaman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +6
    Thank you!!! หลายๆ เด้อ!!! แต่ไม่รู้จะเกิดภัยที่ร้ายแรงเมื่อไหร่เนาะ?
     
  9. Readome

    Readome เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +130
    พูดถึงเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น อยากจะให้มันเกิดขึ้นเร็วๆ
    เพราะคนเราทุกวันนี้เอาแต่ความเห็นแก่ตัวกันเยอะ
    อีกอย่างไม่รู้จักบุญคุณของฟ้าและดินสิ่งที่ให้เราได้อยู่อาศัย
    สิ่งที่เราได้กินได้ใช้ทุกวันนี้ ก็เพราะธรรมชาติเป็นผู้ให้
    มนุษย์มีแต่ความเห็นแก่ตัวอยากจะทำลาย นี่แหล่ะคือผลของการ
    กระทำ คนเราชอบไปแก้ปัญหาที่ปลายเหตุต้นเหตุไม่ยอมไปแก้ไขกัน
    ดีแต่เอาคำว่าตัวคำว่าตนยศตำแหน่งสูงต่ำมาบังคับจิตใจกัน
    เอาคำว่าฐานะมาพูด เอาแต่ความสุขส่วนตัวของคนอื่นของสรรพสัตว์
    ทั้งหลาย มาเป็นของตน ไม่ว่าจะเป็นการ ฉ้อ ฉล กล โกง สารพัดวิธี
    คนทุกคนทุกวันนี้มีศาสนาแต่ไม่ศึกษาคำว่า ศาสนาที่แท้จริง
    เพราะได้แต่คำว่า ศาสนาในสำเนาทะเบียนบ้าน ไม่ได้เคยคิดเลยว่า
    ผู้นำคำสอนของศาสนานี่เหนื่อยมากแค่ไหนทุ่มเทกายและใจ
    มากแค่ไหน สุดท้ายก็มาเสื่อมและมาถอยลงเพราะคำว่า ลาภ ยศ สุข
    สรรเสริญ ความยิ่งใหญ่ นั่นแหล่ะความสุขของโลกมนุษย์ ในมนุษย์ทุกคน เอาแต่สุขเข้าตัวทุกข์ให้กับสรรพสัตว์คนที่ต่ำต้อยกว่า
    คนเรามีศีลน่ะ แต่ไม่เข้าใจคำว่าศีล อาราธนาจนปากแฉะ แหกปากสวดมนต์ ภาวนาเอาญาณ ฌาน อภิญญา ได้แค่นี้เกิดมา หวังแต่เป็นเทพ เทวดา พรหม บางคนหวังโน่นนิพพาน ของอยู่ใกล้ๆยังไม่คว้ากันคือ ปัญญา นั่นแหล่ะตัวเดียว พอเวลามีปัญหาที่กำลังเข้ามาสู่ตน
    ก็วิ่งกัน หาทางแก้ไข กันวุ่นวาย บางกลุ่มเอาเรื่องนี้ มาเป็นลาภซะ
    บางกลุ่มก็ปฏิบัติธรรมกันซะยกใหญ่ คนเราน่ะไม่รู้จักพอ อยู่ที่ไหน
    ภาคไหนก็ฉิบหาย เพราะพัฒนาแต่วัตถุ ไม่พัฒนาใจตน ไม่เทคโนโลยี แต่ไป เบียดเบียนทรัพยากรธรรมชาติที่ให้บรรพบุรุษเรา
    ได้กินได้ใช้พัฒนาประเทศจนเจริญทุกวันนี้ก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไง
    แต่สมัยนี้คนเรามีแต่พัฒนาไม่รู้กันเลยว่า พัฒนาทุกวันนี้คือ
    การพัฒนา เข้าสู่คำว่าฉิบหายเรื่อยๆ ไม่ได้เจริญขึ้นเลย คนเรา
    หากคิดแต่ว่ายอมรับแต่สิ่งที่ดีๆไฮเทค ก็ไม่มีโลกไหนอยู่ได้กับคุณตลอดหรอก มันต้องแตกทุกโลก เพราะคนไปทำลายโลกกันเอง
    เอากระดาษมาทำเป็นของมีค่า มาเป็นเงินๆทองๆ เอาข้าวของในดิน
    มาทำของสวยงาม สุดท้ายไม่มีคำว่าจบ แน่นอน แต่ทุกคนได้นอนแน่
    ภัยภิบัติกำลังจะเข้ามาแล้ว แต่ภัยภิบัติตัวนี้อันตรายน้อยกว่า ภัยภิบัติ
    ความคิดของคน คนเรามันชอบทำลายบ้านเมือง ทำลายทรัพยากร
    กันเอง ไม่มี เทพ เทวดา องค์ไหน หรอกมาทำ มันเป็นกรรมของโลก
    ย้ายไปไหน มันก็ มีแต่ภัยภิบัติ เพราะความโลภ ของมนุษย์
    ถ้าภัยพิบัติครั้งนี้มาก อยากให้มันทำให้เป็นศูนย์ พัดเอาเทคโนโลยี
    ความเจริญ ความอลังการของมนุษย์ไปให้หมด และให้คนเราตระหนัก
    ถึง คำว่าศีลธรรม และเข้าใจคำว่า ความจริงกันสักที
    ทุกวันนี้เอาดีแต่ได้ นั่นแหล่ะถึงจะเหมาะสม ประเทศไหนย้ายไปไหน
    ไปเมืองไหนก็วายวอดเพราะไม่รู้จักทนอมทรัพยากรอยู่ที่ไหนก็ฉิบหาย เพราะเอาแต่เทคโนโลยี และการพัฒนาให้ทันชาวต่างชาติ
    เดี๋ยวคนเราก็เจอการพัฒนาของมนุษย์ทำร้ายกันเอง แล้วภัยภิบัติมันก็จะมากวาดเอง เป็ฯที่เรียบร้อย ศรีวิไล ก็เข้ามา นั่นแหล่ะ มนุษย์จะได้รู้ว่า ค่าของคน อยู่ที่เงิน หรือ โลกนี้ หรือยู่ไปฟรีๆคิดไม่ทำอะไรให้กับ
    ธรรมชาติ มีแต่มาทำลายธรรมชาติ ให้คิดซะว่า บ้านเราเวลาปลูกด้วยไม้ ปลวกมันชอบมากิน กินไปนานๆบ้านก็ผุ เราไม่ชอบก็เอายามาฉีด
    และบอกว่าพวกชั่วมากินบ้านกูอยู่ได้ นั่นไงมนุษย์ ไอ้ปลวกนี้คือมนุษย์
    เหมือนทุกวันนี้ กินธรรมชาติไปทีล่ะเล็กทีล่ะน้อย ตอนนี้ธรรมชาติ
    เลยแปรสภาพเป็นพิษภัยสนองกลับมันก็เป็นธรรมดาของสัตว์โลก
    เพราะกรรมครั้งนี้ต่อให้พระอริยะเจ้า พระอริยะสงฆ์ เทพเทวดาทั้งหลาย ก็ไม่สามารถยื้อเวลาอะไรได้นาน มีอย่างเดียว คือ ปล่อยไปตาม สภาพกรรม คือความจริง อย่าปลอมด้วยความคิด เพราะต่อไป สิ่งที่ไม่เคยคิดว่ามนุษย์มันจะทำลายกันเอง มันก็จะมีมาให้เห็น แต่ให้เรารู้ไว้เลยว่า หากไม่ยอมธรรมชาติ ก็อยู่ไม่ได้ในโลกนี้ ถ้าไปโลกอื่นมนุษย์ต่างดาวคนจะตบกระบานหรือกลุ้มใจว่า พวกทำลายโลกมาอีกแล้ว อยู่ที่ไหนมันก็จบจะนานหรือไม่ก็จบอยู่อย่างดี
    ถ้าภัยพิบัติเกิดขึ้นจริงๆ
    คนจะนิ่งแทบไม่ดิ้นไปไหน เพราะตัวเราหนีไม่ทันก็ต้องตาย
    ความฉิบหายก็จะเข้ามาทันที ไม่ว่า พระ เณร ชี ก็ไม่รอด
    เพราะทุกคนก็จะต้องตายแน่แท้เป็นผี
    ปถุชนนั้นอดยาก ก็มากมี จากเศรษฐีก็ยากจนมากในฉับพลัน
    แม้นคนอดคนอยากจนก็มีมาก ไม่อดยากเพราะชีวิตไม่คิดดิ้น
    คนที่เขามีที่ทำมาหากิน ก็ไม่ดิ้นเพราะไม่อดตาย
    ให้หมั่นเพียรภาวนา ปัญญาเกิด สิ่งที่เลิศคือคุณพระธรรมยิ่ง
    ศาสนาทุกศาสดาท่านรู้จริง เพราะทุกสิ่งเกิดจากรากทางเดียวกัน
    อันทาน ศีล ภาวนา หมั่นทำไว้ ถ้าจะตายเราต้องไปสวรรค์
    ปฏิบัติอย่าเร่งเคร่งกับมันเพราะยิ่งทำก็ไม่พ้น อบายภูมิ
    ใช้ความเพียรพยายามในธรรมเถิด มันจะเกิดผลเองไม่สับสน
    ปฏิบัติเอามรรคผลในใจตน ให้ตนนั้นค่อยคิดพิจารณา
    เวลาเกิดกลับตายเหมือนกันมาก
    เพราะตอนตายก็ลำบากซ้ำกลายเป็นผี
    เกิดมาเป็นมนุษย์ก็ไม่มี เกิดมามีแค่บุญบาปเป็นลาภตน
    อุบาสกธรรม




     
  10. uthaimai

    uthaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +1,344
    ขอบคุณครับผม....สาธุครับ เป็นไปตามเหตุที่เกิด ผลจึงตามมา อนุโมทนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...