ชะตาชีวิตกับธุรกิจปีหมาไฟ

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 11 ธันวาคม 2005.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    ในแวดวงธุรกิจ เป็นที่รับรู้กันอยู่อย่างไม่เป็นทางการว่า เครือบริษัทสหพัฒนพิบูล จำกัด รวมทั้งบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น ของเจ้าสัวธนินทร์ เจียรวนนท์ มีวิธีการ 'เลือกรับ' พนักงานเข้าทำงานตั้งแต่ระดับล่าง กระทั่งถึงระดับผู้บริหาร



    จากการดู 'โหงวเฮ้ง' ซึ่งหนึ่งในทีมงานซินแสที่ทำหน้าที่พิจารณาคัดคนเข้าทำงานหรือคัดออกนั้น ต้องมีชื่อของ ธนานุรักษ์ จารุสกุล ซินแส ผู้เชี่ยวชาญเรื่องหลักโหราศาสตร์ ดูโหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ย ดูทิศ และทำเล รวมอยู่ด้วย
    ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนานุรักษ์ จารุสกุล ได้รับเชิญจากมูลนิธิพิพัฒน์ ปรีดาวิภาต ไปบรรยายเกี่ยวกับการจัดการธุรกิจโดยใช้หลักโหราศาสตร์ในหัวข้อ ชะตาชีวิตกับธุรกิจปี 2006 ที่ชั้น16 ของอาคารเล้าเป้งง้วน
    โดยมีเจ้าของธุรกิจ พนักงานบริษัท และประชาชนชนทั่วไป เข้ารับฟังการบรรยายอย่างล้นหลาม นอกจากธนานุรักษ์ เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเครือสหพัฒน์ เครือซีพีแล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ เครือสยามฟู้ด เครือชัยสาคร เครือมิตรทวี เป็นต้น
    ซินแสท่านนี้เริ่มต้นการบรรยายถึงองค์ประกอบ 3 สิ่งที่นำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคน สิ่งแรกคือ 'ดวง' หรือ 'ชะตาชีวิต' นั่นคือ วันเดือนปีที่ติดตัวมาแต่กำเนิด สิ่งที่สองคือ 'โหงวเฮ้ง' ในที่นี้ไม่เฉพาะแต่หู ตา จมูก ปากเท่านั้น
    โครงสร้างทั้งหลายของร่างกายรวมเรียกว่าโหงวเฮ้ง ที่เปรียบเหมือนพาหนะชี้ทางให้กับชะตาชีวิต และสิ่งสุดท้าย 'ฮวงจุ้ย' เปรียบเหมือนอาหาร ทรัพยากร หรือ ต้นทุนชีวิตที่ติดตัวมา นอกเหนือจากปัจจัยทั้งสามสิ่งนี้แล้ว มนุษย์ยังต้องอาศัยกำลังกายและสติปัญญาเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการกระทำที่ส่งผลให้เกิดความสำเร็จ
    วันเดือนปีที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป สามารถส่งผลกับชะตาชีวิตของมนุษย์ได้ ดังเช่น ภาพรวมของการดำเนินธุรกิจในปี 2549 หรือเรียกตามปีนักษัตรว่า ปีจอ หรือ ปีหมาไฟ ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของยุคที่ 8 ตั้งแต่ พ.ศ.2547 เป็นต้นมา มีชื่อเรียกยุคนี้ว่า 'ยุคมังกรดิน' หรือ 'ตี่เล้ง' ที่สืบต่อมาจากยุคที่ 7 ซึ่งเป็นยุคของชาวตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกาและยุโรป
    ทั้งนี้เนื่องจากองศาที่ตั้งของตัวมังกรในยุคที่ 7 อยู่ทางซีกโลกตะวันตก โดยเฉพาะมหาอำนาจอย่างอเมริกาที่เจริญถึงขีดสุด ดำรงตนเป็นผู้นำของโลกเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งยุโรปที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มีการทุบกำแพงเบอร์ลิน
    ในขณะนี้มังกรตัวดังกล่าว ได้เคลื่อนย้ายจากซีกโลกตะวันตกมายังซีกโลกตะวันออก ซึ่งแต่ละยุคกินระยะเวลานาน 20 ปี มีทั้งหมด 9 ยุด เมื่อถึงยุคที่ 9 ก็จะหมุนเวียนกลับมายังยุคที่ 1 ดังเดิม
    ในยุคนี้องศาที่ตั้งของมังกรดิน หรือ ตี่เล็ง อยู่ทางด้านทิศตะวันออกซึ่งจะนำความเจริญมาสู่ภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะหัวมังกรอยู่ที่ประเทศอินเดียทำให้เทคโนโลยีของอินเดียมีความเจริญถึงขีดสุด ท้องมังกรซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุด อยู่ที่ประเทศจีน
    ซึ่งหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ด้านเศรษฐกิจ การค้าเจริญเติบโต เป็นยุคทองของจีน และประเทศไทยยังอยู่ตรงส่วนโคนหางมังกรอีกหลายปี ซึ่งเสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังคงที่ ไม่ขยับเขยื้อน แต่อาจเติบโตจนถึงจุดรุ่งเรืองสูงสุดของประเทศในอีก 5-6 ปีข้างหน้า
    ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเราติดต่อการค้ากับจีน หรือดำเนินวิธีการทางการเมือง การคลัง ในลักษณะพันธมิตรกับจีน จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศดำรงสภาพคล่องได้ เพราะชัยภูมิตรงส่วนท้องของมังกรยังอยู่ที่จีนอีกนานหลายปี ต่างจากยุโรปและอเมริกาที่เศรษฐกิจในขณะนี้อยู่ในช่วงขาลง
    และเป็นปีทองของการเปิดโลกทรรศน์ใหม่สำหรับผู้หญิง เป็นยุคที่เรียกได้ว่า ผู้หญิงครองเมือง ผู้หญิงมีพลังอำนาจ มีบทบาททั้งในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เป็นยุคที่ประธานาธิบดีต่างประเทศเริ่มเป็นผู้หญิง และจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งประเทศไทยที่มี ส.ส.หญิง รัฐมนตรีหญิง ผู้บริหารธุรกิจที่เป็นผู้หญิงมากที่สุดในประวัติการณ์ และโอกาสความเป็นไปได้สูงที่นายกรัฐมนตรีของไทยจะเป็นผู้หญิงภายในช่วง 20 ปีของยุคที่ 8 นี้
    ด้านการลงทุนทางธุรกิจในยุคนี้ ควรทำธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพจะเจริญรุ่งเรืองมาก เช่น ธุรกิจสปา อาหารเสริม การแปรรูปอาหารจะเฟื่องฟู เป็นยุคที่ไบโอเทคโนโลยีเจริญสูงสุด การพัฒนาทางชีวภาพ การพัฒนาทางด้านสมุนไพรเจริญก้าวหน้า มีการดัดแปลงมาทำเป็นเครื่องสำอางใหม่ๆ สังเกตได้ว่ามีธุรกิจประเภทนี้เกิดขึ้นมากมายทั่วบ้านทั่วเมือง
    และการลงทุนทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ 'น้ำ' จะร่ำรวยและประสบผลสำเร็จเพราะ 'ปีหมาไฟ' ที่ใกล้มาถึงน้ำท่าจะอุดมสมบูรณ์ อุตสาหกรรมที่เหมาะแก่การลงทุนจึงควรมีส่วนเกี่ยวข้องกับน้ำ การส่งออกจะดีขึ้น รวมถึงผลิตผลทางการเกษตรจะสบผลดีมีราคา
    รวมทั้งความนิยมสินค้าแนวตะวันออกจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกด้วย แม้กระทั่งทิศทางการตั้งของสนามบินสุวรรณภูมิที่ใกล้เปิดทำการอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกรุงเทพฯ จะเป็นประตูสู่ภูมิภาคที่นำรายได้มหาศาลเข้ามาในประเทศ
    ในขณะเดียวกันธุรกิจที่ไม่เป็นผลดีกับยุคนี้ ได้แก่ ธุรกิจประเภทเหล็กหรือทอง เนื่องจากเป็นปีชงหรือปีปะทะ (ต่อต้านหรือไม่เป็นผลดี) กับธาตุเหล็ก ดังนั้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเหล็กหรือทองจะประสบความวุ่นวาย มีการแข่งขันกันสูง หากซื้อขายผิดจังหวะอาจล้มลุกคลุกคลานถึงขั้นล้มละลายได้
    นอกจากนี้ ไม่เป็นผลดีกับธุรกิจประเภทการเงินการธนาคาร เฉกเช่น ธนาคารกสิกรไทย ที่ต้องแก้เคล็ดโดยการปรับเปลี่ยนโลโก้จากสิงห์คู่หน้าประตูทางเข้าเป็นช้างแทน แม้แต่เบอร์โทรศัพท์ส่วนกลางของธนาคารกสิกรไทยก็เปลี่ยนมาใช้เลขแปดเป็นเลขเจ็ดหลัก
    สำหรับปีเกิด เดือนเกิด และเวลาเกิดที่ชงหรือปะทะกับบรรดาเจ้าของธุรกิจหรือคนทั่วไป ได้แก่
    อันดับแรก ปีชง (ปีปะทะ) คือ ผู้ที่เกิดชงกับปีจอ มะโรง มะแม และฉลู
    เป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพกายและสุขภาพใจ บุตร ญาติผู้ใหญ่ บริวาร ซึ่งต้องดูแลเป็นกรณีพิเศษ
    อันดับสอง เดือนชง(เดือนปะทะ) ได้แก่ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 5 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์,วันที่ 5 เมษายน - 4 พฤษภาคม,วันที่ 5 กรกฎาคม - 4 สิงหาคม และวันที่ 5 ตุลาคม - 4 พฤศจิกายน
    ผู้ที่เกิดภายในเดือนนี้ ต้องระวังเรื่องการงานอาชีพ อาจประสบปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่การงาน หรืออาจมีเกณฑ์โยกย้ายงานขึ้น หากเป็นนักธุรกิจต้องประคับประคองธุรกิจด้วยความระแวดระวัง ให้พ้นช่วงตรุษจีนในปี཮ จึงค่อยปรับเปลี่ยนหรือตั้งต้นลงทุนธุรกิจใหม่ๆ
    อันดับสุดท้าย เวลาชง(เวลาปะทะ) มี 4 ช่วงเวลาที่ปะทะได้แก่ ผู้ที่เกิดในช่วงเวลาตั้งแต่ 01.05 - 02.45 น.,07.05 - 08.45 น.,13.05 - 14.45 น.และ 19.05 - 20.45 น.
    ผู้ที่เกิดภายในเวลานี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักของผู้หญิง เป็นเรื่องความสำเร็จโดยรวมของผู้ชาย
    ดังนั้น วิธีการแก้ไขจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เช่น ในกรณีปีชง(ปีปะทะ)อาจต้องมีการปรับเตียงนอน เดือนปะทะอาจต้องปรับโต๊ะทำงาน หรือห้องทำงาน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการแก้เคล็ดและช่วงเวลาให้ถูกต้องเหมาะสม ตามคำแนะนำของซินแสและผู้เชี่ยวชาญด้วย
    ความเชื่อเรื่องโหราศาสตร์ดังกล่าวนี้ ขึ้นอยู่กับปริมาณความเลื่อมใสของแต่ละบุคคล หากใครมีความเชื่อถือในเรื่องนี้มาก อาจปฏิบัติตามทุกขั้นตอนที่ซินแสหรือผู้เชี่ยวชาญแนะนำ ในขณะที่บางคนไม่เชื่อถือแต่ก็ไม่ลบลู่ ตามทัศนะของผู้เขียนมองว่า นอกเหนือจากดวงชะตาที่ติดตัวมาแต่กำเนิด การที่คนเราจะประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น ขึ้นอยู่กับการกระทำที่ต้องใส่ทั้งแรงกายและแรงสติปัญญาควบคู่ไปด้วย เฉกเช่นเดียวกับ ท่วงทำนองของบทเพลงตอนหนึ่งที่ว่า "สามสิบลิขิตฟ้า เจ็ดสิบต้องฝ่าฟัน" นั่นเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...