ชุดแบบฝึกปฏิบัติสมาธิจากสภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่าง (Councils of Light) บทที่ 9

สวัสดีครับชาวเว็บพลังจิตทุกท่าน

บนโลกอินเตอร์เน็ตนี้มีสิ่งต่าง ๆ มากมายที่รอให้เราได้เข้าไปสัมผัสอยู่ และโลกอินเตอร์เน็ตก็นำพาให้ผมได้ไปพบกับบทฝึกปฏิบัติสมาธิรูปแบบหนึ่งซึ่งเป็นบทฝึกจาก "สภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่าง" ถ่ายทอดผ่านโซลารา อาน-รา ผู้รับสาร/ผู้ทรงจิตวิญญาณชาวอังกฤษครับ

ผมได้ลองปฏิบัติดูแล้วพบว่าสิ่งที่สภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่างสอนมานั้นสามารถเข้าใจได้ง่าย คล้ายกับการปฏิบัติสมาธิแนวโยคะ แล้วผมก็สามารถสัมผัสรับรู้ความรู้สึกในช่วงการปฏิบัติสมาธิได้จริง และเป็นสิ่งที่ไม่ยากลำบากสำหรับทุกคนเกินไป ผมจึงนำมาแปลและเผยแพร่ให้ทุกคนอีกทอดหนึ่งครับ

ชุดการฝึกปฏิบัตินี้ทางโซลารา อาน-ราเองก็ทยอยนำลงเว็บไซต์ของเธอและเว็บไซต์ยูทูปเรื่อย ๆ ครับ ผมไม่ทราบว่าชุดฝึกปฏิบัตินี้จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ แต่ผมก็จะพยายามแปลมาให้ทุกท่านได้อ่านและฝึกปฏิบัติกันนะครับ

ผมหวังว่าบทฝึกนี้จะให้ประโยชน์กับท่านได้บ้างนะครับ

ขอบคุณครับ

 

เกี่ยวกับโซลารา อาน-รา

ที่มา: Solara An-Ra : About Solara An-Ra - About Solara



<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]เกี่ยวกับโซลารา อาน-รา นักรบแสงสว่าง[/FONT]
[FONT=&quot]จิตวิญญาณเดินทางต่อไปไม่หยุดนิ่ง[/FONT]

[FONT=&quot]โซลารา อาน-รา เติบโตในอัฟริกาใต้ เธอสำเร็จการศึกษาได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพครูจากมหาวิทยาลัยเคปทาวน์ เมื่อย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่สหราชอาณาจักรในปีพ.ศ. [/FONT]2530 [FONT=&quot]แล้ว เธอก็เริ่มต้นการเดินทางปฏิบัติจิตวิญญาณที่ส่งให้เธอได้กลายเป็นอาจารย์ด้านจิตวิญญาณผู้นำอารมณ์หรรษาแห่งชาวพลีเอเดียนและความสนุกสนานมาสู่การปฏิบัติของเธอทุกด้าน ในฐานะสมาชิกสายปฏิบัติเมลคิเซเดค [/FONT](The Order of Melchizedek)[FONT=&quot] เธอก็ได้พากลุ่มปฏิบัติจาริกไปยังสถานที่ต่าง ๆ อันเปี่ยมด้วยพลังไปทั่วโลกเพื่อเชื่อมรอยต่อแสงสว่างกับเหล่าพงศ์พันธุ์ขึ้นอีกครั้งไปพร้อมกัน [/FONT]

[FONT=&quot]พรสวรรค์ข้อหนึ่งของเธอคือการสื่อรับสาสน์และคำสอนการปฏิบัติสมาธิจากเบื้องบน ซึ่งนำเผยแพร่บนเว็บไซต์และยูทูปและไม่เสียค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลด อันที่จริงก็มีหลายสิ่งมากกว่าการปฏิบัติสมาธิ เหล่าจิตวิญญาณสอนทักษะสำคัญแก่ผู้เริ่มต้นปฏิบัติและผู้ชำนาญแล้วด้วย เช่นการสอนให้สัมผัสรับรู้พลังจักร การเตรียมกายพร้อมปฏิบัติ การเรียกพลังกลับคืน การเชื่อมต่อกับภาคสูงของแต่ละคนและการดำเนินชีวิตโดยยึดความรู้สึกจากใจเป็นหลัก[/FONT]

[FONT=&quot]โซลารามอบของขวัญพิเศษนี้ให้แก่เราด้วยเหตุว่าเธอต้องการช่วยพงศ์พันธุ์มนุษย์และตอนนี้เธอก็นำเอาเครื่องมือในการยกระดับจิตสำนึกให้ง่ายดายและเปี่ยมสุขนำมาให้มนุษย์ให้มากเท่าที่เธอจะทำได้ เธอยังเป็นประธานประกอบพิธีวิษุวัตสมโภชและครีษมายันสมโภชในสถานที่ทุกแห่งที่เธอเดินทางไปเพื่อนำวิถีแห่งบรรพชนในการเฉลิมฉลองสายสัมพันธ์ระหว่างพระอาทิตย์ โลก และพวกเราทุกคนในนาม [/FONT]“[FONT=&quot]พงศ์พันธุ์แห่งกายอา[/FONT]”(The Tribes of Gaia) [FONT=&quot]ให้กลับมาอีกครั้ง[/FONT]

[FONT=&quot]โซลาราได้รับสื่อข้อมูลการตื่นรู้จากจิตวิญญาณนำทางเป็นเวลาหลายปีแล้ว มีทั้งอารุฒาจารย์ [/FONT](Ascended Masters)[FONT=&quot] บรรพชนผู้ปกปักษ์โลก และชนชาวจักรวาล เธอปฏิบัติงานร่วมกับ [/FONT]“[FONT=&quot]สภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่าง[/FONT]”(Councils of Light) [FONT=&quot]คือจิตสำนึกร่วมของชาวอันโดรเมดันส์ สิเรียนส์ และพลีเอเดียนส์ ผู้ซึ่งบอกกับเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ปัจจุบันคือขณะนี้[/FONT]!”[FONT=&quot] พวกเขาเน้นย้ำว่าเราอยู่ในยุคสำคัญแห่งการเปลี่ยนแปลงของโลกและการพัฒนาซึ่งเราจำเป็นต้องตระหนักว่าเราเองเป็นผู้ควบคุมชะตาลิขิต เราคือผู้สร้างซึ่งมีความท้าทายที่มีอยู่ตอนนี้คือการเยียวยาตัวเราเองและพระแม่ธรณีด้วยจุดหมายที่จะก้าวเข้าสู่นวยุคแห่งโชติกาล [/FONT](New Age of Light)

 

บทที่ 1

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=3txVI-wPnWs"]Lesson 1: ENERGY AWARENESS & CONTROL Solara An-Ra - YouTube[/ame]

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]บทนำก่อนเข้าสู่แบบฝึกปฏิบัติ[/FONT]

[FONT=&quot]นมัสเต สวัสดีค่ะเหล่าพงศ์พันธุ์แห่งกายอาที่รัก ตอนนี้ดิฉันอยู่ที่เมืองคุสโก ประเทศเปรู อยู่ในสถานที่ที่คนเก่าคนแก่ที่นี่ขนานนามไว้ว่าเป็นสะดือแห่งกายอาค่ะ ตอนนี้จิตวิญญาณนำทางประจำตัวขอให้ดิฉันสอนวิชาเฉพาะให้แก่พวกเราในเรื่องการฝึกลมหายใจในการทำสมาธิและข้อมูลเกี่ยวกับร่างพลังงานของพวกเรา และนี่ก็คือบทเรียนแรกนะคะ[/FONT]

[FONT=&quot]ดิฉันขอให้วิชาเหล่านี้ถ่ายทอดผ่านตัวดิฉันมาสู่พวกเราด้วย จากเมืองคุสโกนี้[/FONT]

“[FONT=&quot]ข้าฯ ขออัญเชิญจิตวิญญาณนำทางสูงสุดใด ๆ ให้เคลื่อนผ่านร่างข้าฯ ณ บัดนี้ด้วยเทอญ[/FONT]”

[FONT=&quot](ต่อจากนี้เป็นบทฝึกปฏิบัติที่เธอรับการถ่ายทอดมานะครับ)[/FONT]

[FONT=&quot]บทที่ [/FONT]1: [FONT=&quot]การรับรู้พลังงานและการควบคุม[/FONT]

[FONT=&quot]เราคือสภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่าง และบัดนี้เราขอให้เธอหลับตาลง เมื่อหลับตาลงแล้วเธอก็จะดึงความสนใจเข้าไปภายในสู่สนามพลังแห่งหนึ่ง สนามพลังที่รู้สึกในแรกเริ่มนี้เป็นพลังของร่างกายเธอเอง ตอนนี้หลับตาลงแล้วก็ขอให้นึกภาพตัวเองขึ้นเป็นร่างสามมิติตั้งแต่ศีรษะจรดปลายนิ้วมือนิ้วเท้า แล้วกำหนดจิตรับรู้เข้าไปให้ทั่วร่าง ผ่านเซลล์ สารคัดหลั่ง และช่องว่างทุกส่วนภายในร่างกาย และตอนนี้เราขอให้เธอรู้สึกว่าในช่วงที่เธอสัมผัสรับรู้อยู่นี้ ในการรับรู้พลังภายในร่างกายนี้ เธอก็พลันรู้สึกได้ว่ามีแสงสว่างเปล่งประกายอยู่ภายในทุกภาคส่วนของร่างกาย[/FONT]

[FONT=&quot]ก็เหมือนกับรู้ว่ามีพลังออร่าซึ่งเป็นพลังแสงสว่างที่แผ่ผ่านจากผิวหนังสู่พื้นที่รอบตัวเธอ ขณะนี้เธอจึงรับรู้ว่าเซลล์ในร่างกายทุกเซลล์ก็มีพลังงานออร่าย่อย ๆ อยู่ในส่วนประกอบทุกส่วนของเซลล์เนื้อเยื่อกระดูก อวัยวะ เส้นเลือด เม็ดเลือด แล้วทุกส่วนของร่างกายนี้ประกอบด้วยเซลล์นับพันนับหมื่นล้านเซลล์ แต่ละเซลล์ก็แผ่คลื่นแสงสว่างขาวทองอร่ามออกมาและเหล่าออร่าย่อยนี้ก็รวมตัวกันภายในร่างกายเธอเพื่อสร้างรูปกายแสงสว่างขาวทองอร่ามก่อเกิดเป็นร่างหนึ่งเดียว[/FONT][FONT=&quot]ร่างนี้คือกายทิพย์ของเธอ เป็นร่างพลังงานคู่กับกายหยาบ ร่างนี้ไม่ใช่พลังออร่าของเธอ ร่างนี้คือรูปจำลองกายสามมิติอันชัดเจนแต่อยู่ในรูปพลังงาน[/FONT]

[FONT=&quot]ขณะนี้ลืมตาได้แล้ว และเราขอให้เธอเบิกตามองให้เห็นว่าเธอยังรับรู้ความรู้สึกนี้ได้หรือไม่ ให้รู้ว่าตัวเธอเองเป็นร่างพลังงานและแน่นอนรวมถึงกายหยาบด้วย หากเธอพนมมือขึ้นในท่า [/FONT]“[FONT=&quot]นมัสเต[/FONT]”[FONT=&quot] ตอนนี้และหรี่ตาลงให้เห็นภาพมัวเล็กน้อย เธอก็จะเริ่มเห็นภาคพลังงานของมือ จะเริ่มเห็นจากภายในผิวหนังก่อน ให้รู้ว่าไม่ได้มีเพียงกายหยาบอยู่ตรงนี้แต่มีแสงสว่างด้วย เป็นคลื่นแสงสว่างขาวทองอร่ามอันเป็นร่างทิพย์อยู่คู่กับมือทั้งสอง เมื่อเลื่อนมือออกจากกันเล็กน้อยเธอก็จะเริ่มรับรู้ว่ามีแสงสว่างซึ่งส่องผ่านปลายนิ้วมือออกมาด้วย มีจุดจักระหมุนอยู่บนปลายนิ้วแต่ละนิ้วทั้งสิบ และก็มีพลังงานเข้มข้นรวมกันอยู่ในจุดเหล่านี้ และเมื่อลองค่อย ๆ เลื่อนนิ้วให้ห่างออกจากกันแล้วประนมมือกลับมาในท่านมัสเตอีก เธอก็จะไม่ได้แค่เห็นแต่ยังสัมผัสถึงพลังที่แผ่ออกมาจากปลายนิ้วได้ด้วย[/FONT]

[FONT=&quot]หลับตาลงอีกครั้งเหล่ามนุษย์ที่รัก และตอนนี้เราขอให้เธอสัมผัสเกราะกำบังพลังออร่าของเธอเอง พลังนี้เป็นสนามพลังที่แผ่ออกมาจากผิวหนัง เป็นพลังกำเนิดจากศูนย์กลางพลังงานซึ่งโยคีเรียกว่า สุศุมนา (สุศุมนาคือช่องทาง/ช่องพลังงานศูนย์กลางอันมีพลังไหลขึ้นและลงผ่านจุดจักรภายในทั้งเจ็ดจุด)[/FONT]

[FONT=&quot]ในขณะที่รับรู้แถบคลื่นพลังงานเข้มข้นที่หมุนวนอยู่ซึ่งสอดรับกับแนวกระดูกสันหลัง ตอนนี้เธอก็จะรับรู้ว่าแสงสว่างและพลังงานแผ่ออกจากแถบพลังงานหลักผ่านเซลล์แสงสว่างร่างทิพย์และฉายผ่านผนังกั้นของผิวหนังออกสู่พื้นที่รอบตัวเธอ เราขอให้เธอเลื่อนมือและแขนไปในทิศทางที่เธอเลือกเพื่อรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสถึงพลังที่แผ่ผ่านผิวหนังออกสู่สนามพลังรอบกาย ให้ใช้ท่าชินมุทรา ตอนนี้ เอานิ้วโป้งและนิ้วชี้ชนกันเป็นวง ซึ่งทำให้วงจรพลังไหลผ่านภายในร่างได้แล้วหงายมือทั้งสองวางลงบนเข่า[/FONT]

[FONT=&quot]เราขอให้เธอปลุกพลังออร่าของเธอ ไม่ใช่ว่าพลังไม่ได้มีอยู่แล้ว แต่เราให้ทำเพื่อรวมพลังงานให้เข้มขึ้น แล้วเปล่งวาจาว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ข้าฯ เปิดร่างพลังงาน ณ บัดนี้[/FONT]”[FONT=&quot] ทำเช่นนี้แล้วเธอจะเปิดสนามพลังออร่าให้ทั้งตัวเธอและเรามองเห็นพลังได้ ขอให้ตั้งจิตผลักพลังออร่าออกไป เป็นพลังงงานสุกสว่างที่เธอได้ปลุกขึ้น มีขนาดประมาณ [/FONT]3 [FONT=&quot]ฟุตแผ่ไปทุกทิศ หากตอนนี้เธอยื่นแขนออกไปข้างหน้าก็จะขยายพลังออร่าออกไปได้จนสุดปลายนิ้ว ยาวประมาณหนึ่งแขนได้[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วขอให้เธอรู้สึกว่ามีชั้นผิวพลังงานซึ่งเป็นพลังงานขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงขอบสนามพลังออร่า เธอจึงสัมผัสขอบพลังงานขอบเขตของเธอได้ ตอนนี้ให้ผลักพลังออร่าออกไปรวบรวมไว้ที่ด้านหลังของร่างระยะห่างเท่ากันคือ[/FONT] 3 [FONT=&quot]ฟุต เราทราบดีว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะหลายคนชินกับการใช้ประสาทสัมผัสการมองไปข้างหน้า แต่เธอต้องรู้ด้วยว่านี่เป็นเรื่องง่ายเหมือนนับเลข [/FONT]1-2-3 [FONT=&quot]เมื่อปลุกร่างพลังจากด้านหลังตัวเธอแล้วร่างนี้ก็จะขยายออกและรวมตัวเป็นขนาดพอดีเท่ากับพลังออร่าที่อยู่ด้านหน้าและตอนนี้ก็ใช้วิธีเดียวกันผลักพลังไปทางด้านซ้ายและขวา ปลุกสนามพลังขึ้นมาจนพลังงานที่อยู่ด้านหน้า ด้านหลัง และ ด้านซ้าย ด้านขวา เสมอกันพอดี ให้รู้สึกว่ามีแสงสว่างรวมพลังอยู่ในออร่าส่องเหนือศีรษะ จากนั้นดันแสงสว่างนั้นลง ลงมาให้อยู่ใต้ร่าง ไม่ต้องสนใจอาสนะ เก้าอี้ หรือ พื้นอาคาร แล้วให้รู้ว่าพลังของเธอชำแรกผ่านพลังงานอื่นทั้งหมดทั้งมวล ไม่ได้อยู่เพียงระดับร่างกายเท่านั้น[/FONT]

[FONT=&quot]เราเรียกพลังนี้ว่าพลังเกราะออร่า เราใช้คำนี้เพื่อให้ประทับจับในจิตว่าร่างพลังงานของเธอแท้จริงอยู่ในเกราะที่ป้องกันตัวเธอในทุกระดับ ทั้งร่างกาย อารมณ์และจิตใจ หลายคนนึกไม่ถึงในข้อนี้ หลายคนไม่นึกว่ามีสนามพลังออร่าในรูปเกราะกำบังที่เธอสามารถใช้รวมพลังได้มากเท่าใจอยาก เป็นเกราะที่เติมพลังใหม่ได้มากเท่าใจนึก เรียกใช้ได้เป็นประจำทุกวันทุกโมงยาม ใช้เพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้เสียพลังโดยไม่รู้ตัว ให้รู้ว่าเธอไม่ได้ปล่อยพลังงานให้หลุดลอยไปเพราะการเผลอสติ และให้ควบคุมพลังงานของเธอได้อยู่ตลอดเวลา[/FONT]

[FONT=&quot]หลับตาลงแล้วสัมผัสสนามพลังออร่า ทีนี้นึกภาพเห็นพลังเป็นรูปทรงไข่ไก่ฟองงามสวยสมบูรณ์พร้อมส่วนโค้งเหนือศีรษะและใต้ร่างกายเธอ แล้วในช่วงที่ตั้งจิตจับที่พลังออร่าอยู่เธอจะเห็นและสัมผัสได้ว่านี่ไม่ใช่รูปไข่ที่ตายตัว หากแต่เป็นพลังเคลื่อนไหวไปมา มีชีวิตชีวา เป็นส่วนหนึ่งของเธอ และเราขอให้เธอตั้งจิตพิจารณาว่าตอนนี้มีอะไรเกิดขึ้นในสนามพลังออร่าในขณะที่ออกคำสั่งให้พลังงานของเธอทั้งหมดย้อนกลับมา[/FONT]

[FONT=&quot]เปล่งคำสั่งดังว่า [/FONT]“[FONT=&quot]พลังใดที่ข้าฯ ปล่อยปละละทิ้งไปจงกลับมาสู่ข้าฯ ณ บัดนี้[/FONT]!”[FONT=&quot] เธอจะรับรู้การเปลี่ยนแปลงภายในพลังออร่า และสัมผัสพลังนี้ภายในกายของเธอ บางทีก็รู้สึกคันหรือจับความรู้สึกอื่นได้บริเวณมือและแขน บางครั้งอาจเป็นความรู้สึกสว่างมากขึ้นเพราะมีพลังงานเข้ามาซ่อมแซมช่องโหว่ในพลังออร่า เข้ามาเติมช่องให้เต็ม หรือบางทีเมื่อเรียกพลังกลับมาแบบนี้เธอก็จะเห็นภาพผู้คน สถานที่ หรือสถานการณ์ที่เธอสูญเสียพลังไปผุดขึ้นมา และเมื่อภาพทุกอย่างปรากฏเธอก็จะนึกออกว่า [/FONT]“[FONT=&quot]อ้อ เป็นอย่างนี้นี่เอง ตอนนี้พลังงานของเราที่เป็นของเราเท่านั้นกำลังกลับเข้ามา[/FONT]”[FONT=&quot] ถ้าเธอได้เสียพลังให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือความสัมพันธ์กับใครก็ตามแล้วภาพได้ผุดขึ้นมาในจิตแล้ว ก็แค่ให้เป่าบุคคลหรือสถานการณ์นั้นออกไปด้วยพลังรัก เธอก็แค่เป่าออกไป... แล้วบุคคลหรือสถานการณ์นั้นก็จะจากไปสู่สนามพลังงานของเขาเองในขณะที่เธอเรียกพลังตัวเองกลับเข้ามาสู่ร่างกายและร่างอารมณ์ของตัวเอง[/FONT]

[FONT=&quot]ให้สัมผัสผิวชั้นนอกร่างกายของเธอ นี่คือชั้นแรกในสนามพลังอีกหลายชั้น ให้รู้สึกถึงร่างพาหนะแสนมหัศจรรย์นี้ว่าเป็นแสงสว่างและพลังงาน นี่คือขั้นแรก ให้สัมผัสรับรู้สนามพลังงานหรือเกราะกำบังรอบกายเธอและรู้จักวิธีรวมพลังเพื่อดึงหรือดันพลังออกตามแต่สถานการณ์อันสมควร และนี่คือขั้นสอง[/FONT]

[FONT=&quot]เพราะอะไรและเมื่อใดจึงจำเป็นต้องแผ่ขยายหรือลดสนามพลังลง?[/FONT][FONT=&quot] เราแนะนำว่าควรดึงพลังนี้ให้อยู่ในระยะพอเหมาะพอดีในช่วงที่เธอต้องปันพลังร่วมกับคนอีกมาก หรือในสถานที่บนโลกซึ่งเธอไม่มั่นใจในสนามพลังของที่นั้น หรือเป็นที่ที่เธอรู้ว่ามีสนามพลังไม่เข้มนัก เธอไม่ได้ดึงพลังกลับเข้ามาหรือออกไปด้วยความกลัวหรือต้องการตั้งรับ นี่ก็เป็นเพียงความรู้สึกจับพลังงานปกติได้เป็นอย่างดี ให้รวมพลังแล้วผลักออกไปประมาณ [/FONT]2-3 [FONT=&quot]ฟุตทุกทิศทาง แล้วให้รักษาสภาวะการรับรู้สนามพลังงานของเธอ รักษาสภาวะการรับรู้ถึงความสมบูรณ์ของพลังงานและอำนาจกับประกายแสงเจิดจรัส การทำเช่นนี้คือการที่เธอกำลังสร้างเกราะป้องกันขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะความกลัวหรือการตั้งรับแต่เป็นเพียงความรู้สึกตามธรรมชาติ เธอไม่อยากให้พลังถูกเข้าแทรก ไม่อยากให้สูญเสียพลังไป และก็ไม่อยากให้พลังงานของเธอเจือปนด้วยพลังงานอื่นเลยด้วย[/FONT]!

[FONT=&quot]ในทางกลับกันถ้าเธออยู่ในสถานที่เช่นเดียวกับที่เราอยู่นี้ ที่ที่ภูเขาตั้งสูงตระหง่านงามสง่า งดงาม เงียบสงบ และอิ่มเต็มด้วยพลังงานแห่งพระผู้สร้าง เธอก็อยากจะแผ่พลังของเธอออกสินะ[/FONT]! [FONT=&quot]ก็ถ้าเธอที่รักนั่งสบายอยู่ในตอนนี้ ถ้าเธออยู่ ณ สถานที่ที่เธอมั่นใจว่ามีพลังงานชัดเจนและเข้มข้นแล้วเป็นที่ที่ผู้คนรอบข้างมีสนามพลังแสงสว่างเสมอกัน เธอก็จงฝึกแผ่พลังออร่าได้เลย[/FONT]

[FONT=&quot]ให้หลับตาลง จับสัมผัสของสนามพลังแห่งแสงสว่างภายในเส้นขอบกาย ณ บัดนี้ จับสัมผัสพลังออร่าที่บรรจุเต็มเช่นที่เป็นอยู่และเปล่งประกายรอบตัวเธอ เปล่งคำสั่งดังว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ข้าฯ แผ่ขยายร่างพลัง ณ บัดนี้[/FONT]!”[FONT=&quot] แล้วส่งพลังออร่าออกไปให้ไกลเท่าที่ใจนึก อาจทวีคูณขนาดเดิมเพิ่มเป็น [/FONT]6 [FONT=&quot]ถึง [/FONT]7 [FONT=&quot]ฟุต หรืออาจเพิ่มเป็น [/FONT]11 [FONT=&quot]หรือ [/FONT]22 [FONT=&quot]ฟุตก็ได้ ไม่งั้นก็ทำเหมือนโซลารา อาน-ราตอนนี้คือแผ่สนามพลังของเธอเข้าสู่ภพศักดิ์สิทธิ์แห่ง กายอา รอบตัวเธอ แผ่ผ่านผนังอาคารออกไปบนท้องฟ้า สู่สวรรค์ ปุยเมฆ ภูผา ต้นไม้ใบหญ้า แผ่เข้าสู่องค์แม่กายอา ให้สัมผัสความรู้สึกในตอนนี้ว่าเป็นเช่นไร สนามพลังเริ่มแผ่กว้างขยายออกมากกว่าเดิมใช่ไหม? สนามพลังเธอเริ่มบางลงเพราะมีขนาดใหญ่มาก และตอนนี้ก็มีความรู้สึกว่าเหล่าสรรพสัตว์และสิ่งมีชีวิตแห่งกายอาอยู่ภายในสนามพลังของเธอ รู้สึกถึงการแบ่งปันพลังงานร่วมกับเหล่านก แมลง และสัตว์เลื้อยคลานแห่งกายอา รู้สึกถึงความหรรษาและสันติแห่งองค์ประกอบแห่งกายอาที่บรรจุอยู่ในทุกภาคส่วนในพระองค์[/FONT]

[FONT=&quot]บัดนี้จงส่งพลังรักออกไป จากหัวใจสู่ชีวิตทุกสิ่งสรรพแห่งกายอา และองค์กายอา แล้วสัมผัสรับรู้ว่าพลังรักและรู้สึกถึงสายสัมพันธ์แห่งเอกภาพที่กลับเข้ามายังพลังออร่าเธอ แล้วเจอจึงสัมผัสได้ว่า [/FONT]“[FONT=&quot]เราเป็นหนึ่งเดียวกัน[/FONT]”

[FONT=&quot]ตอนนี้สนามพลังที่เธอได้ออกคำสั่งไว้จะกลับคืนสู่ขนาด [/FONT]3 [FONT=&quot]ฟุตในทุกทิศ เปล่งคำสั่งดังว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ข้าฯ เรียกพลังกลับมา ณ บัดนี้[/FONT]”[FONT=&quot]จงรู้สึกว่าพลังนั้นไหลบ่ากลับมายังร่างกายเธอ ให้สัมผัสพลังนั้นกำลังจัดระเบียบอยู่ห่างเป็นระยะพอเหมาะรอบร่าง เธอต้องรู้ไว้และลองดูว่าช่วงใดที่เป็นช่วงที่เธอปรารถนาจะดึงสนามพลังเข้ามาสู่ตัวเธอที่รักทั้งหลาย หรือจะแผ่ขยายสนามพลังออกไป เธอต้องรู้จักชำระสนามพลังในเวลาที่มีพลังงานอื่นเจือปน ต้องรู้จักเติมพลังเมื่อรู้สึกว่าเบาบางลง นี่เป็นกฎพลังงานเบื้องต้นสำหรับสิ่งมีชีวิตเปี่ยมพลังทุกรูป สิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์หรือในมิติต่าง ๆ ต้องทำความเข้าใจในส่วนพลังงานของตนทุกสิ่งอัน[/FONT]!

[FONT=&quot]ผู้ที่กำลังชมการฝึกนี้อยู่ ผู้ที่ได้สดับฟังคำกล่าวและคำสอนของเรา ได้ตระหนักแล้วว่าทุกสิ่งคือพลังงานและพลังงานก็คือทุกสิ่งนั้น และตระหนักว่าภายในแนวคิดอันหนึ่งเดียวกันว่าเธอก็คือพลังงานเช่นกัน แต่กระนั้นมนุษย์ก็ไม่ได้ปรับตัวเพื่อฝึกตนให้ใช้สนามพลังแล้วแปลงกายสู่ภาคสูงสุดของตัวตนด้านพลังงานซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยในขณะที่อยู่ในมิติที่สามนี้[/FONT]

[FONT=&quot]ในฐานะผู้เยียวยาเธอหลายคนคุ้นชินกับการสื่อพลังงานผ่านร่างนำ และพลังจะผ่านออกมาทางจักรมือ แนวคิดที่เธอมีนั้นถูกต้องในแง่ที่ว่าเธอไม่ได้ใช้พลังของเธอเองในการปฏิบัติรักษา แต่เธอก็ได้อัญเชิญคลื่นพลังงานชั้นสูงผ่านกายและส่งผ่านไปยังมนุษย์ผู้อื่นหรืออาจเป็นต้นไม้หรือสัตว์ เพื่อเพิ่มพลังให้แก่พวกเขาและยอมให้พลังงานขั้นสูงนี้ปฏิบัติการรักษาและแปลงพลังงาน แต่เธอผู้เยียวยาหลายคนก็พูดถึง [/FONT]“[FONT=&quot]การสูญเสียพลังงาน[/FONT]”[FONT=&quot] จากการปฏิบัติรักษาหรือพลังงานที่ลดทอนลงเนื่องจากการรักษาคนไข้จำนวนมากเกิน และนี่ก็เป็นดัชนีชี้จุดอันตรายที่บ่งบอกว่าเธอไม่ได้ใช้วิธีการเหล่านี้ในการเสริมพลังงานของตัวเธอให้มากพอ[/FONT]

[FONT=&quot]ครั้งต่อไปเมื่อพวกเราได้พูดคุยกันพวกเธออีก เราจะสอนวิธีเติมพลังให้ตัวเอง เราจะสอนวิธีชำระสนามพลังที่คงจะทอประกายและทรงพลังกลับขึ้นมาอีก เราจะสอนให้เห็นความแตกต่างระหว่างการถ่ายพลังในรูปแบบที่ทำให้พลังของพวกเธอเติมเต็มยิ่งกว่าแทนที่จะสูญเสียไป และเราหวังว่าจะได้พูดคุยกับพวกเธออีกครั้ง นมัสเต[/FONT]

 

น่าสนใจมากครับ ^^

 

เป็นจริงตามนั้น ครับ
ผมทำมาได้ราว 12 ปี
เมื่อฝึกไปสักเดือน จะมีสายฟ้าลงมาประสานกายเหมือนไฟฟ้าดูดเลยหล่ะ ลองดูครับ
จากนั้นเราจะแผ่ความรักไปได้ทุกที่ตามใจเรา
ผมทำเป็นใยแมงมุม แล้วเชื่อมเข้ากับคนที่เรารู้จัก แล้วนั่งสัมผัสอาการของคนเหล่านั้นได้
ชอบอะไรที่ท้าทายลองเลยครับ
มหิศวระ

 

โห 12 ปี

 

อนุโมทนาด้วยค่ะ
ดีใจที่มีคนแปลมาให้อ่านอีกทอดหนึ่ง
ส่วนตัวศึกษาวิธิการของเธอมาได้ซักพักแล้วค่ะ

 

เพื่อให้ทันเหตุการณ์ ขอเสนอ น่าจะแปลชุด 11.11.11 Angelic Higher Self Activation Meditation

เพราะนี่ก็ใกล้จะถึง เดือน สิบเอ็ด แล้ว

 

เป็นอีกข้อมูลที่ต้องเซฟเก็บไว้...
ขอบคุณ จขกท. นะคะ ที่นำมาแชร์ความรู้กัน

 

ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ
เดี๋ยวขอ copy ไว้ก่อนนะครับ
ช่วงไหนมีเวลาว่างแล้ว เดี๋ยวผมก็จะอ่านและฝึกบ้างครับ

......................................

 

อ่านไปจำไม่ได้ครับ มันเยอะเกิน
เมื่อจำไม่ได้ก็ไม่รู้ขั้นตอนครับ
ว่าหลังจากนั้นต้องทำอะไรต่อไป

 

บทที่ 2

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=WRUvtGmD96o"]Lesson 2 - Energy Recharging & Avoiding Energy Drainage - YouTube[/ame]

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]บทนำก่อนเข้าสู่การฝึกปฏิบัติ[/FONT]

[FONT=&quot]โซลารา อาน-รา[/FONT]:[FONT=&quot]ในบทที่หนึ่งเราเรียนรู้วิธีควบคุมร่างพลังงานของเราและการรับรู้ทั้งในแง่ของร่างกายและพลังงานออร่าของเราว่าคือพลังงานแสงสว่าง และเราก็ได้เรียนรู้ว่าเมื่อใดควรขยายและลดพลังของร่างพลังงานเรา[/FONT]

“[FONT=&quot]ข้าฯ ขออัญเชิญจิตวิญญาณนำทางสูงสุดใด ๆ ให้เคลื่อนผ่านร่างข้า ณ บัดนี้ด้วยเทอญ[/FONT]”

[FONT=&quot]บทที่ [/FONT]2: [FONT=&quot]การประจุพลังและวิธีหลีกเลี่ยงการสูญเสียพลัง[/FONT]

[FONT=&quot]เรามาทบทวนกันเถิดมนุษย์ที่รักถึงสิ่งที่เราได้เรียนไปคราวที่แล้ว ตอนนี้ให้เธอหลับตาลง เปล่งคำสั่งเป็นเสียงเดียวกันว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ข้าฯ ขอเรียกแสงสว่างมาสู่ตัวข้าฯ ณ บัดนี้[/FONT]!”[FONT=&quot] แล้วให้รู้สึกว่ามีลำแสงสีขาวขนาดใหญ่เทลงมาผ่านทั้งร่างกายและร่างพลังงานของเธอ จากนั้นส่งพลังออร่าออกมาอีกครั้งให้ได้ขนาด [/FONT]3 [FONT=&quot]ฟุตโดยประมาณทุกทิศ ผลักลำแสงและพลังงานนี้ออกไปข้างหน้า ข้างหลัง ด้านซ้ายและขวา ด้านบนและล่าง ด้านละ [/FONT]3 [FONT=&quot]ฟุตหรือมากกว่านั้นเล็กน้อยจนเธอสัมผัสรับรู้ได้ว่าร่างพลังงานรอบตัวเธอคือร่างแสงสีทองอร่าม เป็นลำแสงเหลวรูปไข่ที่ไหลเลื่อนเคลื่อนไปตามธรรมชาติ แล้วลำแสงสีขาวขนาดใหญ่ที่เธอได้อัญเชิญมานี้แผ่ออกมาจากพระผู้เป็นต้นกำเนิดด้วยพระองค์เอง พลังงานนี้เป็นพลังงานชั้นสูง สุกสว่าง และขาวสะอาดอันเป็นพลังออร่าของเธอ และเป็นพลังไหลเทลงมาจากอนันตภาวะเบื้องบนผ่านร่างพลังงานและร่างกาย พลังนี้ก็จุดประกายแสงองค์กายอาใต้ตัวเธอให้ส่องสว่างไสวด้วย เธอจึงมองเห็นถ้ำคริสตัลที่อยู่ข้างใต้ได้ มองเห็นโลกภายในและนครแห่งแสงสว่าง แล้วลึกลงไปอีกนั้นเธอจะเห็นแกนมหาคริสตัลแห่งกายอา เป็นคริสตัลวิเศษมหัศจรรย์อันแผ่จินตนาการเธอให้ก่อภาพเกิดขึ้นจากจิตภายในได้[/FONT]

[FONT=&quot]มหาคริสตัลก้อนนี้เราสัมผัสรับรู้ได้ต่างกันไปตามแต่สถานที่ที่เธออยู่บนกายอา คริสตัลจะขับลำนำหลากทำนองสู่ตัวเธอตามสถานที่ที่เธออยู่ การเรียกลำแสงให้ไหลผ่านร่างกายและร่างพลังงานเป็นขั้นต้นในการฝึก เป็นขั้นตอนที่ยกระดับคลื่นความถี่ของเธอได้ทันที และสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการเปิดพลังภายในสนามพลังของเธอก็คือความเชื่อมั่น การรู้ว่าทุกสิ่งเป็นไปตามครรลอง สิ่งนี่ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถของเธอในการสร้างภาพหรือจินตนาการได้อย่างชัดเจนหรอก เพราะเธอบางคนคิดว่าตัวเธอเอง [/FONT]“[FONT=&quot]ไม่เก่งเรื่องนี้[/FONT]”[FONT=&quot] จริงไหม? ในมุมของเราแล้วมันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย อาจเป็นเพียงเพราะเธอการขาดการฝึกฝนและลืมวิธีใช้จินตนาการอย่างที่เคยทำในวัยเด็กนั่นเอง[/FONT]

[FONT=&quot]จุดที่ทรงพลังที่สุดในการสร้างจินตภาพให้เป็นจริงก็คือการเชื่อมั่นในพลังที่เธออัญเชิญหรือเรียกใช้ขึ้นมาว่าได้ผลแน่นอน และช่วงที่ฝึกฝนขั้นตอนนี้เป็นประจำทุกวันทุกโมงยามก็ขอให้เธอเลือกวิธีเรียกแสงสว่างมาสู่ตัวเธอ (ซึ่งเธออาจเปล่งเสียงสั่งดังออกมาหรือตั้งจิตเรียกโดยสงบก็ได้) ความมั่นใจ การรู้ว่าได้ตั้งจิตระลึกถึงช่วงขณะนั้น ว่าสิ่งนี้เป็นจริง ว่าสิ่งนี้จะแสดงให้เห็น ความรู้สึกนี้เป็นสิ่งที่เหนือความสามารถในการสร้างภาพขึ้นจากตาที่สามภายใน เป็นความรู้สึกที่ทำให้เกิดขึ้นจริง และด้วยการฝึกฝนเธอจะพบว่าความรู้สึกสัมผัสที่แท้จริงและความสามารถในการจินตภาพแสงสว่างสีขาวจะเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใด ๆ เลย[/FONT]

[FONT=&quot]เอาละเราจะพูดถึงจุดประสงค์ของลำแสงนี้ เราได้กล่าวว่าลำแสงนี้จะยกระดับคลื่นความถี่ของเธอ จุดนี้เป็นหลักใหญ่ใจความในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้น จริงไหม เป็นการยกระดับคลื่นความถี่ชั้นกายหยาบและชั้นนอกร่างพลังงานเธอด้วย เมื่อคลื่นความถี่นี้ยกระดับสูงขึ้น เมื่อความยาวคลื่นสั่นสะเทือนเร็วยิ่งขึ้น เธอก็จะเลื่อนขึ้นสู่มิติเบื้องสูงได้อัตโนมัติ และในระดับหนึ่งนั้นก็ปฏิบัติได้ง่ายเช่นเดียวกับขั้นตอนนี้เลย[/FONT]!

[FONT=&quot]การเพิ่มระดับการสั่นสะเทือนของเธอก็เหมือนกับการเพิ่มระดับคลื่นความถี่ด้านอารมณ์ด้วย นั่นหมายความว่าเธอจะมีความสุขยิ่งขึ้น[/FONT]! [FONT=&quot]เธอจะรู้สึกสดใสขึ้นตามวิถีชีวิตของเธอ เธอจะรู้สึกสงบสุขและเย็นใจขึ้นและตัวเธอเองยังสะท้อนสอดรับกับพลังงานประจำตัวเธอกับความคิดและร่างกาย ดังนั้นเมื่อเธอยกระดับคลื่นความถี่แล้ว เราก็จะกล่าวถึงคุณประโยชน์ซึ่งสืบเนื่องจากการเรียกใช้ลำแสงอันเกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อในแนวดิ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อกับ [/FONT]“[FONT=&quot]สรรพสิ่งที่สถิตย์เบื้องบน[/FONT]”[FONT=&quot] และ [/FONT]“[FONT=&quot]สรรพสิ่งที่สถิตย์เบื้องล่าง[/FONT]”

[FONT=&quot]สรรพสิ่งที่สถิตย์เบื้องบนหมายความถึงมิติเบื้องสูงที่ไล่ลำดับขึ้นไปสู่พระผู้เป็นกำเนิด เป็นคลื่นความถี่สูงสุดที่เราจะเข้าถึงได้ ภายในมิติชั้นสูงนั้นมีเราสถิตย์อยู่ มีรูปชีวิตจักรวาลแห่งแสงสว่าง [/FONT]
[FONT=&quot]อารุฒาจารย์และโยคีก็สถิตย์อยู่ด้วย ผู้ที่สำเร็จมีคลื่นความถี่สูงยิ่งก็สถิตย์อยู่ที่สรรพสิ่งที่สถิตย์เบื้องบนนี้ แล้วเธอทั้งหลายก็ปรารถนาที่จะติดต่อกับจิตวิญญาณเหล่านี้ด้วยมิใช่หรือ? เธอปรารถนาที่จะติดต่อกับจิตวิญญาณนำทาง พระผู้เป็นต้นกำเนิด และเหล่าอารุฒาจารย์ทั้งหลาย เพราะจิตวิญญาณทั้งหลายนี้ได้ให้ความช่วยเหลือเธอในช่วงเวลาแห่งการยกระดับคลื่นความถี่ของพวกเธอให้วิวัฒน์สู่คลื่นความถี่แห่งการยกระดับนั้น[/FONT]

[FONT=&quot]สรรพสิ่งที่สถิตย์เบื้องล่างหมายความในเบื้องต้นคือโลกของเธอ คือกายอา รวมถึงระดับชั้นทั้งหมดทั้งมวลในพระองค์ เป็นความหมายเฉพาะสำหรับพวกเธอเหล่ามนุษย์โลกทั้งหลาย ในมุมของเราต่างไปจากนั้น พวกเธอหลายคนที่เบนเข็มมาในด้านจิตวิญญาณเชื่อว่าการเชื่อมต่อกับเบื้องบนเป็นสิ่งที่สลักสำคัญยิ่ง เธอรู้วิธีการตั้งฐานพลัง ก็ถูกแล้ว วิธีนี้จะช่วยเสริมพลังร่างพาหนะของเธอได้ แต่บางคราวเธอก็ไม่เข้าใจชัดเจนแจ่มแจ้งว่าการเชื่อมต่อกับโลกด้วยใจที่เปิดกว้างจะช่วยเธอให้เปิดรับสุดยอดพลังเยียวยารักษาที่ส่งมาถึงถ้วนทั่วทุกตัวตนจากองค์กายอาเอง[/FONT]

[FONT=&quot]และบัดนี้เราจะพูดถึงการตั้งฐานพลังจากช่วงท้องของเธอ เมื่อครั้งหนึ่งเธอตั้งฐานพลังจากจักรแรก จากมูลธาร รากจักรที่อยู่ตรงฐานของระบบพลังงานตัวเธอ แต่ตอนนี้จะเกิดผลดีมากถ้าเธอตั้งฐานพลังจากสวาธิษฐาน จากจักรบริเวณท้องน้อย แล้วตอนนี้ขอให้เธอที่รักทั้งหลายวางมือลงบนท้องท้อย อาจจะวางมือทั้งสองทับกันก็ได้ หรือจะวางมือหนึ่งไว้บนท้องน้อยอีกมือหนึ่งวางไว้ด้านหลังบนกระดูกเหนือก้นกบ และขณะที่ตั้งจิตรับรู้เข้าสู่ภายใน เข้าไปถึงจุดศูนย์กลางท้องน้อย เธอก็จะพบจุดพลังงานหมุนวนทรงพลังซึ่งเป็นพื้นที่ในการตั้งฐานพลังกาย ในการใช้วิธีตั้งฐานพลังนี้เธอต้องนึกภาพพลังจากจักรท้องน้อยว่าเป็นเส้นสายฐานพลังแห่งแสงสว่างซึ่งคล้ายกับสายรกที่ยืดยาวลงไปผ่านมูลธาร ผ่านจักรแรกตรงเข้าไปยังมหาคริสตัลแกนกลางในกายอาเบื้องล่าง[/FONT]

[FONT=&quot]ให้เธอคลายมือออกในตอนนี้ ปล่อยให้มือเคลื่อนไปตามปกติ เคลื่อนเข้ามุทราที่เธอเลือกใช้เพื่อตั้งฐานพลัง บางคนชอบท่าวัชรมณีมุทรา [/FONT](mudra of the diamond)[FONT=&quot] ลองทำดูเลยสิ ให้เธอสร้างรูปเพชรขึ้นโดยใช้นิ้วมือและนิ้วหัวแม่มือ และให้ปลายนิ้วชี้ลงไปด้านล่าง ประคองรูปเพชรไว้เหนือบริเวณท้องน้อย แต่ก็ไม่ได้จำเป็นต้องบังคับให้ทำเช่นนี้เสมอเมื่อตั้งฐานพลัง แต่การเชื่อมพลังวิธีนี้จะช่วยได้จริงจากมุมมองของเราเพราะเรามองทะลุเข้าไปยังร่างพลังงานของเธออยู่[/FONT]

[FONT=&quot]เปล่งคำสั่งดังว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ข้าฯ ตั้งฐานพลังลงสู่พระหฤทัยแห่งองค์กายอา ณ บัดนี้[/FONT]” [FONT=&quot]ให้นึกภาพแล้วรู้สึกว่าเส้นสายแห่งแสงสว่างจากท้องน้อยเธอกำลังยืดยาวลงไปผ่านจักรแรกแล้วเข้าสู่คริสตัลแกนกลางในกายอา เมื่อทำสำเร็จแล้วเธอจะรู้สึกถึงคลื่นสะท้อนอยู่ภายในร่างกาย เธออาจจะรู้สึกตัวสั่นตัวคลอน หรืออาจรู้สึกมีเสียงหึ่ง ๆ อยู่ภายในเซลล์ในร่างเธอ สิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่เธอตั้งฐานพลังเข้าสู่พระหฤทัยแห่งองค์กายอาด้วยพลังรักนั้นคือพลังรักแห่งมหามารดาที่เคลื่อนขึ้นผ่านเส้นฐานพลังเข้าสู่ร่างกายเธอได้[/FONT]

[FONT=&quot]ให้คลายมือออกเคลื่อนเข้ามุทราใดก็ได้ที่เธอเลือกแล้วสัมผัสรับรู้เส้นสายฐานพลังให้ยึดอยู่กับแกนแม่เหล็กกายอาอย่างแน่นหนา แก่นกายอาเป็นสิ่งที่ทรงพลังแท้ที่สุดสำหรับเธอเหล่ามนุษย์โลกตราบเท่าที่ภาวะหนึ่งเดียวของร่างเธอดำเนินไป ร่างกายเธออยู่ในมิติที่สามมิใช่หรือ? ร่างกายเธอยังสะท้อนสอดรับกับคริสตัลและสายแร่ทั้งหลาย ไม่ได้มีเพียงแต่ภายในคริสตัลแกนกลางเท่านั้นแต่รวมถึงทุกสิ่งภายในองค์กายอา เมื่อเธอเชื่อมพลังอย่างมีสติตั้งมั่นด้วยหัวใจที่เปิดกว้างเข้าสู่ใจกลางคริสตัล แร่ธาตุและคริสตัลที่อยู่ภายในเม็ดเลือดและเส้นเลือดต่าง ๆ และทุกสิ่งที่อยู่ภายในสารคัดหลั่งของร่างกายเธอก็จะเริ่มสั่นสะเทือนสอดรับกับแร่ธาตุและคริสตัลภายในกายอา แล้วเธอจะรู้สึกถึงสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งและเปี่ยมปิติ และมหามารดาก็สัมผัสสายสัมพันธ์ด้วยความรักและความกตัญญู สายสัมพันธ์ระหว่างเธอกับมหามารดาในแง่ของพลังงานนี้ทำให้ร่างกายเธอประจุพลังเพิ่มได้และนี่ก็คือสิ่งที่เราอยากให้ประทับจับในคลังความทรงจำของเธอนับแต่บัดนี้ว่าการเยียวยารักษาของตัวเธอได้รับการช่วยเหลืออย่างมหาศาลด้วยการเชื่อมพลังเข้ากับกายอา และนี่ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องเชื่อมสายสัมพันธ์ด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง[/FONT]

[FONT=&quot]การตั้งฐานพลังตัวเธอเองสู่กายอาโดยปราศจากพลังรัก ปราศจากใจ ก็อาจทรงประสิทธิภาพเพียงระดับพลังงาน แต่จะไม่สามารถนำพาการเชื่อมพลังที่ทำให้พลังรักษาและการรวมเป็นหนึ่งเดียวของร่างมิติที่สามด้วยวิธีที่ทำให้การเลื่อนระดับขึ้นเป็นไปโดยง่าย การเชื่อมต่อและการประจุพลังเพิ่มจากพลังพระผู้เป็นต้นกำเนิดเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งยวด ใช่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มระดับการสั่นสะเทือนและการสอนวิธีให้สำเร็จเป็นจิตวิญญาณชั้นครูหลากมิติ แต่การเลื่อนระดับขึ้นจะไม่สำเร็จได้เลยในเวลานี้หากปราศจากการเชื่อมพลังของเธอลงสู่กายอา[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อการเชื่อมต่อนี้สนิทกับตัวเธอแล้ว องค์กายอาก็จะสื่อกับเธอได้ทุกขณะ พระแม่จะคอยแนะแนวทางให้เธอทราบว่าอาหารหรือเครื่องดื่มใดที่ให้คุณแก่เธอผ่านทางจักรในกาย ท่านจะช่วยให้เธอรู้ว่าสถานที่ในบนกายอาเหมาะหรือไม่เหมาะกับเธอ จริงไหมที่เธอรู้สึกเป็นสุขเมื่ออยู่ที่นึง แต่อีกที่หนึ่งเธอกลับรู้สึกอ่อนเพลียหรือกังวลใจ ไม่มีทางเลยที่เธอจะก้าวไปข้างหน้าด้วยความสะดวกสบายและเบิกบานใจหากเธออยู่ในที่ที่ไม่คู่ควรกับเธอ ถ้าเธออาศัยในที่ที่เธอไม่รู้สึกว่า [/FONT]“[FONT=&quot]เหมือนบ้าน[/FONT]”[FONT=&quot] และส่งพลังรักให้กายอาได้ และนี่ก็ไม่ได้แปลว่าเธออยู่ในเมืองไม่ได้ เพราะอันที่จริงก็มีภาคส่วนแห่งกายอาอยู่ในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่หรือชนบท เพียงแค่เธอต้องอยู่ในที่ที่พลังเยียวยาส่งมายังร่างเธอได้เท่านั้น เป็นที่ที่เหมาะแก่การประจุพลังเพิ่มจากกายอาสู่กายเธอได้[/FONT]

[FONT=&quot]นั่งตัวตรงเถิดมนุษย์ที่รักทั้งหลาย ในมุทรานี้ วางมือขวาทับมือซ้ายแล้ววางลงบนตัก แล้วเธอจะสัมผัสได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือการตั้งอยู่ในความสงบสุข ให้ฝึกปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้[/FONT]

1. [FONT=&quot]เรียกแสงสว่างมาสู่ตัวเธอ แล้วให้พลังไหลเข้าสู่ร่างกายและพลังออร่าจากด้านบนผ่านช่องลำแสง[/FONT]

2. [FONT=&quot]ตั้งฐานพลังตัวเธอจากช่องท้องลงสู่กายอาแล้วเปิดหัวใจออกเพื่อให้ช่องพลังงานเปิดใช้ได้ทั้งสองทางและให้เธอรับเอาพลังงานและพลังเยียวยาจากกายอาขึ้นมา[/FONT]

3. [FONT=&quot]สัมผัสรับรู้พลังไหลเวียนจากทั้งสองทางภายในตัวเธอ ในทางวิชาตัณตระคือคลื่นพลังไฟฟ้าที่ไหลเวียนของศิวะหรือพลังงานพระเจ้าจากเบื้องบนและคลื่นพลังเทวีแม่เหล็กจากกายอาเบื้องล่างที่เข้าสู่ตัวเธอ แล้วนั่งสงบนิ่งในท่าที่เราเรียกว่าศานติมุทรา แล้วให้ลำแสงสีทองไหลผ่านลงมาจากเบื้องบนและลำแสงสีเงินไหลผ่านขึ้นมาจากเบื้องล่างให้ถ่ายเทเข้าสู่กายพวกเธอ แล้วเปิดหัวใจรับเอาความรักและความกตัญญูต่อสรรพสิ่งที่สถิตย์เบื้องบนและสรรพสิ่งที่สถิตย์เบื้องล่าง นี่คือรูปแบบของการเชื่อมต่อในแนวตั้งอย่างแท้จริง และวิธีนี้จะได้ผลมากถ้าเธอยู่ในที่ที่เธอรักที่สุด อยู่ในที่ที่ชอบที่สุดแล้วนั่งอยู่ท่ามกลางสถานที่ที่งดงาม แต่เธอก็อาจจะฝึกขณะอยู่บนรถไฟ หรือแม้แต่ในรถไฟใต้ดิน หรือแม้กระทั่งบนรถยนต์ของเธอเองด้วย[/FONT]

[FONT=&quot]การเปิดรับพลังงานจากเบื้องบนและเบื้องล่าง และการเปิดหัวใจเปี่ยมปิติคือวิธีการประจุพลังเพิ่มให้แก่ตัวเธอเองเหล่ามนุษย์ที่รัก อาจทำโดยการปฏิบัติสมาธิเช่นนี้ หรือจะใช้เวลาแค่หนึ่งหรือสองนาที เพียงแค่ใช้เวลานั่งลงไป เพื่อวางเท้าไว้บนพื้น เพื่อเรียกแสงสว่างมาสู่ตัว เพื่อตั้งฐานพลังตัวเอง และให้รู้สึกว่ามีพลังงานศิวะ-ศักติทั้งสองทางเคลื่อนเข้าสู่ตัวและพลังออร่าของเธอ ให้นั่งนิ่งสักหนึ่งหรือสองนาทีในท่าศานติมุทราแล้วสัมผัสรับรู้การไหลเวียนของพลังงานทั้งสองทางผ่านตัวเธอ วิธีนี้คือการประจุพลังเพิ่มให้ตัวเธอเอง เมื่อเธอเลือกที่จะถ่ายพลังงานออกไป ไม่ว่าจะผ่านการเยียวยา หรือว่าผ่านหัวใจที่เปิดกว้างและความเมตตา เมื่อเธอเลือกที่จะถ่ายพลังงานออกไป มอบความรัก ในรูปแบบของเงินทอง มอบพลังผ่านหัวใจและจิตวิญญาที่เปิดกว้างเต็มพลัง แล้วพลังงานก็จะไหลผ่านตัวเธอได้สม่ำเสมอแทนที่จะละความสนใจในร่างกายและร่างพลังงานแล้วดูดกินพลังให้เสียไป[/FONT]

[FONT=&quot]เธอไม่ควรเอ่ยปากช่วยใครทั้งนั้นหากเธอปฏิบัติวิธีนี้โดยปราศจากการเปิดใจ หากเธอทำไปเพราะหน้าที่และความจำเป็น อย่าสื่อพลังเพื่อเยียวยาเมื่อเธอไม่ได้อยู่ในภาวะของการเปิดใจและความกรุณา เพราะถ้าทำเช่นนั้นก็จะเป็นการสูญเสียพลัง หากเธอรู้สึกกระวนกระวายหรือไม่ปลอดภัยก็จะสูญเสียพลัง ถ้าเธอเลือกทำแบบนี้กับตัวเธอ แม้ว่าเธอจะยิ้มให้ตัวเองด้วยภาวะจำทน หน้าที่ หรือความจำเป็นเธอก็จะสูญเสียพลังไปอีก แต่หากเธออยู่ในสภาวะแห่งการเปิดใจที่พลังงานไหลผ่านเธอได้สม่ำเสมอผ่านไปยังผู้อื่นในรูปของการเยียวยา ในรูปของการให้เงินหรือสิ่งของ ในรูปของความอ่อนหวาน รอยยิ้ม นี่ก็คือการถ่ายเทพลังงานที่ผ่านตัวเธออย่างต่อเนื่องจากเบื้องบนและเบื้องล่าง และสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเธอยอมให้ผู้อื่นยอมรับพลังงานนี้ ก็จะเป็นการเสริมพลังให้มากขึ้นไปอีกให้ไหลเข้าสู่ร่างกายเธอ แล้วเธอก็จะเปล่งประกายสดใสขึ้น สุขภาพแข็งแรงขึ้น มีความสงบใจมากขึ้น และนี่ก็คือวิธีแห่งการมอบพลังแห่งการเปิดใจนั่นเอง นมัสเต [/FONT]

[FONT=&quot]บทส่งท้าย[/FONT]

[FONT=&quot]ขอมอบพลังความรักอันยิ่งใหญ่และคำขอบคุณแด่จิตวิญญาณนำทางเหล่านี้ด้วยสำหรับบทเรียนนี้ หากตอนนี้เธอรู้สึกหัวใจเปิดกว้างและอยากขอบคุณในขณะนี้ ก็ขอให้ทุกท่านแบบมือผายออกด้านข้างหงายขึ้นแล้วกล่าวว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ขอส่งความรักและขอขอบคุณแด่รูปชีวิตและจิตวิญญาณทุกดวงที่คอยช่วยเหลือเราในการเลื่อนระดับขึ้นและช่วยภารกิจศักดิ์สิทธิ์แห่งกายอา[/FONT]”

[FONT=&quot]แล้วคว่ำฝ่ามือลงแตะลงบนพื้นแล้วกล่าวว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ขอส่งความรักและขอขอบคุณองค์กายอาที่ช่วยเหลือพวกเราในทุกเรื่องในการเลื่อนระดับขึ้นนี้[/FONT]”

[FONT=&quot]แล้วพนมมือขึ้นในท่า นมัสเต แล้วยิ้มส่งเข้าสู่ภายใน เข้าสู่ทั่วทั้งกายและใจแล้วกล่าวว่า[/FONT]
“[FONT=&quot]ขอส่งความรักและขอขอบคุณให้ตัวฉัน[/FONT]”[FONT=&quot] เพื่อขอบคุณตัวเธอเองที่ได้มาอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ที่สละเวลาช่วยเหลือรูปชีวิตแห่งแสงสว่างและสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคแห่งโชติกาล[/FONT]

[FONT=&quot]นมัสเต[/FONT]

 

ขอบคุณนะครับที่แนะนำ เอาไว้ให้แปลชุดนี้ไปสักระยะหนึ่งก่อนแล้วจะลองแปลดูนะครับ

 

*** สัจจะ คือ สื่อกลาง ****

ระหว่าง ดวงวิญญาณ กับ สิ่งศักดิ์สิทธิื

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อันที่จริงผมอยากให้ทุกคนฟังแล้วฝึกไปด้วยเลย ถ้าทำได้ แต่บทแปลที่ผมแปลไว้นี้ ทำขึ้นเผื่อคนที่ตามไม่ทันหรือไม่เข้าใจในบางจุดนะครับเพราะมีศัพท์เฉพาะและแนวคิดที่บางคนยังไม่เข้าใจ ผมแนะนำว่าถ้าคุณไม่เข้าใจจริง ๆ ลองอ่านแต่ละย่อหน้าแล้วสรุปเป็นภาษาของคุณเองก็ได้ครับ หรือว่าคุณอาจจะเอาเครื่องอัดเสียงมาอัดไว้แล้วฝึกตามไปก็ได้ครับ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็แนะนำให้ฟังโซลารา อาน-รานำปฏิบัติสมาธินะครับ เพราะถ้าพูดในแง่ของพลังงานแล้วการที่ได้ฟังข้อความที่สื่อลงมาโดยตรงโดยที่ไม่ผ่านการแปลจะให้ผลได้ตรงจุดและมีพลังมากนะครับ

 

อยากมีประสบการณ์แบบนี้บ้างครับ เดี๋ยวจะลองดู (ต้องฝึก12ปีเลยเหรอ?)

 

*** หลักตนพึ่งตน ****

สุดท้าย...เกิดเป็นมนุษย์ ก็ต้องพึ่งการกระทำที่ได้ทำไปแล้ว
คือ พึ่งตัวกระทำของตนเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อืมในเน็ตนี่อะไรเจ๋งเยอะดี อยู่ที่ดวงด้วยว่าเล่นแล้วจะไปเจออะไร แต่กฏแห่งการดึงดูดช่วยให้เจออะไรหนุกๆ

 

บทที่ 3

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=sVgDd-DVy8I"]Lesson 3: Prana Tube, Mudras, Aura Clearing - YouTube[/ame]

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]บทนำก่อนการฝึกปฏิบัติ[/FONT]

[FONT=&quot]โซลารา อาน-รา: [FONT=&quot]นมัสเต เหล่าพงศ์พันธุ์แห่งกายอาทั้งหลายคะ [/FONT][/FONT]

“[FONT=&quot]ข้าฯ ขออัญเชิญจิตวิญญาณนำทางสูงสุดใด ๆ และเหล่าเทวดาให้มาถ่ายทอดการฝึกปฏิบัติในบทเรียนที่สามแก่พงศ์พันธุ์แสงสว่างแห่งกายอา ผ่านร่างข้าฯ ณ บัดนี้”[/FONT]

[FONT=&quot]บทที่ 3 [FONT=&quot]การเปิดใช้ช่องปราณ มุทราเพื่อการประจุพลังเพิ่ม และการชำระพลังออร่า[/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]สภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่างและเหล่าเทวดา[/FONT]

[FONT=&quot]โปรดให้อภัยเราเหล่ามนุษย์โลกที่รักหากว่าพวกเรากล่าวย้ำซ้ำความเดิม หากคำสอนเราฟังดูเรียบง่าย แต่จากมุมมองเราเธอยังไม่ได้เรียนวิชาพื้นฐานเรื่องพลังงานของตัวเธอเลย พวกเธอหลายคนปฏิบัติการรักษาผ่านการใช้พลังขั้นสูงสุดกับคนไข้ และใช้รักษาตนเอง โดยไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ และยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่ได้สัมผัสรับรู้พลังงานของเธอเองแล้วเติมพลังและชำระพลังได้อย่างพอควรเมื่อยามจำเป็น[/FONT]

[FONT=&quot]เพื่อชี้ชัดถึงความจริงในข้อนี้ เราขอถามเธอว่า “[FONT=&quot]เธอมีสุขภาพสมบูรณ์ทุกด้านแล้วหรือ? ไม่มีใครบ่นถึงความไม่สบายกายเลยหรือ?[/FONT]”[FONT=&quot] มีแต่เธอบางคนที่ยังหนุ่มยังสาวที่สุดที่ตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างมั่นใจ แล้วเราให้คำมั่นได้เลยว่าหากเธอควบคุมพลังเธอได้และประจุพลังตามวิธีการที่ถูกต้อง หากเธอทำได้เช่นนั้นเธอจะเข้าสู่สภาวะสุขภาพสมบูรณ์เป็นแน่[/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]บัดนี้เรามาทบทวนบทเรียนกันเถิด เราขอถามเธอว่าตอนนี้เธอเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างการประจุพลังเพิ่มและชำระพลังหรือไม่ การอัดประจุพลังเพิ่มนั้นหมายความว่าอย่างไร? คำว่า “[FONT=&quot]ประจุพลัง[/FONT]”[FONT=&quot] มักจะเกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้า เพื่อประจุพลังไฟฟ้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และในกรณีนี้ก็หมายความตามนั้นทุกประการ เมื่อเธอประจุพลังเพิ่มก็เหมือนเป็นการเสียบปลั๊กตัวเธอเองเข้ากับแหล่งกำเนิดพลังงานเพื่อที่จะเสริมพลังให้กับตัวเธอ แล้วในบทที่ [/FONT]2 [FONT=&quot]เธอได้เรียนรู้วิธีการประจุพลังจากทั้ง [/FONT]2 [FONT=&quot]ทาง เราจะฝึกฝนต่อไป ณ บัดนี้[/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]เราขอให้เธอเปล่งคำสั่งดังว่า “[FONT=&quot]ข้าฯ ตั้งจิตรวมร่างพลังของข้าฯ ณ บัดนี้[/FONT]!”[FONT=&quot] ขณะกำหนดจิตไปยังร่างพลังงาน เธอจะรู้สึกถึงขอบเขตพลังงานออร่ารูปไข่ แล้วเธอก็สัมผัสรับรู้แสงสว่างภายในนั้น ซึ่งเราได้บรรยายว่าเป็นแสงสว่างเหลวสีขาวทองอร่าม แล้วเธอก็สัมผัสรับรู้ว่าพลังงานนี้เข้มข้นและส่องสว่างมากขึ้น เราขอบรรยายถึงพลังงานนี้ว่าเป็นแสงสว่างเหลวสีขาวทองอร่าม เพราะคำว่า [/FONT]“[FONT=&quot]เหลว[/FONT]”[FONT=&quot] บ่งชัดถึงคุณสมบัติที่มีชีวิตหรือเป็นคุณลักษณะพลังงานออร่าที่สื่อว่าเป็นสิ่งที่เคลื่อนไหว เป็นของไหล มีการเปลี่ยนรูปร่างตามพลังงานที่แตกต่างและตามอารมณ์ที่ไหลผ่านสนามพลังของเธอ การประจุพลังด้วยวิธีนี้โดยเพียงกำหนดจิตตั้งมั่นไว้ เธอก็จะประจุพลังเพิ่มในขณะนี้ได้จากเบื้องบนและเบื้องล่าง[/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]แล้วเราขอให้เธอใช้มุทรานี้ หรือมุทรานี้อีกแบบหนึ่งที่มือเธอทั้งสองชี้ขึ้นและลง นิ้วมือของเธอก็ใช้แทนเสารับคลื่นในการนี้ นิ้วที่ชี้ขึ้นสู่เบื้องบนรับพลังจากพระผู้เป็นต้นกำเนิดซึ่งเราเรียกว่าศิวะ เป็นพลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานสุริยะ และนิ้วที่ชี้ลงสู่เบื้องล่างก็รับพลังงานจากกายอาซึ่งเราเรียกว่าเทวี เป็นพลังแม่เหล็กจันทรา เพื่อการประจุพลังเพิ่มแก่ตัวเธอให้ทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้นจากเบื้องบนและเบื้องล่าง เราขอให้เธอเปิดใช้ช่องปราณ ณ บัดนี้ ให้คลายออกขณะที่เราอธิบาย[/FONT]

[FONT=&quot]จริงหรือไม่ว่าในยุคหนึ่งแนวคิดเรื่องจักรเป็นสิ่งที่เธอไม่คุ้นชิน ยุคที่จุดพลังงานหมุนวนอันงดงามภายในร่างกายเป็นเรื่องเร้นลับ เธอนึกสงสัยว่ามันเป็นเรื่องจริงไหมหนอ! [FONT=&quot]และตอนนี้เธอหลายคนก็ยอมรับสิ่งนี้ว่าเป็นความจริง จุดพลังงานหมุนเหล่านี้ที่เชื่อมพลังเข้ากับร่างพลังงานไฟฟ้า จึงเป็นพลังที่เชื่อมกับระบบประสาทด้วย แล้วเราก็ได้นำความรู้ช่องปราณมาเผยแพร่ซึ่งเป็นปรากฏการณ์จริงในร่างพลังงานซึ่งอยู่ในรูปของจักร ช่องปราณนี้คือท่อหายใจของพลังงานเหล่านี้ เป็นท่อหายใจของพลังงานที่วิ่งผ่านทั้ง [/FONT]12 [FONT=&quot]จักรตั้งแต่จักรที่อยู่ปลายสุดของพลังออร่า ซึ่งก็คือทวารบถดาราจักรวาล [/FONT](Cosmic Star Portal)[FONT=&quot] ไหลตรงลงมาผ่านร่างและผ่านเข้าไปในทวารบถดาราโลกา [/FONT](Earth Star Portal) [FONT=&quot]ที่อยู่ใต้สุดของพลังออร่าเธอ เราจะกล่าวต่อไปในบทเรียนเรื่องจักรแต่ตอนนี้เราขอให้เธอได้สัมผัสรับรู้จักรที่อยู่บนยอดและก้นสุดของพลังออร่าเธอ[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]แล้วเปล่งคำสั่งดังว่า “[FONT=&quot]ข้าฯ เปิดทวารบถดาราจักรวาลของข้าฯ ณ บัดนี้[/FONT]!”[FONT=&quot]แล้วมองดูตรงยอดของพลังออร่ารูปไข่ของเธอ มองให้เห็นทวารนี้เปิดออกเช่นดอกไม้บาน แล้วแสงสว่างอันเข้มข้นก็สามารถไหลลงไปผ่านทางท่อพลังศูนย์กลางของร่างเธอแล้วไหลผ่านลงไปยังปลายล่างสุดพลังออร่าของเธอ[/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]เปล่งคำสั่งดังว่า “[FONT=&quot]ข้าฯ เปิดทวารบถดาราโลกาของข้าฯ ณ บัดนี้[/FONT]!”[FONT=&quot]แล้วมองดูทวารแสนวิเศษนี้เปิดออกที่ก้นบึ้งพลังออร่าของเธอ ซึ่งทำให้การตั้งฐานพลังทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และทำให้เธอเปิดรับพลังเยียวยาได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย[/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]ขณะนี้ให้นึกภาพช่องปราณคริสตัลอันงดงามทอดตรงผ่านส่วนยอดพลังออร่าโดยผ่านกระหม่อม ทอดผ่านจักรภายในแล้วผ่านออกไปทางจักรฐานล่างแล้วทอดยาวผ่านทวารบถดาราโลกาลงไป ท่อลมหายใจพลังปราณนี้ได้ถูกลืมเลือนไปนับตั้งแต่มีนยุคแล้ว (Age of Pisces)[FONT=&quot] แล้วบัดนี้ก็เปิดใช้ได้ในกุมภยุคแล้ว [/FONT](Age of Aquarious) [FONT=&quot]โดยเจาะจงมุ่งให้เธอได้เปิดใช้ต่อมไพเนียลได้ เมื่อเธอสูดเอาพลังงานจากเบื้องบนเข้าไปก็จะเป็นการปลุกพลังต่อมไพเนียลขึ้นมา แล้วเมื่อเธอตั้งฐานพลังตัวเธอเองจากช่องท้องลงไปยังคริสตัลแกนกลางแห่งกายอา เธอก็เรียกพลังงานนี้ด้วยวิธีที่ทรงพลังด้วยช่องปราณของเธอได้เปิดใช้อยู่[/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]แล้วเปล่งคำสั่งดังว่า “[FONT=&quot]ข้าฯ เปิดใช้ช่องปราณของข้า ณ บัดนี้[/FONT]!”[FONT=&quot] และขณะนี้ให้ใช้มุทรานี้ (มุทราเบิกช่องปราณ) มือเธอจะหันไปด้านใดก็ได้ไม่เป็นไรแต่ต้องหันไปตามทิศทางที่เธอรู้สึกสบายเป็นธรรมชาติ เธอจะหันมือด้านหนึ่งเข้าอีกด้านหนึ่งออกเองอัติโนมัติตามการเชื่อมพลังงานที่เธอจำเป็นในขณะนี้ ตอนนี้ให้ผ่อนลมหายใจลงและเมื่อเธอหายใจเข้าให้เธอรู้ว่ามีพลังงานไหลเทลงมาจากเบื้องบนและจากเบื้องล่างผ่านช่องปราณพร้อมในคราวเดียวกัน เธอไม่จำเป็นต้องเชื่อมลมหายใจเข้ากับพลังที่ไหลอยู่นี้ เพราะพลังไหลเข้าสู่กลางใจและไหลผ่านร่างเธอพร้อมกันทั้งจากเบื้องบนและเบื้องล่าง เธอจะรู้สึกถึงลำแสงคลื่นไฟฟ้าสีขาวเปล่งประกายเคลื่อนผ่านร่างจากเบื้องบนและลึกลงไปดึงเอาพลังแม่เหล็กให้ไหลผ่านร่างขึ้นมาจากเบื้องล่าง[/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]และถ้าเธอรู้สึกว่าช่องปราณนี้เปิดใช้ได้แล้ว เธอก็อาจเลือกใช้มุทราหนึ่งในสองมุทรานี้ เธออาจจะเลือกใช้เอกหฤทัยมุทรา (mudra of the One-Heart) [FONT=&quot]ตั้งไว้บริเวณหน้าจักรหัวใจ ให้เธอสร้างรูปหัวใจพร้อมปีกประกอบไว้ การทำเช่นนี้จะช่วยให้รวบรวมพลังจากเบื้องบนและเบื้องล่างให้เข้าสู่หัวใจเธอ หรือเธออาจเลือกใช้ศานติมุทรา คือมือขวาทับมือซ้ายแล้วสัมผัสรับรู้การไหลเวียนของพลัง ให้ลองใช้มุทราทั้งสองนี้แล้วสังเกตว่าเธอชอบแบบใด ซึ่งมุทราที่เธอเลือกก็จะทรงประสิทธิภาพมาก นี่เป็นสิ่งมหัศจรรย์มิใช่หรือที่เธอจะได้สัมผัสรับรู้ความแตกต่างของพลังงานโดยใช้มือเธอตั้งท่านี้หรือในอีกท่าหนึ่ง[/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]ในมุมมองของโซลารา อาน-รา เมื่อเธอใช้ศานติมุทรา เธอรู้สึกถึงความสงบอยู่ภายในตัวเธอแล้วสัมผัสรับรู้พลังที่ไหลมาโดยพร้อมกันไม่เพียงผ่านช่องปราณเท่านั้นแต่ผ่านทั่วทั้งร่างของเธอ พลังศักตินำพลังงานพาแทรกขึ้นมาจากกายอาผ่านเซลล์ทุกส่วนในร่างกาย และพลังศิวะก็นำแสงสว่างและการตื่นรู้เข้าสู่เซลล์ทุกส่วนจากเบื้องบนเช่นกัน และเมื่อเธอใช้เอกหฤทัยมุทรา เธอก็พลันสัมผัสรับรู้ได้ถึงการเปิดพลังภายในบริเวณช่วงอก ภายในอนาหตะ จักรหัวใจของเธอและหัวใจศักดิ์สิทธิ์หรือหัวใจเบื้องสูง แล้วเธอก็สัมผัสรับรู้ถึงการหลอมรวมพลังงานนี้ เธออาจใช้มุทรานี้ในการเชื่อมอนาหตะเข้ากับหัวใจเบื้องสูงก็ได้[/FONT]

[FONT=&quot]ความจริงแล้วแม้ว่าตอนนี้จะต้องเป็นห้วงเวลาแห่งภาวะรวมใจเข้าเป็นหนึ่ง แต่เธอหลายคนก็ยังใช้พลังจากอนาหตะอยู่ เธอยังเรียกใช้จากบริเวณที่เธอถ่ายและรับพลังรักจากกลางใจของเธอ เธอก็ยังสัมผัสรับรู้ห้วงเวลาที่เอกหฤทัยได้เปิดและเธอก็สัมผัสรับรู้ตัวเธอเองว่าเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง ในห้วงเวลานี้เธออยู่ในภาวะรวมใจเป็นหนึ่งเดียว และนี่เป็นภาวะที่หัวใจของเธอส่งคลื่นสะท้อนสอดรับกับผู้อื่นที่ตอนนี้กำลังสัมผัสรับรู้การเปิดพลังของภาวะรวมใจเป็นหนึ่งเดียวอยู่พร้อมกัน จริงไหมที่บางทีเธอได้มองเข้าไปในดวงตาทั้งสองของผู้อื่นแม้จะเป็นคนแปลกหน้าแต่แล้วก็สัมผัสรับรู้เอกภาพได้อย่างแท้จริงภายในตัวเธอ? และนี่ก็คือวิธีที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในการประจุพลังเพิ่มให้ตัวเธอเอง[/FONT]

[FONT=&quot]เราแนะนำว่าเธอประจุพลังเพิ่มให้ตัวเธอในช่วงที่เห็นว่าสมควร เพราะเธอนั้นไม่เหมือนกันสักคน อาจมีช่วงเวลาที่การประจุพลังเพิ่มเกิดขึ้นเริ่มแรกด้วยการตั้งฐานพลังตัวเธอเอง ขั้นแรกเธออาจเรียกใช้แถบลำแสงมาสู่ตัวเธอแล้วเธอก็จะอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย มีคลื่นพลังสูงและได้รับการปกป้อง เธออาจเรียกพลังกลับมาหากเธอรู้สึกว่ามีพลังอื่นเข้าแทรก ให้เธอเรียกพลังกลับมายังสนามพลังของเธอและเธออาจร้องขอคำชี้แนะเกี่ยวกับวิธีที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในการประจุพลังเพิ่มในขณะนั้นได้ และบางทีคำแนะนำอาจออกมาในรูปของมุทราที่ร่างเธอเลือกใช้นั่นเอง[/FONT]

[FONT=&quot]ร่างกายเธออาจเลือกมุทราเบิกช่องปราณ ซึ่งใช้เพื่อเปิดพลังช่องปราณ หรืออาจเลือกเอกหฤทัยมุทรา ซึ่งใช้เพื่อนำตัวเธอกลับสู่สภาวะรวมใจเป็นหนึ่งเดียว ร่างเธออาจเลือกมุทราแห่งการตั้งฐานพลังหรือวัชรมณีมุทราตั้งขึ้นไว้บริเวณช่องท้อง และเธอหลายคนจะพบว่าเธอจำเป็นต้องตั้งฐานพลังก่อนที่จะฝึกขั้นต่อไป แต่ให้ใช้มุทรานี้ตั้งจิตอยู่กับพลังงานสองด้านที่ไหลผ่านระหว่างตัวเธอและกายอา ซึ่งเป็นมากกว่าการตั้งฐานพลังเพียงอย่างเดียว นี่เป็นวิธีที่ทรงพลังมาก ให้เปิดใจพร้อมส่งพลังรักและความกตัญญูสู่กายอา และส่งพลังนี้ให้ไหลผ่านทั่วทั้งร่างจากหัวใจผ่านลงไปยังช่องท้อง ผ่านเส้นฐานพลังเข้าสู่กายอา แล้วสัมผัสความรักขององค์พระแม่และพลังงานที่เคลื่อนขึ้นมา ไม่เพียงแต่ผ่านเส้นฐานพลังเท่านั้นแต่ยังผ่านช่องปราณ ผ่านฝ่าเท้าเข้าสู่ทุกเซลล์ในร่างกาย เธออาจจะต้องนอนคว่ำหน้าท้องลงบนกายอาในกรณีที่จะให้พลังเยียวยาเป็นไปได้อย่างต่อเนื่องด้วยก็ได้[/FONT]

[FONT=&quot]เราจะกล่าวถึงอีกส่วนหนึ่งของพลังออร่า และนี่ก็คือส่วนที่ว่าด้วยการชำระพลังออร่า เพราะเป็นวิธีหนึ่งที่เรียกพลังกลับมาสู่ตัวเธอ เป็นวิธีหนึ่งที่เรียกคืนเอาพลังกลับมา เป็นการตั้งจิตรวมพลังงานเพื่อให้ทรงพลังและประจุพลังเพิ่มจากเบื้องบนและเบื้องล่างทั้งสองทิศทาง แต่ก็มีบางจุดที่เธอรู้สึกว่าไม่เพียงแต่ร่างกายที่ต้องการการเยียวยา พลังออร่าก็ต้องการด้วยเช่นกัน และก็มีรูปชีวิตแสงสว่างที่มีความชำนาญในด้านนี้มากกว่าผู้ใด รูปชีวิตเหล่านี้คือเหล่าเทวดา เหล่าเทวดาประสงค์จะสื่อสารกับเธอเนื่องด้วยเรื่องนี้ ขออัญเชิญ[/FONT]

[FONT=&quot]เหล่าเทวดา:[FONT=&quot]คำว่าเทวดาใช้กันแพร่หลายบนดาวของเธอ แต่เราไม่ได้มีปีกสีทองเสียหมดหรอกนะ มีกลุ่มเทวดาอยู่มากมายซึ่งมีจุดประสงค์ที่จะช่วยเหลือเธอ คลื่นความถี่ของเราเป็นสีทอง ดังนั้นเราจึงถ่ายพลังให้เธอได้ (ข้อความจากชาวพลีเอเดียนส์[/FONT]: [FONT=&quot]เหล่าเทวดาได้กล่าวถึงสายฝนทองคำซึ่งเธออัญเชิญมาช่วยได้) เปล่งคำสั่งดังว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ข้าฯ ขอเรียกสายฝนทองคำมาชำระและเยียวยาพลังออร่าของข้าฯ ณ บัดนี้[/FONT]!”[/FONT]

[FONT=&quot]เราเทสายฝนลงบนตัวเธอด้วยคลื่นความถี่แสงสว่างสีทอง ไม่มีพลังใดที่ทรงประสิทธิภาพมากกว่านี้แล้วในการชำระพลังงานที่เราเห็นว่าเป็นกลุ่มควันเกิดขึ้นในร่างพลังงานของเธอ เราขออธิบายว่าแม้การชำระแต่ร่างพลังงานเธอก็จะเป็นรักษากายหยาบเธออย่างเห็นได้ชัดด้วย จุดประสงค์ในการชำระนั้นมุ่งไปที่ภายในสนามพลังของเธอ เรามองเห็นสนามพลังของเธอในรูปของแสงสว่างและความมืด และบางคราวก็มีพลังงานด้านมืดที่เรารับรู้อยู่ภายในพลังงานของเธอ พลังงานเหล่านี้บางทีก็เรียกกันว่ารูปพลังงาน และก็มีบ้างที่แสดงออกผ่านมลพิษทางพลังงาน เช่นมลพิษด้านความนึกคิด เป็นมลพิษที่เกิดจากความนึกถึงความกลัวและความรู้สึกผิด ความโกรธและความโลภที่มีมาช้านานบนดาวเคราะห์ดวงนี้ และถ้าเธอไวต่อความรู้สึกแล้วใช้อำนาจควบคุมร่างพลังของเธอได้ไม่มากพอ กลุ่มควันพลังงานเหล่านี้ก็อาจจะเข้าแทรกพลังออร่าเธอแล้วส่งผลในด้านลบต่อเธอได้[/FONT]

[FONT=&quot]พวกเธอบางคนรู้สึกเศร้าใจโดยไม่มีสาเหตุ และนี่ก็คือมลพิษด้านพลังงานที่เข้ามาสู่ร่างพลังของเธอ ดั้งนั้นจงตระหนักว่าขั้นตอนนี้ซึ่งถ่ายทอดผ่านสภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่าง ที่เป็นการเรียกใช้สายฝนสีทองนี้ มาจากเหล่าเทวดา จากวงศ์เทวดากลุ่มหนึ่งที่ชำนาญด้านร่างพลังงาน และเธอทั้งหลายที่อัญเชิญเรามา เราก็ยินดีที่จะช่วยเธอชำระร่างพลังงานด้วยวิธีนี้ เราทราบว่ามีสิ่งที่พวกเธอเรียกว่ารูปพลังงานหรือวิญญาณที่ได้เข้ามาดูดเอาพลังของเธอจนสาหัสย่ำแย่และตกอยู่ในสถานการณ์คับขันที่จำเป็นต้องใช้วิธีการขับไล่วิญญาณออกไป แต่เราขอบอกไว้ว่าเราก็สามารถชำระล้างพลังเหล่านี้ได้เป็นส่วนใหญ่เช่นกัน[/FONT]

[FONT=&quot]บัดนี้มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว ให้เธอปั่นด้ายแสงสว่างสีทองจากส่วนยอดพลังออร่า หมุนตามสุริยวิถี (ซึ่งก็คือตามเข็มนาฬิกา) ให้รอบสนามพลังออร่าเธอ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของตัวเธอ ปั่นลงไปใต้เท้าจนตอนนี้มีเปลือกหุ้มแสงสว่างสีทองเกิดขึ้น เป็นขอบรังไหมพันรอบสนามพลังออร่าที่มีคุณสมบัติปกป้องและดำเนินการเยียวยาตัวเธอต่อไป เราขอลาพวกเธอไปก่อนจนกว่าเธอจะอัญเชิญเรามาให้ช่วยอีกครั้ง นมัสเต[/FONT]

[FONT=&quot]บทส่งท้าย[/FONT]

“[FONT=&quot]ขอมอบพลังความรักและคำขอบคุณแด่รูปชีวิตแห่งแสงสว่างที่ช่วยเหลือพวกเรา”[/FONT]
“[FONT=&quot]ขอมอบพลังความรักและคำขอบคุณแด่กายอา ดวงดาวอันงดงาม”[/FONT]
“[FONT=&quot]ขอมอบพลังความรักและคำขอบคุณแด่พงศ์พันธุ์แสงสว่างผู้ตื่นรู้ทั้งหลาย”[/FONT]

[FONT=&quot]แล้วเธอรู้ใช่ไหมว่าเธอก็คือผู้หนึ่งในพงศ์พันธุ์แสงสว่างเหล่านั้นด้วย[/FONT]
[FONT=&quot]นมัสเต[/FONT]

 

ชอบจังเลยค่ะ